▬ " รักคืนรัง " ▬ 「จบบริบูรณ์」
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「จบบริบูรณ์」  (อ่าน 270008 ครั้ง)

ออฟไลน์ Renze

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-25
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม, ติดเรท x, ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่ง แม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert Qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม








▬ " รักคืนรัง " ▬

รัก ๒ ก. มีใจผูกพันด้วยความห่วงใย เช่น พ่อแม่รักลูก รักชาติ รักชื่อเสียง,
 มีใจผูกพันด้วยความเสน่หา, มีใจผูกพันฉันชู้สาว, เช่น ชายรักหญิง,
 ชอบ เช่น รักสนุก รักสงบ.

รัง ๒ น. สิ่งซึ่งสัตว์พวกนก หนู และแมลงเป็นต้นทําขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย
 กําบังและฟักไข่เลี้ยงลูก,โดยปริยายเรียกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึง
 เช่นนั้น เช่น รังโจร รังรัก.


* อ้างอิงจาก พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-02-2014 08:38:27 โดย Renze »

ออฟไลน์ Renze

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-25
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「INTRO :: 18.09.2012」
«ตอบ #1 เมื่อ18-09-2012 13:29:19 »

" รักคืนรัง "

INTRO



          ร่างสูงของชายหนุ่มวัยยี่สิบเก้าย่างสามสิบ กำลังยืนหันหลังพิงโต๊ะทำงาน ดวงตาคมทอดสายตามองฝ่าละอองฝนที่เกาะพราวอยู่บนบานหน้าต่างของอาคารสำนักงานสูงบนถนนสาทร บรรยากาศภายนอกอาคารดูขมุกขมัวเพราะสายฝนที่โปรยปรายอยู่ตลอดวัน แม้ว่าจะเป็นช่วงหน้าร้อน

          ดวงหน้าคมเคร่งเครียด คิ้วเข้มขมวดจนแทบจะชนกัน อันเนื่องมาจากสิ่งที่เพิ่งผ่านสายตาเข้าสู่การกลั่นกรองของสมองเมื่อห้าทีที่ผ่านมา จนชายหนุ่มต้องยกหูเรียกคนสนิทเข้าพบ

          บนโต๊ะทำงานไม้มะฮอกกานีอย่างดี สมตำแหน่งประธานบริษัทผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างแถวหน้า ที่วงการสิ่งก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ต่างยอมรับรู้จักเป็นอย่างดี หนังสือพิมพ์รายวันหัวสีวางแผ่หลาอยู่บนโต๊ะทำงาน ดูเป็นเรื่องปกติวิสัยของผู้บริหารหนุ่มที่จะติดตามข่าวสาร แต่...

          หน้าที่เปิดอยู่กลับเป็นหน้าข่าวซุบซิบของแวดวงสังคม แทนที่ควรจะเป็นข่าวสารแวดวงธุรกิจ

          กรอบข่าวซุบซิบสามบรรทัด ถูกไฮไลท์ด้วยปากกาสีเหลืองสะท้อนแสงเน้นความสำคัญ ดูเด่นสะดุดตากว่าข้อความอื่นจนต้องก้มลงพิจารณาด้วยความอยากรู้


          ...งามหน้าจากเมืองลุงแซมอีกแล้ว ทายาทคนเดียวของอิสรพัฒน์ ควงนางแบบสาวสองคนเข้าโรงแรมดังย่านไทม์สแควร์ตอนตีสอง น่ากลัวว่าจะหอบหิ้วเมียแหม่มและลูกกลับมาเมืองไทยอวดชาวบ้านชาวช่องหลังเรียนจบพร้อมปริญญา...


          ถึงข่าวซุบซิบจะงดเว้นการระบุชื่อนามสกุล แต่แค่คำเรียก ‘ทายาทคนเดียวของอิสรพัฒน์’ ร้อยทั้งร้อยก็ต้องรู้ว่ามีอยู่เพียงคนเดียว เพลย์บอยหนุ่มที่ขยันสร้างข่าวคาวลงหนังสือพิมพ์ แม้เจ้าตัวเองจะอยู่ถึงอีกซีกโลก แต่ก็มักมีข่าวลงหนังสือพิมพ์ทุกวี่ทุกวัน


          ธรณ์ อิสรพัฒน์!!...ทายาทตัวจริงของอิสระคอนสตรัคชั่น

     
          ก๊อกก๊อกก๊อก เสียงเคาะประตูดังเป็นจังหวะ ดึงชายหนุ่มเจ้าของห้องออกจากห้วงภวังค์ความคิดของตนเอง ก่อนจะออกปากอนุญาต

          “เข้ามา”

          พอร่างสูงของชายหนุ่มที่อ่อนวัยกว่าเล็กน้อย ซึ่งเป็นคนสนิทที่ทำงานด้วยกันมาตลอดก้าวเข้ามา ร่างที่ยืนหันหลังอยู่จึงหันกลับมาเผชิญหน้า ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ประธานบริษัท แล้วเคาะนิ้วลงบนหนังสือพิมพ์บริเวณที่ถูกไฮไลท์ เวธน์ กริชการุณย์กวาดสายตาอ่านเพียงครู่เดียวก็ละสายตาออกมา

          “ผมอ่านเรียบร้อยแล้วครับ เช็คแล้วก็เป็นนางแบบคนเดิมที่คุณธรณ์เคยควงอยู่”

          “ฉาวโฉ่ตลอด ควงเข้าโรงแรมพร้อมกันสองคนจนเขารู้กันทั่ว”

          เวธน์เองก็นั่งนิ่ง เพราะเขาก็รู้ดีเท่ากับเจ้านายตัวเอง ว่าข่าวฉาวกับธรณ์ อิสรพัฒน์เป็นของคู่กัน เหมือนเจ้าตัวจะขยันสร้างข่าวฉาวคาวโลกีย์เหลือเกิน

          “อีกเรื่องที่ผมต้องเรียนคุณเขตต์ คุณธรณ์จองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้วนะครับ จะกลับมาหลังสอบเสร็จสองอาทิตย์ครับ”

          “หึ!” ผู้บริหารหนุ่มแค่นเสียงหัวเราะทันทีที่ฟังจบ “ก็ยังดีที่ยังกลับมา คิดว่าจะมัวแต่หลงระเริงกับแสงสีและผู้หญิงอยู่ที่นั่นเสียอีก”

          “นี่เป็นรายละเอียดการจองตั๋วเครื่องบินของคุณธรณ์ครับ”

          เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินถูกเลื่อนมาตรงหน้า ดวงตาคมกริบกวาดดูข้อมูลบนเอกสารขนาดเอสี่ ก่อนจะคิ้วกระตุก แล้วเอ่ยถามทันทีด้วยความสงสัย

          “สามที่นั่ง? อย่าบอกนะว่าเอาลูกเมียกลับมาด้วยตามที่ข่าวซุบซิบเขาลือกัน” ริมฝีปากหยักเหยียดออกเป็นรอยยิ้มคล้ายจะเยาะหยัน แต่ดวงตาคู่คมกลับฉายแววประหลาดออกมา หากก็เพียงแค่ครู่เดียวก่อนจะเลือนหาย และกลับมานิ่งสนิทเหมือนท้องทะเลลึกดังเดิม

          “ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนสนิทคุณธรณ์ คุณชินดนัย จิรวงศ์กับมิสเตอร์อเล็กซ์ คาร์เตอร์มากกว่านะครับ” คนสนิทรายงานตามข้อมูลที่รับทราบมา เพราะคอยติดตามข่าวคราวของอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา

          “แล้วทำไมเรียนจบแล้วไม่กลับเลย ทำไมต้องรออีกสองอาทิตย์”

          “ผมก็ไม่ทราบครับ คุณธรณ์ไม่ได้ติดต่อผมเลย ผมว่า...คุณเขตต์น่าจะลองติดต่อคุณธรณ์ดูนะครับ” คนสนิทลองเสนอแนะ เพราะเห็นว่าอย่างน้อยอีกฝ่ายก็รู้จักกันมากกว่าเขา

          “หึ! นายก็รู้ ว่าคุณธรณ์ของนายน่ะเขาจะติดต่อหา ‘ลุงคราม’ ของเขาคนเดียว”

          “นั่นผมก็ทราบครับ ถ้าหมดธุระแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับคุณเขตต์”

          “คอยตามเช็คข่าวเหมือนเดิมล่ะ ถ้าสำคัญก็รายงานฉันทันที” ร่างสูงเอ่ยส่งท้ายเสียงเรียบ

          ลับร่างของคนสนิทแล้ว ดวงหน้าหล่อเหลาคมคายก็หันมองตู้กระจก ซึ่งเก็บข้าวของที่ดูจะผิดกับตำแหน่งประธานบริษัท เพราะมีแต่บรรดาประกาศนียบัตร เหรียญรางวัล และถ้วยรางวัลมากมาย ทุกอย่างล้วนเป็นของ...ธรณ์ อิสรพัฒน์!! ที่เจ้าตัวส่งข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่สม่ำเสมอแทนการติดต่อสื่อสาร ราวกับเจ้าตัวจะป่าวประกาศว่า ข่าวคาวฉาวโฉ่มากมายที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีผลต่อความสำเร็จและความเจริญก้าวหน้าของเจ้าตัวเลย เพราะเด็กหนุ่มกำลังจะจบการศึกษาด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ด้วยผลการเรียนเกียรตินิยมเหรียญทอง จนบริษัทต่างชาติหลายแห่งพากันทาบทามตัวเข้าทำงาน

          แต่พอนึกถึงข่าวซุบซิบและสิ่งที่คนสนิทรายงาน เขตแดน เกียรติณรงค์ก็นึกสมเพชตัวเองที่ต้องมาคอยห่วง คอยพะวักพะวงถึงคนที่ขยันสร้างข่าวฉาว เพราะข่าวฉาวที่ว่าก็มีมีตั้งแต่ข่าวการเปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่น ข่าวการทะเลาะวิวาทกับนักเรียนไทยด้วยกัน หรือแม้กระทั่ง...ภาพเมาแอ๋ที่ถูกมือดีแอบถ่ายจากผับชื่อดัง จนเขาร่ำลือกันถึงกิตติศัพท์ของทายาทคนเดียวของอิสรพัฒน์กันหนาหู ชนิดที่ว่าบรรดาคุณหญิงคุณนายที่มีลูกสาว พยายามหลบเลี่ยงการข้องแวะกับเพลย์บอยหนุ่มเต็มที่

          เขตแดนจำยอมรับภาระมาจากผู้มีพระคุณและบิดาบังเกิดเกล้า ภาระที่ดูจะหนักหนาและสาหัสเหลือเกิน เพราะภาระของเขาก็คือเจ้าตัวร้าย


          เจ้าตัวร้ายที่เขตแดน เกียรติณรงค์รู้ถึงความร้ายกาจของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี !!


