ตอนที่24.5
“ปล่อยกู!!!!!! ไอ้เหี้ยปี้!! อย่า!!!! ”
“อย่าดิ้นสิไอ้ธัญ…ถ้ามึงไม่ดิ้นมันก็ไม่เจ็บหรอกนะ”
“โอ้ย!!! อึก…อะ เอาออกไป!!!! กูเจ็บ!!!”
“กูถึงบอกว่าอย่าดิ้นไง….อืม….มม…เสียวดีไหมล่ะมึง..”
“ฮึก…..เสีย…ว…พ่อง!!!”
“อย่ามาปากดีกับกูนะ!”
“อ๊า!..ไอ้เหี้ย!อย่าขยับเร็วแบบนั้นสิ อือ….ฮึก..!”
“กูรักมึง…อื้มม”
ภาพในคืนก่อนลอยผุดขึ้นมาในหัว เสียงและทุกการกระทำของมันรีเพลเล่นอยู่ในหัวของผม…ในคืนนั้น พอตื่นเช้ามา ผ้าปูเตียง เต็มไปด้วยคราบเลือด และคราบสีขาวขุ่นๆเปรอะเต็มไปหมด….
ผมนอนเปลือยท่อนล่างหมดแรงอยู่บนเตียง โดยที่ข้างๆก็มีมัน..ไอ้แฮปปี้…นอนเปลือยอยู่เหมือนกัน
…..เพราะแบบนี้ไง…ผมถึงพยายามที่จะเลี่ยงอยู่กับมันสองคน เวลาไปเที่ยว พวกผมก็จะนอนด้วยกันหมด หรือไม่ก็แยกห้องละสองสามคน ทุกครั้ง ผมก็ไม่เคยได้นอนห้องเดียวกับมันเลย…
พวกผมเริ่มรับรู้นิสัยแปลกๆของมันตอนขึ้นม.ปลาย ตอนที่พวกผมเริ่มหัดกินเบียร์ ตอนนั้นอยู่ม.5 พอไอ้แฮปเมา มันก็กลายเป็นอีกคน ไล่จูบพวกผม และผมจะเป็นคนแรกที่โดนมันจูบ แทบทุกครั้ง….แล้วพอมันสร่างเมา มันก็จำอะไรไม่ได้
แต่ครั้งนี้…ให้ตายผมก็จะฆ่ามัน แต่พอมันตื่นขึ้นมา มันก็นั่งคุกเข่ากราบขอโทษผม มันบอกว่ามันรู้ตัวแต่ควบคุมตัวเองไม่ได้…ไอ้สัด…พอได้ยินแบบนั้นผมก็ต่อยมันกลิ้งลงไปกองบนพื้นแล้วจะตามลงไปเตะมัน..แต่ผมขยับไม่ได้
เจ็บครับ…เพิ่งเคยถูกทำตรงนั้นครั้งแรก ปกติมีแต่ไปเสียบผู้หญิง แต่ครั้งนี้โดนเสียบซะเอง ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับ บาป ที่ผมเคยไปทำแบบนี้กับผู้หญิงแล้วพอผมพอใจแล้วก็ทิ้งพวกหล่อนไปตามประสาผู้ชายรักสนุก
ผมต่อว่ามันไม่หยุด มันเองก็พ่นคำว่า ขอโทษออกมานับครั้งไม่ถ้วน…..ผมอยากจะคิดซะว่าได้ลองของแปลก
แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน…ยิ่งมันขอโทษ ผมยิ่งอยากจะเอาปืนมายิงมันให้ตายไปซะตรงนี้เลย
“ผมจะรับผิดชอบเอง”
คำพูดนอกจากคำว่าขอโทษ หลุดออกมาจากปากมันก็มีเพียงคำนี้ ที่ผมด่าต่อว่ามัน ไม่ใช่เพราะอยากให้มันมารับผิดชอบ มันจะทำอะไรผม จะปล่อยใส่ข้างใน ผมก็ไม่ท้องเพราะผมเป็นผู้ชาย …
ผมเลยบอกมันไปว่า ช่างมันเถอะ ลืมๆไปซะ พอผมพูดจบ มันก็เงียบแล้วบอกว่า มันคงลืมไม่ได้หรอก…
แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก ตัวผมบอกกับตัวเองว่า ให้พยายามทำตัวปกติ แต่พอเห็นหน้า ได้ยินเสียงมันก็ทำให้หงุดหงิดตลอด…..
พอผมออกมากินข้าวกับพวกไอ้พีช …มันก็ทำให้ผมหงุดหงิด แล้วจู่ๆผมก็รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลลงมา ผมเลยรีบลุกแล้วเดินออกจจากที่นั่น…แต่ก็ไม่รู้ทำไมไอ้เหี้ยนี่มันถึงวิ่งตามผมมา…
ผมกลั้นใจวิ่งเต็มที่เพื่อให้ถึงห้องให้เร็วที่สุด เจ็บก็เจ็บ แต่อยากจะหนีอยากมัน ผมว่าผมอาจจะต้องใช้เวลาในการทำใจถึงจะสามารถมองหน้ามันแบบปกติได้ พอเข้าไปในห้อง ผมก็ปิดประตู แต่ไอ้แฮปแม่งโง่…เอามือมากันไว้ประตูเลยหนีบมือมันเต็มๆ
มันร้องโอ้ย ผมเลยรีบเปิดประตูไปดูมัน มันนั่งกุมนิ้วอยู่ พอเห็นว่าผมเปิดประตูให้ มันก็มองหน้าแล้วเดินเข้าไปในห้อง เงียบๆ ผมเองก็ไม่ได้พูดอะไร…ปิดประตูเงียบๆ แล้วเดินไปนั่งที่โซฟาเงียบๆ
แอบดูมัน มันเอาอุปกรณ์ออกมารักษานิ้วตัวเอง
“….กูขอโทษ”ผมพูดเสียงเบา แต่มันก็คงได้ยิน เพราะในห้องเงียบขนาดนี้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ แผลแค่นี้เอง คุณธัญไม่ต้องขอโทษผมหรอก ผมน่ะ สมควรโดนแล้วล่ะ…มือนี้สินะที่ทำร้ายคุณ..”
