ตอนที่ 2ชิณณะที่ขับรถตามไข่ตุ๋นหรือนายนิยุติ พลิกดูสมุดบัญชีในมือแล้วซ่อนไว้ใต้เบาะนั่งของคนขับ เมื่อมาถึงหน้าคอนโดฯ รถคันที่นำมาก็จอดชิดไหล่ทาง คนขับวิ่งลงมาบอกว่าให้รออยู่ตรงนี้ เพราะที่จอดรถด้านในเป็นที่จอดรถประจำทั้งหมด ไม่ถึง 5 นาทีก็กลับออกมา
คอนโดฯ ถูกต้องตามรายงาน แถมยังเอาสมุดบัญชีมาให้ดู นับว่าน้องชายมีเล่ห์เหลี่ยมน้อยกว่าพี่สาวชนิดเทียบกันไม่ได้
แต่ไม่แน่ อย่าเพิ่งไว้ใจ เพราะนายชิณณะอาจพลาดอีก
"พรุ่งนี้ผมมีเรียน" เด็กหนุ่มบอกเมื่อชิณณะออกรถ
"ฉันก็ต้องทำงานเหมือนกัน"
"งั้นจะเอาไง"
"ก็รีบไปทำงานให้มันเสร็จไปไง"
"นี่!" ไข่ตุ๋นเสียงดัง "ผมไม่นอนกับคุณนะ"
"ฉันก็ไม่ได้บอกว่า ฉันจะนอนกับเธอ ยังไงฉันก็รู้จักกลัวโรคติดต่อหรอกน่า"
เป็นอีกครั้งที่น้องชายของสกาวระงับความโกรธด้วยการกำมือแน่น ริมฝีปากเม้มสนิท ดวงตาเหมือนจะมีไฟลุกอยู่ข้างใน
เป็นท่าทีที่ทำให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
งานที่ห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืองานแต่งงาน หรืองานเลี้ยงฉลองในวาระอะไร เพราะตั้งแต่บอร์ดที่แผนกต้อนรับก็ไม่ปรากฏชื่อว่ามีการจัดงานที่ห้องนี้ มาจนถึงหน้าห้องก็ยังไม่มีโต๊ะลงทะเบียน มีเพียงชายสวมชุดสูทสีเข้มหลายคนยืนอยู่ที่ด้านหน้า และเปิดประตูให้ ทั้ง 2 คนเข้าไปในห้อง
“ยิ้มไว้ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น”
โต๊ะประชุมตัวใหญ่จัดวางกลางห้อง คนกลุ่มหนึ่งกำลังร่วมรับประทานอาหารพร้อมไปกับการพูดคุยเรื่องงาน ทั้งหมดเพียงหันมามองแล้วยกมือทักทาย
“มาช้านะชีค”
“ผมต้องไปรับน้องก่อนน่ะครับ”
ทั้งที่ชายหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงธรรมดา แต่สายตาของคนที่ร่วมโต๊ะอาหารกลับดูไม่น่าไว้วางใจ โดยเฉพาะสตรีวัยกว่า 50 ปีที่นั่งอยู่ด้านข้างของไข่ตุ๋น ที่แสดงท่าทีให้ความสนใจอย่างเปิดเผย ขยับตัวเข้ามาใกล้ ลดเสียงพูดให้เบาลงจนเหมือนกระซิบ
ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติ อีกฝ่ายก็จะต้องขยับตัวเข้าไปใกล้เพื่อให้ได้ยินคำสนทนาชัดเจนขึ้น
แต่เพราะไข่ตุ๋นได้รับคำสั่งไว้ล่วงหน้าว่าไม่ต้องพูดอะไร ดังนั้น เด็กหนุ่มจึงเพียงแค่หันไปส่งยิ้มและปล่อยให้ชิณณะเป็นคนรับหน้าที่สนทนา
และก็มีแต่ชิณณะที่ต้องเป็นฝ่ายขยับตัวเข้ามาชิดกับไข่ตุ๋น เพื่อที่จะตอบคำถามของสตรีผู้นั้น