END INTRO


๐ อยากลองเขียนแบบนี้ดูบ้าง เรื่องนี้จะมาลงช้าถึงช้ามากนะคะ เป็นลูกเมียน้อย
๐ นี่ก็เอาอินโทรที่เขียนมาชาติกว่ามาลงก่อน แนะนำติชมตามสบายเลยนะคะ
จะพยายามเข็นมาลง มีคนรออ่านอยู่ เลยต้องเอามาลง เป็นการกระตุ้นตัวเอง
ขอบคุณที่แวะเข้ามาชมค่ะ ฝากด้วยนะคะ  :pig4:

ออฟไลน์ nan239

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「INTRO :: 18.09.2012」
«ตอบ #2 เมื่อ18-09-2012 13:44:27 »

ฉลองเปิดเรื่องใหม่ แต่อย่าลืมลงเรื่องพี่เภาน้องแอลนะค่ะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「INTRO :: 18.09.2012」
«ตอบ #3 เมื่อ18-09-2012 13:59:16 »

มาบอกว่าชอบแนวนี้คับ

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「INTRO :: 18.09.2012」
«ตอบ #4 เมื่อ18-09-2012 16:24:56 »

จุดประทัดต้อนรับเรื่องใหม่ค่ะ  :mc4:

แค่อินโทรก็น่าสนใจแล้ว  รอเนื้อเรื่องนะค่ะ   :L2:

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「INTRO :: 18.09.2012」
«ตอบ #5 เมื่อ18-09-2012 18:12:59 »

ได้อ่านวัยทำงาน ก็ดีเหมือนกัน

เพราะเริ่มอิ่มตัวกับแนวมัธยมและมหาลัยแล้ว

แค่อินโทรก็แซ่บเว่อ!!!! 

ธรณ์ คือ นายเอก??
เขตต์ คือ พระเอก??


ออฟไลน์ Benesmee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「INTRO :: 18.09.2012」
«ตอบ #6 เมื่อ18-09-2012 19:10:32 »

ชอบแบบนี้เลยค่ะ น่าติดตามมาก
จะรออ่านตอนต่อไป...เป็นกำลังใจให้น่ะคร้า :L2:

ออฟไลน์ irksome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「INTRO :: 18.09.2012」
«ตอบ #7 เมื่อ18-09-2012 19:15:12 »

ต้อนรับเรื่องใหม่  :mc4:

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「INTRO :: 18.09.2012」
«ตอบ #8 เมื่อ18-09-2012 19:24:43 »

กรี๊ดดดดด รอพี่เขตแดนเจอศึกหนัก


น่าสนุกมากเลย รอติดตามค่า

ออฟไลน์ Renze

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-25
“ รักคืนรัง ”

ตอนที่ 1



          เพียะ!!

          ฝ่ามือหนาตวัดกระทบดวงหน้าขาวเต็มแรง จนปรากฏรอยแดงเถือกค่อนหน้า ร่างสูงที่ยืนดูอยู่รีบถลาเข้ามาประคองร่างเด็กชาย พร้อมกับเอ่ยห้ามเจ้าของฝ่ามือที่กำลังฉุนเฉียวและเดือดดาล

          “พอเถอะครับคุณยุทธ”

          “ปล่อยเขาเถอะครับลุงคราม เขาแค่อยากจะถือสิทธิ์ของความเป็นพ่อมาสั่งสอนลูก” เด็กชายวัยสิบห้าเอ่ยอย่างอวดดี แต่ดวงตามองเจ้าของฝ่ามือ ซึ่งเป็นคนเดียวกับผู้มีศักดิ์เป็นพ่อเขม็ง

          “ปากดีนักนะ!! เพราะมีลูกชั่วอย่างแกอยู่น่ะสิ ฉันถึงต้องสั่งสอน”

          “เลือดชั่วของผม ก็เลือดเดียวกับคุณนั่นแหล่ะ ชั่วเหมือนกันหรือเปล่าล่ะครับ”

          พอเด็กหนุ่มเอ่ยจบ ร่างสูงก็แทบจะถลาเข้ามากระชากเด็กหนุ่ม ดีว่าชายหนุ่มอีกคนรีบเอาตัวบังเด็กชายทันท่วงที ก่อนจะเอ่ยปรามคนที่สูงวัยกว่า

          “ผมขอนะครับคุณยุทธ คุณตบแกแล้วทีนึงนะครับ น้องธรณ์แกยังเด็กอยู่เลยนะครับ”

          “ถอยออกมาเลยนะคราม มันทำอิสรพัฒน์เสียชื่อเสียงมามากพอแล้ว ฉันจะเอาเลือดชั่วมันออก เสียแรงที่ฉันส่งเสียมันมา”

          “คิดเหรอว่าผมอยากเป็นอิสรพัฒน์ ผมอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นอัศวรักษ์จะแย่ น่าภาคภูมิกว่าอีก แค่รู้ว่ามีเลือดเดียวกับคุณ ผมก็เกลียดตัวเองจะแย่”

          เพียะ!!

          เลือดซึมออกมาจากมุมปากที่เพิ่งขยับพูดอย่างอวดดี พร้อมกับดวงหน้าขาวที่หันตามแรงตบอย่างแรง ขณะที่ชายหนุ่มอีกคนร้องอุทานเสียงหลงทันที

          “คุณยุทธ!!”

          ธีรยุทธ อิสรพัฒน์ละสายตาจากลูกชายที่ยืนเม้มริมฝีปากแน่น ตัวสั่นระริก แล้วหันมามองผู้ที่เป็นเพื่อนสนิทและคนสนิท ก่อนจะสั่งเสียงเฉียบขาด

          “เตรียมตัวจัดการเรื่องที่ฉันเคยสั่งซะคราม ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่า โรงเรียนประจำที่อังกฤษจะดัดสันดานมันได้หรือเปล่า ขืนฉันยังปล่อยมันอยู่ที่นี่ต่อ ชื่อเสียงที่สั่งสมมานานของอิสรพัฒน์ มีหวังต้องย่อยยับเพราะมันเป็นแน่”

          “แต่คุณยุทธ น้องธรณ์เพิ่งอายุแค่สิบห้า...”

          “อย่ามาขัดฉันนะคราม นายมีหน้าที่ทำตามคำสั่งฉันก็พอ” เอ่ยจบ ธีรยุทธก็เบือนหน้ามาหาทายาทของตัวเอง “ส่วนแกก็เตรียมเก็บกระเป๋าซะ ระหว่างที่อยู่ที่นี่ ถ้าแกยังกล้าก่อเรื่องอีก แกกับฉันเห็นดีกันแน่!!”


          ประมุขของบ้านอิสรพัฒน์เอ่ยทิ้งท้ายเสียงห้วน ก่อนจะเดินหันหลังกลับเข้าสู่คฤหาสน์สไตล์โคโลเนียลสีขาว ลับร่างของธีรยุทธ อิสรพัฒน์แล้ว ชายหนุ่มอีกคนที่ยังยืนอยู่ก็รีบตรงเข้าปลอบประโลมเด็กชาย

          “น้องธรณ์ เดี๋ยวลุงจะลองพูดกับคุณยุทธดูอีกทีนะ”

          “ไม่ต้องครับลุงคราม ผมจะไป”

====================

          ร่างขาวเปลือยที่กำลังนอนอยู่บนเตียงสะดุ้งตื่นเพราะความฝัน เหงื่อซึมออกมาตามหน้าผาก แม้ว่าอุณหภูมิของห้องที่นอนอยู่จะเย็นฉ่ำ ดวงตาเรียวกวาดมองรอบด้าน พอเห็นว่าเป็นอพาร์ทเมนต์ที่มีสภาพเละเทะ เนื่องจากเพิ่งผ่านกิจกามมา ร่างขาวก็ค่อยสงบลง

          “เหอะ! ก็แค่ฝันถึงคนตาย” ชายหนุ่มแค่นเสียงหัวเราะ

          ธรณ์ อิสรพัฒน์ขยับตัวลงเตรียมนอนต่อ แต่ดูเหมือนว่าการตื่นมาตอนเกือบสว่างของชายหนุ่ม จะเผลอปลุกผู้ร่วมเตียงเข้า จนหล่อนยื่นมือมาแตะท่อนแขนแข็งแรง

          “ฝันร้ายเหรอคะธรณ์” นางแบบสาวที่ชายหนุ่มกำลังควงอยู่ และเลือกเป็นคู่นอนสำหรับค่ำคืนที่ผ่านมาเอ่ยถามเสียงสะลึมสะลือ ก่อนจะปรือตามองเพลย์บอยหนุ่ม

          “เปล่า แค่ฝันถึงเรื่องเก่าน่ะ ผมปลุกคุณตื่นหรือเปล่ามิแรนด้า” ชายหนุ่มก้มหน้าลงถามคู่นอนของตัวเอง

          คำตอบคืออาการส่ายหน้าจนเส้นผมสีบลอนด์กระจาย ก่อนที่นางแบบสาวจะเบียดร่างเข้ามาอย่างยั่วยวน ธรณ์กระตุกมุมปากเล็กน้อย เมื่อรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองกำลังตื่นตัวขึ้นมา แม้ว่าจะผ่านบทรักที่ยาวนานมาตลอดคืน และเพิ่งนอนหลับพักผ่อนเมื่อสองชั่วโมงก่อน เขารู้ดีว่า...ร่างกายที่ยังหนุ่มยังแน่นของเขา แข็งแรงมากพอสำหรับกรำศึกตลอดคืน

          “แต่คุณปลุกผมตื่นนะคนสวย รับผิดชอบด้วยล่ะ”

