ห่างกี่ก้าว...ก็รักเท่าเดิม
ก็แค่สามเดือนที่ต้องห่างกัน...
ไม่!! ไม่ใช่สิ!!
แม่ง!!...ตั้งสามเดือนต่างหากสามเดือนเลยนะเว้ยแอล สามเดือนอ่ะ สามเดือนที่แปลว่า...สิบสองสัปดาห์ เก้าสิบวัน สองพันหนึ่งร้อยหกสิบชั่วโมง มันนานเหี้ยๆเลยนะแอล
ผมสบถออกมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะคว้ารีโมทมากดเปลี่ยนช่อง...
ดิสคัฟเวอรี่ แชนแนล...ขนาดสัตว์ยังได้อยู่กับคู่ของมัน ทำไมผมถึงต้องห่างจากพี่เภาด้วย แล้วทำไมกูต้องเปรียบตัวเองกับสัตว์วะเนี่ย
อีเอสพีเอ็น...ไอ้เชี่ย!! กล้องมันจะซูมภาพนักกีฬาที่มีแฟนมาเชียร์ข้างสนามทำไมวะ กูอิจฉาโว้ย กูอิจฉา!!
แม่ง...ดูซีรี่ส์ก็ได้วะ เอ๊ะ!! แล้วมึงจะมีฉากเลิฟซีนเพื่อ???
“น้องแอลคะ...”
“ครับ คุณแม่” ผมขานรับเสียงเนือยๆ ไถลตัวลงกับโซฟาอย่างหมดแรง
ปกติผมก็คุยโทรศัพท์ อีเมล์ หรือไม่ก็สไกป์หาพี่เภา แต่ช่วงนี้มันไม่ปกติน่ะสิ พี่เภาแม่งฝึกงานอะไรของมันก็ไม่รู้ งานถึงได้หนักมากจนนึกว่าเขาจ้างไปเป็นพนักงานประจำ กลับมาถึงบ้านก็หลับเป็นตาย ได้คุยกันวันละไม่ถึงห้าประโยค หรือบางวันก็ไม่ได้คุยกันเลย อย่าให้รู้นะว่าใครเป็นเจ้าของบริษัทที่พี่เภาฝึกงาน ผมจะ...แช่งให้มันท้องเสียสามวันเจ็ดวันเลย
“เป็นอะไรคะลูก...”
“เปล่าครับ”
ถ้าไม่ติดว่าคุณแม่นั่งอยู่ที่โซฟาอีกตัวนะ ผมจะกลิ้งไปกอดคุณแม่เอาไว้แน่นๆ แล้วก็ดิ้นไปดิ้นมาด้วยความอัดอั้น ใครไม่เป็นผม ไม่เข้าใจหรอกครับ
“คิดว่าคุณแม่ไม่รู้เหรอคะ ตอบคุณแม่มาเร็วๆค่ะ”
ผมทำปากยื่น ผู้หญิงคนนี้นอกจากจะรู้ใจผมแล้ว ยังรู้ทันผมตลอดเลย
“คุณแม่ ปิดเทอมพวกไอ้เวย์ชวนแอลไปเที่ยว...”
“เรียกเพื่อนว่าไอ้ได้ยังไงคะน้องแอล แล้วแน่ใจใช่ไหมว่าจะไปเที่ยวกับเวย์ ไม่ได้ไปนั่งเฝ้าพี่เภา”
“ก็...ทั้งสองอย่างนั่นแหล่ะครับ” ผมอ้อมแอ้มตอบไม่เต็มเสียง
คุณแม่ส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะผุดลุกจากโซฟาตัวที่นั่งอยู่มานั่งข้างๆผม ผมก็หันไปกอดหมับเลย
ที่จริงแล้วมันก็เป็นเรื่องปกติ ที่ทุกปิดเทอมผมต้องกลับมาอยู่กับคุณป๋าและคุณแม่ แต่นั่นมันตอนที่ผมยังไม่มีพี่เภาให้คิดถึงนี่นา
“ฮึ! แค่สามเดือนเอง น้องแอลทนไม่ได้เหรอคะ ทำไมไม่เจอคุณแม่เกือบปีถึงทนได้ล่ะ ไม่รักคุณแม่แล้วใช่ไหมคะ”
ง่ะ...มาไม้นี้ก็ไปต่อไม่ถูกกันเลยทีเดียว
จริงๆผมก็รักคุณแม่นะครับ แต่ช่วงนี้มันติดต่อพี่เภาไม่ค่อยได้ โทรไปก็เอาแต่ยุ่งๆๆตลอด ถ้าไม่ยุ่งก็เหนื่อย เวลาก็ต่างกันสิบสองชั่วโมง พอที่นี่เช้า ที่นั่นก็มืด พอที่นี่มืด ที่นั่นก็เช้า จะจัดเวลาแต่ละวันให้ลงตัวมันยากยิ่งกว่าอะไรดี
“พี่เภาเขาต้องฝึกงาน น้องแอลจะมางอแงไม่ได้นะคะ ถ้าเรียนจบแล้วต้องกลับมาอยู่ที่นี่ น้องแอลจะทำยังไง ห่างกันแค่สามเดือน ลูกชายคุณแม่ยังกระวนกระวายขนาดนี้ แล้วถ้าต้องห่างกันเป็นปีล่ะคะ...”
ผมนิ่งเลย คำสัญญาที่ให้ไว้กับคุณแม่มันค้ำคออยู่ คำสัญญาที่ว่าเรียนจบเมื่อไหร่จะกลับมาอยู่ที่นิวยอร์ก นี่ผมต้องเลือกเหมือนพี่เอฟกับพี่เพิร์ลใช่ไหม
“เอ้า...หน้าเครียดเลย ไม่ร้องไห้นะคะ”
ประโยคสุดท้ายทำเอาผมกอดคุณแม่แน่นกว่าเดิม ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดจะมาร้องไห้กับเรื่องแค่นี้ซะหน่อย แค่กำลังคิดหาวิธีต่อรองอยู่ต่างหาก แต่เอ๊ะ...นี่ผมคิดไกลไปหรือเปล่า อีกสองปีแน่ะ กว่าผมจะเรียนจบ
“แอลไม่ได้ร้องไห้ คุณแม่...”
“คะลูก?”
“ไปขอพี่เภาให้แอลหน่อยสิครับ”.
.
.
มันเป็นอะไรที่ป่วงมากๆ มีวาเลนไทน์ง่อยๆของเวย์จีนอีกคู่ คาดว่าคงไม่ได้เอาลงหนังสือแน่ๆ >*<
นับวันนายเอกยิ่งเกรียน ถ้าอ่านตอนพิเศษทุกตอนอาจจะรู้สึกว่า คาแรกเตอร์แต่ละคนมันลมเพลมพัดมาก
แล้วแต่อารมณ์คนเขียนสุดๆ Y_Y ตอนที่จะลงหนังสือเลยต้องคัดแล้วคัดอีก แก้แล้วแก้อีก
มันจะเป็นฟีลที่แบบ...ตอนที่แล้วเวย์จีนยังหวานๆ ทำไมตอนนี้มันเก๊กๆอีกละ คนเขียนมันจะเอายังไงกันแน่
ฮาาา คืออารมณ์ตอนเขียนแต่ละตอนต่างกันลิบลับ บางตอนเลยป่วงสุดๆ เพราะถ้าลงทุกตอนพิเศษ
มันจะต้องกลายเป็นคนละเรื่องเดียวกันแน่ๆ จับฉ่ายสุดๆ เพลียตัวเองมา่ก ขออภัยทุกคนจริงๆ