Lesson 47
( Show Part )
เช้าวันต่อมาผมตื่นขึ้นเพราะเสียงโทรศัพท์ที่มันร้องลั่นสั่นประสาทผมอยู่ พอดูเบอร์ที่โทรมาก็เป็นเบอร์ไอ้วินมันครับแม่งโทรมาทำไมแต่เช้าวะ เมื่อคืนคนยิ่งนอนดึกๆอยู่
“ฮัลโหล ไอ้สัด” คำทักทายยามเช้าครับ
“ไอ้เหี้ยมึงทักทายเพื่อนมึงอย่างนี้หรอวะ” ไอ้วินด่าเสียงเข้มเลยครับ
“ก็มึงแม่งไม่มีมารยาทโทรมาทำไมแต่เช้าวะ” ผมก็ด่ามันกลับครับ
“เช้าพ่อมึงดิ แหกดกาขึ้นมาดูดิ๊ ว่ามันกี่โมงกี่ยามแล้ว” ผมเพ่งสายตาไปยังนาฬิกาที่ผนังห้องถึงได้รู้ว่าตอนนี้มันสิบเอ็ดโมงกว่าแล้ว แม่งกูนอนไปได้ยังไงวะ
“เออๆ ไอ้เหี้ยสายแล้วนี่หว่า”
“ไม่ได้สายธรรมดา บ้านกูเรียกโคตรสาย...หรือว่าเมื่อคืนกับคิม...จิ๊จ๊ะ จิ๊จ๊ะ” ไอ้วินทำเสียงกวนส้นตีนครับ ไอ้จัญไรเดี๋ยวพ่อโบกกะโหลกแตก
“จิ๊พ่อ จ๊ะแม่มึงอ่ะสิ กูนอนแยกกัน...คิมยังไม่คุยกับกูเลย”
“อ้าว รีบง้อเข้ามึงกูเอาใจช่วยแค่นี้แหละ...ตื้ด...ตื้ด” เออ แม่งดีเนอะคิดจะโทรก็โทรคิดจะวางก็วาง เพื่อนใครวะสัด!!!!
ผมนั่งหาวต่ออีกสองทีก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำครับจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จแล้วก็เดินลงมาข้างล่างอย่างสบายอารมณ์ยังไงซะวันนี้น้องต้องหายโกรธผมแน่นอน เมื่อคืนผมอุตส่านอนคิดวิธีง้อทั้งคืน มันต้องโดนสักวิธีนึงล่ะหว้า ผมเดินลงมาถึงครัวก็เห็นป้าน้อยกำลังยืนทำอาหารเที่ยงอยู่
“ป้าน้อย คิมอยู่ไหนอ่ะครับ” ป้าแกก็หันมาแล้วก็ยิ้มให้ครับ
“เอ ตั้งแต่เช้าป้ายังไม่เห็นเลยนะ ป้าคิดว่าจะลงมาพร้อมคุณหนูซะอีก” ผมก็ทำหน้างงครับ ป่านนี้น้องยังไม่ตื่น...หรอ เป็นไปไม่ได้ ปกติน้องตื่นเช้าจะตายห่าจนบางครั้งผมสงสัยว่า เป็นมนุษย์หุ่นยนต์หรือเปล่านอนดึกก็ยังตื่นเช้าได้
“งั้นเดี๋ยวผมลองขึ้นไปดูบนห้องดีกว่าครับ” ผมกำลังจะเดินออกจากครัวแต่เสียงป้าน้อยก็ดังตามหลังผมมาครับ
“อย่าพึ่งค่ะคุณหนู” ผมหันกลับไปตามเสียง
“ทำไมหรอครับ” ผมถามอย่างสงสัย
“ป้าว่าปล่อยหนูคิมไว้อย่างนั้นก่อนดีกว่านะคะ” ป้าน้อยบอกผม
“ทำไมล่ะครับ”
“ก็แหม เมื่อวานเล่น.....ต่อหน้าคุณแม่ไปแบบนั้นเป็นป้าก็โกรธค่ะ” เออ ก็จริงแหะ
“ป้าแนะนำว่าให้ปล่อยไว้ก่อนดีกว่านะคะ แล้วตอนเย็นๆค่อยพาไปทานอาหารเย็นข้างนอก ป้ารับรองเสร็จชัวร์!!!!!” ประโยคหลังป้าน้อยกระซิบบอกผม แต่น้ำเสียงหนักแน่นและมั่นใจมาก ผมก็ยิ้มขึ้นที่มุมปากแล้วก็ตกลงครับ ผมจึงนั่งกินข้าวคนเดียวจนอิ่มแล้วก็นั่งอ่านหนังสือ เดินเล่นในสวน หาอะไรทำสัพเพเหระไปทั่วครับจนเวลาล่วงเลยมาถึงเย็น ผมจะขึ้นไปหาน้องแล้วพาไปกินข้าวครับ
“ก๊อกๆ คิมครับเปิดประตูให้พี่หน่อยนะ”
“…”
“คิมครับ” ผมลองหมุนลูกบิดเลยรู้ว่ามันไม่ได้ล็อก
“…” น้องก็ยังเงียบ เฮ้ มันแปลกๆนะทั้งวันนี้ก็ไม่ได้ลงมาข้างล่างเลยจะเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ยผมก็ถือวิสาสะ(ในบ้านตัวเอง)เปิดประตูเข้าไปในห้อง
“คิม” ผมส่งเสียงเรียกชื่อน้องออกไปแต่ห้องก็ไม่ได้เปิดไฟหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรไว้เลย มองไปที่เตียงก็โล่งแถมยังเก็บเรียบร้อยอีกต่างหาก ผมลองเดินไปตรงห้องน้ำก็ไม่อยู่ครับแล้วหายไปไหนเนี่ย ผมเลยเดินลงมาข้างล่างอีกรอบนึง
“แม่เห็นคิมไหมครับ” ผมเห็นแม่นั่งอยู่ห้องโถงกลางบ้านน่าจะเห็นถ้าน้องลงมาแล้ว
“เอ๊ะ ตั้งแต่เช้าแม่ก็ไม่เห็นน้องเลยนะลูก” พอแม่บอกยิ่งเพิ่มความสงสัยให้ผมเข้าไปอีก...แล้วน้องไปไหน..............หรือว่า........พอคิดได้ผมก็วิ่งกลับขึ้นไปบนห้องอีกครั้งนึง ขอร้องล่ะอย่าให้เป็นอย่างที่ผมคิดเลยนะครับ พอวิ่งขึ้นมาถึงผมก็แทบจะวิ่งทะลุประตูห้องเข้ามาและผมก็เปิดประตูเสื้อผ้าอย่างแรงจนบานประตูแทบจะหลุดติดมือผมมาและภาพที่ผมเห็นก็คือความว่างเปล่า ผมชาวาบตั้งแต่เท้าจนขึ้นมาถึงหัว
“แม่!!!!!!!!!” ผมตะโกนอย่างดังพร้อมกับวิ่งลงไปข้างล่าง
“อะไรลูกโชว์ เป็นอะไร” แม่ถามด้วยน้ำเสียงตื่นๆ ก็แหงแหละผมตะโกนสะขนาดนั้น
“คิม...คิมหายไปแล้ว”
“อะไรนะ”
“คิมหนีไปแล้วแม่” ตอนนี้ทุกคนในบ้านมีสีหน้าตกใจไม่แพ้กันครับ
“นี่ไม่มีใครเห็นคิมบ้างเลยหรอ” แม่ผมหันไปถามพวกป้าน้อยและคนรับใช้คนอื่น
“ไม่เลยค่ะ ตั้งแต่ป้าตื่นขึ้นมาตีสี่ป้าก็อยู่ข้างล่างตลอด ถ้ามีใครเข้าออกบ้านป้าต้องเห็นสิคะ”
“มันจะเป็นไปได้ยังไงคนหายไปทั้งคนนะ” ผมเริ่มคุมสติตัวเองไม่อยู่ ทำไมคิมไม่รอฟังผมก่อน ทำไมต้องหนีไปแบบนี้
“แม่ว่าไปดูกล้องวงจรปิดดีกว่านะ” พูดจบพวกเราก็แทบจะเหาะขึ้นไปบนห้องทำงานแม่ครับ นี่ผมก็ลืมคิดไปเลยว่าบ้านผมน่ะมีกล้องวงจรปิดติดอยู่รอบๆบ้าน ผมนี่แม่งกระต่ายตื่นตูมจริงๆเลย
“เที่ยงคืนก็ยังไม่มีอะไรนะคะ” ป้าน้อยพูด
“กอเร็วหน่อยเถอะแม่” ผมบอกแม่ แม่ก็เร่งตามคำบอกผมครับจนกระทั่ง
“เอ๊ะๆ นั่นๆ นี่ไงคะคุณคิม” ผมมองเวลา...เกือบจะตีหนึ่ง ถึงว่าไม่มีใครเห็นตัวน้องเลย
“ไปตอนนี้นี่เอง” เมื่อดูเสร็จผมก็เดินออกจากห้องไปโทรศัพท์หาไอ้เพื่อนรักผมทันที
“ฮัลโหลไอ้วิน”
(ว่าไงวะ)
“กูมีเรื่องให้ช่วยหน่อย”
(มีอะไรว่ามา)
“คิมหนีออกจากบ้าน”
(อะไรนะ) ไอ้วินโวยวายเสียงดังลั่น
“เออ มึงได้ยินไม่ผิดหรอก ไปตอนเกือบเที่ยงคืนเมื่อคืนนี้”
(แล้วมึงจะเอายังไง มีอะไรให้กูช่วยรีบพูดมาเร็ว) ไอ้วินเสียงกระตือรือร้นมาก มันพร้อมจะช่วยผมเสมอ ซึ้งชิบหายเลย
“กูจะตามหาจนกว่าจะเจอ มึงก็ช่วยกูอีกแรงละกัน”
(เออ เดี๋ยวจัดการให้) พูดจบมันก็ตัดสายไปอย่างรวดเร็ว
ผมออกตามหาน้องทันทีท่ามกลางเสียงคัดค้านจากแม่และคนอื่นๆในบ้าน ผมรู้พวกเค้าเป็นห่วงผมแต่ผมเองก็ห่วงน้องมากเหมือนกัน ผมขับรถจนทั่วกรุงเทพเลยครับ ตอนนี้ก็ตีสามแล้วแต่ยังไม่มีวี่แววของน้องเลยครับ
“ฮัลโหลว่าไง” โทรศัพท์ผมเข้าครับ ไอ้วินโทรมา
(แม่มึงโทรมาบอกกูว่ามึงยังไม่กลับบ้านมึงรีบกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะแม่มึงรออยู่ ถ้าพูดไม่ฟังกูเจอคิมเมื่อไหร่กูจะเอาคิมไปซ้อนไม่ต้องให้เจอมึงอีก)
“เออ สัด” ขู่ผมแบบนี้ก็ต้องยอมครับ ผมขับรถกลับบ้านทันที พอถึงก็เกือบจะตีห้าแล้วแม่รอผมอยู่จริงๆครับ แม่เดินมาส่งผมถึงห้องอาจจะเพราะด้วยความเป็นห่วง สายตาแบบนั้นผมอ่านออกครับว่ากังวลแค่ไหนผมเข้าใจ ก็เหมือนผมที่กำลังกังวลเรื่องน้องจนนอนแทบไม่หลับ เฮ้อ อย่าทำแบบนี้กับพี่เลยนะคิม….