          คำตอบคือเสียงหัวเราะคิกคักที่ดังออกมาจากริมฝีปากบาง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงครวญคราง เมื่อชายหนุ่มเริ่มขยับกายเป็นจังหวะ กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันจนหมอนและผ้าห่มกระจัดกระจาย และนี่ก็เป็นอีกคืน...ที่ธรณ์ อิสรพัฒน์มีหญิงสาวมาคอยปรนเปรอกามารมณ์

          เพียงแค่กระดิกนิ้ว...ผู้หญิงมากมายก็พร้อมที่จะวิ่งเข้ามาหาเพลย์บอยหนุ่ม ด้วยรูปทรัพย์ที่เหนือกว่าผู้ชายหลายคน แม้ว่าจะเป็นชาวเอเชีย แต่ผู้หญิงหลายคนก็พากันฝันถึงธรณ์ แล้วยังทรัพย์สมบัติที่มากมาย สมฐานะทายาทเพียงคนเดียวของอิสรพัฒน์

          ธรณ์อาจจะเป็นฝันร้ายของบรรดาคุณแม่ที่มีลูกสาว แต่สำหรับผู้หญิงหลายคน...ธรณ์คือฝันดีที่เจ้าหล่อนต่างต้องการเป็นเจ้าของ แม้จะรู้ดีว่าสุดท้ายแล้วก็ต้องตื่นจากฝัน เพราะสำหรับชายหนุ่มแล้ว ทุกคนก็เป็นแค่คู่ควง หรืออย่างดีหน่อยก็เป็นคู่นอนที่มีโอกาสร่วมเตียงด้วย แต่ถ้าคิดจะผูกมัดก็คงต้องฝันสลาย เพราะเสือร้ายอย่างธรณ์เกลียดการผูกมัด และมีวิธีจัดการกับพวกที่พยายามผูกมัดเขาอย่างเด็ดขาด

          อำนาจของเงินตรา...บันดาลทุกสิ่งจนเป็นเรื่องง่ายดาย ง่ายเสียจนมนุษย์เราพากันลืมเลือนว่า เงินตราก็เป็นเพียงแค่เศษกระดาษทำหน้าที่เบิกทาง ความรักต่างหากที่จีรังยั่งยืน

====================

          ธรณ์ อิสรพัฒน์สบถออกมาด้วยความหงุดหงิด เมื่อถูกรบกวนด้วยเสียงออดยามเช้า ซึ่งก็มีเพียงแค่สองคนที่กล้ามารบกวนการนอนหลับของเขา ชายหนุ่มก้าวลงจากเตียงก่อนจะคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับร่างกายเปลือยเปล่าของตนเอง พอเห็นสภาพห้องนอนที่เละเทะ เพราะผ่านศึกรักมาตลอดคืนก็หน้าเบ้ทันที เพราะเดี๋ยวเขาคงต้องเรียกแม่บ้านมาเก็บกวาดอีกตามเคย

          อพาร์ทเมนต์ที่ธรณ์พักอาศัยอยู่ หรูหราสมฐานะทายาทคนเดียวของตระกูลอิสรพัฒน์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สมกับราคาที่แพงลิบ เป็นอพาร์ทเมนต์ขนาดหนึ่งห้องนอน ประกอบด้วยห้องครัว ห้องรับแขก ห้องนอน และห้องน้ำ เหมือนอพาร์ทเมนต์หลายแห่งบนเกาะแมนแฮตตัน

          ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องนอน ปล่อยแม่สาวผมบลอนด์นอนหลับต่อ เขาเดินมาปลดล็อคกลอนประตู และพอเห็นร่างสูงของชายหนุ่มสองคนที่ยืนอยู่หลังประตู ธรณ์ก็สบถเสียงลั่นทันทีอย่างหัวเสีย เขาเกลียดการถูกปลุกยามเช้าเป็นที่สุด แขกที่มาเยือนยามเช้าเพียงแค่หัวเราะ เพราะรู้นิสัยเจ้าของห้องเป็นอย่างดี ก่อนจะถือวิสาสะเบียดตัวผ่านช่องประตูเข้ามา

          ชายหนุ่มที่แต่งกายดูดี หน้าตาคมคาย ดูชัดว่ามาจากประเทศเดียวกับเจ้าของอพาร์ทเมนต์ คือลูกชายคนเดียวของท่านนายพลแห่งกองทัพบก ชินดนัย จิรวงศ์ ที่มารู้จักกับธรณ์ตอนถูกส่งมาเข้าโรงเรียนประจำที่เดียวกัน สองหนุ่มคบหากันมานาน จนตามกันมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่นิวยอร์ก

          ส่วนอีกหนึ่งหนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน ที่นิยมคุยกันด้วยภาษาไทยมากกว่า คือ อเล็กซ์ คาร์เตอร์ ลูกชายของกลุ่มเงินทุนคาร์เตอร์ มหาอำนาจทางธุรกิจของอเมริกา ที่มารู้จักกันตอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และคบหาจนสนิทสนมกันเป็นอย่างดีกับธรณ์

          “บอกธุระที่มึงสองคนมาปลุกกูแต่เช้ามาเลย ก่อนที่กูจะจับมึงสองคนโยนออกนอกห้อง” ธรณ์บ่นอย่างหงุดหงิด ขณะเดินเข้าห้องครัวชงกาแฟมาดับความง่วง

          “เมื่อคืนหนักอีกแล้วล่ะสิ แล้วมิแรนด้าล่ะ?” อเล็กซ์ถามด้วยความสงสัย

          เมื่อคืนพวกเขาออกท่องราตรีที่คลับชื่อดัง ย่านไทม์สแควร์ ซึ่งเป็นกิจวัตรที่พวกเขาทำกันเป็นประจำ และก็จบลงที่ธรณ์หิ้วนางแบบสาวมิแรนด้ากลับมาอพาร์ทเมนต์ด้วย ส่วนอเล็กซ์กับชินดนัยก็กอดคอกันนั่งแท็กซี่กลับที่พัก เพราะพวกเขาแค่มาเป็นเพื่อนเพลย์บอยตัวพ่อ ที่กำลังยืนจิบกาแฟหน้ายุ่งอยู่

          “นอนหลับอยู่ พูดธุระมาดีกว่า ก่อนที่กูจะอารมณ์เสียเพราะนอนไม่พอ”

          อเล็กซ์ฉวยถ้วยกาแฟจากธรณ์มาแล้วก็ยกจิบ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟา ที่ชินดนัยนั่งอยู่ก่อนแล้ว ธรณ์เดินมายืนพิงหน้าต่างอพาร์ทเมนต์ ทอดสายตามองทิวทัศน์ของเกาะแมนแฮตตัน อากาศที่นี่กำลังดี เพราะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ เขาเหลือสอบอีกเพียงแค่ตัวเดียว ก่อนจะจบกันเสียที กับชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมานาน

          “ลูกน้องกูรายงานมาว่า คุณเขตแดนเขาสั่งคนสนิทเช็ครายละเอียดตั๋วเครื่องบินของมึง มึงจะเปลี่ยนไฟลท์หรือเปล่า” อเล็กซ์เอ่ยถามคนที่มัวแต่ชื่นชมกับความงามของมหานครนิวยอร์ก

          ริมฝีปากบางเหยียดออกเล็กน้อยคล้ายจะเย้ยหยันต่อทุกสิ่ง แล้วร่างสูงก็เบือนหน้ากลับมาหาเพื่อนรักสองคน เพื่อนที่เป็นมากกว่าเพื่อน

          “เอาตามเดิมนั่นแหล่ะ แล้วเรื่องอื่นล่ะ?”

          ชินดนัยลุกจากโซฟามายืนข้างธรณ์ ก่อนจะวางมือลงบนบ่าของเพื่อนรัก บ่าที่น้อยคนนักจะรู้ว่า...มันเล็กกว่าที่คิด แล้วคำถามเอื้ออาทรก็หลุดออกมา

          “จะต้องกลับเมืองไทยแล้ว มึงโอเคนะธรณ์” ชินดนัยถาม พลางกอดบ่าเพื่อนรักแน่น หวังจะถ่ายทอดความรู้สึกเป็นห่วงที่มีต่ออีกฝ่าย

          “มึงน่าจะถามผู้ปกครองกูมากกว่านะชิน ว่ากูจะกลับเนี่ย เขาโอเคหรือเปล่า หรือว่ายังหวงเก้าอี้ประธานบริษัทที่ควรจะเป็นของกูอยู่ อำนาจมันมักจะหอมหวาน แต่อำนาจที่เขามีอยู่...มันคือสิ่งที่ควรจะเป็นของทายาทตัวจริงอย่างกู” ธรณ์ประกาศเสียงกร้าว ดวงตาวาววับ

          “คุณเขตแดนเขาก็แค่ทำตามพินัยกรรมของพ่อมึงนะธรณ์”

          “แสดงว่ากูควรจะโทษคนตาย ที่ขนาดตายแล้วยังอุตส่าห์สร้างปัญหาอีก”

          ไม่มีคำตอบจากชินดนัยและอเล็กซ์ เพราะบางเรื่องมันก็ละเอียดอ่อนเกินกว่าจะอธิบายออกมาเป็นคำพูด ชินดนัยและอเล็กซ์รู้ทุกเรื่องของธรณ์เป็นอย่างดี แต่พวกเขาก็คิดว่า...บางอย่างอาจจะมีเหตุผลของมันเอง อย่างเช่น...การกระทำของนายธีรยุทธ อิสรพัฒน์ ที่ยกตำแหน่งประธานบริษัทให้ลูกชายคนสนิท แทนที่จะเป็นลูกชายตัวเองซึ่งเป็นทายาทตามกฎหมาย แม้ว่าพินัยกรรมจะระบุว่า...ธรณ์ อิสรพัฒน์จะมีสิทธิ์เข้ารับตำแหน่งประธานบริษัท เมื่ออายุครบยี่สิบห้าปีบริบูรณ์ก็ตาม

          ชินดนัยและอเล็กซ์รับรู้ทุกเรื่องราวของธรณ์ ชายหนุ่มที่แบกเอาความเก็บกดมาต่างแดน ทำตัวเสเพลเที่ยวกลางคืน เที่ยวผู้หญิง แต่ก็ร่ำเรียนจนจวนเจียนจะจบปริญญาด้วยเกียรตินิยม ธรณ์ทะเลาะกับคุณธีรยุทธ ผู้เป็นพ่ออย่างรุนแรง นั่นคือสิ่งที่ชินดนัยและอเล็กซ์รู้ และมันคงจะรุนแรงมาก เพราะแม้กระทั่งตอนงานศพของคุณธีรยุทธ ที่รู้กันอย่างกว้างขวาง ธรณ์ยังเมาหัวราน้ำอยู่ที่นิวยอร์กอยู่เลย

====================

         
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-10-2012 08:40:34 โดย Renze »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
« ตอบ #9 เมื่อ: 18-09-2012 19:34:37 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Renze

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-25
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #10 เมื่อ18-09-2012 19:35:25 »


          สนามบินสุวรรณภูมิมีผู้คนบางตากว่าช่วงวันหยุด แต่ก็ยังถือว่าเยอะ เมื่อเทียบกับความอลังการของตัวสนามบินอันเป็นที่เชิดหน้าชูตา ชายหนุ่มสองคนที่แต่งกายด้วยชุดสูท เพราะเพิ่งเดินทางออกมาจากบริษัท และตรงมาที่สนามบินเลย กำลังนั่งจิบกาแฟฆ่าเวลาอยู่ที่ร้านกาแฟ สายตาก็คอยมองจอมิเตอร์สลับกับฟังประกาศจากสนามบิน

          เป็นเรื่องปกติสำหรับนักธุรกิจหนุ่มอย่าง เขตแดน เกียรติณรงค์ ที่ต้องเดินทางติดต่อธุรกิจอยู่เสมอ เขตแดน เกียรติณรงค์จึงคุ้นเคยกับสนามบินสุวรรณภูมิเป็นอย่างดี ชายหนุ่มจิบกาแฟสลับกับกวาดสายตาดูผู้คนที่เริ่มพลุ่กพล่าน ระหว่างรอเครื่องบินที่กำลังเดินทางมาจากนิวยอร์ก และแวะเปลี่ยนเครื่องที่ญี่ปุ่น ซึ่งกำลังจะลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิตามกำหนดการ

          “เครื่องลงเรียบร้อยแล้วครับ คุณเขตต์” เวธน์เดินกลับมารายงานผู้เป็นนาย หลังจากดูที่หน้าจอมอนิเตอร์อีกรอบ แล้วพบว่าไฟลท์ที่กำลังรออยู่เดินทางมาถึงเรียบร้อย คาดว่าน่าจะอยู่ระหว่างรอสัมภาระและผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง

          เขตแดนพยักหน้ารับ ก่อนที่เขาและเวธน์จะเคลื่อนย้ายตัวเองมายืนรอบริเวณผู้โดยสารขาเข้า ผู้คนมากหน้าหลายตาที่เดินผ่านทำเอาเขตแดนชะงัก ถึงจะรู้จักกับธรณ์ อิสรพัฒน์มากกว่าค่อนชีวิต เห็นกันมาแต่เล็กแต่น้อย แต่ล่าสุดที่พบปะเห็นหน้าค่าตากันก็ตอนสมัยที่เขายังเรียนอยู่อังกฤษ นี่ก็ผ่านมาเกือบหกปีแล้ว ที่ผ่านมาก็เห็นแต่รูปที่เวธน์คอยรายงาน ซึ่งเห็นชัดเจนว่าต่างจากความทรงจำครั้งสุดท้ายของเขา มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาถึงตัวจริงของอีกฝ่าย

          “นายจำหน้าเขาได้ใช่ไหม?” เขตแดนถามคนสนิท

          ถึงแม้ว่าปกติเขตแดนจะติดต่อกับธรณ์อยู่เสมอ แต่เขาพยายามหลีกเลี่ยงการติดต่อโดยตรง เพราะรู้ดีว่าระหว่างเขากับอีกฝ่ายมีกำแพงที่ขวางอยู่ จนยากที่จะปีนข้าม ชายหนุ่มจึงมอบหมายให้เวธน์เป็นคนดำเนินการแทน และเวธน์เองก็เคยเดินทางไปพบธรณ์ที่นิวยอร์ก เท่ากับว่าก็เคยเห็นตัวจริงของธรณ์มาแล้ว

          “หล่อแบบคุณธรณ์ ผมจำติดตาเลยครับ มิน่า...อยู่ที่นิวยอร์กถึงมีสาวควงอยู่ตลอด”

          ผู้โดยสารเดินออกมาจากเกทคนแล้วคนเล่า ทั้งชาวไทยที่กลับมาบ้านเกิดและชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยว แต่เขตแดนและเวธน์ก็ยังคงไม่เห็นบุคคลที่พวกเขามารอรับ จนชายหนุ่มเผลอนิ่วหน้า ก่อนจะเอ่ยปากถามกับคนสนิทอีกรอบเพื่อความแน่ใจ

          “ฉันกับนายคลาดสายตา หรือว่าเขาเปลี่ยนไฟลท์กระทันหันหรือเปล่า?”

          เพราะรู้ดีว่าคนที่มารอรับมีลูกล่อลูกชนแพรวพราว และแน่นอนว่าอีกฝ่ายต้องรู้ดีแน่นอนว่าเขาเช็ครายละเอียดเที่ยวบิน และถือวิสาสะมารับโดยไม่บอกกล่าว จึงอาจจะเป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายอาจจะเปลี่ยนไฟลท์เพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเขา

          “ไม่นะครับ ผมยังไม่เห็นคุณธรณ์ออกมาเลย ส่วนเรื่องไฟลท์ ผมก็เช็คละเอียดหลายรอบแล้วนะครับ ล่าสุดเมื่อเช้าก็เช็คแล้ว มีชื่อคุณธรณ์เดินทางมาด้วยแน่นอน นั่นไงครับคุณเขตต์!!” เวธน์อุทาน พร้อมกับที่เขตแดนมองเห็นผู้ที่กำลังตกเป็นหัวข้อสนทนาเดินมาพอดี
 
          ชายหนุ่มสามคนเดินเคียงกันออกมา ดึงดูดทุกสายตาของผู้คนที่มารอรับ ยิ่งชายหนุ่มคนที่เดินอยู่ตรงกลาง แม้ว่าจะสวมแว่นกันแดดบดบังดวงหน้ากว่าครึ่ง และมีหมวกสีดำปกคลุมศีรษะ แต่ก็พอดูออกว่าหน้าตาหล่อจัด ผิวขาวอย่างคนที่อยู่เมืองหนาวมานาน เป็นสีระเรื่อเพราะความร้อนของประเทศบ้านเกิด และเหมือนเจ้าตัวก็จะรู้ถึงสภาพอากาศที่แตกต่าง จึงสวมเพียงแค่เสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงลายทหารสี่ส่วน

          อีกสองหนุ่มที่เดินประกบเหมือนคอยคุ้มกัน ก็แต่งกายลักษณะเดียวกัน ทุกย่างก้าวที่เดินผ่าน เสียงฮือฮาก็ดังเกรียวกราว เพราะเผลอคิดว่าอาจจะเป็นศิลปินจากประเทศญี่ปุ่นเดินทางมาพักผ่อน

          “คนที่ยืนอยู่ตรงกลางคือคุณธรณ์ครับ แล้วก็คุณชินดนัยกับมิสเตอร์อเล็กซ์ขนาบข้าง โชคดีนะครับ ที่ไม่ได้พาลูกเมียกลับมาด้วยอย่างที่คุณเขตต์ว่า” เวธน์ยังอุตส่าห์มีอารมณ์ขำ หยิบยกเอาถ้อยคำที่เขตแดนเคยกล่าวกลับมายอกย้อน จนชายหนุ่มต้องตวัดสายตาเป็นเชิงปราม

          พอกลุ่มชายหนุ่มสามคนเดินมาถึงบริเวณที่เขตแดนยืนอยู่ นักธุรกิจหนุ่มก็ขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยทักทายคนที่เพิ่งเดินทางกลับมาบ้านครั้งแรก นับจากเดินทางออกนอกประเทศตอนอายุสิบห้า

          “ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ธรณ์ อิสรพัฒน์!!” เขตแดนเอ่ยเน้นนามสกุลอีกฝ่ายชัดเจน หมายจะเตือนว่า ที่นี่คือประเทศไทย ชื่อเสียงและความเป็นอิสรพัฒน์คือสิ่งที่ทายาทคนเดียวพึงรักษา

          มือขาวขยับถอดแว่นกันแดดออก ดวงตาเรียวที่แฝงความเย็นชามองสบประสานมา ก่อนจะเอ่ยด้วยภาษาแม่ที่ช้าและชัดถ้อยชัดคำ แม้ว่าจะอยู่ต่างประเทศมานาน

          “นับว่าเป็นเกียรติสำหรับธรณ์ อิสรพัฒน์เหลือเกิน ที่ท่านประธานบริษัทอิสระคอนสตรัคชั่นอุตส่าห์สละเวลามารับผมด้วยตัวเอง”

          ดวงตาสองคู่จ้องมองกันนิ่ง เหมือนจะหยั่งเชิงของแต่ละฝ่าย ประเมิณกันและกัน เป็นเวลานานที่ความอึดอัดครอบคลุมทั่วบริเวณ จนชินดนัยต้องเป็นฝ่ายทำลายความอึดอัดด้วยการแนะนำตัวเอง แม้ว่าจะเป็นการเสียมารยาท

          “ผม...ชินดนัย จิรวงศ์ เป็นเพื่อนสนิทของธรณ์ครับ”

          “อ๋อ...ลูกชายของท่านนายพลชานนท์นั่นเอง ผมเองก็เคยพบกับคุณพ่อของคุณอยู่หลายที ฝากสวัสดีท่านด้วยแล้วกัน” เขตแดนเบือนสายตามาทางชายหนุ่มอีกคน “นี่ก็คงเป็นมิสเตอร์อเล็กซ์ คาร์เตอร์ ยินดีที่รู้จักครับ ผมเขตแดน เกียรติณรงค์”

          “เดี๋ยวผมกับอเล็กซ์ขอตัวก่อนละกันครับคุณเขตแดน” ชินดนัยเอ่ยกับอีกฝ่ายอย่างสุภาพ เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายอายุมากกว่าตนถึงเจ็ดปี แล้วสองหนุ่มจึงหันมาสวมกอดเพื่อนรัก “แล้วเดี๋ยวกูค่อยติดต่อหามึงอีกทีละกัน”

          ธรณ์พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ หากสายตายังคงจับจ้องเขตแดนนิ่ง ระหว่างชายหนุ่มสองคนเหมือนมีม่านหมอกที่ปกคลุมอยู่ แต่มันคงกินเวลานานจนก่อตัวเป็นกำแพงหนา

          สำหรับธรณ์แล้ว เขตแดนก็คือผู้ชายที่พ่อของเขาชื่นชมและยกย่องมากกว่าลูกชายคนเดียวอย่างเขา พ่อของเขาส่งเสียเขตแดนเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษ ดันเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัท ซึ่งถือว่าข้ามหน้าข้ามตาธรณ์ที่เป็นลูกชายคนเดียวอย่างมาก แต่ก็นั่นแหล่ะ...เขายังเคยนึกสงสัยครามครันว่า พ่อเคยเห็นเขาเป็นลูกหรือเปล่า เหมือนที่พ่อแต่งงานกับแม่แค่เพราะต้องการทายาท

====================

          รถยนต์คันหรูแล่นออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ จุดหมายปลายทางคือบ้านเดี่ยวชานเมือง หลังจากที่ชายหนุ่มนักเรียนนอกประกาศเจตนารมณ์ชัดเจนว่า ต้องการพบ ‘ลุงคราม’ มากกว่าจะกลับบ้านของตนเอง ธรณ์นั่งเอนหลังพิงพนัก ปิดเปลือกตาลงราวกับจะตัดตัวเองออกจากความวุ่นวายรอบด้าน เวธน์ลอบมองผ่านมองกระจกหลังแล้วก็รู้สึกอึดอัดแทนแต่ละฝ่าย

          ความสัมพันธ์ระหว่างเขตแดนและธรณ์ เป็นความอึดอัดที่บ่มเพาะมาเนิ่นนาน ตั้งแต่สมัยที่แต่ละคนยังอายุน้อยอยู่ แรกเริ่มเดิมทีก็เป็น ‘พี่เขตต์’ และ ‘น้องธรณ์’  เพราะรู้จักกันมานาน จนกระทั่ง...

          คุณธีรยุทธ อิสรพัฒน์เริ่มที่จะเอ็นดูและผลักดันเขตแดนอย่างออกนอกหน้า หลังจากที่คุณสงครามหย่าร้างกับภรรยา ความสัมพันธ์ระหว่างเด็กหนุ่มสองคนจึงเริ่มเย็นชา เด็กชายวัยหัวเลี้ยวหัวต่ออย่างธรณ์เริ่มตีตัวออกห่างคนที่ ‘เคย’ นับถือประหนึ่งพี่ชาย และยิ่งหนักข้อมากกว่าเดิม เมื่อธรณ์เริ่มต่อต้านพ่อตัวเองหลังจากที่มารดาเสียชีวิต และเขตแดนก็รับรู้แต่วีรกรรมร้ายกาจของธรณ์ จนภาพของเด็กชายตัวน้อยที่เคยวิ่งตามเขา เลือนหายจากความทรงจำตามวันและเวลา

          “ลุงครามสบายดีหรือเปล่า?” คำถามหลุดออกมาจากริมฝีปากของคนที่ทำเสมือนว่ากำลังนอนหลับ

          เขตแดนนิ่งเงียบเสีย เพราะเขาคิดว่าเจ้าตัวคงจะพูดกับตนเอง ส่วนเวธน์ก็เอาแต่ขยับตัวอย่างอึดอัด

          “ผมถาม...”

          “ถ้าต้องการจะถามใครก็ควรเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วย ฉันอายุมากกว่านายเจ็ดปี หวังว่าคงจะรู้มารยาท” เขตแดนตอบเสียงเรียบ ไม่นำพากับอาการหงุดหงิดงุ่นง่านของอีกฝ่าย ที่เขาเหมาเอาว่าเป็นอาการของเด็กพาล

          “คุณเขตแดน...ลุงครามสบายดีหรือเปล่า”

          “ก็ดี มีความสุขกับสวนที่บ้านแล้วก็หมาเหมือนคนแก่คนอื่น”

          สำหรับธรณ์แล้ว คุณสงคราม เกียรติณรงค์คือทุกสิ่งทุกอย่างของเขารองจากมารดา ‘ลุงคราม’ ที่เป็นเพื่อนสนิทและคนสนิทของพ่อ แต่เอาใจใส่และดูแลเขายิ่งกว่าพ่อของเขาเอง จนชายหนุ่มนับถือและรักคุณสงครามยิ่งกว่าคุณธีรยุทธ พ่อของเขา

          บ้านเดี่ยวชานเมืองที่มีสวนล้อมรอบ คือสถานที่ที่ธรณ์เคยมาวิ่งเล่นสมัยเด็ก หรือมาหาลุงครามอยู่เสมอด้วยความคิดถึง ก่อนที่จะถูกพ่อเตะโด่งออกนอกประเทศหลังทะเลาะกันอย่างรุนแรง และแม้กระทั่งวันที่เขาเดินทางไปเรียนต่อ ก็ยังมีแค่ลุงครามที่เดินทางมาส่งที่สนามบิน

          พอเห็นร่างสูงที่คุ้นตากำลังยืนรดน้ำอยู่ตรงสวนหน้าบ้าน ดวงตาเรียวก็เปล่งประกายด้วยความยินดี ก่อนจะเลือนหายกลับมาราบเรียบดังเดิม เมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกจับตามองจากผู้ร่วมทาง

          ธรณ์เคยคิด...บางทีคุณธีรยุทธอาจจะอยากได้เขตแดนเป็นลูกมากกว่า เหมือนที่เขาเองก็อยากได้ลุงครามเป็นพ่อมากกว่า

          พอรถจอดสนิท ชายหนุ่มก็ถลาลงจากรถตรงเข้าสวมกอดลุงครามของเขาทันที จากเด็กชายตัวน้อย ธรณ์เติบใหญ่จนสูงกว่าอีกฝ่ายเล็กน้อย เด็กชายธรณ์ที่เคยเกาะขาลุงคราม กำลังยืนกอดลุงครามของแน่นด้วยความรักและความคิดถึง สมกับที่จากกันนานถึงเกือบเจ็ดปี

          “ลุงคราม ธรณ์กลับมาแล้วครับ”

          ชายสูงวัยสวมกอดเด็กหนุ่มที่เขารักเหมือนลูก ซึ่งโตเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วอย่างแนบแน่น แทนความคิดถึง แทนความห่วงหา

          “ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะธรณ์ เรียนจบแล้วก็กลับมาอยู่บ้านเรานะธรณ์”

          “ครับ ธรณ์คิดถึงลุงครามนะครับ”

          “แล้วนี่พี่เขาไปรับกลับมาล่ะสิ มา...เข้าบ้านกันดีกว่า เดี๋ยววันนี้ลุงจะเข้าครัวลงมือทำอาหารเองเลย” สองลุงหลานเดินกอดเอวกันเข้าตัวบ้านจนลืมอีกสองคนที่มาด้วย

          ดวงตาสองคู่มองตามหลังสองคนที่เดินหายลับเข้าตัวบ้าน นักธุรกิจหนุ่มรู้ดีว่า คุณพ่อของเขารักและเอ็นดูธรณ์มาก แม้ว่าอีกฝ่ายจะขยันทำตัวเสเพลก็ตาม แต่คุณสงครามก็ยังรัก บางที...อาจจะเพราะเห็นแก่บุญคุณและความเป็นเพื่อนสนิทของคุณธีรยุทธ

          “โชคดีนะครับ ที่คุณธรณ์ยังมีคุณพ่อคุณเขตต์คอยดูแลอยู่”

          นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่เขตแดนนึกสงสารธรณ์ ชายหนุ่มที่เหลือตัวคนเดียว พ่อมารดาเสียชีวิต ยังดีที่ยังมีพ่อของเขาคอยเป็นห่วงอยู่เสมอ ถ้าเพียงแต่ธรณ์จะทำตัวดีกว่าที่เป็นอยู่ เขตแดนอาจจะนึกเอ็นดูอีกฝ่ายมากกว่านี้ เพราะเขาเองก็เป็นลูกชายคนเดียวเหมือนกัน หากมีน้องชายซักคนก็คงดีไม่น้อย

====================

          อาหารเย็นที่บ้านเดี่ยวหลังเล็กชานเมือง พร้อมหน้าพร้อมตาด้วยชายหนุ่มสามคนและชายวัยกลางคนอีกหนึ่ง คุณสงครามลงมือเข้าครัวเองเพื่อต้อนรับหลานรัก มีเวธน์เป็นลูกมือคอยช่วยเหลือหยิบจับตามที่คุณสงครามร้องขอ จวบจนลำเลียงกับข้าวกับปลามาวางบนโต๊ะ

          ชายหนุ่มที่เพิ่งกลับมาจากต่างแดน คุยกับผู้เป็นลุงอย่างออกรสชาติ เล่าสารพัดเรื่องที่พบเจอมา แม้ว่าปกติธรณ์จะโทรศัพท์กลับมาคุณสงครามอยู่บ่อยครั้งก็ตาม คุณสงครามเองก็ซักถามหลานชายหลายเรื่อง ยิ่งเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเรียนจบมาด้วยเกียรตินิยม ก็ยิ่งภาคภูมิใจ

          “ถ้าคุณยุทธยังอยู่ต้องภูมิใจในตัวธรณ์มากแน่นอน”

          คำพูดของคุณสงครามเหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางวง เพราะดวงหน้าขาวเปลี่ยนสีเล็กน้อย ก่อนริมฝีปากจะเม้มแน่น เพราะต่างฝ่ายต่างจากกันโดยไม่ได้ปรับความเข้าใจ และตอนนี้ก็ไม่มีโอกาสปรับความเข้าใจกันอีกแล้ว เพราะฝ่ายหนึ่งจากไปอย่างไม่มีวันกลับ