มันเงยหน้ามามองผม ตามันดูเศร้าๆ ใจนึงผมนึกสมน้ำหน้ามันในใจ แต่อีกใจก็รู้สึกไม่ดี เพราะเป็นเพื่อนกันด้วยล่ะมั้ง ถึงเกลียดมันจริงๆจังๆไม่ได้สักที
“มือมึงทั้งสองข้างนั้นแหละที่ทำร้ายกู”ผมพูดออกไปไม่คิดอะไร แล้วจู่ๆตาไอ้แฮปก็ชื้น…มันลุกขึ้นหันหน้าเข้าหากำแพง
ปึก ปึก ปึก ปึก ปึก ปึก ปึก ปึก ปึก!!!!!
มือสองข้างของมันรัวใส่กำแพงไม่หยุด ผมตกใจลุกขึ้นไปจับมือมันไว้
“เฮ้ย!!!!!!ทำอะไรของมึงเนี่ยไอ้แฮป!! ”
“ทำโทษตัวเองไงครับ!! ผมทำคุณเจ็บนี่นา!!” มันสะบัดมือออกแล้วชกกำแพงต่อ ผมเลยรวบรวมกำลังทั้งหมด จับมันทุ่มลงบนพื้นเรียกสติมันกลับมา
“ไอ้เหี้ย!!!! มึงจะเป็นหมอไม่ใช่หรือไง แล้วหมอที่ทำร้ายตัวเองแบบนี้จะรักษาคนอื่นได้ยังไง!! ทำอะไรน่ะหัดคิดมั่ง!! สมองมึงมีเยอะกว่ากูไม่ใช่หรือไง!!!”
ผมตะโกนใส่มันที่นั่งอยู่บนพื้น พอผมพูดจบ มันก็น้ำตาไหล โอ้ย….อะไรของมันนักหนา กูต่างหากที่ควรร้องไห้
“ผมขอโทษ….ผมขอโทษ….ฮึก….ผมขอโทษ…..”
มันพร่ำบอกคำขอโทษไม่หยุดอีกแล้ว….ผมเลยนั่งลงตรงหน้ามัน ตอนนั่งรู้สึกแปล๊บบบ เจ็บที่ก้นสุดๆ=_=เหมือนเป็นริดสีดวง ผมบีบไหล่มันทั้งสองข้าง มันที่สะอึกสะอื้นเงยหน้าขึ้นมามองผม
ผั๊วะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ผมเลยปล่อยหมัดไปสุดแรงเข้าที่หน้ามัน จนมันล้มลงไปกองกับพื้น พอมันตั้งหลักได้มันก็หันควับมามองผม แต่ไม่ได้พูดอะไร
“กูหายโกรธมึงแล้ว มึงเลิกขอโทษแล้วเลิกร้องไห้ซะ นี่เป็นคำสั่งของกู” ผมมองหน้ามันแล้วทำหน้ากวนๆให้อย่างที่เคยทำ
“คะ…………คุณธัญวา”
มันเรียกชื่อผม แล้วจู่ๆก็ดึงผมเข้าไปกอด เฮ้อ…..ตอนเมากับตอนปกติ มึงนี่ ต่างกันสุดขั้วจริงๆเลยให้ตายสิ=_= ผมกอดตอบแล้วลูบหลังปลอบมัน….กูว่าคนที่ควรจะโดนปลอบคือกูมากกว่านะT_T
เสือกแมนตอนเมา พอไม่เมาแล้วแม่งเป็นไอ้ตุ๊ดทันทีเลย ให้ตายเถอะ……แล้วจะรับผิดชอบกูยังไงไหว…
-------------------------------
“คุณธัญ เอ้า!น้ำมะพร้าวครับ” หลังจากที่มันทิ้งให้ผมนั่งรอบนรถไม่นานมันก็กลับมาพร้อมมะพร้าวสองลูก
“ขอบใจ”ผมบอกมันแล้วรับมะพร้าวที่มันยื่นให้มาดูด เย็นดีจริงๆ…ถ้านี่ทำให้ใจที่ร้อนรุ่มของผมเย็นลงไปด้วยก็คงดี
“คุณธัญอยากกินอะไรไหม เดียวผมไปซื้อมาให้ ข้างนนอกร้อนมาก ไม่น่าเดินเลยครับ”
“ไม่น่าเดินมึงก็ขึ้นมาสิ จะไปเดินตากแดดหาซื้อของกินทำไม”
“กะ..ก็ ตอนนี้เที่ยงแล้ว ผมกลัวว่าคุณธัญจะหิว”
“งั้นก็ขึ้นรถ ไปหาร้านอร่อยๆกินสิวะ มาเร็ว!” ผมบอกแล้วกวักมือเรียกมันที่ยืนหรี่ตาเพราะแสงแดดข้างนอก ไอ้กระบือเอ้ย……..
มันก็รีบขึ้นรถมา ขับพาผมไปเรื่อยๆโดยไม่รู้จุดมุ่งหมาย…
“กินที่ไหนดีครับ”ขับมาได้สักพักมันก็ถาม
“ที่ไหนก็ได้ มึงลองหาดู ร้านไหนที่มึงคิดว่าอร่อย ถูกสุขอนามัย มึงก็จอดเลย เดียวกูเลือกร้านสกปรกแล้วมึงจะไปบ่นเรื่องความสะอาดกับเจ้าของร้านอีก”
มีครั้งนึง พวกผม 5 คน ไปกินข้าวด้วยกัน ไอ้พีชเป็นคนพาไปกินครับ มันบอกว่าร้านนี้อร่อยสุดยอดมาก พวกผมก็ไป แล้วพอไอ้ปี้ที่มันตามมาทีหลัง
มันเดินเข้ามาในร้าน มันก็เอานิ้วปาดไปที่โต๊ะแล้วเอาขึ้นมามอง แค่นั้นแหละ มันก็เดินไปหาเจ้าของร้านบอกให้ปรับปรุงเรื่องความสะอาด เดียวลุกค้ากินไปแล้วจะท้องร่วง อันตราย ที่โต๊ะมีฝุ่นเกาะ อยากจะให้ทำความสะอาดให้ดีกว่านี้
ตอนนั้นพวกผมสี่คนพูดพร้อมกันว่า ’ไอ้โรคจิต’ วิญญาณหมอเข้าสิงมันเป็นบางครั้งบางคราว =_=บางครั้งไปก็ไม่เห็นจะมีอะไร แต่บางวันที่โดนสิง โรครักความสะอาดของมันก็กำเริบ
“โธ่….ก็มันสกปรกจริงๆนี่ครับ งั้นคุณธัญอยากกินอะไรล่ะ”
“อืม………ไม่รู้ว่ะ ได้หมด หาหามาเถอะ กูหิวจนใส่หดหมดแล้ว”
“ได้ครับ ใจเย็นๆนะ ^^”
มันบอกว่าให้ผมใจเย็นๆ แต่มันแม่งเหยียบมิดไมล์เลยครับ ไอ้สัดดดดกูไม่อยากกินข้าวในนรกนะโว้ยยยยยย=[]=!!!!!
มาถึงร้านอาหารร้านหนึ่ง….ไอ้ปี้มันจอดรถแล้วรีบวิ่งมาเปิดประตูให้ผม…ขอบใจมึงมาก แต่กูไม่ได้เป็นง่อยนะ
“วันนี้ผมจะเลี้ยงคุณธัญวาเองนะ อยากกินอะไรสั่งเลยครับ” มันยื่นเมนูมาให้ผม
“หึ…..”
ถึงมึงไม่เลี้ยงกูก็ไม่จ่ายอยู่ดี ผมมองหน้ามันแล้วพูดในใจ เปิดเมนูดู แล้วก็สั่งของที่อยากจะกินมา สั่งมาเยอะเกินที่คนสองคนจะกินหมดนั่นแหละครับ หมั่นใส้มัน =_= มันก็นั่งมองผมสั่งอาหาร
พอหันไปมอง มันก็รีบหลบสายตาผม อะไรของเมิงงงงงไอ้ปี้!! อยากจะตะโกนดังๆแล้วกระชากคอเสื้อมันสักที แต่เย็นไว้ไอ้ธัญ เย็นไว้…..
“เอาแค่นี้แล้วกันครับ เอ่อ พี่ครับขอเบียร์เย็นๆด้วยแล้วกันนะครับ” ผมบอกพนักงานแล้วยื่นเมนูคืนให้ พอหันไปมองไอ้ปี้ มันก็กำลังกินน้ำเปล่าอยู่
“แล้วนี่มึง ไม่สั่งอะไรเหรอ?” ผมถามมัน
“ไม่ครับ กินที่คุณธัญสั่งนั่นแหละ ^^” หึ….มองหน้ามันยิ้มซื่อๆ ตาก็ดูซื่อๆ หน้าก็เหมือนกระบือ….แต่มันนี่แหละที่เปิดซิงประตูหลังกู…..นึกแล้วอารมณ์เสียจริงๆ….
ผมไม่พูดอะไรกับมันต่อ นั่งดูดน้ำ จิบเบียร์ มันก็นั่งเงียบๆรออาหารมาเสริฟ บรรยากาศไม่ค่อยดีเลยแหะ….ผมหายใจเข้าลึกๆแล้วเงยหน้าขึ้นมองมัน
“เป็นไงบ้างล่ะมึงว่าที่หมอ เรียนหนักไหม?” ผมถามมัน มันก็เงยหน้าขึ้นมาจากการเขี่ยน้ำแข็งแล้วมองหน้าผม
“เอ่อ….ก็ หนักหน่วงเลยล่ะครับคุณธัญ เหนื่อยมากด้วย นานๆทีก็อยากจะโดดเรียนไปหาพวกคุณธัญที่มหาลัยเหมือนกัน” มันตอบกลับมายาวยืด
“เฮ่ยๆ มึงไม่ต้องมาหาพวกกูหรอก สาวๆที่คณะกูแม่งถึกกันทุกคน เดียวมึงโดนฉุดนะ”ผมพูดขำขำ มันก็ยิ้มตอบกลับมา
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเป็นผู้ชายนะ”อืม….แมนมาก……ถ้ามึงมาในสภาพปกตินี่..กูว่าแม่งไม่รอด= =;
“เหรอออออ!!! แล้วที่คณะมึง มีคนมาจีบมึงบ้างไหมเนี่ย?” ไม่รู้จะถามอะไร มันดีครับ
“จีบเหรอ? ก็มีบ้างนะคุณธัญ ผมเองก็ไม่ใช่คนขี้เหร่อะไร ก็มีบ้างแหละ อ๊ะ! แต่ผมยังไม่มีแฟนนะ” ดูมันดิ..เป็นแค่ไอ้ตุ๊ดแท้ๆยังมีหน้ามาหลงตัวเอง=_=
“ทำไมวะ ไม่เอาที่เขามาจีบมึงสักคนสิ” ผมบอกมัน แล้วพนักงานก็เอาอาหารมาวางเรียงรายตรงหน้าผมสองคน
“อืม…ไม่หรอกครับ ผมมีคนที่รู้สึกดีดีด้วยอยู่แล้วน่ะ”……..อึก…..ผมที่กำลังตักข้าวใส่จาน จู่ๆก็รู้สึก จุกๆ แปลกๆ เสียวที่ท้องแปลกๆ มีคนที่รู้สึกดีดีด้วย แต่แม่งเมาแล้วมาเด้ากู….อยากจะเอาหม้อต้มยำสาดหน้ามันจริงๆ แต่เย็นไว้มึงไอ้ธัญ…… ผมตักข้าวใส่จานตัวเองแล้วยื่นโถข้าวให้มัน
“เหรอ…เห็นตุ๊ดๆแม่งมีคนที่แอบชอบด้วยเหรอวะ ร้ายนะมึง!” ผมพูดแล้วตักผัดผักใส่จานกิน ไม่มองหน้ามัน
“ผมก็เป็นผู้ชายนะ เรื่องแบบนี้มันก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่หรือไง คุณธัญนั่นแหละ มัวลอยไปลอยมาระวังไม่มีใครเอานะ” ไอ้สลัดผักแฮปปี้ เมื่อคืนมึงไม่ใช่เหรอที่เพิ่งเอากู อยากจะพูด แต่คนในร้านเยอะ เงียบแล้วเก็บไว้ในใจดีกว่า
“เออๆๆ แล้วคนที่มึงรู้สึกดีดีด้วย เป็นไงวะ อยู่คณะเดียวกันเหรอมึง แม่งไม่เคยเล่าให้พวกกูฟังเลย” ไม่รู้ทำไมถึงอยากรู้ เลยถามมันออกไป สงสัยเก็บเป็นข้อมูลไว้ล้อมัน
“เปล่าครับ…คนล่ะคณะ ก็ไม่ค่อยได้เจอกันผมจะเล่าให้พวกคุณธัญฟังได้ยังไงล่ะ” มันยืดมือมาตักไก่ทอดที่จานตรงหน้าผม มันตักส่วนที่เป็นน่องใส่จานให้ผม…….
“ชอบน่องไก่ใช่ไหมครับคุณธัญน่ะ^^” รู้ดีจริงนะมึงเป็นแค่ไอ้ตุ๊ดปี้แท้ๆ=_= ผมไม่พูดอะไร ตักตีนไก่ให้มัน
“มึงก็คงชอบ ตีน! สินะ กูให้!” มันไม่พูดอะไรแต่กลับยิ้มมาให้ผม หน้ามันทำไมกวนตีนแบบนี้วะ…
“คนที่ผมรู้สึกดีดีด้วย เขาน่ารักมากเลยครับ….ถึงจะสูงไล่เลี่ยกันก็เถอะ” จู่ๆมันก็พูดขึ้นมา…..ไม่รู้ทำไมชวนหงุดหงิดแปลกๆ
“น่ารักเนี่ยกูพอเข้าใจ แต่สูงไล่เลี่ยกับมึง คนหรือเปรตวะ=_=!” ผู้หญิงที่สูงไล่เลี่ยกับมันเนี่ย หายากสุดๆเลยนะแล้วพวกผมสี่คนน่ะ แม่งเตี้ยกว่ามันทุกคนเลยครับ ไม่รู้บ้านมันให้มันกินอะไรถึงสูงแบบนี้
“คนสิครับ เอ้ามัวแต่คุย กินสิครับเดียวเย็นหมดนะ”มันบอกผมที่กำลังจะอ้าปากถามมันอีก กินก็ได้วะ=_=
ผมกับมันกินข้าวกันเงียบๆ มีแต่เสียงช้อนกระทบจานดังเป็นบางครั้ง พอกินกันเสร็จ ผมก็ลุกไปยืนดูดบุหรี่รอมันที่รถ ให้มันไปจ่ายตัง ผมดูดเสร็จมันก็เดินมาถึงพอดี
“ดูดบุหรี่อีกแล้วเหรอครับ ผมบอกพวกคุณธัญตั้งหลายทีแล้วนะ ว่ามันไม่ดี” เอ้า..เทศน์กูอีก ผมไม่สนเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ มองจากด้านนอกไอ้ปี้มันส่ายหัวแล้วเดินอ้อมมานั่งตรงคนขับ แล้วมันก็ยื่นหมากฝรั่งให้ผม
“เคี้ยวกลบกลิ่นบุหรี่หน่อยเถอะครับ มันติดตัวคุณธัญน่ะ” มันพูด ผมเลยดึงเสื้อมาดมๆ เป่าลมใส่มือดมกลิ่นปากตัวเอง
“ขอบใจ”แล้วผมก็รับหมากฝรั่งมาเคี้ยว แค่นั้นไม่พอ มันค้นกระเป๋าเอาน้ำหอมมาฉีดให้ผมด้วย=_=
“ค่อยยังชั่ว…หล่อๆแบบคุณธัญเนี่ย ไม่เหมาะกับกลิ่นบุหรี่เลยนะครับ^^”พูดจบมันก็ยิ้มแล้วเก็บน้ำหอมแพงๆของมันใส่กระเป๋าไว้เหมือนเดิมก่อนจะขับรถออกไป
มันพาผมแวะจอดดูนั่นดูนี่ แต่ผมไม่มีอารมณ์ร่วมกับมันเลยครับ ทำหน้าเบื่อๆเซ็งๆให้มันรู้ว่ากูเบื่อ! จนมันที่ชวนคุยไม่หยุดก็เงียบไป….มันขับไปเรื่อยๆออกมาไกลมาก เหมือนเมื่อกี้เห็นป้ายชะอำแว๊บๆ=[]=!
มันพาผมมาที่ที่นึง ผมมองเห็น ชิงช้าสวรรค์ตั้งแต่ไกลๆ พอเข้าไป ที่นี่เหมือนสวนสนุกขนาดเล็ก ไม่ใหญ่มาก แต่เครื่องเล่นก็เยอะอยู่เหมือนกัน พอมาถึงมันก็วนๆหาที่จอดรถ
มึงนี่นะน่าจะรู้ว่าสวนสนุกตอนปิดเทอมคนมันเยอะ กว่าจะหาที่จอดได้ พอได้มา ผมก็ลงจากรถ เอาแว่นมาใส่สักหน่อย แดดเริ่มแรงแล้ว
“ป่ะคุณธัญ ลองไปดูกัน” มันเดินเข้ามาจับมือผม…แต่ผมก็สะบัดออก มันบ้าป่ะวะ ผู้ชายจับมือกันเข้าสวนสนุกมีหวังเขาคิดว่ากูเป็นเกย์แน่= =
“ไปก็ไปดิ ไม่ต้องมาจับมือเลยนะมึง มา!เร็ว!!”
ผมพูดแล้วเดินนำหน้ามัน ก่อนจะหันกลับไปเรียกมันที่ยังยืนอยู่ที่เดิม พอผมเรียกมันก็ทำหน้ากระบือเดินตามผมมา เข้ามาด้านในมันก็เดินหาที่ซื้อตั๋วเครื่องเล่น พอได้ตั๋วมามันก็วิ่งเข้ามาหาผมที่ยืนหลบแดดอยู่ มาถึงนี่เราสองคนไม่รู้จะเล่นอะไรกันดี
เดินถ่ายรูปไปเรื่อย ไอ้ที่ถ่ายน่ะ ผมเองแหละ ส่วนมันเป็นคนถ่ายให้ มีเด็กผู้หญิงมาขอถ่ายรูปมันด้วย มันเกาหัวเขินๆแต่ก็ยืนยิ้มให้เขาถ่าย พอถ่ายมันเสร็จเด็กผู้หญิงกลุ่มนั้นก็เดินมาขอถ่ายรูปผม ผมก็ยิ้มให้ถ่าย เขาก็กรี๊ดกัน หึหึ นี่แหละนะที่เขาเรียกว่าเชคเรตติ้ง-..-
“คุณธัญ ใกล้ถึงเวลากลับแล้ว เราไปใช้ตั๋วที่ซื้อมากันหน่อยไหม?”ระหว่างที่เดินๆดูกันอยู่มันก็พูดขึ้นแล้วชูตั๋วสองใบขึ้น
“เออ เอาดิ ไหนๆก็มาแล้ว แล้วจะเล่นอะไรดีวะ”
“ป่ะ ผมจะพาไป”พูดจบมันก็จับมือผมแล้วลากๆ ผมพยามจะสบัดแต่ไม่รู้ทำไมคราวนี้มันจับมือผมแน่นเลย เออ..ช่างแม่ง อยากจับก็จับไปเถอะ= = ผมเดินๆตามมันไป จนมาหยุดที่…..
ชิงช้าสววรค์!!!!!!!(ใส่แอคโค่ด้วยนะ)=[]=!!!!!!
“นั่งชิงช้าสวรรค์กันนะครับ^^”
“ไอ้เหี้ย! มาเล่นอะไรแบบนี้วะ เครื่องเล่นอื่นก็มี!!” ผมสะบัดมือมันออกแล้วพูดเสียงดัง คนแถวๆนั้นก็หันมามองกัน
"ทำไมล่ะครับ เล่นไอ้นี่แหละป่ะ!!! พี่ครับ นั่งสองคนครับ“
“เฮ้ย! ดะ เดียว!!”
พูดจบมันยื่นตั๋วแล้วลากผมเข้าไปนั่ง คนที่รับตั๋วก็ปิดประตู เหี้ยแล้วกู!!!!!!!!!!
นั่งกับไอ้เวรนี่ ได้กลายเป็นชิงช้านรกแน่!!!!!!!!!!!!!
“ปล่อยกูออกปายยยยยยยยยยย=[]=!!!!!!!” ทันทีที่ชิงช้าเริ่มหมุนผมก็แหกปากตะโกนสุดเสียง ฮึก…ไม่ทันแล้วสินะT^T
ชิงชช้าหมุนไปเรื่อยๆ ช้าๆ แต่ขาผมสั่นดิกๆๆๆๆๆ เฮือก!!มึงจะสูงไปไหนเนี่ย ผมก้มหน้าหลับตา ไม่ได้กลัวความสูงหรอกนะ แต่มันอันตราย!!!ถ้าเกิดชิงช้ามันร่วงผมก็ตายห่าน่ะสิT^T
“กลัวเหรอครับ? ให้ผมไปนั่งข้างๆไหม” พอไอ้เชี่ยปี้ลุก ชิงช้าก็โคลงเคลง
“ไอ้ปี้!!มึงอยู่เฉยๆเลยนะ!!!!เดียวมันตก!!!!” ผมเงยหน้ายกมือห้ามมัน……มันกำลังยิ้มขำผมอยู่=_=
“หึ…..คุณธัญเนี่ย มีส่วนที่น่ารักเหมือนกันนะครับ”
“ไอ้สัด ใครสอนให้มึงชมผู้ชายอย่างกูว่าน่ารัก! แบบกูเขาเรียกหล่อโว้ย!!”
“นั่นสินะ..คุณธัญน่ะ หล่อจริงๆนั้นแหละ….”
“เฮ้ย!!ไอ้ปี้ อย่ามาทางนี้!!!”จู่ๆมันก็ลุกขึ้นมานั่งข้างผม วูบนึงชิงช้าเอียง หัวใจผมแทบตก แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กันที่มือผมจับเสื้อไอ้ปี้ที่นั่งข้างๆผมไว้ซะแน่น โอย….หัวใจกูจะวาย
“กลัวจริงๆใช่ไหมครับ”
“ไอ้ปี้ รู้ว่ากูกลัวยังเสือกมานั่งตรงนี้อีก! เฮ้ย!!”อีกครั้งที่จู่ๆมันก็เอียง โคลงเคลงไปมา แล้วมันก็เป็นอีกครั้งที่ผมจับเสื้อมันไว้แน่น
“กอดผมไว้ก็ได้นะถ้ากลัว”……..ขนลุกแบบไม่มีสาเหตุ
“กูไม่กอด ไม่ต้องมายุ่งกับกูเลย”
ผมพูดแล้วปล่อยมือออกจากเสื้อมันแล้วพยายามก้าวขาไปนั่งอีกฝั่งเพื่อความสมดุลTwT แต่ไอ้ปี้มันดึงแขนผมให้กลับมานั่งที่เดิม คราวนี้ผมโผเข้าไปกอดมันเพราะมันเอียงไปมาแรกกว่าเก่า พ่อแก้วแม่แก้ว!!ช่วยธัญด้วย!!!ToT
“ไอ้เหี้ยปี้!!! กูเสียวนะโว้ย!!!!”ผมพูดเสียงดัง
“อื้ม..เห็นไหมล่ะ”
“เห็นอะไร!!!!”
“ผมอาจจะดูอ่อนแอ ดูเหมือนจะปกป้องใครไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้…ผมปกป้องคุณธัญจากความกลัวอยู่นะครับ..”
มึง..ไอ้…….ปกป้องกูตรงไหน กูกลัวหนักกว่าเดิมซะอีกT^T
“เออๆ มึงไม่อ่อนแอ ปล่อยได้แล้ว เดียวกูจะไปนั่งตรงนั้น” ผมคลายกอดออกจากมัน แต่มันยังกอดผมอยู่
“ผมรักคุณธัญนะ……”นอกจะจากไม่คลายกอดผม มันยังพูดอะไรไม่รู้เรื่องอีกด้วย หรือมันเมาชิงช้า!!
“อะ…อะไรของมึงเนี่ยไอ้ปี้! ปล่อยกู!!”ผมดันออกมันออก แต่ไม่เป็นผล
“ผมน่ะ..แข็งแรงกว่าคุณธัญนะครับ…..ที่ผมยอมมาตลอดเพราะผมอยากให้คุณดีใจที่เอาชนะผู้ชายตัวโตๆแบบผมได้” มันยังพล่ามไม่หยุด ชิงช้า!!ชิงช้ามึงจอดให้กูลงที!!!
