บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-6-12] Part 3 "หน้า 4"
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-6-12] Part 3 "หน้า 4"  (อ่าน 30177 ครั้ง)

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออก ไปด้วยนะครับ


สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


***=================================================***


เรื่องนี้ เคยลงแล้วในเล้า เมื่อนานมาแล้ว เป็นเรื่องในตำนวนอีกเรื่องนึง ที่น่าติดตาม และเป็นเรื่องที่คนเขียนได้อนุญาตให้ทางเล้า เอาไปรวมเล่ม กระทู้นี้จึงเกิดขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อจะเอาเนื้อหามาลงให้ทุกคนที่ยังไม่เคยอ่าน ได้อ่านกันในห้องนิยาย

สำหรับคนเก่าๆที่เคยอ่านกันแล้ว ก็ชวนให้ติดตามเรื่องราว ของตัวละครไปพร้อมๆกันใหม่อีกครั้งนะคะ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-06-2012 20:07:36 โดย Poes »

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #1 เมื่อ04-04-2012 17:48:04 »

แทบไม่เชื่อสายตา  :กอด1: ขอบคุณพี่หนึ่งมากเลยค่ะ ที่เอาเรื่องนี้มาลงอีกที นับว่าเป็นมหากาพย์เรื่องเยี่ยมของนิยายแนวชายรักชายเลยก็ว่าได้ โด่งดังอยู่ที่บอร์ดในตำนานอีกบอร์ด แล้วก็มาลงที่นี่ (ซึ่งเป็นบอร์ดเทพอันดับต้นเลย) ดิฉันก็ตามอ่านตลอด ติดใจในความจริง และสนุกสนานของเรื่องนี้ มีครบทุกรสชาติเลยค่ะ ตามติดตั้งแต่วัยกระเตาะใส่กางเกงขาสั้น จนกระทั่งเข้ารั้วมหาวิทยาลัย ระเห็จจากเมืองกรุงไปต่างจังหวัด แล้วกลับมาเมืองกรุงฯ อีกที ปลาบปลื้ม!

จะลงครบเลยใช่ไหมคะคุณพี่? อิอิ

 :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2012 17:51:19 โดย Wordslinger »

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #2 เมื่อ04-04-2012 18:00:56 »

ติดตามๆๆ ยังไม่เคยอ่านเลยอ่าาาา

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #3 เมื่อ04-04-2012 19:01:38 »

ขอโทษทีมะกี้ ว่าจะลงตอนแรกเลย แต่โดนเรียกไปทำธุระซะก่อน เรื่องนี้จะลงจนจบทุกภาคที่มีเลยจ้า

แต่ตอนพิเศษที่มทางน้องคนเขียนเขียนใหม่ให้นั้น อาจจะมีได้ลงมาให้อ่านด้วยบ้าง และเอาไว้ในรูปเล่มด้วย เพื่อเป็นของขวัญแกคนที่ต้องการเก็บเรื่องนี้นะคะ

-----------------------------------------

Story-Part1
บ้านพักอลเวง


เรื่องเป็นเรื่องราวที่เขียนขึ้นโดยอ้างอิงจากประสบการณ์จริงบางส่วน
และเนื้อเรื่องส่วนใหญ่มีการผูกขึ้นมาและเขียนเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้กระทบ
ต่อบุคคลจริงๆ


โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน



เช้านี้เป็นเช้าที่ค่อนข้างขมุกขมัวในชีวิตเด็กนักเรียนม.4 ตาดำๆคนนึงที่มีอัน
ต้องหันเหเปลี่ยนทิศทาง

"ปริ้นไม่ไป … ปริ้นจะอยู่ที่นี่ !"! ผมตะโกนเถียงแม่ทันทีที่รู้แน่ๆว่าต้องย้าย
โรงเรียนแบบกลางอากาศ

"จะไม่ไป ก็ได้ แต่ปริ้นต้องหาที่อยู่ใหม่เองนะ !! พ่อเค้าจะขายบ้าน" แม่ผม
ตอบแบบเอือมระอาเต็มทีพลางแพ็คของกล่อง

"ผมจะไปอยู่กะไอ้อ้นมันก็ได้" (อ้นเป็นเพื่อนสนิทผมครับ มันอยู่หอแถวโรงเรียน)
ผมตอบ

"แล้วค่ากิน ค่าอยู่ ก็ต้องหาเองด้วยนะ" แม่หันไปหยิบแจกันใบโปรดบรรจงใส่ลง
อีกกล่อง

"แม่ … แกล้งปริ้นเหรอ" ผมชักเริ่มเดือด ผมไม่อยากย้ายโรงเรียนโว้ย โรงเรียน
ที่ผมอยู่มาเกือบ 5 ปี ผมไม่อยากไปเริ่มใหม่ที่ไหนนี่

แม่หันมาด้วยสีหน้าถมึงทึงทันที

"ไม่ได้ว่าแกล้งปริ้น แต่แม่ว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ แม่ให้ปริ้นตัดสินใจเอาเอง
ว่าจะไปอยู่กับยาย หรือ จะขนของย้ายไปอยู่กับเจ้าอ้น …
แล้วแกก็ไม่มีสิทธิมาตะคอกใส่ ชั้น แบบนี้ … ชั้นเป็นแม่แกนะ !!"

"แม่อ่ะ ….". ผมโอดครวญ เงินเดือน partime ของเด็ก ม. ปลายที่ไหนจะพอกับ
ค่ากินค่าอยู่ในเมืองกรุงแบบนี้ล่ะวะครับ

* * * * * * * * * * * *

"อ้ายยยยอ้น มึงช่วยกูคิดหน่อยดิ กูไม่อยากย้ายไปบ้านนอกอ่ะ" ผมรีบโทร
ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนยามยาก

"แล้วมันไกลจากกรุงเทพมากเหรอวะ กร๊อบ" ไอ้อ้นถามผม แว่วได้ยินเสียงขนม

"ก็ไม่ไกลมาก 2 ชม ถึง … ว่าแต่ สัดดด มึงตั้งใจฟังกูพูดป่าววะ"

"เออ ฟังอยู่ แต่แม่มึงก็จัดการทีเรียนใหม่มึงเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอ มึงก็บอกกูอยู่ - -"


กร๊อบบ

"แล้วมึงจะเอาไงต่อ ?"

"ยังไม่รู้วะ เออๆ มึงแดกต่อไปล่ะกัน กูไม่กวนมึงล่ะ" ผมชักเริ่มโกรธและ
มันไม่เข้าใจความรู้สึกของผมบ้างเลย


* * * * * * * * * * * *

ไปๆมาๆ ผมก็ต้องยอมจำนนกับทุกๆเรื่อง ผมจำเป็นต้องพรากจากสถานที่
ผูกพันมาถึงเกือบครึ่งทศวรรศ มาปักหลักและเริ่มต้นอยู่ ณ โรงเรียนต่างจังหวัด
แห่งใหม่ กับผู้เป็นยาย เนื่องมาจาก พ่อของผมจำเป็นต้องย้ายไปรายการอยู่
จังหวัดทางภาคเหนือ แม่ก็ต้องตามไปด้วย

แต่ … ทำไมเค้าไม่พาผมไปด้วยก็ไม่รู้ เค้าคงมีเหตุผล และนี่ก็เป็นสาเหตุที่
ทำให้ผมต้องมาเริ่มต้นชีวิตวัยรุ่น ณ ที่แห่งนี้

ผมเป็นคนที่ติดเพื่อนมากครับ ใครๆก็รู้ (แต่คุณอาจจะพึ่งรู้ตอนนี้ แฮะๆ)
เพื่อนเฮไปไหน ผมก็เฮตาม เพื่อนมีอะไร
ใช้ ผมก็พยายามทำให้ อันเนื่องจากผมพอจะมีหัวสมองที่ดีกว่าคนอื่น
นิดหน่อย

"เฮ้ย … ไว้วันเสาร์ อาทิตย์ มึงก็นั่งรถมาหาพวกกูก็ได"้ ไอ้อ้นบอกผมก่อนจะ
เดินทาง

"แค่ 2 ชั่วโมงเองนิมึง …."

"เออ "

ผมตอบได้แค่นั้นครับ เพราะเอาเข้าจริงๆ ใจมันก็แป้วๆเหมือนกัน ไปอยู่ที่โน่น
มันต้องไม่มีอะไรให้ทำแน่เลย ไม่มี เจเจ ให้ซื้อเสื้อแนวๆ ไม่มีพันทิพย์ให้ซื้อ
เอ็มพี 3 ไม่มีสะพานพุทธให้ซื้อของมือสอง =*=

เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ผมก็เดินทางมาถึงบ้านหลังใหม่โดยสวัสดิภาพ
จริงๆแล้วบ้านหลังนี้ ผมก็เคยมาค้างบ้างแล้ว เพราะทุกเดือนเมษา หรือปีใหม่
พ่อแม่ก็จะพามาเยี่ยมยายเป็นประจำ แต่นั่นมันก็แค่ชั่วคราว แต่นี่ ผมต้องมา
อยู่ประจำแล้ว

ไม่รู้ว่าจะเป็นเหตุผลนี้เหรอป่าว จากที่รู้สึกคุ้นเคยบ้านหลังนี้ กลับรู้สึกแปลกออกไป
สภาพบ้านผม ขออธิบายก่อนว่า บริเวณของบ้าน จะมีบ้านใหญ่ กะบ้านเล็ก
ซึ่งมองเห็นกันได้ บ้านหลังใหญ่ ก็จะมียาย แล้วก็พี่เลี้ยงสองคน คนงานอีก 4 – 5 คน
อาศัยอยู่ ปกติแล้วผมกับที่บ้านจะพักที่บ้านใหญ่ แต่พอผมต้องมาอยู่ที่นี่ คุณยาย
ท่านก็เมตตาให้ผมไปอยู่ที่บ้านหลังเล็กคนเดียว บ้านเล็กนี้ คุณตา
ผมจะชอบมานั่งมานอนประจำ ท่านเสียไปได้ก่อนผมมาประมาณ 2 ปีแล้ว

"ผมอยู่ที่นี่ไม่ได้เหรอยาย ขี้เกียจไปจัดบ้านใหม่อ่ะ" ผมตอแหลสุดๆ เพื่อจะได้ไม่
ต้องไปอยู่คนเดียว

"ยายให้คนงานทำความสะอาดแล้วเรียบร้อยแล้ว ปริ้นไม่ต้องจัดอะไรใหม่หรอก
แค่เอาเสื้อผ้ายัดใส่ก็แค่นั้นเอง"
ยายผมบอกด้วยความเอ็นดู … แล้วก็ไม่ต้องกลัวตาเค้านะลูก เค้าไม่มาทำอะไรเอ็ง
หรอก

อ้าว สมกะเป็นแม่ของแม่กรูจริงๆ รู้ทันซ้า



* * * * * * * * * * * *


เหอ ผมครางในลำคอเบาๆ เมื่อเดินเข้ามาภายในบ้าน

มันก็ไม่ได้มีอะไรแย่อย่างที่คิดหรอกครับ ทุกอย่างดูลงตัว เรียกว่า น่าจะอยู่
สบายๆด้วยซ้ำ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ห้องครัวไม่ต้องเพราะต้องไปกินกับยาย
แล้วที่ไฮโซที่สุด ระหว่างที่ผมเดินๆสำรวจ ก็คือมีห้องใต้ดินครับ
(โอ้ว ออกแนวไซไฟมากๆ) อยู่ในห้องที่ผมนอนด้วย !?

"ลุงสนๆ มีห้องใต้ดินด้วย !?" ผมถามลุงคนงานที่ขนของมาให้ ตรงพื้นที่ผมจับอยู่มันมีเหมือนตะขอจับ (คงพอนึกออกนะคับ)

"อืมม มีมานานแล้วครับ มีตั้งแต่คุณทวดคุณหน่ะ เป็นหลุมหลบภัยสมัยสงคราม
โลกครั้งที่ 2 โน่น" ลุงสนพูดไปก็จัดของไปด้วย ต่างจากผม ซึ่งยืนฟังอยู่เฉยๆ
(กินแรง)

"คุณตาคุณเห็นว่าไม่ได้ใช้ทำอะไร ก็เลยทำมาเป็นห้องเก่าของหน่ะ แต่อย่าเข้า
ไปเลยครับ ฝุ่นเยอะ … ตัวอะไรต่ออะไรมีมั่งก็ไม่รู้ ลุงก็ไม่ได้ไปทำความสะอาด
ข้างในเป็นปีแล้ว"

ลุงแกก็บ่นไปตามประสาคนแก่ แต่วัยเลือดร้อนอย่างผม กลับกระหายใคร่รู้ครับ
เหอๆ

พอจัดของเสร็จ ลุงแกก็แนะนำอะไรรอบๆบ้านอีกนิดหน่อย พร้อมกับบอกเวลา
ที่จะต้องไปกินข้าวกี่โมง อะไรยังไง โห กฎระเบียบเยอะชิบหาย

พอลุงสนเดินลับตาไป ผมก็เข้ามาในบ้าน คงไม่ต้องสงสัยหรอกว่า อยากจะ
ทำอะไรเป็นอันดับแรก

แกร็ก แกร็ก ….. แอ๊ดดดดดดดด

แปลกแฮะ ไม่ได้เปิดเข้ามาเป็นปี แต่ทำไมมันเปิดง่ายจังวะ ผมคิดในใจ
แล้วค่อยๆยกให้ประตูเปิดมากขึ้น เพื่อจะได้สอดตัวลงไปได้

ข้างในมืดมากครับ ผมมองไม่เห็นบันไดที่ทอดยาวลงไป จึงได้แต่เอาเท้า
ค่อยๆแตะทีละขั้น ทีละขั้น ทีละ - -

"เชี่ยยยยยยย" ผมอุทานได้ไม่ถึงครึ่งคำ ตัวผมก็เสียหลัก ล้มกลิ้งลงไป

"อั๊กกก" ตัวผมกระแทกลงบนพื้นไม่เป็นท่า

"โอยยย" ผมค่อยๆยันตัวขึ้น สายตาเริ่มปรับเข้ากับความมืดได้เล็กน้อย
จนพอมองเห็นอะไรลางๆ มือเริ่มคลำสะเปะสะปะ จนรู้สึกว่าไปปัดของ
บางอย่างเข้า

เพล้งงงงงงงงงงงง … เสียงดังกังวานมากจนผมตกใจ

คุณตาจ๋า อย่ามาหลอกหลานเลยนะ พ้มมไม่ได้ตั้งใจง่ะ ว่าแล้วผมก็รีบเผ่นขึ้นบน
ห้องด้วยความทุลักทุเล

แอ๊ดดด ปึ้งง ผมค่อยๆงับบานประตู แล้วก็มาสำรวจตัวเอง

"ก็อีกประมาณอาทิตย์นึงคับ เปิด 15 นี้อ่ะ"

"เดี๋ยวอีก วันสองวัน ยายจะให้คนพาไปดูโรงเรียนนะ"

"ทำไมต้องไปดูด้วยล่ะยาย "

"แล้วปริ้นไปถูกเหรอป่าวล่ะ ?"

"ไม่ถูกครับ =_='' ’’ ผมนึกว่าจะมีคนไปส่งซะอีก

"ที่นี่ไม่มีคนขับรถ เวลาหลานจะไปโรงเรียน ก็ต้องนั่งรถไปเรียนเอง"
ยายผมเน้นเสียงคำว่า ไม่มีคำขับรถ และ คำว่า ไปเรียนเอง

ผมมีคำว่า - เอ๋ - ในใจ

"โรงเรียนไม่ได้อยู่แถวบ้านเหรอครับ" ถามด้วยความรู้สึกหดหู่เล็กน้อย

ยายมองผมแว่บนึง แล้วก็บ่นอะไรออกมาซักอย่างที่จับใจความไม่ได้

"โรงเรียนอยู่ในเมืองหลาน "

แม่จ้าววววว แล้วพ่อแม่ผมให้มาอยู่กับยายทำมายยยย อันนี้ผมคิดนะ
หน้าเริ่มงอหน่อยๆ

"แล้วผมต้องไปยังไงล่ะ"

"ขึ้นรถ ป 2 หน้าบ้านนี่ล่ะ ประมาณชั่วโมงนึง" ยายบอกผม

"ผมต้องไปเองเหรอยาย" ผมถามอีกรอบ เสียงขุ่น

"หลานเอ้ย ที่นี่ไม่สะดวกสบายเหมือนในกรุงเทพหรอก" ยายผมบอก
แล้วก็เดินกลับเข้าไปที่ห้อง งั้นก็ถึงคราวผมไปสงบสติอารมณ์บ้างแล้ว
เลยตั้งท่าจะกลับไปบ้านเล็ก ลุงสนก็เดินเข้ามาบอกผมว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้
จะให้แกมารับผมไปดูโรงเรียนใหม่

"ครับลุง แล้ว - - - " ผมว่าจะถามอะไรบางอย่าง ลุงแกก็ชิ่งเดินหลบไปก่อน
เออ คนบ้านนี้แมร่งเป็นไรวะ เย็นชากะกูจริง


* * * * * * * * * * * *

"เออ กูเซงวะ ไอ้อ้น กูเบื่อๆๆๆ" ผมได้ทีบ่นให้ไอ้เพื่อนรักฟังทางโทรศัพท์
ถ้าไม่มีอุปกรณ์ชิ้นนี้ ผมว่าผมตายแน่

"เฮ้ย มึง ยังไม่เปิดเทอมก็เงี้ยล่ะ เด๋วพอเปิดเทอม มีเพื่อนใหม่ มึงก็ซ่าเหมือนเดิม "

"กูเคยซ่าเหมือนมึงตอนไหนวะ"

"เออๆๆ มึงอ่ะมันเด็กเรียน ในกลุ่มเด็กเลว"

"สาดดด กูยิ่งกลุ้มๆอยู่ ยังมากวนตีนกูอีก"

"เอาน่ามึง พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว .. มึงคิดไรมาก เด๋วมึงก็ชิน" มันคงเป็นคำปลอบใจ
ที่ดีที่สุดแล้วล่ะ สำหรับผมในตอนนี้

เพื่อนๆคงจะเป็น ว่าเวลาไปนอนแปลกที่ มักจะนอนไม่ค่อยหลับ
ยิ่งบรรยากาศบางอย่างรอบๆตัว ยิ่งดึกเท่าไร ก็ยิ่ง
น่าขนลุกมากขึ้นเท่านั้น บริเวณบ้านต้นไม้จะเยอะมากคับ เยอะจนบางทีก็รู้สึกว่า
เหมือนมีตัวอะไรโยกไปโยกมาอยู่ เมื่อมองผ่านหน้าต่าง

ตี้ดดด ตี้ดดด

"ฮาโหลลล ครายยยย ว้า" เสียงไอ้อ้นดูเหมือนมันหลับแล้ว

"เฮ้ย อ้น คุยเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ"

"คูยย เหี้ยอาไร ป่านนี้ "

"เออ คุยกะกูก่อนให้กูหลับก่อน นะ นะ" ผมบอก

"สัดดดดด" แล้วมันก็ตัดสายไปครับ ไอ้เพื่อนเชี่ยเอ้ยยย ไม่ช่วยกูเล้ย
แต่ผมก็ทนความกลัวไปได้ซักพัก แล้วก็ผล่อยหลับไป

"อือออ อืออออ"

ในพะวัง หรือจะเรียกว่าอะไรซักอย่าง ผมรู้สึกว่าเหมือนมีใครจ้องมองอยู่
แต่ก็ไม่ได้รู้สึกสนใจอะไรมากมาย

จนรู้สึกว่า ไอ้สิ่งๆนั้นมันเหมือนเข้ามาใกล้ตัวผมเรื่อยๆ

"อือออออ …". พยายามจะปัดเป่าความงัวเงียออกจากตัวผม
แต่สงสัยเพราะการเดินทางตลอดวัน ทำให้รู้สึกอ่อนเปลี้ยไปหมด

"ครายยยยยวะ …"

ผมพูดได้แค่นั้น แล้วก็รู้สึกเจ็บจี้ดที่ใบหน้า

"โอ๊ะ !?!?"

ในห้วงความฝัน ผมคิดไปว่า สงสัยวิญญาณตาผม คงจะมาเล่นงานที่ผมทำ
ของที่ห้องใต้ดินแตกแหง่มๆ
แต่ตอนนี้ช่างมันก่อนเหอะ กรูง่วงมาก..

ตื่นมาเช้าวันนั้น มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมต้องตกใจคับ

หน้าผมมีรอยแดงเป็นปื้นเลย รอยมือคนนี่หว่า ? ใครทำกรูว้า……แสดดดด

“หน้าไปโดนอะไรมาห่ะ” ยายดันสังเกตเห็นรอยแดงในระหว่างการกินมื้อเช้า

“ไม่รู้เหมือนกันคับ สงสัยตอนนอนหน้ามันไปกดกับหมอน มั้ง .. ” ผมตอบ แต่มันเจ็บด้วยนี่ซิ อธิบายด้วยเหตุผลไม่ถูก

“เดี๋ยวนายสนเค้าจะให้เจ้าโอ้ตพาปริ้นไปดูโรงเรียนนะ” ยายผมบอก โอ้ตนี่คงเป็นลูกลุงสนล่ะมั้ง ว่าแต่ทำไมพ่อชื่อสน ลูกชื่อโอ้ตวะ ช่างมันๆ ซักพักผมก็กลับมาที่บ้านเล็ก สายตาก็เหลือบไปมองประตูลงไปในห้องใต้ดิน

ว้า ผมกะว่าวันนี้ตั้งใจจะลงไปสำรวจดูซะหน่อย แต่ไม่เป็นไร เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้วะ ว่าแล้วผมก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า มีแต่ชุด นร เก่านี่หว่า แล้ว รร ใหม่ก็ใช้กางเกงสีน้ำตาลด้วย ฮ่วยๆๆ ไม่ชอบเล้ยยย (ความคิดตอนนั้นนะ ฮะๆ อย่าพี่งด่าผม)

ผมรอไปประมาณครึ่งชั่วโมง กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ในห้อง พี่แกก็ไม่ยอมมาซะที ผมก็เลย …. หลับ เหอๆ

“คุณปริ้น ….”

“ฮ้ะ … คร๊าบบบ” ผมงัวเงียตอบไป

“คุณปริ้น คือผมมารับคุณไปโรงเรียนครับ - - - เออ ผมว่าล้างหน้าก่อนไปดีกว่านะ” ผมลืมตาขึ้นก็เห็นหนุ่มน้อยหน้าเข้มคนนึงยืนยิ้มอยู่ที่หน้าห้อง

“เออ ครับ” รู้สึกอายๆ ที่มีคนมาเห็นสภาพที่ดูอนาถตอนนอน แล้วก็รีบเอามือไปปาดน้ำลายที่ปาก

เวนนน นอนน้ำลายยืดด้วยกู

หลังจากไปจัดตัวเองให้เข้าที่เข้าทางใหม่อีกรอบ คนที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นพี่โอ้ต ก็เดินนำผมไปที่รถ

“พี่เป็นลูกลุงสนเหรอ ? ” ผมถามอะไรโง่ๆเพื่อความแน่ใจ เพราะผมนึกว่า ลูกลุงน่าจะดูแก่กว่านี้อ่ะ ดูคนๆนี้น่าจะอายุไม่ถึง 20 ด้วยซ้ำ

“ครับ”

“เออ พี่ไม่ต้องพูดว่า ครับ ก็ได้ แล้วก็ไม่ต้องเรียกผมว่า คุณ หรอก มันแปลกๆอ่ะ ”

“ไม่ได้หรอกครับ ก็คุณเป็นหลานเจ้านายของพ่อผมนี่ครับ” ว่าแล้วพี่แกก็ส่งยิ้มแบบมีมารยาทให้ผม แล้วก็ออกรถ พี่โอ้ตจะค่อนข้างจะพูดเหน่อครับ เหน่อแบบเป็นเอกลักษณ์ของคนจังหวัดนี้อ่ะ ฟังแล้วแปลกๆดี

“แล้วตอนนี้พี่เรียนอยู่ป่าวคับ”

“ผมก็เรียนอยู่ที่เดียวกับที่คุณปริ้นจะเรียนนี่ล่ะคับ แต่ผมเรียน ม.6 ”

“อ้าว … จริงดิ งั้นก็ห่างกันแค่ปีเดียวอะดิ งั้นเราเรียกนายว่าโอ้ตเฉยๆล่ะกัน ได้ป่ะ” น่าน ได้ทีผมปีนเกลียวคับ หุหุ

“ก็แล้วแต่คุณครับ แต่ - - -”

“แล้วนายก็ต้องเรียกเราว่า ปริ้น เฉยๆด้วย” ผมรีบพูดขัด

“คิดดูเด๊ะ อยู่โรงเรียนเดียวกัน แล้วนายมาเรียกเราว่า คุณปริ้น ไรงี้ เราอายตายชัก เราไม่ใช่คุณหนูนะเว้ย”

พี่โอ้ตแสดงความรู้สึกลำบากใจออกมานิดหน่อย

“แต่ว่า ถ้าคุณ - - - ”

“ก็ถ้าอยู่ที่บ้าน นายจะเรียกยังไงก็แล้วแต่นาย แต่อยู่ที่โรงเรียน ก็เรียกตามนี้ล่ะกัน” ผมพูดตัดบท

“เครนะ”

“อะไรเครครับ ? ”

“หมายถึง โอเค”

“อ่อ โอเค ”

โอ้ตเอานิ้วเกาแก้มตัวเองเบาๆ แสดงอาการเขิน เออ น่ารักดีแฮะ ……………….. ว่าแต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าการกระทำม่ะกี้ของโอ้ตมันดูน่ารักว้า


* * * * * * * * * * * *

ประมาณครึ่งชั่วโมงเอง โอ้ตก็พาผมขับรถมาจอดอยู่ด้านข้างโรงเรียน เพราะว่า เค้าไม่อนุญาตให้นักเรียนขับรถเข้าไปได้ฮะ แล้วโอ้ตก็พาเดินไปดูรอบๆโรงเรียน ว่าตึกไหน เป็นตึกไหนแบบคราวๆ ซึ่งปกติแล้ว ถ้าผมเข้ามาช่วง ม 1 หรือ ม 4 เนี่ย เค้าก็จะมีปฐมนิเทศแล้วพี่ๆ ก็จะพาแนะนำ แต่ผมดันมาเข้ากลางอากาศตอน ม 5 เลยต้องมาพึ่งโอ้ตนี่ล่ะ

“โรงเรียนเก่าปริ้นเป็นโรงเรียนชายล้วนใช่ป่ะ” โอ้ตถามผมหลังจากเดินมาถึงที่ที่เรียกว่า ตึก 5

“อือ มีแต่ผู้ชาย” (ก็ต้องงั้นอยู่แระ)

“ที่นี่ก็เคยเป็นชายล้วน แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสห หมดแล้ว ”

โห เสียดายแย่เลย เอ้ย ม่ายช่าย

แต่ที่นี่ยังพิเศษกว่าโรงเรียนอื่นอีกนิดหน่อย .. โอ้ตยิ้ม แล้วก็เดินนำไปด้านหลังอาคาร มันเป็นสวนป่าครับ แล้วก็มีน้ำตกที่สร้างขึ้น แล้วก็ …. ภูเขา

“เฮ้ยยย มีภูเขาติดโรงเรียนด้วยอ่ะ ไฮโซโคดๆ” ผมออกอาการดี๊ด๊า เพราะไม่เคยเห็น

“ช่ายยยย” โอ้ตมันพูดแบบภูมิใจ จะลองปีนขึ้นไปดูมั้ย


“เค้าให้ปีนขึ้นไปได้ด้วยเหรอ ? ”

“เวลาปกติก็ห้ามอยู่แล้ว แต่นี่มันปิดเทอมอยู่น่ะ แต่เวลาเปิดเรียน เด็กมันก็โดดออกทางนี้ประจำล่ะ” อ่าเป็นข้อดีของการมีเขาติดหลังโรงเรียน แล้วโอ้ตก็นำผมไปเจอขุมทรัพย์ของชีวิตนักเรียน (โดดเรียน) มันเป็นพื้นชันๆขึ้นไปบนเขา แต่ดูแล้วมีรอยถากถาง แล้วก็เหมือนถูกใช้มาหลายรุ่นแล้วล่ะ

“รู้ทางกะเค้าด้วยแฮะ”

“55 ก็เคยขึ้นไปเหมือนกันนี่นา - - -” โหย เห็นหน้าแบบนี้ โดดกะเค้าด้วยนี่หว่า

“- - - แต่ว่าขึ้นไปจับไอ้พวกเด็กที่มันโดดนะ พอดีโอ้ตเป็นกรรมการนักเรียน”

แป่ว หน้าแหก

“แล้วงี้ ถ้าเราโดดบ้าง โอ้ตจะจับป่ะ ? ”

โอ้ตทำหน้าเจ้าเล่ห์ ซึ่งไม่ค่อยจะเคยเห็น “จับดิ”

ผมแกล้งทำหน้างอใส่

“ป่ะขึ้นไปดูข้างบน” โอ้ตบอกพลางเดินนำขึ้นไปบนทางชัน

“แน่ใจนะเราขึ้นไปแล้วมันจะไม่ร่วงลงมา” ผมถามเพราะว่าไม่เคยปีนเขามาก่อน

“ถ้าร่วงเดี๋ยวโอ้ตรับเอง ไม่ต้องกลัว” โอ้ตบอก แล้วก็ยื่นมือมาหาผม

หงึบ

อึ้งไปแว่บนึง พร้อมกับความผะผ่าวที่ใบหน้า แต่ก็ยื่นมือไปจับมือโอ้ตไว้ พยุงตัว

“ขะ ขอบใจ” ผมยิ้มให้ แล้วก็โอ้ตก็ยิ้มตอบกลับมา

อะไรบางอย่างที่ซับซ้อนมากกว่าคำว่ามิตรภาพกำลังจะเริ่มขึ้น(เหรอป่าว ?)


* * * * * * * * * * * *

“อีกนิดเดียวปริ้น” โอ้ตบอก พร้อมกับดึงมือผม ซึ่งตอนนี้รู้สึกว่า อยากจะนอนมันอยู่แถวๆนั้น แทนที่จะปีนขึ้นไปด้านบนแล้ว (ถ้าเป็นตอนนี้ แค่ 10 นาทีคงถึง)

“คุณพี่ค๊าบ ผมขอพักตรงนี้ก่อน”

“เดี๋ยวอีกนิดก็ถึงแล้ว” พลางฉุดมือผมขึ้นมาด้วยความยากเย็น

ซักพัก ด้วยความพยายามของผม (และโอ้ต) ก็ทะลุออกมาเป็นถนนที่ทำไว้ให้รถยนต์ขึ้นไปจอดบนเขาได้

“ทางเรียบแล้ว เดี๋ยวเดินไปอีกนิดก็จะถึงแล้ว” โอ้ตว่า

“เหนื่อย” ผมบอก

“ว่าแล้ว .. เด็กกรุงเทพก็เงี้ย สู้เด็กตจว อย่างโอ้ตก็ไม่ได้ ”

แล้วโอ้ตก็เดินขึ้นไปต่อ โดยไม่คอยผมครับ ใจร้ายมากกก

ผมพยายายามตะเกือกตะกายเดินต่อ จนออกมาเห็นเป็นลักษณะของพระราชวังที่ตั้งอยู่บนยอดเขาครับ โอ้ตพาผมซื้อน้ำที่มีขายอยู่ข้างบน แล้วก็พาขึ้นไปนั่งพักอยู่บนที่ๆเค้าใช้เป็นหอดูดาวสมัยก่อน อยู่บนนี้ ลมพัดเย็นมากจนหายเหนื่อยไปเลย โอ้ตชี้ให้ดูนั่นดูนี่อีกหลายอย่าง ดูท่าทางมีความสุขมาก ผมก็มีความสุขมากเช่นกัน แต่ไม่แบบอธิบายไม่ถูก แฮะๆ

เราพี่น้องเดินวนไปวนมาจนกระทั้งเกือบเย็น เพราะว่าอะไรๆก็ดูประทับใจผมไปซะทั้งหมดบนนี้ แล้วก็ดูเหมือนว่า ขาลงก็ง่ายดายกว่าขาขึ้นมาก ผมแค่ระวังไม่ให้ตัวดิ่งลงไปเร็วจนเกินไป จนทำให้หน้าทิ่มดินแล้วก็กลิ้งๆลงมา แค่นั้นเอง

“หนุกมั้ย” โอ้ตถาม ผมรู้สึกว่าโอ้ตเริ่มจะคุ้นเคยกับการไม่พูด คุณ กับ ครับ กับผมแล้ว

“มากๆอ่ะ ”

“แต่ตอนเรียน ห้ามโดดขึ้นไปเลยนะ” โอ้ตรีบปราม เพราะไม่งั้น - - -

“คุณพี่โอ้ตก็จะจับผมไปขึ้นห้องปกครองใช่ป่าว”

โอ้ตหันกลับมายิ้มกริ่ม ใบหน้าแสดงความพอใจ

“อยากรู้ น้องปริ้นก็ลองดิครับ ”


.............TBC............
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2012 19:06:38 โดย Poes »

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #4 เมื่อ04-04-2012 19:41:40 »

จิ้ม
ได้ยินว่าเรื่องนี้เป็นตำนานแล้วต้องเข้ามาอ่าน
ติดตามนะคะ

art_francais

  • บุคคลทั่วไป
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #5 เมื่อ04-04-2012 20:23:10 »

เคยอ่านไปจนถึงตอนที่รักกับโค้กแล้วคับ

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #6 เมื่อ04-04-2012 20:56:39 »

โอ้ตน่ารักจัง แต่ไม่ใช่พระเอกเหรอ Y Y

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #7 เมื่อ04-04-2012 21:00:34 »

ดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่า หนึ่งในนิยายในดวงใจเลยครับ :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #8 เมื่อ04-04-2012 21:04:30 »

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ขอกรี๊ดดดดดด

นิยายในดวงใจ ประทับใจสุดๆ

Hakken

  • บุคคลทั่วไป
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #9 เมื่อ04-04-2012 21:23:09 »

รอคร่าาา เห็นคนอ่านมาก่อนแล้วอยากรู้เรื่องแล้วว่าต่อไปจะเป็นไงอ่ะ  แอบอิจฉาคนที่เคยอ่านอ่ะนะ o18 o18 o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
« ตอบ #9 เมื่อ: 04-04-2012 21:23:09 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ กาลณัฐ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #10 เมื่อ04-04-2012 21:44:59 »

เหมือนเคยอ่านแล้วเลยอ้ะ แต่จำไม่ได้ว่าอ่านที่ไหน
งั้นอ่านใหม่แล้วกันเนอะ 555

ออฟไลน์ littlepooh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #11 เมื่อ04-04-2012 21:49:53 »

ดีใจจัง ได้อ่านเรื่องนี้ใหม่อีกรอบแล้ว :mc4: :mc4:

คันจัง

  • บุคคลทั่วไป
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #12 เมื่อ04-04-2012 22:04:20 »

น่ารักอ่าาา มารอและติดตามตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #13 เมื่อ04-04-2012 22:08:17 »

Confirm ว่าดีมากๆ หลากรสหลายอารมณ์

ออฟไลน์ พิรุณสีเงิน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #14 เมื่อ04-04-2012 22:22:59 »

หนึ่งในเรื่องโปรด o13 o13

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #15 เมื่อ04-04-2012 22:29:51 »

เรื่องนี้ทำให้เรารู้ว่า ผู้ชายบอกรักกันผ่านเพลงนี่หวานชะมัด  :-[ :-[
love โค้กซาเหมอ  :man1:

อือหืออ่ะ

  • บุคคลทั่วไป
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #16 เมื่อ04-04-2012 22:38:24 »

 อยากมีป้ายไฟจัง จะได้ชูเป็นกำลังใจให้พี่โอ๊ต  ปริ้นไม่เอาเราขอนะผู้ชายเนี๊ย พี่โอ๊ตผู้น่าสงสาร

ออฟไลน์ pukpra

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-0
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #17 เมื่อ04-04-2012 22:48:15 »

ขอบคุณมากค่า เรื่องนี้ยังไม่ได้อ่านเลย รอติดตามอ่านค่า ^^

ออฟไลน์ ชินจัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 307
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #18 เมื่อ04-04-2012 23:12:38 »

 :m13:

ตามมาอ่านด้วยคน แค่ตอนแรกก็น่าติดตามแล้ว

>///<

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #19 เมื่อ04-04-2012 23:46:11 »

 :กอด1: มาร่วมรำลึก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
« ตอบ #19 เมื่อ: 04-04-2012 23:46:11 »





m_pop91

  • บุคคลทั่วไป
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #20 เมื่อ04-04-2012 23:48:25 »

อีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด ดีใจที่ได้มีโอกาศอ่านอีกครั้ง

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #21 เมื่อ05-04-2012 00:08:53 »

เรื่องนี้เป็นตำนาน อืม น่าติดตามๆ ^^

ออฟไลน์ wnkth

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower
«ตอบ #22 เมื่อ05-04-2012 09:14:46 »

 :mc4: สนุกดีครับ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้อ่านเรื่องในตำนาน ฮิๆ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-4-12]
«ตอบ #23 เมื่อ05-04-2012 14:12:44 »

หลังจากวันที่โอ้ตพาผมไปโรงเรียนวันนั้น เกือบทุกวัน โอ้ตมันก็จะมารับผมไปเที่ยวที่โน่นที่นี่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นทะเลครับ หัวหินเอย สวนสนเอย สนุกสนานมาก ตอนเช้าตื่นมา ก็เตรียมตัวมีหนุ่มมารับออกไปเที่ยว กลับมาตอนเย็น ก็เหนื่อยจนไม่อยากทำอะไรแล้ว .. เป็นอย่างนี้มาจนพรุ่งนี้จะเป็นวันเปิดเทอมแล้ว ผมก็มีอันนึกได้ว่ายังไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าเลย

“โอ้ต เรายังไม่ได้ซื้อเสื้อเลยวะ”

“ทำไมพึ่งมาบอกตอนนี้เนี่ย” โอ้ตมันทำเสียงประณาม

“เอาน่า เป็นครายกันจะมาเทศนาเรา” ผมหลุดปากออกไปโดยไม่ทันได้คิด โอ้ตดูซึมไปเลย

“เออ เราขอโทษ คือ เราพูดเล่น” ผมเดินไปกอดคอโอ้ต ทำทีเป็นล้อเล่น แต่โอ้ตมันกลับจับมือผมออก

“ไม่เป็นไรหรอกครับ” แล้วมันก็เดินไปที่รถ

อ้าวเว้ยเห้ย งอนซะงั้น กรูขอโทษแล้วงายย

“ผมก็แค่ลูกคนใช้ในบ้าน คุณจะพูดยังไง ผมจะไปโกรธคุณได้ไง - - ขึ้นรถซิครับ จะพาไปซื้อ”

โอ้ตมันพูดยืดยาว แถมขัดจังหวะตอนที่ผมทำท่าจะอธิบาย ตอนนั้นผมรู้สึกแย่มากๆครับ ที่พูดอะไรแล้วไม่ทันคิด เป็นโรคปากไวแต่กำเนิด ทำไงได้อ่ะ - -‘

“เราขอโทษนะ หายโกรธยัง” ผมหันไปถาม เพราะแน่ใจว่ามันยังโกรธอยู่แน่นอน แมร่ง เล่นไม่พูดไม่คุยตลอดระยะเวลาที่มากับผมเลย

“ไม่ได้โกรธ” โอ้ตตอบแบบไม่หันมา “ - - - ครับ”

“ก็บอกแล้วไง ว่าไม่ต้องพูดครับ กับเรา แล้วดูทำหน้าดิ๊ อย่างกับตูด แล้วบอกว่าไม่ได้โกรธ” อ่า ผมชักเหลืออดครับ เพราะว่ารู้สึกชักจาเล่นตัวกะกรูแล้วนะมรึง


* * * * * * * * * * * *

“โอ้ตตต ”

ผมหันไปหาเสียงเรียก ก็พบว่า มีกลุ่มคนกำลังเดินเข้ามาทักทายโอ้ต คงเป็นเพื่อนเค้าล่ะ (แหงล่ะซิมึง) เป็น หญิง 1 ชาย 2

“ว่าไง” โอ้ตทักแบบไม่ค่อยสบอารมณ์

“มาทำไรวะ”

“มาซักผ้ามั้งมึง ”

โหกวนตีน

“เออ กูนึกว่ามึงมาชักว่าว ไอ้สาด ”

กวนตีนพอกัน

ผมยืนฟังเพื่อนๆเค้าทักทายกันซักพัก ก็มีคนหันมาสนใจผมซะที

“ใครอะโอ้ต” เสียงพี่ผู้หญิงถาม

“อ่อ เป็น - - -” โอ้ตเหมือนจะตอบไม่ออก

“ปริ้นคับ เป็นลูกพี่ลูกน้องพี่โอ้ตอ่ะครับ” ผมยิ้มตอบไป วิญญาณสะตอเข้าสิง “จะมาเรียนโรงเรียนพี่โอ้ตครับ”

“จริงดิโอ้ต พี่ผู้หญิงหันไปถามโอ้ต เอ้า ก็กรูพึ่งบอกไปหยกๆเนี่ย ม่ะเชื่อกรูเหรอ

“เออ”

“ฝน เห็นน้องเค้าน่ารักหน่อยนี่ ต่อมแรดออกเลยนะมึง” เสียงพี่ผู้ชายคนนึงแซว ผมก็หันไปมอง แล้วจากนั้นผมก็รู้จักทั้ง 3 คนครับ พี่ท็อป พี่ฝน พี่กล้า พี่ท็อปจะออกแนวเถื่อนๆ ตัวใหญ่โคตร ผมว่าโอ้ตตัวใหญ่แล้ว พี่ท็อปยังใหญ่กว่า ประมาณใหญ่และตัน พี่ท็อป ตัวพอๆกะผมครับ ขาวกว่า เป็นอาตี๋เลย แต่ก็พูดเหน่อเหมือนกะโอ้ต ดูดีเวลาทำหน้าเฉยๆ แต่เวลาพูดแล้วจาปากหมา ส่วนโอ้ตของผม(ตั้งแต่ม่ะไร)จะผิวสีแทนๆ ไม่ดำ ไม่ขาว ตัวสูง แต่ไม่ล่ำเท่าพี่ท็อป ที่สำคัญ น่ารัก ^^

คุยกันได้ซักพักนึง ก็แยกย้ายครับ เพราะเย็นพอควรแล้ว พวกเพื่อนโอ้ตอยู่ในเมือง แต่เราสองคน อยู่นอกเมืองคับ ต้องเสียเวลาเดินทางกลับอีก

กลับมาถึง ยายก็เรียกผมไปให้โอวาท พร้อมกะเทศอีกนึงดอก เพราะรู้ว่าผมพึ่งมาจัดหาของเอาวันสุดท้าย พร้อมกับบอกให้รีบนอน เพราะต้องรีบตื่นด้วย

“ทำไมนายต้องบอกยายด้วยอ่ะ แค่ไปซื้อเสื้อก่อนเปิดเรียนแค่นี้อีก” ผมพูดฉุนๆกะโอ้ต เพราะนึกว่ามันไปบอกยาย

“ผมไม่ได้บอกซะหน่อย” โอ้ตเหมือนจะอารมณ์เสียขึ้นมาบ้าง “ยายคุณถามพ่อผมต่างหากว่าจะผมพาคุณไปไหนวันนี้ ”

ว่าพลางกระแทกประตูใส่หน้าจ๋อยๆของผม หลังจากได้ไปกล่าวว่าโอ้ตไว้อย่างงั้น จะพูดขอโทษมันก็ไม่ทันซะแล้ว


* * * * * * * * * * * *


“คุณปริ้น ปริ้น ตื่นได้แล้ว”

เสียงโอ้ตดังเข้ามาในจิตสำนึก พร้อมกับแรงเขย่าตัว

“ขออีก 5 นาที” ผมว่าพลางซุกตัวเข้ากับผ้าห่ม

“ถ้างั้นผมจะบอกยายคุณให้มาปลุกเอง” มันพูดพร้อมทำท่าเดินออกจากห้องไปจริงๆ ท่าทางยังไม่หายโกรธจากมะวานแฮะ

“เง้ยย ตื่นแล้ว” ผมว่าพลาง ลุกขึ้นมาเกาหัว กี่โมง

“จะหกโมงเช้าแล้ว”

“โห จะรีบตื่นทำมายยย ขับรถไปแป็บเดียวก็ถึง”

“ขับไปไม่ได้ ต้องนั่งรถไปครับ”

“โห .. ” ผมโอดครวญ ที่ยายพูดไว้ตั้งแต่ตอนมาก็จริงอะดิ นึกว่าไม่ต้องนั่งรถเมล์กรุงเทพแล้วนะเนี่ย ต้องมานั่งรถเมล์ต่างจังหวัดอีก กำของกรู

ผมก็รีบพุ่งเข้าไปอาบน้ำทันที เพราะว่า ต้องนั่งรถไปใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงโรงเรียน ยายทำไมชอบทำไรให้ยุ่งยากด้วยว้า ผมวิ่งผ่านน้ำออกมา ก็พบว่ามีเสื้อนักเรียนใหม่เอี่ยม แขวนไว้บนตู้เสื้อผ้า แต่โอ้ตไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว

อ่ะ ผมเข้าไปสังเกตเห็นตรงหน้าอก มีชื่อโรงเรียน แล้วก็ชื่อผมปักไว้แบบหยาบๆ

“โอ้ต” ผมคราง มันปักชื่อให้เราเหรอเนี่ย งั้นม่ะคืนก็ไม่ได้นอนเลยอะดิ ความรู้สึกผิดม่ะวานยังไม่หาย แต่เช้านี้มันยิ่งมากขึ้นมาอีกครับ ระหว่างรอรถป 2 ผมกะโอ้ตก็ไม่ได้คุยอะไรกัน แต่ก็แอบสังเกตคับ ว่าโอ้ตมันหาวบ่อยมาก ผมจะพูด ก็ปากหนัก ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี จนได้ขึ้นรถ รถก็แบบว่า โคตรเต็มครับ ทั้งคนทำงาน ทั้งเด็กนักเรียน ทั้งเด็กเทคนิค เด็กอาชีวะ เด็กราชภัฏ โอ้ว จนผ่านไปเกือบ 30 นาที ก็มีที่นั่งว่างอยู่

“ปริ้นไปนั่งซิ”

ผมส่ายหน้า แล้วก็รีบดันตัวโอ้ตให้ไปนั่งแทน มันก็ทำหน้างงๆ

“นายนั่งไปเถอะ ม่ะคืนไม่ได้นอนทั้งไม่ใช่เหรอ ? ” ผมพูดแบบจับผิดครับ ไม่รู้ว่าทำไปทำไมเหมือนกัน แต่โอ้ตก็แบบหลบตา ทำหน้าแดงๆ

“อือ งั้นพอเห็น เด็กลงกันแล้วก็ปลุกด้วยนะ” ว่าพลางชี้ไปที่ นร ที่เห็นว่าอยู่โรงเรียนเดียวกัน

“ได้” ผมยิ้มตอบ คงเป็นสิ่งผมตอบแทนได้ดีที่สุดในตอนนี้แล้วล่ะ ไม่ถึง 5 นาทีคับ มันหลับไปจริงๆเลยอ่ะ หัวก็โงกเงกไปเกือบจะชนคนที่นั่งข้างๆ ดูเค้าทำสีหน้ารำคาญชอบกล ผมก็เลยค่อยๆจับหัวโอ้ตไว้ มาซบที่พุงของตัวเอง ลมหายใจของโอ้ตสัมผัสกับนิ้วผมเบาๆ

อ๊างงงง ทำไมผมรู้สึกมีความสุขแบบนี้วะ ไม่เข้าใจเลย แต่ที่ทำให้ผมตกใจ ก็คือ ผมเห็นรอยแดงเป็นจ้ำๆที่มือของโอ้ตคับ เลยจับเบาๆ ปรากฏว่า เป็นรอยเข็มทิ่มคับ นาทีนั้น ผมรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นรอบๆดวงตา

ไม่น่าไปพูดดูถูก ไม่น่าจะเอาแต่ใจ ไม่น่าเถียงโอ้ตเลย ทั้งๆที่เค้าทำดีกับผมขนาดนี้

“โอ้ต” ผมกระซิบเหมือนให้ตัวเองได้ยินคนเดียว

“ขอบคุณนะคับ”

ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองเหรอเปล่า แต่โอ้ตมันกระตุกตัวนิดนึง ก่อนที่จะนิ่งไปเหมือนเดิม ( ไม่ได้แน่นิ่งนะว้อย)

* * * * * * * * * * * *

ติ้ง ต่อง ต้อง ต่อง ต่อง ตอง ต้อง ต่อง

เสียงสัญญาณดังไกลๆ ว่าผมกะโอ้ตต้องรีบวิ่งเข้าโรงเรียนแล้ว ระยะห่างระหว่างหน้าประตูโรงเรียนกะที่เข้าแถวมันไกลกันพอสมควร ประมาณเกือบ 2 สนามบอล

“แล้วเราต้องไปเข้าแถวตรงไหนอ่ะ” ผมดูว้าวุ่นใจเมื่อเห็นว่า นร แต่ละคนก็มีจุดหมายที่วิ่งไปทั้งนั้น แต่ตัวเองยังไม่รู้ว่าจะต้องไปที่ไหน

“เออ …” เฮ้ย อย่าบอกนะว่ามึงก็ไม่รู้

“เดี๋ยวพาไปฝากอาจารย์ไว้ก่อนล่ะกัน ”

อ้าวเวร

ซักพักหลังจากที่เคารพธงชาติเสร็จ สวดมนต์ แผ่ส่วนกุศล แล้วก็มีคนมาพูดๆ จนเด็กเหงื่อตกเสร็จ ก็ได้เวลาแยกย้ายไปเรียนคาบ 1 แต่ผมยังอยู่ที่ห้องวิชาการอยู่เลย มีปัญหานิดหน่อย

“ตอนผมสมัครไว้ ผมเลือกสายศิลป์นะคับ ผมบอกกับอาจารย์หลังจากที่รู้ตัวว่าต้องไปเรียนห้องสายวิทย์ ”

“ตอนเธอสมัครน่ะ เค้ามีใบสีชมพู กับสีเขียว เธอเขียนใบไหน” อาจารย์ถามผม

“สี ไหน” ผมก็เริ่มต้นคิด

“เอ้า สีไหนยังจำไม่ได้เลย ครูว่าเธอเขียนใบสีเขียวล่ะซิ แย่จัง” ว่าพลางหันไปปรึกษากับเพื่อนครูคนอื่น ที่ยังดูยุ่งวุ่นวายเหมือนกัน

“เอางี้ เธอไปเรียนห้องนี้ก่อน แล้วถ้าย้ายห้องได้แล้ว จะให้คนไปบอกนะ” ครูคนนั้นรีบตัดบท ซึ่งผมก็ไม่ค่อยพอใจเอามากๆอ่ะ ตอนโรงเรียนเก่า ผมไม่ได้เรียน ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ มานี่หว่า แล้วจะให้มาเรียนกะห้องวิทย์ได้ไงวะ แถมวิชาแรกวันนี้ มันคือ เคมี !!

ผมเดินแบบเกร็งๆไปอยู่ที่หน้าห้องเรียน ซึ่งตอนนี้ก็ทำการเรียนการสอนไปได้เกือบครึ่งคาบแล้ว

“มายืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น เธอ” ครูในห้องเหลือบมาเห็นผมเข้าพอดี พร้อมๆกับสายตาคนในห้องก็หันมามองที่ตัวผม โอ้ว พระเจ้าจอร์จ อาย

“คะ คือ ผมเป็นนักเรียนใหม่ครับ จะมาอยู่ห้องนี้” ผมบอกอาจารย์ คนในห้องก็ซุบซิบๆคับ ยิ่งทำให้ผมตื่นตระหนกเข้าไปอีก ผมลืมขึ้นไปเลยว่า สังคมเด็กในกรุงเทพก็อีกอย่างนึง สังคมเด็กต่างจังหวัดก็คงจะเป็นอีกอย่างนึง พึ่งจะมาบรรลุเอาตอนนี้อ่ะคับ แล้วจากนั้น คาบชีวะในตอนแรก ก็เปลี่ยนมาเป็นคาบแนะนำตัวผมหน้าชั้น ซึ่งเป็นอะไรที่ผมเกลียดอย่างแรง

“มาจากไหนอ่ะ ”

“กรุงเทพคับ”

“จบจากไหนมาอ่ะ”

“สวนกุหลาบ

“ฮิ้ววววว สวนกุหลาบด้วย” จะฮิ้วห่าไรพวกมึง

“ทำไมขาวจัง ”

“เออ …” เอ้า ขาวก็ผิด

“มีแฟนยังอ่ะเธอ”

“เออ…” ถามเพื่อราย

จนหมดคาบ ผมรู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก โรงเรียนเก่าผมไม่มีผู้หญิงคับ ยิ่งทำให้วางตัวไม่ถูกหนักเข้าไปใหญ่ อะไรๆก็ดูแปลกไปหมด พอหมดคาบเรียนแรก ก็ต้องย้ายไปเรียนที่ห้องอื่น ที่นี่จะเป็นแบบเดินเรียนครับ มองไปมองไปในห้องผมก็ดูเหมือนเค้าจะสนิทกันเป็นกลุ่มดีอยู่แล้ว ทำให้ยิ่งรู้สึกลำบากใจมากขึ้น (พวกเข้ามาตอน ม5 ม6 ก็จะรู้สึกประมาณนี้อ่ะ)

วันนี้เรียนไปจบหมดวันคับ ก็ยังไม่มีเพื่อนสนิท หรือรู้จักใครมากเป็นพิเศษ ตอนเช้าโอ้ตมันก็นัดผมให้มาคอยอยู่ที่หน้าห้องปกครอง เพราะว่ามันเป็นกรรมการนักเรียนคับ แล้วตลอดทั้งวันนี่ ผมก็ไม่ได้เจอโอ้ตมันเลย ยิ่งเหมือนหลุดมาอีกโลกนึงอ่ะ (เว่อร์ม่ะ)

ผมก็รอไปเรื่อยเปื่อยที่หน้าห้องปกครอง ซักพักก็มองเข้าไป ก็เจอพวกอาจารย์ปกครอง ที่แค่ดูหน้าก็ยกตำแหน่งให้ได้เลย กะลังเหมือนจะทำโทษเด็กครับ

“มึงจะมาเรียน หรือมึงจะมาต่อยกันห่ะ พ่อแม่มึงส่งมาให้เรียนดีๆไม่ชอบ เป็นห่าไรวะ” เสียงอาจารย์ดังจนผมได้ยิน อดนึกในใจไม่ได้ว่า ถ้าเป็นผมเข้าไปอยู่แบบนั้น มีหวังซีด จากนั้นไม่นาน ก็ได้ยินเสียง เปี้ยยยยยะ ประมาณ 6 -7 ทีได้

โอ้ โอ้ โอ้ตอยู่ไหนว้า ให้กรูมานั่งเหมือนแดนประหารแบบนี้ อ้ายโอ้ตตตตต

ผมพึมพำอยู่ในใจ ก็ต้องสะดุ้ง เมื่อไอ้คนที่พึ่งโดนตีมาหมาดๆ เดินลงมาจากห้องปกครองพร้อมกับเพื่อนอีกคน และเสียงสบถออกมามากมาย

“ไอ้เหี้ย เอ้ย เจ็บชิบหาย กูไม่น่าช่วยมึงเลย ไอ้สัด”

“ห่าคิว มาโทดกู ทีตอนต่อยอ่ะ ซัดเอาซัดเอา แมร่ง” พูดมาพร้อมกับเอามือจับตูดกันทั้งสองคนคับ ผมก็มองๆ ไม่ได้มีเจตนาเยาะเย้ยเลยนะ

“มองเหี้ยอะไร” ไอ้คนที่เพื่อนเรียกว่าคิว หันมามองผมพอดี เลยเป็นเรื่องเลย และด้วยอะไรไม่ทราบ สันดานการชอบเถียงของผมตอนนี้อยู่ในโหมดออฟไลน์

“ป่าวมอง” ผมพูดพลางหลบตา

“ก็ม่ะกี้มึงมองเนี่ย” มันย่างสามขุมเข้ามาหาผม เอ้ย จะหาเรื่องกูเหรอ

“เฮ้ย มึงคุยไรกะน้องกูวะ” อ่า พระเอกของโพ้มมมม โอ้ตมันเดินลงมาจากห้องปกครองพอดี แล้วก็คงเห็นไอ้คนที่ชื่อคิว กะลังเดินมาใส่ผม

“น้อง .. ” ไอ้คิวว่าพลางหันมองผมอีกรอบ “เออ ”

แล้วมานก็เดินไปคับ โอ้ตก็ถามว่ามันมาทำไรป่าว ผมก็บอกป่าว โอ้ตมันบอกว่า ไอ้คิวเนี่ย อยู่ชั้นเดียวกับผมล่ะ แต่ไอ้นี่มันก็ไม่ได้กลัวพวกรุ่นพี่อะไรเท่าไร มันกลัวคนเดียว คือหมูหยองคับ (ชื่อเรียกครูปกครองคนนึง) แล้ววันนี้มันก็ไปหาเรื่องต่อยกะน้อง ม 4 มา เลือดอาบอ่ะ หมายถึงน้องนะ มันไม่เป็นไรเลย

โหดโคตร


พอโอ้ตมันจัดการอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็พาผมเดินออกมาหาอะไรกินหน้าโรงเรียน มันเป็นคล้ายๆกับตลาดนัดอ่ะ ของขายเยอะดี โดยเฉพาะของกิน หุหุ ระหว่างเดินไปเดินมา โอ้ตมันก็ทักคนนั้นที คนโน้นที ทั้งรุ่นเดียวกัน รุ่นน้อง รู้จักคนเยอะมากๆอ่ะ แต่เวลามันจะแนะนำผมทีไร มันก็ทำท่าอ้ำอึ้งๆ

โถ ก็บอกว่าให้แนะนำว่ากรูเป็นน้องก็หมดเรื่องแระ คิดไรมาก เดินไปเดินมา ก็มานั่งรอรถกลับกันที่ป้ายรถหน้าโรงพยาบาลครับ

“แล้วโอ้ตรู้จักมันเหรอ ไอ้คิวเนี่ย”

“ไม่มีใครไม่รู้จักมันหรอก ไอ้นี่น่ะครูเค้าจะเชิญให้ออกกันทั้งโรงเรียนแล้ว”

“เลวขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมถามทำหน้าเลิกลั่ก

โอ้ตมองหน้าผมประมาณว่า อยากรู้ไปทำไม แต่ก็บอกคร่าวๆว่า ไอ้คิวเนี่ย ตอนม ต้นมันเป็นเด็กดีมากๆนะ จากนั้นพอมันขึ้นม ปลาย ก็เปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน เพราะมันไปคบเพื่อนเหี้ยๆ แล้วเพื่อนมันแต่ละคนก็หวังจะจับมันเพราะว่าบ้านมันรวย พอมันขึ้นม 5 บ้านมันก็มีปัญหาเพราะว่าพ่อตาย แม่มันก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ มันก็ยิ่งเสียศูนย์ไปใหญ่เลย

“ไอ้นี่นะ เป็นพวกที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็นความอ่อนแอของตัวเอง เป็นพวกดันทุรัง แล้วก็มาระบายออกในสิ่งที่เลวๆไง” โอ้ตว่า

“อ่าหะ ….. ว่าแต่หายโกรธแล้วดิ ”

โอ้ตมันดูเหมือนไมได้ทันตั้งตัวกับคำถามนี้ เลยทำหันหน้าไปทางอื่นซะงั้น แฮ่ๆ หายโกรธแล้วละซิ ผมก็แกล้งเอานิ้วไปจิ้มเอวมันคับ

“เฮ้ย ทำไร มันเอามื”อมาปัดคับ แต่หน้ามันยิ้มแระ

“บ้าจี้เด๊ะ” ผมได้ทีครับ เลยจิ้มอีก 555 (เลวม่ะ)

“เฮ้ย … ไม่เล่น เอ้ยยย เดี๋ยว เอ้ยย” มันร้องใหญ่เลยคับ ตลกดี “หยุดได้แล้วววววว ”

แล้วโอ้ตก็เอามือมาจับผมไว้ทั้งสองมือเลย ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลยนะ แต่รู้สึกว่ามันแปลกๆ มือไอ้โอ้ตอุ่นมากๆอ่ะ

“ทำไมคุณปริ้นมือนิ่มจังอ่ะ” ซะงั้น หลอกจับมือกู

“ก็บอกแล้วไง ม่ะต้องเรียกว่าคุณ” ผมบอกพลางรีบทำทีสะบัดมือด้วยความเหนียมอาย เอาปากกัดนิ้วชี้ทำท่าเขิล หุหุ แค่สะบัดมือเฉยๆเฟร้ย !!

“นิ่มแล้วผิดตรงไหนฟะ ไหนๆ ของตัวเองอ่ะ” ว่าแล้วผมก็ไปจับมือมัน แต่ … แฮ่ม ผมเผลอพูดคำว่า ตัวเอง กับไอ้โอ้ตไปแบบลืมตัว แต่มันก็ดูไม่ได้ติดใจอะไร เออ เกือบไปแระ

ผมก็เอามือลูบไปลูบมา เพลินดีครับ มือสากๆกว่าผมนิดหน่อย มันดูท่าทางจั๊กจี้ครับ โชคดีนะที่ที่เรานั่งพลอดรัก … เอ้ย คุยกันมันเป็นช่วงที่มืดนิดหน่อย เลยไม่เป็นที่สังเกต แล้วมันก็เย็นพอควรแล้วล่ะ แล้วผมก็ไปเห็นรอยแดงเป็นจุดๆที่มือโอ้ต

“เจ็บมากป่าว” จริงๆอยากบอกว่า ขอโทษ

โอ้ตมันก็ส่ายหน้า “ไม่เจ็บ แค่นี้เอง ”

โห มันทำแมน

ตอนนั้นรถที่พาเรากลับบ้านได้มันผ่านไป 3 คันแล้วครับ แต่ผมก็แบบว่าอ้างไปเรื่อยล่ะว่า ไม่อยากนั่งรถคนเยอะ ไม่อยากเบียดอะไรเทือกนี้ โอ้ตมันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็นั่งคอยกันไป โอ้ตตอนอยู่โรงเรียน ดีกว่าตอนอยู่ที่บ้านมากอะฮะ เพราะว่าไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร อยากให้มันเป็นพี่ผมจริงๆเลย ให้ตายดิโรบิ้น ผมไม่มีพี่ชายไง

จนเกือบ สองทุ่มแล้วครับ ปริ้นมันก็เลยบอกว่าถ้าไม่ขึ้นรอบนี้ก็ไม่มีแล้วนะ ผมก็เลยต้องเออออ ขึ้นไป คนก็ยังพอมีนิดหน่อย พอมีที่นั่ง พอรถออกจากตัวเมืองได้พักนึง รถก็ปิดไฟมืดทั้งรถเลย

“ง่วงอ่ะ นอนนะ” ผมว่า พลางปรับเบาะให้มันเอนลง

“เอากระเป๋ามานี่ก็ได้ จะได้นอนสะดวก” โอ้ตมันพูดแล้วดึงกระเป๋าที่ตักไปโดยไม่รอคำตอบ

“ขอบใจ ”

“อะไรนะ ? ”

“ป่าว” แล้วผมก็หันหน้าไปทางหน้าต่างครับ ชิส์ ทำหูทวนลมนะคุณโอ้ตตต

นั่งไปนั่งมา ผมก็ไม่หลับอ่ะ ไม่รู้เป็นไร ก็พลิกกลับตัวมา แล้วก็เหลือบไปทางโอ้ตคับ เห็นมันก็นั่งสัปหงกอยู่

หงึก

หงึก

หงึก

มันลืมตาคับ ผมก็แกล้งฟอร์มหลับตา ตอนนั้นคิดไรม่ะรู้ครับ อยากแกล้งด้วยมั้ง ช่วงที่รถมันสะเทือนๆ หัวผมก็เลื่อนไปทีละนิด ทีละนิด จนรู้สึกว่าไปพิงอยู่กับต้นแขนโอ้ตมัน อ่า นิ่มๆ แข็งๆ ตบท้ายความเนียนอย่างสมบูรณ์ เมื่อช่วงที่รถมันเลี้ยวโค้ง ตัวเราสองคนก็เรียกว่าเกือบแนบชิดกันเลยอ่ะ หุหุ น้องเนียนมากกู

โอ้ตมันก็หันมาทางผมครับ รู้สึกได้ตอนที่ลมหายใจมันมากระทบกับหัว และผมก็ได้ยินเสียง ….

- ตึก ตัก ตึก ตัก ตึก ตัก –

เสียงหัวใจโอ้ตฮะ แต่มันก็เต้นแบบปกตินะ ไม่ได้แบบสูบฉีดอะไรมากมาย แอบผิดหวังเล็กๆ 555 นี่กูคิดไรกะพี่กูวะเนี่ยยย ม่ะเข้าใจจิตใจตัวเองเลย แต่ตอนนี้ …


ผมรู้สึกอบอุ่นมาก จนอยากให้รถมันวิ่งลงไปถึงนราธิวาสเลย ^^


* * * * * * * * * * * *

“ปริ้น …”

“หือ”

“ใกล้แล้ว ”

“หือ อีกนิดน่า”

“ปริ้น มันแฉะ”

“หือ ลามกวะ” ผมยังงัวเงียตอนที่โอ้ตปลุก แล้วก็ได้ยินมันว่าผมอะไรแฉะๆนี่ล่ะ แมร่ง ม่ะได้ทำไรกันนะจะน้ำแตกได้ไง (เหอๆ คิดไปโน่น)

“อะไรลามก ? ” แล้วมันก็หันเสื้อที่เปียกน้ำลายให้ดู

“เอ๊ะ น้ำอารายอ่ะ” ผมแกล้งทำเสียงปัญญาอ่อน แล้วก็ยิ้มแฮะๆ โอ้ตมันก็พึมพำว่า คนไรวะ นอนน้ำลายไหลได้ทุกวัน

กลับมาถึงบ้าน ผมก็เห็นเค้าลางไม่ดีแล้วอ่ะ เมื่อเห็นป้าเล็กมายืนรออยู่หน้าบ้านป้าเล็กหรือแม่โอ้ตนั่นล่ะ ผมหันไปมองหน้าพี่โอ้ต ก็เสียเหมือนกัน

“ไอ้โอ้ต ทำไมพาน้องกลับดึกๆดื่นๆแบบนี้ รู้มั้ยเค้าเป็นห่วงกันขนาดไหน” แม่โอ้ตมันตวาดลั่นบ้านเลย


“ขอโทษครับ” โอ้ตยกมือไหว้แม่ตัวเอง

“แล้วแบบนี้จะให้แม่ไว้ใจ ไปไหนมาไหนกับน้องได้ไง !! ดูซิ แค่วันแรกก็พากันไปตะลอนกลับเอาป่านนี้ ข้าวปลาจะได้กินกันเมื่อไร เกิดใคร บลาๆๆๆ อีกยาวโดยมี ผมยืนเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ข้างพี่โอ้ต

“เออ ป้า - - -” ผมกะลังจะพูดบ้าง

“คุณปริ้นก็เหมือนกัน ทำแบบนี้คุณยายเป็นห่วงรู้มั้ยคะ อ้าว กูโดนบ้างแระ ป้าจัดกับข้าวไว้บนเรือนแล้ว คุณปริ้นรีบไปกินเถอะ เดี๋ยวจะเย็นหมด

“โอ้ต เข้าบ้าน ต้องฟาดกันบ้างแล้ว” ป้าเล็กพูด โอ้ตก็หันมาทางผมแป็บนึง แล้วก็เดินเข้าไปที่บ้านเค้าเลย บริเวณบ้านยายมี 4 หลังครับ มีบ้านใหญ่ บ้านที่ผมอยู่ แล้วก็บ้านของคนที่บ้านอีก 2 หลัง โห ทำไมต้องฟาดกันด้วยอ่ะ โตขนาดนี้แล้ว ผมมองหน้าป้าเล็ก คิดในใจ

ผมก็ขึ้นไปบนเรือนใหญ่ ยายผมก็นั่งดูทีวีอยู่

“ยาย กลับมาแล้ว - - คับ”

“กลับมาแล้วก็รีบกินข้าวกินปลาซะ เย็นหมดแล้ว” ยายผมบอก ไม่มีท่าทีโกรธเหมือนป้าเล็กเลยแฮะ “แล้วเจ้าโอ้ตไปไหน”

“ป้าเล็กเรียกไปที่บ้านอ่ะยาย ท่าทางโกรธมากด้วย”

“เล็กเค้าก็เป็นแบบนี้ล่ะ เป็นห่วงไม่เข้าเรื่อง ”

“เค้าจะตีพี่โอ้ต” ผมรีบฟ้องยายทันที หวังว่ายายคงจะช่วยได้

“แล้วทำไมปริ้นถึงกลับมาช้าล่ะลูก” ยายผมถามอย่างใจเย็น ตาก็ดูทีวีไป

“คือ คือ …คือปริ้นต้องทำเรื่องย้ายห้องอ่ะครับ ครูเค้าให้ปริ้นเรียนห้องสายวิทย์อ่ะ” ผมนึกคำตอแหลได้แบบสดๆร้อนๆ

“เลยต้องอยู่เย็น ? ” ยายผมส่งสายตามา

เฮือก

“ครับ” ผมตอบแบบเสียไม่ได้

แล้วก็เหมือนสวรรค์ช่วยคับ ยายลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ ได้ยินเหมือนคุยกับป้าเล็ก คือ โทรศัพท์ที่บ้านมันจะแบบพ่วงต่อกันหมดเลย ไม่ต้องเดินไปเดินมาให้เหนื่อย ผมก็ลุ้นๆอยู่ แล้วยายก็วางโทรศัพท์แล้วก็เดินมาปิดทีวี

“แม่เค้าฟาดลูกไป 3 ทีแล้ว นี่ก็จะไม่ให้มากินข้าวด้วย แต่ยายบอกว่า ให้มากินเถอะ” ยายบอกผม

“ปริ้น เดี๋ยวยายเข้านอนก่อนนะ พอเจ้าโอ้ตมากินข้าวแล้วก็ให้ปิดประตูด้วย”

“ครับ”

“- - เออ แล้วเมื่อกี้แม่เจ้าโอ้ตเค้าบอก เจ้าโอ้ตสารภาพว่า มัวแต่ซ้อมบอลจนลืมเวลา ก็เลยกลับดึก ทีหน้าทีหลัง จะซ้อมฟุตบอล หรือ ทำเรื่องย้ายห้อง ก็ทำให้มันเร็วๆหน่อยนะลูกปริ้น ”

ว่าแล้วยายก็เดินไปในห้องด้วยสีหน้าเหมือนจับผิดหลานได้แบบนั้นล่ะ


* * * * * * * * * * * *

ลงจากเรือนปั๊บ ผมก็วิ่งแจ้นไปทางบ้านโอ้ตเลย ป่านนี้จะเป็นไรมากป่าวน้า มันเจ็บเพราะผมอีกแล้ว อยากจะขอโทษเป็นพันครั้ง เดินไปจนถึงหน้าประตูบ้าน แต่ก็ไม่กล้าจะเคาะอ่ะ ก็เดินวนๆ รอ แต่ก็ไม่ยักออกมาซะที พอดีกับเห็นเงาคนลางๆ นั่งอยู่ที่ม้านั่ง

“โอ้ต…” ผมทัก เจ้าของเงาสะดุ้งตัว แล้วก็เอามือปาดที่ใบหน้า ถึงมันมืดไม่เห็นอะไร ก็พอรู้ว่าโอ้ตมันร้องไห้

“ว่าไง” น้ำเสียงมันแกล้งทำเป็นปกติ

“ป่ะ ไปกินข้าวกัน ”

“ไม่ล่ะ ผมไม่หิว”

“เฮ้ย ไม่หิวได้ไง ก็ยังไม่ได้กินอะไรมาเหมือนกัน ป่ะ” ว่าแล้วผมก็เดินไปจูงมือมันออกจากเงามืด แอบเหลือบมอง ก็เห็นเป็นคราบน้ำตาจริงๆครับ

“ไม่หิว จริงๆนะ” โอ้ตตอบผมเบาๆ

ผมอยากจะเอาอะไรที่ผมมีอยู่แลก เพียงเพราะแค่ให้อ้าปาก แล้วบอกคำว่าขอโทษกับโอ้ต แต่ทำไมมันถึงพูดไม่ออกวะ ไอ้เชี่ย

“แต่เราหิวหว่ะโอ้ต” ผมพูดแกมบังคับ

โอ้ตมันก็มองหน้าผมครับ

“ขอโทษครับ แต่ว่า ….. เลิกบังคับผมซะทีเหอะ” สีหน้าโอ้ตพูดแบบจริงจังมาก จนผมกลัว

“- - -”

เฮ้ยๆ มึง หยุดเลย กูบอกให้หยุด หยุด หยุด หยุด อย่านะว้อยยยยย

ถึงแม้ว่าสมองผมจะสั่งแบบนั้น แต่ก็มีของเหลวใสๆ หยดลงมาจนได้ ทำไมผมถึงเสียใจกับคำพูดของโอ้ตขนาดนี้วะ

“อืม …. ขะ ขอโทษ - - - ขอโทษที่เราชอบสั่งนาย บังคับนาย ทำสิ่งที่นายไม่ชอบ ”

หยดที่สองไหลก็ไหลตามมา

“ขอโทดที่ต้องให้เสียเวลาไปซื้อนั่นซื้อนี้ ขอโทษที่ทำให้ต้องเดือดร้อน ฮึก… ตะ แต่ตอนนี้ เราดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องรบกวนนายแล้ว ”

พูดเสร็จ ผมก็เอามือปาดน้ำตา แล้วก็จ้ำพลวดๆกลับเข้าบ้านเลย ข้าวปลาไม่กินแล้วคับ อารมณ์มันน้อยใจง่ะ แต่เราจะน้อยใจไปทำไมวะ เค้าไม่ใช่ญาติเรา ไม่ใช่พี่เรา ไม่ได้เป็นอะไรกับเราซะหน่อย เรามันก็เป็นแค่หลานของเจ้านายเค้าเท่านั้น แหม ทำไมยิ่งคิดน้ำตาก็ยิ่งไหลวะ กูอ่อนแอจังวะ แค่นี้เอง

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-4-12]
«ตอบ #24 เมื่อ05-04-2012 14:15:18 »

ปั้งๆ เสียงเคาะประตู

ปั้งๆๆ

แอ๊ดด

“ทำไมต้องร้องไห้ด้วย ?” โอ้ตมันเปิดประตูเข้า หน้าแมร่งโคตรโหดเลย .. จะตามมาฆ่ากูเหรอเนี่ยยย

“ทำไมต้องร้องไห้ด้วย !!” โอ้ตถามเสียงเครียด

“…………”

“ถามแล้วทำไมไม่ตอบ ไอ้คนเห็นแก่ตัว” โอ้ตมันตะคอกใส่อีกชุด แล้วก็เดินเข้ามาเขย่าตัวผม

“เจ็บ ….. ”

“ทำสำออยเหรอ … โอ้ตโดนหนักกว่านี้ ยังไม่พูดซัก หือออ !! ” มันจับจนแขนชาไปหมด ผมตัวสั่นน้อยๆ

“จากนี้ไปก็ต่างคนต่างอยู่เหอะ ปริ้น” โอ้ตตะโกนใส่หน้า

“ปล่อยยยยยยยยยยย” ผมตะโกนสุดเสียง

พลั๊กก …

แหง่ก แหง่ก

ผมลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองลงมานอนแอ้งแม้งอยู่ข้างล่าง พยายามยันตัวขึ้นพร้อมกับสะบัดหัวให้หายงัวเงีย นาฬิกาตอนนี้บอกเวลาตี 5 กว่าแล้ว

โอ้ตมันไม่ได้มาหาผมหรอก โอ้ตไม่ได้เข้ามาอาละวาดใส่ ผมแค่คิดมากแล้วก็ผล่อยหลับไปเท่านั้นเอง ตอนนี้สภาพตัวเองดูไม่ได้สิ้นดี หลับไปทั้งๆที่ยังไม่ได้อาบน้ำ รู้สึกว่าท้องไส้ปั่นป่วนเพราะไม่ได้กินข้าวเย็น แถมเสื้อที่จะใส่ไปวันนี้ก็ยังไม่ได้ปักชื่ออีกต่างหาก เฮ้อ …

ประมาณครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นผมก็รีบจัดการตัวเองให้เสร็จ เสื้อก็ใส่แบบไม่ได้ปักชื่ออะไรทั้งนั้น รู้สึกเซ็งมากมายครับ เหงาแบบบอกไม่ถูก ตั้งแต่มาที่นี่ ผมพึ่งรู้สึกตัวเองอยู่คนเดียวจริงๆ ก็ตอนนี้หล่ะ อยากกลับบ้าน แต่ ผมก็ไม่มีบ้านให้กลับแล้ว

ก็ที่นี่ เป็นบ้านของผม


* * * * * * * * * * * *

“อ้าว แล้วไม่รอไปพร้อมเจ้าโอ้ตหรือปริ้น” ยายผมตะโกนถามเมื่อเห็นผมเดินอย่างเงียบๆ ไปทางประตูบ้าน โหย เรียกซะดัง

“ชู่ ชู่ เบาๆก็ได้ยาย” ผมทำท่าจุ๊ๆ ไม่อยากให้ไอ้โอ้ตรู้ว่าแอบไปก่อน ทำไงได้ง่ะ ผมไม่อยากเจอหน้ามันนี่นา …อืม อย่างน้อยก็ตอนนี้แหละ

“แล้วไม่กินข้าวเช้าก่อนเหรอ” สงสัยยายจะไม่เข้าใจรหัสมอสของผม บอกให้เบ้า เบา ผมก็หันไปทางบ้านโอ้ต ก็เงียบคับ ตอนนี้ก็พึ่งจะ 6 โมงเอง เช้ามากมาย

“งั้นผมไปก่อนนะยาย หวัดดีคับ ”

“ไปดีๆนะลูก ”

“คับ”

ระหว่างทาง เกือบชั่วโมงของผม ไม่มีความรู้สึกง่วงเลย ในหัวก็คิดไปต่างๆนาๆ ว่าจะทำไงต่อดีวะเรื่องทะเลาะกะโอ้ต ไหนจะเรื่องเปลี่ยนห้องเรียน ไหนจะต้องวางตัวกะคนในห้องอีก เครียดๆๆๆๆ พอถึง โรงเรียนก็โดนยามกักตัวไว้คับ แบบว่าเสื้อ นร ไม่เรียบร้อยไง มีแต่ตราโรงเรียนโผล่มา

ตอนนั้นเรื่องโอ้ตผมไม่เครียดแล้วล่ะ มาเครียดเรื่องโดนเรียกขึ้นห้องปกครองเพราะว่าเสื้อไม่เรียบร้อยแทน เซ็งมาก เรื่องมาก กรุงเทพไม่เห็นต้องมาปักชื่อให้วุ่นวายเลย วุ้ย แล้วก็มีพวกแต่งตัวไม่เรียบร้อยจริงๆ ขึ้นมาอีก 4 -5 คนอ่ะ อาจารย์เค้าก็ไล่ถามทีล่ะคน พอดีว่าผมเป็นเด็กใหม่ ก็เลยอ้างโน่นนี่ ประกอบกับผมหน้าตาเรียบร้อยไง 55 เลยแบบว่ารอดตัวไปอย่างหวุดหวิด แต่ก็ต้องถูกจดชื่อให้พรุ่งนี้มาตรวจใหม่ = =’’

“ฮัลโล ยายเหรอคับ ยายแถวบ้านมีที่ปักเสื้อป่ะ คือ” บลาๆๆๆ ผมก็โทรไปให้ยายช่วยจัดการหาร้านปักให้ (ซึ่งน่าที่จะทำตั้งแต่แรกแล้วล่ะ) ยายก็บ่นให้ฟังอีก 1 กัณฑ์ พอผมวางปั๊บ ก็ได้เรื่องปุ๊บ

“เฮ้ย ไอ้ซีดนั่นน่ะ ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในโรงเรียน !! ” อาจารย์ปกครองตะโกนมาหลังจากผมก้าวออกจากห้องได้ไม่ถึง 3 ก้าว คือ ผมโทรหายายหน้าห้องปกครองเลย อ้าว กูไม่รู้นี่หว่า แล้วมาเรียกกูว่าไอ้ซีด โห โคตรเคือง

“ตอนเย็นมาเอาคืนล่ะกัน” อาจารย์เค้าว่าแบบนั้น แล้วก็ตะเพิดให้ผมรีบไปขึ้นเรียน

วันนี้เปิดเทอมวันที่ 2 ผมก็เข้าสายครั้งที่ 2 แถมโดนเรียกขึ้นห้องปกครองด้วย เสียเครดิตหมดเลยตู วันนี้โหดกว่าวันแรก เพราะว่าคาบก่อนพักเป็นวิชาฟิสิกส์ !! ผมก็นอนฟังอาจารย์สอนไป หลับไป เพราะดันตื่นแต่เช้า ไม่รู้เรื่องเร้ยยยย แล้วผมก็คิดถึงโอ้ตขึ้นมาคับ แมร่ง … ไม่รู้ตอนนี้ทำไรอยู่ เรียนวิชาไรอยู่ว้า แล้วทำไมกูออกมาก่อน ไม่คิดจะโทรถามกูบ้างเลยเหรอไง เหอะ แต่มันจะคิดถึงเราทำไมวะ เอ๊ะ - - ออดแล้วว้อยย เย้ เย้

ติ้ง ต่อง ต้อง ต่อง ต่อง ตอง ต้อง ต่อง

“เออ เธอ เธอ” มีคนมาสะกิดผม ตอนที่กำลังเก็บข้าวของลงกระเป๋า

“ไปกินข้าวกับพวกเรามั้ย” คนที่นั่งอยู่ข้างๆผมนั้นเอง รู้สึกว่าจะชื่อ แอน อะไรนี่ล่ะ (ผู้หญิงไม่ค่อยอยากจำชื่อ แฮะๆ ก็ไม่ได้ขนาดน้านนนน)

“อ่อ เอาดิ” ผมยิ้มตอบให้ ก็ยังดีคับ ผมไม่ต้องมานั่งกินคนเดียวเหมือนเมื่อวาน ตอนที่นั่งกินข้าวไป แอนกะเพื่อนๆอีกสองสามคนก็ชวนคุยกันหลายเรื่อง แต่ส่วนมากก็จะพูดเรื่องในโรงเรียนนี่ล่ะ ผมก็ฟังไป กินไป แล้วก็ต้องสะดุ้ง เพราะว่าเหมือนมีอะไรเย็นๆมาอังที่แก้ม

“เฮ้ยยย” ตกกะใจสุดขีด

“ไง มาไม่ทันไร ก็มีสาวๆมาตอมแล้ว” ไอ้พี่ท็อปนั่นเอง

“ไม่ใช่ขี้ วู้” ผมพูดแบบอารมณ์เสียที่โดนแกล้ง แล้วก็มาแซวด้วย ม่ะชอบๆ

“เออ นั่งด้วยดิ ไม่มีโต๊ะแล้ว” ว่าแล้วก็มานั่งข้างๆผม

“แล้วไม่เห็นยกอะไรมาเลยอ่ะ” ผมถามด้วยความสงสัย ก็พี่แกมีแต่น้ำขวดเดียว

“ฝากไอ้โอ้ตซื้ออยู่ เดี๋ยวมันยกมา”

“เหรอ ….” เวน ในใจตอนนี้บอกไม่ถูกว่าดีใจ หรือว่า หนักใจกันแน่ครับ อยากเจอหน้านะ แต่ทำหน้าไม่ถูก โอ้ยงง แล้วก็ไม่ต้องให้ผมงงนาน เพราะว่า พี่ท็อปก็ยกมือเป็นโบกให้โอ้ตมันเห็น ผมก็แกล้งทำของตกคับ แล้วก็แอบเหลือบตามองจากข้างล่าง (เรื่องเนียนยกให้กรู)

โอ้ตมันก็เดินมา สาบานได้ว่าผมเห็นมันชะงักไปแว่บนึง ก่อนที่จะทำหน้าตายเดินมานั่งฝั่งตรงกันข้าม เยื้องกันเล็กน้อย ผมก็ไม่ทำไรคับ นั่งจ้วงๆข้าวในจาน

แอนมันก็เห็นผมกินแปลกๆ

“หิวมากเหรอปริ้น ทำไม - - -”

“หิวดิ … ก็ไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อคืน” ผมจงใจเน้นเสียงนิดหน่อย แต่ไอ้โอ้ตก็กินหน้าตาเฉยคับ สายตาก็ไม่ได้มองมาทางผมเลย แล้วอยู่ๆมันก็พูดกะพี่ท็อป

“เออ ข้าววันนี้เป็นไรวะ ไม่อร่อยเลย สู้ผัดมาม่าที่กูกินเมื่อคืนก็ไม่ได้” แล้วมันก็ส่งสายตามาทางผม

โห จี้ดดดดดด

“เด๋วปริ้นไปห้องสมุดก่อนนะ” ผมหันไปบอกทางแอน แล้วก็ลุกออกไปเอาจานวางที่ราง ในใจตอนนั้นโคตรเจ็บใจอ่า ไม่รู้ทำไม ว่าแต่ห้องสมุดมันอยู่ไหนวะ กูไม่รู้จัก =*=


* * * * * * * * * * * *


ตอนผมดูตารางสอนครั้งแรก ก็รู้ว่า โรงเรียนนี้ดีอยู่อย่างคับ เพราะว่ามันมีคาบว่างด้วย แล้วก็มีเยอะพอควร เพราะว่าเริ่มเรียนตั้งแต่ แปดครึ่ง กว่าจะเลิกก็ สี่โมงเย็น ไม่เหมือนในกทม มันก็เลยมีเวลาให้มีคาบว่างไง ก่อนจะหมดเวลาพักเที่ยงแป็บนึง

“นายxxxxxx มาพบอาจารย์ที่ห้องวิชาการในเวลานี้ด้วย ”

อ่า เป็นไปตามคาดคับ อาจารย์ที่วิชาการเรียกผมไปเพราะว่า ตอนนี้สามารถเปลี่ยนให้ผมไปลงห้องสายศิลป์-คำนวณได้แล้ว อาจารย์ก็ส่งตารางสอนมาให้ แล้วก็บอกว่าวันนี้ให้ผมกลับไปเรียนที่ห้องเก่าก่อน แล้วค่อยย้าย หุหุ เด็กดีอย่างผม มีเรอะจาเข้า 55 โดดซิคับ ว้าว ตั้งครึ่งวัน

ข้อดีของโรงเรียนนี้ดีอีกอย่างคือ เพราะมีคาบว่างนี่ล่ะ เกือบตลอดทั้งวันก็จะมีนร เดินไปเดินมา คับ ไม่ได้แบบว่าเหมือนบางโรงเรียนที่ขึ้นตึกกันหมด ผมก็เลยเนียนเดินไปเดินมา ไปห้องโน้น ห้องนี้ได้ แถมยังไม่ค่อยมีคนคุ้นหน้าเท่าไร เค้าก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก

ผมก็หลบไปนั่งอยู่หลังอาคาร 5 ซึ่งมันจะเป็นสวนป่าแดงข้างหลังโรงเรียน ที่มันติดๆกะภูเขานั่นล่ะ หมดคาบ 5 ผมก็ย้ายที่คับ ไปนั่งอยู่หลังตึก 1 แทน ตรงนี้มันจะมีต้นไทร (หรือต้นอะไรซักอย่าง) ใหญ่มากๆอยู่ มีม้านั่งพร้อม ก็ได้เวลานอนของผมแระ ^^ (เหี้ยมาก)
หลับไปได้แป็บนึง ก็รู้สึกตัวเพราะได้ยินเสียงคนพูดคับ

“เฮ้ย เฮ้ย ไอ้ตี๋ ที่กู ”

โอ้ว ทำไมไม่มีใครคิดจะเรียกชื่อกรูเลยเหรอวะ

“ไหนที่ใครวะ” ผมงัวเงียๆลืมตาขึ้นมา ก็เจอไอ้คิวนั่งโด่อยู่ตรงม้านั่งอีกข้างนึง

“ที่กู” มันก็ชี้ไปที่ตัวมันคับ เชี่ย กรูจะโดนต่อยมั้ย ดันไปพูดหาเรื่องมัน

“โดดเรียนเหรอมึง” มันว่าพลางหยิบซอง Mild seven ขึ้นมา

“ไม่ได้โดด ”

“เชี่ยมากนะมึง โดดแล้วโกหกอีก ม่ายไหวๆ” มันก็พูดไป แกะซองไป ห่า แล้วมึงม่ะโดดเหรอเนี่ย เลวกว่ากูอีกสูบบุหรี่ด้วย

ดูท่าทางเหมือนมันจะพูดหาเรื่องผมแฮะ เออ กูไปก็ได้วะ ผมทำท่าจะลุก

“จะไปไหนวะ นั่งเป็นเพื่อนก่อนเด๊”

“จะไปห้องน้ำ” แล้วก็ส่งสายตาเหยียดหยามไปทีนึง ประมาณว่าครายเพื่อนมรึงว้า แต่ก็แป็บเดียวจริงๆ เพราะกลัวมันต่อย แฮะๆ แล้วผมก็เดินไปฉี่ในห้องน้ำ ซึ่งตรงนี้มันจะอับคนมากๆแต่ตอนนั้นไม่ได้ทันสังเกตว่ามันก็เดินตามหลังมาด้วย ผมเข้าซอง มันก็เข้าซองด้วยคับ แต่ยืนไม่ติดกันนะ

“มองไร ”

“มองไร ยังไม่ได้มองเชี่ยไรเลย” ผมชักรู้สึกรำคาญคับ คนไม่ได้มอง หาว่ามองมันเฉยเลย ไอ้บ้า

“โห พูดเชี่ยเป็นด้วย ? อ่ะ ดูดป่ะ”

“ดูดไร ”

“เอ๊ะ …ดูดKกรูม๊าง สาดดด” เออก็จริงคับ มันยื่นบุหรี่ให้ ก็ไม่น่าถามแบบนั้นเนอะ นี่ล่ะนิสัยคนไทย

ผมก็ส่ายหน้าคับ “ไม่เอาดีกว่า ไม่เคย”

“ก็เคยซะเซ่ะ ไม่เหม็นหรอกน่า ไม่ใช่กรองทิพย์” แล้วมันก็ยื่นอันที่มันดูดอยู่ให้ผมลอง

“เอ้า … ผู้ใหญ่ให้ของก็ร๊าบบบบบบบ”

โอ้ว อาจจะมีคนคิดว่า ทำไมผมไม่ปฏิเสธ มันยากคับ มันยากมาก ในที่แบบนั้น แล้วท่าทีมันไม่น่าไว้ใจเลยอ่ะ ถ้าผมเกิดทำอะไรให้ไม่พอใจ กลัวมันจะไม่ปล่อยให้ผมลอยนวล ก็เลยยอมๆไปก่อน

ฟืดดดดดด

“แค๊กๆๆๆๆๆๆๆ”

“555 ใครเค้าดูแบบไหนว้า ไม่เป็นเลยไอ้นี่” ไอ้คิวมันขำใหญ่เลยคับ สาดดด แกล้งกูนี่หว่า เลือดขึ้นหน้าแล้วผม ฆ่าได้หยามไม่ได้ว้อย

“มานี่ ต้องทำงี้” แล้วมันก็สาธิตแบบช้าๆ สูดยาพิษเข้าปอด

ฟืดดดดด แล้วก็คายสารพิษออกมาทำร้ายคนรอบข้าง

“เอ้า ลองๆ”

ผมก็บ้าจี้รับมาลองอีกคับ เหอๆ = =’’

“เออ เก่งๆๆ - - -”

“เฮ้ย ใครดูดบุหรี่ในห้องน้ำ”

เชี่ยแล้วคับ เสียงอาจารย์ปกครอง ไอ้คิวทำหน้าตื่นบอกให้ผมหลบไปในห้องน้ำ

“ล่ะ แล้วนายอ่ะ” ทำไมผมต้องเป็นห่วงใครด้วยวะ จะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว

“ช่างกูเหอะ” แล้วมันก็ถีบส่งผมเข้าไปในห้องน้ำ แล้วก็ปิดประตูล็อกจากด้านนอกคับ จะได้เหมือนกะว่าไม่มีใครเปิดใช้ ซักพักก็มีเสียงโหวกเหวก ข้างนอก

“มีใครสูบกับมึงอีกป่าวเนี่ย” เสียงอาจารย์ดังขึ้น

“คนเดียวจาน” พอดีเคียดๆ ก็เลยลงมาสูบ

ป๊าบบ เสียงไอ้คิวโดนฟาดด้วยมือคับ ตอบกวนตีน

“มาปากดีนะไอ้คิว มึงจะโดนให้ออกอยู่แล้ว เฮ้ย ไปดูในห้องน้ำดิว่ามีใครหลบอยู่ป่าว” แย่แหล่วววว

เสียงเปิดห้องไล่มาทีละห้อง ทีละห้องคับ ใจผมเต้นไม่เป็นจังหว่ะเลย แก้ตัวไม่ออกด้วย เพราะว่ากลิ่นบุหรี่ติดตัวผมเลยอ่ะ แง๊ๆๆๆ

โดนยายฆ่าแน่

จนผมได้ยินเสียงเปิดกลอนจากด้านหน้าห้องที่ผมหลบอยู่ เหงื่อหยดเป็นทาง แต่ตัวผมกลับเย็นเฉียบ

แกร๊กกก

“ปริ้น ….?” กลายเป็นไอ้โอ้ตคับ เปิดประตูมาเจอผม ดูสีหน้าก็รู้ว่ามันตกใจมากเลย

“เออ …” ผมไม่รู้จะแก้ตัวยังไง ตอนนี้ผมยอมให้อาจารย์เปิดมาเจอดีกว่าให้โอ้ตมาเจอผมในสภาพแบบนี้

“ดูดบุหรี่เหรอ” ไม่ต้องรอให้ผมต้องตอบคับ มันก็กระชากตัวผมออกมาจากห้องน้ำเลย ออกมาข้างนอก พวกอาจารย์ก็พาไอ้คิวเดินไปไหนแล้วก็ไม่รู้

“เออ … โอ้ต คือ ไม่ใช่”

“ดูดบุหรี่เหรอ ? ” มันถามซ้ำคับ ตอนนี้สีหน้ามันเรียบเฉยมาก เหมือนอาจารย์ที่ห้องปกครองเลย มันไม่ใช่พี่ชายพ๋มแล้ว

“เออ ก็ไอ้นั่นมันให้ลอง ก็ - - -”

“ไอ้เหี้ยนั่นให้ลอง ก็ลองเหรอ !!!!!! ไอ้เด็กไม่มีหัวคิด” เจ็บคับ เจ็บโคด โอ้ตมันตะโกนใส่ อารมณ์คงสุดๆแล้วอ่ะ เออ จาด่าอาไรก็ด่าเลย

“ขอโทษ” ผมจ๋อยคับ ไม่มีอะไรนอกจากจ๋อยสนิท ยืมก้มหน้าเงียบ

“พ่อแม่ให้มาเรียนหนังสือ ก็โดด - - -” ตัวผมหดไป สองนิ้ว

“โดดไม่พอยัง หัดสูบบุหรี่ อะไรนะเนี่ย อาไร อ่อ เซเว่นด้วย - - -” ตัวผมหดไปอีก สี่นิ้ว

ผมก็เงียบคับ มันก็โกรธจนเหนื่อยแล้วมั้ง รู้สึกว่าสงบได้บ้าง

“จะให้ทำยังไง บอกมา ”

“- - -”

“เอ้า !!!! พูดเซ่ !!!!! ” โอย มึงไม่ต้องตะโกนก็ได้ กรูรู้สึกผิดจนจะร้องอยู่แล้ว

“…ก็ เรา เราทำผิด จะทำอะไร ก็ทำเถอะ ”

โอ้ตฟังผมพูดแล้วก็เงียบไปพักนึง เหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง ผมคาดเดาไม่ได้เลย ใจเต้นตึกตักๆ

“ไปเอากระเป๋ามาไป” โอ้ตบอกผมเสียงเฉียบ

ผมก็วิ่งไปตามคำสั่งเลยคับ ไม่มีบิดพลิ้ว เหอๆ แล้วมันก็เดินนำไปห้องปกครองฮะ

อ้าว นึกว่าจาปล่อยกรูซะอีก แหง่มๆ

แต่ผิดคาดคับ โอ้ตมันบอกว่าให้ผมรออยู่ที่หน้าห้อง ไม่ต้องขึ้นไป ในห้องผมได้ยินเสียงฟาดเพี้ยะๆ สงสัยจาเป็นไอ้คิวแน่ ซักพัก โอ้ตก็เดินถือกระเป๋าออกมา

“ป่ะ กลับบ้าน”

โห ตอนนั้นนะ เหมือนยกภูเขาออกจากอกไปครึ่งลูก อยากจาโดดกอดมันเลยคับ หุหุ แต่ก็ต้องสงบจิตสงบใจนิดส์นึง เราก็ไปนั่งรอรถเหมือนกะวันแรก เพียงแต่คราวนี้ พอรถมาปั๊บ โอ้ตมันก็ลากขึ้นรถเลย วันนี้โชคดีมากๆคือไม่เบียดเท่าไร แต่ก็ต้องยืนอยู่ดี

“จะได้ไม่โดนด่าอีก …” มันพูด “โดนฟาดก็โดนฟาดคนเดียว ไม่ยุติธรรมเล้ย” คราวนี้มันพึมพำๆให้ผมได้ยิน ก็แอบยิ้มนิดนึง เลวม่ะ 55

“แล้วเจ็บมากป่ะ เมื่อคืน”

“เจ็บดิ” แล้วมันก็เอามือไปลูบก้นมันเบาๆ

“ไหนดูหน่อยดิ๊ เป็นรอยป่าว” ว่าแล้วผมก็เนียนทำเป็นจับที่สะโพกมันคับ ไม่ได้ไปจับตูดมันหรอก เหอๆ ไม่ลามกขนาดนั้น

“ทะลึงแล้ว ลามปามๆ เดี๋ยวปั๊ดไม่คืนให้ซะนี่” แต่มันพูดก็ไม่ได้ปัดป้องอะไรผมนะ

“คืนอะไร ? ”

“อ้าว ก็นี่ไง” แล้วมันก็ล้วงไปหยิบมือถือที่ผมโดนริบไปเมื่อเช้า

“หรือว่าไม่อยากได้คืน จะได้เก็บไว้เอง”

“เป็นเล่น แพงเฟ้ย แพง” แล้วผมก็แย่งกลับมาจนได้คับ มันก็ยิ้มๆ

“ขอบใจนะโอ้ต”

“อือ ….”

“ที่ทำเนี่ย” ผมอ้อมแอ้ม “เพราะว่า เป็นหน้าที่ป่ะ ”

อ่ะนะ ผมถามหาเรื่องไปมั้ยเนี่ย = =’’ แต่มันดูไม่โกรธแฮะ

“น้องทั้งคน เป็นพี่ก็ต้องดูแลน้องดิ” แล้วก็เอามือมายี้ๆหัวผม จนเป๋ไปเลย เอ๊ะ รู้สึกแปร๊บเล็กๆ

“เฮ้ย เด๋วผมเสียทรง”

“555 มีผมอยู่แค่เนี้ย ”

จ๊อกๆๆ อ่ะ เสียงท้องผมร้องขัดจังหว่ะ เสียมู้ดหมด แสดดด

“หิวอีกแล้วเหรอ” โอ้ตยิ้มหวานถาม

“อะดิ ว่าแต่ ….” ผมทำหน้าทะเล้นใส่ “อยากกินมาม่าผัดหว่ะ ว่ามันอร่อยจิงป่าว”

ได้ผลคับ ไอ้โอ้ตเขิลลลล หันหน้าไปทางอื่น แล้วก็ตอบมาเบาๆ

“โด่เอ้ย ไม่มีบุญได้กินหรอก”

ครึก ครื่นนนนนนนนนนนนน …… เสียงฟ้าร้องดังกระหึ่มมาแต่ไกล พร้อมกับหยาดฝนแรกที่ตกลงมาต้อนรับกับวสันตฤดู

เวลาประมาณเกือบหกโมงเช้า ผมยังนอนอุดอู้อยู่ในผ้าห่มอันแสนสบาย

ไม่อยากลุกออกไปไหนเลยง่ะ ผมค่อยๆลืมตาขึ้น พร้อมกับเสียงฝนตกที่ดังเซ็งแซ่อยู่ภายนอก

หน้าฝนแล้วดิเนี่ย ฤดูของคนอกหักรักคุด

ปั้งๆๆๆ

“ปริ้น ตื่นยัง เสียงโอ้ตที่รักมาปลุกแล้ว”

“ตื่นแล้ววววววว” เอ้ย เซ็ง อยากนอนต่อเจงๆ

วันนี้ยายให้โอ้ตขับรถไปโรงเรียนได้คับ เพราะเนื่องจากฝนตกหนักมากถึงมากที่สุด ออกไปรอรถมีหวังเปียกแน่ๆ หุหุ ดีจัง ไม่ต้องยืนเบียดเป็นปลากระป๋อง

“เอารถไปจอดในโรงเรียนไม่ได้ไม่ใช่เรอะ” ผมถามพลางกัดบิ๊กเปาไส้หมูแดงอย่างอร่อยเหาะ

“ไม่ได้อะดิ ต้องจอดเลยไปอีกหน่อย” ว่าแล้วโอ้ตมันก็หักรถเลี้ยวเข้าไปในโรงพยายาบาลที่ปกติเราต้องมานั่งคอยขึ้นรถกัน

“นี่ เดี๋ยวแวะกินไรก่อนนะ” โอ้ตมันว่า สงสัยจาหิวอะเด๊ะ หุหุ กรูก็กินม่ะแบ่งเลยคับ เหอๆ

“กินด้วยๆ ”

“จะกินอีกอะไรอีกวะ เมื่อกี้ก็พึ่งยัดเข้าไปนิ” มันว่าด้วยเสียงเหน่อๆของมันคับ เด๋วนี้มีว้ง มีวะ -*-

แล้วก็เข้าไปหาไรกินในโรงบาลคับ จะว่าหลายคนอาจจะรู้สึกแปลกๆนะคับ แต่โรงบาลแห่งนี้ล่ะ ที่เป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจ แหล่งพักพิง(ท้อง) แล้วก็แหล่งเก็บยานพาหนะ(รถยนต์ มอไซต์) ผัดมักกะโรนีที่นี่อร่อยมากมาย ขอโบก

ว่าแต่ว่า ตกลงมันเป็นโรงพยาบาลแน่เหรอป่าววะ !?

พอหาไรกินเสร็จ ก็เกือบจะ 8 โมงแล้วคับ ต้องรีบวิ่งกันอ่ะ แต่ฝนก็แมร่งไม่ยอมหยุดเลย แถมยังตกหนักกว่าตอนมาอีก

“โอ้ตกลับไปเอาร่มที่รถมาดีกว่า ไม่งั้นเปียกแน่”

“โห เราว่า ร่มแมร่งก็ไม่อยู่หว่ะ วิ่งฝ่าไปเหอะ แป็บเดียวก็ถึง จาเข้าแถวแล้วด้วย” ผมชี้ไปที่นาฬิกาข้อมือราโด้สุดเกร๋(ของปลอม) = =’’

“เอาจริงอ่ะ ”

“เออดิ ไป …” ว่าแล้วก็วิ่งตากฝนกันข้ามถนน รถแมร่งเบรกกันตัวโก่ง แต่ก็ปลอดภัยมาได้ เพราะข้ามทางม้าลาย (เกี่ยวม่ะ) แต่ที่ผมคาดว่า วิ่งนิดเดียวก็ถึง มันไม่ใช่คับ ไอ้ระยะที่ว่าเนี่ย มันก็ไกลพาสมควร แค่วิ่งข้ามถนน ตัวก็เปียกม่ะล่อกม่ะแล่กจะแย่อยู่แล้ว แต่ผมก็เห็นว่ามีบางคนมันโชว์เหนือวิ่งปู๊ดเดียวเข้าไปที่อาคารเลย

“แล้วนี่ปริ้นเรียนตึกไหน ? ” โอ้ตมันถาม น้ำไหลเป็นสาย แต่ ดูมานเซ็กซี่มากคับ เสื้อนร ที่มันรัดอยู่แล้ว พอเปียกน้ำก็ เห็นอะไรไปถึงไหนต่อไหน ระหว่างที่กะลังเมามันกะการแทะโลมสายตาพี่ชายตัวเองอยู่ ไอ้โอ้ตก็ทักขึ้นมา

“ปริ้น !! ”

“เออ เออ ตึกไหน” แล้วผมก็ทำมึนควักตารางสอนขึ้นมาดู

ตึก 1 แว๊ก มันเป็นตึกที่อยู่ในสุดเลย คือต้องวิ่งฝ่าฝนไปอีก

“งั้นก็เลาะๆไปแล้วกัน โอ้ตเรียนตึก นี้พอดี” มันว่า ตอนเย็นเจอกันที่หน้าปกครองนะ แล้วมันก็วิ่งไปเลย


ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-4-12]
«ตอบ #25 เมื่อ05-04-2012 14:16:21 »

วันนี้วันที่ 3 แล้วคับ ที่ผมเข้าห้องเรียนสาย เพราะว่า กว่าจะวิ่งไปตึก 1 กว่าจะหาห้องเจอ ห้องที่ย้ายมาเป็นห้อง 10 คับ คือต้องมาเริ่มปรับตัวกับเพื่อนใหม่อีกแล้ว ทั้งๆที่ 2 วันที่ผ่านมาก็เกือบจะอยู่ตัวแระ แล้วก็ไม่แปลกใจเท่าไร เมื่อผมเดินเข้าไปในห้อง(ด้วยสภาพตัวเปียกโชก) ไอ้คนในห้องก็หันมามองเป็นตาเดียว

แล้วก็มีเสียงโห่ ฮา อะไรกันเล็กน้อยพอเป็นกระสัยคับ ประมาณว่าเป็นเด็กใหม่ไง จริงๆก็ไม่ใช่ว่าผมเป็นคนน่าตาดีอะไรนะคับ ออกจาจืดชืดด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่า ไอ้พวกผู้ชายในห้องมันจะออกแนวเถื่อนๆกว่าผมหน่อย ผมก็เลยได้ความขาวเข้าสู้

เท่าๆที่กวาดสายตาดู ห้องนี้มีผู้ชายกว่า 80 เปอร์เซ็นต์คับ อีก 20 เปอร์เซ็นต์ก็ผู้หญิง อืม ดีซะอีก ผมค่อยรู้สึกไม่แปลกแยกเท่าไร เพราะเคยเรียนแต่ชายล้วนนี่หว่า ผมยังไม่ทันหายงงดี ก็ยังยื่นเงอะงะอยู่หน้าห้อง อาจารย์ก็เข้ามาพอดี

“เธอมายืนอะไรหน้าห้อง” อาจารย์เค้าไม่รู้คับ ว่าเด็กใหม่

“เออ คือ .. ผม” ตอบไม่ถูกซิกรู

“เด็กเทบ เด็กเทบ มานั่งนี่ ”

ใครวะ ดูคุ้นตามากมาย ……………….. เฮ้ย ไอ้คิว ว่าแต่ เด็กเทบเชี่ยรายเมิง

ผมก็จำยอมเดินไปนั่งคับ แต่ไม่ได้นั่งติดกับมันหรอกนะ คือมันชี้ที่ว่างตรงหน้ามันล่ะ

“เรียนห้องนี้ด้วยเหรอ” ผมก็ยื่นหน้าไปถามคับ

“ป่าว กรูเสนอหน้ามานั่งเอง” เออ ก็จริงของมัน แว๊กกก เย็สเข้ แมร่งกวนตรีนกรู

ผมหน้าเจือนนิดหน่อย แล้วก็หันมาทักทายคนที่นั่งข้างๆแทน

“หวัดดี นั่งด้วยนะ”

“ตามสบาย” มันก็ยิ้มให้คับ ใส่เหล็กดัดฟันด้วย แต่หน้าตาก็งั้นๆล่ะคับ หุหุ

“นายชื่อไรอ่ะ เราปริ้น ”

“ซังคับ” ว้าว พูดคับ ด้วยอะ สุภาพโคตรๆ (ว่าแต่ไอ้โอ้ตก็พูดกับผมนี่หว่า ทำไมไม่รู้สึกวะ 55)

“น้อยๆ หน่อยอิ๊กคิวซัง ตีสนิทเด็กเทบเลยนะเมิง”

“อิ๊กคิว พ่อเมิงเหอะ ไอ้สัด” มันหันหน้าไปด่าไอ้คิว อาจารย์ก็เลยเดินมาเบิร์ดกระโหลกมันสองตัวเลย แต่ผมอ่ะ กลั้นหัวเราะตัวงอเลย กับคำว่า อิ๊กคิวซัง คือ ซังมันตัดผมคล้ายๆสกินเฮดอะคับ 55 เอาเป็นว่า ขำแต่พองามเพราะว่า ไม่อยากเสียมิตรภาพที่ดี

ตกลงว่า ผมย้ายมาห้องใหม่แล้ว ถึงแม้ว่าจาดูเถื่อนๆ ไม่ค่อยตั้งใจเรียน แต่ก็ดูสบายๆดี ไม่ต้องแข่งขันอะไรมากมาย แต่ไอ้คิวเนี่ย อย่างที่โอ้ตมันบอกจริงๆ คือ เรียนคาบเว้นคาบ แถมคาบที่เรียน ก็เอาแต่เล่น ไม่ค่อยสนใจ ท่ำสำคัญ มันก็จาชวนผมไปดูดบุหรี่อีก

“วันนี้เอาอีกตัวป่ะวะ” มันก็ทำหน้ากวนๆถามตามสไตร์

“โดนม่ะวานยังไม่เข็ดเหรอ ”

“ตูดกรูด้านแล้วเมิง แค่นี้จิ๊บๆ - - เฮ้ย คิวซัง เอาการบ้านมาลอกหน่อย” ไม่พูดปล่าว มันก็ไปคว้าแบบฝึกหัดอังกฤษที่ซังมันพึ่งทำเสร็จไปมาเก็บใส่กระเป๋ามันเลย

“เหี้ยยยย กรูพึ่งทำเสร็จ จะไปส่งแล้ว” ไอ้ซังมันบ่นคับ คืองานเค้าให้ส่งในคาบจริงๆแล้ว ไอ้ซังมันก็รีบปั่นเพื่อจะรีบไปส่ง แต่แมร่งไอ้คิวดันแย่งไปหมักไว้ก่อน ส่วนผมเสร็จเรียบโร้ย ปลอดภัย

“เออ เด๋วกรูไปส่งให้ - - อาไร อาไร ทำหน้าๆ”

“ไอ้คิว มึงก็แบบนี้ทุกที บอกว่าจะส่ง มึงก็ไม่ส่ง เอาไปดองไว้” อ่าแสดงว่ามันไม่ใช่ครั้งแรก

“แค่นี้ทำบ่น แหมทีขอกรูจับK กรูยางให้มึงจับได้เลย สัด” ไอ้คิวมันพูดขึ้นมาลอยๆคับ คงลืมไปว่ามีผมนั่งหน้าแป้นแล้นอยู่ข้างๆไอ้ซัง

ได้ยินแค่นั้น ก็เอ๋อแดกเลยผม หันหน้าหาไปซังประมาณว่า เมิงขอมันจับKเจงเหรอ ?

“เหี้ย คิว พูดไรวะ” แล้วมันก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับเสียงขำของไอ้คิวไล่ตามหลังไป


* * * * * * * * * * * *

ติ้ง ต่อง ต้อง ต่อง ต่อง ตอง ต้อง ต่อง


อ่า เสียงสวรรค์เสียงสุดท้าย เป็นอันว่าวันนี้ก็เลิกเรียนแล้วคับ ตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าจาสนิทกะอิกคิว .. เอ้ย ซังมากที่สุดในห้องแล้วคับ ไอ้คิวไม่นับเพราะไม่ได้อยากสนิท แต่ก็แปลกใจนิดหน่อยว่า ซังมันก็เข้าคุยกะทุกกลุ่มได้ แบบว่าเป็นคน friendly มากๆ แต่ทำไมมันถึงมาอยู่กลุ่มเดียวกะไอ้คิวได้ กลุ่มคิวจะมีอีก 2-3 คนที่แบบว่า เถื่อนพอๆกะมันเลย

“แล้วนี่บ้านอยู่ไหนอ่ะ ”

“อ่อ อยู่ชะอำ”

“โห โคตรไกลเลย แล้วมารถประจำเหรอ”

“ป่าว ก็ปกติมานั่งรถ ป2 มา แต่วันนี้ฝนตก ก็เลยมากับรถยนต์กะพี่อ่ะ ”

“พี่นายใครวะ ”

“พี่โอ้ตที่เป็นประธานนักเรียนอ่ะ แบบว่า คือ … เป็นญาติๆกัน”

ระหว่างนั่งรอโอ้ต ซังมันก็มานั่งเป็นเพื่อน แล้วก็ชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย คุยเรื่องคนโน้นที คุยเรื่องคนนี้ที แต่ซังมันจะบ่นเรื่องไอ้คิวให้ฟังมากที่สุดคับ มันเหมือนเป็นลูกไล่ไอ้คิวเลย

“อ้าว มาคอยนานยัง”

“นานอย่างมากอ่ะ ทำไรอยู่” ผมได้ทีรีบแขวะไปตามเรื่อง

“หวัดดีคับพี่โอ้ต ”

“เออ ดีซัง เป็นไง ”

“ก็เหมือนเดิมหล่ะพี่”

“เออ กีฬาสีปีนี้ ห้องซังอยู่สีเดียวกับพี่นี่นา ว่าจะเรียกมาคุยเหมือนกัน”

“อีกตั้ง 3 เดือนเนี่ยนะพี่ เร็วไปป่าว”

“เออ แล้วห้องเราอยู่สีอา - - -” ผมพยายามจะเข้าไปมีส่วนร่วมคับ แต่ก็โดนเบรก

“โห ดูอย่างปีที่แล้วซิ มันเตรียมตัวกันตั้งแต่ปิดเทอม ยังเกือบล่ม”

“พี่โอ้ตก็ต้องจัดการดีๆแล้วอ่ะ จะได้ไม่ต้องโดนพวกรุ่นน้องประณาม”

“เออ - -” ผมไม่รู้จะพูดไรคับ ก็ยืนฟัง ในใจก็คิดประมาณว่า กรูกลายเป็นโดดเดี่ยวผู้น่ารักไปแระ

“งั้นเดี๋ยวพี่กลับก่อนนะ ”

“ครับ งั้นไปก่อนนะปริ้น” ซังมันยิ้มให้ผมก่อนจะแยกไปทางใครทางมัน

“อืม” ม่ายสบอารมณ์คับผม ม่ายสบอารมณ์อย่างมาก

“เป็นไรไป เงียบเชียว” โอ้ตมันคงพึ่งสังเกตได้มั้งคับ ว่าตั้งแต่เดินออกจาก รร แล้วก็ขึ้นรถ ผมไม่พูดซักคำเดียว

“- - -”

“เป็นไร”

“ป่าว” แข็งคับ แข็ง ปากแข็ง

“เช้ยยยยยย ….. ”

“อ้าว เป็นไงล่ะ ตากฝน เป็นหวัดแล้ว” โอ้ตว่าพลางเลื่อนมือไปเบาแอร์

“ก็ตากเหมือนกันน่ะล่ะ ”

“เอ้า มาเทียบกันได้ไง โอ้ตแข็งแรงกว่าปริ้นตั้งเยอะ ”

“เออ ใครจะไปถึกสู้คุณโอ้ตได้ล่ะคร๊าบบบบ” แล้วผมก็หันหน้าไปทางหน้าต่าง ทำมองดูวิว แต่ในใจ ทำไมมันรู้สึกหงุดหงิดๆวะ เวลาเห็นโอ้ตมันหัวร่อ ต่อกระซิกกับอ้ายซัง คุยกานไม่สนใจกรูเล้ย

โอ้ตมันก็ไม่ว่าอะไรต่อคับ เห็นว่าผมเริ่มแบบใช้อารมณ์แล้ว

“นี่ …. ”

“หื้อ”

“รู้จักกับซังมันนานแล้วเหรอ ”

“ก็ … ตั้งแต่มันเข้ามา ม.1 แล้ว มีไรเหรอ ? ”

“ป่าว ก็เห็นเหมือนจะสนิทกัน”

“เออ ก็สนิทหล่ะ ก็เจอกันมาตั้ง 3 ปี มีไรป่าว ? ”

“ม่ะมีรายย ….. นอนก่อนล่ะกาน ปวดหัวๆ” ผมก็ว่าไปงั้นล่ะ แต่จริงๆคือเกียจคุย แต่มันดันหลับไปจริงๆนี่ดิ มารู้สึกตัวอีกทีก็เกือบถึงแล้วคับ แต่ตอนนี้ รู้สึกว่าตัวเองมีไข้แล้วง่ะ

“โอ้ต แวะซื้อยาก่อนเข้าบ้านได้ป่ะ เหมือนมีไข้หว่ะ”

“จริงอ่ะ ”

อ้าว แล้วกรูจาตอแหลเพื่อ ?

แล้วมันก็จอดรถตรงข้ามกับตลาด แล้วก็เอามือมาอังที่หน้าผาก

“ไหน ไข้สูงป่าว” ไม่ทันคาดคิด มันก็ก้มเอาหน้าผากมันมาแตะกับหน้าผากผมคับ โอ่ว ความร้อนพุ่งปี้ดๆๆๆๆ

“งั้นรอแป็บนะ โอ้ตข้ามไปซื้อยาก่อน”

ระหว่างรอ ภาพที่ผมที่มันเอาหน้าผากมาแตะ ทำเอาจิ้นไปได้ต่างๆนาๆเลยทีเดียว

“ปริ้นคับ กินยานะ เด๋วโอ้ตป้อนให้ อ้าว อ้าปากดิคับ คนดี อ่า อย่างงั้นแหละ ”

“ถ้าคืนนี้ไข้ไม่ลด โอ้ตต้องจับปริ้นฉีดยาแล้วนะ ห้ามขัดขืนด้วย”

“อ่า อยู่นิ่งๆดิคับปริ้น ไม่เจ็บหรอกน้า หันก้นมาดิคับ - - - เจ็บนิดนึงนะคับ แล้วเด๋วก็จะสบาย”

“อึกกก อ๊า ~*”

“ปริ้น - - ปริ้น”

“เห้อะ เหออ เจ็บๆ เบาๆ”

“อะไรเบาวะ ตื่นมาเร็วกินยา” โอ้ตมันดูหัวเสีย ที่ผมพูดอะไรแปลกๆ

“เออ อ่า ขะ ขอบใจ ”

นี่ผมฝันไปอีกแล้วเหรอเนี่ย โหยยย ฝันว่า มีอะไรกะไอ้โอ้ตด้วย !? เวนกำ

“อือง่วงอ่ะ ถึงบ้านแล้วปลุกด้วยนะ” แล้วผมก็พลิกตัวหันไปซุกทางหน้าต่างคับ แอร์มานก็ไม่เบาให้วุ้ย -*-

“อืม ปลุกแน่”

“ขอบจาย”

ก่อนที่ผมจะเคลิ้มๆไป เหมือนมีอะไรบางอย่างอุ่นๆ มาแตะที่แก้มด้านขวาเบาๆ แต่ตอนนั้นไม่อยากคิดอะไรแล้วคับ กรูง่วงและปวดหัวมากมาย


-----------------------TBC----------------------------
วันนี้ยาวจุใจไปเลย ยังไม่จบ พาร์ทแรกเลยอะ  :z10:  จะลงให้ทุกวันจนจบเลยเน้อ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-4-12]
«ตอบ #26 เมื่อ05-04-2012 14:28:16 »

แว๊ก อ่านกันจนจุกเลยทีเดียว ตอนนึงยาวสะใจมาก 555

ออฟไลน์ GUNPLAPLASTIC

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-4-12]
«ตอบ #27 เมื่อ05-04-2012 15:31:11 »

 :z13: :z13: :z13:จิ้ม :z13:ๆๆๆ
อิอิ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ ตามๆๆๆ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-4-12]
«ตอบ #28 เมื่อ05-04-2012 16:37:22 »

ลงให้ครบทุกภาคเลยนะคร้บ  ขอบคุณ

โจ๊กกุ้ง

  • บุคคลทั่วไป
Re: บ้านพักอลเวง โดย stayingpower [5-4-12]
«ตอบ #29 เมื่อ05-04-2012 16:47:42 »

โอ้ตดูแลปริ๊นดีขนาดนี้  ไม่ให้หวั่นไหวได้ไงอ่ะ
แต่ทำไมลงเอยกะโค้กอยากรู้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด