^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ^O^{เสน่ห์รักปักใจ} กัส & วิน...The End...THX. MiSS-U  (อ่าน 194561 ครั้ง)

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 22

วิน

รถยนต์คันสวยจอดสนิทที่หน้าบ้านหลังใหญ่  ผมหันไปมองคนที่นั่งข้างกันที่ผมกำลังกอบกุมมือนุ่มอยู่  ก่อนบีบมือและส่งยิ้มให้กำลังใจไปให้กัส  ที่เพียงแค่ยิ้มน้อยๆกลับคืนด้วยคนน่ารักคงเกร็งมาก  ผมบอกกัสไปแล้วว่าไม่ต้องกลัวต้องเกร็งเลยครอบครัวของผมไม่น่ากลัวสักนิด  การที่ผมเป็นแฟนกับใครจะหญิงหรือชายก่อนหน้าคบกับกัสนั้นที่บ้านไม่เคยว่า  คุณพ่อคุณแม่แค่เตือนให้ดูแลตัวเองและรับผิดชอบเรื่องเรียนเรื่องงานให้ดี  ส่วนเรื่องคู่นั้นแทบไม่มีมาก้าวก่ายเลย  จะมีก็แต่ตอนที่ผมเสียศูนย์เรื่องที่เราเลิกกันตอนนั้นเกือบทำผมเรียนไม่จบ  จึงถูกท่านทั้งสองเรียกพบและตักเตือนให้รู้ตัวในหน้าที่ของตัวเองก่อนที่จะมาสนใจเรื่องรักที่ผิดหวัง 

เมื่อเร็วๆนี้ครอบครัวของผมมารู้ว่าผมกลับมาคบกับกัสคนที่เคยทำผมอกหักหมดรูปคราวนั้น  จึงโดนตามตัวมาสอบถามซะละเอียดว่าเรื่องราวตั้งแต่ครั้งก่อนเป็นยังไงจนกลับมาคบกันอีก  ทำให้ผมโดนคุณแม่เล่นงานซะแย่ว่า ‘ตัวเองเลี้ยงลูกชายมาไม่ดีทำไมถึงได้เจ้าชู้ขนาดนี้’ โดนงอนไปหลายวันกว่าท่านจะยอมมาพูดด้วยอีก  และตั้งแต่นั้นมาท่านก็คะยั้นคะยอให้ผมพากัสมาเจอเร็วๆ  ท่าทางคงนึกถูกใจกัสเข้าให้แล้วว่ามีดีอะไรผมถึงฝังจิตฝังใจกับกัสนัก  ที่ผมเพิ่งพากัสมาก็เพราะหวงกัสนั่นแหละครับ  ไม่ได้คิดหรอกว่าไม่กล้าเปิดเผยว่าตัวเองคบกับผู้ชายให้ทางบ้านรับรู้เหมือนที่กัสคิดกังวลในตอนแรก  ผมแค่หวงเพราะใครได้เจอกัสต้องหลงรักง่ายๆแน่  ทีนี้ผมจะไม่ค่อยมีเวลาอยู่กัสสองต่อสองน่ะสิ  เพราะคนที่บ้านต้องให้ผมพามาหาบ่อยๆแน่นอน  เวลาสองวันอันน้อยนิดที่มีต้องถูกแบ่งไปจากผมอีก  แต่เมื่อผมต้องการให้กัสรู้ว่าจริงจังและให้มั่นใจในรักของผมจึงต้องพากัสมาพบครอบครัวของตัวเอง

“เลิกกังวลนะครับ  เดี๋ยวเราเข้าบ้านวินกัน  ทุกคนคงรอเจอกัสแล้วล่ะ”

กัสพยักหน้าและแอบสูดหายใจหนึ่งเฮือกก่อนส่งยิ้มบางมาให้  ผมลงจากรถและมาเปิดประตูให้กัสก่อนเอื้อมมือกุมมือบางไว้บีบกระชับพาเดินเข้าบ้าน  ในบ้านตอนนี้เงียบกว่าที่เคยไม่เหมือนบรรยากาศที่ผมคิดไว้  ว่าคุณแม่ต้องดีใจที่จะได้เจอว่าที่ลูกสะใภ้จนออกมารับซะด้วยซ้ำ ‘แปลกแฮะ’ ผมพาร่างบางที่กุมมือไว้มั่นมายังส่วนห้องรับแขก  ซึ่งบนโซฟามีคนในครอบครัวผมอยู่ครบ  คุณพ่อและคุณแม่นั่งโซฟาตัวใหญ่ส่วนพี่จักรนั่งตัวเล็กข้างๆคุณพ่อ  ตอนนี้ทุกสายตาจับจ้องมาที่กัสนิ่งใบหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ  ทำให้ผมต้องหันไปส่งสายตาให้พี่ชายตัวเองแต่พี่จักรไม่ได้มองกลับมาแต่ยังคงจับจ้องอยู่ที่กัส  ผมรีบหันกลับมามองกัสทันทีคนน่ารักต้องใจเสียแล้วแน่ๆ ‘นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับคนในครอบครัวผมกัน’ ผมคิดผิดที่ไหนกันกัสใบหน้าซีดเผือดเม้มปากแน่นก่อนก้มหน้าหลบทุกสายตา

“วินพาแฟนลูกมานั่งนี่สิ” คุณแม่ทำเสียงนิ่งเอ่ยชวนให้พาคนรักไปนั่งเก้าอี้ข้างท่าน  ผมจึงกระชับมือนิ่มเพื่อส่งกำลังใจไปให้กัสและพามานั่งข้างๆกัน  เมื่อเรานั่งเรียบร้อยแล้วผมจึงเอ่ยแนะนำกัสกับทุกคน

“ทุกคนครับนี่กัสคนรักผมครับ  กัสครับนี่คุณพ่อคุณแม่และพี่จักรครอบครัวของวินครับ”

หลังการแนะนำของผมแล้วกัสยกมือไหว้ทุกคนอย่างนอบน้อม  และได้รับการรับไหว้ตอบกลับจากคนในครอบครัวผม  แต่ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมา  จนกระทั่งผมทนไม่ไหวต้องเอ่ยออกมาเพราะสงสารกัสมากที่เหมือนกำลังจะร้องไห้อยู่แล้ว  มันเกิดอะไรขึ้นกับคนในครอบครัวของผมกัน

“ทุกคนเป็นอะไรไปครับ  อย่าทำแบบนี้เห็นมั้ยกัสกดดันจนจะร้องไห้อยู่แล้ว” ผมพูดไปก็โอบเอวร่างบางด้วยเพื่อปลอบใจ  กัสคงใจเสียและคิดไปไกลถึงไหนแล้วก็ไม่รู้  ผมนั้นทั้งสงสารกัสและมึนงงกับคนในครอบครัวตัวเอง 

“โธ่  กัสลูก  อย่าร้องไห้นะครับมานี่มา  นี่คุณคะฉันไม่เล่นละครบ้าๆนี่กับคุณกับตาจักรแล้วนะ  เห็นมั้ยลูกจะร้องไห้แล้ว” คุณแม่ที่นั่งข้างๆเอื้อมมือมาฉุดกัสออกไปจากอ้อมกอดของผม  เพื่อให้ไปนั่งข้างตัวท่านก่อนโอบประคองหลังบางลูบไหล่ลูบหัวปลอบโยนกัสที่กำลังร้องไห้  ผมได้ฟังประโยคนั้นของคุณแม่ก็ให้ถึงบางอ้อว่าที่ผ่านมาทุกคนเล่นละครกันแกล้งแฟนผมนี่เอง

“อ้าวลูกร้องไห้เลยเหรอ  จริงๆพ่อไม่ได้คิดแกล้งกัสนะ  พ่ออยากแกล้งไอ้ลูกชายตัวดีนี่ต่างหาก”

“ใช่  พี่หมั่นไส้ไอ้น้องชายพี่คนนี้ที่ท่ามาก  ไม่ยอมพากัสมาพบพวกเราซะทีน่ะ  แต่กลับทำน้องร้องไห้ได้  เฮ้ออออ”

“หยุดร้องนะครับกัส  โอ๋ๆ  คนดีของแม่ดูสิเดี๋ยวตาบวมแล้วจะหมดหล่อน้า”

คุณแม่ที่ปลอบกัสอยู่เอ่ยแซวหวังให้กัสหยุดร้องไห้และมันก็ได้ผล  เมื่อร่างบางเปลี่ยนมาเป็นหน้าแดงเขินอายแต่ยังไม่กล้ามองหน้าใครอยู่ดี  กัสคงทำตัวไม่ถูกที่เจอกันครั้งแรกก็เป่าปี่ไห้เห็นแล้ว  ครอบครัวผมนี่ก็ยังไงจะแกล้งลูกแกล้งน้องตัวเองกลับมาทำให้อีกคนร้องไห้ซะได้  แต่กลายมาเป็นแบบนี้ผมค่อยสบายใจหน่อย  ผมหันไปดูกัสที่เงยหน้ามาสบตากันด้วยรอยยิ้มหวานใบหน้าแดงระเรื่ออย่างน่ารัก  ซึ่งกัสคงสบายใจแล้วผมจึงยิ้มกว้างตอบกลับไป

“นี่ตาวิน  ไม่ต้องมาส่งตาหวานขนาดนั้นให้ลูกกัสของแม่มากนะ  แม่หวง” อ้าวนั่นไงครับสิ่งที่ผมกังวลมาแล้ว  คุณแม่เริ่มอยากครอบครองคนของผมซะแล้วและเหมาว่ากัสเป็นลูกตัวเองหน้าตาเฉย  ผมเริ่มเห็นอนาคตตัวเองรำไรแล้วว่าคุณแม่ต้องแย่งเวลาของกัสไปจากผมแน่ๆ

“แม่ครับนั่นแฟนวินนะ  ขอวินหวานกับแฟนบ้างเถอะครับ” เอาสิครับยิ่งคุณแม่เริ่มรักเริ่มหลงลูกชายคนใหม่  ผมก็ขอทวงสิทธิ์ความเป็นแฟนหน่อยเถอะแถมได้แหย่แม่ตัวเองด้วยยิ่งน่าสนุก

“ย่ะ  ต่อไปให้เบาๆบ้างให้รู้บ้างว่านี่ลูกแม่  แม่หวง”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะประสานขึ้นมาอย่างขบขันในถ้อยคำของคุณแม่ที่คงหลงลูกชายคนใหม่น่าดู 

ผมสบตากัสที่กำลังยิ้มกว้างแววตาระยับอยู่ในอ้อมกอดของคุณแม่  ก็รู้ว่ากัสกำลังมีความสุขซึ่งผมก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก  และรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่มีพ่อแม่ที่รักและเข้าใจลูกเมื่อลูกรักใครท่านก็รักด้วย  หลังจากนั้นคำถามต่างๆก็ถูกส่งจากคนในครอบครัวไปที่คนน่ารักที่โดนคุณแม่ยึดไปนั่งด้วยแล้ว  กัสตอบทุกคำถามด้วยใบหน้าระบายยิ้มตลอดเวลา  แต่มีคำถามหนึ่งที่ทำเอาผมสะดุ้งไปเหมือนกัน

“วินดีกับลูกใช่มั้ยครับ  ถ้าเกิดวันไหนวินทำให้กัสเสียใจให้กัสมาบอกพ่อกับแม่นะ  เดี๋ยวพ่อจัดการมันให้เองไม่ต้องถึงมือกัสหรอกลูก” คุณพ่อผมก็เป็นไปกับเค้าด้วยท่านคงหลงกัสเข้าแล้ว  ทั้งๆที่ท่านไม่ค่อยได้ถามคำถามแต่พอเอ่ยออกมาทีทำเอาผมเสียววาบไปเลย 

“โฮ  พ่อครับผมไม่กล้าทำอะไรลูกรักของพ่อกับแม่หรอกครับ  และไม่คิดจะทำให้กัสเสียใจแน่นอน”

ผมตอบคุณพ่อไปแล้วก็ขอหันไปหยอดแฟนตัวเองสักนิดส่งตาหวานสักหน่อย  ทำให้ผมได้รับยิ้มน้อยๆตาหวานๆตอบกลับมา  ‘เฮ้อ  อยากจับคนน่ารักมาฟัดแก้มจัง’ แต่อยู่กับพ่อแม่ขี้หวงขืนผมทำอย่างที่คิดได้โดนแน่ๆ  พวกเราคุยกันไปสักพักคุณแม่ก็ชวนทุกคนไปทานอาหารที่บอกว่าวันนี้ลงครัวทำให้กัสโดยเฉพาะและเป็นรายการโปรดของกัสทั้งนั้น  เมื่อวานคุณแม่โทรมาถามอาหารจานโปรดของกัสเพื่อจะทำให้คนน่ารักได้ชิม  และกัสก็ไม่ทำให้คุณแม่ผิดหวังเพราะทานได้มากกว่าทุกวันและชมไม่ขาดปาก  ทำเอาคุณแม่ผมปลื้มยิ้มแก้มปริไปเลยที่ลูกชายคนใหม่ชอบอาหารที่ตัวเองทำ  แต่มีเรื่องให้ผมขัดใจเล็กๆบนโต๊ะอาหาร

“กัสครับ  นี่น่องไก่ทอดน้ำแดงอบซอสอร่อยมากพี่ชิมแล้ว / เติมข้าวอีกมั้ยเดี๋ยวพี่เรียกเด็กตักให้ / กัสน่ารักจังครับไม่น่าเป็นแฟนนายวินเลยเปลี่ยนใจยังทันนะมาเป็นแฟนพี่จักรดีกว่ามั้ย”

ประโยคเหล่านี้มาจากพี่จักรพรรดิพี่ชายของผมที่แอบจีบน้องสะใภ้ต่อหน้าต่อตากัน  ‘พี่จักรแอบคิดจริงจังมั้ยครับเนี่ย’  ซึ่งผมก็ตามตักอาหารที่พี่จักรตักให้กัสมากินเองและตักเมนูเดิมด้วยตัวเองให้ใหม่  พร้อมส่งสายตาขึงขังไปให้พี่ชายที่ก็ไม่ได้สนใจกันเลย  พอหันกลับมาทางกัสก็เห็นว่ากำลังยิ้มขำเราสองพี่น้อง  แต่กัสกลับหันมาดุผมคนเดียวซะได้ว่าเล่นอะไรเป็นเด็กๆ  และเพราะแบบนี้ผมจึงได้ฟังประโยคที่น่าโมโหประโยคสุดท้ายที่พี่จักรชวนกัสให้ไปเป็นแฟนตัวเองซะได้  ผมล่ะอยากเก็บกัสที่นั่งทานข้าวข้างๆกันไปเก็บในห้องตัวเองจริงๆเลย  หลังมื้ออาหารเราสองคนจึงเดินไปนั่งให้อาหารย่อยที่ริมสระว่ายน้ำที่อากาศกำลังเย็นสบาย  เมื่อได้อยู่กันสองคนหลังจากที่คุณแม่เอ่ยปากว่า

‘ปล่อยให้แฟนเค้าได้อยู่ด้วยกันบ้างเดี๋ยวลูกวินของแม่จะน้อยใจไปกว่านี้’ แถมหัวเราะถูกใจที่ได้แกล้งลูกชายตัวเองสำเร็จ

“กัสสบายใจรึยังครับ  หืม”

“ครับ  ครอบครัววินน่ารักมาก  ทุกคนดีกับกัสจังเลย”

กัสส่งยิ้มกว้างกลับมาให้และดวงตานั้นก็เปล่งประกายแห่งความสุข  เห็นแบบนี้แล้วผมก็มีความสุขตามไปด้วย  ผมเอื้อมมือไปลูบใบหน้าหวานอย่างหลงใหลและสัญญากับตัวเองว่าผมจะรักษารอยยิ้มแบบนี้ของกัสไว้ให้อยู่ตลอดไป  แก้มใสๆตาวาวๆทำให้ผมอดใจไม่อยู่จึงขยับตัวก้มหน้าลงหอมแก้มนุ่มแต่กัสก็เบี่ยงหน้าหนี  ผมจึงชะงักไปก่อนเงยหน้าขึ้นสบตาทันเห็นสายตาเจ้าเล่ห์ที่นานๆจะได้เห็นสักครั้ง
 
“ห้ามหอม  ห้ามจูบ  ห้ามทุกอย่าง  ยกเว้นจับมือได้เท่านั้น  เป็นเวลาหนึ่งเดือน”

“กัส  นี่มันอะไรครับ” หลังคำห้ามมากมายจากคนน่ารักทำผมงงเป็นไก่ตาแตก  ว่าทำไมกัสถึงต้องห้ามไม่ให้ผมได้ชื่นใจเล็กๆน้อยๆด้วย  ใบหน้าผมคงตลกมากคนใจร้ายถึงหัวเราะคิกคักตายิบหยี

“คิกๆ  นี่เป็นบทลงโทษกับเรื่องของรัน” ผมชะงักไปเมื่อได้ยินคำตอบของกัส

หนึ่งเดือนคนอื่นอาจว่าแป๊บเดียวแต่สำหรับผมที่โดนห้ามแสดงความรักทุกรูปแบบกับคนรักจะไม่ขาดใจไปซะก่อนเหรอครับ  แต่จะไม่ยอมก็ไม่ได้เพราะดีเท่าไหร่แล้วที่กัสลงโทษผมแค่นี้  คนที่มีแฟนจะรู้ดีว่ามันเหมือนตายทั้งเป็นที่มีคนรักอยู่ใกล้ๆแต่แสดงความรักผ่านร่างกายกับคนรักไม่ได้

“เฮ้อ  ครับวินรับคำบัญชาที่ท่านชายกัสสั่งทุกอย่างเลย  แต่ขอแค่หอมแก้มสักอย่างก็ไม่ได้เหรอครับ”

“ไม่!  ห้ามต่อรอง  ไม่งั้นมือก็จะไม่ได้แตะนะ  แถมจะห้ามเจอตลอดหนึ่งเดือนด้วยต่างคนต่างอยู่เลย” กัสส่งเสียงดุๆที่ขัดกับแววตาเจ้าเล่ห์มาให้  เมื่อสามารถหาบทลงโทษมาให้ผมทรมานได้  เอาน่ะ! แค่เดือนเดียวต้องอดทนเพื่อชดเชยในความผิดของตัวเอง  ผมจับมือบางไว้และยกขึ้นจูบหลังมือนุ่มที่เจ้าของไม่ทันขัดขืน  ผมจึงฝังปากและจมูกสูดกลิ่นจนพอใจ

“เอ๊ะ! วิน  กัสบอกห้ามไง  เดี๋ยวเถอะ” กัสส่งเสียงดุไม่แพ้ดวงตา  ผมจึงรีบส่งสายตาออดอ้อนพร้อมคลึงหลังมือบางไปด้วยเพื่อหวังให้คนน่ารักคลายโกรธลง

“อื้อ  ขอแค่นี้นะครับ  ครั้งนี้ครั้งเดียวขอมาเป็นกำลังใจที่วินต้องรับโทษตั้งเดือนไงครับ” กัสถอนใจยาวตาอ่อนแสงลงและคลี่ยิ้มน้อยๆให้ผมได้เบาใจว่าคนน่ารักไม่คิดจะโกรธกันแล้ว  ก่อนใบหน้าหวานที่ผมจับจ้องอยู่จะเบือนไปทางสระว่ายน้ำตรงหน้าเราแทน

“วินโชคดีนะที่มีครอบครัวที่อบอุ่น  ทุกคนรักวินมากเลยเนอะ” ใบหน้าด้านข้างของกัสนั้นเศร้าจนผมนึกสงสารจับใจ  ผมจึงกุมมือบางให้แน่นขึ้นเพื่อส่งกำลังใจไปให้  ใจจริงอยากจะโอบกอดร่างบางเข้าหาอกแต่ผมต้องรักษาสัญญาที่ให้กัสไว้ 

“โธ่ที่รักอย่าคิดมากนะ  ต่อไปครอบครัววินก็เป็นครอบครัวกัสเหมือนกันนะครับ”

เรื่องครอบครัวของกัสผมได้รู้จากกัสเองตอนที่เรากลับมาคบกันอีกครั้ง  ว่ากัสสูญเสียทั้งพ่อและแม่ไปตั้งแต่ช่วงที่เรียนชั้นมัธยมปลายเพราะอุบัติเหตุทางเครื่องบินตก  เมื่อพ่อแม่เสียกัสจึงมาอยู่กับคุณยายที่ต่างจังหวัดและมีมรดกของพ่อแม่มาบ้างหลังจากนั้นยายก็มาเสียเมื่อสองปีก่อน  กัสจึงต้องมาอาศัยกับป้าแทนได้อาศัยเงินที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้จนเรียนจบ  จึงออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเองโดยใช้ชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นส่วนใหญ่  นานๆครั้งถึงจะกลับไปเยี่ยมป้าบ้างไม่ใช่ว่าป้ากัสจะร้ายแต่ด้วยความที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันมาแต่แรกทำให้ไม่ค่อยผูกพันกันนัก  แต่สายสัมพันธ์ทางสายเลือดที่กัสเหลืออยู่ก็มีแค่ครอบครัวของป้าเท่านั้น  ดังนั้นกัสจึงเหมือนอยู่ตัวคนเดียวยังดีที่มีเพื่อนสนิทอย่างมิคและมาย  ที่รักและใส่ใจกัสอย่างจริงใจทำให้กัสไม่เหงาและมีความสุขได้ในช่วงที่เรียนอยู่ 

ใบหน้าเศร้าๆของกัสก็หันกลับมาและส่งยิ้มน้อยๆมาให้ผม  ให้รู้ว่าเจ้าตัวเค้าไม่ได้เป็นอะไรเพื่อให้ผมได้สบายใจ  ก่อนกัสจะเข้ามาโอบกอดตัวผมไว้ทำเอาผมสะดุ้ง ‘นี่ผมไม่ได้ผิดสัญญาใช่มั้ยครับ  ในเมื่อคนน่ารักเข้ามากอดผมเอง’  ผมจึงโอบประคองคนตัวนิ่มที่หอมกรุ่นเข้าหาตัวและโยกตัวกัสเบาๆ  เพื่อส่งกำลังใจไปให้และผมก็หวังว่ากัสจะรับรู้ถึงสิ่งที่ผมส่งไปให้  ต่อไปนี้ผมจะเป็นคนที่อยู่เคียงข้างให้ความรักความอบอุ่นแก่คนในอ้อมกอดคนนี้เอง  ไม่ให้รู้สึกเหงาหรือว้าเหว่เหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว

...................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

น่าสงสารหนูกัสนิดๆเนอะ ครอบครัวนี้ขี้แกล้งจัง  :sad11:
แต่ไม่เป็นไรสุดท้ายทุกคนก็รับสะใภ้เล็กอย่างเต็มตัวเต็มใจ
ส่วนนายวินก็เนียนตลอดๆ  :laugh:

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ :กอด1:เจอกันพรุ่งนี้จ้า

ฝากติดตามการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะรายละเอียดหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0

เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55

1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 910
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
อ่านตอนนี้แล้วสงสารกัสจังเลย แต่ไม่เป็นไรเนอะยังมีวินอยู่
แถมครอบครัววินก็น่ารักมากๆอีกตั้งหาก (ขี้แกล้งจริงๆ ฮุฮุฮุ)
เล่นเอากัสร้องไห้เลย แม่วินสุดยอดเลย วินโดนแม่ยึดกัสไปแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-07-2012 08:27:03 โดย 111223 »

tawan

  • บุคคลทั่วไป
หนูกัสน่าสงสาร

โชคดีเจอครอบครัวที่น่ารัก :กอด1:

 :call:

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9
กัสน่ารัก+น่าสงสารอ่ะ
วิน เนียนตลอดเลยนะ

รอตอนหน้านะครับ

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ดีนะที่ครอบครัววินน่ารัก กัสไม่เป็นไรนะ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ดีน๊าที่คุณแม่ใจอ่อน
เลิกแกล้ง :L1:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ที่จริงรันไม่มีสิทธิมาว่าวินนะ ก็ตัวเองไม่ดีเองนะ อันนี้กัสน่าจะเห็นใจวินมากกว่า

+1+เป็ดค่ะ

ออฟไลน์ eern

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
วินเลยอดไปเลยหนึ่งเดือนแล้ววินจะไม่ใจขาดเหรอน่าสงสาร555 :m20:

ออฟไลน์ Number1_90

  • 넘버원~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-0
รักครอบครัวนี้เนอะ

น่ารักมากเลย  :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lidelia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1
ครอบครัววินน่ารักจัง  :o8: :o8:

แต่แอบสงสารวิน จะขาดใจตายก่อน 1 เดือนไหมเนี่ย  :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ i1_to*pp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +683/-5


กัสน่าสงสารจัง
ตอนนี้มีครอบครัววินแล้วนะ
 :กอด1:


ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 23

กัส

ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของวินที่ได้รับครั้งนี้มันอุ่นไปถึงใจ  ผมรับรู้ถึงความรักความห่วงใยที่วินส่งผ่านกอดนี้ได้  ผมตกอยู่ในอ้อมกอดของวินอยู่นานเวลาผ่านไปเรื่อยๆจนอารมณ์ผมกลับมาสู่ภาวะปกติแล้ว  ถึงเพิ่งนึกได้ว่าผมผิดกฎที่ตัวเองตั้งไว้กับวินเสียเอง  ผมจึงผลักอกวินออกเบาๆและเอ่ยแก้เขิน

“ได้ทีกอดใหญ่เลยนะวิน  กัสไม่ลืมที่บอกกับวินไปหรอกนะ” วินทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยส่งกลับมาให้ก่อนกระชับมือผมแน่น

“ครับ  วินรู้ว่ากัสไม่ลืม  วินยอมกัสทุกอย่างนั่นแหละ  เราเข้าบ้านกันเถอะครับ  วินแอบเห็นคุณแม่ชะเง้อมองออกมาจากห้องดูทีวีหลายรอบแล้ว” ผมหันไปทางที่วินบอกว่าเป็นห้องดูทีวีที่ตอนนี้มีคุณพ่อและคุณแม่ของวินนั่งอยู่  ห้องนั้นมีกระจกใสกั้นอาณาเขตแต่ไม่สามารถกั้นสายตาสองคู่ที่จ้องมาได้

ผมสบตาคุณแม่ที่นั่งอมยิ้มอยู่ไม่ไกลก่อนส่งยิ้มเขินๆไปให้  เพราะรู้ว่าคุณแม่ต้องเห็นตอนที่เรากอดกันแน่ๆ  วินนี่ยังไงเห็นท่านแล้วก็ไม่รีบบอกกันปล่อยให้ผมกอดอยู่ตั้งนานมันน่าต่อเวลาลงโทษอีกสักเดือนนักเชียว  ผมจึงหันมาส่งค้อนให้พ่อตัวดีที่ตอนนี้ส่งยิ้มกว้างปากฉีกถึงหูแล้ว  ‘ให้ค้อนแล้วยังยิ้มอยู่ได้คนอะไรเนี่ย  ฮึ  ผมจะงอนแล้วนะ’  ผมโดนวินลากกลับมาในบ้านตรงไปทางห้องที่คุณพ่อคุณแม่นั่งอยู่  เมื่อเราเข้าไปถึงคุณแม่ก็กดปิดทีวีและเรียกให้ไปนั่งตรงพื้นต่อหน้าท่านทั้งสอง  ก่อนเรียกเด็กรับใช้ไปตามพี่จักรมาที่ห้องนี้  ผมส่งสายตาเป็นคำถามให้กับคนที่นั่งพื้นข้างๆกันและได้อาการส่ายหน้าจากวิน  จึงหันกลับไปมองหน้าคุณแม่อีกครั้งที่ยิ้มละไมแววตาเอื้อเอ็นดูมาให้  ผมจึงส่งยิ้มหวานตอบกลับและเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกจนกระทั่งพี่จักรเข้ามา

“ได้เวลาแล้วเหรอครับแม่” พี่จักรพูดยิ้มๆและนั่งลงที่โซฟาข้างคุณพ่อ  ส่งสายตาล้อเลียนมาให้ผมกับวินที่กำลังงงมากไม่รู้ว่าถึงเวลาอะไรกัน  คุณแม่เอื้อมมือมาดึงมือผมไปกุมทั้งสองข้างและตบหลังมือเบาๆ  ก่อนท่านจะเอ่ยเสียงหวานออกมา
 
“กัส  แม่อยากให้ลูกคิดว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันนะ  ทั้งพ่อแม่และพี่จักรก็คิดว่ากัสเป็นลูกเป็นน้องของพวกเรา  และแม่เชื่อว่านายอัศวินลูกแม่คนนี้รักกัสมากนะลูก  เพราะแม่ไม่เคยเห็นวินเป็นแบบนี้กับใคร  แม่อยากขอกัสให้โอกาสวินพิสูจน์ความรักที่วิน มีนะลูก  ตอนนี้แม่ก็อยากรับกัสมาเป็นคนในครอบครัวอยากจองกัสให้วินไว้ก่อน”

ประโยคของคุณแม่ทำให้ผมอึ้งและซาบซึ้งใจไปพร้อมๆกันจนถึงขั้นน้ำตาซึม  ด้วยผู้หญิงคนนี้ที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับผมเลย  แต่ท่านก็รักผมโดยแสดงออกทั้งท่าทางและคำพูด  ทำให้ผมอดจะคิดถึงแม่ของตัวเองที่เสียไปแล้วไม่ได้  และประโยคสุดท้ายของท่านทำผมอึ้งมากจากการที่ท่านเอ่ยปากขอจองตัวผมให้ลูกชายตัวเอง  คุณแม่ยื่นกล่องกำมะหยี่สีแดงให้วินที่ขณะนี้ยิ้มกว้างตาพราวอย่างถูกใจ  เมื่อวินเปิดกล่องออกผมจึงเห็นแหวนทองคำขาววงเกลี้ยงสองวง

“วินสวมให้กัสสิลูก  แม่ขอจองกัสไว้ก่อนนะลูก  แม่รู้ว่าลูกแม่น่ะใจร้อนเหมือนแม่  ใช่มั้ยวิน  ฮึๆ  ส่วนเรื่องผู้ใหญ่กัสพร้อมเมื่อไหร่บอกแม่เดี๋ยวแม่ไปคุยกับป้าหนูทันทีเลยลูก”

หลังคำพูดของคุณแม่ไม่ต้องมีใครบอกซ้ำ  วินเอื้อมมาจับมือข้างซ้ายของผมไว้พร้อมส่งสายตาหวานเชื่อมมาให้  ก่อนจะก้มหน้าลงและบรรจงสวมแหวนลงมาที่นิ้วนางข้างซ้าย  ผมรู้สึกได้ถึงความเย็นของเนื้อทองคำขาวตั้งแต่แหวนสัมผัสปลายนิ้วจนมันถูกสวมจนสุด  พร้อมความอบอุ่นที่คืบคลานเข้าครอบคลุมหัวใจทั้งดวง  วินเงยหน้าขึ้นก่อนที่เราจะสบตากันและวินก็คลี่ยิ้มหวานได้ไม่แพ้สายตาที่ผมได้สบ 

“กัสสวมแหวนให้วินด้วยสิครับ  ทีนี้กัสเป็นของวินและวินก็เป็นของกัสแล้วนะครับ” ผมหยิบแหวนที่เหลืออีกวงมาสวมให้ที่นิ้วนางข้างเดียวกันให้กับวิน 

ความรู้สึกของผมตอนนี้คืออึ้งและมีความสุขล้นใจ  แม้เรื่องนี้จะไม่มีใครสอบถามความเห็นผมก่อนเลย  แต่ใจจริงผมก็เต็มใจและไม่คิดปฏิเสธให้ผู้ใหญ่เสียหน้าอยู่แล้ว  และวินก็คงไม่ได้รู้ล่วงหน้าเหมือนกัน  วินแค่มีคุณแม่ที่ใจร้อนและเข้าใจลูกมากที่สุดก็แค่นั้นเองครับ  จนผมอดแอบหมั่นไส้พ่อตัวดีตรงหน้านี้ไม่ได้ไม่รู้วินจะโชว์ยิ้มหล่ออีกนานมั้ย  วินจับมือผมข้างที่นั่งติดกันและก้มลงกราบคุณแม่ที่ตัก  ตามมาด้วยคุณพ่อที่ไม่ได้พูดอะไรได้แต่โชว์ยิ้มหล่อได้ไม่แพ้ลูกชาย 

“ต่อไปนี้วินห้ามทำให้กัสเสียใจและต้องรักกัสให้มากรู้มั้ย  แต่ถ้าวินทำกัสเสียใจมาบอกพี่จักรนะครับ  พี่จะจัดการมันเองและจะให้กัสมาเป็นแฟนพี่แทน  ฮ่าๆๆๆ”

“โฮ  พี่จักรขู่ผมใหญ่เลยนะ  แต่เลิกหวังในตัวกัสได้เลยเพราะผมจะไม่ทำให้กัสเสียใจแน่  ก็รักซะขนาดนี้แล้ว”

“ฮ่าๆๆๆ / ให้มันจริงเถอะไอ้วิน / ดีแล้วเนี่ยแม่อุตส่าห์เตรียมแหวนไว้ให้เพื่อจองว่าที่ลูกสะใภ้อย่าให้แม่ผิดหวังนะวิน”

เสียงหัวเราะของคุณพ่อตามมาด้วยการขู่ของพี่จักรจบที่คุณแม่ที่รักลูกมากและอยากมีลูกสะใภ้น่ารักเอ่ยบอกคนที่นั่งข้างผม บรรยากาศในห้องนั้นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของคนในครอบครัวพาให้ใจผมสดชื่น  ทำให้ผมต้องยิ้มตามทั้งๆที่หน้าร้อนผ่าวและไม่กล้าสบตาใครสักคนในห้อง  ผมที่มีคู่หมั้นแบบไม่รู้ตัวแต่เต็มใจและได้ครอบครัวใหม่ที่อบอุ่น  ซึ่งรักผมเหมือนลูกแท้ๆทำให้ชีวิตผมนี้มีความหมายขึ้นมากเลยครับ

“วันนี้พ่อว่าเราแยกย้ายกันได้แล้ว  วินกับกัสนอนที่นี่เลยนะไม่ต้องกลับไปที่คอนโดหรอก”

“จริงด้วยลูกพรุ่งนี้แม่จะได้อยู่กับกัสอีกสักวัน”

“ว่าไงครับกัส  วินแล้วแต่กัสเลยครับ”

“แหมไอ้วิน  แกนี่ถ้าจะมีแวว ‘เกลียมัว’ เนอะ”

คำตอบตกลงที่ผมจะบอกออกไปทำเอาชะงักค้างอยู่แค่ริมฝีปากเพราะประโยคสุดท้ายของพี่จักร  ผมยังไม่ได้เป็นอะไรกับวินถึงขั้นนั้นซะหน่อยแม้จะมีอะไรๆไปบ้างก็เถอะ  ‘ร้ายจริงพี่น้องคู่นี้’  พี่แซวน้องแต่ผลกลับทำให้ผมอายได้  ผมนั้นไม่กล้ามองหน้าใครในห้องอีกเลยแถมหน้าก็ร้อนผ่าวแทบไหม้เป็นจุลแล้ว

“เพี้ยะ /  ตาจักรแซวน้องทำไมหึ” คุณแม่เหมือนจะเข้าข้างผมและปรามพี่จักรนะ  แต่สายตาที่ผมได้สบด้วยนี่สิกลับมีแววล้อเลียนเต็มหน่วยตา  ‘ครอบครัวนี้เค้าทำงานกันเป็นทีมจริงๆขยันทำให้ผมได้อายนัก’  ก่อนคุณแม่จะดึงผมเข้าไปกอดจนแน่นและหอมแก้มผมฟอดใหญ่เสียงดัง  เรียกเสียงโวยวายจากวินทำนองว่าหวงผมด้วย

“แม่ล้อเล่นลูก  ตาวินไม่ต้องทำหวงกัสเลยนะถ้าไม่ได้แม่น่ะ  แกจะมีคู่หมั้นแบบนี้มั้ย” คุณแม่พูดกับผมเสียงอ่อนก่อนหันไปเอ่ยกับลูกชายคนเล็กเสียงแข็ง  และหันมาส่งยิ้มหวานให้ผมด้วยแววตาพราวเหมือนถูกใจที่ได้แกล้งวิน  ส่วนวินก็แกล้งส่งค้อนให้คุณแม่แต่สายตากลับแพรวพราวราวสมใจ ‘เหมาะสมแล้วที่เป็นแม่ลูกกัน’

“กัสจ๊ะ  แม่จัดห้องที่ติดกับห้องวินให้แล้วนะลูก” พูดจบท่านแอบเหล่มองไปทางวินแต่ใบหน้ายังยิ้มพรายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนผมต้องกลั้นขำเม้มปากแน่น

“ขอบคุณครับคุณแม่” วินหน้าเลิกลั่กหันมองหน้าผมกับคุณแม่ไปสลับมาและเหมือนวินจะเพิ่งได้สติ  วินเข้ามารวบเอวผมไว้ต่อหน้าทุกคนจึงเป็นผมเองที่ตกใจตาโตทำตัวไม่ถูกขึ้นมา

“แม่ครับจัดทำไมให้ยุ่งยาก  ปกติกัสต้องนอนห้องเดียวกับวินอยู่แล้ว” ผมพยายามแกะมือปลดแขนที่เกาะเอวผมออก  แต่ยิ่งขืนวงแขนนี้ก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นด้วยความหมั่นไส้เจ้าของอ้อมกอดผมจึงตอบรับคุณแม่ไป

“วันนี้กัสจะนอนห้องที่คุณแม่จัดให้ครับ” หลังคำตอบผมนั้นวินออดอ้อนเสียงหวานเรียกชื่อผมใหญ่  แต่ผมทำเป็นไม่สนใจพยายามแกะมือปลาหมึกออกจนสำเร็จ

“ฮ่าๆๆๆ  ไอ้วินสมน้ำหน้า” พี่จักรหัวเราะก้องและซ้ำเติมน้องชายอย่างถูกใจ 

ส่วนวินไม่สนใจใครเลยเพราะมัวแต่เขย่ามือผมและส่งสายตาอ้อนวอนมาให้  แต่ครั้งนี้ผมไม่แพ้ทางให้สายตาคู่นี้แน่ครับ  เพราะมาที่นี่ครั้งแรกก็จะให้นอนห้องเดียวกับลูกชายเจ้าของบ้านเลยก็ยังไงอยู่  ถึงแม้จะหมั้นอย่างไม่เป็นทางการแล้วก็เถอะ  แต่ถ้าผมได้มาที่นี่บ่อยๆก็ค่อยว่ากันอีกที  หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับห้องตัวเอง  เหลือผมกับวินที่ยังนั่งกุมมืออยู่บนพื้นที่เดิมและยังไงวินก็ไม่ยอมให้ผมแยกห้องนอนพยายามตื๊ออยู่ได้

“กัสครับนอนห้องวินนะ  นะครับ”

“ไม่อ่ะ  คุณแม่อุตส่าห์จัดให้แล้ว”

“ถ้ากัสกับวินไม่พูดก็ไม่มีใครรู้หรอกครับ  อีกอย่างนานๆเราจะเจอกันนะ  ถ้าแยกกันนอนแล้วคืนนี้วินจะหลับยังไงกันครับ”

“ทุกคืนวินก็นอนได้นี่หน่า  อ๋อ  จริงด้วยวินยังอยู่ในช่วงโดนลงโทษนะ”

“ขอแค่นอนใกล้ๆและได้กลิ่นก็ยังดี”

“บ้า  เห็นกัสเป็นอะไรเนี่ย  ไปแล้วไม่เอาห้ามต่อรอง  วันนี้เที่ยวทั้งวันแถมมีเรื่องให้ตื่นเต้นมากมาย  กัสอยากพักแล้วครับ  นะ” อ้อนกลับซะหน่อยแล้วก็ได้ผล 

วินถอนใจเฮือกขมวดคิ้วปากยื่นใส่ผม ‘มันน่าขำนัก’ ถ้าเพื่อนสนิทวินมาเห็นเวอร์ชั่นนี้เข้านะพวกนั้นคงแซวเจ้าตัวไม่เลิกแน่ๆ  ก่อนวินจะพาผมเดินขึ้นบันไดไปทางฝั่งซ้ายของบ้าน  และหยุดที่หน้าห้องหนึ่งคงเป็นห้องที่ผมจะได้พักในคืนนี้

“ไม่เปลี่ยนใจแน่เหรอครับกัส”

“กัสขอยืมชุดนอนวินหน่อยนะ  แล้ววินค่อยให้เด็กรับใช้มารับชุดนี้ไปจัดการให้กัสได้มั้ย  พรุ่งนี้จะได้มีใส่”

ผมแกล้งเปลี่ยนเรื่องไปเพื่อให้วินเลิกเซ้าซี้  มองหน้าวินที่เปลี่ยนจากงอนเป็นหงอยไปซะแล้ว  ‘เหมือนเด็กเลย  ไอ้เด็กโข่งเอ๊ย’ วินที่เป็นชายหนุ่มมาดแมนไม่ยอมใครมีแต่คนอื่นที่ต้องยอมตัวเองมาตลอด  ถึงคราวนี้เจ้าตัวคงขัดใจไม่น้อยที่ผมไม่ยอมทำตามที่ตัวเองต้องการ  แต่ก็ทำอะไรไม่ได้คงไม่กล้าบังคับเพราะกลัวผมโกรธ  ผมก้มหน้าซ่อนยิ้มให้กับคนหน้าหงอยเกือบหมดหล่อ  เห็นแล้วก็นึกสงสารงั้นปลอบสักนิดล่ะกันครับ  ผมเงยหน้าจับบ่าทั้งสองข้างของวินและทิ้งน้ำหนักไปที่ไหล่คู่นั้นก่อนยกตัวขึ้น

“ฟอดดด / ฝันดีนะครับ” หลังวิธีปลอบใจของผมแล้ววินมองผมตาโตยืนนิ่งค้างอยู่ท่าเดิม  จนผมหลุดขำออกมาและรีบหมุนตัวเพื่อเปิดประตูเข้าห้อง  ก่อนปิดประตูผมหันกลับไปมองอีกครั้ง  ก็รู้ว่าวินเรียกสติกลับมาแล้วและกำลังส่งยิ้มกว้างมาให้

“ครับ  กัสก็ฝันดีนะ  ฝันถึงวินด้วยนะครับ”

ผมส่งยิ้มหวานกลับพร้อมยกมือข้างซ้ายของตัวเองที่สวมแวนอยู่ขึ้นจรดริมฝีปากและช้อนตาขึ้นมองวิน  ไม่รู้ว่าตัวเองส่งสายตาแบบไหนไปให้วินแต่ใบหน้าวินพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นทันตาและตาเบิกกว้างอ้าปากค้าง  เห็นดังนั้นผมจึงรีบปิดประตูทันที  คืนนี้ได้แกล้งวินแค่นี้คงพอแล้วไม่งั้นจะเป็นผมซะเองที่จะโดนหนักกว่าที่ได้แกล้งไป  หลังปิดประตูผมได้ยินเสียงวินจากอีกฝากของประตู

“โอ๊ย  กัสแกล้งยั่วกันแบบนี้แล้วจะให้วินนอนหลับได้ยังไง  พรุ่งนี้เจอล่ะน่าดู”

ได้ฟังผมอดขำไม่ได้นี่แสดงว่าหน้าตาที่ผมส่งไปให้วินมันยั่วยวนอีกฝ่ายเหรอเนี่ย  วันหลังแกล้งยั่ววินแบบนี้อีกดีกว่าวินที่อยู่ในช่วงโดนลงโทษมันน่าสนุกน้อยที่ไหนกัน  เพราะวินคงไม่กล้าผิดสัญญาแน่ๆ  หลังจากนั้นผมก็ได้รับเสื้อผ้าที่ขอวินไว้จากเด็กรับใช้ที่วินคงให้นำมาให้ผม  ผมอาบน้ำเสร็จก็เอาชุดที่ใส่แล้วไปวางหน้าห้องซึ่งเด็กคนเดิมจะขึ้นมาเอาไปจัดการต่อ

‘ตี๊ดๆ  ตี๊ดๆ’

เสียงข้อความเข้าถูกส่งมาจากวิน  มีเรื่องอะไรนะเพิ่งแยกกันเองผมจึงรีบเปิดดูอย่างนึกสงสัย

“ห้ามส่งสายตาแบบนั้นให้ใคร  หมดช่วงหนึ่งเดือนเมื่อไหร่ล่ะก็กัสเตรียมตัวเตรียมใจได้เลย  คืนนี้หลับฝันดีครับที่รัก”

ข้อความนี้มันขู่กันชัดๆ  ใครกลัวไม่มีซะล่ะยังมีเวลาตั้งเดือนที่จะเตรียมตัว  และผมจะแกล้งยั่วให้หนักขึ้นกว่าเดิมอีก  แต่ถ้าหมดหนึ่งเดือนไปแล้วผมจะโดนอะไรบ้างน้า

.................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

กัสก็ช่างยั่วเนอะไม่รู้พอพ้นโทษ1เดือนจะเจออะไรบ้าง  :laugh:
จะเจออะไรก็ไม่สำคัญ แต่ที่รู้บ้านนี้เค้ารู้ใจลูกชายคนเล็กกันจังเลย
หมั้นกัสให้วินเสร็จสรรพดิ้นไม่หลุดแล้ว

+1และเป็ดให้ทุกเม้นท์แทนคำขอบคุณแล้วนะคะ  :กอด1: เจอกัสวินพรุ่งนี้ค่ะ

ฝากติดตามการรวมเล่มชุด "เสน่ห์รัก" ด้วยนะคะรายละเอียดหน้าแรกค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33594.0

tawan

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
กลัวจะไม่ถึง
1 เดือนน่ะสิ
โดนก่อนแน่ๆ
ช่างยั่วดีนักนะกัส :z1:

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 910
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
ดูท่าทางแบบนี้แล้วไม่พ้นเดือนแน่ๆ กัสขยันยั่ววินขนาดนี้
วินจะทนไหวได้ไง จริงไม ปกติวินก็จ้องจะกดกัสอยู่แล้ว ฮุฮุฮุ

ออฟไลน์ eern

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
กัสแก้ลงวินบ่อยๆระวังโดนเอาคืนนะ :m20:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ i1_to*pp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +683/-5

กัสครบ1เดือนโดนจัดหนักแน่ๆ :impress2:
 :กอด1:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ Number1_90

  • 넘버원~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-0
อยากให้ครบเดือนไวๆ

อยากเห็นกัสโดนลงโทษ  :laugh:

รอตอนต่อไปค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 24

วิน

‘พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันศุกร์แล้วสินะ’ ผมกำลังนั่งเอนหลังพิงโซฟาเบดตัวใหญ่ในห้องนอนคลึงแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายพลางนึกถึงใบหน้าคนรักไปด้วย  ผมนั้นอยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ  ตั้งแต่วันที่ได้รับบทลงโทษจากกัสให้แค่จับมือก็ผ่านมาสามสัปดาห์แล้ว  ผมที่ไปหากัสทุกสัปดาห์ก็ได้แค่นอนจับมือและมองหน้าหวานที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่จับต้องมากกว่านี้ไม่ได้  ผมอึดอัดใจมากที่ถ่ายทอดได้เพียงแค่คำพูดว่า ‘รัก’  มีบ้างที่ผมแอบขโมยหอมแก้มนุ่มเมื่อเจ้าของหลับสนิทให้พอเป็นแรงใจ  แต่อย่าให้กัสได้รู้เชียวไม่งั้นผมคงได้รับโทษเพิ่มแน่ๆ  กำลังคิดถึงคนรักเพลินๆก็ถูกขัดจังหวะจากสายเรียกเข้าทางโทรศัพท์มาจากเพื่อนหนุ่มผิวเข้ม ‘ฟิน’

“ไงมึงโทรมาซะดึกมีอะไรรึเปล่า”

“ไม่มีโทรมาไม่ได้เหรอไอ้วิน  พอมีคู่หมั้นเนี่ยไม่สนใจเพื่อนฝูงเลยนะ”

“น้อยใจไปได้ไอ้นี่มีไรว่ามาเลย  อย่าช้าเดี๋ยวต้องโทรหากัสอีก”

“เออๆ  พรุ่งนี้มึงต้องไปหากัสใช่มั้ย  ขอกูตามไปด้วยสิอยากไปสูดอากาศต่างจังหวัดบ้าง”

“อารมณ์ไหนของมึงเนี่ย  เออ  อยากไปก็ได้แต่กูจะไปออกหน่วยเคลื่อนที่กับกัส  พื้นที่มันลำบากหน่อยนะ  มึงจะไปด้วยหรือจะรอในตัวจังหวัดล่ะ”

“กูไปด้วย  ดีเหมือนกันเบื่อๆว่ะ”

“ตามใจพรุ่งนี้มาเจอกูที่บ้านสักบ่ายสามโมงละกัน”

คุยกันเสร็จผมก็วางหูไปนึกสงสัยเหมือนกันว่าไอ้ฟินมันเบื่ออะไรนักหนา  แต่ก็ไม่แปลกใจมากนักเพราะไอ้ฟินเคยเอ่ยปากว่าจะขอตามไปเที่ยวเหมือนกัน  แต่ที่ผ่านมามันยังไม่ว่างและมันคงเบื่อแสงสีกลางคืนแล้วมั้ง  เพราะในกลุ่มผมนั้นไอ้ฟินใช้ชีวิตหนุ่มโสดได้คุ้มที่สุดแล้วมันเที่ยวได้ทุกคืนแต่งานมันก็ไม่เคยทิ้ง  แต่เป็นแบบนี้ก็ดีผมจะได้มีเพื่อนร่วมเดินทางและช่วยขับรถด้วย  อ้าว  เลยเวลาโทรหาที่รักแล้วมัวแต่คุยกับไอ้ฟิน  เดี๋ยวโดนคนน่ารักงอนผมจะแย่เอาและคงต้องบอกกัสเรื่องที่ไอ้ฟินจะตามไปด้วย  แต่กัสคงไม่มีปัญหาอะไรเพราะอย่างน้อยก็ได้ไอ้ฟินเป็นลูกมือเพิ่ม  ส่วนผมก็จะได้มีเวลาสวีทเล็กๆกับกัสเพิ่มด้วย

...................................

ศาลาประชาคมประจำหมู่บ้านถูกใช้ประโยชน์ให้เป็นสถานที่รับบริการทางการแพทย์ชั่วคราว  โดยมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลมาให้การตรวจรักษาโรคและให้บริการตรวจรักษาฟันให้แก่ชาวบ้านในหมู่บ้านที่ห่างไกลแห่งนี้  กลุ่มคน
ทำงานเหล่านี้ยอมเสียสละตัวในช่วงวันหยุดมาออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และหนึ่งในนั้นก็มีคนที่ผมรักและคิดถึงมากรวมอยู่ด้วย  เวลาล่วงเลยมาบ่ายมากแล้วอากาศค่อนข้างร้อนแต่กัสก็ยังตั้งใจให้บริการรักษาคนไข้อยู่  แม้ต้องทำงานมาตั้งแต่เช้าแล้วส่วนผมและเพื่อนสนิทที่ติดมาด้วยก็มีหน้าที่เรียกคิวคนที่มานั่งรอให้เข้ารับการรักษาหรือช่วยหยิบจับของที่พอช่วยได้  ผมเห็นกัสทำงานไม่ได้หยุดเลยก็รู้สึกเหนื่อยแทนเพราะคนมารอรับบริการเยอะพอสมควร  เมื่อผู้คนรู้ข่าวว่ามีหมอมารักษาถึงที่ต่างจูงลูกหลานมาตรวจรักษา  แต่กัสก็ยังยิ้มให้คนไข้ทุกครั้งเมื่อรักษาคนนั้นๆเสร็จแล้ว 

“กัสครับพักดื่มน้ำหน่อยนะ  เหลือคนไม่มากแล้วเดี๋ยวหมอกัสเป็นลมไปคนไข้จะใจเสียเอาน้า”

กัสจึงถอดผ้าปิดจมูกและเสื้อคลุมตัวยาวออกก่อนส่งยิ้มหวานมาให้  ก่อนหันไปบอกเพื่อนสนิทตัวเล็ก ‘มิค’ ที่นั่งพักให้มาแทนที่ตน  มิคหันมายกมือแตะเปลี่ยนตัวและยิ้มให้กับกัสอย่างล้อเลียน  กัสรับน้ำจากผมและเดินมานั่งพักตรงส่วนนั่งพักที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่  ขณะกัสยกน้ำดื่มผมสังเกตเห็นเหงื่อซึมตามไรผมและจมูกเล็กๆนั่น  ผมจึงเอื้อมมือใช้ผ้าเช็ดหน้าซับไปตามผิวชื้นเหงื่อ  กัสคงร้อนและเหนื่อยมากแต่ก็ไม่ปริปากพูดอะไร  จนกัสดื่มน้ำหมดแก้วแล้วจึงหันมาส่งยิ้มให้ผม

“วินเบื่อมั้ยออกมาไกลแบบนี้”

“ไม่หรอกครับที่ไหนมีกัส  วินก็ไม่เบื่อแล้ว  กัสนั่นแหละเหนื่อยมั้ยทำงานแต่เช้าได้พักแค่ตอนเที่ยงนิดเดียวเอง”

“ก็เหนื่อยนิดหน่อยนะ  แต่กัสอยากรีบทำให้ชาวบ้านน่ะมานั่งรอกันตั้งแต่เช้าแล้ว  พวกเค้าอยู่ไกลจากโรงพยาบาลพอพวกเรามาเค้าคงดีใจที่มีหมอมารักษาถึงที่น่ะ”

“กัสเนี่ยน่ารักและยังใจดีอีกน้า  แฟนใครเนี่ย  แฟนกัสโชคดีจังที่ได้กัสเป็นแฟน”

“ฮิๆๆๆ  พูดเข้าข้างตัวเองก็เป็น  คนอะไรเนี่ย”

“แหมๆๆ  ไอ้วินมึงเกรงใจคนอื่นมั่งเหอะเค้าทำงานกันอยู่กลับแอบมาสวีทกันสองคน”

หลังคำแซวของไอ้ฟินทำเอากัสตาโตมองไปรอบๆตัวซึ่งผมก็มองตามเห็นพี่พยาบาลที่วัดความดันอยู่  พี่เภสัชที่จ่ายยา  และไอ้หมอตี๋พจน์ที่คนไข้เพิ่งลุกไปหันมามองทางเราส่งยิ้มแซวมาให้  แต่ไอ้คนสุดท้ายนี่กลับมองเฉยและหันกลับไปทันที  มันคงเห็นภาพบาดตาล่ะสิ  แต่ช่วยไม่ได้แอบมาหลงคนมีเจ้าของแล้วเองนี่หว่า  ผมหันกลับมามองหน้ากัสที่ใบหน้าขึ้นสีเพราะคงอายเพื่อนร่วมงานคนอื่นนั่นเอง  ผมเคยถามกัสเหมือนกันว่าอายมั้ยที่มีผมเป็นแฟน  จำได้ติดตาว่าตอนนั้นกัสทำหน้ามุ่ยและตอบว่าไม่อาย  แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศและถ้ามีใครถามก็จะบอกความจริงไป  คนที่ทำงานกัสหลายคนก็รู้แล้วว่ากัสมีผมเป็นแฟนแต่ก็ไม่มีใครรังเกียจหรือตำหนิอะไร  กลับเป็นว่าคนเหล่านั้นต่างอิจฉากัสที่มีแฟนหน้าตาดีหรือออกแนวแซวซะมากกว่า  เมื่อแรกรู้ทำผมยิ้มปลื้มไม่หุบอยู่นานเลยล่ะ  หลังจากเราเป็นที่จับตากัสลุกขึ้นบอกว่าจะไปดูมิคที่ทำงานแทนคงอายสายตาพี่ๆที่ส่งมาล้อตัวเอง  ผมนึกเอ็นดูคนขี้อายอยากหอมสักฟอดแต่คนเยอะแบบนี้ไม่กล้าหรอกก็ได้แค่คิด  จึงหันกลับมาที่
เพื่อนตัวเองที่ตอนนี้นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ถึงความผิดที่ทำให้ผมอดสวีทกับแฟนตัวเอง

“มึงนี่นะมันน่าโดนเตะสักที  แล้วไปไหนมาเนี่ยหายไปตั้งแต่บ่าย”

“แค่นี้ทำเป็นโกรธมึงก็สงสารกูมั่งเถอะไม่มีแฟนมาด้วยนี่หว่า  ที่หายไปกูไปถ่ายรูปแถวๆนี้แหละ  ธรรมชาติที่นี่ยังสมบูรณ์อยู่เลยไม่ได้เห็นแบบนี้นานแล้ว”

“ไอ้ฟินมึงไม่เบื่อแบบนี้ก็ดีแล้ว  เดี๋ยวจะหาว่ากูพาเพื่อนมาลำบาก”

“กว่าจะเสร็จวันนี้เจ้าหน้าที่ที่มาเนี่ยคงเหนื่อยมากนะมึง  แค่เห็นกูยังเหนื่อยแทนเลย  นับถือพี่ๆแกว่ะเดินทางก็ไกลต้องมาตรวจรักษาให้คนที่รอตรวจ  คนก็มาเยอะมาก”

“อืม  ใช่ดีใจแทนชาวบ้านที่นี่ว่ะ  ไอ้ฟินกูเพิ่งเคยเห็นกัสทำงานแบบนี้ครั้งแรกว่ะ  กูภูมิใจในตัวกัสมาก”

“ใช่กูก็ภูมิใจ”

ผมหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทมันกำลังมองไปทางกลุ่มคนที่ทำงานตรงหน้าสายตามันจับจ้องไปที่คนๆหนึ่ง  เฮ้ย! มันมองหมอมิคยิ้มๆแบบนี้หมายความว่าไงวะ

“ฟิน  มึงมองหมอมิคแบบนี้หมายความว่าไง  อย่าเชียวนะมึง”

“ไร  กูก็มองคนอื่นด้วยไม่ใช่หมอมิคคนเดียวซะหน่อย  คิดมากน่า”

“กูเพื่อนมึงนะ  กูคิดมากดีกว่าคิดน้อยว่ะ  แต่ขออย่างอย่ามาเล่นๆนะโว้ย  คิดให้ดีคนนี้มึงเล่นๆไม่ได้”

รีบเตือนเพื่อนสนิทที่น่าจะคิดไม่ซื่อกับมิคแน่ๆผมเป็นเพื่อนไอ้ฟินมานาน  มันสนใจใครทำไมจะไม่รู้แต่มันเริ่มสนใจมิคตอนไหนมากกว่า  ไอ้ฟินสนใจได้แต่ต้องจริงจังแต่ไอ้คนโสดเจ้าชู้แบบมันจะจริงจังกับมิคจริงเหรอ  ถ้ามันแค่เล่นๆผมต้องแย่แน่ๆเพราะต้องโดนกัสโกรธที่ปล่อยให้ไอ้ฟินไปทำเล่นๆกับมิคนั่นเอง  ไอ้ฟินหันกลับมามองผมเราสบตากันเงียบๆ

“กูยอมรับว่าเริ่มสนใจ  แต่มึงสบายใจได้ตอนนี้กูยังไม่แน่ใจแต่ถ้ายังรู้สึกแบบนี้ก็จะไม่เริ่มแน่ๆ  กูจะรอจนแน่ใจในความรู้สึกของตัวเองก่อนถึงจะเริ่ม” ผมส่งมือไปตบหลังเพื่อนอย่างเข้าใจในความรู้สึกของมัน  ก็ไม่รู้ว่ามันสนใจมิคตอนไหนเพราะคู่นี้ก็รู้จักกันมาก่อนหน้านี้นานแล้วเท่าๆกับที่ผมรู้จักกับกัส 

ไอ้ฟินลุกขึ้นไปเก็บภาพบรรยากาศการออกหน่วย  ส่วนผมก็ลุกมาช่วยหยิบจับของและเรียกคิวคนที่นั่งรอที่เหลือไม่มากนัก  จนเสร็จสิ้นการทำงานอันแสนเหนื่อยของวันเจ้าหน้าที่ต่างเก็บของขนขึ้นรถ  หลังจากนั้นก็มีคนพาพวกเราไปยังสถานที่พักที่เป็นสถานีอนามัยของหมู่บ้าน  เพราะคืนนี้เราต้องพักกันที่นี่เดินทางกลับโรงพยาบาลไม่ทัน  ด้วยระยะทางไกลและหนทางที่ลำบากพอควร  สถานที่พักเป็นอาคารสำหรับรักษาคนไข้มีห้องโถงว่างอยู่  ส่วนเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลคนอื่นต่างแบ่งไปพักที่บ้านพักของเจ้าหน้าที่อนามัยคนอื่นด้วย  ดังนั้นคนที่พักที่นี่ก็จะมีผม  กัส  มิค  ฟิน  และไอ้หมอตี๋พจน์  พี่เจ้าหน้าที่นำฟูกนอนหมอนผ้าห่มเท่าจำนวนคนมาให้  และจัดอาหารเย็นไว้ให้ที่หน้าสถานีอนามัยกลางลานหญ้า  โดยมีชาวบ้านนำอาหารมาเพิ่มให้บางส่วนแสดงถึงน้ำใจเพื่อตอบแทนที่หมอมารักษาถึงที่  พวกเราทั้งหมดที่มาต่างมารวมตัวกันเพื่อทานอาหารที่มีไม่มากแต่ก็มาจากน้ำใจของพี่เจ้าหน้าที่และชาวบ้าน  ซึ่งมีการพูดคุยกันบ้างระหว่างทานอาหาร

“หมอกัสนี่โชคดีจังน้ามีแฟนแบบนี้  ตามมาดูแลถึงที่เลย  หาจากไหนเนี่ย  ฮิๆๆๆ” พี่พยาบาลที่นั่งตรงข้ามกัสเอ่ยแซวขึ้นทำเอาคนน่ารักข้างๆผมนั่งหน้าแดงระเรื่อก้มหน้าก้มตาตักข้าวแต่ไม่ยอมตอบอะไร

“พี่บุษครับ  ตรงนี้ยังมีอีกคนสนใจมั้ยครับ”

“แหมน้องฟินเนี่ยอย่ามาพูดเล่นนะพี่บุษเอาจริงนะคะ  ยิ่งห่างสามีกับลูกมาแบบนี้ด้วย”

บทสนทนาระหว่างไอ้ฟินและพี่บุษพี่พยาบาลที่เป็นคนแซวกัสเรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้  ยกเว้นก็แต่ไอ้หมอตี๋คนเดียวที่นั่งเงียบและลุกขึ้นขอตัวไปพักผ่อนทันทีหลังกินเสร็จ  กัสมองตามหลังมันที่เดินจากไปพร้อมถอนใจเฮือกใหญ่ออกมา  หันกลับมาสบตาผมที่มองกัสอยู่ก่อนแล้วแววตาลำบากใจที่ฉายออกมาทำให้ผมเข้าใจว่ากัสคงลำบากใจทำตัวไม่ถูกเรื่องไอ้หมอพจน์อยู่  ผมเข้าใจนะเรื่องความรักนี่จะให้ตัดทันทีนี่ทำไม่ได้หรอกมันคงต้องใช้เวลา  ผมก็ไม่ได้โกรธที่ไอ้หมอพจน์นั่นมาชอบกัสแค่หมั่นไส้นิดหน่อยแค่นั้น  เรานั่งทานกันคุยกันไปซักพักกัสก็ขอตัวไปพักผ่อน  ผมจึงเตรียมลุกตามแต่ถูกห้ามไว้ก่อนโดยกัสกระซิบบอกข้างหูว่า

“กัสขอเวลาคุยกับหมอพจน์หน่อยนะครับ” ฟังทีแรกก็ว่าจะไม่ยอมก็ใครล่ะอยากให้แฟนตัวเองไปอยู่กับผู้ชายอื่นสองต่อสอง  แต่เมื่อนึกถึงหน้าไอ้หมอตี๋นั่นที่ทำหน้าหงอยๆเมื่อมองมาที่เราสองคนตอนใกล้ชิดกันก็นึกเห็นใจขึ้นมาจึงพยักหน้าตอบกลับไป

“วินให้เวลาไม่เกินยี่สิบนาที  ถ้านานกว่านี้วินจะไปตามนะครับ” กัสส่งยิ้มน้อยๆอย่างขอบคุณมาให้และเดินไปทางที่พักที่ไอ้หมอพจน์เพิ่งเดินเข้าไป  เมื่อลับร่างบางผมจึงหันกลับมาที่โต๊ะตอนนี้เหลือเพียงไอ้ฟินและมิค  ส่วนคนอื่นขอตัวกลับที่พักแล้ว  และเจอสายตาเป็นคำถามของไอ้ฟินที่ส่งมาให้ผมจึงส่ายหน้าปฏิเสธว่าไม่มีอะไร

“ก็ต้องสงสารอีกฝ่ายบ้างนะ  คนเค้าแอบมองมานานและก็เป็นคนดีด้วย  นายโชคดีมากรู้มั้ยที่กัสกลับมาคบด้วยทั้งๆที่มีคนที่ดีกว่าเข้ามาแท้ๆ” หลังคำพูดมิคผมก็ได้คิดว่าผมน่ะโชคดีมากที่กัสยังให้โอกาสเราได้คบกันอีกครั้ง  ก่อนนี้ถ้ากัสจะเลือกหมอพจน์ผมก็ไม่มีสิทธิ์โวยวายอะไร  ไอ้ฟินตบหลังให้กำลังใจมันคงเข้าใจหัวอกผมตอนนี้ล่ะครับก็เรามันเพื่อนสนิทกันนี่หน่า

“อาทิตย์หน้าหยุดหลายวันมิคมีโปรแกรมไปไหนมั้ย”  ไอ้ฟินหันไปถามหมอตัวเล็กที่นั่งตรงข้ามกัน

“ว่าจะกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่น่ะ  แต่ยังไม่มีโปรแกรมเที่ยวนายมีอะไรล่ะ”

“ผมอยากชวนไปเที่ยวอัมพวาน่ะไปด้วยกันมั้ย  เฮ้ย  ไอ้วินมึงทำหน้าตกใจทำไมกูก็จะชวนเพื่อนๆไปกันหมดนั่นแหละ  อยากหาที่เที่ยวว่ะช่วงนี้เบื่อๆ
กรุงเทพ”

ผมตกใจหมดไม่นึกว่าเพื่อนผมคนนี้จะรุกเร็วขนาดชวนหนุ่มน้อยออกเที่ยวซะแล้ว  เมื่อช่วงบ่ายเพิ่งสังเกตว่ามันสนใจหนุ่มน้อยข้างๆนี่เองชวนมิคเที่ยวซะแล้วท่าทางมันจะเอาจริงแฮะ  แต่ก็ดีเหมือนกันสัปดาห์หน้าก็ครบเดือนพอดีไปเที่ยวต่างจังหวัดก็ถือว่าเป็นการซ้อมฮันนีมูนกับกัสละกันครับ

“ยังไม่เคยไปเหมือนกันคนที่เคยไปมาเค้าติดใจกันใหญ่มีทั้งร้านขายของเลียบริมน้ำ  ยิ่งของกินที่ทั้งแปลกและก็อร่อย  นายฟินนายจัดการเรื่องที่พักได้เลยนะเราไปด้วย  อืม  นับมายเดียร์ด้วยนะรายนั้นถ้าจะดีใจใหญ่บ่นอยากไปมานานแล้ว” หมอกัสยิ้มตาหยีเมื่อคิดถึงที่เที่ยวและของกิน  ส่วนเพื่อนผมยิ้มน้อยๆจ้องมิคไม่กระพริบ  เอาล่ะสิงานนี้ไอ้ฟินมันหวังทำคะแนนแน่ๆ

“ได้ครับ  เดี๋ยวผมจัดการให้” ไอ้ฟินยิ้มตอบแต่ท่าทางงานนี้มันได้เจองานหินแน่  เพราะท่าทางหมอมิคไม่ได้รับรู้เลยว่าตนได้รับความสนใจจากเพื่อนของผมแล้ว  ผมว่าไอ้ฟินเป็นรองของกินซะแล้วครับ  เพราะมิคเลิกสนใจมันและหันไปนั่งทานขนมหวานที่วางอยู่ตรงหน้าแทนยิ้มหวานๆที่ไอ้ฟินส่งไปให้

“คุยอะไรกันอยู่ได้ยินว่าจะไปเที่ยว  ไปไหนกันเอ่ย” เสียงหวานที่นำมาก่อนร่างบางจะเดินมานั่งที่เดิมข้างผม 

สีหน้าของกัสเป็นปกติมียิ้มน้อยๆประดับหน้าแต่ตามีแววเศร้าจางๆ  ผมหวังว่าทุกอย่างที่กัสไปคุยคงเรียบร้อยด้วยดี  แต่ผมคงไม่ถามกัสว่าคุยอะไรกับไอ้หมอพจน์บ้าง  ด้วยเชื่อว่ากัสคงจัดการเรื่องหมอพจน์ได้อย่างดีที่สุดและมั่นใจในรักที่กัสมีให้ผม  เพราะถ้ากัสจะชอบไอ้หมอพจน์ก็คงคบกันไปแล้วก่อนที่เราจะคืนดีกัน  และเชื่อว่าถ้ามีปัญหาที่แก้ไม่ได้กัสจะต้องบอกผมแล้วเราจะหาทางออกด้วยกัน  ผมกอบกุมมือบางมาบีบแน่นและส่งยิ้มให้กำลังใจคนน่ารัก  ส่วนกัสกระชับมือตอบพร้อมส่งยิ้มให้ผมได้สบายใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี

“เราคุยกันว่าจะไปอัมพวาอาทิตย์หน้าที่หยุดยาวกัสห้ามปฏิเสธนะ  เราไม่ได้เที่ยวด้วยกันนานแล้ว” มิคเอ่ยชวนและรวบรัดเพื่อนให้ตกลงไปเที่ยวด้วยกัน  ทำเอากัสอดหัวเราะเพื่อนตัวเองไม่ได้

“ฮึๆๆ  คร้าบ  กัสไปด้วยอยู่แล้วชวนมายไปด้วยนะเห็นอยากไปมานานแล้ว”

“แน่นอน  ถ้าไม่ชวนเราสองคนโดนบ่นหูชาแน่ๆ  คิกๆๆ” เพื่อนกลุ่มนี้นี่เค้ารักและรู้ใจกันจริงๆไปไหนไปด้วยกันตลอด 

บรรยากาศของเราสี่คนที่นั่งอยู่ชื่นมื่นขึ้นมาทันตาเมื่อคุยเรื่องไปเที่ยว  ต่างวางแผนกันว่าจะไปที่ไหนบ้างแวะซื้อของฝากอะไร  นี่ขนาดยังไม่ได้ไปนะสงสัยถ้าไปจริงๆคงวุ่นวายน่าดู  ส่วนผมไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรแต่แอบวางแผนเรื่องซ้อมฮันนีมูนอยู่ในใจคนเดียว

“วินเป็นอะไร  ยิ้มคนเดียวอยู่ได้กัสจะเข้าบ้านแล้วนะ”

อ้าว  ที่รักทำไมเดินไปถึงนู่นแล้วล่ะทิ้งกันเฉยเลย  แค่แอบคิดอะไรๆนิดเดียวเอง  ผมรีบลุกและก้าวเข้าหาคนรักที่ยืนรอด้วยใบหน้าหน้าประดับยิ้มละไม  ‘คนอะไรน่ารักได้ทุกอิริยาบถเลย’

.................................

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^O^

ตอนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของมิคฟินนะคะใครคิดถึงยกมือขึ้น  :laugh:
และชิวๆกันไป ติดตามกัสวินต่อวันพรุ่งนี้ค่ะ

บวกเป็ดให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ

ปล.เหลืออีก 1 สัปดาห์จะปิดโอนและจองแล้วใครสนใจรับหนุ่นๆไปกอดรีบหน่อยน้า

เปิดจอง & โอน หนังสือตั้งแต่  วันนี้ ถึง 16 ก.ค. 55

1.เสน่ห์รักปักใจ 1 เล่ม (ฉบับรีไรท์) >>> กัส+วิน
   38 ตอน  5 ตอนพิเศษ 
   จำนวน 420 หน้า ราคาเล่มละ 350 บาท

ออฟไลน์ day9day

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-9

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
หวานไม่แคร์สื่อ
จริงๆนายวิน :z2:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ 111223

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 910
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-5
ขอยกมือสูงๆด้วยคน คิดถึงมิคฟินมากๆ กิ๊บก๊าบ
กัสวินหวานกันจริงๆ >///<

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด