- STEP 19 -
สรุปแล้ว เมื่อคืนเราสามคนก็กลับมานอนคอนโดพี่เภาครับ โชคดีที่ว่าพี่เภาเพิ่งเคลียร์ห้องนอนอีกห้อง ที่ถูกแปลงสภาพเป็นห้องทำงานชั่วคราวตอนที่สอบเสร็จพอดี ไอ้น้องภามเลยมีห้องนอน แล้วมันก็เสนอไอเดียที่เป็นประโยชน์(ต่อตัวมันเอง)ว่า...
“ผมมานอนที่นี่ตลอดช่วงปิดเทอมเลยดีไหม เวลาไปค่ายจะได้ไปกับพี่แอล”
“ไม่ดี!!” ท่านเจ้าของห้องมีประกาศิตทันควัน แทบอยากจะจับน้องชายร่วมสายโลหิตโยนออกนอกห้อง
“เฮียแม่ง! ภามอุตส่าห์ช่วยตอนอยู่ค่ายนะ หัดสำนึกบุญคุณมั่ง”
“ช่วยอะไรของมึง?” คุณชายเขาทำหน้างง ขนาดผมอยู่ที่ค่ายกับมันยังงงเลยครับ ช่วยเรื่องอะไร อย่าบอกนะว่าช่วยดูผม
“อ้าว! ก็ไอ้เต้ที่อยู่กลุ่มเดียวกับภามมันจะจีบพี่แอล ภามก็อุตส่าห์เป็นไม้กันหมาให้ สำนึกบุญคุณกันมั่ง”
“ทำไมไม่เห็นเล่าให้ฟังเลย”
เย่ย!...ทำไมเป้าหมายถึงเปลี่ยนมาเป็นผมล่ะ อย่ามาทำตาดุใส่ผมนะ เพราะว่าผมจะ...กลัวครับ ตาดุฉิบ
“ก็เมื่อคืนกลับมาดึก จะให้เอาเวลาไหนไปเล่าล่ะ”
“อ้าว...ก็ตอนก่อนนอนไง”
“ตลกไหมเนี่ย ไม่ใช่นิทานก่อนนอนนะ”
“ไม่รู้ละ แต่คราวหลังถ้ามีใครเข้ามาจีบต้องเล่ามาให้หมด ห้ามมีหมกเม็ดเด็ดขาด”
“ถ้าจู๋จี๋กันเสร็จแล้ว ช่วยทำข้าวเช้าให้ผมด้วยนะ” ไอ้น้องภามมันเดินไปนั่งรอที่โต๊ะกินข้าวแล้วครับ รู้หน้าที่มาก
ผมกับคุณชายเลยเลิกเถียงกันก่อน ไม่ใช่กลัวน้องภามหิวแล้วอาละวาดครับ แต่เดี๋ยวพวกผมก็จะต้องออกไปกันแล้ว มามัวแต่เถียงกัน จะได้สายกันหมดพอดี
“เฮียรู้ป่ะ ไอ้เต้มันบอกว่า ถึงพี่แอลจะมีแฟนแล้วมันก็ไม่ถือ” ไอ้น้องภามมันนั่งกินข้าวเงียบๆไม่ได้ครับ มันต้องฟ้องพี่มันด้วย
‘เฮีย’ ของมันตวัดตาคมกริบมองผมเลยครับ แล้วก็พูดหน้าตาเฉย
“วันนี้ถ้าไปนั่งดูด้วย ไอ้เจตน์คงไม่ว่าอะไรเนอะ”
ครับ...ไม่มีใครว่าอะไรพี่หรอกครับ ทุกคนเขาเกรงใจพี่กันหมด ขนาดพี่รหัสผมยังเป็นเลยครับ
.
.
.
พวกผมสามคนมาถึงกันแล้วครับ แต่ยังไม่ยอมลงจากรถ เพราะว่า...ไอ้น้องภามมันดันเห็นอะไรบางอย่าง มันเล่นร้องซะผมกับพี่เภาตกใจเลยครับ
“อะไรของมึงเนี่ยภาม ร้องซะกูตกอกตกใจ” ผมเริ่มชินกับคู่พี่น้องฮาร์ดคอร์แล้วครับ
“เฮียดู! ไอ้จีนมันมากับพี่เวย์”
ควับ!! สายตาทุกคู่บนรถมองตามที่ไอ้น้องภามชี้ทันทีครับ ผมจำรถบีเอ็มสีดำของไอ้เวย์ได้แม่นกว่ารถตัวเองอีกครับ ไม่ใช่เพราะอะไร เพราะผมอาศัยนั่งรถมันบ่อย ประหยัดค่าน้ำมัน เอ๊ย ลดโลกร้อนครับ หึหึ
วันนี้มันมีตุ๊กตาหน้ารถด้วยครับ มันพาน้องจีนมาด้วย นี่ต้องเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ชัวร์ เห็นมันลากน้องจีนลงมาจากรถแล้วผมก็อยากจะวิ่งไปตั๊นหน้ามัน ให้มันรู้จักทะนุถนอมน้องหน่อย น้องมันตัวแค่นั้น ทำไมถึงชอบทำอะไรรุนแรงวะ แต่...
ไอ้เวย์กับน้องจีนยืนคุยอะไรกันอยู่ตั้งนาน พวกผมที่อยู่ห่างๆรับชมได้แต่ภาพ ไม่มีเสียง เกิดความหงุดหงิดไปตามๆกันด้วยความอยากรู้อยากเห็น แล้วน้องจีนก็วิ่งออกไปก่อน ทิ้งไอ้เวย์ให้ยืนสบถพึมพำท่าทางหัวเสีย ก่อนจะคว้าบุหรี่มาจุดสูบ
“มันคุยอะไรกันอ่ะ?”
“จีบกันมั้ง” ไอ้น้องภามโพล่งขึ้นมาหน้าตาเฉย
“ภาม...มึงรู้อะไรบ้าง เล่ามาให้หมด อย่าปิดบัง” พี่เภามันหันมาไล่เบี้ยเอากับน้องชายที่ควบสองตำแหน่ง น้องไอ้เวย์ และเพื่อนน้องจีน
ไอ้น้องภามมันทำเป็นดูนาฬิกาข้อมือและทำหน้าลำบากใจ
“ไม่ทันมั้งเฮีย จะถึงเวลาที่เขานัดกันแล้วนะ”
คิดว่าคุณชายเขาจะทำยังไงครับ จัดการหยิบโทรศัพท์มากดโทรหาพี่เจตน์ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าไม่ขอเบอร์กันมาตอนไหน บอกเสร็จสรรพว่าผมกับไอ้น้องภามจะไปช้า เพราะติดธุระนิดหน่อย พี่เจตน์มีหรือจะกล้าปฏิเสธครับ แล้วรถมินิคูเปอร์ของผม ก็วนออกไปร้านกาแฟด้านนอก
.
.
.
มาถึงร้านคอฟฟี่ช็อปขนาดเล็ก แต่บรรยากาศนั่งสบาย ที่เงียบแสนเงียบเพราะเป็นช่วงปิดเทอม แต่พอเปิดเทอมมักจะมีเหล่านักศึกษาแวะเวียนมาอุดหนุนอยู่ตลอด คุณน้องภามก็จัดการสั่งโกโก้ปั่นของตัวเองมากินกับชีสเค้ก ส่วนผมเลือกชาเขียวปั่น อภินันทนาการจากผู้อาวุโสที่สุด
อย่าคิดว่าแค่โทรบอกพี่เจตน์แล้วจะจบนะครับ ไอ้เวย์โทรตามผม เหมือนที่น้องจีนโทรตามน้องภาม ได้แต่บอกว่าตื่นสาย รถติด สวิตช์ดับ อะไรก็ว่าไปนั่น ไอ้เวย์และน้องจีนถึงจะวางโดยดี แต่ไม่วายครับ ไอ้เวย์มันบอกว่า...
“อย่าให้กูรู้ว่ามึงมัวแต่นอนจู๋จี๋กับพี่กูจนตื่นสายนะ” ผมมีหรือจะยอม เลยโต้กลับทันที
“อย่าให้กูรู้ว่ามึงเอาแต่จู๋จี๋กับน้องจีน ตอนที่กูยังไม่ไปนะ”
ได้ผลครับ มันสบถอะไรของมันอยู่สองสามคำ ก่อนจะวางสาย ผมแอบวางใจเพราะไอ้เวย์มันบอกว่า พี่เจตน์ส่งพี่ครามมาช่วยดูแลกลุ่มผมครับ ความจริงก็คือดูแลน้องเต้กับน้องพลอยนั่นแหล่ะ เพราะน้องจีนเค้ามีคนดูแลอยู่แล้ว ฮิ้ววววว...
“เล่ามาซะทีไอ้ภาม อย่ามัวแต่ลีลา” คุณชายเขานั่งกอดอกรออยู่นานครับ
“ความจริงมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของจีนนะเฮีย ผมเองก็ไม่อยากจะเล่าเท่าไหร่ แต่ก็อยากให้เพื่อนรักมีความสุข...”
หน้ามึงตอแหลมากครับน้องภาม ท่าทางมันเหมือนไอ้เวย์ตอนกำลังสนุกกับเรื่องผมไม่มีผิด แล้วเรื่องราวที่เริ่มตั้งแต่วันคริสต์มาสเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว ก็ถูกเล่าออกมาให้ผมกับพี่เภาได้รับรู้ พี่เภานั่งฟังด้วยท่าทางสงบ แต่ไม่รู้ข้างในอยากรบใจจะขาดหรือเปล่า ส่วนผม...
ตาโตแล้วโตอีก ฮา...เวลาได้รู้เรื่องคนอื่นมักจะรู้สึกแบบนี้นี่เอง
“น่าสงสารไอ้เวย์” ผมสรุป
“น่าสงสารน้องจีน” พี่เภาสรุป
เราสองคนเลยหันมาเล่นจ้องตากัน ถึงน้องจะน่ารัก แต่ผมสงสารเพื่อนผมไม่ผิดใช่ไหมครับ ถึงน้องจีนจะทำไปเพราะรัก แต่ถ้าไอ้เวย์รู้ความจริงเข้า มันอาจจะรู้สึกเสียหน้า
“ทำไมล่ะ?” ผมถามคุณชาย พี่เภายิ้มกริ่มเล็กน้อย หยิบชาเขียวปั่นของผมไปดูด ลีลาท่ามากไม่ต่างจากน้องชายตัวเองเลย ผมเลยต้องคว้าแก้วกลับมา แล้วขึงตาใส่
“ก็...พี่เข้าใจความรู้สึกของน้องจีนไง ความรู้สึกที่ต้องแอบชอบมานานน่ะ เพียงแต่พี่ใช้คนละวิธีกับจีน เพราะแอลกับเวย์เป็นคนละคนกัน”
ง่ะ...ก้มหน้าก้มตาดูดชาเขียวแก้เขินเลยครับ ความอยากรู้ก็มีอยู่หรอก แต่ความอายก็เต็มเปี่ยม เล่นพูดแล้วทำตาพราวระยับแบบนั้น กระผมยิ่งภูมิต้านทานความหวานต่ำอยู่นะครับท่านผู้ชม โดยเฉพาะความหวานที่ผลิตโดยนายภีศเดช
“จีนชอบเวย์มากขนาดนั้นเลยเหรอ?” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องถามน้องภาม ก่อนจะวกเข้าตัวเองมากเกินไป
“ผมเคยถามไอ้จีนนะ ว่าตัวมันคิดไปเองหรือเปล่า ว่ามันชอบพี่เวย์ เพราะมันเล่นชอบแค่เพิ่งเจอหน้ากัน แต่มันบอกผมว่า...”“งั้นมันคงเป็นคนที่คิดนานน่าดู เพราะผ่านมาเป็นปีแล้ว มันยังคิดถึงพี่เวย์อยู่เลย”*[*ไดอะล็อคจากเรื่องกวน มึน โฮ]“ไอ้เวย์ก็ดูเหมือนเริ่มจะชอบน้องจีนนะ แต่มันท่ามาก ปากแข็ง ปากหนัก” พี่เภาวิเคราะห์ออกมา ผมเลยสนอง
“ไม่เหมือนคนแถวนี้ แม่งหยอดเช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน”
“หึหึ ถ้าไม่ขยันหยอด จะได้คนแถวนี้มาเป็นแฟนไหมล่ะ”
“ตกลงจะช่วยเพื่อนผมจีบพี่เวย์ หรือเฮียกับพี่สะใภ้จะจีบกันเอง”
พี่เภาขมวดคิ้วกับสรรพนามที่ไอ้น้องภามเรียก ก่อนจะถามเสียงเรียบ
“ทำไมมึงถึงเรียกแอลว่าพี่สะใภ้วะ” ดีมากครับพี่เภา ผมยังเป็นแค่แฟนพี่นะครับ ยังไม่ใช่ลูกสะใภ้ ต้องรักษาสิทธิ์กันหน่อยครับ
“อ้าว...แล้วจะให้เรียกว่ายังไงล่ะ” ไอ้น้องภามทำหน้างงแบบเสแสร้ง แต่คำตอบของพี่เภาทำเอาผมแทบหงายหลังตกเก้าอี้กันเลย
“เรียกว่า ซ้อใหญ่ สิ”เชี่ยมากครับ!! แค่เรียกพี่สะใภ้ก็เกินทน ถ้าเกิดมึงกล้าเรียกซ้อใหญ่นะไอ้น้องภาม รบกวนบริจาคปี๊บด้วย จะเอามาคลุมหัวตัวเองด่วนครับ
แม่ง!...เกลียดมันสองคนพี่น้อง หัวเราะเข้าขากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียว
.
.
.
พี่เภาพาพวกผมมาส่งก็ตอนกลางวันแล้วครับ เพราะเรานั่งเล่นกันอยู่ที่ร้านคอฟฟี่ช็อป เสร็จแล้วก็ถือโอกาสหาข้าวกลางวันกินเลย มีเสี่ยเลี้ยงครับ แฟนผมเอง...เจ้าบุญทุ่มมาก
พี่เภาบอกว่า จะช่วยน้องจีนและไอ้เวย์ให้ได้สมสู่เป็นคู่ตุหนาหงันกัน ตอบแทนที่ไอ้เวย์มันอุตส่าห์ช่วยหลอกล่อผม จนมาตกลงปลงใจร่วมหอลงโลงกัน
คุณชายเขาเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นครับ บอกว่าจะมาเฝ้าก็มาเฝ้าของจริง จอดรถเสร็จเดินตามผมกับไอ้น้องภามมาเลย เห็นน้องมองตามกันเป็นพรวน ก็พี่สุดหล่อเขาไม่ได้ใส่เสื้อสต๊าฟค่ายมานี่ครับ พี่แกล่อโปโลมาซะเด่นเชียว
พอเดินมาถึงกลุ่มผม ที่โดนผมทอดทิ้ง ผมก็หน้าเหวอเลยครับ
“เฮ้ย! ทำไมมันสลับคู่ผิดฝาผิดตัววะ?” ผมหันมาถามไอ้น้องภาม ที่ทำหน้างงไม่แพ้ผม
ไอ้เวย์ดันจับคู่ติวอยู่กับน้องพลอยสองคน ส่วนพี่ครามรับเอาน้องจีนกับน้องเต้ไปเป็นภาระ แต่พอน้องเต้หันมาเห็นผมก็สลัดพี่ครามทิ้งทันทีครับ แหม...ผมนี่ก็เสน่ห์แรงใช้ได้นะ แต่ไอ้เสียงยะเยือกข้างหลังนี่มันอะไรกันครับ
“คนไหนชื่อเต้”
“ที่กำลังวิ่งมานั่นไงเฮีย”
มึงสองคนพี่น้องเป็นเจ้าพ่อหรือไงเนี่ย ดูมันมองน้องเต้ซะข่ม แถมยังยืนกร่างประกบผมกันคนละข้างอีก ไหนบอกจะช่วยน้องจีน ตกลงคือแท็คทีมกันมาคุมผม พี่เภาเห็นป้ายชื่อที่ผมเพิ่งหยิบมาแขวน ก็มองตาขวางเลยครับ แถมยังถือวิสาสะถอดออกอีก
“เดี๋ยวไปทำใหม่เลยนะ ต้องเป็น...พี่แอล เจ้าของดุ”
“เฮ้ย! มุกนี้ไม่ขำนะพี่เภา ใครมันจะไปกล้าแขวนวะ” ผมโวยวายทันที
พอน้องเต้เดินมาถึงตัวผม ผมก็เหล่มองคนที่ยืนประกบด้านขวาทันที แหม...เอามือมาพาดไหล่แบบเนียนๆเลยนะ กลัวไม่มีใครรู้เหรอครับ ว่าได้ผมเป็นแฟนแล้ว
“หวัดดีครับน้องเต้” ทักทายก่อนตามมารยาท ยังไงก็เป็นน้องกลุ่ม
“หวัดดีฮะพี่แอล มาช้าจังเลยฮะ วันนี้ผมอุตส่าห์รีบมาแต่เช้า นึกว่าจะเจอพี่แอลคนแรกซะอีก”
เอิ่ม...น้องมันบอกไม่ถือ มันก็ไม่ถือจริงๆครับ มันไม่สนใจไอ้สายตาพิฆาตสองคู่ ที่มองเหมือนจะฆ่ามันเลย จนผมเองต้องเป็นคนที่รู้สึกหนาวๆร้อนๆแทน
“อ่า...ครับ พอดีพี่ติดธุระนิดหน่อย เอ้อ...เต้ นี่พี่เภา แฟนพี่ครับ” สายตาพี่เภามันบอกว่ารอให้ผมแนะนำอยู่
“แย่หน่อยนะครับพี่เภา ดันเป็นแฟนกับคนน่ารักอย่างพี่แอล เพราะพี่แอลคงมีคนมาชอบเยอะ ขอโทษด้วย...ที่ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น”
“ก็คงทำได้แค่ชอบเท่านั้นล่ะ เพราะยังไงตัวจริงก็ต้องมีคนเดียว” ถ้าจะโอบผมแน่นขนาดนี้ รวมร่างกันเลยดีไหมครับคุณชาย
“ตัวจริงวันนี้เป็นพี่ แต่วันหน้าอาจจะเป็นผมก็ได้ ใครจะไปรู้” พูดจบ น้องเต้มันก็กระตุกยิ้มมุมปาก แล้วก็เดินกลับมาหาพี่คราม ที่มองมาอย่างเป็นห่วง
“ถ้ากูต่อยมัน จะมีคนหาว่าผู้ใหญ่รังแกเด็กหรือเปล่าวะ” นี่ไงครับ เหตุผลที่พี่เภาไม่กล้าหุนหันทำอะไร
“ยืมมือผมได้นะเฮีย เพราะถ้าคนนี้หลุดมือ มีหวังม๊าเอาเฮียตายแน่” เอาเลยครับ ไอ้พี่น้องยากูซ่า
“กูฝากมึงด้วยละกัน”
เฮ้ย! ได้ข่าวว่าที่คุยกันอยู่น่ะเรื่องผม ถามความคิดเห็นผมบ้างอะไรบ้างก็ได้นะ
“ไป...พี่สะใภ้ อย่ามัวแต่ยืนเอ๋อ เกิดเป็นไอ้ภามนี่ซวยจริง ทั้งต้องช่วยเพื่อนให้สมหวัง ทั้งต้องคอยเฝ้าพี่สะใภ้ไม่ให้เหลือบไรมาตอมอีก”
ไอ้น้องภาม!!!.
.
.