03
“ขอบคุณนะครับ” ชายเสื้อขาวยิ้มตาหยีให้ผม
“ไม่เป็นไรครับ ช่วยได้ก็ช่วย” ผมส่งยิ้มละไมให้เขา...พลางเริ่มเข้าเรื่องที่ตัวเองต้องการ
ชายเสื้อขาวเดินไปนั่งบนมอไซด์คันหนึ่งที่จอดอยู่ใกล้ๆ หน้าร้านนมสด เขาหยิบหมวกกันน๊อคขึ้นมาเตรียมจะสวม เขาหะนหน้ามาร่ำลาผม “งั้นขอตัวก่อนนะครับ”
“ครับ...” ผมส่งยิ้มแต่ในใจน่ะ------เดี๋ยวดิ๊ ขอถามก่อน ขอถามก๊อน...
ผมลังเลใจ ยังคิดไม่ออกว่าจะเริ่มต้นด้วยคำพูแบบไหนดีที่ทำให้ดูไม่ประหลาด แต่ผมก็ไม่มีเวลาคิดเยอะ เพราะอีกฝ่ายน่ะ สวมหมวกเสร็จในเวลารวดเร็ว แถมยังสตาร์ทมอไซด์แล้วด้วย!
มือข้างขวาของผมรีบยื่นไปจับที่แขนซ้ายของเขาเมื่อเห็นเขายกขาตั้งของรถขึ้น
หัวที่สวมหมวกกันน๊อคหันกลับมาทางผม
“เอ่อ......ขอถามอะไรหน่อยสิครับ” ผมบอกเขา พร้อมกับพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด
อีกฝ่ายเป็นคนที่ผมคิดว่าใช่..หรือไม่ จนป่านนี้ผมก็ไม่แน่ใจ
ถึงแค่ถามเขาเฉยๆ ผมก็กลัว.....กลัวว่า หากพูดอะไรไม่ดีไป อาจถูกเพ่งเล็งว่าเป็นมิจฉาชีพได้ ทั้งๆ ที่ผมก็บริสุทธิ์ใจ
ช่วงเวลาเพียงเศษเสี้ยวนาทีนี้นี่เองที่มำให้ผมตระหนักว่า....โลกสมัยนี้ มันอยู่ยากพิกลแฮะ
“คุณเคยทำโทรศัพท์มือถือหายมั้ยครับ?” ผมกลั้นใจถามเขาไปในที่สุด
แต่พอผมยืนรอคำตอบ อีกฝ่ายกับนิ่งสนิท
โอเค... ไม่เหนือความคาดหมายของผม
ก็ใครก็ไม่รู้ เพิ่งจะคุยกันแค่ไม่กี่สิบนาที ชื่อก็ไม่รู้จักกัน อยู่ดีๆ มาถามอะไรก็ไม่รู้ ถึงแม้คำถามของผมอาจไม่ได้เกี่ยวพันไปถึงชีวิตใคร แต่ไอ้คำถามเรียบง่ายบางอย่างมันก็วกวนให้คนตอบเสี่ยงต่อการ “ถูกล่อลวง” ได้...ด้วยเหมือนกัน
แขนข้างซ้ายของเขาที่ผมจับไว้ ขยับออกจากแฮนด์รถ ผมจึงเพิ่งรู้ตัวว่า มือตัวเองมันกำแขนเขาไว้
เขาเอาขายันรถมอไซด์ต่างที่ตั้งรถ แล้วใช้สองมือถอดหมวกกันน๊อคที่เขาสวมอยู่อกมา สีหน้าของเขาเรียบตึงกว่าเมื่อครู่ ดวงตาสีน้ำเงินของเขาจ้องเขม็งมาที่ผม มันดูดุนิดๆ แต่ทว่าน้ำเสียงของเขายังคงฟังดูระรื่นไม่ต่างจากเมื่อตะกี้ “ถามทำไมครับ?”