          คุณสงครามเองก็คงจะรู้ถึงบรรยากาศที่อึมครึมขึ้นมากะทันหัน จึงเปลี่ยนเรื่องชวนคุยทันที

          “แล้วนี่ธรณ์จะเริ่มทำงานเลยหรือเปล่า”

          “ยังครับ ธรณ์ว่าจะขอพักผ่อนอีกซักหน่อยน่ะครับ”

          “ถ้าจะเริ่มงานก็บอกพี่เขานะ เขตต์ก็ช่วยสอนงานน้องด้วยละกัน”

          ธรณ์เลือกที่จะทำหูทวนลมเสีย เขาเสตักอาหารลงบนจานของลุงคราม มองเมินคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามตนเอง เพราะรู้ตัวดีว่าสำหรับเขาแล้ว มันเป็นเรื่องยากที่จะมาญาติดีกับเขตแดน หรือแม้กระทั่งกลับมาเรียกอีกฝ่ายว่า ‘พี่เขตต์’ อีกครั้ง

          “เวลาอยู่ด้วยกันกับน้อง ก็คอยดูแลช่วยเหลือกันด้วยนะเขตต์”

          “อยู่ด้วยกัน?” ธรณ์ทวนคำพูดของลุงครามอย่างงุนงง

          “เขตต์เองก็อยู่ที่บ้านของธรณ์ด้วย เพราะเข้าบริษัทและรับรองลูกค้าสะดวกกว่า พอเสาร์อาทิตย์ถึงจะกลับมาค้างกับลุง” คุณสงครามชี้แจง ธรณ์ฝืนยิ้มออกมา แม้ว่ามันจะฝืดเฝื่อนเต็มทน

          ...นอกจากตำแหน่งประธานบริษัทแล้ว เขตแดนยังถือวิสาสะย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านของเขาอีก ต้องการที่จะเข้ามาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างของเขาหรืออย่างไร...

          เขตแดนเองเห็นอาการชะงักงันของธรณ์ ตอนที่รู้ว่าต้องอยู่กับเขาก็นึกรู้ทันที ว่าอีกฝ่ายคงกลัวเขาจะลิดรอนอิสรเสรีภาพ เด็กหนอเด็ก...ที่เขาอยู่ที่เขาทำทุกอย่างทุกวันนี้ ก็เพียงเพราะคำขอของคุณธีรยุทธที่มีบุญคุณต่อเขา ถึงเวลาเขาจะคืนทุกสิ่งทุกอย่างแก่เจ้าของตัวจริง ที่คุณธีรยุทธทำ ก็คงเพราะรู้ดีว่าลูกชายของตัวเองยังขาดวุฒิภาวะอยู่มาก

          ยิ่งนึกถึงคำสั่งเสียก่อนตายของคุณธีรยุทธ เขตแดนก็หมายมั่นว่า...เขาเองจะต้องเป็นคนดัดนิสัยธรณ์ อิสรพัฒน์ เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะทำเพื่อตอบแทนบุญคุณของคุณธีรยุทธที่เมตตาเขาเหลือเกิน



TO BE CONTINUE


๐ ตอนหน้า...รบกวนรอนานมาก เพราะเขียนถึงเท่าที่ลงนี่เอง เรื่องนี้เป็นลูกเมียน้อย
๐ พล็อตพร้อมแล้ว วางเรียบร้อย ขาดแค่แรงกระตุ้น ฮา... ว่าแต่ใครรุกใครรับหนอ?
๐ ขอบคุณทุกคอมเม้นท์มากเลยนะคะ สัญญาว่าจะพยายามเข็น แม้จะช้ามาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-10-2012 08:41:53 โดย Renze »

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #11 เมื่อ18-09-2012 19:50:03 »

พี่เขตจัดการน้องธรณ์ให้อยู่หมัดนะคะ

ธรณ์ท่าทางร้ายน่าดู

ออฟไลน์ smmikie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #12 เมื่อ18-09-2012 19:55:28 »

ว้าววว    ว้าวว ว ว ว
ติดตามตอนต่แไป !!

ออฟไลน์ โชกุน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #13 เมื่อ18-09-2012 19:55:57 »

สนุกจัง ไม่รู้ว่านายธรณ์จะแผลงฤทธิ์อะไรรึเปล่า แต่ใครเป็นพระเอกกกกก เขตแดนใช่ไหม?

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #14 เมื่อ18-09-2012 20:04:40 »

 o13

ออฟไลน์ Noipatt

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
รักคืนรัง
«ตอบ #15 เมื่อ18-09-2012 20:11:11 »

ตอนต่อไปสนุกแน่ ลุ้นๆ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #16 เมื่อ18-09-2012 20:17:33 »

น่าติดตามมากค่ะ  จะทำใจไว้เวลาคนแต่งมาต่อช้า

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #17 เมื่อ18-09-2012 20:31:12 »

อยากรู้จังค่ะ ใครพระเอก-นายเอก กันแน่

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #18 เมื่อ18-09-2012 21:08:40 »

ชอบ บ บ บ บ

เดี๊ยวจะคอยเป็นแรงกระตุ้นให้เอง

เอาตามอายุเหอะ
 
ใครแก่กว่าก็รุกซะ
ใครอ่อนก็รับแล้วกัน

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #19 เมื่อ18-09-2012 21:47:56 »

ตอนต่อไปท่าจะมันส์น่าดูนะ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
« ตอบ #19 เมื่อ: 18-09-2012 21:47:56 »





ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #20 เมื่อ18-09-2012 22:25:00 »

น่าสน.........

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #21 เมื่อ18-09-2012 23:07:52 »

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ parn11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #22 เมื่อ18-09-2012 23:32:28 »

ลึกๆแล้วอยากให้ธรณ์เป็นพระเอก
สนุกมากคะ ติดตามตอนต่อไป:)

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #23 เมื่อ18-09-2012 23:37:42 »

เริ่มเรื่องมาก็น่าสนใจแล้วค่ะ :z2:
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #24 เมื่อ18-09-2012 23:39:50 »

เสือปะทะสิงห์สินะงานนี้

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #25 เมื่อ18-09-2012 23:46:13 »

หืม....ช่องว่างระหว่างวัยสินะ

5555

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #26 เมื่อ19-09-2012 07:35:12 »

ชอบแนวนี้จังเลย *-*

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #27 เมื่อ19-09-2012 08:48:50 »

เรื่องน่าสนใจครับ
อยากอ่านเร็วๆซะแล้ว  55555

Luk-Pla-Yai

  • บุคคลทั่วไป
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 1 :: 18.09.2012」
«ตอบ #28 เมื่อ19-09-2012 14:21:23 »

อยากให้ธรณ์เป็นพระเอกยังไงก็ไม่รู้อ่ะเรา อ่ะคึอ่ะคึ
มาต่อไวๆนะขอรับคนเขียน
อยากรู้ใครเป็นรุกเป็นรับจังเยย

ออฟไลน์ Renze

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-25
Re: ▬ " รักคืนรัง " ▬ 「ตอนที่ 2 :: 19.09.2012」
«ตอบ #29 เมื่อ19-09-2012 14:27:25 »

“ รักคืนรัง”

ตอนที่ 2



          คฤหาสน์สไตล์โคโลเนียลสีขาวดูสวยงาม แม้จะเป็นเวลากลางคืน แสงไฟสีเหลืองนวลจากสวนสวย สาดกระทบตัวคฤหาสน์จนบังเกิดเป็นความงดงาม รถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ ก่อนเวธน์จะก้าวลงมาเปิดประตูหลัง ร่างสูงที่สวมสูทดูภูมิฐานเป็นฝ่ายก้าวลงมาก่อน แล้วจึงตามด้วยผู้ที่มีสิทธิ์ครอบครองคฤหาสน์หลังงามอย่างชอบธรรม
         
          แม่บ้านและเด็กรับใช้พากันมายืนรอต้อนรับเจ้านาย เพราะรู้ล่วงหน้าว่าทายาทเพียงคนเดียวจะเดินทางกลับมา แต่ถึงแม้ว่าจะมีคนมายืนรอต้อนรับมากมาย ธรณ์ก็คุ้นหน้าเพียงแค่คนเดียว ชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงวัยกลางคน ก่อนจะเอ่ยถามเสียงแผ่ว...

          “ป้าอุ่นหรือเปล่าครับ?”

          “คุณธรณ์...คุณธรณ์ของป้า โตเป็นหนุ่มแล้วหล่อเหลือเกิน”

          ธรณ์ตวัดวงแขนโอบกอดแม่บ้านคนเก่าคนแก่ ที่คุ้นเคยกันมาแต่เล็กแต่น้อย และเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่กับเขาจนกระทั่งตอนที่เสียคุณแม่ ป้าอุ่นเรือนเองก็โอบกอดคุณชายของเธอ ที่แม้จะจากกันเนิ่นนาน แต่พอหวนกลับมาเจอกันอีก ก็บังเกิดความรู้สึกผูกพันทันที ด้วยตัวป้าอุ่นเรือนเองก็เป็นคนสนิทที่เคยดูแลคุณผู้หญิง ซึ่งเป็นคุณแม่ของธรณ์มาก่อน

          เขตแดนยืนรอคุณชายของบ้านทักทายกับคุณแม่บ้านอย่างอดทน แล้วจึงหันมาพยักหน้าอนุญาต เมื่อเวธน์เดินเข้ามาขอตัวกลับบ้าน เพราะเวลาก็ล่วงเลยมาจนค่ำมืดแล้ว

          “คุณธรณ์จะพักห้องเดิมหรือเปล่าคะ?”

          “ผมอยากนอนห้องแม่มากกว่า รบกวนป้าอุ่นด้วยนะครับ”

          ความทรงจำของธรณ์เกี่ยวกับคฤหาสน์อิสรพัฒน์มันช่างลางเลือน หลังจากเสียผู้เป็นแม่ตอนอายุเพียงสิบสอง เขาก็เริ่มออกเที่ยวเตร่ คบเพื่อนเกเร และหนีเรียนเพื่อเป็นการประชดบิดา จนต้องระเห็จออกนอกประเทศตอนอายุเพียงแค่สิบห้า ตอนนี้เขาอายุยี่สิบสองแล้ว มันนานจนทุกอย่างมันช่างลางเลือน หากเพียงแค่สิ่งเดียว...แค่ความทรงจำเกี่ยวกับผู้เป็นแม่ที่ยังคงแจ่มชัด

          ดวงหน้าเศร้าโศกของคุณแม่ที่นอนอยู่บนเตียง เพราะป่วยกระเสาะกระแสะเป็นเวลานาน แต่ถึงแม้ว่าแม่จะป่วยหนักเจียนตาย สามีของแม่ก็ยังเห็นงานสำคัญกว่าภรรยาที่นอนรออยู่ที่บ้าน แค่คิด...ธรณ์ก็นึกชิงชังพ่อตัวเองอย่างเหลือประมาณ ผู้ชายที่ทอดทิ้งภรรยาตัวเอง ควรที่เขาจะต้องเคารพหรือ

          พอเข้าบ้านมา ธรณ์ก็แยกย้ายกับเขตแดนทันที ดีที่อีกฝ่ายยังเลือกที่จะนอนห้องพักแขก แม้ว่าจะมาศัยอยู่ที่บ้านของเขา เพราะหากเขตแดนริอาจมานอนห้องแม่ ห้องเขา หรือแม้แต่ห้องพ่อ ธรณ์คงจะนึกเกลียดอีกฝ่ายมากกว่าที่เป็นอยู่

          ชายหนุ่มจัดการอาบน้ำอาบท่าจนรู้สึกสดชื่น ห้องของแม่ยังจัดวางทุกอย่างเหมือนเดิม เว้นก็แต่...แม่ไม่ได้อยู่กับเขาแล้ว มือเรียวหยิบกรอบรูปที่เป็นภาพของสตรีลงมาจากชั้น ถึงแม้รูปภาพเก่าเก็บจนออกสีซีดเหลือง แต่ก็ยังเห็นความงามที่เฉิดฉายของสตรีเจ้าของภาพ ธรณ์เอากรอบรูปมากอดแนบอกตัวเอง หวนคิดถึงเจ้าของภาพ...ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก

          แม่...แม่ที่นอนซมอยู่กับเตียงเพราะร่างกายที่อ่อนแอ แต่พ่อกลับเอาแต่ทำงาน แม้กระทั่งวันที่แม่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ พ่อก็ยังคงอยู่ต่างประเทศ มีเพียงแค่เด็กชายธรณ์ที่นั่งเกาะขอบเตียงแม่ ช่วยกันเช็ดตัวและเปลี่ยนชุดกับป้าอุ่นเรือนสองคน และแม้ว่าแม่จะจากไปอย่างสงบ แต่จิตใจของธรณ์ไม่ได้สงบด้วยเลย

          ชายหนุ่มเชื่อมาตลอดว่า พ่อไม่เคยเหลียวแลแม่เลยซักนิด ถ้าหากพ่อจะเป็นห่วงแม่บ้าง แม่อาจจะอยู่กับเขานานกว่านี้ หลังจากที่แม่จากไป ธรณ์จึงทำทุกอย่างที่คุณธีรยุทธเกลียด เขาเที่ยวเตร่ เกเร มีเรื่องจนถูกเรียกพบผู้ปกครอง แต่ทุกครั้งที่ถูกเรียกพบผู้ปกครอง คนที่ไปคุยกับอาจารย์ฝ่ายปกครองก็คือลุงคราม ไม่ใช่พ่อที่เอาแต่เรื่องงานมาอ้าง

          ยิ่งคุณธีรยุทธพยายามสร้างชื่อเสียงมากเท่าไหร่ ธรณ์ก็พยายามที่จะทำลายให้มันย่อยยับมากเท่านั้น มันอาจจะเป็นความคิดแบบเด็ก ที่อยากจะทำลายของที่อีกฝ่ายรักนักหนา ในเมื่อตัวของเด็กหนุ่มขณะนั้นเอง ก็เพิ่งสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก

          ธรณ์เอนกายลงบนเตียงนอน หมายจะนอนหลับพักผ่อน เพราะรู้ดีว่าตัวเองเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางข้ามทวีป แต่อาการเจ็ทแลคก็เล่นงานเขา จนต้องนอนลืมตาโพลงท่ามกลางความสลัว ปล่อยความคิดล่องลอยอย่างฟุ้งซ่าน

          ชายหนุ่มลำดับถึงสิ่งที่ควรจะทำเมื่อพระอาทิตย์แตะขอบฟ้า เขาควรจะมีใบขับขี่ก่อนที่รถของเขาจะมาถึง รถยนต์คันหรูของเขากำลังลงเรือมาจากนิวยอร์ก และจะมาเข้าเทียบที่ท่าเรือคลองเตย และเขาควรจะหาซิมโทรศัพท์ เพื่อติดต่อกับสองเพื่อนรักที่พักอยู่ด้วยกัน

          ถ้าเพียงแต่ธรณ์จะมีตาทิพย์ ชายหนุ่มคงเห็นร่างสูงของเขตแดนที่ยืนอยู่หลังบานประตูห้อง เขตแดนแค่อยากจะมั่นใจว่า วันแรกที่กลับมาถึงธรณ์จะทำตัวสงบเสงี่ยม งดเว้นจากการออกตระเวนราตรีเหมือนที่เคยปฏิบัติยามอยู่ต่างประเทศ ร่างสูงยืนนิ่งอยู่หน้าห้องอยู่ชั่วครู่  ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องตัวเอง ด้วยความเงียบเหมือนกับตอนที่เดินมา

====================

          ธรณ์เคยปฏิบัติตัวเช่นไรยามอยู่ตามลำพังที่นิวยอร์ก เมื่ออยู่ที่คฤหาสน์อิสรพัฒน์เขาก็ยังคงปฏิบัติตัวเช่นเดิม แต่ทำเอานักธุรกิจหนุ่มที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ และยกกาแฟมาจิบ แทบจะสำลักกาแฟพรวด เมื่อเห็นเพลย์บอยหนุ่มเดินลงมา โดยที่สวมแค่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว เดินอวดแผ่นอกขาวผ่องลงมาร่วมรับประทานอาหารเช้า

          “ธรณ์ อิสรพัฒน์!!” เขตแดนเรียกอีกฝ่ายเสียงเข้ม จนธรณ์ชะงักก่อนจะเอ่ยทักทายตามมารยาทที่พึงมี

          “อรุณสวัสดิ์คุณเขตแดน”

          “ที่นี่ไม่ใช่นิวยอร์กที่นายเคยอยู่ นายควรจะคำนึงถึงถึงกาลเทศะบ้าง ที่นี่มีเด็กรับใช้ที่เป็นผู้หญิงมากมาย หากไม่เป็นการลำบากเกินไปนัก ก็ช่วยกรุณาแต่งกายเสียใหม่ก่อนจะลงมาข้างล่าง”

          ธรณ์คว้าเอวเด็กรับใช้ที่อยู่ยืนแถวนั้นเข้ามา ก่อนจะแกล้งก้มลงถามชิดใบหู ราวกับต้องการจะยั่วโมโหเขตแดนแต่เช้า

          “เธอว่าฉันแต่งตัวไม่เหมาะสมเหรอ?” คนถูกถามจะตอบอย่างไรได้ เพราะอีกฝ่ายเป็นถึงเจ้านาย และยังเป็นเจ้าของคฤหาสน์อีกด้วย นอกเสียจาก...

          “มะ...ไม่เลยค่ะคุณธรณ์”

          เขตแดนลุกขึ้นยืนทันทีด้วยความโกรธจัด สมดังความปรารถนาของธรณ์ เขาลืมนิสัยและสันดานของธรณ์ไปได้อย่างไร นักธุรกิจหนุ่มกระชากอีกฝ่ายออกมาจากเด็กสาวทันที ก่อนจะกระซิบเสียงลอดไรฟัน

          “อย่าให้การที่คุณอาส่งนายไปดัดสันดานถึงเมืองนอกเป็นการเสียเปล่าเลย หรือว่านี่คือสิ่งอารยชนเขาทำกัน ธรณ์ อิสรพัฒน์”

          “คุณนี่ก็ช่างตอกย้ำความเป็นอิสรพัฒน์ให้แก่ผมเหลือเกินนะ มันกงการอะไรของคุณกัน อย่าลืมว่าที่นี่บ้านผม ตัวผม และนามสกุลผม ผมมีสิทธิ์ทุกอย่าง” เอ่ยจบ ดวงตาเรียวก็กวาดตามองรอบบ้านคล้ายจะสำรวจ ก่อนจะกลับมาหยุดอยู่ที่คู่กรณี ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มร้าย และแค่สะบัดตัวทีเดียว เขาก็เป็นอิสระจากอีกฝ่าย ธรณ์ทำเพียงแค่ปรายตามองอีกฝ่าย ก่อนจะหันหลังเดินกลับขึ้นห้อง แต่ไม่วาย...ผิวปากอย่างอารมณ์ดี

          ...ก็เป็นเช้าที่ไม่เลวนักสำหรับธรณ์ ถ้าเทียบกับการที่ได้ตื่นเช้ามายั่วโมโหเขตแดน...

          ดวงตาดำจัดมองตามหลังร่างโปร่งที่กำลังก้าวขึ้นบันได นึกอยากกระชากอีกฝ่ายกลับลงมา หากก็เป็นแค่ความคิดฝ่ายมารของเขตแดน เขาเพียรพยายามตอกย้ำตัวเองว่า...อีกฝ่ายเป็นเด็ก และเขาเป็นผู้ใหญ่  แต่ทุกการควบคุมมักจะล้มเหลวแทบจะทุกครั้งที่เขาต้องเผชิญหน้ากับเจ้าตัวร้าย

          ชายหนุ่มยกกาแฟจิบจนหมดแก้วก่อนจะออกจากบ้านมาทำงาน โดยไม่ลืมที่จะเรียกเด็กมาสั่งความ

          “ถ้าเกิดคุณธรณ์ออกจากบ้าน เธอรีบโทรศัพท์บอกฉันด้วย”

====================

          นับว่าเป็นความโชคดีของธรณ์ ที่กำลังคิดหาหนทางออกจากบ้าน แต่มีแขกมาเยือนเสียก่อน ตอนที่ชายหนุ่มกำลังนั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องรับแขก เด็กรับใช้ก็เดินมาแจ้งว่ามีแขกมาขอพบ ตอนแรกเขาก็นิ่วหน้า เพราะเท่าที่ธรณ์จำได้ เขาไม่มีเพื่อนที่สนิทกันถึงขนาดจะมาหาที่บ้านเลย แต่พอเดินออกมาก็ต้องร้องอ๋อทันที เมื่อเห็นแขกสองคนยืนสูบบุหรี่อยู่ที่สวนหน้าบ้าน

          “พวกมึงมาได้จังหวะมาก กูกำลังอยากออกจากบ้านอยู่พอดีเลย”

          “กูรู้ไง ถึงได้มารับ รู้ด้วยว่ามึงขับรถไม่ได้ เพราะไม่มีใบขับขี่” ชินดนัยเอ่ยอย่างรู้ทัน

          เพราะชินดนัยกลับบ้านอยู่เป็นประจำทุกปี ถึงได้มีโอกาสกลับมาทำใบขับขี่ แต่คนที่ไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่อายุสิบห้า และเพิ่งกลับมาหนแรกอย่างธรณ์ล่ะ อย่าว่าแต่ใบขับขี่เลย บัตรประชาชนของชายหนุ่มก็หมดอายุแล้วเรียบร้อย บัตรเครดิตหรือบัตรเอทีเอ็มเขาก็ไม่มี และเพราะนี่เป็นการกลับประเทศไทยหนแรกในรอบเจ็ดปี เพลย์บอยหนุ่มพ่อบุญทุ่มยามอยู่นิวยอร์ก จึงกลายเป็นผู้ชายตัวเปล่าเปลือยยามอยู่ที่ประเทศไทย มีแค่เงินดอลลาร์ที่พกติดตัวกลับมา และเงินบาทอีกเล็กน้อย

          ชินดนัยจัดการพาธรณ์ออกจากบ้านไปทำธุระเท่าที่จะสามารถทำได้ บางทีที่จำเป็น เขาก็ขออ้างชื่อท่านนายพลผู้เป็นพ่อซักหน่อย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ตนเองและเพื่อนรัก

          จนล่วงเข้ายามบ่ายแก่ สามหนุ่มถึงมานั่งเล่นที่สปอร์ตคลับหรู ที่พ่อของชินดนัยเป็นสมาชิกอยู่ ระหว่างรอชินดนัยซ้อมยิงปืน ธรณ์กับอเล็กซ์ก็มานั่งฆ่าเวลาที่ร้านกาแฟตรงสโมสร มันอาจจะเป็นวันที่น่าเบื่อสำหรับธรณ์ จนกระทั่ง...ดวงตาเรียววาววับดุจหมาป่าที่กำลังจะออกล่าเหยื่อ

          “มาคนเดียวเหรอครับ?” ธรณ์ท้าวแขนบนเคาน์เตอร์ ขณะรออีกฝ่ายสั่งเครื่องดื่มอย่างใจเย็น

          หญิงสาวหน้าตาสวยจัด รูปร่างสูงโปร่งหันมามอง ริมฝีปากที่เตรียมจะกร่นด่า เปลี่ยนมาเป็นแย้มยิ้มเมื่อเห็นหน้าชายหนุ่มที่เข้ามาทักชัดเจน

          “มาคนเดียวค่ะ คุณ...”

          “ธรณ์ครับ ธรณ์ อิสรพัฒน์” ชายหนุ่มค้อมตัวลงเล็กน้อย ก่อนจะมองหญิงสาวด้วยดวงตาเจ้าชู้อย่างเปิดเผย สำหรับสุภาพสตรีแล้ว ธรณ์เป็นสุภาพบุรุษเสมอ ยกเว้นตอนที่จะหยุดความสัมพันธ์ ที่สุภาพบุรุษแสนดีจะเปลี่ยนเป็นซาตานตัวร้ายทันที

          “ลิซ่าค่ะ”

          เหมือนธรณ์จะคุ้นหน้าหญิงสาวจากรายการทีวีที่เพิ่งดูก่อนออกจากบ้าน แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพลย์บอยหนุ่มยืนคุยกับหญิงสาวอยู่เพียงครู่ เพราะเจ้าตัวมีนัดถ่ายแบบต่อ แต่ธรณ์ก็รู้เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ และเวลาว่างวันพรุ่งนี้ของอีกฝ่ายเรียบร้อย

          “แล้วเจอกันนะครับ” เขาแตะข้อมืออีกฝ่ายอย่างสุภาพ ก่อนจะแกล้งปล่อยอย่างอ้อยอิ่ง

          นางแบบสาวเองก็รู้ทัน ถึงชม้ายตามองอย่างยั่วเย้า ดวงตาสองคู่สบมองอย่างรู้ทันกัน คนประเภทเดียวกันมาเจอกัน ก็เปรียบเสมือนเอาน้ำมันมาราดกองไฟนี่เอง

          ธรณ์ล่ำลาหญิงสาวเสร็จ ก็เดินกลับมาหาอเล็กซ์ที่นั่งมองอยู่อย่างรู้ทัน ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะอวดโทรศัพท์ ที่เขาเพิ่งจัดการเมมเบอร์ลิซ่าลงเครื่อง

          “นางแบบลูกครึ่ง”

          “มึงนี่ตลอดเลยนะธรณ์ ขาดคนควงบ้างนี่จะตายไหม” อเล็กซ์ว่าอย่างระอา แต่ธรณ์ก็เพียงแค่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจนัก

          ถึงจะมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงมากมาย แต่ธรณ์ไม่เคยละเลยการป้องกัน เขารู้ดีว่าเขาจำเป็นต้องป้องกันตัวเอง เนื่องมาจากยังไม่พร้อมจะรับผิดชอบปัญหาที่อาจจะตามมาภายหลัง  เพราะผู้หญิงที่ธรณ์เคยยุ่ง ก็แค่บังเอิญมาเจอกันและมาสนุกกัน เพราะหมดเวลาก็แยกย้าย บางคนธรณ์ก็เป็นฝ่ายเข้าหาก่อน แต่หลายคนเช่นกันที่เข้ามาหาเขา ชายหนุ่มก็ยึดถือคติแค่ว่า อีกฝ่ายเสนอมา เขาก็สนองกลับ

====================

          กว่าชินดนัยจะซ้อมยิงปืนเสร็จก็เย็นย่ำ ชายหนุ่มสามคนเลือกที่จะมุ่งหน้ากลับบ้านของชินดนัย เพื่ออาบน้ำอาบท่า และรอเวลาออกท่องราตรีตามความต้องกาลของคุณชายธรณ์ หลังจากที่ต้องนอนแกร่วอยู่บ้านมาตลอดคืนเพราะอาการเจ็ทแลค

          คฤหาสน์ของชินดนัยเองก็หรูหรา แต่เป็นคนละสไตล์กับคฤหาสน์อิสรพัฒน์ แม้ว่าพ่อของชินดนัยจะเป็นทหารยศนายพล แต่เพราะชินดนัยเป็นลูกชายคนเดียว ท่านนายพลกับคุณหญิงจึงตามใจลูกชายคนเดียวอยู่ไม่น้อย ยอมแม้กระทั่งให้ชินดนัยแยกมาอยู่เรือนหลังเล็กที่ค่อนข้างมีอิสรเสรี หรือแม้แต่การเลือกเรียนบริหารธุรกิจ แทนที่จะเจริญรอยตามท่านนายพลผู้เป็นพ่อ ด้วยการรับราชการทหาร

          ธรณ์เอนตัวลงนอนบนเตียงนอนของเพื่อนรัก พักผ่อนเอาแรงก่อนที่จะออกย่ำราตรีตอนกลางคืน ส่วนอเล็กซ์นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์วุ่นวาย เพราะถึงจะเป็นลูกชายคนเล็กของตระกูลคาร์เตอร์ แต่ชายหนุ่มก็กุมบังเหียนกิจการมากมาย แม้จะอายุเพียงแค่ยี่สิบสอง

          “มึงจะเริ่มทำงานเมื่อไหร่” ชินดนัยเอ่ยถามคนที่นอนอยู่ เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายแค่ปิดเปลือกตา ไม่ได้นอนหลับอย่างที่พยายามทำให้คนอื่นเข้าใจ

          “อีกอาทิตย์หรืออีกสองอาทิตย์ แล้วแต่อารมณ์กู”

          ธรณ์เหยียดริมฝีปากสมเพชตัวเอง บริษัทของครอบครัวเขา ของตระกูลอิสรพัฒน์ แต่ธรณ์ อิสรพัฒน์กลับต้องเป็นลูกน้อง ส่วนคนที่มาชุบมือเปิบคือ เขตแดน เกียรติณรงค์ ที่เป็นเพียงลูกชายคนสนิท แม้ว่าธรณ์จะรักและเคารพคุณสงครามมากแค่ไหน แต่มันก็ต้องมีข้อยกเว้นบ้าง และเขตแดนก็คือข้อยกเว้นสำหรับธรณ์ ถ้าเพียงแต่คุณธีรยุทธจะไม่ส่งเสริมเขตแดนอย่างออกนอกหน้า รับเขตแดนเข้าทำงานที่บริษัททันทีที่เรียนจบ และยังผลักดันจนเข้ามารับช่วงเป็นประธานบริษัทต่อจากคุณธีรยุทธอีก

          ถึงจะรู้ดีว่าคุณธีรยุทธสนับสนุนและผลักดันเขตแดน เพราะอีกฝ่ายเป็นคนเก่งกาจ แต่สำหรับเด็กชายที่ถูกผู้เป็นพ่อละเลย ย่อมคิดว่าคุณธีรยุทธเห็นคนอื่นดีกว่าตนเองอย่างแน่นอน

          สามหนุ่มพักผ่อนกันจนเต็มอิ่ม และรอจนเด็กรับใช้ยกอาหารมาส่งที่เรือนเล็ก จัดการกับมื้อเย็นกันจนเรียบร้อย ก่อนที่จะอาบน้ำแต่งตัว ค่ำคืนนี้สำหรับธรณ์ยังอีกยาวไกล

====================



[มีต่อนะคะ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-10-2012 08:43:02 โดย Renze »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด