ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ตแท่งที่ 6“เฮ้ย! ไอ้เกมส์ขอโทษวะ พอดีกินข้าวเพิ่งเสร็จ เลยมาชะ...ช้า”
เสียงคนทักสะดุดลงไปทันทีเมื่อคนที่เปิดประตูมาไม่ใช่เพื่อนหน้าทะเล้นเจ้าของห้อง
หากแต่เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ซึ่งแย้มรอยยิ้มพร้อมเอ่ยคำทัก
“สวัสดีครับ ปลาย”
ร่างสูงมองสีหน้างง ๆ ของคนหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าประตู
เขารู้จักคนคนนี้ ชื่อว่า ‘ปลายฟ้า’ หรือ ‘ปลาย’
เป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มเดียวกับเกมส์ เคยไปเข้าค่ายวิศวะอาสาด้วยกันมาก่อน
หน้าตาน่าเอ็นดู ไม่แพ้คนที่เขาติดใจด้วย
แต่ตอนนี้ใบหน้าเกลี้ยงเกลากลับขมวดคิ้วมุ่น
ก่อนเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ
“อ้าว...ดิว ทำไมมาอยู่ที่นี่ แล้วเกมส์ล่ะ”
“ผมแวะเอาของมาให้น่ะครับ ส่วนเกมส์ตอนนี้ไม่สบายนอนอยู่ครับ”
ดิวเลี่ยงบอกความจริงไปบางส่วน
เพราะเขาไม่อยากจะอธิบายถึงสาเหตุว่าทำไมเกมส์ถึงนอนซมอยู่บนเตียงแบบนี้
ในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดและเป็นกังวล
...เกมส์เป็นลมเพราะกลัวเขาจริง ๆ
แต่เขาไม่ใจเหตุผลว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
ที่ผ่านมาเขาก็ไม่เห็นว่าตัวเองปฏิบัติกับเกมส์ผิดปกติตรงไหน
ใส่ใจดูแลเทคแคร์ดี เหมือนที่เคยทำกับสาว ๆ ไม่ต่างกัน
แล้วทำไมเกมส์กลับถอยห่างจากเขา
แถมเป็นความห่างซึ่งย้ำชัดถึงความหวาดกลัวอย่างที่สุด
ความสงสัยในใจหยุดลงเมื่อร่างสูงได้ยินเสียงพูดคล้ายตกใจจากปลาย
ซึ่งเดินเขามาในห้องมองดูคนนอนซมบนเตียง
“จริงเหรอ! เกมส์ไม่สบายตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเราไม่เห็นรู้เรื่องเลย
อ้าว...แล้วนี่งานกลุ่มจะทำยังไงที่เนี่ย
เฮ้อ...สงสัยต้องโทรไปบอกบอลล่าก่อนแล้วมั้ง
ไม่งั้นเดี๋ยวได้วีนแตกขึ้นมาอีกแน่ ๆ”
ปลายฟ้าถอนหายใจพลางงึมงำบ่นกับตัวเองเบา ๆ
พร้อมตั้งจะหยิบมือถือขึ้นมารายงานคุณแม่จอมบงการประจำกลุ่ม
แต่เสียงของคนข้าง ๆ ตัวกลับดังขึ้นขัด
“เออ..คือปลายครับผมมีเรื่องอยากถามหน่อย”
“อะไรเหรอ”
“เกมส์มีอะไรที่กลัวมาก ๆ บ้างมั้ยครับ”
คำถามที่อยู่ ๆ ก็พุ่งเข้าประเด็นนี้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ทำให้ปลายฟ้าต้องเงยหน้าขึ้นมาจากจอโทรศัพท์อย่างแปลกใจ
กระนั้นก็ยังคงขยับตอบคำถามสั้น ๆ ตามที่นึกได้
“ก็ไม่นะ”
“ไม่มีจริง ๆ เหรอครับ”
เสียงเน้นย้ำอีกเป็นครั้งที่สอง ไม่ใช่เพียงแค่ส่งผลให้ปลายฟ้าชะงัก
หากแต่ยังต้องหยุดนิ่ง สบสายตามองคู่สนทนาซึ่งแม้จะมีสีหน้าเป็นปกติ
ทว่าดวงตาเรียวทอประกายคล้ายกำลังรอคอยบางสิ่งอย่างคาดคั้นจริงจัง
จนทำให้คนผู้รู้ความลับเกิดอาการลังเล
แม้มันจะเหมือนการเผาเพื่อนสนิท แต่สุดท้ายเขาก็เผลอหลุดปากเล่าความจริง
“จะว่ามีมันก็มีหรอก แต่มันแปลก ๆ อยู่สักหน่อยไม่รู้ว่าจะเข้าใจรึเปล่านะ
...คือ ไอ้เกมส์มันเป็น ‘โรคกลัวผู้ชายจีบ’ น่ะ
เมื่อก่อนตอนปีหนึ่งมันโดนพี่ที่เป็นเกย์มอมเหล้าลากเข้าห้องจนเกือบไม่รอดแล้ว
ดีที่ว่ามันหนีออกมาได้ ตั้งแต่นั้นมันเลยผวาเวลามีผู้ชายมาทำรุ่มร่ามกับมัน
คงกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยล่ะมั้ง เออ...ว่าแต่ดิวถามทำไมเหรอ”
ท้ายประโยคเปลี่ยนเป็นคนถามอย่างสงสัย
แต่คนฟังกลับส่ายหน้าปฏิเสธ ยังคงรักษารอยยิ้มสบาย ๆ ตอบกลับไปเป็นปกติ
“ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่อยากรู้เฉย ๆ
ถ้ายังไงผมขอตัวก่อน ฝากปลายดูแลเกมส์ด้วยนะครับ”
เอ่ยจบร่างสูงก็ลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้องทันที
โดยไม่เปิดโอกาสให้ปลายฟ้าซักไซ้ต่อ
ทิ้งไว้เพียงความมึนงงในสมองของคนสับสน
...น่าแปลก...ทำไมอยู่ ๆ ดิวถึงมาถามเรื่องแบบนี้ขึ้นมา
แล้วไหนจะมาอยู่ในห้องนี่กับเกมส์สองคนอีก
หรือว่าดิวทำอะไรเกมส์ไปแล้วรึเปล่า เฮ้ย!...ไม่จริงมั้ง
คำคาดเดาที่ผุดขึ้นมาทำให้ปลายฟ้าต้องหันรีบไปมองไปเพื่อนสนิท
ซึ่งนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง มีผ้าห่มคลุมกายอย่างดี
โดยไม่พบอาการหรือท่าทีผิดปกติใด ๆ
เอาเถอะ...
ถึงแม้เขาไม่รู้หรอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเกมส์กับดิวเป็นยังไง
แต่ถ้าดิวคิดจะจีบเกมส์จริง ๆ ล่ะก็
ขอบอกเลยว่าโอกาสเป็นสำเร็จแทบจะเป็นศูนย์
เพราะหนึ่ง ไอ้เกมส์ไม่ใช่เกย์
และสอง โรคกลัวผู้ชายจีบของเกมส์ไม่ใช่จะหายขาดกันได้ง่าย ๆ
ขนาดเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายปียังไม่รู้เลยว่าจะช่วยมันยังไง
ความรักระหว่างผู้ชายไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่ไอ้คนที่จะมาคู่กับเพื่อนแปลก ๆ ของเขาได้เนี่ย
ถ้าไม่คิดทุ่มเทจริงจังให้สุด ๆ ก็คงยากหน่อย
ซึ่งแน่นอนว่าเขาชักจะเห็นเค้าความหายนะเกาะติดชีวิตของมันขึ้นมาลาง ๆ
และจะมีใครเข้าไปยื่นมือแก้ปัญหาก็คงไม่ได้นอกเสียจากเจ้าตัว
เฮ้อ...โทษทีนะ แต่ครั้งนี้คงถึงคราวซวยของมึงจริง ๆ แล้วล่ะวะ
...ไอ้เกมส์
...
..
.
...แก๊ก ...แก๊ก
เสียงเคาะแป้นพิมพ์ดังเป็นจังหวะปลุกให้คนที่หลับอยู่ค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมอง
ก่อนจะเหลือบไปเห็นคนคุ้นเคยนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานจนเผลอส่งเสียงเรียก
“ไอ้ปลาย”
เจ้าของชื่อละมือจากโน้ตบุ๊คหันหลังกลับมามองคนบนเตียง
ซึ่งกำลังยันกายลุกขึ้นนั่งงง ๆ เหมือนสติยังไม่คืนเต็มร้อย
“ไงตื่นแล้วเหรอ”
“อือ...ปวดหัวว่ะ”
คนป่วยงึมงำตอบกลับรู้สึกปวดหัวตุบ ๆ
เหมือนมีใครเอาไม้มาทุบแถมยังมันยังร้อนวูบ ๆ ไม่หาย
“ก็มึงไข้ขึ้นนี่ แล้วอยู่ ๆ ทำไมถึงเป็นได้ล่ะ”
ปลายฟ้าถามออกไปอย่างอยากรู้
เพราะเมื่อวันศุกร์ยังเห็นไอ้เกมส์ยังกระดี๊กระด๊า
แกล้งบอลล่าเล่นอย่างสนุกสนานได้อยู่เลย
พอมาวันอาทิตย์ดันตัวร้อนซะงั้น
หรือจะป่วยการเมืองเพราะไม่อยากทำรายงานรึเปล่าวะ
อุตส่าห์โทรไปบอกบอลล่าเรื่องไอ้เกมส์แล้วด้วย
ขืนมันทำสำออยมีหวังเจ๊แกได้จัดการส่งมันเข้าห้องไอซียูจริง ๆ แน่ ๆ
ซึ่งก็ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้ดีว่าปิดบังไว้คงไม่ได้ประโยชน์
เลยต้องยอมเสียศักดิ์ศรีเปิดปากเล่าความจริงอย่างจำยอม
“กูเพิ่งไปผ่าฟันคุดมา”
และแน่นอนที่ปฏิกิริยาตอบกลับจะต้องเป็นไปตามคาด
เพราะปลายฟ้าเลิกคิ้วรีบร้องด้วยความตกใจ
“ห่ะ! ไปผ่าฟันคุดเนี่ยนะ ถ้าบอลล่ารู้มีหวังสะใจตาย
เห็นเขาแช่งมึงไว้เยอะนี่ แล้วดันได้ผลด้วย
โคตรศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ ว่ะ ฮ่าๆๆ”
ท้ายประโยคเปลี่ยนเป็นอาการขำยาวหยุดไม่อยู่
เกมส์หน้าเซ็งแทบอยากจะเขวี้ยงหมอนใส่เพื่อนตัวเอง
เขาปวดหัวจะตายห่ามันยังมีน่ามาหัวเราะ
แต่เอาจริงเขาก็ตลกตัวเองอยู่เหมือนกัน
ใครจะไปคิดว่าเรื่องที่บอลล่าชอบแช่งเขาประจำเวลากินขนมจะเป็นจริง
แต่เขาไม่ได้ฟันผุนะเว้ย แค่ฟันคุดเฉย ๆ เท่านั้นเอ๊งง
แสดงว่าอิทธิฤทธิ์คำด่าของเจ๊แกยังไม่ศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ
ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงไม่วายเอ่ยกำชับ
“ก็เออดิ มึงอย่าเพิ่งไปบอกเจ๊เขานะ
เดี๋ยวได้เก็บเรื่องนี้ไปแซวกูจนลูกบวชแน่”
“เออ ๆ กูไม่บอกหรอก...แล้วนี่มึงกินยารึยัง”
ปลายฟ้ารับปาก ก่อนไม่ลืมถามด้วยความเป็นห่วง
“ข้าวกูก็ยังไม่ได้กิน”
“อ้าว...แล้วทำไมไม่กินวะ
อ้อ...ลืมไปมึงปวดฟันใช่ป่ะ
งั้นเดี๋ยวกูลงไปซื้อโจ้กให้”
ความสงสัยถูกเบรกเมื่อปลายฟ้านึกถึงสาเหตุขึ้นได้
หากแต่ยังไม่ทันจะเตรียมลุกจากเก้าอี้อีกคนกลับร้องขัด
“เฮ้ย! ไม่ต้องกูไม่กินโจ๊ก”
“งั้นเอาอะไร”
“กูอยากกินขนม”
คำตอบสั้น ๆ จากคนป่วย
ทำเอาปลายฟ้าได้แต่ส่ายศีรษะพลางถอนหายใจอย่างระอา
“เฮ้อ...ก็เพราะแบบนี้ล่ะนะ สมควรปวดฟันแล้วล่ะมึง
แล้วนี่ก็ดันซื้อขนมมาตั้งเยอะแยะ
มึงอยากจะผ่าฟันให้ครบทุกซี่เลยรึไงวะ”
ปลายฟ้าบ่นประชดเมื่อเหลือบเห็นขนมในถุงเซเว่นถุงใหญ่วางอยู่บนโต๊ะ
ก่อนจะคว้าทั้งถุงโยนมาบนเตียงให้คนไม่เจียมอาการตัวเองได้เลือก
ทว่าคนรับกลับนิ่งอึ้ง มองถุงขนมที่วางแหมะอยู่ตรงหน้า
...ขนมมากมายซึ่งเขาไม่ได้ซื้อ
...หากแต่กลับเป็นใครอีกคนหนึ่ง
และเป็นคนเดียวกับที่เขาเห็นเป็นคนสุดท้ายก่อนจะสลบไป
...เฮ้ย! จริงด้วย มัวแต่มึนหัวจนลืมดิวไปเลย
พอนึกขึ้นได้แล้วมันน่าโมโห ทั้งโมโหตัวเอง
แล้วก็โมโหไอ้คนขี้แกล้งเจ้าเล่ห์คนนั้นด้วย
เขาไม่น่าพลาดเดินไปตามหลุมที่ดิวดักไว้
ทั้งที่อุตส่าห์บอกไปแล้วว่ากลัว ๆ
แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ดันขยับเข้าใกล้จนหน้าแทบชิด
แล้วเป็นไง... ผลสุดท้าย...
...กูเป็นลม
อายมั้ยกู ถ้ารู้ถึงไหนคงได้อายถึงไหน
ผู้ชายสุดเท่ห์สาวรักสาวหลงอย่างไอ้เกมส์
เจอสัตว์ประหลาดยักษ์มารที่ไหนไม่มีหวั่น
แต่แค่มีผู้ชายมาจีบกลับดันเผลอเข่าอ่อน
ช็อคเป็นลมสลบเหมือดไปซะอย่างนั้น
ก็ทำไงได้คนมันมีปมกลัวฝังใจนี่หว่า
แล้วนี่ดิวมันหายหัวไปไหนวะ ตื่นมาก็เห็นไอ้ปลายนั่งอยู่คนเดียว
หวังว่ามันคงไม่ได้เอาเรื่องที่เขาเป็นลมไปโพทะนาหรอกนะ
ความระแวงในใจเริ่มก่อตัว
และที่คนรู้ก็คงมีแค่เพื่อนเขาซึ่งอยู่ในห้องก่อนเขาฟื้น
แต่จะให้อยู่ ๆ ถามถึงดิวตรง ๆ มันก็คงจะดูประหลาด
เกมส์จึงตัดสินใจเปลี่ยนไปเลี่ยงคำถามอ้อมโลกอย่างอื่น
“เออ...แล้ว...ไอ้ปลาย....มึงเข้ามาตอนไหนวะ”
“สักสิบเอ็ดโมงมั้ง กูกินข้าวเสร็จแล้วค่อยมา”
อีกฝ่ายตอบส่ง ๆ พลางหันไปให้ความสนใจกับโน้ตบุ๊ค
พิมพ์รายงานบนโปรแกรมพาวเวอร์พอยด์ต่อ
ปล่อยให้คนฟังทบทวนเวลาอยู่ในใจ
เขาจำได้ว่าดิวมาตอนเกือบเก้าโมงเช้า
งั้นแสดงว่าดิวอยู่ในห้องเขาตั้งสองชั่วโมงเลยเหรอ
เฮ้ย...จริงดิ!
แต่เออ...คิดอีกทีมันอาจไม่อยู่นานขนาดนั้นก็ได้
พอเห็นเขาเป็นลมแล้วอาจจะแค่ลากมาไว้บนเตียงด้วยความสงสาร
แล้วก็กลับไปทั้งอย่างนั้น
ความสงสัยในใจถูกกลั่นออกมาเป็นคำถามเลียบ ๆ เคียง ๆ แบบอ้อมโลกอีกเที่ยว
“แล้ว...เออ..คือ..ตอนเข้ามามึงเจอใครบ้างป่ะ”
“ดิวน่ะเหรอ”
ชื่อเป้าหมายตรงเผงเล่นเอาคนมัวพิรี้พิไรสะดุ้งเฮือก
หากแต่หูก็ยังคงฟังบทสนทนาที่เอ่ยอธิบายออกมา
“เจอดิ เขาเพิ่งออกไปเมื่อสิบห้านาทีที่แล้วนี่เอง
เออ..แล้วทำไมเขาถึงมาหามึงที่ห้องได้วะ”
ปลายฟ้าละมือจากแป้นพิมพ์หันกลับมามองหน้าคนบนเตียงอีกครั้ง
ซึ่งเป็นคำถามเดียวกับที่เกมส์อยากจะถามตัวเองเหมือนกัน
แต่ตอนนี้ขืนพูดไปคงได้ซักกันยาว
เขาเลยแสร้งทำเป็นเฉไฉพูดกลบเกลื่อน
“เออ...ก็แบบเขาเอาของมาให้นิดหน่อย”
“เหรอ?”
ปลายฟ้าถามย้ำคล้ายไม่เชื่อจนคนถูกซักไซ้
เปลี่ยนไปทำสีหน้าเซ็ง ตอบกลับหงุดหงิด
“ก็เออดิวะ! ไม่มีอะไรหรอก
มึงกลับไปพิมพ์งานต่อไป เดี๋ยวกินเสร็จแล้วกูช่วย”
ประโยคที่ปลายฟ้าดูก็รู้ว่าคนต้นเรื่องแกล้งเปลี่ยนประเด็น
ถึงแม้มันจะเป็นคำตอบเดียวกับที่เคยได้ยินมา
แต่ลึก ๆ เขาก็ยังคงสงสัยในท่าทีของเพื่อนซี้
เพราะคนอย่างไอ้เกมส์มีอะไรไม่ค่อยบอกหรอก
ชอบที่จะเก็บปัญหาไว้แก้คนเดียว
ดูอย่างตอนที่เขารู้ว่ามันโดนพี่ปูเป้ลากไปขังในห้อง
จนฝังใจเป็นโรคกลัวผู้ชายจีบขึ้นสมอง
กว่ามันจะกล้าเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง
ก็เล่นเอาทั้งกลุ่มแทบประสาทแดก
เพราะพอมีใครเข้าใกล้มันดันผวาออกอาการกลัว
กระทั่งบอลล่าทนไม่ไหวต้องเค้นคอถามถึงได้รู้
เลยช่วยกันรักษาอาการของโรคให้ดีขึ้นมาบ้าง
แม้จะยังไม่หายขาดก็ตาม
แต่จากที่เขาสังเกตไอ้เกมส์ตอนนี้ มันก็เป็นปกติดี
หรือว่าดิวไม่ได้ทำรุ่มร่ามใส่ เขาอาจจะนึกระแวงไปเองก็ได้
...มันคงไม่มีอะไรจริง ๆ ล่ะมั้ง
ปลายฟ้าตัดสินใจปล่อยความคาใจให้พ้นไปจากสมอง
ก่อนจะหันกลับไปเพ่งสมาธิตั้งหน้าตั้งตาทำรายงานต่อ
โดยทิ้งให้คนบนเตียงคุ้ยหาขนมจากในถุงมากินแก้หิว
เกมส์ก้มลงมองขนมหลายอย่างละลานตาในถุง
ทั้งยูโร่คัสตาร์ด เยลลี่ เจลาติน นม น้ำผลไม้
แถมยังมีจูปาจุ๊บรสโคล่ามาให้ด้วย
ไม่เห็นเขาใจเลยว่าดิวจะซื้อขนมให้เขามากมายขนาดนี้ทำไมกัน
แค่อยากจะแกล้งเล่น ๆ หรือเพราะคิดอยากจะจีบเขาจริง ๆ จัง ๆ
แต่มันจะเป็นไปได้เหรอ
หน้าตาดีตำแหน่งเดือนวิศวะอย่างมัน
แค่ยิ้มหน่อยก็มีสาว ๆ วิ่งเข้าหาตั้งเยอะแยะ
แล้วจะมาสนใจอะไรเขาที่เป็นแค่ผู้ชายธรรมดา ๆ
แถมยังเป็นโรคกลัวผู้ชายมาจีบขึ้นสมองอีก
ช่างมัน...จะเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม
ขออย่างเดียว คือ อย่าให้มันมาเข้ายุ่งย่ามกับเขาอีก
เพราะขนาดแค่เข้าใกล้เขายังเป็นลม
ขืนเจอหน้าอีกที มีหวังได้ช็อคหัวใจวายตายแน่
ถ้ามันจะจีบเขาจริง ๆ เชื่อเถอะกับดิวมีอีกกี่ชีวิตคงไม่พอหรอก
แต่ถ้ามันคิดจะแกล้งกันเล่น ๆ เขาก็จะไม่อยู่เฉยเหมือนกัน
จะไม่ยอมตกเป็นเป้านิ่งให้มันรังแกเหยียบย้ำศักดิ์ศรีฝ่ายเดียวแน่ ๆ
....ถึงจะกลัวแึค่ไหน แต่คนอย่างไอ้เกมส์ก็พร้อม 'สั่นสู้' นะโว้ยยย!! คอยดู!!
...
..
.
ควันบุหรี่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ริมระเบียงบนคอนโดหรูกลางเมือง
ดิวเหม่อมองท้องฟ้ายามอาทิตย์ใกล้ตกดิน
ตามองไป หากแต่หัวสมองกลับครุ่นคิดถึงความจริงที่เพิ่งได้รับรู้
‘เกมส์เป็นโรคกลัวผู้ชายจีบ’ มีด้วยเหรอโรคประหลาดแบบนี้
แต่มันก็อาจเป็นไปได้เพราะเขาเคยได้ยินคนกลัวอะไรแปลก ๆ ตั้งหลายอย่าง
เพราะสาเหตุมาจากความฝังใจหรือความช็อคซึ่งเคยพบเจอ
แล้วจากสิ่งที่เกมส์เคยเผชิญมา
ก็อาจส่งผลมากพอจะกระทบกระเทือนจิตใจจนกลายเป็นโรคนี้
ทว่าเขากลับไม่เคยรู้มาก่อน
แถมยังไปแกล้งดึงเกมส์มาตั้งใจจะจูบใกล้ ๆ จนเกมส์เป็นลมไป
ยอมรับว่าตกใจแทบแย่ เกือบจะอุ้มเกมส์ไปโรงพยาบาลอยู่แล้ว
แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเกมส์เพิ่งไปผ่าฟันคุดมาคงไข้ขึ้นเพราะอาการอักเสบ
เขาเลยอุ้มเกมส์มานอนบนเตียง แล้วก็เฝ้าอยู่ข้าง ๆ ด้วยความกังวล
กระทั่งปลายฟ้ามาคอยดูแลต่อนั้นแหละ ถึงยกหน้าที่ต่อให้ดู
แต่แม้จะกลับมาถึงหอแล้วก็ยังเป็นห่วงกระวนกระวายใจจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร
...เกมส์จะเป็นอะไรมากรึเปล่า?
TRRRRRRRR!!เสียงโทรศัพท์ดังขัดความคิดในใจ
ดิวหยิบไอโฟนขึ้นมากดรับ
ก่อนได้ยินเสียงเพื่อนคนหนึ่งตามมาจากปลายสาย
((เฮ้ย! ไอ้ดิว คืนนี้ว่างเปล่าวะ))
“ทำไม”
((จะชวนไปเดอะกลาส กูมีเลี้ยงวันเกิดเพื่อน งานนี้หญิงเพียบเลยนะโว้ย))
...ผับเดอะกลาส
สถานที่คุ้นเคยยามราตรีซึ่งเขาเที่ยวบ่อยจนแทบจะกลายเป็นบ้านหลังที่สอง
เพราะเป็นแหล่งล่าเหยื่อชั้นดีสำหรับหนุ่มคาสโนว่าอย่างเขา
หากแต่คราวนี้หมาป่าเจ้าเล่ห์กลับลังเลเพียงชั่วครู่ ก่อนขยับปากบอกสั้น ๆ
“โทษที พอดีกูไปไม่ได้วะ”
คำปฏิเสธทำเอาปลายสายถึงกับบ่นด้วยความแปลกใจ
((อะไรวะ ปกติขาปาร์ตี้อย่างมึงไม่พลาดนี่
เออ แต่ก็ดี มึงไม่มาสาว ๆ จะได้มาหากูบ้าง
ไม่งั้นไปรุมตอมแต่มึงคนเดียว แม่งเซ็ง!))
เขาได้ยินคนบ่นด้วยความเสียดายอีกสองสามคำ
ก่อนจะขอตัววางสายไป
บุหรี่ในมือจึงถูกนำมาอัดควันเข้าปอดอีกครั้ง
รสขมจาง ๆ และความเย็นซ่านจากมินต์
ไม่ได้ช่วยทำให้สมองปรอดโปร่งเหมือนเคย
หากแต่มันกลับทำให้เขารู้สึกกังวลหนักกว่าเดิม
เมื่อตระหนักถึงคำถามในหัวใจ
....ทำไมถึงปฏิเสธไป
ทั้ง ๆ ที่หากไม่มีธุระอะไรติดพันเขาก็ต้องไปขอร่วมแจมงานพวกนี้เกือบทุกครั้ง
ชีวิตที่เต็มไปด้วยแสงสี ความสนุก ปล่อยตัวเองให้โลดแล่นไปกับความมึนเมา
หากใครเข้ามาใกล้ชิด เขาก็พร้อมสนองตอบอารมณ์โดยไม่คิดจะผูกพัน
แต่กับครั้งนี้....
แค่เพียงนึกถึงใบหน้าของคนคนหนึ่ง
มันกลับทำให้เขาไม่มีอารมณ์จะไปสนใจแสงสีพรรณนั้น
เพราะในใจมันเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
เขายอมรับว่าตัวเองไม่รู้เรื่องที่เกมส์กลัว
แต่ตอนนี้ในเมื่อรู้แล้ว จะให้ละเลยไปก็คงไม่ได้
เขาไม่ใช่คนไม่มีความรับผิดชอบ เมื่อทำผิดก็ต้องหาทางขอโทษ
แต่อย่างเกมส์จะให้ไถ่โทษด้วยวิธีไหน
เพราะพอเข้าใกล้เกมส์ก็วิ่งหนี
หรือว่าเขาควรจะรักษาอาการโรคกลัวผู้ชายจีบให้หายไปเลยดีมั้ย
เออนั้นสิ...แค่ทำให้เกมส์หายกลัว
เขาก็จะสามารถเข้าใกล้เกมส์ได้แล้ว
ทีนี้อยากจะทำอะไรชดเชยความผิดก็คงไม่ยาก
ดิวขยี้บุหรี่ดับไฟกับขอบระเบียง
ยิ้มบาง ๆ เมื่อคิดถึงแผนการมากมายในหัว
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจท้าทายใหม่
...โรคกลัวผู้ชายจีบของเกมส์
เจ้าของฉายาคาสโนว่าอย่างเขาคนนี้...
...จะขอจีบเกมส์เพื่อรักษาอาการของโรคนั้นให้ดู!
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
TBC
แวะมาทักทายค่ะพร้อมกับแจ้งข่าวเล็กน้อย
ช่วงนี้งานยุ่งมากกกกก!! (เติมก.ไก่อีกสามพันห้าล้านตัว) 
แต่ไม่ได้หมายความว่าจะหยุดเขียนซีรีย์นะคะ
แค่อาจจะมาต่อช้าเล็กน้อยสักอาทิตย์ล่ะครั้ง
ขอเคลียร์คลื่นมรสุมสึนามิงานให้หมดก่อน
แล้วจะกลับมาตั้งหน้าตั้งตาปั่นซีรีย์ให้เร็วกว่านี้ค่ะ 
ยังไงก็ช่วยรอเขาอีกหน่อยนะจ๊ะ
รักนะ ม๊วฟ ๆ
BitterSweet