my sassy รักนี้บีบวก:ตอนพิเศษ...till we are (จบ) (1-9-2012)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: my sassy รักนี้บีบวก:ตอนพิเศษ...till we are (จบ) (1-9-2012)  (อ่าน 153073 ครั้ง)

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
 :L2:
ช่วงครึ่งหลัง บีน้อยโดนขังอยู่ในวงล้อมตลอดเลย
ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันกับเขาเลย 555
แต่ถึงยังไงก็ไม่รอดพ้นมือนายกิดากรไปได้อยู่ดีอ่ะนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-07-2012 21:21:25 โดย myapril »

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
ตามมาอ่านค่ะ..น่าสงสารบีน้อยเนอะ...โดนเจ้าเก็ทสิงตั้งแต่วันแรกเลย...
มุ่งมั่นมากเจ้าเก็ท...ขนาดยังไม่เข้าใจตัวเองยังติดเด็กน้อยซะหนึบ...
ส่วนลมจ๋า...ดูร้าย ๆ น่ากลัวนิ แต่ยังไง ๆ ก็รักลมจ๋าของบีน้อยอยู่ดี.. :กอด1:

 :L1::pig4:

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
ชอบเก็ทอ่ะ นายแน่มาก 555
บีจ๋า ก้อชอบเก็ทเหมือนกันแหละ แต่ลมดันบังตา
 :really2:

ส่วนคนชื่อหมอก คงจะชอบลม แต่หวังว่าลมคงไม่ได้คิดอะไร ^^
จำได้นะ ลมน่ะบอกปัดหมด เพราะมีคนที่ชอบอยู่แล้ว พี่เหยี่ยว!!
มันต้องมีซัมติ้ง!!

ส่วนก๊วนเพื่อน ดูวุ่นวายมาก แต่สนุก ต้องจำให้แม่นๆ 555
 :L2: :L2:


ออฟไลน์ jeeu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
เราพลาดน้องบีสามตอนเลยเหรอ
ทุบโต๊ะ ว๊ากกกกก~
บีน้อยน่ารัก เด็กหัวหน้าเส้นใหญ่เนอะ หุหุ
เก็ทเมพแท้ หลอกล่อบีน้อยซะอยู่หมัดเลย
น้องลมจ๋า มีน้องมาแจมตลอด คิดถึงนะตัวเอง
555555+++

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
my sassy! don't let it B
รักนี้บีบวก
.................
ตอน 6 บีน้อยและกลอยใจ
B's

           หลังจากเจอทับสองเดินข้ามมาวิ่งเล่นทับหนึ่งเมื่อครู่ พวกผมก็ย้ายนิวาสอยู่ในคาบวิชาต่อมา...
"เต๋า! เก็ทเข้าสาย บอกทำความเคารพกับไปเอาชีทห้องภาคก่อนเลยนะ" ทรายเข้ามาเต๋าขณะจะเริ่มคาบเรียนชีวะ
"อ้าว ทำไม เก็ทมันเป็นไร?" เต๋า
"นี่ดู! เก็ทบอกโทรเข้าไม่เต๋าไม่ได้" ทรายยื่นมือถือ ผมเห็นเต๋ารับไปเลื่อนปลายนิ้วสัมผัส
"โทษที เมื่อเช้าแบตหมดน่ะ" เต๋ายิ้มแหย
"มิน่า เก็ทเลยแมสเซสบอกเราแทน" ทรายยิ้มอีกคน

           ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะอะไรไอ้หัวหน้าห้องถึงโยนกลอง กระทั่งข้อความมาบอกเพื่อน
เมื่อครู่ลงมาจากห้องภาษาอังกฤษด้วยกันก็จริง แต่มันแวะเข้าห้องน้ำ 'ไปเยี่ยว' ตามเพื่อนสนิทเช่นลมและหมอก
ส่วนผมโดนแป๋มกับนัยประกบเข้าคู่คุยเรื่องจัดบอร์ดห้อง จึงแยกเดินมาก่อน

            ทำไมถึงเข้าสาย มีเรื่องอะไร ยังคิดไม่จบประโยคก็ได้คำเฉลยซะก่อน
"เฮ้ย! เต๋า มึงลาจารย์คาบนี้ให้ลมด้วย มันเป็นลม" เก้งพุ่งเข้ามา
'ห๊ะ! ว่าอะไรนะ' อุทานในใจ วิชานี้ให้นั่งเป็นกลุ่ม 6 คนล้อมโต๊ะแลป ผมยืนใกล้เก้าอี้ของต้นจั๋ง ถัดออกไปจากนัยคือเต๋าที่คุยกับทรายอยู่
"ว่าอะไรนะ---/ไรนะ! ใครเป็นลม" เต๋า/ทรายหันขวับ เกือบพร้อมกันประโยคเหมือนใจคิด
"ไอ้ลม ลมเหนือเป็นลม" เก้งย้ำ
"ลมน่ะนะ" ทรายยังไม่เชื่อ
"ไม่รู้ เห็นไอ้เก็ทกับหมอกช่วยกันหามไปห้องพยาบาลอยู่" เก้งคนเดิม

"เต๋ารับเลยละกัน เราไปดูลมก่อนดีกว่า" ทรายจะผละไปอีกคน
"ไม่ต้องหรอก เฟรมกับเอกมันช่วยอยู่ด้วย เดี๋ยวคงมาเองแหละ" เก้งห้าม
"แต่ว่า..." ทรายละล้าละลัง ผมก็ด้วย
"ไม่เป็นไรหรอกทราย"
"จารย์มาแล้ว! เร็วๆ เรานั่งไหนวะเก้ง" โจโจ้ซอยเท้ารี่เข้ามาพร้อมหอบกระเป๋าเพื่อนก๊วน
            เดาว่าคงโดนเฟรมกับเอกโยนมาทั้งหมดเพราะพะรุงพะรังเต็มแขน

           ความกังวลเข้าจู่โจม วันก่อนภาพลมเหนือฟุบกับโต๊ะ ทะลึ่งพรวดลุกอาละวาดตึงตัง
ขณะผมเสียงดังเข้าไปปลุกกระทันหัน แล้ววันนี้อีกล่ะ เมื่อเช้าก็สภาพซอมบี้หนักกว่าวันศุกร์ที่ผ่านมาเสียอีก
           ลมเหนือของผมเป็นอะไร ผู้ชายตัวสูงท่าทางแข็งแรงแก้มแดงเป็นสีชมพูขนาดนั้นเป็นลม
ต้องไม่ธรรมดาแน่ แต่ที่แปลกใจตัวเองไม่หายดันเกิดข้อรบกวนสมาธิเพิ่มอีกหนึ่งคือ
ไอ้หัวหน้าห้องไม่ยอมกลับมาจนกระทั่งหมดคาบ

          กูเรียนไม่รู้เรื่องเพราะมึงเลย สัดเก็ท!!! (T-T)
.......................
............................
          ตอนเย็นหลังเลิกเรียน ณ โรงยิม สนามบาสเกตบอลในร่มของโรงเรียน...
(งั่ม!) แยมโรลชิ้นโตเต็มกระพุ้งแก้ม ทั้งชิ้น ไม่ตัด ไม่บิ
(ซู๊ด!) นมสตรอเบอรี่ตามติด ความหวานละมุนจี๊ดกระจายทั่วปลายประสาท หากยังไม่ดับความรู้สึกโมโห
ที่โดนมานั่งจุ้มปุ๊กเป็นตุ๊กตากระต่ายโดนล่ามอยู่ที่นี่ได้

           ใช่แล้ว ที่นี่ ในโรงยิมบาสเกตบอลกว้างใหญ่ของโรงเรียนมัธยมแห่งนี้
ไฉนตูต้องมาหงุดหงิดงุ่นง่านแต่ผู้เดียว

            กวาดมองโดยรอบกับสภาพจราจลเล็กๆ เหล่าชะนีหลายนางน้อยใหญ่ ม.ต้น ม.ปลาย
กำลังหลุดการควบคุมจากสัญชาตญาณป่า ร้องผัวๆ ดังก้อง
"กรี๊ดดดด พี่ภู่ เท่อ่ะ!"
"ว๊ายยยย พี่โบ้"
"พี่วิน สู้ๆ"
"พี่แมว สู้ตาย"
"พี่โป๊งเหน่ง อ๊างงงง"

          เหล่าน้องนางบ้านนาชูป้ายไฟ ใส่ที่คาดสะท้อนแสง (ล้อเล่น แค่ป้องปากตะโกนครับ)
รู้ชื่อพวกพี่ๆ ชุดขาวครบทีมล่ะ ตัวจริงไล่เรียงถ้วนทั่ว แม้จะยังแยกไม่ออกว่าชื่อไหนสวมเบอร์อะไรก็ตามที
          กีฬาประเภทนี้เล่นกันทีมละ 5 คน มีหน้าที่วิ่งไล่ลูกกลม ๆ สีส้ม กระทุ้งกระดอนไปกับพื้นไม้ปาร์เก้
ไม่รวมลูกทีมสำรอง ผู้เกี่ยวข้องหรือโค้ชที่กองอยู่ข้างสนามด้านโน้นก็คือ บรรดาสาวๆ เพื่อน ๆ พี่ๆ น้องๆ
นักเรียนหญิงที่แหกปากระดับเดซิเบลท่วมจอ กระจายตัวรายรอบสแตนด์เชียร์และชิดขอบสนาม

          ได้รู้จักชื่อแซ่กันหมดทุกคนก็แบบนี้ล่ะ โดยเฉพาะไอ้ 9 คนที่อลวนชิงชัย วิ่งไล่กันไปมา
เสียงเรียกชื่อจะดังมากเป็นพิเศษ แต่มิอาจกลบเสียงรองเท้ากระทบพื้นสะท้อนก้องในอกบีน้อย
ดังเอี๊ยดๆ กระแทกเสียดรูหูยามนักกีฬาบิดตัวก้าวกระโดด

"พี่เฟรม!"
"น้องเก้ง เอาเลย!"
"พี่เอก หล่อนะค้า!"
"โจโจ้ ลุยฮ้า!"

            ส่วนอีกข้างที่สวมทับเสื้อด้วยผ้าสีม่วงเข้มก็ถูกเรียกขานเสียงดังพอกัน
ไม่ใช่พี่ ม.5 ตัวจริง แต่มันคือดรีมทีมดาวรุ่ง รุ่นใหม่ไฟแรงเข้าทดสอบความฟิต
โชว์พาวเรียกคะแนนจากโค้ชและผู้ที่เกี่ยวข้อง และทีม ม.4 ผู้เล่นคนสุดท้ายในสนามก็คือ...

"อร๊ายยยยย เก็ทได้ลูก"
"พี่เก็ทค้า 3 แต้มค่า"
"น้องเก็ทๆ ชู๊ตเลยฮ้า"

        (สวบ!) ง่ายๆ นิ่มๆ ไม่มีเช็ดแป้น ลูกสีส้มก็หายวับลงตาข่าย
ฉายภาพกราฟิคคงเป็นเส้นโค้งโปรเจคไตน์งดงามไร้ที่ติ
ไอ้คนที่ลากผมมานั่งจุ้มปุกรอที่นี่...มึงลากกูทำพรื้อ!!!

“เก็ททททททท!”
“น้องเก็ท! เยี่ยมที่สุดเลย”
“เก็ท! สุโค่ย”
“กรี๊ด เอาอีกๆๆๆ เก็ท! เก็ท! เก็ท!”
“อร๊ายยยย เก็ทๆๆๆๆ เยี่ยมที่สุด ชอบที่สุดเลย"

(งั่ม!) งับอย่างแรง กูเกลียดที่สุด

          นังชะนีพวกนี้ช่างสะกดคำว่าความอายไม่เป็นซ้ำยังตาถั่วถึงขั้น
เห็นหัวเกรียนเกรทเดนหน้าขาวตัวนั้นมีออร่าให้น่ากรี๊ดไปได้เยี่ยงไร ไม่เข้าใจ
คนหล่อนั่งอยู่นี่ว๊อย ชายตามามองกันบ้าง

(ชิ๊ง!) ง่า ไม่ใช่มึง ไอ้เด็ก ม.4 ตัวยิง 3 แต้ม ไม่ใช่มึ๊ง! ไม่ต้องหันมายักคิ้วให้
ไม่เอา ไม่หลงกลหรอก

(ซู๊ดดดดด ฟรอด!/แอ่ก แค่กๆๆๆ) อ้าว นมหมด ดูดลมเข้าคอเต็มที่
รูปหล่อก็ตัวงอสำลักสิครับ หมดกัน กำลังเก๊กอยู่เชียว
“555” ไม่ต้องมาหยุดหัวเราะ สมาธิกับเกมน่ะมีไหม
“เฮ้ย เก็ท มองไรเรา มีเหม่อๆ นะมึง” เก้งพร้อมหอบหายใจเหงื่อท่วม
“เยี่ยม! เหลือแต้มเดียวล่ะ” เฟรมปรบมือปลุกเร้า เปลี่ยนเป็นคนละคน
            ทำเกมดุดันทว่ามีชีวิตชีวา เป็นผู้นำ ผิดมาดแบดบอยเคร่งขรึม เฉยชาตามปกติ
ยกให้เป็นแมนออฟเดอะแมทช์ของวันนี้ยังได้
..................

            เสียงรองเท้าลั่นเอี๊ยดอ๊าดกระทบพื้นไม้ต่อไปและต่อไป
พร้อมๆ กับเสียงกรี๊ดกร๊าดผสมเสียงฮือฮาจากเหล่าชายไทยใจกล้าจากชมรมฟุตบอล
ด้วยหิ้วสตั๊ดและลูกหนังมากองเป็นพร็อพประกอบ ลิ่วล้อบางคนมีแตรพลาสติกเป่าดังแปร๋นๆ
บ้างเคาะขวดน้ำพลาสติกรัวอยู่ติดสแตนด์ฝั่งตรงกันข้ามด้านโน้น
          ผมจำเต๋ากับข่าง นัยและเพื่อนคุ้นหน้าห้อง 2 บางคนได้
"โย่วววว 3 แต้ม โว๊ย!"
"ไอ้เก็ทเพื่อนกูเอง 555"

          พวกนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้มองเกมการแข่งขันสักเท่าใดนักหรอก
จับจ้องบรรดาสาวๆ ฝั่งตรงข้ามมากกว่า
          จะมีก็คนตัวใหญ่ดำทะมึนนั่งอยู่แถวบนสุด ริมสุดคนเดียวที่โดดเด่นด้วยนั่งวางศอกกับหัวเข่า
ลำตัวโน้มมาข้างหน้า สายตาจับจ้องนิ่งเล็งตัวกัปตันบาสเกตบอลแน่วแน่ทุกครั้งที่ปรายตาไปเห็น

          คงเป็น 'พี่ยักษ์-พยัคฆ์' คู่ปรับกลายๆ ของ 'พี่ภู่-ภูวนัย' แน่นอน
กัปตันต่อกัปตัน
ศึกช้างชนช้าง...บีกัดของกินต่อดีกว่า เรื่องของเขา เราเป็นน้องใหม่ไม่ควรยุ่งเกี่ยว
            แต่หุ่นให้ ซ้ำหน้าตาคมคายแบบนี้ บีขอเป็นแฟนคลับหน่อยนะครับ
โบกพู่สีชมพูกระจาย วิด วิ๊วววว!!!
...............
..................
          (ปรี้ดดดดดด!) นกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน
"พักได้! อีก 10 นาทีทีม ม.ต้น เข้าทดสอบความฟิต เอา ม.2 ก่อน" อาจารย์หัวหน้าโค้ชป่าวประกาศ สกอร์บอร์ดบอกคะแนน 20-17 ทีมพี่ตัวจริงชนะ 3 แต้ม คงเป็นลูกที่พี่ภู่เลย์อัพลงใต้แป้นเมื่อครู่
"วู๊ววววว!"
"จบซะเกือบขาด!"
"เฮ้ย! เก็ท มึงน่าจะตามบี้อีกหน่อยว่ะ"
"ยอมได้ไงวะ ตุ๊ดนะมึงน่ะ"

           เสียงกระหึ่มจากฝั่งโน้น ผู้ชายลูกหนังทยอยเดินออก ทีมบาสเกตบอลรามือ
พี่ภู่ก็เข้ากลุ่มรับแตะมือ เทคไหล่เทคศอกยินดีกับเพื่อนๆ น้องๆ ในทีมตามระเบียบ
แต่ที่ผมแอบเห็นกับตาตัวเองแว๊บๆ ขณะสิ้นเสียงนกหวีด
 กัปตันสองคนปะทะสายตาชิ้งชั้งแวบเดียวก่อนพี่ยักษ์จะหันหลังพ้นประตู

           เหอๆ 'กำลังใจแบบเชรี่ยๆ' ประโยคของเฟรมดังขึ้นมาในหัวอย่างช่วยไม่ได้
..................

          กำลังเหม่อปนขึ้งเล็กๆ มันก็มาแล้วครับ วิ่งเหยาะๆ แยกจากกลุ่มมาหาผมที่นั่งใกล้แป้น
ติดทางเข้าห้องพักนักกีฬา ฝั่งเดียวกับเหล่าชะนี โชคดีที่อยู่คนละด้าน ไม่อย่างนั้นคงหูแตกไปข้าง

"รอนี่ คลูดาวน์เสร็จ อาบน้ำแป๊บเดียวก็ได้กลับล่ะ" ว่าพร้อมหอบ เหงื่อซก
"อือ..." พยักหน้ารับส่งๆ ผมหลบวูบกลั้นอาการร้อนที่ใบหน้า สภาพฟีโรโมนแมนเกินพิกัด ถล่มความหล่อของบีน้อยหายวับ (T^T)
"เก็ท! เอาน้ำอะไร พี่ภู่เลี้ยง" เก้งชูน้ำดื่มเกลือแร่สีเหลืองเย็นเฉียบ
"เออๆ ไว้ก่อน"
"จารย์โค้ชรวมพลก่อน มาเร็ว" พี่ภู่ร้องเรียกให้เข้าพวก
ผมได้แต่นั่งรอ ของกินหมดหน้าตักล่ะ ลูกชิ้น ขนมหวานถุงเกลื่อน จับยัดรวมกันทิ้งลวกๆ ประมาณข้าพเจ้าเซ็งตัวเองอย่างแรง

          สดับเสียงยังคงหวีดร้องดังต่อเนื่องเล็กน้อยพองาม อารมณ์ประมาณ
เรียกหาเหล่าซุปเปอร์สตาร์เวลาหลังลงจากเวที เพื่อล่าลายเซนต์เก็บไว้เป็นที่ระลึก
แต่ได้ข่าวว่านี่แค่คัดตัวเป็นการภายในมิใช่รึ ไม่ใช่มหกรรมทางการกีฬาแห่งชาติซะหน่อย

"พี่ภู่ๆ ทางนี้หน่อยค่า!"
"พี่วิน อร้ายยยย!"
"พี่โป๊งเหน่ง สุดยอดเลยพี่!"
"พี่แมว สู้ๆ หนูรออยู่นะค้า!" เหล่าหญิงๆ
"เฟรมๆๆๆ เท่อ่ะ แอร๊ยยยยย!"
"กรี๊ดดดด เก็ท เค้าชอบตัวเองแหล่ะฮ้า รอหลังไมค์นะฮ้า" ชายไม่จริงชัวร์

          ลุกตึงตังทันที หงุดหงิดตัวเองเกินทน พลันเสียงดังย้อนมาจากคนเดินผละไปเมื่อครู่...
"ไปไหน บอกให้รอนี่ไง!"
"ไปเยี่ยว"
"ใช้ในห้องนักกีฬาก็ได้"
"ไม่เอา จะไปข้างนอก"
"ได้ รีบกลับมาล่ะ" มันอนุญาต
"เอ้อ!" นี่ต้องขอก่อนด้วยหรือวะ ผมเหลืออด ไม่ใช่กับมัน กับตัวเองต่างหาก

         ทำไมยังนั่งเป็นแม่สายบัวรอเก้ออยู่ที่นี่อีก เพราะอะไรกัน งื้อ!!! บีไม่เข้าใจ
...................
.....................

          พุ่งหลุดถึงประตูรั้วโรงเรียนด้านข้าง ทางออกพิเศษเปิดเฉพาะเลิกเรียนช่วงเย็น
เพราะประตูด้านหน้าทางเข้าหลักจอแจเหลือหลาย
รถเข็นขายลูกชิ้น ขนม ของหวานนานาชนิดจอดเรียงเป็นพรืดอีกด้านถัดจากบรรดารถของท่านๆ
ผู้ปกครองรอรับลูกหลานนักเรียน ก้าวเร็วไปร้านสะดวกซื้อ เซเว่น-11 อยู่สุดด้านโน้น
กั้นกลางระหว่างมัธยมและประถม เห็นท่ารถสองแถวจอดรออยู่ 3-4 สายฝั่งตรงกันข้าม

            (ปึก!) หน้าปะทะปึงแผ่นหลังนักเรียนตัวสูงที่กำลังจะข้ามถนน
"โอ๊ะ ขอโทษ/---ขอโทษครับ" ผมกับคนนั้น
"อ้าว บี!"
"อ้าว ลม!" ผมเหวอ
"บีมาถึงนี่ จะเข้าเซเว่นเหรอ?" ลมถามผม

          ใบหน้าสดใสไม่มีเค้าซอมบี้เหมือนก่อนเป็นลม คงเพราะนอนเต็มอิ่มตลอดภาคเช้า
บ่ายมามีพรีเทสต์สอบย่อยวัดความเข้าใจก่อนเกือบทุกวิชา นั่งแยกกันตลอดบ่ายไม่ได้คุยเป็นชิ้นเป็นอัน
ที่บอกเชิงสั่งขณะหมดชั่วโมงเรียน ลากผมไปนั่งจุ้มปุกรอ
 'ไปดูแข่งคัดตัวบาสก่อน จะเล่าเรื่องไอ้ลมให้ฟังตอนกลับ' นาทีนี้จะได้เฉลยกันล่ะ

           เหอะ ไม่ต้องรอมึงกูก็ได้พบกับเทพยดาของกูแล้วโว๊ย ไอ้เก็ท! ผมกระหยิ่ม

"อ๋อใช่ เซเว่น แล้วลมไหงมาอยู่นี่ล่ะ?" ผม
"รอสองแถวลัดเข้าซอย รถเมล์มันอ้อมวิ่งถนนใหญ่เส้นโน้น ช้าเป็นชั่วโมง รถติดน่ะ"
"อืม แม่ก็บอกให้มาดูแถวนี้เหมือนกัน"
"บีไม่กลับกับเก็ทล่ะ มันใช้เส้นนี้ประจำ เลี้ยวขวาไฟแดงข้างหน้าก็เป็นทางคู่ขนานถนนใหญ่ ลัดไปทะลุหน้าบ้านบีได้ รถวิ่งได้เรื่อยๆ ไม่ติดหรอก" ลมมีน้ำใจเล่ายาว
"รู้แล้ว วันก่อนพามารอบ แต่จำไม่ได้" วันศุกร์มันก็พามา ฟังอธิบายเส้นทางผ่านๆ แต่จำไม่ได้อยู่ดี

           ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์กับทิวากรถือเป็นเรื่องสุดโต่ง ไม่มีเมมโมรี่ส่วนนี้ในหยักสมองครับ
นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นหลง อย่าให้เป็นเนวิเกเตอร์ที่กรุงเทพมหานครนี่เชียว แค่พัทยายังเอาตัวไม่รอด

"ไปก่อนนะ พรุ่งนี้เจอ---" ลมเหนือทำล่าจะลาจาก
"ลม!" ผมเผลอยื่นมือคว้า อีกฝ่ายวูบขยับหลบ ปลายมือปะทะกระเป๋าเป้เจ้าหญิงบาร์บี้สีชมพูที่แขวนอุ้มอยู่ด้านหน้าตัวของเพื่อนพอดี
"บีมีไร?"
"พี่ลมขา!" เสียงหวานใสแจ๋วแทรกระหว่างเรา

          ก้มลงมองถึงพบเด็กผู้หญิงน้อยตัวจ้อย ดวงตาสองชั้นกลมโตหน้าตาสวยหวานออกแขก
เส้นผมขอดหยิกโค้งเป็นวง มัดแกละสูงผูกโบสีชมพูสองข้าง

"เอ่อ..." เหวอกับอาคันตุกะตัวเล็กจิ๋ว กว่านั้นคือมือด้านนั้นของลมเหนือจับแน่นอยู่กับมือเด็ก ไหนว่าไม่ชอบการสัมผัสถูกตัวผู้คน
"กลอยใจครับ อยู่บนฟุตบาทก่อนนะ" ลมก้มไปดันร่างเด็กไม่ให้ก้าวลงทางม้าลายที่ระดับถนน
"นี่ใครเหรอคะ?" ถามเหมือนใจพี่เลยหนูจ๋า
"ลูกใครอ่ะ ลม"
"อะแฮ่ม! ขอแนะนำให้รู้จักสาวน้อยผู้น่ารักที่สุด สดใสที่สุดใช่ไหมเอ่ย"
"ที่สุดค่า"

"ชื่ออะไรครับ บอกเพื่อนพี่ลมหน่อยเร้ว"
"กลอยใจค่า ฮิฮิ" ยิ้มแฉ่งฟันหลอ 2 ซี่
"อ่า ครับ" ผมยิ้มกว้าง
"กลอยใจนี่พี่บีนะครับ พี่บีเรียนห้องเดียวกันกับพี่ลม หวัดดีค่ะพี่บียัง"
"ซา-หวัด-ดี-ค่า พี่บี!" เด็กหญิงละมือจากลมเหนือมาพนมไหว้ ย่อตัวจึ๊กเล็กๆ น่ารัก จะไม่น่าเอ็นดูเพราะประโยคต่อไปนี้...
"กลอยใจ...เด็กผมเอง" รอยยิ้มกว้างฟันขาวเป็นระเบียบพร้อมกับเส้นขนตาปิดหนาเป็นแพคล้ายหลับตาลงเฉยๆ

           เง้อ!!! บีตาโตเท่าล้อรถสองแถว อีเด็กกระโปรงแดงอนุบาล 3 นี่นะเด็กของลมเหนือ ต้องเลี้ยงต้อยกันกี่ปีเข้าไปล่ะ
นอกจากเป็นเสือไบแล้วยังโลลิค่อนอีก แถมดำมิดเห็นแค่ตาขาวเยี่ยงนี้...
ตายๆๆ ตายแน่ๆ สู้เด็กได้ฉะได บีแซดหยั่งแรง TT^TT
.....................
........................

"อยู่นี่เอง ไปอยู่ไหนมา!?"
"..." วูบบบบบ ตัดกลับมาฉากปัจจุบัน ณ บัดนาว

          ไม่อยากเจอหน้ามันเลยว๊อย ไอ้กิดากร ไอ้คนที่ผมไม่ควรข้องแวะเป็นอย่างยิ่ง

"ตามหาซะทั่ว ไหนว่าเข้าห้องน้ำไง ไปถึงไหน?" ยังอีก เป่าลมใส่เสื้อบาสเหม็นเหงื่อเปียกซกต่างหาก
"อื๋ย!" ผมเบ้หน้าหนี
"กลับเลยละกัน เรียบร้อยแล้วใช่ไหม"
"หะ เหรอ...เออๆ" ผมกระชากวิญญาณกลับร่าง เพิ่งรู้ตัวว่ายืนอยู่ลานนนทรี ด้านหน้าทางเข้าโรงยิมบาสเกตบอล

"เป็นไรรึเปล่า ท้องเสีย ไม่สบาย?" ไม่พูดเปล่า มือใหญ่จับบ่า อีกข้างเชยคางบิดดูหน้าตาตรวจคนไข้
"ปล๊าว!" ได้ตาตื่น
"แน่นะ แล้วไปถึงไหนมา"
"เซเว่น"
"อ๋อ ซื้ออะไร นมเหรอ?"
"เออ งั้นแหล่ะ" ผมสมอ้างทั้งที่ในมือไม่อะไรทั้งสิ้น

          มันเป็นมิวแต้นท์มีตาที่ 3 บนหน้าผากเป็นเนตรทิพย์ หรือบีน้อยมีกิจวัตรประจำให้จับได้หว่า
สนใจอะไรกันมากมายวะ

"ทีหลังดูร้านน้ำแคนทีนก่อน ไม่มีก็หยอดตู้ตรงป้อมยามนั่นก็ได้ ไม่ต้องออกไปถึงเซเว่น เคยบอกแล้วไง"
"อือ..." ผมรับคำทั้งที่ยังมึนค้างจากหน้าประถมอยู่
"ที่อือนี่ฟังกันรึเปล่า"
"ฟัง!" ผมขุ่น
"งั้นก็น่า---/โว๊ย! มึงจะเอาไงกะกูเนี่ย"
"..."
"มันจะมากไปแล้วนะ กูไม่ใช่เด็ก จะได้---!" ผมหลุดตะโกนแล้วเงียบค้างแค่นั้น
          เพราะจากหน้าแดงพราวเม็ดเหงื่อ กลายเป็นซีดขาว ชะงักนิ่งงันในทันที

          ตายแน่ๆ บีตายจริงๆ แน่แท้ ไม่เด๊ดสะมอเร่ตอนนี้แล้วจะโดนบั่นคอตอนไหนอีก
เป็นครั้งแรกที่เรียกสรรพนามแทนตัวก็ดันขึ้นมึง-กู
(>.<) หลับตาปี๋ เกร็งร่างกายรอการประทุษร้าย
           นานจนสำเหนียกความผิดปกติ ค่อยหยีตาขึ้นมองทีละข้าง มันหันหน้าหนีไม่ได้สบตา
 ยืนบื้อเป็นซากนิ่ง ก้มหน้าลงก็เห็นแค่มือหมัดกำแน่นขึ้นข้อขาว

"...ขอโทษ"

         แผ่วเบาเกินไป
         เศร้าสร้อยเกินไป
         และเจ็บปวดเกินไป

          คำ 'ขอโทษ' ที่ได้ยินดังก้องอยู่ข้างใน ก้อนเนื้อหน้าอกปวดหนึบอย่างไม่เคยเป็นในชั่วชีวิต
ไม่คาดฝันว่าจะมีความรู้สึกเช่นนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง
          ร่างสูงในชุดนักกีฬากำลังจะหมุนกายจากไป ผมวูบดิ่งลงเหว เสื้อกางเกงชุดเปียกชื้น
เหงื่อซกมากกว่าเดิมเกินกว่าในสนาม ไม่ได้อาบน้ำทั้งที่บอกปาวๆ จะจัดการตัวเองก่อน
รู้ว่าผมไม่ได้เข้าห้องน้ำที่นี่ เดาถูกว่าไปร้านสดวกซื้อข้างนอก ไม่แน่ว่าบริเวณใกล้เคียงโดยรอบอาจถูกค้นหาจนเกลี้ยง
เพียงเท่านี้ความรู้สึกภายในก็ท่วมท้น

           แต่เขากำลังจะหันหลังหนีจากผมไป...
"เก็ท!" ร่างกายไวกว่าใจ คว้าชายเสื้อชื้นติดปลายมือขณะสุดเอื้อมพอดี
"..." ตัวสูงแค่หยุด ไม่ได้หันมา
"ขอโทษ แค่..."  ผมเบาเท่าใจ
"ไม่เป็นไร บีไม่ต้องขอโทษหรอก ผมต่างหาก---/รถบ้านมาถึงยัง!" โพล่งตัดบทเร็วไม่รอจบประโยค
           ไม่อยากได้ยินอะไรคล้ายสั่งลา ไม่เอา ไม่ต้องการ อย่าทิ้งกันง่ายๆ แบบนี้

           เป็นครั้งแรกที่ได้ยินชื่อ 'บี' จากปาก นุ่มนวล อ่อนโยนมากกว่าใครๆ แถมใจเต้นแรงมากกว่าทุกครั้ง

"...อีกครึ่งชั่วโมงได้มั้ง"
"ก็ดี" ผม
"จะกลับก่อนไหม ไปเลยก็ได้...ไม่ต้องรอ" คนพูดยังไม่หันมาหาอีกแน่ะ
"ไม่เอา รอกลับพร้อมกันดีกว่า"
"..." อีกฝ่ายเงียบ ผมเป็นฝ่ายก้าวไปข้างหน้า ดักทางไว้เสร็จไม่ยอมให้หลบหนีไปไหน

"จะรอ ไม่หนีไปไหนแล้ว" ตัดสินใจ
"..."
"นะ ไปอาบน้ำก่อน" ช้อนสายตาขึ้นมอง
"..."
"...ขอกลับด้วยคน"

            อีกคนยังนิ่งงันทว่าใบหน้าเริ่มกลับมามีสีสันแห่งชีวิต
ผมเริ่มออกเดินนำหน้า ดึงชายเสื้อตำแหน่งเดิมลากติดมือให้ร่างสูงก้าวตาม...ไม่กล้าหันไปสบตา


*************************TBC by puppyluv
***myapril โอ๋ๆๆๆ ช้าๆ ใจเย็นๆ ^^
***aorpp พยายามแก้ให้แล้ว ขอบคุณมาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-07-2012 09:01:51 โดย puppyluv »

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
 :L2: :L2: จิ้มไว้ก่อนะคะ เด๋วเม้นต์ไม่ทันอีกอ่ะ

แหม ก็เก็ทเขาเป็นห่วงซะขนาดนั้น บีน้อยจ๋า
ประมาณว่าอยากให้อยู่ในสายตาตลอดเวลาได้ยิ่งดีล่ะนะ^^
แต่บีน้อยขึ้นเสียงใส่เหมือนรำคาญกัน
นี่ก็ทำร้ายความรู้สึกได้ดีเกินคาด เง้อออ

ปอลอ จิ้มจองเวาลาทำงาน แล้วตามเม้นต์ช่วงพักค่ะ 5555


จัดบวกกันเบาๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2012 07:37:28 โดย myapril »

ออฟไลน์ jeeu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
บีน้อย ว่าพี่เก็ททำไมอ่ะ พี่เก็ทเสียใจนะ
แต่น้องก็ง้อแล้วนี่เนอะ
บีน้อย แคร์พี่เก็ทมากเลยน๊าาา กิ้วๆ

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
โถๆๆๆๆ น้องเก็ทของพี่น่าสงสาร
 :sad4:
น้องบีอย่าใจร้ายกับเก็ทนักซี่
เก็ทก็แค่เป็นห่วงหนูเฉยๆ
ดีกันเร็วๆนะจ้ะ
 :impress:

 :กอด1: เก็ทกับบีแน่นๆ
 :กอด1: puppyluv ด้วยนะค้า

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
หนูบีน่ารักมาก  รู้จักง้อแล้ว

เอาน่ายอมๆเกทไปเถอะ  แม้จะเผด็จการกลายๆ

บวกเป็ด

ออฟไลน์ eaey

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 280
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-0
บีน้อยคิดเอง เออเอง :m20:ตลกดี

ว่าแต่"จะรอ ไม่หนีไปไหนแล้ว"จริงๆนะ :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
อ้างถึง
***aorpp พยายามแก้ให้แล้ว ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ
               ไว้ติดตรงไหนบอกอีกนะ ขอบคุณมั่กมาก^^

อ้างถึง
***aorpp พยายามแก้ให้แล้ว ขอบคุณมาก

 :-[ แอ๊งค์ เค้าแอบเขิลอ่ะ
แต่กลับไปอ่านอีกรอบแล้ว เข้าใจได้ลึกซึ้งกว่าเดิมจริงๆ ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆนะคะ จ๊วบบบบ ดีฟคิส

เก็ทเนี่ยแรงจัดชัดทั่วไทยกับบีน้อยตั้งแต่แรกเลยน้า
+1  :กอด1:

ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4
อ๊าคคคคคคคคทำไมไม่ทันเห็นว่าเอาน้องลมบีเก็ทมาลงให้แล้ว :z3:ยังมีหน้าไปทวงเค้าอีก อายจัง :o8:แต่ในที่สุดก็ได้อ่านถึงจะช้าไปหลายตอนเลยก็เถอะ ไม่เป็นไรต่อไปจะเข้ามาส่องทู้กกกกกกวันเลยค่า :กอด1:
Ps.เก็ทเผด็จการกะบีน้อยมากไประวังโดนเอาคืนทีหลังนะเออ :laugh:

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
ไอย๊ะ นี่บีชอบลมหรอกเหรอเนี่ย
แล้วหมอกคือใครกัน

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
 :laugh: บีน้อยท่าทางจะสับสนในตัวเอง

 :กอด1: มาไว ชอบๆ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เก็ทดีที่สุดแล้วสำหรับบี มองได้ จับต้องได้ ด่าได้...อิอิ

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ปากบีน้อ

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
ลมเหนือเลี้ยงต้อยยยยยย  :m20:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
นู๋บีง่ะว่าเก็ทแบบนี้
ก็น้อยใจแย่แต่ดีนะ
ที่ง้อแล้วให้อภัย :กอด1:

pahpai

  • บุคคลทั่วไป
บีน้อยเครียดละสิเนี่ย หลุดปากเลย

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
  "จะรอ ไม่หนีไปไหนแล้ว" พูดแล้วห้ามคืนคำนะหนูบี



 :กอด1: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1

บี เจ้าชู้หรือเปล่านี่ เหมือนจะนะคะ ฮ่าๆๆๆ o22
จริงๆ น่าจะชอบเก็ทพร้อมๆ กับที่ชอบลมแหละ
เพียงแต่ลมเหนือน่ะเทพยดา ใครเห็นก้อชอบก้อติดใจไปหมด

ส่วนเด็กน้อยคนนั้น เพราะลมรับงานเลี้ยงเด็กหรือเปล่า
แต่ฮากับบีแซ่ดอย่างแรง บรรยายได้มันมากๆ

ส่วนพี่เก็ท เอาใจไปเลย กับการแสดงออกที่จริงจังมาก
ชอบปู้จายขี้หวง  :man1:

สนุกมากค่ะ
:กอด1:


ออฟไลน์ nokkie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-0
ว้าว ว้าว เพิ่งเห็นบีน้อยยยย

บีน้อยนี่แสบเหมือนเดิมเลย ^^ เก็ทเริ่มต้นมาก็บังคับบีน้อยซะละ บีน้อยจัดเต็มเก็ทให้เต็มที่เลยน้าาา

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
My sassy, don’t let it be!
รักนี้บีบวก
................
ตอน 7 กับพี่กาย
Get’s
     
          (ตุบ!) โยนถุงทุกอย่างลงโต๊ะ
          (โครม!) ถีบเก้าอี้หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ล้มครืน
“ฮื่ย!” หงุดหงิดตัวเองไม่หาย

          แผ่หลาพาดกลางเตียง กางแขนขาเต็มที่ (ตุ่บๆๆๆ) ทุบกำปั้นกับฟูกนุ่ม
สายตาทอดมองเพดานเริ่มอ่อนแสงลง ความกริ้วโกรธ โมโหอ่อนคลายเพราะชายผ้าม่านโปร่งบางสีขาวพริ้วเบาๆ เล่นลม
          สายลม
         ไอ้ลม...ลมเหนือ
          จะจัดการยังไงกับมึงดี นั่นไว้ทีหลังก็ได้ ข่าวล่าจากปากเด็กน้อยต่างหากที่ทำผมฉิว
อ่อนข้อให้เพราะปลายมือที่ยื่นจับชายเสื้อ
ตามต้อยเพราะแรงดึงรั้งเบาๆ แค่นั้น

‘ว่าง่ายเป็นหมาเลย เก็ทเฮ้ย’ หลับตา ด่าตัวเองในใจ
          ง่ายดายอย่างนั้นเชียวหรือ
เราเป็นอะไรกันแน่

          อยู่แล้วว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีไอ้ลมเพื่อนรักเข้ามาตัวติดกันเมื่อไร
เสียงซุบซิบหนาหูว่าคู่เกย์ ชายรักชายชวนจิ้นก็ตามมาถล่มทลายยิ่งกว่าพายุไซโคลนพัดถล่ม
แต่โคมลอยเหล่านั้นกลับไม่เคยสะกิดเปลือกใจเลยสักครั้งเดียว
เพื่อนตัวบ้ายังกอดคอ ขี่หลัง แกล้งวอแวอ้อล้อใส่หน้าพวกช่างนินทาเหล่านั้น
เชิงประชดเชิงหยอกเล่นนัวเนียตอบกลับด้วยกัน ซ้ำเติมอีกต่างหาก

‘กูก็เอากะมันด้วย’

          เพราะไม่ได้เป็นตามคำนินทาแล้วจะกลัวอะไร พ่อแม่ยังรู้เรื่อง แม่เคยตามไอ้ลมเข้าพบ
ด้วยแม่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการชมรมศิษย์เก่าของโรงเรียน เรื่องเกี่ยวกับลูกชายคนเล็ก
สุดรักสุดหวงคนนี้บุพการีของผมไม่มีตกข่าว
          รับรู้และเข้าใจถ่องแท้ถึงความสัมพันธ์ฉันมิตรกับเพื่อนสนิทชื่อลมเหนือดี
กระทั่งเคยตามไปถึงบ้าน เจอแม่ผู้แสนคิกขุของมันมาแล้วด้วย

‘คบกันได้ เพื่อนคนนี้แม่อนุญาต แต่มีอะไรต้องบอกแม่นะ’ ท่าน ผบ.ทบ. แม่ทัพใหญ่ของบ้านอนุญาต
ส่วนพ่อรึจะกล้าหือ ไม่เคยเจอหน้าไอ้ลมแต่มีโน้ตดนตรีไปฝาก
เพราะผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการคือแม่ไฟเขียว ไม่เคยมีปัญหาใดๆ

           เรื่องไอ้ลมฉลุย ถึงชนักติดหลังว่ามันเป็นเกย์ท่วมท้นจะกระเซ็นมาเปื้อนผมบ้าง
ในบางครั้ง บางจังหวะก็เถอะ
           ที่โมโหไม่ใช่เรื่องนั้นสักน้อย ไพล่คิดนอกเรื่องไปได้อย่างไร
...............

          ทำไมถึงกังวลกับประโยคเจื้อแจ้วของเด็กชายตัวเตี้ย ร่างเล็กกว่าผมหลายเท่าขณะนั่งมาด้วยกันในรถ...
“ลมมีเด็กล่ะ เมื่อกี้ไปเซเว่น เจอจับมือกันด้วย”
“ห๊ะ!?”
“อกหักดังเป๊าะเลยเรา”
“อะไรนะ!?” ถึงขนาดอกหักเลยเหรอ มันจะมีอิทธิพลเกินไปล่ะ ลมเหนือ
           คิดในใจถึงขั้นที่ว่า กูควรคบกับมันต่อดีไหม

“เป๊าะๆๆๆ ตั้งหลายทีแน่ะ ไม่เคยเป็นรึไง” ยังยื่นปากแดงๆ มาย้อนถาม
“ไม่...ไม่เคย” โดนน็อคดื้อๆ ทำเอาชะงักเงอะงะตัวเอง
“กูว่าแหละ ไม่สูงชะโลดตูดปอดให้มันรู้ไปสิ” งุบงิบกับตัวเอง ค้อนด้วยนะนั่น
“อ้าว หล่อก็ผิดด้วย หึหึ” ผมฟูฟ่อง
“เออสิ ผิดมาก อยู่แถวบ้านจะโบกให้” มีเก่งกล้า
“สูงเน๊าะ อย่างเราคงโบกถึง”
“เฮอะ! ดูถูก” เด็กน้อยค้อนควับอย่างแรง สะบัดหนีคอแทบหัก
“555”

           ผมหลากอารมณ์กลับไปกลับมาในอกจนกลั้นขำไม่ไหว
จู่ๆ ก็นึกอยากขย้ำให้จมเขี้ยว ขึ้นกูมึงครั้งเดียวเปิดใจคุยจ้อยๆ ในรถเฉย
บินตามผึ้งน้อยตัวนี้ไม่ทันเอาจริงๆ
...................

"รู้เปล่าว่าเด็กของลมเป็นผู้หญิง หน้าสวยมั่กมาก โบชมพู อยู่ห้องดอกชวนชม กระโปรงแดงตัวเล็กๆ น่ารักค่อด"
"หือ?" ใช่สาวลูกครึ่งอินเดียที่บอกกระมัง
"อนุบาล 3 ได้"
"เฮ้ย!" ผมเหวอ ผู้หญิงคนที่ว่าสามารถดลบันดาลให้เพื่อนเหาะไปรับคือเพศหญิง อายุไม่ถึง 6 ขวบเองรึนี่ งงเต๊ก
"นี่ๆๆๆ ลมชอบเลี้ยงต้อยเหรอ ชอบกินเด็กตัวดำๆ มากใช่ปะ" ตาแป๋วแหววชะโงกข้ามเบาะมาหาผม
"..." เอิ่ม เก็ทอึ้ง-ทึ่ง-เสียว
          ข่าวไอ้ลมกินเด็ก ชอบเลี้ยงต้อยเด็กผู้หญิงไม่น่าแปลกอะไร มันเป็นคนไม่เหมือนใคร
มีความคิดประหลาดไม่มีใครเหมือน (ในบางข้อ) แต่ใกล้ชิดขณะนี้คือปากอิ่มแดงสีเชอรี่
กลิ่นพายบลูเบอรี่ยังตามติดจมูก หอมหวานน่ากินเกินห้ามใจ จะอดไม่ไหว

          โอ๊ย ไฟฟ้าลัดวงจรแล่นแปลบไปทั่ว หายใจลึกๆ เก็ทเอ๋ย

"ใช่ไหมเล่า ถามอยู่นะ" เอาแต่ใจจริง
"ก็...คงงั้นมั้ง" ผมอ้อมแอ้ม
"จริงเหรอ?"
"ไม่รู้!" เผลอเสียงดัง ยกแขนบังหน้าเสมองวิวนอกกระจก ลุงคนขับกระแอมขยับตัว นึกรู้ว่ามีบุคคลที่สามนั่งอยู่ด้วย
"...อยากเป็นเด็ก ตัวเล็กๆ แบบนั้นบ้างจัง" อุบอิบกับตัวเองอีกล่ะ
         เหลือบชำเลืองมอง นี่ยังไม่ตัวเล็กน่ารักอีกหรือ
ผมก็บ้า เห็นเด็กผู้ชายอายุเท่ากันน่ารัก น่าหลงไหล คิดไกลเกินกว่าเพื่อนไปได้

          ยกมือลูบคางบังใบหน้า อาการออกร้อนถึงหูจนรู้สึกผิด
ขนาดกับไอ้ลมร่างสวยดั่งเทพยังไม่เผลอใจถึงขั้นนี้

          พับผ่าเถอะ เสกหนังควายเข้าท้องกูหรือยังไงวะะ เด็กนรก!!!
...............

         เรื่องเพื่อนยังครองเส้นสมองจนได้กดโทรศัพท์หาหลังจากเข้าบ้านแล้ว...
อีก 20 นาทีจะหนึ่งทุ่ม กดโทรออก
"ไงเก็ท มีไร?" ลมเหนือรับสาย มีเสียงเคร้งคร้างและเสียงรถยนต์วิ่งประกอบฉาก มันไม่อยู่ในบ้าน
"มึงอยู่ไหนวะ?"
"ห้องแถว หน้าหมู่บ้านกู"
"มึงยังรับจ๊อบอยู่เหรอวะ!" ผมวูบ
"เออ ที่เล่าให้ฟังนั่นล่ะ"
"กูบอกไม่ให้มึงทำไง มันดึก เลยเวลานอน ได้เป็นลม ไม่สบายเหมือนวันก่อนหรอก" ผมโวย
"กูต้องใช้เงินไง บอกมึงแล้ว!" ปลายสายก็เสียงดังกลับ น้อยครั้งที่ไอ้ลมจะเป็นอย่างนี้
"..." ได้แต่บีบขมับ

          คราวซวยของเพื่อน แม่เผลอใจอ่อนลงลายมือเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้
ลูกหนี้หนีหน้าแม่มันจึงต้องรับเคราะห์ เอาบ้านและที่ดินเข้าจำนองกับธนาคาร
ส่งจริงๆ เดือนละพันกว่าบาทไม่ถึงสองพันแต่ลมเหนือรับปากช่วยแม่หาเงินส่งบ้าน
รับผิดชอบค่าน้ำค่าไฟเอง ตั้งเป้าไว้อย่างน้อย 3,000 บาท/เดือน
เมื่อวันก่อนที่เป็นลมถึงรู้ความจริง ผมบังคับหักคอโอนเข้าบัญชีถึงยินยอม
            ว่ากันตามจริง เงินจำนวนแค่นี้มันหาได้สบายมาก อาจได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ
เพื่อนเก่งเรื่องการแสดงบนเวที หลักๆ ก็ฟ้อนรำ เล่นคีย์บอร์ดตามงาน รับจ๊อบเป็นคู่เต้นลีลาศกับป้าๆ
สอนการบ้านหรืออยู่เป็นเพื่อนเด็กเล็ก หากินแค่ตอนเย็นกับเสาร์-อาทิตย์ก็เหลือแหล่
แต่เพราะตั้งเป้าบีบตัวเองจึงเครียดอย่างช่วยไม่ได้

           เอาอะไรกับเด็ก ม.4 ขนาดผมยังรู้สึกว่าตัวเองคงทำไม่ได้เท่ามันแน่ๆ

"กูดูแลตัวเองได้เก็ท ไม่ต้องห่วง"
          แต่กูห่วงมึงว๊อย รูทีนชีวิตเพื่อนคนนี้ใช่ว่าจะเป็นปกติเหมือนคนธรรมดา
เข้านอน 3 ทุ่ม ตื่นก่อนตี 5 นาฬิกาชีวิตเดินผิดเมื่อใดได้รวนล่ม วีนเม้งแตก!

"เออๆ รีบทำรีบเสร็จ รีบกลับบ้านนอน" ผมตัดบท
"โอเช!"
"ไว้กูจะช่วยหางานพิเศษให้ละกัน"
"ใจมาก...แค่นี้" ไอ้ลมจะตัดสาย
"เดี๋ยวๆ ลม กูจะถามเรื่องเด็กอินเดีย"
"อ๋อ นึกว่าอะไร ก็เล่าให้มึงฟังแล้วไง" เล่าแล้ว ตอนไหนวะ
          นึกขึ้นได้ถึงโรงอาหารตอนเย็นกับข้าวเกรียบปากหม้อ สารภาพว่าเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
ไม่ได้ฟังเพราะเด็กปากแดงดูดนมรสสตรอเบอรี่ เช้ด!

"อีกทีละกัน" ผม
"เด็กอนุบาล 3 กูสอนการบ้าน อยู่เป็นเพื่อนตอนเย็นก่อนแม่มารับกลับ"
          อ้อ เบบี้ซิสเตอร์นี่เอง ลืมคิดถึงตอน ม.3 มันก็มีงานแบบนี้นี่หว่า
แต่ตอนนั้นเป็นเด็กผู้ชาย ชื่อ พีท โต้ง เดียวหรือเดี่ยวอะไรซักอย่าง
เด็กผู้ชายหลายคนมากจำไม่ได้

"เข้าใจล่ะ"
"แค่นั้น ค่อยคุยกัน กูจะเข้าโรงงานล่ะ" เสียงประตูเหล็กกับรถยนต์ดังลั่น
"เอ้อ ค่อยคุยกัน" กดตัดสาย
'ฟู่!' เป่าปากโล่ง

          เด็กหนอเด็กน้อย ทำเอาจะเป็นบ้าตามไปด้วย นึกโล่งใจที่เพื่อนไม่มีแฟนสาวให้เป็นภาระที่ไหน
ลมเหนือยังเป็นเพื่อนสนิทสู้ชีวิตคงเส้นคงวาไม่เปลี่ยนแปลง
................
......................

         (ต่อ)

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
(ต่อ)
.................
.....................
โต๊ะอาหารเย็น พี่กายกับผมสองคน พ่อกับแม่ไปธุระต่อที่ไต้หวัน กลับมาสุดสัปดาห์นี้
"เป็นไรเก็ท คัดตัวไม่ผ่านหรือไง?"
"ผ่านเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาครับ ผม เฟรม เอกเป็นตัวจริงทีม B โจโจ้กับเก้งตัวสำรอง ส่วนทีม A พี่ ม.5 เหมายกก๊วน" รายงานพี่ชาย
"ก็ดีแล้วนี่ ทำไมหน้ามุ่ย ไม่กินข้าว"
"กินเบเกอร์ก่อนมาครับ อาบน้ำเสร็จหิว ลุงสมหมายแวะไปเอางานโรงแรมก่อนมารับผมด้วย นานเกิน ซัดไปสองอันจุกไม่หาย" เล่าความเป็นมายาวเหยียด
"อืม..." พี่กายพยักหน้าไม่ว่าอะไร คงเห็นอาการเขี่ยข้าวเล่นของผม พี่ชายแสนดีที่หนึ่งครับ

           ไม่รู้บ้านอื่นเป็นกันไหม แต่บ้านนี้ พี่ 'กาย-กีรติ' คนนี้เสมือนพ่อพระมาโปรด
ผู้ปกครองใจดีลำดับที่สองรองจากพ่อกับแม่ตัวจริง
           พ่อเป็นผู้จัดการโรงแรมหลายสาขา หลักๆ คือโรงแรม PPP ใกล้โรงเรียนผม
ไม่ยอมลาออกมาช่วยแม่ที่เริ่มธุรกิจสินค้าพรีเมี่ยม ด้วยเพราะรักชอบนิสัย ความมีน้ำใจของเจ้านายฝรั่ง
ประธานบอร์ดบริหารอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมเครืออาทิตย์กรุ๊ป

'ท่านไม่ได้ช่วยแค่พ่อ มีน้ำใจกับทุกคน งานที่นี่หนักมากก็จริง แต่หนักที่งานไม่ได้หนักที่คน นายใหญ่ขยัน เมกะโปรเจกต์หาเรื่องทำนั่นทำนี่ กระจายงานกระจายคนแล้วตามประชุมทุกนัด จี้เอาไม่เคยพลาด...สนุกดี'
           ผู้ชายวัยกลางคนสนุกกับงาน แววตาเปี่ยมสุข เห็นภาพฮีโร่ตรงหน้าเลยนะครับ ลูกชายปลื้มซะ
'พ่อเคารพรักท่าน มีแรงก็อยากอยู่ช่วยไปก่อน ให้แม่เป็นหญิงเหล็ก ลุยกับเพื่อนแล้วกันนะจ๊ะ' พ่อเปรยยิ้มๆ แม่หัวเราะแล้วหยอกล้อกันเอง

          ลูกค้าหลักๆ ของแม่ก็คือ บริษัทดีลเลอร์ขายส่งเหล้า สุรา กิจการบ้านไอ้เฟรม
เมื่อ 2-3 ปีที่แล้วพ่อกับคนที่บ้านเพื่อนคนนี้ยังป็นแค่คนขับรถส่งน้ำเมาอยู่เลย
พลิกวิกฤตเป็นโอกาสแค่ไม่กี่ปีกลายเป็นเถ้าแก่รวยแซงหน้าเพื่อนในกลุ่มทุกคน แม้กระทั่งครอบครัวของเรา
          ส่วนพ่อกับแม่ผมแม้คนละสายงาน แต่ท่านทั้งสองมักใช้เวลาอยู่ด้วยกัน
เกื้อหนุนกันในจังหวะโอกาสอำนวย
          บ้านเราไม่รวยล้นฟ้ามีธุรกิจพันล้านเหมือนบ้านไอ้หมอกที่ทำธุรกิจฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์
ไม่มีเงินใช้เป็นกระดาษเหมือนบ้านเฟรม แต่เรามั่นคง อบอุ่นและก้าวไปพร้อมๆ กัน

           ผมชอบตรงนี้ เราพ่อแม่ลูกกับคำว่า 'ครอบครัว'
..................

“ตกลงพี่ไปอยู่กับยายแน่เหรอครับ?” 
          ถามเรื่องพี่ชายเรื่องเรียนต่อระดับอุดมศึกษาที่ออสเตรเลีย ป้าและยายอยู่ที่นั่น
แต่พี่ยังสองจิตสองใจเพราะแม่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ คนช่วยตัวหลักคือพี่กาย
ส่วนผมลอยชายเป็นลูกชายคนเล็กบ้าบาสเกตบอลตามเรื่อง ไม่หยิบจับอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

“ยังไม่แน่ใจ 100% แต่น่าจะที่นั่นล่ะ ดูไว้ 2-3 ยู คงที่ซิดนีย์หรือเมลเบิร์น อย่าเพิ่งบอกพ่อกับแม่ล่ะ ดูก่อนว่ายังไงดี อีกตั้งปี”
“ได้ครับ แล้วเพื่อนๆ พี่ว่ายังไงบ้าง จะไปไหนกันต่อ?”
“พวกมันไม่มีปัญหาอยู่แล้ว มิกกี้ไปออสเตรเลียด้วยกันแน่นอน พ่อมันอยู่นั่น ต้นเมกา เหยี่ยวกับเจฟฟรี่ก็น่าจะเมกาด้วย แต่ไม่แน่ว่าเจฟฟรี่จะกลับบ้านอังกฤษรึเปล่าไม่รู้ นอกนั้นก็ยังไม่ชัดเท่าไหร่”
“อ้อ ครับ”
“เหยี่ยวอยู่ไหน เจฟฟรี่ก็อยู่นั่น หรือเจฟฟรี่อยู่ไหน เหยี่ยวก็อยู่นั่นด้วยก็ไม่รู้ หึหึ” พี่กายยิ้มๆ ขำเพื่อนสนิทซี้ปึก คู่หูแบดบอยส์ขวางนรกของตัวเอง

           ผมพอรู้จักคุ้นเคยพี่พวกนี้เพราะเป็นกลุ่มแก๊งสนิทของพี่ชาย พี่เหยี่ยว พี่เจฟฟรี่ พี่ต้น พี่มิกกี้
เพราะเล่นบาสเกตบอลโรงเรียนนานาชาติแห่งนั้น คอกีฬาเหมือนกัน
เคยมากินเหล้าเฮฮาปาร์ตี้ที่นี่บ้างเป็นบางครั้ง  ส่วนใหญ่พี่พวกนี้สุมหัวที่บ้านพี่เหยี่ยวที่อยู่ใกล้โรงเรียนมากกว่า

           ที่พี่กายต้องถ่อไปเรียนโรงเรียนนานาชาติชานเมืองกรุงเทพมหานครรอบนอกทางด้านโน้นก็เพราะ
พี่เหยี่ยว ‘เหยี่ยวขาว’ ลูกชายนายฝรั่งของพ่อนั่นเอง
‘ให้ลูกชายมาเรียนที่นี่ด้วยนะ จะได้สนิทกัน’ เจ้านายตบบ่าพ่อพลางโอภาปราศัย
         ลำบากพี่กายจึงต้องนั่งรถข้ามเมืองไป-กลับทุกวันด้วยประการฉะนี้

          พี่กายบอกผมเลาๆ ว่าจะเรียนต่อสาขาวิศวกรรมศาสตร์ เพราะปีที่แล้วพี่เหยี่ยวชวนไปดู
การคุมงานสร้างผับ สร้างคลับเฮ้าส์ของกิจการที่บ้าน
(พี่เหยี่ยวใช้คำว่า ‘ชวน’ แต่คนธรรมดาอย่างเราๆ ใช้คำว่า ‘ลากคอไป’ ครับ T^T)
ในเครืออาทิตย์กรุ๊ปนั่นล่ะ ลุงวิศวกรและโฟร์แมนอัธยาศัยดี บอกเล่ากึ่งสอนงาน สนุกกันใหญ่
เลยเปลี่ยนแผน เบนเข็มจากนักธุรกิจดีกรีนายแบบ จะเป็นเอ็นจิเนียร์รูปหล่อในอนาคต
           ทั้งนี้มาจากเหตุประโยคเดียวจากปากพี่เหยี่ยว ‘กูจะหาที่เที่ยวแบบไม่โดนตำรวจซิว กินฟรี ดิ้นฟรี แถมได้เงิน ได้ฟันชิลๆ จบ!’
(ขณะนั้น ม.4 อายุ 16 กำลังเลือดร้อนวัยทองคะนองฤทธิ์)
ก่อเกิดผับ X88 ณ บนถนนสายเริงราตรีที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของนครหลวงนี้

          มายก๊อด! รวย หล่อ เท่ เก่งกล้า บ้าดีเดือด เลือดร้อนและลงมือทำจริง
ไอดอลของผม ‘เหยี่ยวขาว อาทิตย์ชิงดวง’

“อ้อ เหยี่ยวมันถอนหุ้นจาก X88 แล้วนะ” พูดถึงเหยี่ยว เหยี่ยวก็เรื่องเยอะมาให้อัพเดต
“อ้าว ทำไมล่ะครับ?” เปิดกิจการไม่น่าถึงปี ฟันกำไรอื้อซ่า สงสัยว่าเพราะอะไรถึงรีบตัดน้ำเลี้ยงตัวเอง
“บอกเล่นหุ้นได้เงินเยอะกว่า ทำนองอยากให้พี่พงศ์ที่เป็นลูกน้องพ่อเข้าคุมเต็มตัวด้วย”
“อ๋อ ครับ”
“ถ้าจะเข้าไปก็บอกพี่หรือพี่พงศ์โดยตรงเลยก็ได้”
“แม่ให้พี่กายไปกำกับผมตลอดล่ะ” อดหน้าม่อยเล็กน้อย ไม่เคยได้ฉายเดี่ยวโชว์แมน
“555 ต้องทำใจนะไอ้เสือ” พี่กายหัวเราะ ตักข้าวอารมณ์ดี
         บ้านผมไม่ขัดขวางเรื่องเที่ยวกลางคืนครับ แต่ต้องรู้กาละเทศะ ที่สำคัญต้องอยู่ในเส้นรอบวงที่กำหนด
...............

          มองดูนาฬิกา แค่ 1 ทุ่มกับอีก 25 นาที เด็กเซเว่นจะยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ คิดเงินวุ่นอยู่ไหมนะ
อุ่นเวฟไส้กรอก ขนมจีบ ซาลาเปาอยู่หรือเปล่า อ้อ วางขนมเบเกอรี่ ทำเครื่องดื่มตามสั่งมือระวิงนั่นอีก

          วะเว้ย! อยู่ที่ไหนก็เห็นภาพ เจอหน้ากันแค่ 3 วันเท่านั้นทำเอาประสาทกลับขนาดนี้
เป็นอะไรไปวะเรา...เก็ทกลุ้ม!!!

“เป็นไรอีก?” บ้านผมเปิดคุยกันดี น้อยมากที่มีเรื่องปิดบัง เอาวะ! ตัวเราไม่รู้ พี่กายอาบน้ำร้อนมาก่อน น่าจะพอไหว
“พี่กายครับ ผม...” อ้ำอึ้งในวินาทีสุดท้าย
          กระต่ายตื่นตูมไปหรือเปล่า พูดบอกออกไปกลายเป็นเรื่องใหญ่จะทำอย่างไร
ผู้ชายกับผู้ชายนะมึง พี่กายเป็นนายแบบหน้าละอ่อน โซนตี๋เกาหลีดาวรุ่งคนหนึ่งก็จริง
โดนข่าวสาวประเภทสอง ตุ้ด กระเทยมาชอบ หรือลือว่าเป็นเกย์เสียเองก็มาก
เราครอบครัวรับได้ แต่ที่เกิดกับตัวเองมันก็...น่าเสียวไส้ อย่าเพิ่งให้รู้ดีกว่า

“มีอะไรเก็ท?” โดนซะ
“คือ...”
“ว่า?”
“คือว่า พี่กายเคย love at first sight ไหมครับ?” ผมเฉไฉออกข้าง น่าจะเหมารวมด้วยกันได้ล่ะน่า แค่ไม่บอกว่าเพศไหนก็พอ
“รักเมื่อแรกเห็น...”
“ครับ เคยไหม?”

“หึหึ ไปเจออะไรเข้าล่ะ”
“โอ๋ย ไม่หรอกครับ!” หนาววูบ
“แน่นะ เพื่อนใหม่ คนใหม่ก็ไม่เลยเหรอ พี่ได้ข่าวว่ามีน้องดาราที่เล่นหนังคนนั้น...?” พี่กายหลิ่วตาล้อเลียน
“โด่! พี่กาย เก็ทถามเฉยๆ”
          ละเรื่องไม่ให้เข้าตัว ปากแดงๆ เชอรี่อิ่มสดกระแทกเส้นสมอง
อดกระดากตัวเองไม่ได้ กิดากรเป็นบ้าของแท้ เห็นเด็กผู้ชายแล้วใจเต้น ฮ่วย!!!
...............
“ถามเฉยๆ แน่นะ”
“จริงครับ เก็ทอยากรู้” จริงจังรอคำตอบ
“ก็...น่าจะนะ” พี่กายวางส้อมลงเฉยๆ เอนตัวพิงพนัก เอ่ยปากไม่มองตากลับ แปลกมาก
“...” ผมเงียบ

“มันไม่ทันตั้งตัว แว่บเดียวแต่จำได้ไม่ลืม สลัดจากหัวไม่หลุดสักที...ไปไหนๆ ก็มีแต่ภาพคนนั้น” สายตาพี่เสมองที่แก้วน้ำ
         ไม่ได้ยกจิบแต่ปลายมือแตะผิวลายคริสตัลที่ฐานเล่นเบาๆ อยู่ในภวังค์ของตัวเอง
“ครับ...” ถูกเผง จำได้ไม่ลืม ตามรบกวนไม่เป็นอันคิดหรือทำอะไร เหมือนไม่ใช่ตัวเอง
“เจฟฟรี่เคยบอก...คนหัวแดงๆ ผมยาวน่ะ”
“จำได้ครับ” ผมพยักหน้ารับ
          พี่ลูกครึ่งฝรั่งผมแดงเพลิง รูปร่างหน้าตาคล้ายพี่มิกกี้ เซนเตอร์ตัวเทพกับยักษ์จอมรีบาว์น
ฉายาแฝดนรกเพราะรูปร่างหน้าตา กระทั่งเส้นผมสีแดงเหมือนกัน หลังๆ เพิ่งมาไว้ผมยาวถึงแยกออกชัดเจน

“มันบอก แรกสุดจะเหมือนโดนภูเขาไฟถล่ม ตึ้ง! ลงหัวแม่เท้า”
“แล้ว?”
“แล้วจากนั้นอาการก็จะเหมือนลูกหมา อยากรู้อยากเห็นไปหมด ใจเต้มโครมครามจะหลุดจากเบ้า ที่เหลือก็...”
“ก็อะไรครับ?” ผมโพล่ง พี่เจฟฟรี่จะนายแพทย์ใหญ่เกินไปล่ะ รู้ดีเสมือนมองนิ้วมือตัวเอง
“Totally, Fall in love 555” พี่กายหัวเราะกว้าง
“แหะๆๆ” ผมหัวร่อแห้ง เหงื่อซึมหลังทั้งที่แอร์เย็นฉ่ำ

           อาการเดียวกับกูเลย เมื่อวานคือวันอาทิตย์แอบแว่บปั่นจักรยานออกไปถึงซอย 68 โน่น
ด้อมๆ มองๆ เวียนเข้าออกซื้อของเซเว่นที่ว่าได้เป็นกระสอบ กลับไม่เห็นเงาหัวเด็กน้อยทอมบอยร่วมชั้นเรียน
อุตส่าห์เลือกตัวท็อปเลิศหรูสุด หวังอวดโอ่จักรยานคันเก่ง
          ชะเง้อมองหาตั้งนานจนคนในร้านผิดสังเกตถึงได้เลี้ยวกลับแบบเฟลๆ เสียเซลฟ์
อย่างนี้หรือเปล่าที่ว่าไม่เห็นหน้า ขอให้เห็นหลังคาบ้านก็ยังดี ผิดคือเห็นร้านสะดวกซื้อ แสงไฟสว่างโร่

‘สัดเฮ้ย มันไปไหนของมัน!?’ หงุดหงิดเกือบยกเท้ากระทืบกระจกร้านค้า
           นึกขึ้นได้ว่าวันเสาร์อาทิตย์อาจไปบ้านพ่อที่ฝั่งธน ซวยจริงเว๊ย
เอาล่ะเหวย! ได้ติดเชื้อบ้า จะกลายเป็นเกย์ของจริงหรือกระไร นึกหวาดหวั่นในทรวง
.................

“พี่กาย รังเกียจ กะ เกย์ ไหม ครับ?” ตะกุกตะกักถาม ไม่กล้ามองหน้าพี่ชาย
“เกย์เหรอ 2 อาทิตย์ที่แล้วพี่ก็โดนข่าวนี้เล่นอีกล่ะ ไปถ่ายแบบกับนายแบบคนนั้นมาไง ที่ตัวเล็กๆ หน้าหวานๆ น่ะ เขาไม่ติดกระดุมเสื้อ พี่ก็กางเกงตัวเดียว ธีมซัมเมอร์ฮีท หนังสือยังไม่ออกแต่ภาพหลุดได้ยังไงไม่รู้ กอสซิปเอาไปประโคมซะ”
“อ๋อ แม่เอามาให้ดูอยู่” ผมรับรู้ แม่กับพ่อยังหัวเราะ ลูกชายคนโตโดนอีกแล้ว
“ยังไงก็โดน ควงสาวก็ว่าเพลย์บอย หรือแกล้งทำแมนกลบเกลื่อน ไปกับเพื่อนผู้ชายคนไหนก็ยังออกข่าวคู่เกย์ชัดๆ ขนาดยกกองเป็นสิบ แต่โดนคร็อปรูปเหลือแค่ 2 ให้เขียนข่าวจนได้นั่นแหละ”

“เรื่องนั้นเข้าใจครับ แต่เก็ทหมายถึง คนใกล้ชิดพี่เป็นเกย์ พี่กายว่าพ่อกับแม่...” ผมอึงอลในใจ
           ครอบครัวรับได้แค่ไหน หรือควรเลิกคิดถึงไปเลย
“เก็ทหมายถึง?”
“เผื่อเก็ท...ชอบ...ผู้ชาย...ขึ้นมา”
“555 จะเป็นเกย์?” พี่กายขำ
“เก็ทถามดู พี่กายว่าคนในครอบครัวบ้านอื่น เขาจะรู้สึกยังไง”
“เก็ทไปชอบเด็กผู้ชายที่ไหนเข้าล่ะ”
“โห้ย! พี่กาย คือเราโดนข่าวแบบนี้ทั้งคู่ไง พ่อยังเฉย แม่ก็แฮปปี้ด้วยซ้ำ เก็ทเลยอยากรู้ว่ายังไงกันแน่” ผมย้ำวนไปวนมาว่าอยากรู้หลายรอบ
          คล้ายสะกัดกั้นตัวเองพลางๆ

“เก็ทน่าจะรู้คำตอบดีอยู่แล้วนะ พี่ว่า” พี่กายอมยิ้มใจดี
“คร้าบ เป็นอะไร ทำอะไรก็ได้อย่างที่ลูกเลือก ขอแค่ไม่เบียดเบียนใคร แล้วก็เป็นคนดีก็พอ” ย้อนประโยคบุพการี เอ่ยให้ยินบ่อยครั้ง
“ก็นั่นแหละ คำตอบ”
“มันเยอะไงครับ เก็ทก็เลย...” ผมยังวอแว ไขว้เขวข้างใน
“ถ้าเป็นจริงๆ พี่ว่าพ่อกับแม่รับได้อยู่หรอก แค่อาจต้องให้เวลา ทำความเข้าใจกับท่านบ้าง”
“ฟู่! ครับ” เผลอเป่าปาก เดาคำตอบได้ตรงเผง ซื้อหวยคงถูกสามนัดซ้อน

“ไม่มีพ่อกับแม่คนไหนใจร้าย ไม่รักลูก หรือไม่เห็นด้วยกับทางที่ลูกเลือกแล้วหรอก...เพียงแต่ถ้าคิดถึงจิตใจลึกๆ คงไม่อยากให้เกิด แล้วถ้าพี่เป็นพ่อกับแม่เราก็คงขัดขวางไว้ก่อน”
“...” เงียบงันกับประโยคสุดท้ายที่ว่าไม่เห็นด้วย
“รู้อยู่ แม่น่ะกลัวอยู่เรื่องเดียว แล้วข่าวสมัยนี้ก็ลงซะเว่อร์เกินไป พอรักไม่สมหวังก็ฆ่าตัวตายมั่งล่ะ ทำร้ายกันรุนแรง ทำนองนั้น"
"ก็..." ผม
"เพราะกลัวลูกเจ็บ รักผิดปกติธรรมดาสามัญแบบนั้นสังคมไม่ยอมรับง่ายๆ พ่อกับแม่ทนเห็นลูกเจ็บปวดไม่ได้หรอก จริงไหม” พี่กายอ่อนโยน สั่งสอนเป็นพ่อคนที่สอง 

         แม่ย้ำเรื่องนี้เสมอ 'ทำไมทำตัวเองแบบนี้ ทำร้ายตัวเองโง่ๆ ไม่พอ พ่อแม่รู้ข่าวจะเสียใจมากแค่ไหน ทำไมไม่คิดถึงหัวอกคนเป็นพ่อกับแม่บ้าง'
แล้วก็ประโยคต่อมา...'ลูกแม่ต้องไม่เป็นอย่างนั้นนะ รักมากแค่ไหนต้องมีสติ ไม่ทำร้ายตัวเองเวลาไม่สมหวัง เข้าไหมลูก'
          เวลาเห็นข่าวรักคุดแล้วคู่รักผิดประเภทก่อคดีสะเทือนขวัญ โดยเฉพาะเรื่องฆ่าตัวตาย
แม่จะเสียใจ เดือดร้อนแทนทุกที
...........

“แต่หญิงชายธรรมดาก็อกหักเหมือนกันนี่ครับ ไม่เห็นมีใครว่า”
“มันก็จริง...” พี่กายว่าไม่ออก
“งั้นรักแบบไหนก็น่าจะเหมือนๆ กัน” ผมสรุปเข้าข้างตัวเองอย่างไม่เคยเป็น
“ก็น่าจะนะ...ช่างเถอะ ทำไมถึงถามพี่ได้ โดนข่าวกับเพื่อนมาล่ะสิ”
“เอิ่ม ประมาณนั้น มีสาววายเขียนนิยายให้ผมกับเพื่อนเป็น 3P กัน” อ้ำอึ้ง ล้วงคำตอบเมื่อเดือนที่แล้วก่อนปิดเทอมจบ ม.ต้น ขึ้น ม.ปลาย
“อ๋อ เรื่องนี้นี่เอง อย่าคิดมาก พี่โดนนั่งเทียนเขียนข่าวแถมตัดต่อภาพอีก เป็นเรื่องมากกว่านี้เยอะ”
“ครับ พี่กาย”

          อยากจบเรื่อง เพราะวนเวียนไปมากับรักแรกพบกับเรื่องเกย์มากเกิน
จะผิดสังเกตเอาได้ แต่พี่กายกลับจุดประกายบางอย่าง...

“เก็ทรู้ใช่ไหม เหยี่ยวกับเจฟฟรี่เป็นไบทั้งคู่”
“รู้ครับ ได้ทั้งผู้ชายผู้หญิง”
เจอครั้งก่อนพี่เหยี่ยวควงหญิง พบกันเร็วๆ นี้กลับควงกันมากับผู้ชายเฉย
“มันอกหักจากผู้หญิงถึงหันไปหาผู้ชาย แต่ก็แค่เดท สปาร์คเสร็จกันแป๊บๆ ก็เลิก ไม่เคยคบนานถึงครึ่งเดือนเลยมั้ง นอกจากจะเป็นอื่น เช่น ควงกันออกงาน ทำธุรกิจด้วย จะเป็นละไว้เป็นคนรู้จัก แยกไว้ต่างหาก”
“ที่ได้ยินก็ว่างั้นครับ” ผมเออออถึงเรื่องที่รู้มาแล้ว

           พี่ไอดอลนิสัยฝรั่ง รักชอบหรือควงกันวันไนท์สแตนด์ก็บอกชัดเจน เวลาจะตัดขาดหรือเชื่อมติดง่ายดาย
ไม่เหมือนคนไทยส่วนใหญ่ที่มักจะรอมชอมไม่บอกความนัย
           นิสัยเหมือนเพื่อนสนิทลมเหนือ ไม่ชอบปั๊บมันซัดโป้งเดียวจอด
ไม่เคยเจอพามาให้กันเองซักครั้ง พูดชื่อให้ได้ยินก็ไม่มี
 
           ทำไมนิสัยลึกๆ ถึงเป็นคนเหมือนกันได้ก็ไม่รู้
...............
“มันไม่ได้เป็นเกย์มาตั้งแต่ต้น แต่ผิดพลาดอะไรนิดๆ หน่อยๆ”
“...” เรื่องรักไม่สมหวังของพี่เหยี่ยวกับหญิงสาวคู่หมั้นคู่หมายกลายๆ ย่ำแย่เพราะสาวท้องกับชายอื่น จบเห่!
“ต่างกับเจฟฟรี่ ไอ้นี่มันออกเกย์มากกว่า น้ามัน ลุงมันที่อังกฤษเป็นเกย์ จดทะเบียนแต่งงานกันด้วย เห็นมาตั้งแต่เด็กเลยชิลไม่คิดอะไรมาก”
“ครับ...”
“มันบอก รักไม่มีจำกัดเพศ แต่กูจะทำให้โลกรู้ว่ารักเดียวใจเดียวก็มีได้ จะเพศไหน สปีชี่ย์ไหนก็เถอะ ว่างี้ พวกพี่อึ้งกันหมด หึหึ” พี่กายชื่นชมเพื่อนตัวเอง
“...” ผมอึ้ง เสมือนมีกระจกส่องสะท้อนไว้เตือนตัวเรา

          พี่กายกำลังกึ่งชี้ทางว่า จะกลายเป็นตัวอะไรก็แล้วแต่ ครอบครัวพร้อมรับค้ำจุนอยู่ด้านหลังแน่นอน
และปรากฏการณ์เกย์ก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสจนรับไม่ได้ในสังคมทุกวันนี้
นี่ผมจะได้ตามแบบอย่างพี่เหยี่ยวที่ไม่มีเค้าแววใดๆ สาเหตุจากใบหน้าใสๆ ปากแดงๆ จิ้มลิ้มดวงนั้นดอกหรือ

             อ๋อย วัยรุ่นช่างร้อนแรง มึนหัว ความคิดวกวนปนเปนึกอะไรไม่ออก
...............
“พี่ดีใจนะ บ้านเรามีอะไรก็คุยกัน เก็ทบอกพี่” พี่อมยิ้มสรุปท้ายเรื่อง
“ก็เรามีกันแค่นี้” ผมอิ่มเอม
“อืม มีอะไรก็บอกพี่ละกัน”
“ครับ” สบตาพี่ชายแสนดี รู้สึกความอัดแน่นที่หน้าอกคลายออกจนสามารถหายใจได้เต็มปอดมากกว่าปกติ

“อ้อ เกือบลืม เรื่องเพื่อนสนิทเรา”
“เพื่อนสนิทผม มีอะไรครับ?” เพื่อนคนไหน หลักๆ ก็ไอ้ลม เฟรม เก้ง โจโจ้กับเอก ส่วนเด็กผู้ชายเหมือนทอมบอยคนนั้นไม่นับ ละไว้ในฐานที่เข้าใจ
“ป้าส่งเสื้อผ้ากับของบาสมาให้จากซิดนีย์ เห็นบอกจะมาพร้อมจักรยานคันใหม่ของเก็ทด้วย”
“ไหนว่าส่งเรือ?”
“ไม่ ลุงโหลดมากับเครื่องได้ จะถึง 2-3 วันนี้เลยมั้ง”
“โย่! เยี่ยม 555” ตื่นเต้นรอฟิคเกียร์คันใหม่
“เตรียมจัดที่ไว้ซะ ห้องเราจะไม่มีที่จอดอยู่แล้ว”
“ผมปลดคันดำไปไว้ห้องเก็บของก็ได้ แต่...ไม่ดีๆ” พึมพำกับตัวเอง

           นับจำนวนไอเทมในครอบครองขณะนี้ทั้งสิ้น 7 คัน จอดพื้น 4 แขวนผนัง 3
เอายังไงดี ขายทิ้งซักคันจะดีไหม ช่วงนี้เสือภูเขาใช้ง่ายกว่า
และสไตล์ที่ชอบก็เป็นแบบโมเดิร์นไม่ใช่เสือหมอบวินเทจ
            คิดถึงจักรยานแม่บ้านคันเก่าผุพังของเพื่อน เวลาเก็บซากยื่นให้ซาเล้ง
มันจะใจแป้วแค่ไหน คนรักชอบจักรยานมากอย่างนั้น...ไอ้ลม
....................

“ไว้พี่ว่างจะเข้าไปหา ซักเย็นๆ หลังเลิกเรียนน่าจะอยู่กันนะ”
“คร้าบ ถ้ารู้ข่าว พวกนั้นได้ล้างท้องรอมั้ง โจโจ้มันอยากกินสเต็กอยู่ แต่เก้งมันอยากกินซูชิ บ่นถึงพี่อยู่นะ”
“นั่นสิ 555”
           พี่กายแวะไปหาพ่อที่โรงแรมแล้วมักจะแอบแว่บไปทำคะแนน
เป็นซานตาครอสใจดีแซงหน้าผมครับ เราหัวร่อกับบรรยากาศผ่อนคลาย
           พี่ชายแสนดีที่หนึ่งในใจ ไม่แพ้อีกตำแหน่งคือพี่ไอดอล
ที่เทิดทูนให้พี่เหยี่ยวเป็นพี่ต้นแบบไม่ใช่เพราะรวยแล้วใช้เงินเป็นฟ่อนไม่มีลิมิต
แต่ด้วยไลฟ์สไตล์ที่น่าทึ่งต่างหาก
          ภายนอกดูเลว เถื่อน แบดบอยส์ เสเพล มั่วได้ทั้งชายหญิง
แต่มองลึกๆ ตามจริงแล้วพี่พวกนี้สุดโต่งกับการใช้ชีวิต คุ้มค่าและน่าสนุกมากมาย
สนุกได้อย่างที่ใจอยากภายใต้ขอบเขตเส้นกำหนดรู้ของตัวเอง...นั่นล่ะที่ผมอยากเป็น

           แต่ตอนนี้จะจัดการข้อปมต่างๆ อย่างไรดี

          ประโยค ‘มีเงินใช้ผีโม่แป้ง’ ผุดขึ้นมาในหัว
วางสนุ๊กเก็บแดงก่อนแล้วค่อยกินดำ
มึงเสร็จกูแน่ไอ้ลม นกต่อตัวสำคัญ
..................
.......................

            สามทุ่ม ระเบียงห้องนอน กดโทรศัพท์หาบุคคลสำคัญ
“ฮัลโหล...” ปลายสายดสียงทุ้มนุ่มตอบรับ
“ครับพี่! ผมเก็ทนะครับ เก็ทน้องพี่กาย” รีบแจ้ง
“อ้อ เก็ทมีอะไร?”
“ผมมีเรื่องให้พี่เหยี่ยวช่วย”

             เอาวะ หมากวางบนกระดาน เดินเกมเริ่มเล่น!!!


************************TBC by puppyluv

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1

อร๊ายยยย มาแล้ว   :impress3:
อ่านตอนนี้แล้วมีความสุขค่ะ
พี่ไอดอลมาแว้ว ไม่ได้มาสถานีเดียว มีพูดถึงพี่ๆ คนอื่นๆ อีกด้วย หุหุ

แต่อยากรู้ตอนต่อไปแล้ว เพราะ....

1)  "มึงเสร็จกูแน่ไอ้ลม นกต่อตัวสำคัญ"   แหม... นกต่อหาบีหรืออย่างไร
2)  “ผมมีเรื่องให้พี่เหยี่ยวช่วย”   ช่วยอารายยยยย
3)  "เอาวะ หมากวางบนกระดาน เดินเกมเริ่มเล่น!!!"   ระวังจะเข้าตัวนะเก็ทจ๋า

ลุ้น... เดี๋ยวเค้าสองน่าจะได้เจอกันชิมิ  :กอด1:

ส่วนพี่เก็ท ครอบครัวเข้าใจ สบายไปแปดอย่าง
แต่กว่าจะเข้าใจกะบี ม.6 โน่นหรือเปล่า ... ค่อยๆ ตัดฉาก (ดังฉับ) ค่ะ

ขอบคุณคนเขียนค่า สู้สู้ ^^

 :L2: :L2:



ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
เก็ทโชคดีจังมีพี่กายคอยอยู่ข้างๆ
ตอนนี้ได้เจอพี่เหยี่ยวแค่ชื่อ ก็ทำเอาเพ้อด้วยความคิดถึง
อีกไม่นานลมจะได้เจอพี่เหยี่ยวแล้วจิ  :impress2:
แล้วเก็ทจะใช้ลมเป็นนกต่อทำไรน้า
+1  :กอด1:

ออฟไลน์ nokkie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-0
ตอนนี้เหยี่ยวขาวออกโรง...หรือจะช่วยเก็ทคิดแผนดักเด็กน้อยกันนี่

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
พี่กายพี่ชายที่อบอุ่น :L1:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
เหยี่ยวจะมาแล้ว

ออฟไลน์ tuckky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
อยากบอกว่า ชอบเจฟจัง ความคิดนายเท่ห์มาก  o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด