ป้าจุฝากมาลง และบอกฝากขอโทษที่ไม่ได้มาลงให้ก่อนหน้านี้ ข่าวอัพเดตล่าสุดตอนนี้ป้าอยู่เกาะช้าง ยังไม่โดนนากีสพัดหายไปไหน รับรองว่ามาต่อตอนจบให้แน่ๆจ้า
------------------------------------
มันก็แค่อกหักล่ะวะ จะเจ็บสักเท่าไหร่กันเชียว ผมค่อยๆลืมตาตื่นพร้อมกับประโยคที่พยายามสะกดจิตตัวเองทั้งคืน หันไปมองนาฬิกาที่หัวเตียงก็เพิ่งจะหกโมงเช้า จะนอนต่อก็นอนไม่หลับลุกขึ้นนั่งถอนใจเฮือกๆ เมื่อวานกุบอกเลิกไอ้เชนไปแล้วนี่หว่า แล้วไอ้โย่งมันก็ไม่คิดจะมาง้อสักนิด อุตส่าห์นั่งรออยู่จนดึกแต่กลับไม่มีแม้แต่เสียงโทรศัพท์สักแอะ ว้อยยยย ช่างแมร่ง ท่องไว้ไอ้นิค แค่อกหักจะเจ็บสักเท่าไหร่กันเชียว มันก็แค่อกหัก แค่อกหัก ใช่ ก็แค่อกหัก ฮือๆๆ กุอกหัก ไอ้เชนมันไม่แคร์กุแล้ว นั่งน้ำตาซึมเล็กๆก่อนที่เสียงของไอ้แนนจะงัวเงียถามขึ้น
“มีเรียนเช้าเหรอพี่นิค”
“เปล่า วันนี้โดด”
“อ้าว”
“พวกตัวนอนกันไปก่อนเถอะ เดี๋ยวสายๆพี่จะมาปลุก แล้วไปเที่ยวกัน”
ไม่มีอารมณ์จะเรียนจริงๆวันนี้ ออกไปเที่ยวให้มันหายเซ็งดีกว่าคิดมากก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ใช่ มันก็แค่อกหัก ถ้ามรึงอกเดาะกระดูกทิ่มปอดโดนเข็นเข้าไอซียูเมื่อไหร่ เมื่อนั้นค่อยมานั่งคร่ำครวญจะดีกว่า ปลอบใจตัวเองแบบบ้าๆแล้วลุกไปอาบน้ำแต่งตัวปล่อยให้ไอ้สองตัวฝาแฝดนอนต่อ วันนี้ก็วันศุกร์ อีกแค่วันเดียวพวกแฝดก็ต้องกลับบ้านแล้ว เหงาเหมือนกันแฮะ เฮ้อ....ทำไมช่วงนี้ถึงได้เซนซิทีฟ แบบหัวใจไม่แข็งแรงอย่างนี้วะ
เดินลงไปห้องครัวเพื่อหาอะไรใส่ท้องที่ร้องประท้วงแต่เช้าเพราะเมื่อวานกินอะไรไม่ลงนอกจากสับปะรดของไอ้เชฟแม็ค
ปกติผมไม่ชอบรสชาติเปรี้ยวๆของสับปะรดเท่าไหร่ (ไอ้นางแลหวานๆที่แม่ค้าบอกนั่นแหละ ซื้อมาทีไรไม่เห็นมันจะหวานอย่างที่บอกสักที) เวลากินเข้าไปแล้ว รสชาติเปรี้ยวๆของมันจะต้องจี๊ดขึ้นหัวตุบๆทุกที กลับกันถ้าอยู่ในโหมดเศร้าแล้วกินเข้าไปให้ขมับมันตุบๆ ผมว่ามันสะใจดีพิลึก ใช่ คนอย่างไอ้นิคมันหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ไอ้น้องไม้มันคงกะไว้แล้วล่ะสิว่าผมกับไอ้เชนจะต้องแตกคอกัน ก็ดี ในเมื่อมันเล่นแรงอย่างนี้ ผมก็จะเอาบ้าง หมดเวลาจะมานั่งซึมเป็นหมาโดนยาแล้วไอ้นิค
