TIGER HEART ► หัวใจเสือ◄[-จบแล้ว-] Special {เสือตาคลอส}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: TIGER HEART ► หัวใจเสือ◄[-จบแล้ว-] Special {เสือตาคลอส}  (อ่าน 87015 ครั้ง)

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เอิ้นน่ารัก  อิจฉาเสือได้รับความรักอะไรขนาดนี้  :กอด1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6

ออฟไลน์ tear0313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เสือเป็นคนดี แต่ปากแข็ง แก้ปัญหาผิดวิธีนิดนึง แต่ก็ไม่แปลกนะ วัยรุ่นอะเนาะ
พอโตมา เสือก็รู้ว่าอะไรดีไม่ดี แถมรู้สึกผิดมาตลอดด้วย เอิ้นรู้แล้วปลื้มหนักมาก

เอิ้นหลงเสือหนักมาก มั่นคงเวอร์ ขนาดหนีไปมีแฟนแล้ว ยังกลับมาหาเสืออีก สำคัญมากจริงๆ

เอิ้นน่ารัก มีความกวน ขี้อ้อน ช่างตื๊อ เปลี่ยนคนปากแข็ง ให้เป็นคนปากหวานได้ ดีงาม ยอมใจ

ครอบครัวดีมากเลยค่ะ ดูแล เข้าใจ ใส่ใจ น่ารักมาก

ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ เรื่องดราม่านิดหน่อย แต่หวานเยอะกว่า น่ารักดีค่ะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
ชอบปมเรื่องที่ทำงาน, กลโกง, การป้ายสีทางธุรกิจ และการสับขาหลอกมากๆ เขียนได้ดี ชวนติดตาม

แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบพระเอกที่มีบุคลิก และการแสดงออกแบบเอิ้นซักเท่าไหร่ (ซอฟท์อ้อนขี้เล่นมุ้งมิ้งยอมคน)
เลยไม่อินกับความรักระหว่างพระนายมากนัก ...คือนี่ดันไพล่ไปชอบสไตล์ "นพ" งี้ คงจับเสือกดรัวๆ โฮะๆๆ #ผิด

 

ออฟไลน์ Persoulle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
สนุกมากๆค่ะ ชอบ เอิ้น ผู้ชายอะไรมั่นคงมากกก เสือก็เป็นคนตรงๆค่ะ เลยชอบบุคลิกเสือ แถมมีแอบอ่อย 555 จะติดตามเรื่องต่อไปค่ะ  o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆค่ะ

ออฟไลน์ abcee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ฟินกับนิยายเรื่องนี้จริงๆ น่ารักอ่า

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
แปะไว้ก่อน

ออฟไลน์ papapajimin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ชอบบบ เนื้อเรื่องสนุก
ชอบความเสมอต้นเสมอปลายของเอิ้นมากเลย
ทั้งความรักและความหื่น 55555555
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆค่าาา

ออฟไลน์ earthhhs

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: TIGER HEART ► หัวใจเสือ◄[-จบแล้ว-]
«ตอบ #194 เมื่อ19-02-2018 03:32:22 »

แอบขัดใจเรื่องอดีตที่เอ้นมีแฟนอะ ไหนบอกรักนักรักหนารอมานาน แต่มีคนอื่นก่อนจะกลับมาเจอ คือไม่ได้รักพวกเขาเลยหรอหรือยังไง งงมากเหมือนทำตัวไม่จริงใจอะ แต่ปัจจุบันก็ดีละเนอะ

ออฟไลน์ แจซอล

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
Re: TIGER HEART ► หัวใจเสือ◄[-จบแล้ว-]
«ตอบ #195 เมื่อ04-03-2018 19:11:03 »



ตอนพิเศษ (1) คุณอาเสือ


“อาเฉือๆ อันนี้เขาเรียกว่าอารายอ่า” เจ้าเด็กตัวน้อยที่อิมพอร์ตมาจากต่างประเทศเมื่อหลายวันก่อนถามพลางชูหุ่นไดโนเสาร์ขึ้นสุดแขน และคนเป็นคุณอาก็ยิ้มรับ เป็นยิ้มที่อ่อนโยนเกินจะบรรยาย ยิ้มอ่อนโยนที่นานๆ ทีผมคนที่อยู่ในสถานะคนรักจะได้รับ

“ไดโนเสาร์ไงครับ ตัวนี้เรียกว่าไดโนเสาร์”

“กินพืชหรือกินเนื้ออ่าฮะ”

“อ่อ กินอะไรวะเอิ้น” เสือหันมาถามให้ผมใจชื้นขึ้นมาหน่อย อย่างน้อยเขาก็รับรู้ถึงการมีตัวตนของผมในบ้านหลังนี้

“แป๊บนะ ขอถามกูเกิ้ลก่อน” ถึงอย่างนั้นผมก็ตอบไม่ได้หรอก ถ้าให้ชัวร์ก็ต้องหาข้อมูลใช่มั้ยล่ะ และเมื่อลองถามกูเกิ้ลก็ได้คำตอบว่าเจ้าไดโนเสาร์ที่อยู่ในมือเสือคือสเตโกซอรัส อามาทัส ไดโนเสาร์ที่มีสมองเท่าเม็ดถั่ว

“นี่มึงหาข้อมูลจากกูเกิ้ลหรือมึงไปขุดหาซากไดโนเสาร์ โคตรนาน”

คนปากร้ายไม่ว่าจะผ่านไปสี่ห้าปีก็ยังร้ายอยู่เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนและไม่คิดจะเปลี่ยน

พอเสือหงุดหงิดผมจึงยื่นมือถือไปตรงหน้าเขาให้ดูคำตอบที่หน้าจอเอาเอง

กวาดสายตาดูอยู่ครู่หนึ่งจึงตอบคำถามหลานชายตัวเล็กไป

“ทำไมสมองเท่าเม็ดถั่วล่ะฮะ” และเจ้าหนูจำไมก็สงสัยไปซะทุกสิ่งอย่าง

“เพราะไดโนเสาร์ไม่อ่านหนังสือไงฮะ” คนเป็นอาก็ช่างสรรหาคำตอบ

“ไดโนเสาร์อ่านหนังสือไม่ออกซะหน่อย อ่านหนังสือไม่ได้หรอก” ดูเหมือนว่าเจ้าตัวเล็กจะฉลาดกว่า พอเห็นว่าเสือโต้ตอบไม่ได้ผมจึงหลุดขำออกมาให้อีกฝ่ายส่งสายตาพิฆาตมาให้

หงุดหงิดอะไรกับเรื่องแค่นี้ ผมสิที่ต้องหงุดหงิด กว่า 1 สัปดาห์แล้วที่หลานชายตัวเล็กๆ ของเสือถูกพี่สิงห์พามาฝากเลี้ยง เจ้าหนูติดเสือมาก กลางคืนก็นอนด้วยกัน กลางวันก็งอแงจะไปทำงานด้วย แน่นอนว่าช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ แค่จับมือกันเรายังทำไม่ได้เลย

เสื่อมสมรรถภาพหมดแล้วมั้งเอิ้นใหญ่

นั่งเล่นกับเลโออยู่ซักพักขณะที่คนเป็นอาแท้ๆ ทิ้งหัวลงบนหมอนแล้วหลับเฉย

ที่จริงช่วงนี้เสือทำงานหนักมาก พบลูกค้าไม่เว้นแต่ละวัน เอาจริงๆ ผมก็แอบหวั่นใจอยู่นะบางที เฟรนลี่ขนาดนี้ไม่หว่านเสน่ห์ก็คงมีคนมาตกหลุมรักบ้างแหละ

“เสือครับ เอิ้นลงไปข้างล่างแล้วนะ” ปล่อยให้เลโอนั่งดูหนังสือภาพไดโนเสาร์ ส่วนผมลุกขึ้นแล้วเดินมานั่งลงข้างเสือบนเตียงแล้วสะกิดเขาเบาๆ

เสือเป็นคนตื่นยาก สะกิดหลายทีไม่ยอมตื่น แถมยังปัดมือผมทิ้งอีก มันน่าจับกด แต่เสียดายที่ทำไม่ได้เพราะมีเด็กอยู่ในห้องด้วย

ขัดใจชะมัด

“เสือ ถ้าเสือไม่ตื่นเอิ้นจะ...” ผมเหลือบมองเจ้าตัวเล็ก เห็นว่าเจ้าหนูเอาแต่จดจ้องหนังสือในมือผมจึงก้มหน้าลงไปใกล้ ใช้ปลายจมูกไล้แก้มนิ่มของเสือแผ่วเบา

ถ้าไม่ตื่นขึ้นมาตอนนี้ ผมจูบคุณอาโชว์หลานชายแน่ๆ ถ้าไม่เชื่อก็ลองหลับต่อดูสิ

แน่นอนว่าเสือไม่ตื่นทันที

เอาล่ะ อย่าคิดว่าเอิ้นแค่คิดเล่นๆ คิดเพื่อขู่

ผมเหลือบมองเลโออีกครั้ง น้องยังคงจมจ่อมอยู่ในโลกของตน ผมเองก็ชักอยากสร้างโลกส่วนตัวของตัวเองกับเสือซะแล้วสิ

แต่ยังไม่ทันได้ขยับ ท้ายทอยของผมก็ถูกรั้งเอาไว้ด้วยมือเรียวอันคุ้นเคย และชั่ววินาทีนั้นเอง เสือก็โน้มใบหน้าของผมลงไปหา ริมฝีปากของเราสัมผัสกัน เท่านั้นความรู้สึกที่กักเก็บเอาไว้ตลอดสัปดาห์ก็ระเบิดออกมา

จุมพิตในชั่วโมงอันตรายเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ครุกรุ่นด้วยอารมณ์ที่ทำให้ผมอยากดึงทึ้งเสื้อผ้าแล้วจับเสือกดให้จมเตียง แต่ทั้งหมดนั้นก็ทำได้เพียงแค่ในจินตนาการ

เรียวลิ้นของเรากระหวัดเกี่ยวกันอย่างเร่งรีบ ยามผละห่างก็ไม่มีเวลาให้อ้อยอิ่งแทะเล็มริมฝีปากกันเล่นเหมือนแต่ก่อน

ชาติที่แล้วผมไปทำบาปทำกรรมอะไรกับเด็กไว้กันวะเนี่ย

“ลงไปทำงานได้แล้ว”

“ไม่อยากลงไปเลย” ผมว่าเสียงอ่อยปนดื้อรั้นพลางลูบไล้ต้นขาเสืออย่างอ้อยอิ่ง

“เดี๋ยวของก็มาส่งแล้ว รีบลงไปเลย” คราวนี้เสือลุกขึ้นนั่งบนเตียง เอื้อมมือมาจับมือแล้วดึงให้ลุกขึ้นด้วยกัน

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เสือก็ยังเป็นเสือที่ภายนอกแข็งกร้าว หากเมื่อได้มองลึกลงไปก็จะเจอความอ่อนหวานนุ่มนิ่ม แถมยังอร่อยอีกต่างหาก

“เกลียดคนได้หยุดงานเสาร์อาทิตย์จังเลย”

เสือหัวเราะแล้วตีไหล่เบาๆ เพื่อไล่กัน







ร้านอาหารที่เปิดมา 5 เกือบ 6 ปี ค่อนข้างอยู่ตัวแล้ว พนักงานอาจจะมีสับเปลี่ยนหมุนเวียนบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็มีบางคนที่อยู่กับผมมาตั้งแต่เริ่ม

“บีมพี่ฝากปิดร้านด้วยนะ”

“ได้ครับท่าน” บีม เด็กหนุ่มอายุ 20 ต้นๆ เริ่มทำงานกับผมตั้งแต่อายุ 17 ได้ล่ะมั้ง บีมเป็นเด็กขยันแต่ฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีนัก ไม่มีเงินเรียนหนังสือต้องกระเสือกกระสนหางานทำ ถึงกระนั้นก็มีความใฝ่รู้และรักเรียนมากทีเดียว

บีมมุ่งมั่นเรียนจนจบม.ปลายจากการศึกษานอกโรงเรียน ตอนนี้กำลังตั้งใจเรียนให้จบมหาวิทยาลัยด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง

คนที่ชีวิตนี้ไม่เคยพบความยากลำบากอย่างผม พอเห็นคนอย่างบีมแล้วก็อยากสนับสนุน ครั้นเสนอทุนการศึกษาให้แล้วให้มันตั้งใจเรียนอย่างเดียว ฝ่ายนั้นก็เอาแต่ปฏิเสธท่าเดียว ดังนั้นเรื่องจึงลงเอยที่บีมทำงานกับผมจนถึงปัจจุบันนี้

นอกจากตัวผมแล้ว เสือเองก็ค่อนข้างเอ็นดูเด็กคนนี้ เจ๊ศรีเองก็เช่นกัน ดูเหมือนจะเอ็นดูกว่าใครเพื่อนเลยล่ะ ผมที่เคยได้รับความเอ็นดูเป็นอันดับต้นๆ ตกกระป๋องไปแล้วตามกาลเวลา

แม้จะรู้สึกเอ็นดูเด็กนั่นมากแค่ไหน แต่ทุกครั้งที่เห็นว่าเด็กมันคุยกับแฟนผมอย่างสนุกสนานก็ไม่ค่อยพอใจนักหรอก รู้ว่าเป็นนิสัยที่ไม่ดี หึงไม่เข้าเรื่องอะไรแบบนี้ แรกๆ ก็ไม่อะไรหรอก แต่พอบ่อยๆ เข้าก็อดรู้สึกไม่ได้นี่นา

ยอมรับว่างี่เง่า แต่จะให้ทำไงได้ก็คนมันรักมากนี่นา

"ร้านปิดแล้วเหรอ" ประตูร้านเปิดออก ผู้เข้ามาใหม่ไม่ใช่ใครอื่น เสือในเสื้อผ้าชุดอยู่บ้านเต็มขั้นนั่นเอง

"ปิดแล้วครับ" เป็นบีมที่ละมือที่กำลังเช็ดโต๊ะแล้วเงยหน้าขึ้นมาตอบคำถามพลางแจกยิ้มสดใส

"หิวอะ มีอะไรกินบ้าง" เสือเองก็ยิ้มตอบ และแทนที่จะเดินมาหาแฟนแต่กลับก้าวเข้าไปหาเด็กในร้านซะงั้น

"กินมื้อดึกเดี๋ยวก็อ้วนหรอก"

"อะไรเล่า อย่างกไปหน่อยเลยเอิ้น"

"บีมกลับไปเถอะ" ผมเลือกไล่บีมกลับบ้านแทนที่จะต่อความกับเสือที่อยู่ๆ ก็ดื้อแพ่งอยากกินมื้อดึกขึ้นมา ทั้งที่เพิ่งจัดมื้อเย็นชุดใหญ่ไปแท้ๆ

“ยังเก็บร้านไม่เสร็จเลยครับ”

“ไม่เป็นไร ที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดการเอง”

"แต่ว่า เดี๋ยวบีมทำมื้อดึกให้พี่เสือก่อนก็ได้นะครับ พี่เสืออยากกินอะไร เดี๋ยวบีมทำให้ก็ได้นะ" พูดไม่รู้จักฟัง สงสัยที่ผ่านมาเอิ้นคนนี้คงใจดีเกินไป ลูกน้องถึงได้กล้าเมินกันแบบนี้

"พรุ่งนี้มีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ" ผมว่าเสียงเรียบกว่าครั้งไหนๆ บีมคงสัมผัสได้จึงยิ้มเจื่อน

"จริงแฮะ งั้นผมลาเลยนะครับ ฝันดีนะครับพี่เสือ"

ดูมัน เจ้านายยืนหัวโด่อยู่นี่ทั้งคนดันบอกลาแค่แฟนเจ้านายเนี่ยนะ

เสือนั่งลงบนเก้าอี้ที่ยังไม่ได้เก็บ มองมายังผมที่กำลังง่วนอยู่กับการเช็คเครื่องปรุง

"กินไรดี"

"เอิ้น"

"กินเอิ้นเหรอ"

"ก็คิดแต่เรื่องแบบนี้" ไม่เชื่อหรอกว่าเสือไม่คิด ปากก็บ่น ขณะก้าวเข้ามาหาผมหลังเคาน์เตอร์

"มีอะไร หน้าเครียดเชียว" เมื่อละมือจะงานตรงหน้า หันมามองหน้าเสือตรงๆ ก็พบว่าเขาดูเครียดมากทีเดียว คิ้วแทบจะจรดกันอยู่แล้ว

"เคยส่องกระจกดูหน้าตัวเองบ้างมั้ย"

"ทำไม"

"หน้าเอิ้นเครียดกว่าเสืออีก"

"จริงดิ" ผมถามพลางจ้องมองเข้าไปในดวงตากลมที่สะท้อนใบหน้าตน

"เครียดเรื่องอะไร ที่ร้านมีปัญหาเหรอ"

"เปล่า"

"แล้วมีเรื่องอะไร"

"ก็..." จะบอกว่ายังไงดีล่ะ ถึงแม้จะใช้ชีวิตด้วยกันมานานแล้วแต่ถ้าจะให้พูดออกไปตรงๆ มันก็ค่อนข้างกระดากอายอยู่นิดหน่อย

"แอบนอกใจรึเปล่า" แล้วดูคุณเขาสันนิษฐาน

วันๆ ผมก็ยุ่งอยู่กับเรื่องในร้าน ไม่ได้ออกไปพบปะใคร จะเอาเวลาที่ไหนไปนอกใจ

"จะบ้าเหรอ"

"แล้วทำไมหมู่นี้ชอบมุ่นคิ้วล่ะ" เสือยื่นมือมาคลึงที่หว่างคิ้วของผมให้ต้องหลับตาเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัส

"เสือ" ผมเรียกเขาเสียงแผ่ว จับมือที่กำลังคลึงหว่างคิ้วของผมเอาไว้แล้วลืมตาขึ้นเพื่อสบตากันตรงๆ

เสือเองก็ไม่ละสายตาจากผมเลย

"ตั้งแต่เลโอมาอยู่ด้วย พวกเราก็..."

ผมหยุดคำพูดเอาไว้ และแทนทุกสิ่งในใจด้วยการเบียดร่างเข้าหาในระหว่างกายของเราแนบกัน ด้วยความที่เป็นผู้ชายทั้งคู่ การกระทำเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ก็สามารถสื่อความหมายได้ชัดเจนแล้ว

"ขอโทษนะ"

"ไม่รับคำขอโทษได้รึเปล่า"

"คิดเรื่องทะลึ่งๆ อยู่ล่ะสิ"

"เสือก็คิดอยู่เหมือนกันล่ะสิ"

เสือยกยิ้มเจ้าเล่ห์แทนคำตอบ เขาวางมือลงบนไหล่ของผม เช่นเดียวกัน มือของผมก็วางลงบนเอวของเขาอย่างรู้งาน ออกแรงเบาๆ ให้เสือขยับไปด้านหลังจนสะโพกแนบไปกับของเคาน์เตอร์

ริมฝีปากอิ่มที่ไม่มีอะไรต่างไปจากยามปกติแต่ตอนนี้กลับดึงดูดให้ต้องแนบริมฝีปากลงไปดูดดึง

เราทั้งคู่ยังคงสบตากัน ขณะริมฝีปากเบียดชิด เรียวลิ้นหยอกล้อแลกเปลี่ยนความชุ่มฉ่ำภายในโพรงปากด้วยความปรารถนาซึ่งกันและกัน

ตอนนี้รู้สึกเลยว่าเสือแสดงออกถึงความต้องการมากกว่าทุกที ที่บอกว่าหิว คงหมายถึงหิวเอิ้นนี่แหละ ไม่ใช่หิวข้าวหรอก

ลิ้นของผมถูกดูดดึงอย่างตะกละตะกลาม ริมฝีปากถูกขบเม้ม ไม่แน่ใจว่าโหยหาหรือเกลียดกัน

จูบของเราหยุดชะงักไปชั่ววินาทีเมื่อกลิ่นคาวเลือดคละคลุงบางเบาอยู่ในปาก

ช่างแม่ง!

เสือเองก็คงคิดเหมือนกัน

มือเรียวที่เคยวางอยู่บนไหล่ของผมก่อนหน้านี้ เลื่อนขึ้นมาลูบไล้เส้นผมบนศีรษะ

แม่งเอ้ย! เอื้นจะไม่ทน

"ขอโทษครับ โอ๊ะ!!"

ผมไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูหรือแม้กระทั่งเสียงฝีเท้า หูได้ยินเพียงแค่เสียงร้องอย่างตกใจของเจ้าบีม

ดวงตาของเสือฉ่ำปรอยเมื่อผมผละริมฝีปากออก เราสบตากันชั่ววินาทีก่อนเสือจะเดินไปยังชั้นวางของด้านหลังผมแล้วทำเป็นจัดนั่นจัดนี่แก้เขิน ท่าทางที่มองแล้วก็นึกขำ

"ขอโทษครับคุณเอื้น ผม เอ่อ..."

"มีอะไร"

"ผมลืมของครับ"

"ก็ไปเอาสิ" บีมวิ่งเข้าไปในห้องพักพนักงานด้วยอาการลนลาน ก็ไม่แปลกหรอก ถ้าทำตัวเป็นปกติได้สิถึงจะเรียกว่าแปลก

ครู่เดียวบีมก็เดินกลับมา ตอนที่เดินผ่านเจ้าเด็กนั่นไม่มองพวกเราด้วยซ้ำ มีก็แต่ผมที่มองมันจนลับตา

ขัดใจชะมัด

“ทำอะไรอะ” ผมถามชิดหูเมื่อก้าวไปยืนซ้อนหลังพลางกุมมือที่กำลังจับนั่นจับนี่สะเปะสะปะไปหมด “บีมไปแล้ว”

“พวกเราก็ควรจะไปนอนแล้วเหมือนกัน”

“แน่ใจเหรอว่าอยากไปนอน”

“อือ”

“เสือไม่อยากไปนอนตอนนี้หรอก” ผมหยอกเย้าที่ใบหูของเขา จงใจริดรนด้วยลมหายใจอุ่นๆ กอดเอวเขาไว้พลางเบียดส่วนที่พร้อมใช้งานตรงระหว่างกายกับสะโพกของเขา

“รู้ดี” เสือตัดพ้อแต่ก็ไม่ได้ห้ามมือที่กำลังซุกซนของผมเลยแม้แต่น้อย

ท่าทางของเสือทำให้ผมเผลอหัวเราะอย่างนึกเอ็นดู

"หัวเราะอะไร"

ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ตอบคำถามให้เขาหมุนตัวมาเผชิญหน้ากัน

“ที่นี่ก็ไม่เลวนะ ยังไม่เคยลองทำกันตรงนี้เลย”

“จะบ้าเหรอเอิ้น” เหมือนจะดุผมนะแต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามมือไม้ที่สอดผ่านเสื้อเข้าไปสัมผัสลูบไล้ผิวกายเลยแม้แต่น้อย แถมเมื่อถูกสัมผัส เจ้าตัวยังเผลอทำหน้าเคลิบเคลิ้มไปด้วยอีกต่างหาก

"ปากตรงกับใจหน่อย"

"ปากตรงกับใจก็พิการแล้วป่ะ"

"แล้วถ้าปากตรงกับปากล่ะ"

"ก็..."

ผมแนบริมฝีปากลงไปอีกครั้งโดยไม่รอให้เสือเอ่ยจบประโยค ปากเจ่อๆ นี่มันน่าจูบจริงๆ

ไม่แน่ใจว่าเราแลกจูบกันอยู่นานแค่ไหน นานจนร่างกายที่แนบชิดเริ่มร้อนเป็นไฟด้วยแรงปรารถนา และถ้าไม่ทำตรงนี้ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเราจะได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้อีกครั้งเมื่อไหร่







มันบ้ามาก

ถ้าให้เปรียบเทียบเซ็กส์ครั้งนี้กับทุกครั้งที่ผ่านมา ครั้งนี้มันร้อนแรงติดท๊อปเท็นได้เลยนะ คงเพราะว่าเราไม่ได้ทำกันนานแล้ว และไม่รู้ว่าเสือคิดอย่างเดียวกับผมหรือเปล่า

ครั้งเดียวระหว่างเรามันน่าจะยังไม่พอ

“หยุดเลย” ว้า แย่จัง เสือไม่ได้คิดอย่างเดียวกับผมหรอกเหรอ

เพียงแค่ผมกวาดสายตามองเขา เสือที่นั่งอยู่บนเคาน์เตอร์พลางหอบเหนื่อยก็ร้องห้ามขึ้นมา ช่างรู้ใจสมเป็นคนรักกันจริงๆ

“แต่ว่าเอิ้น...”

“เหนื่อยแล้ว” เสือว่าพลางดึงกางเกงขึ้นมาสวมด้วยมืออันสั่นเท่า จนผมต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือ

“อาบน้ำพร้อมกันนะ” เพราะเหตุการณ์เมื่อครู่เกิดขึ้นด้วยอารมณ์ล้วนๆ ทำให้ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย  เรามีเซ็กส์กันโดยปราศจากการป้องกัน และผมก็เผลอปลดปล่อยเข้าไปข้างในตัวเสือเต็มๆ เลย

แน่นอนว่าผมควรจะรับผิดชอบ

“ไม่ต้องเลย”

“ให้เอิ้นช่วย”

“ทำเองได้น่า ไม่ใช่เด็กๆ ซักหน่อย”

แต่ผมอยากรับผิดชอบนี่นา

“ทำความสะอาดตรงนี้ซะแล้วค่อยขึ้นไปนอน เข้าใจมั้ย” ออกคำสั่งแล้วก็เดินออกจากร้านไปเลย

ถ้ายังเดินคล่องแบบนั้นก็คงไม่น่าเป็นห่วงหรอกมั้ง

แต่ว่า...ผมนี่สิที่น่าเป็นห่วง เหตุการณ์เมื่อครู่มันยังตราตรึงและผมน่ะยังอยากกอดเสืออยู่เลย ทำไงดี



[- T B C -]

เซอร์ไพร์ส!!!!
เมื่อไม่กี่วันก่อนมีคนมาถามถึงเสือของเอิ้นค่ะ ก็เลยคิดถึงเขาขึ้นมา
นั่นแหละค่ะ พอคิดถึงแล้วก็อยากเขียน
ตอนพิเศษนี้เป็นเรื่องราวหลังจากคุณเอิ้นกับพี่เสือคบกันมา 5-6 ปีแล้ว
มีน้องเลโอลูกชายตัวน้อยของพี่สิงห์มาคอยเป็นก้างให้คุณเอิ้นเขาหงุดหงิดหัวใจนิดหน่อย
ถ้าคิดถึงกันเหมือนกันก็...รู้ใช่มั้ยว่าต้องทำยังไง

ยังไงก็รักแหละ :)


ออฟไลน์ zysygy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: TIGER HEART ► หัวใจเสือ◄[-จบแล้ว-]
«ตอบ #196 เมื่อ07-03-2018 19:44:43 »

 :mew1:

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
Re: TIGER HEART ► หัวใจเสือ◄[-จบแล้ว-]
«ตอบ #197 เมื่อ11-03-2018 16:47:14 »

เพิ่งได้มาอ่านค่า สนุกมากเลย เอิ้นป็นพระเอกที่น่ารักมากกกกกกก หยอดเก่งมากกกกก
ถ้านี้เป็นเสือไม่หลงรักนี่บ้าแล้ว ทั้งดีแล้วก็พูดเพราะ แง น้องเสื้อโชคดีจริงๆ

ออฟไลน์ แจซอล

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
Re: TIGER HEART ► หัวใจเสือ◄[-จบแล้ว-]
«ตอบ #198 เมื่อ25-05-2018 21:10:38 »


ตอนที่ 2 ความเคยชินของเอิ้น


 
ถ้าให้นิยามความเป็นครอบครัวของเรา

แน่นอนว่าผมเป็นช้างเท้าหน้าอยู่แล้ว ส่วนเสือน่ะเป็นควาญช้าง ควาญช้างที่ต้องให้ช้างตื่นขึ้นมาส่งไปทำงานทุกเช้าโดยไม่เคยสนใจว่าเมื่อคืนช้างปิดร้านและหลับไปตอนกี่โมง

เช้านี้ก็เช่นกัน

ลืมตาขึ้นมาก็พบว่าเสือกำลังผูกเนคไทอย่างคล่องแคล่วอยู่ที่หน้ากระจกบานเท่าตัวเขา ข้างกายผมน้องเลโอนอนกอดหมอนนอนหลับพริ้มไม่สนใจความสว่างในห้องเลยแม้แต่น้อย

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเด็กเป็นสิ่งมหัศจรรย์ พอผมกับเสือเดินออกจากห้อง เจ้าเด็กที่เคยนอนหลับอุตุก็จะลุกขึ้นวิ่งตามเราออกมา เป็นเช่นนี้ทุกเช้าจนกลายเป็นความเคยชิน

“ทำให้ตื่นเหรอ”

“ไม่ตื่นได้ด้วยเหรอ”

“จะไม่ตื่นก็ได้นะ”

“โธ่เสือ” เดินไม่กี่ก้าวก็เข้าไปถึงตัวเสือแล้ว ผมช่วยจัดเนคไทและปกเสื้อให้ก่อนจะเดินนำออกไปข้างนอก จัดการชงกาแฟและปิ้งขนมปัง ขณะคนที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านนั่งดูข่าวบนโซฟารออาหารเช้าอย่างสบายใจ

สบายเหลือเกิน

“ช้าจัง วันนี้วันจันทร์นะ รถติดด้วย” หันมาเร่งกันยิกๆ

ถ้ารีบนักทำไมไม่ออกมาเสียบกาน้ำร้อนเอาไว้ก่อนแล้วค่อยเข้าไปอาบน้ำล่ะ ถ้ามีความกล้าซักนิดผมคงตะโกนบอกเสือไปแบบนี้ แต่ติดตรงที่ไม่กล้าไง

“ใกล้เสร็จแล้วแป๊บนึง”

“ไม่อยากนั่งวินนะ อุตส่าห์เซ็ทผม”

“เสร็จแล้วเนี่ย” ผมรีบกดน้ำลงในแก้วกาแฟ ใช้เวลาระหว่างเดินคนมันด้วยช้อนเบาๆ พอมาถึงตรงหน้าเสือก็พร้อมเสิร์ฟพอดี

“พูดแบบนี้หมายความว่าไง”

“เอิ้นพูดอะไร”

“เมื่อกี้ พูดเหมือนรำคาญเลย”

“ไม่ได้รำคาญ ใครจะกล้ารำคาญเสือล่ะครับ”

“วันนี้ไม่ได้ออกไปพบลูกค้า  เข้าไปกินข้าวกลางวันด้วยกันสิ พาเลโอไปด้วย”

“ได้เหรอ”

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ หรือว่าไม่อยากไป”

“อยากไปสิ แต่จะไม่เป็นไรแน่เหรอ”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า” เสือค่อยๆ จิบกาแฟจนหมดแก้ว ก่อนมองนาฬิกาที่ข้อมือ “ถ้าออกช้ากว่านี้อีกนิดนึงรถติดแน่ ไปแล้วนะ”

เสือหอมแก้มผมเบาๆ ก่อนหยิบเสื้อสูทกับกระเป๋าขึ้นมาถือ

ให้ตายเถอะ หงุดหงิดใส่กันแต่เช้าเพื่อหวานใส่กันก่อนออกจากบ้านเนี่ยนะ

น่ารักเป็นบ้าเลยเว้ย

“อาเฉือ เลโอไปด้วย” เจ้าหลานตัวน้อยเดินออกจากห้องมาด้วยอาการสะลึมสะลือ เอ่ยคำที่ได้ยินเป็นประจำทุกเช้าให้คนเป็นอาต้องนั่งยองลงตรงหน้า

“เอาไว้เจอกันตอนกลางวันนะครับ”

“ไม่เอา เลโอจะไปกับอาเฉือ จะอยู่กับอาเฉือ”

“อยู่กับอาเอิ้นกับคุณย่านะ เดี๋ยวเย็นๆ อาเสือก็กลับ”

“ไปด้วยก็ไม่ได้” เด็กน้อยงอแงแต่ก็ยอมกลับเข้าห้องนอนไปโดยดี

ผมกับเสือหันมามองหน้ากัน ต่างคนก็ต่างยิ้มให้กับคำตัดพ้อน่ารักๆ ของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่ตอนนี้หลับอยู่บนเตียง

ก็ไม่ปฏิเสธว่าเลโอน่ารัก แต่คงน่ารักได้กว่านี้อีกถ้าเขาไม่ติดเสือแจขนาดนี้

“ตอนกลางวันอยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า” ผมถามขณะลงบันไดไปยังโรงจอดรถ

“อะไรก็ได้ที่อร่อยๆ”

“เอิ้นทำอาหารอร่อยทุกอย่างแหละ”

“ขี้โม้จริง” ไม่ได้โม้ซักหน่อย ถ้าไม่เชื่อก็ลองถามลูกค้าประจำได้เลย ถามว่าทำไมเขาถึงสั่งอาหารที่ร้านบ่อยๆ แน่นอนว่าเหตุผลหลักก็คือรสชาติอาหาร ส่วนเหตุผลรองคงเป็นความหล่อของเชฟ

ทุกคนก็คิดอย่างนั้นหมด ยกเว้นก็แต่คนรักของผมที่ไม่เคยชื่นชมความหล่อของเอิ้นคนนี้เลยซักครั้ง

ผมเดินมาส่งเสือที่รถ แอบหอมแก้มบอกลาก็ถูกคนมือหนักตีไหล่มาทีนึง เป็นอย่างนี้ประจำจนกลายเป็นความเคยชิน

ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา เสือเปลี่ยนงานมาหลายครั้งแล้ว ปัจจุบันคุณสรัลดำรงตำแหน่งโปรเจ็คเมเนเจอร์ให้กับบริษัทแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนตึกสูงใจกลางเมือง

เสือชื่นชอบการพบปะพูดคุยกับผู้คนและเขาก็ดูมีความสุขกับงานที่ทำมากทีเดียว

ส่วนผมยังคงทำงานอย่างเดิม กิจวัตรประจำวันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมา 5-6 ปีแล้ว ถามว่าเบื่อมั้ย ถ้าตอบว่าไม่มีเลยก็ดูจะเสแสร้งมากไปหน่อย แต่ผมมีวิธีจัดการกับความเบื่อหน่ายนะ

อย่างเช่นการปิดร้านไปเที่ยว แม้ว่าการปิดร้านเสาร์ อาทิตย์เพื่อไปเที่ยวกับเสือจะทำให้ขาดรายได้จำนวนมากแต่ไม่ว่าอย่างไรเมื่อเทียบกับกำลังใจและพลังที่ได้รับมา สำหรับผมแล้วมันคุ้มแสนคุ้มเลยล่ะ

เพราะว่าลุกจากเตียงแล้ว ให้กลับไปนอนต่อก็คงไม่สามารถหลับได้อีก

ผมกลับมานั่งหน้าบนโซฟาหน้าทีวี ดูรายการข่าวเหตุบ้านการเมืองไปเรื่อยเปื่อย กระทั่งเลโอตื่นจึงช่วยอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า สายๆ หน่อยคุณย่าก็มารับไปบ้าน

มินิมาร์ทของเจ๊ศรียังคงเปิดกิจการตามปกติ มีพนักงานหนุ่มหล่อที่ถูกคัดสรรมาโดยเจ้าของร้านผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเรียกลูกค้า

คำว่าหล่อในสายตาเจ๊ศรีเนี่ยค่อนข้างแปลกหน่อย หล่อแบบเจ๊ศรีไม่ใช่หล่อที่หน้าตาแต่เป็นความหล่อที่ออกมาจากภายใน ผมเองก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก แต่ในฐานะลูกเขยที่ดีก็ทำได้เพียงแสร้งทำเป็นเข้าใจแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน

กะว่านั่งอ่านหนังสืออีกซักหน่อยแล้วค่อยลงไปเตรียมอาหารกลางวันให้เสือ แต่ในตอนที่กำลังพลิกหน้าหนังสือนั้น โฆษณาเกี่ยวกับรายการอาหารก็ดึงความสนใจของผมไป

ในจอปรากฏชายหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผม เขาคือเชฟหนุ่มที่กำลังมีชื่อเสียงอยู่ในปัจจุบันนี้

ไม่รู้ว่าเป็นไงมาไง แต่บีมเล่าให้ฟังคร่าวๆ ว่าเขาดังมาจากแท๊กเชฟหล่อขอห่อกลับบ้านในโซเชียลมีเดียร์

ถามว่าหล่อมั้ย ก็นิดนึงมั้ง แต่อย่างไรก็สู้ผมไม่ได้หรอก
 
 
 
 
 
 
 
ถนนในเมืองถึงแม้จะเป็นตอนกลางวันก็โคตรวุ่นวาย

ผมกับเลโอมาถึงออฟฟิศเสือหลังเที่ยงนิดหน่อย แต่ก็ถูกคนโมโหหิวด่ายับเลย ผมก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตารับคำด่าไป ส่วนน้องเลโอน่ะเหรอ หัวเราะอะไรครับไม่เคยเห็นคนโดนเมียด่าเรอะ

บนชั้น 21 ของตึกถูกจัดเอาไว้เป็นฟู๊ดคอร์ด มีทั้งแบบแอร์และโอเพ่นแอร์ ที่จริงอากาศร้อนขนาดนี้คนฉลาดๆ เขาคงเลือกนั่งในห้องแอร์ แต่คนฉลาดที่มาถึงฟู๊ดคอร์ดช้าก็ต้องรับกรรมจำใจนั่งหลบใต้ร่มเงาต้นไม้เอา

นอกจากแดดแล้ว ลมยังแรงด้วย เส้นผมของผมที่ไม่ได้ถูกเซ็ทมาปลิวจนหมดสภาพ

“อาเฉือดูข้าวกล่องของเลโอสิ น่ากินมากๆ เลย”

ผมเลือกทำอาการกลางวันเป็นเบนโตะแบบญี่ปุ่น น่ารักไม่สมวัยเราเท่าไหร่ แต่ถูกใจเด็กน้อยข้างกายเสือมากๆ

“ของอาเสือก็น่ารักเหมือนกันนะ” โล่งใจที่เสือถูกใจเบนโตะที่ผมทำมาให้ “แต่ไม่รู้จะอร่อยรึเปล่า”

“ก็ต้องอร่อยอยู่แล้วสิ” ผมใช้ตะเกียบในมือตนคีบอาหารชินนึงป้อนเสือ และเขาก็รับมันเข้าปากแต่โดยดี

เสือเคี้ยวอาหารช้าๆ ซึมซับรสชาติ ทำเช่นเดียวกับยามที่ผมขอให้เขาช่วยชิมอาหารเมนูใหม่

“อร่อยมากเลย” เสือชมรสชาติอาหารของผมจนกลายเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่รู้สิ หัวใจผมเนี่ยมันมักจะพองโตทุกครั้งที่ถูกชมเลยล่ะ ไม่รู้ทำไมถึงไม่ชินซักที

“ของเลโอก็อะหย่อยนะ” พอเห็นว่าผมป้อนอาเสือ เจ้าเด็กขี้เลียนแบบก็ทำตามบ้าง

สองอาหลานผลัดกันป้อนอาหารอย่างสนุกสนาน สาบานสิว่าไม่ได้ลืมผมน่ะ

งอนก็ไม่ได้ด้วย เพราะไม่ว่าอย่างไรเสือก็ไม่ยอมง้อผมแน่ๆ ถ้าเหตุผลที่งอนมันงี่เง่าขนาดนี้

มื้อกลางวันจบลงตอนเกือบบ่ายแล้ว

พวกเราดื่มน้ำลำไยที่เจ๊ศรีฝากมาจนหมดขวดก็ถึงเวลาต้องแยกย้าย

“เลโออยากอยู่กับอาเฉือ” หากเด็กน้อยไม่ยอมให้ความร่วมมือ งอแงจะอยู่กับอาเสือท่าเดียวเลย

“ไม่งอแงสิครับ” คนเป็นอานั่งยองๆ ลงตรงหน้า ใช้มือเรียวจับบ่าเล็กเอาไว้พลางว่าเสียงอ่อนโยน

“แต่เลโออยากอยู่กับอาเฉือนี่นา”

“อาเสือไม่ชอบเด็กงอแง”

“แต่ว่า...”

“กลับบ้านไปเล่นไดโนเสาร์กับอาเอิ้นนะ”

“เลโอเบื่อแล้วอะ” อยู่ๆ ก็รู้สึกห่อเหี่ยวหัวใจเมื่อได้ยินว่าเลโอเบื่อผมแล้ว

ถ้าเบื่อก็โทรเรียกพ่อมารับกลับต่างประเทศไปเลยสิครับหลานรัก

“พูดแบบนี้อาเอิ้นก็เสียใจสิครับ” เสือว่าพลางช้อนสายตามองผม ขอบคุณนะที่ยังรับรู้ถึงการมีตัวตนของแฟน

“ไม่ใช่นะ เลโอไม่ได้เบื่อลุงเอิ้นแต่เลโอเบื่อไดโนเสาร์ต่างหาก เบื่อลุงเอิ้นได้ไงล่ะ ไม่เบื่อหรอก” ที่จริงเด็กมันก็น่ารักแหละ ยิ่งในยามที่ขยับเข้ามากอดขาแล้วแนบแก้มลงมา พลางช้อนสายตามองอย่างอ้อนๆ นี่แม่งเอ้ย ตายไปเถอะไอ้เอิ้น ทั้งอาทั้งหลานเลย จะทำให้ผมรักจนถอนตัวไม่ขึ้นกันเลยใช่มั้ย

“งั้นก็กลับไปรออาเสือที่บ้านนะครับ”

“หอมแจ้มก่อน” ได้ยินอย่างนั้นผมก็ฉวยโอกาสอุ้มเลโอขึ้นมา ให้เสือลุกตาม

เสือมองผมตาขวาง คนมันเป็นแฟนกันมานานไม่ว่าจะทำอะไรก็รู้กันไปจนถึงไส้ถึงพุงแล้ว

เสือมองแก้มป่องๆ ของหลานชายก่อนจะโน้มใบหน้าเข้ามาหอมเบาๆ และผมก็ฉวยโอกาสจุ๊บแก้มเขาเบาๆ ด้วยเช่นกัน

รู้ว่าประเจิดประเจ้อแต่พออยู่ใกล้เสือทีไรผมก็อยากกอดอยากหอมเขาทุกที ก็เสือน่ะน่ารักขนาดนี้นี่นา

 
 
 
 
 
“บีมทำไมวันนี้ฝั่งตรงข้ามรถเยอะจัง”

“เจ้าของตึกเข้ามาตรวจงานน่ะครับ”

“ตรวจงานอะไร” ด้วยความที่ผมไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน และวันๆ เอาแต่ง่วนอยู่กับงานของตัวเองจึงไม่ได้ใส่ใจสิ่งรอบตัวมากนัก รู้เรื่องอีกทีก็ตอนที่ตึกเก่าๆ ฝั่งตรงข้ามรีโนเวทเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“เห็นว่าจะเปิดร้านอาหารนะครับ”

“แบบเราเนี่ยเหรอ”

“ใช่ครับ”

ผมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรซักเท่าไหร่ เพราะย่านนี้มีร้านอาหารเยอะอยู่แล้ว อ่อนแอก็แพ้ไป ขายไหวก็อยู่ต่อ ผมอยู่ในร้านจำพวกที่อยู่ไหวก็ขายต่อกันไป ถึงแม้จะได้กำไรไม่มากเท่าเมื่อก่อนก็ตาม

“ได้ยินว่าเจ้าของร้านคือคุณโทมัสนะครับ”

“โทมัสเหรอ ชื่อคุ้นๆ”

“เชฟที่กำลังดังมากๆ ไงครับ” บีมพูดแค่นั้นผมก็รู้เลยว่าเขาคือใคร จากที่ไม่หวั่นก็เริ่มรู้สึกขึ้นมานิดนึงแล้วล่ะสิ

“ไอ้หมอนั่นใครวะไม่คุ้นหน้าเลย” ประตูร้านถูกเปิดออก แชมป์ในชุดวินอันคุ้นตาก้าวเข้ามาพร้อมเอ่ยถามโดยไม่สนใจซักนิดว่าลูกค้ากำลังนั่งรัประทานอาหารกันอยู่เต็มร้าน

“เชฟโทมัสไงพี่” และเป็นบีมที่ตอบ

“ใครวะ ชื่อฝรั่งแต่หน้าแม่งไม่ได้ว่ะ แล้วอาหารได้ยังวะ” แชมป์ยังคงช่วยส่งอาหารให้ผมเหมือนเดิม คนที่วินก็ยังคงมารับจ๊อบกันเป็นระยะ

ทุกอย่างไม่เปลี่ยนแปลงเลยตลอด 5-6 ปีที่ผ่านมา

แต่ความรู้สึกของผมกำลังบอกว่าทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป

คล้อยหลังแชมป์ เสียงอื้ออึงก็ดังขึ้นในร้านให้ผมที่ทำอาหารเสร็จพอดีต้องชะโงกหน้าออกไปดู และก็ต้องสะดุดตากับต้นเหตุของเสียงอื้ออึงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะใจกลางร้านราวกับจงใจให้ตนเป็นจุดเด่น

โทมัส เชฟคนดังคนนั้นอย่างไรล่ะ

“โต๊ะคุณโทมัสครับเชฟ” รายการอาหารถูกส่งมา ไล่สายตาดูคร่าวๆ ก็พบว่าเขาสั่งแต่อาหารแนะนำทั้งนั้นเลย เมื่อกี้ถ้านับไม่ผิด คนพวกนั้นมากันแค่ 3 คนเอง แต่สั่งอาหารอย่างกับมากันนับสิบ

อย่าหาว่าผมมองโลกในแง่ร้าย แต่เชื่อไม่เชื่อโปรดใช้วิจารณญาณ โทมัสคนนั้นน่ะต้องมาเพื่อเจาะข้อมูลคู่แข่งอย่างผมแน่ๆ และอย่าหาว่าโม้เลย ร้านอาหารทั้งย่านนี้ อันดับหนึ่งก็คือ SHIT HERE นี่แหละ

“เจ้านาย พี่ไม่คิดว่ามันแปลกๆ เหรอ”

อาหารจานสุดท้ายถูกยกไปเสิร์ฟแล้ว บีมที่คงไม่ว่างแต่ทำตัวเหมือนว่างเข้ามากระซิบถาม เห็นมั้ย ไม่ได้มีแค่ผมที่คิดว่ามันแปลก

“แปลกยังไง”

“ก็คุณโทมัสมาเปิดร้านตรงข้ามร้านเรา แบบนี้มันคู่แข่งชัดๆ นะพี่ มีอย่างที่ไหนคู่แข่งมาอุดหนุนกัน”

“คิดดีๆ นะบีม” บีมครุ่นคิด “จริงด้วย เจ้านายแบบนี้เราก็แย่สิ ทางโน้นรู้รสชาติอาหารเรา มันต้องเลียนแบบเพื่อแย่งลูกค้าเราแน่ๆ”

“กลัวเหรอ”

“บีมเป็นห่วงเจ้านาย”

“ขอบใจ” ผมรู้สึกซึ้งใจกับความห่วงใยนั้นจากใจจริง แต่ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก ถึงแม้โทมัสจะมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของชาวโซเชียล แต่ผมเองก็เป็นที่รู้จักและคุ้นเคยของคนย่านนี้เหมือนกัน

ถ้าพวกเขาจะเลิกอุดหนุนผมแล้วไปลองของใหม่ก็ไม่ว่ากันหรอก สิทธิ์เป็นของผู้บริโภคอยู่แล้ว สิ่งเดียวที่ทำได้คือพัฒนาตัวเองและรักษามาตรฐานเอาไว้

“เจ้านาย” บีมเรียกผมแผ่วเบาคล้ายกระซิบ

“ว่า...” และผมก็ขานรับพร้อมกับยื่นมือไปขอเครื่องปรุง บีมก็ส่งมาอย่างถูกต้อง

“เจ้านายรู้ใช่มั้ยว่าคุณโทมัสดังมาก เคยออกรายการเตยเที่ยวไทยช่วงพ่อค้าแซ่บด้วย”

“รู้ว่าดัง  แต่ไม่รู้ว่ามาก และไม่เคยดูรายการที่ว่าด้วย ดังมากเหรอ”

“มากเวอร์ สาวๆ ที่มหา’ลัยพูดถึงกันตลอด แปลกจังเลยนะ ทำไมอยู่ๆ ถึงเลือกมาทำร้านอาหารแถวนี้”

“แปลกตรงไหน ตลอดหลายปีที่ผ่านมาแกก็เห็นว่ามีร้านรวงเกิดขึ้นในย่านนี้มากมาย” เหตุเพราะมีสำนักงาน บริษัทห้างร้านต่างๆ ผุดขึ้น ผู้คนก็มากตาม แน่นอนว่าพวกสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ย่อมตามมา

“พี่เสือรู้เรื่องรึยัง”

“กว้างขวางแถมยังเป็นคนพื้นที่ ไม่มีทางไม่รู้หรอก”

“นั่นสิครับ พี่เสือน่ะทั้งหล่อ ทั้งอัธยาศัยดี พูดคุยกับคนอื่นไปทั่ว ไม่มีทางที่จะไม่รู้เรื่องนี้หรอก” ชมกันออกนอกหน้าไม่เกรงใจคนรักเขาเลยนะไอ้บีม

“คิดจะอู้อีกนานมั้ย ออกไปทำงานได้แล้ว”

บีมหัวเราะแหะๆ ก่อนจะออกจากครัวไป ทิ้งให้ผมกับผู้ช่วยพ่อครัวทำงานกันตามลำพัง

ไม่รู้เลยว่าตั้งแต่นี้ไป ร้านเราจะเป็นอย่างไร แต่การมีคู่แข่งไม่ใช่เรื่องน่ากลัวซักหน่อย ดีซะอีก เราจะได้กระตือรือร้นรักษามาตรฐานและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา

 
 
 
 
 
อาหารที่โต๊ะคุณโทมัสสั่งถูกนำไปเสิร์ฟเมื่อ 30 นาทีก่อน

ขณะตักอาหารใส่จานเพื่อนำไปเสิร์ฟให้ลูกค้า บีมก็โผล่หน้าเข้ามาในครัวอีก

“คุณโทมัสอยากเจอเจ้านายครับ”

“อยากเจอฉันทำไม”

“ไม่ทราบครับ” เข้าใจบีมอยู่หรอกว่ามันก็คงทำตามหน้าที่ เขาบอกให้มาเรียกก็คงมา

ผมถอดผ้ากันเปื้อนกับหมวกออก จัดผมนิดหน่อยก่อนเดินนำบีมออกไปหาคุณโทมัสคนดัง เมื่อผมหยุดที่ข้างโต๊ะเขาก็ลุกขึ้นทักทายอย่างมีมารยาท

เห็นเช่นนั้นแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าหากต่างคนต่างทำธุรกิจของตนก็คงไม่มีปัญหาอะไร

“คุณอัคคี ผมโทมัส ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เขายื่นมือมา ผมเองก็เลี่ยงไม่ได้จึงส่งมือไปสัมผัสกัน

“ได้ข่าวว่าคุณโทมัสจะเปิดร้านเร็วๆ นี้”

“ใช่ครับ ร้านเล็กๆ ไม่ใหญ่โตเท่าร้านคุณอัคคีหรอก”

“พอทุกอย่างเข้าที่ค่อยขยายร้านก็ไม่สายหรอกครับ ผมเองก็เริ่มจากร้านเล็กๆ เหมือนกัน”

“นั่งก่อนมั้ยครับ” เขาผายมือเชิญให้จำต้องนั่งลงตรงหัวโต๊ะอย่างไม่มีทางเลี่ยง “คุณอัคคีเปิดร้านมานานแล้วเหรอครับ ลูกค้าเยอะเชียว”

ก็ไม่เยอะเท่าไหร่ ก็แค่ไม่มีโต๊ะว่างเลยก็แค่นั้น

“5 ปีได้แล้วมั้งครับ”

“5  ปีโดยปราศจากคู่แข่งเหรอครับ”

“ครับ?” ที่จริงแล้วผมได้ยินเต็ม 2 หู แต่ถ้าตอบโต้ไปคิดว่าสถานการณ์ในร้านอาจจะครุกรุ่นได้ เพราะงั้นทำเป็นหูทวนลมไปก่อนน่าจะดี

“อาหารทั้งโต๊ะนี้คุณอัคคีทำเองหมดเลยเหรอครับ”

“ไม่หรอกครับ มีพ่อครัวผู้ช่วยอยู่”

“คุณอัคคีเป็นเชฟหลัก?”

“ใช่ครับ”

“ถ้าขาดคุณอัคคีไปซักครั้ง ร้านก็แย่สิครับ”

“ไม่หรอกครับ ผู้ช่วยพ่อครัวเก่งกว่าผมอีก แต่เพราะผมเป็นเจ้าของร้านก็เลยอยากลงมือทำอาหารเอง คุณโทมัสเองก็เป็นเชฟเหมือนกัน ก็น่าจะเข้าใจนะครับ”

“นั่นสิครับ ไม่ว่าอย่างไรเราก็ยังอยากทำอาหารด้วยตัวเองอยู่ดี” คุณโทมัสกล่าวด้วยน้ำเสียงสุขุมน่าฟัง หากในความน่าฟังนั้นกลับแฝงด้วยเล่ห์กล ช่างเป็นคนที่ไม่ควรอยู่ใกล้เอาซะเลย

“ผมต้องกลับไปทำงานแล้ว ถ้าขาดเหลืออะไรแจ้งได้เลยนะครับ” ผมยิ้มให้เขาอีกครั้งเพื่อบอกลาก่อนลุกขึ้นยืน ทว่าในตอนที่กำลังก้าวออกมา ข้อศอกก็ถูกสัมผัสแทนการเรียกให้หยุด จนต้องหันไปมองหน้าคุณโทมัสอีกครั้ง

“คุณอัคคีทำอาหารอร่อยถูกปากผมมากเลยครับ สัปดาห์หน้าถ้าไม่ติดอะไร ผมอยากให้คุณอัคคีไปเป็นเกียรติในงานเปิดร้านใหม่ของผมด้วยนะครับ”

เป็นเกลียดหรือเปล่า

แม้ไม่อยากรับแต่ก็ปฏิเสธการ์ดเชิญที่ถูกยื่นมาตรงหน้าไม่ได้เลย

คุณโทมัสทิ้งรอยยิ้มเอาไว้ก่อนสั่งให้คนของตนเคลียร์เงินค่าอาหาร ส่วนเจ้าตัวเดินออกจากร้านไปก่อน

ผมมองการ์ดเชิญในมือ ไล่สายตาดูวันเวลา สัปดาห์หน้างั้นเหรอ ส่งเสือไปดีมั้ยนะ ท่าทางคงจะสนุกพิลึก



 
 
 
 
 
“กล้าดียังไงมาเปิดร้านอาหารตรงข้ามร้านเรา” เสือโยนกระเป๋าลงบนโซฟาพลางโวยวายเสียงดังให้ผมต้องยกมือขึ้นปิดหูเลโอเอาไว้

“ใจเย็นน่า มันก็สิทธิ์ของเขามั้ย”

“ก็รู้ว่าเขามีสิทธิ์แต่ทำแบบนี้มันจงใจจะแข่งกับเราชัดๆ”

“ถ้าเขาอยากแข่งแล้วไงอะ เสือกลัวเอิ้นแพ้เหรอ”

“เปล่า แค่คิดว่าถ้ามีคู่แข่งเราก็จะเหนื่อยขึ้นไง”

“ดีซะอีก”

“มองโลกในแง่ดีเกินไปหน่อยมั้ง” เสือยื่นหน้าเข้ามาพูดใกล้ๆ ด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ถ้าไม่ติดว่าเลโอนั่งอยู่บนตักล่ะก็ จะดึงเข้ามาจูบให้ปากเจ่อเลย

“ที่ญี่ปุ่นน่ะ มีห้างๆ นึงที่มีร้านอาหารแบบเดียวกันตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กันหลายร้านเลย และในทุกๆ เดือนเค้าก็มีการประเมิณ ถ้าใครแพ้ก็ต้องเก็บของออกไป เพราะเป็นแบบนั้น ทุกร้านจึงต้องรักษามาตรฐานของตัวเอง แล้วก็พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ”

“ก็นั่นมันญี่ปุ่น” ดูเหมือนเสือจะยังไม่ค่อยเข้าใจผมเท่าไหร่แฮะ

“การทำแบบนั้นมันส่งผมดีทั้งต่อลูกค้าที่ได้กินอาหารที่มีคุณภาพและรสชาติดี ตัวร้านเองก็อย่างที่บอกเสือไปไง”

“แล้วเกี่ยวอะไรกับเคสนี้ล่ะ”

“เอิ้นตื่นเต้นมากเลยนะ”

“ตื่นเต้นเรื่องอะไร แล้วทำไมอยู่ๆ เปลี่ยนเรื่อง”

“ไม่ได้เปลี่ยน เอิ้นแค่จะบอกว่า เอิ้นไม่กลัวการที่มีร้านอาหารมาเปิดแข่ง แต่เอิ้นตื่นเต้นที่ร้านเราจะมีการเปรียบเทียบ ถ้าลองมองอีกมุมนึง การที่มีร้านอาหารอยู่ฝั่งตรงข้าม และหากลูกค้ายังอยู่กับเรา นั่นก็หมายความว่ารสขาติอาหารของเราเยี่ยมที่สุดยังไงล่ะ”

“มองโลกในแง่ดีมาก” เสือลากเสียงยาว ชักสีหน้าล้อเลียนผมก่อนจะถอดเสื้อเชิ้ตออกต่อหน้าต่อตาแล้วค่อยเดินไปยังห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย

นี่ก็ช่างยั่วเหลือเกิน ถ้าวันไหนเอิ้นทนไม่ได้ล่ะก็ จะมาร้องบอกให้หยุดก็แล้วกัน

 
 
[T B C]
 
คิดถึงคุณเสือกับคุณเอิ้นอีกแล้วค่ะ :)


ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
Re: TIGER HEART ► หัวใจเสือ◄[-จบแล้ว-]
«ตอบ #199 เมื่อ09-07-2018 18:05:08 »

 o18 มารอเอิ้น เสือค่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: TIGER HEART ► หัวใจเสือ◄[-จบแล้ว-]
« ตอบ #199 เมื่อ: 09-07-2018 18:05:08 »





ออฟไลน์ Nattarat

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: TIGER HEART ► หัวใจเสือ◄[-จบแล้ว-]
«ตอบ #200 เมื่อ11-07-2018 09:01:40 »

เอิ้นไปแข่งรายการ  MasterChef Thailand เลยค่ะ จะได้ดังบ้าง เสือกับเอิ้นสู้ นะค่ะ คนแต่งด้วยค่ะ สู้ๆ ค่ะ

ออฟไลน์ yin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: TIGER HEART ► หัวใจเสือ◄[-จบแล้ว-]
«ตอบ #201 เมื่อ13-07-2018 02:38:06 »

โห้ย เอิ้นเอ๊ย หล่อตลอดจริงๆเลยลูกชาย น้องเสือก็น่ารักนะเนี่ย รอดูคู่แข่งเอิ้นต่อนะคะ

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1
Re: TIGER HEART ► หัวใจเสือ◄[-จบแล้ว-]
«ตอบ #202 เมื่อ29-09-2018 21:10:47 »

 :pig4:

ออฟไลน์ แจซอล

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
SPECIAL || เสือตาครอส





ใครจะไปนึกว่าอายุปาเข้าไปสามสิบกว่าแล้วต้องมาทำอะไรแบบนี้







บ่ายวันที่ 22 ธันวาคม

ผมวางกล่องพัสดุลงบนตักหลังจากเข้ามานั่งในรถยนต์ของตัวเองที่จอดอยู่ในลานซึ่งเป็นที่ประจำ

กล่องค่อยๆ ถูกแง้มออก วัตถุสีแดงข้างในทำให้ผมใจสั่นระรัว

บางทีผมก็คิดว่าตัวเองอาจจะบ้าไปแล้วแน่ๆ

ตอนกดสั่งสินค้าชิ้นนี้ผมกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่วะ

อยากเอาใจเอิ้นอย่างนั้นเหรอ เอาใจเสร็จถูกมันจับแดกชัวร์

แต่ถึงแม้จะรู้สึกเขินอายมากแค่ไหนแต่ผมก็เปิดกล่องออก แล้วหยิบชุดซานตาคลอสขึ้นมาคลี่ดู กวาดสายตาเช็คสภาพของเรียบร้อยแล้วค่อยเก็บเข้ากล่องแล้วโยนไว้หลังรถ

พอมาลองคิดๆ ดูแล้วผมต้องไม่กล้าใส่แน่ๆ เลยว่ะ









เย็นวันที่ 24

กล่องพัสดุยังคงถูกทิ้งไว้หลังรถเหมือนวันแรก ผมแทบจะไม่ชายตาแลมันด้วยซ้ำ

ในร้านซิทเฮียยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คน และดูเหมือนว่าวันนี้ลูกค้าจะเยอะกว่าปกติด้วยซ้ำ

หน้าร้านที่ถูกตกแต่งในธีมคริสมาสต์เป็นที่นิยมเอามากๆ

หลายๆ คนกำลังถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน

ถึงแม้ว่าความสุขจะไม่มีกลิ่นแต่ผมกลับรู้สึกว่ามันช่างหอมหวาน

ผมละสายตาจากความสุขตรงหน้า เดินเลี้ยวเข้าไปด้านข้างร้านเพื่อเข้าไปทักทายคุณเชฟ

เอิ้นกำลังทำอาหารมือเป็นระวิง ผมยืนมองภาพที่คุ้นตาอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตะโกนทักทายเขา

"กลับมาแล้วครับ" คนถูกทักหันมามองกันแล้วยิ้มกว้างอย่างเคย

"ทำไมวันนี้กลับเร็ว"

"งานเสร็จ"

"เหนื่อยมั้ย"

"นิดหน่อย มีอะไรให้ช่วยรึเปล่า"

"เอ่อ..." อึกอักแบบนี้ บอกเลยว่ามีแน่ๆ

"ขอนอนซักงีบก่อนแล้วกัน"

"ขอโทษที่ต้องรบกวนเสือนะ"

"ทำอย่างกับไม่เคย" ผมแยกเขี้ยวใส่คนขี้เกรงใจไม่รู้เวล่ำเวลาไปทีก่อนจะเดินขึ้นบ้านมาพร้อมกับปลดเนคไทออก

เมื่อเห็นเตียงอยู่ตรงหน้าผมก็ทิ้งตัวลงทั้งที่ยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า อาจจะเพราะงานยุ่งเอามากๆ เมื่อหัวถึงหมอนผมก็หลับไปเลย

รู้ตัวตื่นอีกทีก็ตอนที่รู้สึกว่ามีบางคนกำลังยุ่มย่ามอยู่กับเท้าของผม

ลืมตามองก็พบว่าเป็นเอิ้น

ก็แน่ล่ะ ถ้าไม่ใช่เอิ้นก็คงผีมั้ง ข้างบนนี้ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้า

"เอิ้นกวนเสือรึเปล่า"

"เปล่า ทำอะไรน่ะ"

"โทรขึ้นมาไม่มีคนรับก็เลยขึ้นมาดู" ถุงเท้าถูกถอดออกด้วยความใส่ใจ

"ลืมไว้ในรถมั้ง"

"เอ้า ขี้ลืมจัง เดี๋ยวเอิ้นลงไปเอาให้นะ"

ผมพยักหน้ารับ

"ถ้าตื่นแล้วก็อาบน้ำซะ ไม่ต้องลงไปช่วยแล้ว"

"ทำไมล่ะ ลูกค้าเยอะไม่ใช่เหรอ"

"ก็เยอะ แต่เสือดูเพลีย อาบน้ำแล้วก็พักผ่อนซะ"

"ช่วยได้ นี่เสือไง"

"เสือก็คนครับ ถ้ามีแรงเหลือเฟือขนาดนั้นก็เก็บไว้ใช้กับเอิ้นคืนนี้ก็แล้วกัน"

ไอ้...เหี้ยเอ้ย เขินเฉยเลย

เอิ้นทิ้งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เอาไว้ก่อนจะเดินควงกุญแจรถออกจากห้องไป

ขณะมองตามแผ่นหลังกว้าง ผมรู้สึกตะหงิดๆ อย่างไรก็ไม่รู้ คล้ายกับว่ามีบางอย่างค้างอยู่ในใจแต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก

ช่างแม่ง!!!

ผมทิ้งความสงสัยไปก่อนจะจัดการกับตัวเอง

พักผ่อนเหรอ ไม่เอาด้วยหรอก ถ้าขืนพักตอนนี้ คืนนี้มีหวังไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันพอดี

ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่นานนัก เมื่อเปิดประตูออกมาในสภาพผ้าขนหนูพันกายก็พบว่าเอิ้นนั่งรออยู่

"ไม่ไปทำงานรึเปล่า"

"เอามือถือมาให้เสือ" เอิ้นตอบพลางเหลือบมองไปยังมือถือที่วางอยู่บนเตียงก่อนจะหันมามองกันอีกครั้ง

ให้ตายเถอะว่ะ ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองมั้ย แต่สายตาที่ไอ้เอิ้นใช้มองผมนี่มีมันเหมือนกับเสือจ้องจะงาบเหยื่อไม่มีผิด

"เดี๋ยวลงไปช่วยนะ"

"บอกให้พักไง" เอิ้นย้ำด้วยน้ำเสียงกึ่งบังคับก่อนก้าวเข้ามาจนประชิดตัว

"ก็อยากช่วย"

สิ้นประโยคคางของผมก็ถูกจับก่อนเอิ้นจะโน้มใบหน้าเข้ามาหาจนลมหายใจอุ่นๆ รินรดเหนือริมฝีปาก

ผมหลับตาลงอย่างคาดหวัง

แต่ผิดคาดแฮะ แทนที่จะจูบแต่กลับทำเพียงแค่กระซิบ

"ดื้อไม่เปลี่ยนเลยว่ะ"

"เอ้า" ผมลืมตาขึ้น อ้าปากตั้งท่าจะเถียง แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยคำใด ริมฝีปากบนก็ถูกงับและขบเบาๆ ชวนให้เจ็บจี๊ด

ผมเกือบจะร้องออกมาแล้วถ้าหากว่าเอิ้นไม่จูบผมเสียก่อน

ถึงแม้ว่าจะเป็นจูบที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัวแต่ก็ยอมแพ้ไม่ได้

จูบมาจูบกลับไม่โกงแน่นอน

เรียวลิ้นของเรากวัดเกี่ยวอย่างกับคนที่กำลังตกอยู่ในความกระหาย

เสียงหอบดังสะท้อนอยู่ในห้องแต่ก็ไม่มีใครสนใจ

เอิ้นใช้นิ้วลากไล้ไปตามชายโครงของผมขณะผละริมฝีปากออกอย่างแสนเสียดาย

เรามองกันด้วยสายตาปรือปรอย

ผมได้ยินเสียงถอนหายใจก่อนมืออุ่นๆ นั้นจะผละออกไป

"ไม่ไหวว่ะเสือ"

"อะไร"

"ยั่วเกินไปเอิ้นห้ามใจไม่ไหว" เอิ้นว่าพลางใช้นิ้วเกลี่ยแก้มผม

อะไรวะ โทษผมคนเดียวได้ที่ไหน มันนั่นแหละที่อยู่ๆ ก็เข้ามารุกกัน

"เสือผิดเหรอ"

"เต็มๆ"

"เหี้ยละ กูก็อยู่ของกูดีๆ อ่ะเอิ้น มึงแหละ"

"เสือแหละ รอให้ถึงคริสมาสก่อนเดี๋ยวเอิ้นแขวนถุงเท้ารอเลย"

เดี๋ยวนะ อะไรวะ

ผมงงไปหมด กระทั่งประตูห้องปิดลงผมก็ยังคิดไม่ออกเลยว่าทำไมอยู่ๆ เอิ้นถึงพูดเรื่องวันคริสมาสขึ้นมา











วันที่ 25

วันคริสมาสเป็นวันหยุดของร้านซิทเฮีย

ขณะที่ผมนั่งทำงานงกๆ ป่านนี้คุณเชฟคงนอนหลับพักผ่อนสบายใจเฉิบ

อิจฉาว่ะ

ที่จริงผมน่ะชอบบรรยากาศของเดือนธันวาคมนะ แต่ไม่ค่อยชอบงานเลย มันเดือดเกินไป บางทีก็ทำไม่ทัน

อย่างเช่นวันนี้ พระอาทิตย์ตกดินแล้ว หลายๆ คนคงเดินเล่นดูไฟกันชิลแต่ผมยังนั่งดูงานตัวเองอย่างเดือด

เอิ้นโทรมาหาตอนสองทุ่มบอกว่าจะมารับไปกินข้าว แต่ผมก็ต้องปฏิเสธเพราะ...งานเดือดเกิน

กว่าจะเคลียร์จบก็ปาเข้าไปเกือบ 5 ทุ่มแล้ว

ผมเดินขึ้นบ้านอย่างระมัดระวังเมื่อพบว่านอกจากไฟต้นคริสมาสกับหน้าร้านแล้ว ทั้งบ้านไม่เปิดไฟเลย

เอิ้นคงหลับไปแล้วแน่ๆ

ผมก้าวขึ้นบันไดพลางคลายเนคไท กว่าจะถึงห้องนอนกระดุมก็ถูกปลดไปหลายเม็ดแล้ว

ในห้องนอนเงียบสงัด เอิ้นหลับสนิทอยู่บนเตียง แต่โคมไฟยังถูกเปิดไว้เพื่อให้แสงสว่าง

ผมเดินอย่างระมัดระวังเพราะกลัวว่าคนที่กำลังพักผ่อนจะตื่นขึ้นมาแต่ก็ไร้ประโยชน์เมื่อเราเผลอสบตากันในความสลัวเข้าจนได้

"กลับมาแล้วเหรอ"

"อือ เอิ้นนอนเถอะ"

"นอนมาทั้งวันแล้ว" เอิ้นลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจ "ซานตา ผมแขวนถุงเท้านะ คุณเห็นมั้ย"

"หืม" เมื่อมองตามดวงตาคมไปก็พบว่าถุงเท้าถูกแขวนไว้จริงๆ

เดี๋ยวนะ ซานต้าเหรอ ผมลืมอะไรไปรึเปล่าวะ

ชุดคอสเพลย์ซานตาไง ผมลืมมันไปแล้วด้วยซ้ำ

"ระ รู้ รู้ได้ไง" ผมชี้หน้าคนรักพลางละล่ำละลักถาม

"ซื้อมาแล้วก็ใส่ให้ดูหน่อย"

มือของผมถูกคว้าจับก่อนเอิ้นจะดึงผมให้นั่งลงบนตักเขาบนเตียง

"ไม่เอาหรอก น่าอายจะตาย"

"ตอนไม่ใส่อะไรเลยก็เห็นมาแล้วยังต้องอายอะไรอีก"

ตัวเองไม่ได้ใส่ก็พูดได้สิ แต่ผมจะไม่พูดคำนี้ออกไปหรอก เพราะถ้าขืนเอิ้นมันบ้าแต่งชุดซานตาขึ้นมาจริงๆ คนรับของขวัญอย่างผมคงได้รับแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบแน่ๆ

"ทิ้งไปแล้ว" ผมโกหก

"ทิ้งเมื่อไหร่"

"เมื่อเช้า"

"หรอ เอิ้นเก็บมาไว้บนห้องตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะ"

เหี้ยมาก ผมเนี่ยเหี้ยเลย ไม่น่าใช้อารมณ์ชั่ววูบสั่งซื้อมา

"น่านะ เสือใส่ให้เอิ้นดูหน่อย" พอผมปฏิเสธหนักๆ เอิ้นก็เริ่มอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวานพลางวางมือลงบนกลางกายที่หลับไหลของผม

เอิ้นรู้จุดอ่อนทั้งหมดในร่างกายนี้ รู้ด้วยว่าทำอย่างไรผมถึงจะยอม

บีบๆ คลึงๆ ไม่นานไอ้เสือร้ายก็ตื่นจากหลับไหล

ให้ตายเถอะว่ะ พอตื่นแล้วถ้าไม่ทำให้หลับผมเนี่ยจะไม่ได้หลับ

ผมแหงนหน้าขึ้นหวังจะอ้อนวอนเมื่ออยู่ๆ เอิ้นก็หยุดมือแต่เมื่อพบกับรอยยิ้มร้ายกาจผมจึงหยุด

“ยอมใส่ชุดซานตาก่อนแล้วเดี๋ยวเอิ้นทำให้”

“ทำเองก็ได้วะ” ผมเถียงแล้วลุกออกมา

“ทำได้ครับแต่ไม่ดีทำเอิ้นทำหรอก”

ไอ้ฉิบหายเอ้ย เถียงไม่ได้ซะด้วยเพราะนั่นน่ะมันความจริงทั้งหมดเลย









เพราะเป็นเช่นนั้นผมจึงจำต้องแต่งเป็นซานตาคลอสอย่างที่เอิ้นต้องการ

มองภาพตัวเองที่สะท้อนในกระจกแล้วโคตรอยากจะร้องไห้ ถ้ารู้อย่างนี้แต่งเองโดยไม่ต้องให้มันบังคับซะก็ดี

ที่จริง ชุดซานตาคลอสที่ผมสั่งมามันธรรมดามาก มีเสื้อ กางเกง เคราและหมวก แต่ตอนนี้ของหายไปสองชิ้นนั่นคือก็กางเกงกับเครา

เข้าใจแหละว่าไอ้เอิ้นคงไม่อยากให้ใบหน้าหล่อๆ ของผมถูกเคราบดบังแต่กางเกงเนี่ยเอาไปทำไมวะ

เสื้อซานตาก็แค่คลุมก้นอ่ะ โคตรหวิว

“เสือ นานจัง”

“รู้แล้วน่า” ผมตะโกนออกไปอย่างหัวเสีย

“ออกมาซักทีเถอะน่าเอิ้นอยากเห็นแล้ว”

“ของดีก็ต้องรอหน่อยสิวะ”

“คุณซานตาพูดไม่เพราะเลยครับ”

“ไอ้เหี้ย” ผมด่ามันไปทีก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเพื่อเรียกกำลังใจ

เอาวะ ตอนไม่ใส่อะไรเลยก็เคยเห็นมาแล้วนี่ ตอนนี้มีทั้งเสื้อทั้งหมวกจะกลัวอะไร

ผมค่อยๆ เอื้อมมือไปบิดลูกบิด ไม่เคยรู้เลยว่ะว่าการเปิดประตูมันยากเย็นได้ขนาดนี้เชียว แต่ถึงจะประวิงเวลาไปก็เท่านั้นเมื่อไม่ช่วยอะไรหรอก อย่างไรเอิ้นก็ต้องเห็นผมในสภาพนี้อยู่ดี

วี๊ดวิ๊ว

ตอนเด็กพ่อมึงให้แดกนกหวีดแทนข้าวเหรอ

ผมด่าไอ้คนที่นั่งกอดอกมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาโลม

พอช่วงขาไม่มีอะไรปกปิดเลยมันก็จะหวิวๆ หน่อย และยิ่งถูกมองขนในกายก็ยิ่งร่วมใจกันลุกเกรียว

“มานี่สิคุณซานตา” เอิ้นกระดิกนิ้วเรียก ผมอิดออดอยู่ชั่ววินาทีแต่ก็ยอมเดินเข้าไปหา

ตอนนี้การก้าวขาก็ยากพอๆ กับการเปิดประตูเมื่อกี้นี่แหละ

“มานั่งนี่สิ” คราวนี้เอิ้นตบที่ตักมันเบาๆ อย่างเชิญชวน

ไม่หรอก มันไม่ได้เชิญแต่ผมกำลังถูกบังคับต่างหาก

กระนั้นก็ขัดไม่ได้อยู่ดีใช่มั้ยล่ะ ในเมื่อไอ้เสือมันอยากจะร้องไห้เต็มทีแล้ว

ผมนั่งคร่อมลงบนตักแกร่ง หันหน้าเข้าหาคนเจ้าเล่ห์คล้องลำคอมันไว้แล้วกัดปากยั่วยวน

เอาเถอะ ไหนๆ ก็มาถึงขนาดนี้ ยั่วมันให้มันไปไหนไม่รอดเลยก็ดี

แขนแกร่งโอบกอดเอวของผมเอาไว้ จัดท่านั่งให้สบายแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้สบายหรอก ก็ตรงก้นของผมมีบางอย่างทิ่มอยู่นี่หว่า

คงอยากจะร้องไห้เหมือนกันมั้ง

“ขอของขวัญเลยได้มั้ยครับคุณซานตา”

ผมพยักหน้าแทนคำตอบพร้อมกับกอบกุมใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้ เอิ้นไม่ขอออกมาเป็นคำพูดแต่มันหลับตาพริ้มแค่นั้นก็รู้ได้ทันทีว่าต้องการอะไร

ในฐานะซานตาที่ไม่มีกางเกงใส่ผมจะปรนนิบัติให้ถึงใจก็แล้วกัน

ผมบรรจงจุมพิตลงบนใบหน้าหล่อเหลา ทั้งหน้าผาก ระเรื่อยมาที่แก้มนิ่ม งับเบาๆ ที่ปลายจมูก อ้อยอิ่งเป่าลมหายใจอุ่นๆ ยั่วยวนอีกฝ่ายเหนือริมฝีปากแต่ยังก่อน ยังไม่จูบตอนนี้

ปลายคางของเอิ้นถูกผมงับเบาๆ แล้วเลียด้วยลิ้นชื้น

ดูเหมือนว่าคนที่กำลังลูบขาอ่อนของผมอยู่จะทนไม่ไหวแล้วมั้ง อยู่ๆ ก็เลื่อนมือขึ้นมารั้งท้ายทอยแล้วบังคับให้ก้มลงมาจุมพิต

ก็ไม่แย่หรอกการถูกรุกรานอย่างร้อนแรงน่ะ ก็แค่ปากแตกนิดหน่อยเอง

เสื้อซานต้าที่ผมใส่อยู่ถูกแหวกออก

หน้าที่รุกเร้าไม่ใช่ของผมอีกต่อไป

ลมหายใจอันร้อนรุ่มของเอิ้นดังอยู่แถวๆ แผ่นอกชวนให้สยิว ยิ่งยามที่ปลายลิ้นชื้นลิ้มลองผิวเนื้อเปลือยเปล่าตรงนั้นอย่างกระหายไอ้เสือก็ยิ่งน้ำตาเล็ด

ซักทีเถอะว่ะ

“เอิ้น” ผมกระซิบเรียกอีกฝ่ายข้างหูก่อนจะหยอกเย้าภายในด้วยลิ้นชื้นๆ

ได้ยินเสียงอีกฝ่ายครางอืออาหัวใจของผมก็เต้นระส่ำ

“ซักทีเถอะว่ะ”

“ซานตาอยู่บนซานตาก็ทำสิ” เอิ้นเงยหน้าขึ้นมาบอกขณะที่ลิ้นยังไม่หยุดทำงาน

เอางั้นเรอะ

เอางั้นก็ได้มั้ง

ผมหยุดใช้สมองแล้วทำตามอารมณ์ที่กำลังพาไป

เอิ้นยกสะโพกขึ้นในตอนที่ผมพยายามดึงกางเกงนอนของเขาลงมา ไอ้เอิ้นที่ผมคุ้นเคยขยายจนคับแน่น เช่นเดียวกับไอ้เสือนั่นแหละ

ประสบการณ์สอนให้ผมเก่งเรื่องแบบนี้ขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากแล้ว

เอิ้นขบไหล่ผมแรงๆ ในยามที่ซานตาคลอสมอบของขวัญที่เขาต้องการให้จนหมดสิ้น

เพลงสำหรับคืนวันคริสมาสเริ่มบรรเลงด้วยทำนองอันเชื่องช้าเนิบนาบก่อนจะค่อยๆ เพิ่มจังหวะเสียจนกลายเป็นฮาร์ดคอร์

เสื้อของซานตาคลอสถูกดึงลงมาเสียจนหลุดลุ่ย เช่นเดียวกับอีกฝ่ายที่ยอมสละแล้วซึ่งเสื้อผ้าทั้งหมด

หนทางยังอีกยาวไกล ไม่แน่ใจว่าคืนนี้เพลงที่กำลังบรรเลงจะจบลงเมื่อไหร่

บางทีเสือตาครอสอาจจะต้องร้องไห้...หนักมาก



[FIN]



จบแบบ.... 555
เราน่ะรักเสือของเอิ้นมากจริงๆ พอถึงเวลาพิเศษก็อยากกลับมาเขียน
อยากให้เขาได้ฉลองช่วงเวลาพิเศษไปด้วยกัน
แต่ก็มาสั้นๆ เนอะ ช่วงนี้งานเดือดมากเลย

เมอรี่คริสมาสนะคะ
มีความสุขมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบอินฟินิตี้เลยนะ
รักแหลละ

#เสือของเอิ้น







ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด