.
.
ผมกับพี่เภา กลายเป็นว่าเราเจอกันแค่ตอนเช้ากับตอนก่อนจะนอน เพราะยิ่งเวลากระชั้นเข้ามา พวกสถาปัตย์ก็ยิ่งเร่งซ้อมละครเวที ตอนแรกผมก็ว่าดี เพราะผมไม่ต้องกลัวความลับเรื่องที่แอบทำงานจะแตก แต่พอหลายวันก็อดรู้สึกเหงาไม่ได้เหมือนกัน
ถ้าเป็นเวลาที่พี่เภามีโปรเจคหรือมีสอบ ถึงจะไม่ค่อยมีเวลาให้ผม แต่เราก็ยังอยู่ที่คอนโดด้วยกัน เห็นหน้ากัน นี่พี่เภาก็ไปซ้อมละครเวที ส่วนผมก็ไปทำงานร้านอาหาร พอหยุดเสาร์อาทิตย์ที เลยแทบไม่อยากจะไปไหน อยากจะใช้เวลาอยู่ที่ห้องด้วยกันมากกว่า
เช้าวันเสาร์ กว่าเราสองคนจะตื่นก็เกือบเที่ยง พอตื่นมาผมก็จัดการแปรงฟันแล้วเข้าครัวทันที ดูว่ามีอะไรที่พอจะทำกินได้บ้าง เพราะช่วงหลังเราสองคนต่างก็กินข้าวนอกบ้านกันตลอด พี่เภากินข้าวกล่องของทีมงาน ส่วนผมก็กินมาจากที่ร้านเรียบร้อย เลยแทบไม่ได้ใช้ห้องครัวกันเลย
หลังจากสำรวจตู้เย็นอยู่หลายรอบ ผมก็เลยต้องปลุกพี่เภาลุกจากเตียง
“พี่เภา ไม่มีของสดเลย เดี๋ยวแอลจะไปซุปเปอร์ข้างล่างนะ จะไปด้วยกันหรือเปล่า หรือจะรออยู่ที่ห้อง”
พี่เภาลุกขึ้นมานั่งทันที พอเห็นผมใส่เสื้อยืดกับบ็อกเซอร์ที่ใส่นอนเมื่อคืน ก็ไล่ให้ไปเปลี่ยนชุด ก่อนตัวเองจะเดินเข้าห้องน้ำ แต่ไม่ได้อาบน้ำหรอกครับ ไปแค่ซุปเปอร์แถวคอนโด พี่เภาก็แค่ล้างหน้าล้างตาแล้วเปลี่ยนชุดเหมือนผมนั่นแหล่ะ
คุณชายเข้าห้องน้ำไปไม่ทันไร เสียงโทรศัพท์ก็ดัง ผมชะโงกหน้าไปดู เป็นเบอร์ที่ไม่ได้เมมไว้ เลยไปเคาะประตูห้องน้ำเรียก
“พี่เภา...มีโทรศัพท์มา เบอร์ไม่ได้เมมไว้”
“รับแทนให้หน่อย”
ปกติผมกับพี่เภาก็รับสายแทนกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเบอร์ที่ไม่ได้เมมนี่ผมจะถามก่อน เผื่อบางทีอาจจะไม่เหมาะ ถ้าเกิดผมจะไปรับให้
“ฮัลโหล พี่เภาเข้าห้องน้ำอยู่ครับ”
((แล้วไม่ทราบว่านั่นใครคะ?)) เสียงผู้หญิง...ที่ไม่ใช่ม่าม๊าและไม่ใช่พี่เพิร์ล
“แอลครับ” ถึงจะงงอยู่ แต่ผมก็หลุดปากบอกชื่อตัวเองไป ปลายสายเงียบไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยกลับมา
((งั้นฝากพี่แอลบอกพี่เภาทีนะคะ ว่าหวานโทรมาหา แค่นี้นะคะ))
ผมนิ่วหน้าเล็กน้อย ไม่แปลกหรอกที่พี่เภาจะไม่ได้เมมเบอร์น้องหวานเอาไว้ เพราะคุณชายเขาเมมเฉพาะคนสนิทและคนที่โทรหาบ่อยเท่านั้น เบอร์ส่วนใหญ่ที่มีในเครื่อง ผมก็รู้จักหมด มีบ้างที่อาจจะเป็นเพื่อนที่คณะ ที่ผมไม่ค่อยได้คุยได้หรือรู้จักอะไรมากมาย แต่ผมก็พอคุ้นชื่อ
พี่เภาเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นผมยังถือโทรศัพท์อยู่ก็ถามทันที
“ใครโทรมาเหรอแอล?”
“น้องหวานโทรมา” ผมก็ตอบไปตามตรง เจ้าตัวเขาฝากบอกว่ายังไง ก็บอกตามนั้น
พี่เภารับโทรศัพท์คืนไป ไม่ได้สนใจอะไร แล้วก็ยัดลงเข้ากระเป๋ากางเกง ก็เป็นอันว่าจบประเด็นเรื่องน้องหวาน เพราะผมก็ไม่ใช่พวกชอบเซ้าซี้ให้มากความอะไร แต่พี่เภาก็ไม่วายพูดลอยๆ
“หวานแค่ไหนก็สู้คนแถวนี้ไม่ได้”
“หึหึ ชิมอยู่สามครั้งทำเป็นพูดนะ”
“ปากดี เดี๋ยวจะไม่ต้องออกไปซุปเปอร์”
.
.
“พี่เภา...อยากกินอะไร?” ถามเอาใจคุณชายหน่อย
แอบรู้สึกผิดเหมือนกัน ตัวเองกินข้าวร้านอาหารทุกวี่ทุกวัน ถึงจะเป็นสวัสดิการพนักงาน ตามที่พี่กานต์อ้างก็เถอะ แต่พี่เภานี่สิ ต้องมานั่งกินข้าวกล่องทีมงานทุกเย็น
“เอาแค่ข้าวผัดกุ้งกับแกงจืดเต้าหู้ก็พอ”
ผมอุตส่าห์จะจัดมื้อใหญ่ คุณชายเขาดันมักน้อย เลยเดินไปซื้อผักซื้อเนื้อให้เรียบร้อย คุณชายเขาเดินเข็นรถเข็นตามอยู่ซักพัก ก็ต้องนิ่วหน้า เพราะประชาสัมพันธ์ประกาศให้ไปเลื่อนรถ
“ไปเหอะ...เดี๋ยวแอลซื้ออีกแปบก็เสร็จแล้ว”
ผมได้ผักมาจนครบ ว่าจะเดินมาดูกุ้งกับหมูสับซะหน่อย กำลังเลือกกุ้งอยู่ ก็รู้สึกว่ามีคนมายืนอยู่ข้างหลัง ขยับจะหันกลับไปดู อีกฝ่ายก็เอ่ยทักซะก่อน
“ออกมาซื้อกับข้าวเป็นแม่ศรีเรือนเลยนะแอล”
“อ้าว...พี่กานต์ มาทำอะไรแถวนี้”
“พอดีพี่แวะมาซื้อของนิดหน่อยน่ะ นี่ก็เดี๋ยวจะไปละ นึกว่าเสาร์อาทิตย์จะไม่ได้เจอกันซะอีก”
ผมยืนคุยกับพี่กานต์ไปก็เสียวสันหลังไป กลัวคนที่ไปเลื่อนรถจะกลับมาเจอซะก่อน เลยไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดอะไรกับพี่กานต์มาก รีบล่ำลาซะ จะได้แยกกันซะที แต่เหมือนพระเจ้าจะไม่เข้าข้างซะเท่าไหร่ เพราะพอพี่กานต์เดินไปไม่นาน เสียงเย็นๆก็ดังขึ้นข้างหลัง
“เมื่อกี้ใครเหรอ?”
“อ๋อ...เค้าเป็นเจ้าของร้านอาหารที่เคยไปกินกับไอ้เวย์น่ะ พอดีจำได้เลยทักกันนิดหน่อย”
เอาวะ...อย่างน้อยผมก็ไม่ได้โกหกนะครับ แค่บอกไปไม่หมด
พี่เภามองตาม เหมือนอยากจะถามอะไรซัก แต่ก็ไม่ยอมถามออกมา คิ้วนี่ขมวดจนเป็นเกลียวเชียว ผมก็ยืนลุ้นซะเยี่ยวแทบราด รีบคว้ากุ้งใส่รถเข็นแบบไม่ต้องเลือก ก่อนจะชวนพี่เภาไปจ่ายตังค์
อีกไม่นานก็จะได้เงินครบละ ความเอ๋ย...อย่าเพิ่งแตกเลยนะ
.
.
ผมพยายามมากินข้าวกลางวันกับพี่เภาทุกวันที่มีโอกาส ชดเชยเวลาตอนเย็นที่เป็นเหมือนครอบครัวมีปัญหา สามีไปทาง ภรรยาไปทาง เอ่อ...ผมเป็นสามีนะครับ โอเคนะ เข้าใจตรงกันนะครับทุกคน หึหึ
วันนี้ผมก็ลากไอ้เวย์เดินลัดเลาะคณะตัวเองมาจนถึงคณะสถาปัตย์ ดีที่วันนี้ไม่มีแขกรับเชิญมาร่วมโต๊ะ มีแค่พี่เภา พี่เชน และพี่จอม ส่วนผมก็หนีบไอ้เวย์มาอีกคน พอนั่งลงปุ๊บ ก็เลยถามพี่จอม ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทำละครเวทีถึงความคืบหน้าทันที
“ละครเวทีไปถึงไหนแล้วพี่จอม”
“นี่กำลังหาวันที่จะไปลองชุดกันอยู่ เดี๋ยวพี่ดึงบัตรที่นั่งดีๆมาให้ วันจริงจะได้ยกก๊วนมาดูกัน”
“โห...บัตรฟรีเหรอพี่จอม แต่แอลขอหลายใบเลยนะ”
“หึหึ ไม่ฟรีหรอก แต่ก็ไม่ใช่ตังค์พี่เหมือนกัน พระเอกมันเหมาโซนหน้าให้แฟนมาดู เพราะสงสัยคงเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่มันจะยอมเล่น”
ผมหันไปเหลือบตามองคนข้างตัว พี่เภาก็เกาท้ายทอยแก้เขิน ผมเลยยิ้มเลยครับ
“เอาบัตรเพื่อป่าป๊าม่าม๊า พี่เพิร์ล แล้วก็ภามด้วยนะ จะได้มีคนมานั่งเป็นเพื่อนแอล”
“อืม...เดี๋ยวเอามาให้ แต่ถ้าเกิดไอ้ภามมันล้อพี่ ก็ฝากจัดการทีนะ พี่อนุญาต”
ผมเลยหัวเราะทันที กับครอบครัวพี่เภาคงไม่ได้เขินเท่าไหร่ แต่อาจจะอายไอ้น้องภามจอมปากมาก ที่ไม่แน่ว่าพอหลังงานจบ มันอาจจะเอาพี่ชายตัวเองไปล้อเช้าล้อเย็น นี่เดี๋ยวต้องโทรศัพท์บอกป่าป๊า ม่าม๊า แล้วก็พี่เพิร์ลให้เคลียร์คิวแต่เนิ่นๆ
พอกินข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันครับ ผมก็เดินกลับกับไอ้เวย์ และมันก็คงจะดี ถ้าไม่บังเอิญไปได้ยินอะไรที่มันไม่เข้าหูเข้าซะก่อน
“เฮ้ย! หวาน แกจะจีบพี่เภาจริงเหรอวะ”
“เออสิ พี่เภานี่สเปคฉันเลยนะ เห็นตั้งแต่วันรับน้องละ ผู้ชายอะไรโคตรหล่อ”
“แต่พี่เภาเค้ามีแฟนแล้วนะแก แกจะบ้าเหรอ”
“ฉันรู้แล้ว ฉันยังเคยเจอแฟนพี่เภาเลย”
“พี่เภาเขาจะสนใจแกเหรอวะ เขาลือกันทั่วว่าพี่เภาทั้งรักทั้งหลงแฟนเค้าจะตาย ฉันว่าแกเลิกเหอะ”
“เอ๊ะ! แกไม่ช่วยก็อย่ามาขัด แฟนพี่เภาน่ะเป็นผู้ชาย อาจจะแค่รักแค่หลงเพราะเห็นเป็นของแปลก แต่เชื่อฉันเถอะ...เดี๋ยวก็เลิกกัน ผู้ชายคบกันมันก็แค่เล่นสนุกเท่านั้นแหล่ะ จะไปสู้ผู้หญิงได้ยังไง”
เวย์ทำหน้าไม่พอใจทันที มันทำท่าจะเดินออกไปฉะกับพวกผู้หญิง จนผมต้องรีบดึงมันเอาไว้ มันเลยทำท่าฮึดฮัดทันทีด้วยความขัดใจ ถึงมันจะชอบผู้หญิง แต่มันก็ไม่ได้หน้ามืดตามัวจนมองข้ามข้อเสีย
ผมรู้ว่าผู้หญิงเป็นเพศแม่ที่ควรให้เกียรติ แต่ผมให้เกียรติเฉพาะคนที่มีเกียรติเท่านั้นครับ พวกคุณเป็นเพศแม่ แต่ไม่ใช่แม่ผม ที่ผมจะต้องมาเคารพกราบไหว้ จนถึงขนาดที่ทำผิดแล้วแตะต้องไม่ได้ ทุกอย่างมันต้องว่ากันไปตามเหตุและผลครับ หยุดอ้างว่าอย่ารังแกผู้หญิง ผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ เป็นเพศแม่ ผมว่า...ของแบบนี้มันต้องดูเป็นรายคนครับ เหมือนที่ผู้ชายก็ไม่ได้ดีทุกคน
“มึงจะปล่อยให้ยัยพวกนั้นมาดูถูกมึงเหรอวะแอล กูไม่ยอมหรอกนะ”
“กูก็ไม่ยอม แต่มึงคิดว่ากูไม่มีปัญญาทำอะไรเหรอไง”
ผมเดินออกไปตรงที่น้องหวานกำลังจับกลุ่มยืนคุยกับเพื่อนอยู่ ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ เรียกความสนใจจากทุกคนที่กำลังยืนล้อมวงสนทนากันทันที
“ขอโทษนะครับ บังเอิญว่าของแปลกที่น้องกำลังพูดถึงคือพี่ ถ้ามีอะไรก็มาพูดกันต่อหน้าเลยดีกว่า อยากได้แฟนพี่ ก็มาพูดต่อหน้า ไม่ต้องมาพูดลับหลังว่าจะแย่ง ว่าจะอ่อย พี่ชอบแบบแฟร์ๆครับ”อ้าว...ผมพูดความจริงนะ จะตกใจกันทำไมละ ทีลับหลังผมยังปากเก่งกันอยู่เลยนี่นา ก็ยังดีที่คนเริ่มเรื่องอย่างน้องหวานเขายังกล้าเผชิญหน้ากับผมอยู่
“แล้วถ้าหวานขอพี่เภา พี่แอลกล้าให้หวานไหมล่ะคะ?”- END STEP 34 -
๐ รับมาม่าทานเพิ่มไหมคะ? ไม่มาม่าเนอะ แค่มีอุปสรรคนิดหน่อย เดี๋ยวชีวิตรักจะจืดชืด
๐ น้องแอลไม่ใช่นางเอก น้องแอลเป็นนางร้าย น้องแอลวีนตัวพ่อ แรงตัวแม่
๐ แต่รับรองว่าวันเกิดพี่เภา...พี่เภาจัดเต็มแบบคอมโบเซ็ตแน่นอนค่ะ รอก่อนน๊า
๐ ค้างอีกแล้ว...ใช่ไหม ขอโทษนะค๊า จะรีบมาต่อด่วน แต่เสาร์อาทิตย์ไปต่างจังหวัดอีกแล้ว >"<
๐ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์เลยนะคะ รักคนอ่านทุกคนค่ะ