Lesson 52
( Kim Part )
เจ็บ...เจ็บจัง ทำไมรู้สึกเจ็บปวดตามร่างกายมากมายขนาดนี้นะ ผมลืมตาขึ้นมองไปที่ระเบียงก็เห็นแสงแดดที่ค่อนข้างแรงมากๆ คงจะสายมากแล้วสินะผมขยับตัวได้นิดเดียวก็ต้องหยุดความคิดนั้นลงทันที เพียงแค่ขยับขาจะชันเข่าขึ้นความเจ็บจี๊ดก็แล่นขึ้นมาจนผมทนไม่ไหวต้องทิ้งตัวนอนลงเหมือนเดิม
“อื้อ...ฟึ่บ” ผมพยายามอีกครั้งแต่มันก็เหมือนเดิม
“ตื่นแล้วหรอ” เสียงแข็งกระด้างดังขึ้นจากดตียงอีกฟากนึง
“…” ผมหันหน้าไปมองเค้าแล้วก็เมินสายตาหนี...ไม่อยากเห็นหน้าเค้าตอนนี้
“หึ ทำหยิ่งไปเถอะแล้วมึงจะรู้สึก” ผมไม่สนใจคำพูดเห่าหอนของใครทั้งสิ้นฝืนลุกขึ้นอีกหลายครั้งแต่มันก็ไม่ไหว สุดท้ายผมก็ต้องยอมแพ้หมอบลงนอนกับเตียงเหมือนเดิมโดยไม่มีเสื้อผ้าปกปิดร่างกายเลยสักชิ้นนอกจากผ้านวมผืนหนาอันใหญ่โต
“โอ้ย!!!!...ลุกขึ้นมา” เสียงผมร้องขึ้นพร้อมกับเสียงออกคำสั่งของเค้าที่กระชากผมลุกขึ้นมา ผมเจ็บจนน้ำตาเล็ดแต่ก็ขัดขืนไม่ได้
“อย่าสำออยหน่อยเลยน่า”
“ปล่อยผม อย่ามายุ่ง” ผมบอกเสียงนิ่งหลังจากที่พูดจบผมก็ถูกเหวี่ยงถลามากับพื้น
“อึก...ตึก” ร่างผมกระแทกกับพื้นอย่างจังไม่มีแม้แต่แรงจะต้านแรงผลักของใครอีกคน
“เคล้ง!!!...กินเข้าไปซะ” จานข้าวถูกวางกระแทกลงตรงหน้าผม ผมนอนมองไปในจานก็ดูเหมือนว่าจะเป็นข้าวผัดแต่ผมก็เลือกที่จะนอนนิ่งๆเหมือนเดิม
“บอกให้แดกไง!!!!”พี่โชว์พูดเสียงแข็งขึ้นแต่ผมก็ไม่ไหวติงเหมือนเดิม
“อยากจะลองของใช่ไหม!!!” พูดจบพี่โชว์ก็กระชากผมขึ้นแล้วก็ตักข้าวยัดเข้าปากผม
“แดกเข้าไปสิ” ผมเคี้ยวไม่ไหว ในปากก็มีแต่แผลเต็มไปหมด...แผลจากความรุนแรงจากเมื่อคืนนี้
“…” ผมไม่เคี้ยวข้าวแต่มองสบตากับพี่โชว์แทนแล้วน้ำตาผมก็ไหลออกมาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ ทำไมเค้าทำกับผมได้มากขนาดนี้ ทำไมถึงไม่คิดว่าอย่างน้อยผมก็เคยรักเค้ามากมายเพียงใด
“…” พี่โชว์แล้วก็จ้องตาผมกลับก่อนที่จะวางช้อนลงแล้วก็ปล่อยตัวผม
“กินซะ” เสียงพี่โชว์อ่อนลงแล้วก็เดินออกไปจากห้อง ส่วนผมก็นอนนิ่งๆอีกสักพักนึงก่อนจะค่อยลุกขึ้นมานั่งกินข้าวดีๆแต่กว่าจะลุกขึ้นมานั่งได้ก็เสียเวลาไปเกือบสิบนาที กินข้าวก็เกือบยี่สิบนาทีเพราะเวลาเคี้ยวข้าวมันก็สีกับผนังปากผมจนเจ็บไปหมด เลยต้องค่อยๆกินคำเล็ก
หลังจากที่เสร็จทุกอย่างเรียบร้อยแล้วผมก็นอนลงตรงนั้นแหละครับ ลุกไม่ไหวแต่ก็แอบหนาวนะเนี่ย เออ แน่สิเราไม่ได้ใส่เสื้อผ้าสักตัวเลยนี่หน่าแต่ช่างมันเถอะตอนนี้ผมขอนอนเอาแรงก่อนดีกว่าเผื่อว่าตื่นขึ้นมาไอ้อาการปวดตามเนื้อตามตัวมันจะบรรเทาลงได้บ้าง
ผมรู้สึกตัวอีกทีก็เพราะเสียงโวยวายของใครบางคนที่ดังลั่นห้องไปหมด โอ้ย ผมล่ะอยากจะวีนซะจริงๆใครเนี่ยมาเสียงดังในตอนที่คนอื่นเค้ากำลังพักผ่อนแบบนี้
“ลืมตาขึ้นมาสิวะ”
“โอ้ย อะไรของพี่เนี่ย” ผมกำลังงัวเงียครับเลยเผลอหลุดคำคุ้นเคยออกไป
“ทำไมกูบอกให้แดกข้าวแล้วทำไมข้าวมันถึงยุบไปไม่ถึงครึ่งเลย” พี่โชว์พูดเสียงเหี้ยม
“…” ผมกำลังงงๆอยู่ แต่พี่โชว์กำลังร้อนต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้
“ตอบสิวะ ทำไมข้าวถึงยุบไปแค่นี้!!!”
“ก็ผมกินไม่ไหวนิ” ผมก็บอกไปตามตรงครับ
“มึงนี่มันสำออยไม่เลิกนะ สงสัยจะอยากโดนอย่างว่าก่อนกินข้าวล่ะมั้ง” พูดจบพี่โชว์ก็อุ้มผมขึ้นบนเตียงแล้วก็ตามมาคร่อมผมอย่างรวดเร็ว
“อย่า อย่าทำแบบนั้นนะ” ผมพยายามร้องขอเพราะร่างกายผมรับไม่ไหวจริงๆ
“ทำไม หึ กลัวจะติดใจเหมือนเมื่อก่อนหรือไง” พี่โชว์พูดอย่างเยาะเย้ย
“ผมขอร้อง เมื่อคืนผมป่นปี้มากพอแล้ว แต่ตอนนี้ถือว่าผมขอเถอะนะ” ผมพยายามส่งสายตาเว้าวอนไปให้เผื่อเค้าจะเห็นใจผมบ้าง
“…”
“พี่ไม่สงสารผมบ้างหรอ”
“…”
“…” คราวนี้ต่างคนต่างเงียบไม่พูดอะไรจนกระทั่ง
“อุ๊บ...เอ็บ(เจ็บ)” พี่โชว์จู่โจมจูบผมอย่างรวดเร็ว ผมเจ็บปากไปหมดผมพยายามเบี่ยงหน้าหนีจนพ้น ปากผมก็ทำงานทันที
“ขอร้องพี่อย่าทำแบบนี้...ฮือ...ผมเจ็บ”
“มันสายไปแล้ว ร่างกายมึงมันยั่วยวนกูเอง....ร่างกายอันโสมมสกปรกของมึงไง” พูดจบพี่โชว์ก็ดันสิ่งแปลกปลอมบางอย่างเข้ามาทางข้างหลังผม
“อ๊ะ...อื้อ...ฮึก” ผมพูดไม่ออกเพราะของเก่ามันยังระบมไม่หายเลย
“ซี้ดดดดดดด”
“ฮึก...ฮือ”
“มึงจะร้องทำไม มึงชอบมันกูรู้อย่ามาเสแสร้งมันใช้กับกูไม่ได้ผลหรอก” พี่โชว์หยุดกิจกรรมที่กำลังทำอยู่แล้วพูดกับผม
“ฮึก...ถ้าผมมันสกปรกอย่างที่พี่ว่าพี่จะมายุ่งกับผมทำไม ผมมันคนชั้นต่ำไม่ใช่หรอ อึก...แต่พี่ก็ยังทำกับผมแบบนั้นอีก จริงๆแล้วเป็นพี่มากกว่าที่ยอมรับใจตัวเองไม่ได้เพราะพี่ยังต้องการผมอยู่” ผมพูดไปร้องไห้ไปส่วนพี่โชว์ก็นิ่งไปครับ
“ใช่กูยังต้องการมึงอยู่...แต่แค่ของระบายความใคร่เท่านั้นแหละนะ” พูดจบพี่โชว์ก็จับขาผมอ้าให้กว้างขึ้นแล้วก็ขยับเข้าออกอย่างรวดเร็ว
“มึงมันสกปรกไม่คู่ควรกับคนอย่างกูหรอก”
“อ๊ะ...อ๊ะ...ฮือ...อ๊า”
“อย่าสำคัญตัวเองผิดนักเลย มึงไม่ใช่หรอที่ทิ้งกูไป”
“โอ้ย...ฮึก..อึก...”
“ไอ้สารเลว กูทำอะไรผิด กูทำให้มึงได้ทุกอย่างแต่มึงตอบแทนกูแบบนี้ใช่ไหมมึงรู้ไหมว่ากูทรมานแค่ไหน ห๊ะ!!!”
“อื้ออออออออออออออออออออ” ผมทนไม่ไหวแล้วครับ ผมเลิกเกร็งทุกสัดส่วนของร่างกาย ความรู้สึกตอนนี้คือเหมือนร่างกายนี้มันจะไม่ได้เป็นของผมอีกต่อไปแล้ว
“ผมอยากให้พี่รู้ว่าไม่มีวันไหนที่ผมไม่รักพี่ ถึงตอนนี้พี่จะเกลียดผมผมก็ไม่ว่าอะไรพี่ แต่ขออย่างเดียว...ขอพี่อย่าลืมว่าคนๆนี้รักพี่เสมอนะ” พูดจบผมก็หลับตาลงและปล่อยให้สติของตัวเองไหลไปโดยไม่ลังเล
“คิม!!!!”