เรื่องที่คุยกันล้วนเป็นธุรกิจและผลประโยชน์ เว้นแต่สายตาจาบจ้วงจากทุกคนที่มองมา ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกผะอืดผะอม
เมื่อทุกคนในโต๊ะรับประทานอาหารเสร็จก็ลุกจากโต๊ะ หัวข้อการสนทนาดูเคร่งเครียดจริงจังกว่าเดิม แต่ขณะเดียวกัน ไข่ตุ๋นก็รู้ตัวว่าได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากสตรีผู้นั้น และชายสูงอายุหลายคน เป็นความสนใจที่เปิดเผยมากขึ้นว่าส่อไปทางเรื่องบนเตียง แน่นอนว่าไข่ตุ๋นยังคงปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด คือยิ้มอย่างเดียว ไม่ตอบคำถาม และไม่พูดอะไร
หลัง 4 ทุ่มเล็กน้อยผู้ร่วมงานคนแรกก็ขอตัวกลัว ทำให้ชิณณะถือโอกาสลากลับพร้อมกันและเดินตามมาส่งจนถึงรถ
ถ้อยคำลวนลามแปร่งหูยังคงได้ยินจนกระทั่งแขกผู้นั้นขึ้นรถ
นั่งในรถกลับมาด้วยกันครึ่งทาง คนข้างๆ ที่เห็นว่ายิ้มดีตลอดการทำงาน ตอนนี้กลับหน้าขาวซีด
“ผม อยากอ้วก”
ชิณณะ จอดรถเทียบข้างทางไข่ตุ๋นก็ลงไปอ้วก รับน้ำดื่มมากลั้วคอล้างปากแล้วเดินกลับมาที่รถ
“พี่หวาน ต้องทำอย่างนี้หรือเปล่า”
“เปล่า”
ดวงตากลมๆ เหลือบตามองแล้วหลับตาลง
“ฉันไม่เคยพาสกาวมาแบบนี้หรอก ก็บอกแล้วว่าเราเจอกันในโรงแรม”
ไข่ตุ๋นกระแทกเสียงในคอ “ยังไงมันก็สกปรกไม่ต่างกัน”
“แล้วเธอสองคนพี่น้องสะอาดกว่าตรงไหน”
ทั้งที่หน้ายังซีดอยู่ แต่ดวงตาที่เหมือนมีดวงไฟลุกโชนหันขวับมามองทันที
ใกล้จะถึงคอนโดฯ โทรศัพท์ของไข่ตุ๋นดังขึ้น
ดวงตากลมตวัดมองคนที่กำลังขับรถ โดยที่ไม่ต้องมีคำเชิญ ชิณณะเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่ด้านหน้า รถหรูระดับนี้ กับเงินค่าช่วยดูแลรถอีกเล็กน้อยยามรักษาความปลอดภัยสามารถหาที่จอดรถให้ได้เสมอ
“ตุ๋น ไปไหนมา” เสียงหญิงสาวดังขึ้นทันทีที่ไข่ตุ๋นเปิดประตูเข้ามาในห้อง
“คุณชิณณะ” คำอุทานที่เหนือความคาดหมาย ขณะที่หญิงสาวหน้าตาละม้ายกับไข่ตุ๋นหยุดยืนนิ่งอยู่กลาง
ห้อง “มากับตุ๋นได้ยังไง”
ไข่ตุ๋นยักไหล่ “คุยกันซะ”
หนุ่มตัวผอมบางบอกแล้วเดินตรงไปที่ห้องนอนของตัวเอง ทิ้งให้พี่สาวรับหน้ากับชิณณะตามลำพัง
เสียงประตูห้องนอนที่ปิดลง เหมือนเป็นสัญญาณให้ทั้งคู่แสดงธาตุแท้เข้าหากัน
ไม่มีอะไรที่ใกล้เคียงกับการเคยเป็นคนหวังดีต่อกันแม้แต่นิดเดียว
