(ต่อ)
...................
...............
ผม บี ไอ้ลมแปลงร่างเป็นจิ้งจกเกาะติดผนังห้างสรรพสินค้า รปภ. เหล่ด้วยหางตาเล็กๆ
“มึงพาบีหลบอยู่แถวนี้ รอโทรศัพท์กูแป๊บ” ผมสั่งการ
“มึงจะเข้าไปดูเหรอ อย่าเลยเก็ท รีบกลับบ้านดีกว่า ไม่ต้องสนอะไรแล้ว” ไอ้ลมยื้อแขนเสื้อ
“เออน่า บีอยู่กับมันนะ”
“เออ โดนตีหัวเลือดสาด คอขาดมาก็ร้องบอกละกัน” เด็กน้อยปากดี
อุเหม่ จะโชว์แมนซะหน่อย ไม่มีให้กำลังใจกันหรอก
ย่องเบาราวแมวขโมยเข้าห้องน้ำชาย ชั้น 6 ต่ำกว่าโซนโรงหนังเมื่อครู่
กำลังลังเลจะเข้าดีไม่ดี บานประตูเปิดผลั๊วะ!
“กูบอกมึงแล้วใช่มั้ย ไอ้สัด-ปีก!”
อั้ยยะ! วลีนี้คุ้นหูอย่างแรง น้ำเสียงผู้ชายคนที่พูดก็ด้วย
ลูกครึ่งฝรั่งผมแดงยาวแค่ต้นคอ ร่างสูงเท่เซอร์นายแบบ
“พี่เจฟฟรี่!” ผม
“ใครเรียกวะ!?"
"เฮ้ย! นี่มัน...น้องชายไอ้กายใช่เปล่า?” พี่ผมแดงอีกคน พี่มิกกี้
“ครับพี่” ผมรับ
“อ้าว เก็ท!” เย๋ย เสียงนี้...
พี่เจฟฟรี่ พี่มิกกี้ พี่ต้น และคนที่ตัวงอกุมท้องอยู่ตรงกลาง หลังชนฝาอยู่สุดผนังด้านโน้น
ไอดอลประจำตัวผมเอง...พี่เหยี่ยว!!!
สภาพอย่างนี้ อย่าบอกนะว่า เหลือบมองอย่างหวาดๆ เข้าไปห้องน้ำชิดริมในสุด
น้องผู้ชายหน้าตาออกหวานรูปร่างสันทัด ท่าทางกร้านพอประมาณคนหนึ่งยืนแอบอยู่ในนั้น
โอ้ บระเจ้าจ๊อด!!!
อย่าบอกนะว่า ไอ้หื่มกามที่เพื่อนเวรถีบประตูนั่นจะเป็น...(O_O)
“มันยังอยู่ว่ะ เจฟฟรี่” It’s still stand ชัวร์ป้าบ เก็ทขอเวลาหน้ามืดเดี๋ยว แต่ไม่มีเดี๋ยวเพราะ...
“OK, Got it!” ตุ๊บ ผลั๊วะ
“OUCH, ---JEF-FER-SON!” พี่เจฟฟรี่กำหมัดซัดท้องพี่เหยี่ยว ชนิดซุสแห่งเรียลสตีลยังแพ้
นาม 'เจฟ-เฟอร์-สั้น' ออกเสียงไม่สั้นเพราะนานมากกว่าจะหลุดจากปากครบพยางค์
สภาพตัวงอหนักกว่าเดิม มีพี่มิกกี้กับพี่ต้นซ้ายขวา จับหิ้วปีกไม่ให้เพื่อนนกลงไปกองกับพื้นกระเบื้องข้างล่าง
พี่มิกกี้ยักคิ้วให้ผมประมาณเรื่องนี้จิ๊บๆ ชิลๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
“Okey?” พี่เจฟฟรี่ถาม
“...” พี่เหยี่ยวพยักหน้า กระเป๋าตุงใต้เข็มขัดเมื่อครู่เหมือนจะหายไป
เดาว่าน่าจะยังไม่มีเหตุการณ์เข้าด้ายเข้าเข็มเกิดขึ้น เพราะเข็มขัดพี่เหยี่ยวไม่ได้หลุดรูเสียบ
แค่ปลายเส้นหลุดจากหูเท่านั้น กระดุมยีนส์ก็อยู่ครบ
ที่สำคัญ น้องคนนั้นชายเชิ้ตไม่ได้รุ่ยจากขอบกางเกง กระดุมติดสาบเสื้อครบทุกเม็ด
เพื่อนลมเร็วด่วนนรก!!!
“เก็ทจะเข้าห้องน้ำเหรอ จัดการซะซิ” พี่ต้นเอ่ย ส่วนพี่มิกกี้พยุงพี่เหยี่ยวยืนยืดตัวดีๆ จะพากันออกเดิน
“คะ...คร้าบ!” ผมเปลี่ยนใจจากโถปัสสาวะข้างนอกเข้าประตูปึง! เพราะเสียงเตือนไลน์ดังติ๊งเข้ามาพอดี
little rabby: [เป็นไง ให้อยู่ไหนได้]
จริงด้วยแฮะ ลืมไปเลย หลบเป็นผู้ลี้ภัยอยู่นี่หว่า
เปิดประตูผาง เจอะพี่เหยี่ยวกำลังวักน้ำล้างหน้า จัดการผมเผ้าเสื้อผ้าหน้าตาตัวเองอยู่ มี 3 ทหารเสือคุมเชิง
"เก็ท..." พี่เหยี่ยว
"ครับ" เดินใกล้เข้าเคาน์เตอร์อ่างล่างหน้า เราผู้ชายมองตากันเองในกระจกเงา
"ยืดอก...ต้องพก 3 จำไว้"
"อ่า..." อะหยังครับพี่
"1 สวน 2 เสียบ ที่เหลือก็เสียบอีกที ถึงจะ---โอ๊ยยย!" พี่เหยี่ยวแทบงับกระเบื้องขอบอ่าง
พี่เจฟฟรี่เบิ๊ดหัวเพื่อนหล่อเกือบหลุด
เหอๆ สอนอะไรกูเนี่ย รีบจำใส่สมอง screw suck and sucken
(พูดปะกิตกับผมครับ เด็กนานาชาติก็งี้)
พี่เจฟฟรี่แจกฟักแฟงแตงโมด่าเพื่อน พี่มิกกี้ขู่จะฟ้องพี่กายว่าเสี้ยมน้องชายผิดๆ ทำนองนั้น
เหลือบมองน้องผู้ชายคนนั้นอีกครั้งก่อนเอ่ยถาม...
“พวกพี่จะไปไหนต่อครับ?”
“กลับ!” พี่เจฟฟรี่
“เฮ้ย! กูยังไม่ได้เสื้อ” พี่มิกกี้
“รองเท้ากูล่ะ!?” พี่ต้น
“ช่าง! กูจะลากมันกลับ พวกมึงก็ต้องด้วย” พี่เจฟฟรี่จอมบงการ
“เฮ่ยยยย ไรวะ”
“ฟัค! มาแค่ตากแอร์หน้าประตู ไม่ถึง 10 นาทีแค่เนี๊ยะ” พี่สองคนจิ๊จ๊ะหน่ายมากแต่จำยอม
ได้ฤกษ์เดินขบวนออกมา ดาหน้า 4 คนกลุ่มใหญ่ มีพี่เหยี่ยวยีนส์น้ำเงินเข้ม
เสื้อยืดขาวเปื้อนเล็กน้อยอยู่ตรงกลาง ก้าวเซๆ เกาะบ่าพี่เจฟฟรี่บ้างพอประมาณ...
เก็ทเดินตามต้อยพลางเขียนไลน์...
[หนีจาก parking ด้านหลัง ไปหน้าห้างด่วน]
little rabby: [ok^^] ตอบกลับมาทันที เยี่ยม!
“อ้าวเก็ทจะไปกันด้วยเหรอ ไม่เข้าห้องน้ำล่ะ?” พี่ต้นหันมา
“ไม่ครับ เก็ทว่าจะ...จะ...” จะอะไรไม่รู้ ชี้มั่วนึกไม่ออก
“ไอ้กายไปเอารถ คุยกับมันก่อนซิ” พี่เจฟฟรี่เสนอทางหนีทีไล่
“ครับ พี่เจฟฟรี่ ผมว่าจะถามอยู่พอดี” รอดล่ะเรา
ระหว่างนั้น...
"ไงมั่ง งานโรงเรียนสนุกมั้ย เราลงกี่ควอเตอร์ล่ะ" พี่มิกกี้ถามเรื่องเมื่อวาน
"3 ครับ ควอเตอร์สุดท้ายพี่ตัวจริงลงหมด"
"กายมันบอกอยู่ว่าไม่ได้ดูน้องแข่ง แต่ทีมชนะอยู่นี่"
"ครับ"
“มันบอกอยู่ว่าน้องชายมาฉลองบาสชนะดูหนังกัน ไม่คิดว่าจะเจอเราที่นี่ด้วย” พี่ต้น
“บังเอิญน่ะครับ” ผมเออออ
“นั่นซิ บังเอิญจริงๆ หึหึ” พี่เจฟฟรี่ผลักไหล่พี่เหยี่ยวหัวคะมำอีกครั้ง
ได้ยินเสียงสบถในลำคอ "Doggie Jeffry!"
.................
....................
ทางออกลานจอดรถด้านหลัง พี่กายคนขับเข้าเทียบพอดี
รถเบนซ์สีดำคันใหญ่ของบ้านเราแล่นเข้าจอด
มาเที่ยวกับพี่เบิ้มพวกนี้นี่เอง มิน่าถึงขอเอาคันใหญ่ของพ่อออก
“อ้าวเก็ท ตกลงมาที่นี่เองเหรอ?” พี่กายลดกระจกมาทักก่อน
“ครับ” ผม
“เจฟฟรี่แม่มเลว จะกลับเลยว่ะ” พี่ต้นฟ้องนิ่วหน้าเล็กๆ
“อ๋อได้ ไปไหนต่อ?” พี่กายไม่เดือดร้อน
“บ้าน ไปเอารถกู” พี่เจฟฟรี่บัญชาการ
“อ้าว ไมวะ?” พี่กายสงสัย ผมก็ฟังเพลิน เล่นคุยกับเพื่อนจนลืมน้องชายตัวเอง
“จะไปสระบุรี” พี่เจฟฟรี่เปิดประตู ดันศีรษะพี่เหยี่ยวเข้านั่งคู่คนขับ
ส่วนตัวเองก้าวอ้อมจะไปนั่งข้างหลังกับเพื่อน
“ไปทำไมวะสระบุรี?” พี่กาย
“ผสมพันธุ์หมาให้กลายเป็นควาย?”
“ผสมมึงก่อนมั้ย มิกกี้” โดนพี่เจฟฟรี่เช็ดซะ
“555”
พี่มิกกี้แซวด้วยบ้านเจฟฟรี่มีกิจการเพ็ทชอปและพ่อพันธุ์สุนัขเกรดเยี่ยม รับผสมทั่วราชอาณาจักร
“เอารถกูไปเลยก็ได้ แค่สระบุรี ย้อนกลับไปทำไมเสียเวลา” พี่กาย
“เออว่ะ กูอยากกินสเต็กกับนมสดๆ อยู่พอดี” พี่มิกกี้ไม่เข็ด
“ไม่-ไม่ได้!” พี่เจฟฟรี่หยั่งห้าว กร้าวซะไม่มี
“ไมวะ?” พี่ต้นสงสัย ผมก็สงสัย
“นั้นดิ ทำไมจะไปไม่ได้” พี่มิกกี้
“กูไปรับ...คน!” พี่เจฟฟรี่เฉลย
“อ้าวงั้นก็ดี ไปกันหมดนี่ล่ะ” พี่ต้นสรุป
“ไปหมดแล้วคนของกูจะนั่งไหน ตัวเท่าชิสุได้มั้ยพวกมึงน่ะ” พี่เจฟฟรี่ด่ากราด
“กูว่า เจฟฟรี่แม่มแอบไปกิ๊กกั๊กกับโคขุนแถวนั้นชัวร์”
“นั่นมันโพนยางคำโว๊ย มิกกี้” พี่ต้นด่าให้
“555” พี่กายกับเพื่อนหัวร่อลั่น
“มันไปรับเด็กนักฟุต---/เชรี่ย เหยี่ยว!”
(ปึงงงง)/ "---โอ๊ยยยย” พี่เหยี่ยวเพิ่งออกปากได้โหยหวนลั่นรถ
เพราะพี่เจฟฟรี่มือใบพายข้ามเบาะหลังมาโขกหัวเพื่อนใส่คอนโซลเต็มๆ
ปิดประโยคบอกเล่าไม่ได้ต่อจบ
เสียงบ่นออดแอดในรถจากพี่ต้นกับพี่มิกกี้เรื่องไม่ได้ซื้อของ ผมถึงได้โอกาสคุยกับพี่ชายตัวเอง...
“ดูหนัง?” พี่กาย
“อ่า...งั้นล่ะครับ” บังคับยกบัตรให้ข่างกับเพื่อนไปแล้ว คงไม่ได้ดูล่ะ
..............
'ข่าง! มาหากูที่พารากอนภายในหนึ่งชั่วโมงนี้ หนังฟรี 3 ที่ หาเพื่อนมาด้วย ให้ไว' ผมโทรสั่งเพื่อนแบบดิลิเวอรี่
'ทำไมต้องกูวะ!?' ข่างโวยตามสาย น่าจะถูกปลุกจากที่นอน
'เพราะบ้านมึงอยู่ใกล้สุดและมันไม่ดูหนังแบบนี้ มาทันทีนี้ข่าง ไม่งั้นกูจะใช้ไอ้ลมตามไปถีบยอดอกมึงแน่ โทษฐานใช้ให้มันดูหนังผี ลุกเร็ว!'
'โว๊ย รู้แล้ว!' ข่างโวยจริงแต่มาจริงครับไม่ต้องห่วง
แปลกมาก กับคนอื่นไม่รู้ไม่ชี้ หลบเลี่ยงไม่ทำ แต่ถ้าอ้างเป็นเรื่องของลมเหนือปุ๊บ ข่างไม่มีบิดพริ้ว
ข้อไอ้ลมไม่ดูหนังผี ไม่ฟังเรื่องเลือดสาด ไม่เสพข่าวอาชญากรรมเลวร้ายทั้งหลายทั้งปวง
เรื่องนี้พวกเราหลายคนจำขึ้นใจ
ตริ๊งงงง ไลน์เข้า...
little rabby: [ร้านไอติม ukk milk มาจ่ายด่วน!!!]
เหวย หน้าสิ่วหน้าขวานยังมีอารมณ์แวะเติมน้ำตาล ประหลาดคน อดอมยิ้มขำไม่ได้^^
“เพื่อนเหรอ?” พี่กาย
“แฟนมั้ง หน้าอย่างงี้” พี่เหยี่ยวแซวให้ได้ยิน
“อยู่ร้านไอติมกันครับ” ผมชูมือถือเชิงบอก ไม่ได้ยื่นให้ดูหน้าจอ
“มีไรโทรบอกพี่ เย็นนี้เจอกันที่บ้าน” พี่กายสรุป
“ครับ พี่ๆ หวัดดีคร้าบ” ยกมือไหว้ลา
“เจอกันเก็ท อ้อ! อย่าลืม...” พี่เหยี่ยวชู 3 นิ้ว โอ้!ช่างเสี้ยมสอนน้อง
รถแล่นจากไป เป่าปาก ฟู่! เรารอดแล้ว
ผมจำเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ค่อยได้นัก ข้อที่พี่เหยี่ยวกับลมเพื่อนรักเฉียดฉิวจะพบกัน
เพราะเมมโมรี่สมองอัดแน่นอยู่ด้วยภาพและเสียงของคนเพียงหนึ่งเดียว
ความลับลึกๆ อีกอย่างคือขณะเมื่อแรกเริ่มเรื่องที่ผมโทรหาพี่เหยี่ยว
ขอให้ช่วยเล่นหุ้นโดยผมออกทุนหลังฉาก เอากำไรที่ได้เป็นเงินค่าจ้าง 3,000 บาทให้ไอ้ลม
ระบุบอกพี่มือฉมังว่าช่วยเหลือเพื่อนคนรู้จัก ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร
เพราะถ้าแม่รู้อาจโดนด่าหูชาที่บังอาจใช้เงินเก็บของตัวเองโดยไม่บอกกล่าว
อีกข้อที่สำคัญคือ ไอ้ลมไม่ชอบคนสไตล์พี่เหยี่ยวแน่ๆ
เพราะพี่มอสม.5 เจ้าชู้เป็นไบไม่เลือกคล้ายๆ กัน เพื่อนเกลียดเข้าไส้
พี่ไอดอลของผมเทพกว่าพี่มอสเยอะ ลมสีขาวอาจไม่รับข้อเสนอผม
คนคุมความประพฤติเด็กน้อยก็จะหายไป กิดากรได้อกแตกตายน่ะซิ
หมาดๆ เมื่อกี้ มึงเอ๊ย หื่นขนาดนั้น T-T
ถ้ารู้ว่าคนที่กระทืบประตูสวรรค์ของพี่คนเก่งของผมพัง เหยี่ยวขาวได้ฆ่าลมเหนือเป็นแน่...
'อย่ากระนั้นเลย ไม่ให้รู้จักกันเป็นดีที่สุด'
ความลับที่ผมบอกตัวเองให้รูดซิปปากปิดเงียบทั้งตอนนี้และในอนาคต
......................
..........................
ร้านเครื่องดนตรี ชั้น 3 เปียโนสีดำ และนักร้องร่างเล็กกำลังขับขานบทเพลง
[คิดถึงนะ Lazy Sunday2 feat. แพรว คณิตกุล ]
http://www.youtube.com/v/8hH7blVC1fQเหม่อมองท้องฟ้า ก็เห็นเมฆลอย…คล้อยไป
ใบไม้พริ้วไหว เมื่อลมพัดแผ่วเบา ก็เหงาตาม
กลิ่นไอสายฝน ละอองพร่างพรม ชุ่มฉํ่า
เธออยู่ที่ไหน จิตใจเผลอคิดตาม คิดถึงเธอ
...
ฝนก็เทหัวใจ ก็เซ เหว่ว้านะเออ
ฟ้าฝนแกล้งกันอย่างนี้เสมอ รังแกคนเหงาทำไม
เมื่อความคิดถึง มาพร้อมกับฝน
ห่วงหาใครบางคน เมื่อฝนเป็นสาย
ไม่รู้เลยว่าเธอ ติดฝนอยู่ไหน
จะเปียกฝนหรือเปล่า กังวลอยู่นะ
ฝากความคิดถึง กลับไปกับฝน
ส่งถึงใครบางคน ให้เธอได้รู้ว่า
ให้เธอรีบกลับมา อย่าลืมว่ามีคนห่วงใย
(ลมพรมนิ้วโซโล่ ตริ้งๆๆๆๆๆ ไล่คีย์เปียโนสนุกสนาน
พี่คนขายชื่อปิยะตอกศอกใส่กลองบองโก้ เคาะรัวฝ่ามือลูกคู่รับ เราหัวเราะและยิ้มกว้าง)
***
เพลงจบ...
“วู้ววววว!”
“เฮ้ๆๆๆ วิด วิ้ววววว”
เสียงปรบมือรายรอบ ได้โค้งคำนับขอบคุณผ่านหน้ากระจกออกไป
ไม่ถึง 10 คนหรอกครับ อ้อ ที่เยี่ยมชมภายในร้าน รวมแล้วก็อาจจะ 15-20 คนได้...เวทีมินิคอนเสิร์ตของเรา
“555 หนุกๆ”
“เยสสสส!” ผมเข้าเทคมือกับเด็กน้อยและไอ้ลม
“เราเสียงสูงแล้วใสเหมือนเด็กผู้หญิงเลยนะนี่” พี่ปิยะเอ่ยปากชม
“โซปราโน่บอยพี่ ใช้ได้มั้ยเพื่อนผม” ไอ้ลมโอ่
“ใช้ได้ๆ” พี่พนักงาน 2-3 คนเข้ามาแจม
"ไปร้องวงพี่มั้ย นี่นามบัตร สนใจโทรมานะ" พี่อีกคนในร้าน
"ผมร้องไม่เก่งนะครับ" นักร้องชื่อบี
"พี่ว่าใช้ได้แล้ว เปลี่ยนใจอย่าลืมโทรมา อยากได้คนจริงๆ น้องนี่ล่ะใช่เลย"
"ไม่เก่งอ่ะ" เด็กน้อยอ้อนเพื่อนเปียโน
"ไม่หรอกนี่เจ๋งแล้ว เสียงใสดี เราชอบ" ไอ้ลมชมจริงใจ
"เพราะลมจ๋าบังคับบีนะเนี่ย" เด็กโดนชมยิ้มเขิน
"555" ได้หัวเราะร่วน
เสร็จจากซุ้มไอศกรีม พากันเดินว่อน ไอ้ลมแน่วแน่ที่ร้านหนังสือกับร้านเครื่องดนตรีหาโน้ตเปียโนใหม่ๆ
ถึงแวะเข้าร้านนี้ คุยกับผู้ดูแลถูกคอเพราะรู้จักกับรมย์-ภิรมย์เพื่อนในกลุ่ม
วงการนักดนตรีกลางคืนไม่กว้างและไม่แคบ มีชื่อให้รู้จักกันอยู่
และพี่ยะ-ปิยะ เพอร์คัสชั่นรองผู้จัดการร้านคนนี้ก็มีลูกสาวเรียน ป. 2 โรงเรียนเดียวกับกลอยใจ
ใกล้โรงเรียนมัธยมของพวกผมด้วย
สรุปเรา 3 คนเดินออกพร้อมรอยยิ้มกว้าง ไม่ได้ซื้อของอะไรติดมือ เล่นให้หายอยากแล้วจากไป
ได้นามบัตรพี่ปิยะกับงานนอกที่ร้านติดมือมาเพียบ ถ้าไอ้ลมสนใจน่ะนะ
(ของเด็กน้อยผมแอบแนบทิ้งถังขยะเรียบร้อย)
ไม่อยากบอกว่าที่ชิ่งหนีความเร็วแสงเพราะมีคนเจ๊าะแจ๊ะเด็กน้อยโซปราโน่บอยไปเล่นวงตอนกลางคืน
กิดากรไม่ยอมเด็ดขาด
ต่อด้วยร้านการ์ตูนของเล่นกับร้านซีดี แล้วก็ร้านยิบย่อยเกือบหมดห้าง
ทัวร์กินเที่ยวชอปปิ้งของจริง ถ้ามากับคนอื่น ขนาดกับพ่อและแม่คนสนิทยังไม่ให้อารมณ์เบิกบานเมามันส์ขนาดนี้
ผมไม่เคยสนุกกับการเดินห้างเท่านี้มาก่อน บอกได้แค่นั้นครับ ^^
************************TBC by puppyluv

มอร์ทของบี

กลอเรีย บีซื้อไว้กำนัลให้ข่าง (เพราะผึ้งน้อยบอกชื่เหมือนกลอยใจเลย ต้องเห็นหน้าข่างตอนยื่นให้ ^0^)

ไอ้เสือของเก็ทครับ...เจอกันวันอังคาร