“เออ!!! ปล่อยกูได้หรือยัง!!”ผมออกแรงดันมันออก คราวนี้มันยอมปล่อยแต่โดยดี
พอผมย้ายไปนั่งอีกฝั่งไม่ทันไร ชิงช้าก็จอดให้พวกผมลงเพราะหมดเวลาแล้ว ผมรีบเดินออกโดยที่ไม่รอมัน ส่วนมันก็เดินตามมาติดๆ พอเข้าไปในรถ ผมก็เงียบ มันก็เงียบ ต่างคนต่างไม่พูดอะไร แล้วมันก็ขับออกจากสวนสนุก
ความเงียบกลับเข้ามาอีกแล้ว….มันน่าจะชวนผมคุยบ้างสิ หรือไม่ก็น่าจะขอโทษที่ทำให้ผมตกใจบนชิงช้า
“ปี้ ไม่คิดจะขอโทษที่ทำให้กูตกใจเลยหรือไง!?”ทนไม่ไหวครับ สูดหายใจลึกๆแล้วหันไปถามมัน
“เรื่องอะไรเหรอครับคุณธัญ?” มันหันมาถามผมคืน ก่อนจะหันไปดูถนน
“เรื่องที่ทำให้กูตกใจตอนอยู่บนชิงช้าสวรรค์ไง”
“นั่นแหละ เรื่องไหนครับ เรื่องที่ผลากคุณไปนั่งชิงช้าสวรรค์ เรื่องที่ผมทำให้ชิงช้าโยกไปมา เรื่องที่กอดคุณ หรือเรื่องที่ผมบอกว่า….รักคุณ”
ประโยคสุดท้าย มันหันหน้ามาหาผม….ผมเองก็เผลอไปกับดวงตาที่ดูจริงจังของมันชั่วครู่…ก่อนที่มันจะหันไปกลับมองถนนอีกครั้ง
“กะ….ก็ทุกเรื่องนั่นแหละ!! มึงกูไม่ตลกด้วยนะ รักเริกห่าอะไร”
“ฮ่ะๆ….นั่นสินะครับ….ขอโทษทุกเรื่อง…ยกเว้นที่ผมบอกว่ารักคุณ”
“ไอ้ปี้….มึงเมาชิงช้าเหรอ อย่างมึงน่ะพูดเรื่องแบบนี้ด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่ได้หรอก”
“อย่างผมมันทำไมเหรอครับคุณธัญ? ทำไมผมถึงจะพูดไม่ได้ล่ะ…..ผมอดทนที่จะกอดคุณมาตลอดเลยนะ….พอได้กอดคุณแล้ว ผมเก็บความรู้สึกของผมไม่ไหวแล้ว…มันจะระเบิดออกมาแล้วนะครับ…”
เสียงมันสั่น…ทำให้ใจผมสั่นไปด้วย….
“……..ตั้งใจขับรถไปเถอะมึง ค่อยคุย”
พอมันพูดจบ ตัวผมเองก้เลิกมองมันแล้วเหม่อออกไปที่หน้าต่าง ส่วนมันก็เงียบไม่พูดอะไรต่อ…….ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ……ผมถามคำถามนี้กับตัวเองซ้ำไปซ้ำมา มันชอบผมตั้งแต่เมื่อไหร่…..แล้วตอนนี้ทำไมผมถึงต้องคิดมากกับคำพูดของมัน?
เพราะคำว่าเพื่อนล่ะมั้ง….ตอนนี้คำว่าเพื่อนของผมกับมันแขวนอยู่บนเส้นด้ายบางๆ….พร้อมจะขาดได้ทุกเมื่อ……แล้วไอ้คนที่มันบอกว่ารู้สึกดีดีด้วยก่อนหน้านี้ล่ะ? หมายถึงผมเหรอ? ไอ้สัด…กูไม่ได้น่ารักนะ……
มันขับรถไปเรื่อยๆ ฟ้าก็ค่อยๆหมองลง….บนรถไม่มีเสียงอะไรนอกจากเสียงเครื่องยนต์……ผมเองก็รู้สึกเกร็งๆไม่กลล้าแม้แต่จะหันไปมองมัน….ถึงบางทีจะรับรู้ถึงสายตาของมันที่แอบหันมามอง…
“ช่างมันเถอะครับ…อย่าคิดมากเลย คิดวะว่าผมไม่ได้พูดแล้วกัน…”มันพูดทำลายความเงียบ สัดปี้ มึงพูดง่ายจริงๆ
“….สัด….แล้วมึงจะพูดขึ้นมาทำไมตั้งแต่แรก”ผมพูดตอบมันเสียงเบาแต่ตาของผมก็ยังมองออกไปข้างนอก
“เพราะงั้นก็ลืมๆมันไปเถอะครับ”
“กูความจำดีไอ้ห่า…ถ้าไม่อยากให้กูได้ยินมึงก็ต้องไม่พูดตั้งแต่แรก!!”
ผมหันไปพูดเสียงดังใส่มัน พอมองได้เห็นหน้ามันตอนนี้ผมก็รู้สึกใจหาย….ไอ้ปี้มันน้ำตาคลอเบ้า พอผมหันไปมันก็รีบเอามือปาดๆน้ำตามันออก แล้วไหนบอกจะปกป้องกู!!ถ้าบ่อน้ำตามึงจะตื้นขนาดนี้!!!
“อีกแล้ว มึงจะร้องอะไรนักหนา!! จอดรถเลยแฮป กูว่ามึงไม่ไหวแล้ว” ผมบอกมันแล้วเอื้อมไปตีไฟเลี้ยวให้มันที่ปาดน้ำตาอยู่ มันเริ่มผ่อนคันเร่งแล้วชิดซ้ายจอดรถ พอจอดผมก็นั่งมองมันที่เช็ดๆน้ำตาตัวเอง
“แฮป มึงเป็นผู้ชายนะ มึงจะร้องไห้ออกมาง่ายๆแบบนี้ไม่ได้…” ผมพูดกับมันดีดี เผื่อว่ามันจะดีขึ้นมาบ้าง
“ผม…ผมผิดเองที่แอบตั้งความหวังไว้ลึกๆ ทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้…อึก…”มันพูดไปสะอื้นไป ผมนี่ปวดหัวเลยครับ ผมไม่ชอบให้ใครมาร้องไห้ต่อหน้าผมนะโว้ยยยยยยยยยยยยย
“บอกว่าจะปกป้องกู แล้วมึงเล่นร้องไห้ให้กูปลอบทุกครั้งแบบนี้ ปกป้องกูไม่ไหวหรอก”
“…..ผมจะอ่อนแอแค่ตอนที่อยู่กับคุณเท่านั้นนะ ฮึก…”
“เลิกร้องไห้ได้ไหมแฮป…มึงเลิกร้องแล้วคุยกับกูดีดีก่อน” ผมยื่นมือไปเช็ดน้ำตาของมันที่ไหลลงมาอย่างลืมตัว ก่อนจะแก้เขินด้วยเอามือที่เช็ดไปเช็ดเสื้อมันอีกที
“…..บะ..บางทีผมก็แอบคิดว่าคุณอาจจะมีใจให้ผมบ้างสักนิด….แต่ถึงจะคิดแบบนั้นผมก็ไม่กล้าเข้ามาคุณตรงๆสักที เพราะคำว่าเพื่อนที่มันกั้นเราสองคนไว้…ถ้าพลาดไป…แม้แต่คำว่าเพื่อนเราสองคนก็อาจจะใช้มันไม่ได้อีกต่อไป…”
“มึงก็รู้นี่ แล้วมึงพูดมันออกมาทำไม?”
“ผมอึดอัดนะ….กี่ครั้งแล้วที่ผมต้องพูดว่า ดีใจด้วยนะครับ เวลาที่คุณมีแฟน แล้วกี่ครั้งแล้วที่ผมต้องซื้อถุงยางให้คุณเพื่อไปมีอะไรกับผู้หญิง มันทรมานนะครับคุณธัญ….แต่ผมก็ยังต้องยิ้ม….เพราะผมคือเพื่อนของคุณ แต่ตอนนี้ผมทนมันไม่ไหวแล้ว ตอนที่พูดออกไปผมโล่งจริงๆ…แต่พอเห็นสีหน้าลำบากใจของคุณมันก็ทำให้ผมรู้สึกแย่….”
เสียงมันดูแหบๆ แห้งๆ…..ผมไม่รู้จริงๆนะว่ามันจะรู้สึกแย่ ผมมองมันเป็นเพื่อนมาตลอดจริงๆนะ…..?..ไอ้เครื่องหมายคำถามที่จู่ๆโผล่ในหัวนี่มันอะไรวะ= =
“อืม…..กูลำบากใจจริงๆแฮป แต่ยังไงมึงก็เป็นเพื่อนกูนะ” ผมบอกแล้วตบบ่ามัน มันมองแล้วยิ้มแห้งๆให้ผม
“เพื่อน…..ได้แค่เพื่อนจริงๆเหรอครับ….ไม่ลองให้ผมได้…ได้อยู่ข้างคุณหน่อยเหรอ…”
“ขอโทษนะแฮป…แต่ถึงยัง……!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”ยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆมันก็ขยับเข้ามาจูบผม พอรู้ตัวผมก็ถีบมันออกทันที ไอ้เหี้ยยยกูว่าแล้วมึงต้องเมา!!!
“เชี่ยปี้!!!”ผมพูดเสียงดังแล้วเช็ดปากตัวเอง
“เมื่อกี้…ผมไม่ได้เมานะ….จูบเมื่อกี้ผมรู้ตัว ไม่ใช่จูบแบบครั้งก่อนๆ…คุณธัญ….รับความรู้สึกผมได้ไหม..ไม่ต้องให้คำตอบผมตอนนี้ก็ได้….แต่ช่วยให้โอกาสผมเถอะนะ…ผมมั่นใจว่าผมจะดูแลคุณให้ดีที่สุด”
มันพูดแล้วจ้องผมไม่วางตา พอผมเห็นแววตาของมันก็รู้สึกแปลกๆในอก….เชี่ยเอ้ย….มันในโหมดจริงจังกับเรื่องแบบนี้ผมไม่เคยเห็นมาก่อน เพราแบบนี้ล่ะมั้งผมเลยรู้สึกแปลกๆ
“อะ…โอกาสอะไร!!”
“ผมจะทำให้คุณรักผม……ภายในสองเดือน….เตรียมใจไว้เลยนะครับคุณธัญวา…” มันพูดจบแล้วยกยิ้มมุมปากแล้วขับรถอออกไป ส่วนผมนี่อ้าปากพงาบๆกับคำพูดของมัน ไอ้เหี้ยยยยกูยังไม่ได้ตกลงเลยนะ!!!!!!!!!!!
ระหว่างที่มันขับรถอออกไป ผมก็โวยวายแต่มันไม่สนใจเลยครับ เฮ้ย!!!ไอ้แฮปปี้!!!มึงกำลังจะทำลายความสุขในชีวิตของกูนะ!!!!!!!!!!
TBC
-----------------------------------------
ขอบคุณคนอ่านทุกคน คอมเม้นต์ทุกคอมเม้นต์นะครับ ผมยิ้มทุกครั้งที่ได้อ่าน กลับมาอ่านวนไปวนมา ผมดีใจที่มีคนชอบนิยายเรื่องนี้ครับTwT เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ผมแต่งได้ยาวขนาดนี้ ยังไงก็ฝากเด็กๆทุกคนไว้ด้วยนะครับ