"อย่ายุ่งกับตุ๋น" สกาวบอกด้วยท่าทีแข็งกร้าว
หากสกาวแสดงท่าทีแบบนี้ตั้งแต่แรกพบกัน เรื่องทั้งหมดคงไม่มาถึงวันนี้
"คืนของคืนเงินของฉันมาสิ" ชิณณะก็แสดงท่าทีแข็งกร้าวเช่นกัน ที่ผ่านมาไม่เคยเรียกแทนตัวเองว่าฉัน แต่ในครั้งนี้ ไม่จำเป็นต้อใช้คำพูดดีๆ เข้าหากัน
"ทำไมต้องคืน ของพวกนั้นคุณเต็มใจให้สกาวเองนะ ไหนใครๆ เล่าว่าคุณจ่ายไม่อั้น ถ้าถูกใจ"
“ฉันจ่ายตามที่ขอ แต่ไม่ใช่ขโมย"
"ก็ค่าบริการของสกาวไง คุณบอกเองนะว่าอยากได้อะไรขอให้บอก"
ชิณณะหรี่ตา คำว่าค่าบริการของสกาวมันบอกทุกสิ่งทุกอย่างได้ชัดเจน "แต่เธอไม่ได้บอกว่าอยากได้บัตรเครดิตฉัน"
หญิงสาวยิ้มเยาะ "อยากได้บัตรคืนหรือ"
"เงินทั้งหมดที่เธอเอาไปต่างหาก"
"ไม่มี"
"ไม่ใช่ว่าเอาไปซื้อรถให้น้องชายหรือไง"
หญิงสาวแสยะปาก ยิ้มหยียด "ตุ๋นมันเก็บเงินซื้อของมันเองต่างหาก"
"หาเงินด้วยวิธีเดียวกันกับเธอหรือไง"
ตาของสกาววับด้วยความโกรธจัด "อย่าเปรียบเทียบสกาวกับตุ๋น คนอย่างมันทำอะไรแบบนี้ไม่เป็นหรอก มันก็ดีแต่เงียบนั่งบื้อเหมือนคนเป็นใบ้ วางท่าเป็นคุณชาย ยิ่งสกาวทำเลวมันก็ยิ่งทำเป็นคนดี" หญิงสาวหลับตาแน่น แต่พอลืมตาขึ้นอีกครั้งท่าทีก็เปลี่ยนไป "จะคืนให้เฉพาะเงินจากบัตรเครดิตก็แล้วกัน ส่วนของอย่างอื่นน่ะ สกาวถือว่าคุณเต็มใจให้ เพราะฉะนั้นก็จะไม่คืน"
"ไม่คืนหรือขายไปหมดแล้ว"
สกาวยักไหล่ หันกลับไปนั่งไขว่ห้างที่โซฟาตัวสวย "ขาย"
ชิณณะเดินตามมายืนอยู่อีกด้านของโต๊ะตัวเล็กด้านหน้าโซฟา "เธอมีเรื่องอะไรให้ต้องใช้เงินมากมายขนาดนั้น"
ที่ถามไม่ได้เพราะเป็นห่วง แต่เพราะกำลังสงสัย ในเมื่อครอบครัวก็ดูมีฐานะ แต่กลับใช้เงินตั้ง 2 ล้านภายในพริบตา
หญิงสาวตอบโต้ทันที "ทำไมไม่จ้างนักสืบล่ะ ตามหาสกาวมาจนเจอแล้ว จะยากอะไรกับไอ้แค่สกาวเอาเงินไปทำอะไร"
ดวงตาสีเข้มเบนไปที่ประตูห้องนอนของไข่ตุ๋นที่ปิดอยู่ คาดเดาได้ว่าเจ้าของห้องจะได้ยินทุกคำพูด สกาวผุดลุกขึ้นทันที
"อย่า ยุ่ง กับตุ๋น"
"เธอขู่ฉันไม่ได้ผลหรอก"
"ไม่ได้ขู่ เพราะสกาวทำได้มากกว่านั้น"
"เพื่อปกป้องตัวเองหรือเพื่อปกป้องน้องชาย"
"จะเพื่อใครก็ช่างเถอะ" สกาวเสียงดังลั่น จนไข่ตุ๋นต้องออกมาจากห้อง
"พี่"
"ตุ๋น แกไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้"
"ช้าไปแล้วสกาว" ชิณณะพูดเสียงเย็น ขณะที่ไข่ตุ๋นถลึงตาใส่คนตัวโตแล้วหันมาหาพี่สาว