คิดอะไรบางอย่างแบบร้อยแปดพันเก้าตลบอยู่ในหัว ปากก็เคี้ยวพายกรอบที่ไอ้คินซื้อมาทิ้งไว้ให้ในตู้ไปด้วย
“พี่นิคครับ”
เสียงเรียกหลอนประสาทแบบนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เวงตะไลเอ้ย มันมาอีกแล้ว ไอ้น้องไม้มันมาอีกแล้วครับ ไอ้นิคหมดอารมณ์กิน กระแทกถุงขนมเก็บเข้าตู้ทันที อ๊ะๆๆๆ แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งๆ ใครที่คิดว่าผมจะกระโจนเข้าฆาตกรรมอำพรางหมกส้มไอ้เด็กวอนส้นนี่ให้สาสมกับความแค้นที่มีอยู่นั้นคุณคิดผิดถนัดเสียแล้วล่ะ
“จะมาหาเรื่องอะไรอีก” ถามเสียงเย็นยิ่งกว่าอุณหภูมิในตู้ไอติมวอลล์
“ฟังไม้อธิบายหน่อยได้มั้ย ไม้ไม่ได้ทำจริงๆนะพี่นิค จะให้ไม้ไปสาบานที่ไหนก็ได้”
ทำเสียงจะร้องไห้อีก รู้ว่ากุแพ้น้ำตาล่ะเอาใหญ่เลยนะมรึง
“ตอนนี้พี่ไม่อยากรู้แล้วล่ะว่าไม้จะทำจริงๆรึเปล่า ยังไงพี่ก็เลิกกับไอ้เชนไปแล้ว พูดอะไรตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ”
วู้ สุดยอด จบเรื่องไอ้น้องไม้กุจะลาออกไปเขียนนิยายน้ำเน่าขายแล้ว ไม่เรียนแล้ววิดว้งวิดวะเนี่ย
“ทำไมจะไม่มีประโยชน์ ไม้รู้ว่าที่พี่นิคบอกเลิกกับพี่เชนก็แค่อารมณ์ชั่ววูบ ถ้าพี่ยอมไปคุยกับพี่เชน ยังไงพี่เชนก็ต้องขอคืนดีอยู่แล้วล่ะ”
ทำเสียงตะล่อมกุเต็มที่ ว่าแต่ใครเป็นพี่มรึงวะ เรียกอยู่ได้ พี่นิคๆ เซ็งว่ะ เกลียดมันตีสองหน้า มาทำหน้าซื่อตาใสบอกให้กุไปคุยกับไอ้เชน เหอะ เชื่อตายล่ะ ผมนึกในใจ
“ไม้มาพูดแบบนี้กับพี่ต้องการอะไรกันแน่”
ทำเสียงเจ็บปวด พร้อมตีหน้าเศร้าแบบสุดลิ่มทิ่มเหวลึก ความสามารถรอบด้านจริงๆไอ้นิค สำนวนเน่าแล้วยังเล่นละครเก่งอีก
“ไม้เปล่านะ ไม้พูดจริงๆ ไม้ไม่ได้เกลียดพี่นิคแล้ว เรื่องที่ร้านนมคราวนั้นเพราะวินเขามาปรึกษาว่าเขาไม่อยากให้พี่ชายคบกับผู้ชายด้วยกัน ไม้ขอโทษ ไม้ไม่ได้ตั้งใจ”
ผมชงไมโลแล้วเดินเลี่ยงไปนั่งโซฟา ปล่อยให้ไอ้น้องมันพล่ามของมันไป ใครจะฟัง โธ่ รู้ๆอยู่ว่ามันตีหน้าเศร้าเท่าความเท็จให้ฟังทั้งนั้น ใครเชื่อก็โง่เต็มที
“พี่นิคจะให้ไม้ทำยังไงไม้ยอมทุกอย่างเลยนะ ไม้ไปอธิบายให้พี่เชนฟังก็ได้”
ยังจะตามมาราวีกุอีก ไอ้นิคแอบถอนใจเซ็งๆ แต่เอาเถอะ เล่นกับมันต่ออีกหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวเถอะ อีกเดี๋ยวพ่อจะทำให้แล่นหนีกลับบ้านแบบหางจุกตูดเลยมรึง ไอ้น้องไม้เดินเข้ามานั่งข้างๆแบบกล้าๆกลัวๆ
“พี่นิคจะให้ไม้ทำยังไงพี่นิคถึงจะยอมเชื่อ”
“ก็ได้ ในเมื่อไม้ยืนยันอย่างนี้พี่ก็จะลองเชื่อดูสักครั้ง” ยิ้มอ่อนโยนแต่ในใจตะโกนว่า ยังไงกุก็ไม่เชื่อว้อย
“พี่นิคเชื่อไม้แล้วจริงๆเหรอ” แน่ะ ทำดีใจ คว้าแขนกุไปเขย่า แถมทำหน้าอย่างกับถูกหวย
“ครับ พี่เชื่อไม้”
ใครจะบ้าเชื่อมรึงลง ไอ้นิคแอบยิ้มพิฆาตมารอยู่ในหน้าเลยครับ กุจะทำให้มรึงโผล่หางให้ได้เลยไอ้น้องไม้ ความคิดชั่วๆแบบคิดแต่จะแก้แค้นของผมเดินหน้าเต็มกำลัง มือค่อยๆคว้าเอวไอ้เด็กสองหน้าเข้ามาใกล้ ไอ้น้องไม้ทำสีหน้าไม่เข้าใจแค่ครู่เดียว ก่อนจะแก้มแดงแบบอาการของคนกำลังเขินอายสุดๆเมื่อมันเงยหน้าขึ้นสบตากับผม
“พี่นิคจะทำอะไรน่ะ”
ทำเสียงสั่น พยายามปลดมือผมออก กลัวล่ะสิมรึง เอาเลย กลัวมากๆแล้วแสดงสันดานเสียๆของมรึงออกมาเลย ผมคิดในใจแค้นๆ
“ไม่เห็นต้องถาม ก็ไม้บอกเองนี่ว่าจะยอมทุกอย่างถ้าพี่เชื่อไม้”
ผมยิ้มๆ ก้มหน้าลงไปใกล้ๆ ไอ้น้องไม้งี้หน้าแดงแจ๋ไปหมด พยายามผลักผมออกแต่แรงเท่ามดของมันยังไงก็สู้แรงคนบ้าเลือดอย่างไอ้นิคไม่ได้หรอกครับ จะว่าไปไอ้เด็กหน้าซื่อใจคดนี่ก็หน้าตาน่ารักไม่เบา เพราะไอ้หน้าตาซื่อๆนี่สินะ ไอ้เชนถึงได้เชื่อมันมากกว่าผม
ปลายจมูกผมแตะเบาๆที่ข้างแก้มไอ้น้องไม้ก่อนจะกดลงไปเต็มริมฝีปาก ทีนี้ล่ะได้เรื่องเลยครับ มือสั่นๆที่พยายามผลักผมออกเปลี่ยนมายึดไหล่ผมไว้แทน เฮ้ยๆ ทำไมมันไม่เหมือนอย่างที่คิดวะ ผมนึกว่าไอ้น้องไม้มันจะลุกขึ้นโวยวายด้วยความโกรธแล้วแสดงสันด๋อยชั่วๆออกมาให้เห็นเสียอีก สงสัยแค่จูบแก้มมันจะไม่ซาดิสต์เหมือนสวรรค์เบี่ยงแน่ คิดอย่างนั้นผมเลยเปลี่ยนเป้าหมาย
“พี่นิค !!!/ นิค !!!”
ยังไม่ทันจะจูบไอ้น้องไม้ ผมก็เจอสั่งคัตซะก่อน ประสานเสียงเรียกเลยครับงานนี้ เสียงหนึ่งของไอ้เนม อีกเสียงเป็นของไอ้โย่ง ยืนกันอยู่คนละมุมบ้าน สีหน้าก็ไม่ต่างกันมาก
“นี่มันอะไรกัน”
ต่อจากเสียงเรียกก็เปลี่ยนมาเป็นแรงดึงครับ ไอ้เนมหน้าถมึงทึงด้วยความโกรธเข้ามาจับตัวพี่มันแยกออกจากไอ้น้องไม้ทันที ส่วนไอ้เชนก็ได้แต่ยืนมองผมนิ่งๆ ด้วยสีหน้าคล้ายไอ้เนม จะต่างกันเล็กน้อยก็ตรงที่แววตาของไอ้โย่งมันบอกว่า นอกจากจะโกรธผมมากแล้ว มันยังเสียใจกับการกระทำของผมคราวนี้ด้วย ไอ้นิคงี้สะใจสิครับ ทีนี้มันจะได้รู้ซะบ้างว่าผมเจ็บใจขนาดไหนเวลาที่เห็นมันโอ๋ไอ้น้องไม้ต่อหน้าต่อตา
อยากจะหัวเราะสะใจดังๆ วันนี้ฟ้าเข้าข้างกุจริงๆ
“ผมถามว่าพี่ทำอะไรอยู่”
เวลาไอ้เนมโกรธมันจะเลิกตัวเลิกเค้าทันที ผมเคยเห็นมันโกรธกับไอ้แนนทีหนึ่งสมัยอยู่ม.ต้น จำได้ว่าขึ้นกุมรึงกันลั่นบ้านจนแม่ต้องจับแยกขังเดี่ยวให้เข็ดหลาบ
“ไม่มีอะไร ก็แค่ไม้มาอธิบายความจริงให้ฟัง แล้วพี่ก็เชื่อ”
ผมเน้นว่าเชื่อไอ้น้องไม้ประชดไอ้เชน
“พี่นิคเชื่อมันเข้าไปได้ยังไง มันบอกว่าไม่ได้ทำพี่ก็เชื่อมัน แล้วทีแนนขอร้องให้พี่เลิกกับพี่ไอ้วิน พี่ไม่เห็นยอมทำตามที่พวกผมขอร้องเลย พี่นิคเห็นคนอื่นดีกว่าน้องตัวเองหลายครั้งแล้วนะ”
ไอ้เนมเสียงดังลั่นบ้านด้วยความโกรธ ตามันขวางจัด เห็นแล้วนึกถึงตัวเองตอนบ้าเลือดครับ เชื้อไม่ทิ้งแถว แบบนี้ต่อให้เอาช้างสิบโขลงมาฉุดก็ไม่รู้ว่าจะหยุดไหวรึเปล่า
ไอ้นิคนะไอ้นิค มัวแต่คิดจะประชดไอ้เชนจนลืมนึกถึงความรู้สึกของพวกแฝดไปเลย กุหนอกุ
“ใจเย็นๆสิเนม ฟังพี่ก่อน”
“ไม่ฟัง ถ้าพี่เห็นคนอื่นดีกว่าน้องตัวเองอย่างนี้ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ไปเถอะแนน กลับบ้าน ยังไงพี่นิคก็ไม่เห็นความสำคัญของพวกเราแล้ว”
เอาล่ะสิ เพิ่งสะใจว่าสมน้ำหน้าไอ้เชนที่มันรู้สึกถึงรสชาติความเสียใจของผมที่เห็นแฟนตัวเองอี๋อ๋ออยู่กับคนอื่นไปหยกๆ มาตอนนี้กรรมตามทันไอ้นิคแบบติดจรวด ติดเจ็ท ติดไอพ่น เข้าใจเลยว่าไอ้เชนมันรู้สึกยังไงตอนที่ผมไม่ฟังที่มันพูด เอาแต่โกรธจนคิดแต่จะบอกเลิกกับมันท่าเดียว
แต่เผอิญว่าผมไม่ใช่ไอ้เชน และแถวนี้ก็ไม่มีถังขยะให้เต๊ะท่าทำเท่เตะข้าวของระบายอารมณ์เป็นพระเอกมิวสิค
“ที่พูดนี่คิดดีแล้วใช่มั้ย”
ถามเสียงเรียบ สีหน้าไม่ยินดียินร้าย แต่แววตานี่บอกได้คำเดียวเลยครับ ไอ้นิคเอาจริง อย่าตอบแบบใช้อารมณ์เด็ดขาด เพราะไม่อย่างนั้นมรึงเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ พวกแฝดคงเข้าใจอาการของพี่มันเลยเย็นลงเหมือนกัน
ผมหันไปสบตากับไอ้เชนแวบเดียวก่อนจะเมินหนีไปหาไอ้น้องไม้แทน
“ไม้ไปเรียนเถอะนะ ไว้ตอนเย็นพี่จะโทรหา”
บอกแล้วสบตาไอ้น้องไม้พลางยิ้มอ่อยเหยื่อให้ เป็นไงเสน่ห์กุ ได้ผลเกินร้อย ไอ้น้องไม้งี้หน้าแดงแล้วแดงอีก พยักหน้าเบาๆแล้วเดินออกไปแต่โดยดี ทำไปได้นะกุ ทั้งที่ไม่มีเบอร์ไอ้เด็กนี่ซะหน่อย คิดในใจ ตกลงไอ้เด็กนี่มันยังไงกันแน่วะ แทนที่มันจะลุกขึ้นเอะอะโวยวายที่โดนผมลวนลามแต่มันกลับสมยอมซะงั้น รึจะมีแผนอะไรอีก ผมมองตามหลังไอ้น้องไม้อย่างครุ่นคิด ส่วนไอ้เชนน่ะเหรอครับ มันเดินออกจากบ้านไปตั้งแต่ผมเมินหน้าหนีมันแล้วยิ้มให้ไอ้น้องไม้แล้วล่ะ เฮ้อ มานึกๆดูก็รู้สึกผิดครับ ไม่รู้เวรกรรมอะไรของไอ้โย่งมันถึงมารักคนอย่างผม
มัวแต่หลอกล่อไอ้น้องไม้ แล้วประชดรักไอ้เชน พอหันมาอีกทีพวกแฝดหายไปแล้วครับ ผมเดินขึ้นไปชั้นสองก็ได้ยินเสียงตะโกนใส่กันของไอ้สองตัว
“เพราะเนมคนเดียว เห็นมั้ยว่าพังกันหมด เรื่องมันเปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังตรีนเลยแมร่ง พี่นิคทำตาอย่างกับจะกินไอ้ไม้ โธ่เอ้ย”
เสียงไอ้แนนโวยวายใส่น้องชายแบบไม่มีคำว่าตัวกับเค้าแล้ว เหอๆ
“มาโทษกันอย่างนี้ได้ไง ก็ใครเป็นคนเห็นดีเห็นงามกับแผนนี้ล่ะ”
“แล้วใครมันทำเนียน ต่อหน้าพี่นิคทำเป็นเด็กดีเข้าใจพี่ทุกอย่างแต่ลับหลังเป็นคนวางแผนล่ะแล้วเมื่อกี้ก็ดันงี่เง่าไปอาละวาดใส่พี่นิคอย่างนั้น เห็นมั้ยว่าพี่โกรธขนาดไหน”
ไอ้แนนยังโวยวาย โห นี่ผมเพิ่งรู้นะว่าไอ้เนมมันทำแอ๊บแบ๊วเป็นเหมือนกัน ว่าไอ้วินกับไอ้ไม้ไปซะเสียหาย มาคราวนี้ล่ะเข้าน้องกุหมด
“ทีนี้จะเอาไงต่อ แผนยุให้พี่นิคทะเลาะกับพี่ไอ้วินก็ได้ผลไปแล้ว แต่เจือกได้ผลเกินไป พี่นิคเลิกกับพี่ไอ้วิน แต่เปลี่ยนมาจีบไอ้ไม้แทนอย่างนี้น่ะ”
“ก็ไหนว่าจะฟ้องแม่ไง เอาสิ” ไอ้เนมคงโมโหไอ้แนนมากอยู่เหมือนกันเลยประชดซะหนึ่งดอก
“ควายสิ ไม่ได้สิ้นคิดถึงขั้นนั้น” ไอ้แนนด่าตอบ
พอผมเดินเข้าไปในห้อง ไอ้พวกแฝดมันก็ยังเถียงกันหน้าดำหน้าแดงไม่เลิก ทีนี้ไอ้นิคเลยเห็นหนทางสว่าง ตกลงว่าเป็นฝีมือไอ้สองตัวแกล้งขังผมไว้แล้วโยนความผิดให้ไอ้น้องไม้เหรอเนี่ย ไอ้นิคเอ้ย มรึงได้ออกเดินสายขอโทษคู่กรณีหลายคนเลยคราวนี้
“แล้วที่แกล้งโยนความผิดให้ไม้นี่ยังไม่เรียกว่าสิ้นคิดอีกรึไง”
ถามเสียงธรรมดาแบบหมดอารมณ์โกรธ ตอนนี้ไอ้นิครู้สึกอย่างเดียวคือเหนื่อยใจครับ ส่วนพวกแฝดก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไรที่ผมบังเอิญมารู้ความลับเข้าหรอก มันทำฮึดฮัดฟึดฟัดใส่อย่างกับว่าพี่มันเป็นคนผิดซะงั้น
“ไม่คิด”
ดูมันตอบ นิสัยเหมือนใครวะ ไอ้นิคถอนใจเฮือกๆ เข้าใจหัวอกไอ้เชนเลยครับ ไอ้โย่งเอ้ย กุคิดถึงมรึงว่ะ หมดเรื่องนี้กุไม่ลาออกไปเขียนนิยายน้ำเน่าก็ได้ กุจะขอไปซบอกง้อมรึงแทนแล้วกัน ตอนนี้กรรมตามสนองกุแบบชัดๆเลย
“ถ้าตอนนั้นพวกพี่ไม่ได้ทะเลาะกัน พี่เชนเชื่อพี่ ทุกคนเชื่อพี่ ส่วนไม้ก็โดนทุกคนรุมประณามที่ทำอย่างนั้น พวกตัวจะรู้สึกยังไง”
พยายามกระตุ้นจิตสำนึกน้องๆครับ นึกในใจ ขอเท้อ ให้กุชั่วคนเดียวก็พอแล้ว
“ก็หาทางอื่นสิ ส่วนไอ้ไม้ก็สมน้ำหน้ามัน พี่นิคไม่เจ็บใจรึไง วันนั้นตัวอุตส่าห์ช่วยมันไว้แต่แทนที่มันจะสำนึกยังมาทำเสียงแข็งหน้าตากวนประสาทใส่อีก”
ตอบอย่างมาดมั่นภูมิใจอีก เวรกรรมจริงๆ กู่ไม่กลับซะแล้วน้องกุ ไอ้เนมน้องน้อยน่ารักขี้อ้อนของกุหายไปหนายยยยยย
“เนม” ไอ้นิคสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด รีบเรียกพลังวัตร โคจรลมปราณ ก่อนจะบ้าตาย
“มานี่มา มาให้พี่กอดหน่อย”
ตอนแรกที่เรียกชื่อไอ้เนมมันก็ทำหน้าหงิก เดินเข้ามาแบบไม่เต็มใจ แต่พอมันได้ยินว่าไอ้นิคบอกว่ามาให้กอดหน่อย แค่นั้นมันก็โผเข้ามาหาทันที
“พี่รู้นะว่าแนนกับเนมรับไม่ได้เรื่องที่พี่คบกับพี่เชน และก็ไม่ใช่ว่าพี่เห็นคนอื่นสำคัญกว่าพวกตัวสองคน ยังไงแนนกับเนมก็เป็นครอบครัวคนสำคัญ เป็นน้องที่พี่รักเสมอ แต่ถึงยังไงคนเราก็ต้องมีทางเดินชีวิตเป็นของตัวเอง พี่ไม่ได้จะอยู่กับพวกตัวไปได้ตลอดชีวิต เหมือนกันกับที่พี่ก็อาจจะไม่ได้อยู่กับพี่เชนตลอดไปเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้นพี่ก็เลือกแล้ว พี่เลือกพี่เชนไว้ในฐานะคนรัก ส่วนพวกตัวสองคน พี่ก็เลือกไว้ในฐานะครอบครัวคนสำคัญ มันเทียบกันไม่ได้นะเนม”
ไอ้นิคพยายามใช้สมองอันน้อยนิดกลั่นกรองถ้อยคำออกมาเพื่อหวังว่าไอ้พวกแฝดจะเข้าใจความรู้สึกของพี่มันบ้าง
“มันก็หมายถึงว่า ชีวิตเป็นของพี่นิค พวกเค้าเข้าไปยุ่งไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ”
ไอ้เนมยังกอดผมไว้แน่น ถึงประโยคคำถามของมันจะฟังดูประชดประชัน แต่ฟังน้ำเสียงแล้วผมก็รู้ว่าไอ้น้องคนเล็กมันเข้าใจที่พี่มันพูดทุกอย่าง
“ไม่ใช่ว่ายุ่งไม่ได้ แต่พี่แค่อยากให้พวกตัวเคารพการตัดสินใจของพี่บ้างก็เท่านั้น ถ้าพวกตัวไม่ชอบใจอะไรก็ขอให้บอก ขอให้เราคุยกันด้วยเหตุผล ไม่ใช่ไปบังคับกะเกณฑ์ชีวิตคนอื่นแบบนี้ ลองคิดดูนะว่าถ้าพวกตัวถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ ตัวจะมีความสุขกันมั้ย”
ผมยิ้มๆเมื่อไอ้น้องคนเล็กนิ่งเงียบไม่เถียงเหมือนเป็นการยอมรับกลายๆ ก่อนจะมุดหน้ากับไหล่ผมเบาๆเป็นเชิงอ้อน อย่างนี้ถือว่าเป็นสัญญาณอันดีแล้วล่ะ
“ขี้โกงอีกแล้ว ตัวชอบยึดพี่นิคไปไว้คนเดียวตลอดเลย”
ไอ้แนนบ่นกระปอดกระแปดเข้ามากอดผมด้วยอีกคน
“เอาเถอะ ถ้าตัวพูดถึงขนาดนี้แล้วพวกเค้าก็จะเชื่อละกัน ว่าแต่ วันนี้ตัวบอกจะพาพวกเค้าไปเที่ยวนี่”
ไอ้แนนยิ้มหวานมาให้ เห็นมั้ยครับ แบบนี้จะไม่ให้ผมรักไอ้สองตัวนี่ได้ยังไง ถึงมันจะแสบไปบ้าง ยุ่งวุ่นวายไปหน่อย แต่ความขี้อ้อนชนะขาด เนี่ยแหละเหตุผลว่าทำไมผมถึงแพ้ทางเด็ก ก็น้องผมออกจะน่ารักขนาดนี้ ภูมิต้านทานเด็กในตัวไอ้นิคเลยต่ำครับ ต้องหลีกเลี่ยงเข้าไว้ ไม่งั้นมีแต่ใจอ่อนกับใจอ่อน
ว่าแต่ ผมลืมอะไรไปอย่างนะ
--------------------------------------------
มาลงครึ่งแรกให้ก่อนจะหลั่นล้าไปทะเลสักสองอาทิตย์ ว่าแต่ช่วงนี้มันมรสุมเข้า อิป้าจุก็ยังผีบ้าไปเที่ยวทะเลอยู่ได้ เหอๆ ความจริงจะไปตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วแล้วค่ะ แต่พอดีมัวแต่ไปร่ำลาเพื่อนๆเลยติดลมบนลากันซะหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ทำตัวเป็นผีตองเหลือง บ้านช่องตัวเองมีไม่อยู่ 555 ยิ่งอายุเยอะขึ้นก็ยิ่งคิดถึงวันคืนเก่าๆสมัยเรียน พอได้เจอกันเลยติดลมซะยาวแบบนี้
และความจริงวันนี้จะต้องออกเดินทางตอนสองทุ่ม แต่ไปๆมาๆไอ้เพื่อนตัวดีดันออกปากจะไปด้วย เลยตัดสินใจออกเดินทางกันพรุ่งนี้เช้าแทน เพราะอย่างนี้อิป้าจุเลยมีเวลามานั่งปั่นสดๆลงสดๆกันอย่างนี้ ทั้งที่กะว่าจะไปทะเลกลับมาก่อนแล้วค่อยปั่นต่อแบบรวดเดียวจบ สรุปแล้วคือ เอาครึ่งแรกไปก่อนแล้วกันเนาะ (ผ่อนชำระเป็นงวดๆไป 55)
เจอกันตอนหน้าพร้อมบทสรุปจริงๆของนิคเชนค่ะ
รักคนอ่านทุ้กคนเหมียนเดิมเจ้าเฮย
ป้าจุใจจิ๊จ๊ะจ้า ^^
ป.ล. พิมพ์สดๆลงกันสดๆ มึนๆงงๆกับชีวิตตามสไตล์ป้าจุใจในช่วงนี้นะคะ ทำไมยิ่งนานอิป้ายิ่งเลอะเลือนเนาะ
ไว้เที่ยวกลับมาแล้วจะมาแก้มาเกลาคำให้นะคะ วันนี้หลับฝันดีราตรีสวัสดิ์ค่า
ในบล๊อคป้าจุใจแต่งถึงแค่นี้อยู่จ้า เป็นตอนที่ 20.1 คิดว่าตอนหน้าคงจบแล้ว