"พี่เอาเงินเขาไป ยังไงก็ต้องคืนเขา"
"ไม่มีแล้ว"
ไข่ตุ๋นจับมือพี่สาว หันไปมองคนตัวโตแล้วหันมาบอกกับพี่สาวอีกครั้ง "ผมจัดการเอง พี่กลับมาเหนื่อยๆ ไปพักก่อนเถอะ"
"แกจะทำอะไร"
"ขายรถมั้ง เหลือแค่นี้แล้วนี่"
ท่าทางของคนตัวเล็กดูเรื่อยๆ เหมือนไม่สนใจอะไร ตรงข้ามกับประโยคที่พูดอย่างเหลือเชื่อ
เป็นการแสดงออกที่ทำให้ชิณณะเข้าใจหนุ่มคนนี้มากขึ้นกว่าเดิม
"ตกลงฉันจะได้เงินคืนมั้ย”
"ได้สิ" ไข่ตุ๋นอยากตะโกนใส่หน้าว่าไอ้งกด้วยซ้ำ
"เมื่อไหร่กันล่ะถึงจะได้ครบ" ดวงตาสีเข้มจ้องมองหญิงสาว ขณะที่พูดเน้นย้ำทุกคำ "ฉันรู้ว่าเธอกำลังทำอะไร ถ้าไม่อยากให้น้องชายเดือดร้อนมากไปกว่านี้ เธอต้องให้น้องชายมาทำงานกับฉัน"
สกาวสะบัดมือจากน้องชาย ตรงเข้ามาหาชิณณะ "คุณรู้อะไร"
"ก็อย่างที่คุณบอก การจ้างนักสืบทำให้ฉันรู้อะไรมากกว่าที่ต้องการเสมอ"
"อะไร"
"คลิป" คำนี้ทำให้ไข่ตุ๋นหน้าเสีย
"บาหลี" คำนี้ทำให้สกาวคว้าข้อมือของชิณณะไว้แน่น ขณะที่ไข่ตุ๋นขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
"ไม่เกี่ยวกับตุ๋น"
"ก็อย่าทำให้มันเกี่ยว ให้น้องมาทำงานใช้หนี้ งานที่เขาทำมันไม่เหมือนกับที่เธอทำอยู่แล้ว"
ไข่ตุ๋นกระตุกมุมปาก
....ไม่เหมือน แต่ยังไงมันก็สกปรก....
ชิณณะพูดกับไข่ตุ๋น "เช้าวันอาทิตย์ก่อน 7 โมงครึ่งนั่งรถแท็กซี่ไปเจอฉันที่สนามกอล์ฟ อย่าสายเพราะฉันมีเรื่องให้เธอทำทั้งวันเตรียมตัวมาให้พร้อม"
เมื่อชิณณะกลับไป ไข่ตุ๋นหันมาหาพี่สาว "ไปบาหลีมาหรือ"
"เออ"
"แล้วทำไมต้องตกใจ"
"เรื่องของฉัน บอกแล้วไงว่าอย่ายุ่ง แกก็ยังอยากยุ่ง อยากจัดการโน่นนี่ อยู่เฉยๆ ไม่เป็นหรือไง" สกาวหันมาตวาดน้องชาย
ไข่ตุ๋นกำมือแน่น แววตาเต็มไปด้วยความเสียใจ "ถ้าพี่ไม่ใช่พี่ผม ผมก็จะอยู่เฉยๆ"
หวานโผกอดน้องชายไว้แน่น "แกจะไม่ทิ้งพี่ไปใช่มั้ย แกจะไม่ทำร้ายพี่ใช่มั้ย"
"ไม่หรอกน่า ดึกมากแล้วพี่เข้านอนเถอะ"
"แล้วแกจะไปทำงานให้คุณชิณณะหรือเปล่า"
หนุ่มตัวเล็กพยักหน้า "ขายรถเอาเงินไปใช้เขาก็ขาดอีกไม่เท่าไหร่ ผมจะดูว่ายังมีอะไรที่ขายได้อีก"
หญิงสาวหลับตาแน่นแล้วสะบัดหน้าแรงๆ
"พี่เอาเงินเขาไปทำอะไรตั้ง 2 ล้าน"
"เที่ยว" หวานบอกขณะที่เดินกลับไปห้องพักของตัวเอง
ไข่ตุ๋นได้แต่มองตามแผ่นหลังของพี่สาวไป แล้วหันกลับไปมองประตู
...ทำไมรู้สึกเหมือนทุกคนกำลังพูดโกหก...
หนุ่มตัวเล็กที่นั่งอ่านหนังสือที่คลับเฮ้าส์ กำลังทำให้คนตัวโตที่มองมามีอาการเหมือนหัวใจกระตุก โทษว่าเพราะอากาศร้อนจัดมันก็ไม่เกี่ยว เมื่อคืนนอนดึกมันก็ไม่ใช่
นั่นมันก็ไอ้หนุ่มคนเดิมที่ชอบปั้นหน้านิ่ง และมีพี่สาวเป็นคนที่หลอกเอาเงินเอาของๆ เขาไปร่วม 2 ล้านคนเดิม
ก็แค่เสื้อยืดคอกลมสีขาวลายเรียบๆ กับกางเกงยีนสีน้ำเงินเข้ม แล้วก็รองเท้าหนังสีน้ำตาล มันต่างจากที่เจอกันตอนก่อนหน้านี้ตรงไหน แทบไม่ต่างจากตอนที่ไปเฝ้าอยู่ที่ร้านเหล้านั่นเลยสักนิด ทั้งไม่ต่างจากวันที่พาไปที่งานเลี้ยงลึกลับนั่น
แล้วตอนนี้หนุ่มคนนั้นก็ปั้นหน้านิ่งอยู่เหมือนเดิม ต่อให้รู้ว่าเขากำลังเดินมาหา ก็เสียงของเพื่อนร่วมก๊วนคนอื่นๆ เบาอยู่เสียเมื่อไหร่ แต่ไอ้หนุ่มคนนั้นก็ยังทำเหมือนไม่รับรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นในห้องนี้ จนกระทั่งชิณณะหยุดยืนอยู่ข้างๆ ถึงได้ละจากหนังสือที่อ่านพลิกข้อมือดูนาฬิกา ยังไม่มีเสียงพูดจากคนคู่นี้ แต่มีเสียงหัวเราะคิกคักของสตรีวัยกว่า 50 ปีในชุดเล่นกอล์ฟที่อยู่ด้านหลังของชิณณะแซวมาให้ได้ยิน
"ชีคทำน้องโกรธเสียแล้ว"
ชิณณะส่งสายตาบอกไข่ตุ๋นเป็นนัย ไข่ตุ๋นก็ลุกขึ้นยืนยกมือสวัสดี พร้อมแนะนำชื่อของตัวเอง
สตรีคนนี้ไม่ได้อยู่ในกลุ่มคนที่พบเมื่อคืนก่อน แปลกที่แม้แต่ในตอนที่เธอรับไหว้แล้วเดินเข้ามาควงแขน ไข่ตุ๋นรู้สึกถึงอำนาจแบบผู้ใหญ่ ผสานความบอบบางเหมือนคนป่วยหนัก ไม่มีความรู้สึกน่ารังเกียจเลยสักนิด
"สวัสดีจ้ะ มาคอยนานละสิ"
"ผมให้เขามาถึงก่อน 7 โมงครึ่งน่ะครับคุณหญิง"
"7 โมงครึ่ง นี่มันจะ 11 โมงแล้ว ทำไมชีคนัดน้องมาคอยตั้งนาน"
"เขาคอยได้ครับ"
แต่คนตัวโตกลับมีคำถามในใจเพิ่มขึ้นมาอีก และยังคงเป็นคำถามที่หาคำตอบไม่ได้อยู่ดีว่าทำไมแค่เห็นมือขาวๆ ที่วางทับมือของคุณหญิงแล้วถึงได้รู้สึกหงุดหงิด
"ชีค เล่นแพ้ฉันแล้วพาลน่ะจ๊ะ" คุณหญิงทำเสียงล้อเลียน
ไข่ตุ๋นหลุดหัวเราะพรืด "ขอโทษครับ"
"ไม่ต้องขอโทษ ใครจะไปคิดว่าเพื่อนลูก จะแพ้คนอายุใกล้เกษียณ"
ไข่ตุ๋นยังคงยิ้มค้างขณะที่มองคนตัวโต คุณหญิงแตะมือชิณณะเบาๆ "ฉันรู้ว่าความจริงคืออะไร"
ระหว่างที่คุณหญิงคุยกับชิณณะ เกี่ยวกับเรื่องการออกรอบวันนี้
หนุ่มตัวเล็กมองไปที่กลุ่มชายรูปร่างล่ำสันที่อยู่อีกด้านของคลับเฮ้าส์ หลายคนในกลุ่มดูคุ้นหน้าจากภาพข่าวทางโทรทัศน์ จนกระทั่งชายหนุ่มคนหนึ่งรูปร่างสูงใหญ่แบบนายทหารเดินมาหาคุณหญิงพร้อมกับยิ้มกว้าง
เยื้องไปทางด้านหลังยังมีชายอีกคนที่มีดวงตาเรียวยาวกลอกกลิ้ง ท่าทางไม่น่าไว้วางใจ
“แม่ครับ พ่อจะกลับแล้ว แต่ถ้าแม่จะอยู่คุยกับชีคกับน้องก่อนก็ได้นะครับ ผมรอกลับกับแม่ได้”
ยิ้มที่มีให้แม่ เผื่อแผ่มาถึงคนที่แม่คล้องแขนไว้
คุณหญิงหันมาหาไข่ตุ๋น “นี่โต้ง เพื่อนชีคเขา ช่วยกันหากิจกรรมให้คนแก่ทำน่ะ ไม่อยากให้ฉันอยู่บ้านเฉยๆ”
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่แบบทหารรับไหว้ไข่ตุ๋น แล้วหันมาหาคุณหญิง แต่เมื่อเห็นว่าคุณหญิงยังคงยิ้มกว้างทั้งดูมีความสุขมากที่เห็นไข่ตุ๋น ก็หันไปส่งยิ้มพอใจกับชิณณะพร้อมกับคำพูดขอบใจ
ขณะที่ 3 คนนี้กำลังคุยกัน ชายอีกคนที่มีดวงตายาวเรียวเหมือนงูยังคงจับจ้องไข่ตุ๋นจนทำให้รู้สึกอึดอัดไม่สบายใจ เป็นแววตาเหมือนกับกลุ่มคนเมื่อคืนก่อน
ดวงตาที่เหมือนกำลังตีราคาคนที่ถูกมอง
"เราจะกลับกันแล้ว" คุณหญิงบอกกับไข่ตุ๋น
ชิณณะบอกทันที "ผมเดินไปส่งครับ"
นักธุรกิจหลายคนร่วมอยู่ในกลุ่มนายทหารที่กำลังพูดคุยเสียงดัง ขณะที่นายทหารสูงวัยที่เหมือนเป็นศูนย์กลางของกลุ่มมองมาที่ไข่ตุ๋นแล้วคลี่ยิ้ม ทั้งหันไปยกหัวแม่มือให้กับชิณณะ
ก่อนที่จะก้าวขึ้นรถคุณหญิงบอกกับไข่ตุ๋นอีกครั้ง
"ดูแลตัวเองให้ดี" คำพูดที่ทั้งจริงใจและจริงจังจนคนฟังยังประหลาดใจ
"คุณหญิงก็ต้องดูแลสุขภาพให้มากนะครับ" ชิณณะบอก
"จ้ะ แต่ต้องสัญญาว่า จะพาน้องมาหาแม่อีก"
"ครับ แต่คุณหญิงก็ต้องสัญญาว่าจะไม่นอนดึก และทานอาหารตรงเวลา"
"ร้ายว่ะชีค" โต้งที่อยู่ด้านข้างหันมาพูดกลั้วหัวเราะ
ขณะที่คนที่มีดวงตาเรียวยาวและยังไม่มีใครแนะนำว่าเป็นใครกลับยกยิ้มมุมปาก ดวงตาคู่นั้นจับจ้องไข่ตุ๋น และทำให้คนถูกมองอยากวิ่งไปอาเจียน
ชิณณะยิ้มรับคำชมของเพื่อน แล้วยืนส่งทุกคนขึ้นรถไป จากนั้นกลุ่มที่เหลืออยู่ก็คุยกันอีก 2-3 คำแล้วแยกย้าย
ไข่ตุ๋นกลับเข้ามาอยู่ในรถคันใหญ่อีกครั้ง ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น
“เสร็จงานแล้วใช่มั้ย”
“ยัง งานของวันนี้เพิ่งเริ่มต้นต่างหาก”
“ไม่ใช่ว่าให้ผมมาดูแลคนป่วยหรือไง”
ชิณณะยกยิ้ม “เก่งนี่หว่า อยากให้ดูแลคุณหญิงสุกัญญา แม่ของโต้งเพื่อนพี่...เพื่อนฉัน เกือบครึ่งปีได้แล้วที่เล็กลูกชายคนเล็กของคุณหญิงหายสาบสูญไป ทำให้คุณหญิงเป็นโรคซึมเศร้า เพิ่งจะยอมออกจากบ้านก็ไม่กี่ัวันมานี่เอง เพราะหมอแนะนำให้ออกกำลังกายบ้าง พบเจอคนอื่นบ้าง แต่ก็ต้องมีเจ้าโต้งมาคอยดูแล”
“เล่นกอล์ฟเป็นชั่วโมงๆ แบบนี้มันโหดไป”
“ก็จะให้ไปเล่นโยคะ หรือทำอย่างอื่น ก็ไม่เอา”
“แล้วเอาผมมาเป็นตัวแทนแบบนี้ ยิ่งไม่ตอกย้ำคุณหญิงหรือไง”
ชิณณะพูดเสียงขรึม “คุณหญิงรู้ว่าเธอไม่ใช่เล็ก ก็เกือบจะเป็นตัวแทนแต่ก็ไม่ใช่ เราอยากหาแรงจูงใจให้คุณหญิงออกมานอกบ้าน ทำกิจกรรมอื่นๆ นอกไปจากการนั่งรอเล็กที่หน้าบ้าน”
ไข่ตุ๋นขมวดคิ้ว รู้สึกเหมือนกำลังมีภาระเพิ่มขึ้น “คุณจะให้ผมไปคอยดูแลคุณหญิง”
“ไม่ถึงขนาดต้องดูแลทุกวันหรอก เอาเป็นว่าครึ่งเช้าวันอาทิตย์ เธอมาอยู่เป็นเพื่อนคุณหญิงก็พอ ส่วนเรื่องกิจกรรมว่าจะให้ทำอะไรเดี๋ยวไอ้โต้งมันจัด เพราะมันก็รู้ว่าเธอยังเรียนอยู่ ที่จริงก็รู้อยู่เหมือนกันว่ากอล์ฟมันใช้เวลานานเกินไป แต่ก็ไม่อยากไว้ใจให้อยู่กับคนอื่นนานๆ ”
“ผมไม่ต้องไปงานกลางคืนนั่นแล้วใช่มั้ย”
ชิณณะหัวเราะเบาๆ “คงงั้น งานแบบนั้นไม่เหมาะกับเธอสักเท่าไหร่ รวมถึงงานที่ร้านเหล้านั่นด้วย”
“แล้วทำไมถึงคิดว่าผมเหมาะกับงานนี้”
“เพราะฉันเห็นเธอเวลาที่อยู่กับสกาวแล้วมันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันคิดว่า แบบนี้น่าจะดีกับเธอและทุกคน” ชิณณะหยุดพูดไปครู่หนึ่งแล้วเล่าต่อ “ตอนแรกที่ไอ้โต้งมันคิดเล่นๆ ว่าจะจ้างนักศึกษามาทำงานพิเศษวันเสาร์อาทิตย์ เพื่อมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ น่าจะดีกว่าพยาบาล เพราะมีแต่จะทำให้แม่ดูป่วยหนักกว่าเดิม แต่ฉันไม่เห็นด้วย เพราะมันดูฉาบฉวยไปหน่อย แล้วถ้าเกิดเจอคนไม่ดีจะยิ่งไปกันใหญ่”
“วันก่อนคุณยังบอกว่าผมเป็นคนไม่ดี”
ชิณณะเคาะนิ้วกับพวงมาลัย “นั่นมันก่อนที่ฉันจะได้รับรายงานฉบับเต็มเกี่ยวกับเธอ”
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง “หมายความว่าก่อนหน้านั้นคุณลักไก่ผมงั้นหรือ”
“คงงั้น” ชิณณะยักไหล่ไม่สนใจ
ไข่ตุ๋นกลับอึ้ง
ทั้ง 2 คนนิ่งเงียบไปตลอดทางจนกระทั่งชิณณะเลี้ยวรถเข้าไปในบ้าน
“บ้านใครอีกล่ะ”
“บ้านฉันเอง”
“แล้วผมต้องทำอะไร”
“ตามใจฉัน”
ไข่ตุ๋นก้าวเท้าลงจากรถ ขณะที่บ่นเสียงดังให้ได้ยิน
“สรุปคือผมต้องรับมือกับคนป่วย 3 คนหรือไงวะเนี่ย”
======จบตอนที่ 2=====
อรุณสวัสดิ์วันฝนพรำครับ
ขออภัยที่ทำให้รอ และขอขอบคุณที่ให้คำแนะนำและติดตามอยู่เสมอ
ปมเยอะเหรอ อะงั้นปอยๆ ให้จิ๊ดนึง
"ตัวละครมากกว่าครึ่งหนึ่งพูดโกหก และโต้งเป็นตัวละครที่คุณเชื่อใจได้"
อะจ๊าก อ่านแล้วเครียดกว่าเดิมหรือเปล่า
พบกันวันอังคารครับ
ไจฟ์ครับ