หลังมื้อเย็น อธิปขึ้นไปอาบน้ำ โดยจอมขวัญรับหน้าที่ล้างจานกับขนมสองคน ซึ่งเด็กชายร่างอ้วนกลมนั้นสูงเลยขอบซิงก์มาเพียงแค่นิดเดียว จอมขวัญจึงต้องหาเก้าอี้เตี้ยมาให้ยืนเพิ่มความสูง และเมื่อเหลือกันเพียงสองคน เจ้าหนูขนมจอมอยากรู้อยากเห็นก็เริ่มล้วงความลับตามคำสั่งคุณย่าพัชรีเจ้าแผนการ
“อาของขวัญเคยเห็นจุ้ดจู๋อาโตมั้ย”
จานในมือจอมขวัญแทบร่วงลงซิงก์ ชายหนุ่มตัวแข็งทื่อกับคำถามของหลานชาย แต่เด็กชายขนมที่ยืนอยู่ข้างๆก็ยังเอาข้อศอกถูสีข้างคุณอาไม่หยุดเป็นเชิงกระตุ้นให้ตอบคำถาม ในขณะที่มืออ้วนป้อมก็ล้างช้อนล้างส้อมจนหมดฟองก่อนจะวางลงบนตะกร้าสำหรับผึ่งด้านข้าง
“อาโตเคยเห็นจุ้ดจู๋อาของขวัญนี่เนอะ แสดงว่าอาของขวัญก็ต้องเคยเห็นจุ้ดจู๋อาโตเหมือนกัน ผู้ใหญ่เขาชอบแลกจุ้ดจู๋กันดูเหรอครับ” สมกับเป็นเด็กฉลาดชาติเจริญ เพราะเจ้าตัวตั้งคำถามไม่หยุดและแน่นอนว่าคนถูกถามถึงกับหยุดลมหายใจไปแล้วเรียบร้อย
… ‘จุ้ดจู๋’ จอมขวัญไม่เคยคิดว่าคำนี้จะมีอิทธิพลกับผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่อายุเกือบจะสี่สิบอย่างเขามาก่อนเลย! แต่ทำไมวันนี้มันกลับสร้างภาระหนักอกให้เขาได้ขนาดนี้!!...
“เอ่อ…ขนมหิวอะไรอีกรึเปล่า” จอมขวัญทิ้งจานที่ยังไม่ได้ล้างเอาไว้ตามเดิม ก่อนจะเดินหนีไปเปิดตู้เย็นทำเป็นไม่สนใจคำถามของหลาน
“จานยังล้างไม่เสร็จเลยอาของขวัญ” เด็กชายหันมองคุณอาอย่างงงๆ
“ไม่เป็นไร ทิ้งไว้อย่างนั้นล่ะ ขนมมาหาอะไรกินกับอาดีกว่า” จอมขวัญแทบจะซุกหน้าเข้าตู้เย็นอยู่แล้ว บางทีไอเย็นในตู้เย็นอาจจะช่วยให้ไม่ต้องอายกับคำถามของหลานชายก็เป็นได้ เด็กชายมองจานในซิงก์ที่เหลืออยู่ แต่ก็จนใจจะเรียกคุณอาหนุ่มกลับมาล้างต่อ แถมการที่คุณอาชวนกินก็น่าสนใจกว่าการยืนล้างจานเสียอีก เจ้าตัวอ้วนกลมกระโดดลงจากเก้าอี้เตี้ยแล้ววิ่งไปหาจอมขวัญที่หน้าตู้เย็นทันที
“ขนมอยากกินผลไม้! คุณย่าบอกว่ากินผลไม้ตอนเย็นทำให้ไม่อ้วน”
ปากว่าอย่างนั้นแต่มือลูบพุงแข็งปึ่งซึ่งเพิ่งอิ่มจากอาหารค่ำมาหมาดๆ จอมขวัญหันมาเห็นพุงกลมโตของหลานชายคนเล็กแล้วได้แต่หัวเราะน้อยๆ
“คุณย่าหมายความว่ากินผลไม้แทนข้าวเย็น จะไม่อ้วน” เพียงเท่านั้น เด็กชายขนมก็ถึงกับทำตาโตลุกวาว
“ไม่จริงหน่า! แล้วแบบนั้นจะอิ่มได้ยังไงล่ะครับ! อาของขวัญเคยกินผลไม้แทนข้าวเย็นด้วยเหรอ?!”
“เคยสิ”
“โอ้โฮ!!!” หลานรักร้องเสียงดังเหมือนเป็นเรื่องที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับคนกินเก่งอย่างเด็กชายขนมนั้น แค่สามมื้อต่อวัน เจ้าตัวยังคิดว่ามันน้อยเกินไปด้วยซ้ำ แต่นี่พวกผู้ใหญ่ยังลดมื้ออาหารลงแล้วกินแต่ผลไม้แทน! การใช้ชีวิตแบบผู้ใหญ่นี่ช่างทรหดอดทนซะจริงๆ!!
“แล้วอาโตล่ะครับ? อาโตก็เคยกินผลไม้แทนข้าวเย็นเหมือนกันเหรอ?!!”
“อืม” จอมขวัญตอบรับด้วยการส่งเสียงเท่านั้น เวลานี้เขาไม่อยากเอ่ยปากเรื่องอธิปกับหลานช่างซักเสียเท่าไหร่ เพราะเกรงว่าพูดอะไรไปเด็กฉลาดจะตีความไปในทางหวาดเสียวเสียหมด
“แล้วตอนดึกๆไม่หิวเหรอครับ” เด็กชายร่างอ้วนกลมตั้งคำถามอย่างสงสัย
“ก็…ถ้าหิวก็กินนมเอาก็ได้นี่”
“หมายถึงตอนดึกๆก็ย่องๆลงมากินนมข้างล่างนี่เหรอครับ?! อาของขวัญไม่กลัวผีเหรอ ถ้าเป็นพี่ข้าวนะ ต้องปลุกคนทั้งบ้านให้ตื่นลงมากินนมเป็นเพื่อนแน่เลย!” เด็กชายขนมไม่ได้กลัวผี แต่ก็ถามนำไปอย่างนั้นเอง เพราะอยากรู้ว่าไอดอลในดวงใจของตัวเองอย่างคุณอาของขวัญมีเรื่องขี้กลัวบ้างรึเปล่า
“ไม่กลัวหรอก แล้วขนมจะกินผลไม้มั้ยเนี่ย มีแอปเปิ้ลกับฝรั่งปอกแล้วนะ” จอมขวัญหยิบกล่องทัปเปอร์แวร์ในตู้เย็นออกมาให้หลานชายเลือก แต่เจ้าเด็กชายตัวอ้วนกลับตาตกอยู่ที่ผลไม้หน้าตาประหลาดสีชมพูอมม่วงที่นอนอยู่ในถุงที่วางแหมะอยู่ที่ชั้นล่างสุดของตู้เย็น
“ขนมอยากกินแก้วมังกร!”
“รออาโตอาบน้ำเสร็จสิ เดี๋ยวให้อาโตปอกให้”
“อาของขวัญนี่ อะไรๆก็ให้แต่อาโตทำตลอดเลย ไม่กลัวอาโตเหนื่อยเหรอ” เด็กชายถามซื่อๆ เพราะเห็นคุณอาโตทำแทบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะขับรถ ทำกับข้าว หรือแม้แต่ตักข้าวใส่จานมาให้อาของขวัญ
จอมขวัญยิ้มบางกับคำถามของหลานชายที่ต้องมองเขาเหมือนรอคำตอบ
“กลัวสิ แต่อาโตของขนมเขาชอบเหมาทุกอย่างไปทำเองหมดเลย ผลไม้นี่เขาก็เป็นคนปอกใส่กล่องเอาไว้” ไม่ใช่แค่ผลไม้หรอก แต่แทบทุกอย่างในบ้านอยู่ในมือของอธิปหมด นี่ถ้าไม่ได้จ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดบ้านแล้วล่ะก็ ทั้งถูบ้านกวาดบ้านปัดหยากไย่ ก็คงตกไปอยู่ในความรับผิดชอบของอธิปนั่นแหละ
“อาโตเขารักอาของขวัญเนอะ ทำให้อาของขวัญทุกอย่าง” ขนมสำทับตามที่เห็น เพราะตั้งแต่จำความได้ เขาก็เห็นคุณอาตัวใหญ่ใจดีรายนั้นคอยตามใจอาของขวัญยอดไอดอลของเขาเสมอ บางครั้ง ขนมเคยคิดด้วยซ้ำว่าอาโตตามใจอาของขวัญยิ่งกว่าที่พ่อตามใจเขาเสียอีก!
“อย่างงี้อาโตต้องซื้อของเล่นให้อาของขวัญเยอะแยะแน่ๆเลยใช่มั้ยครับ?!” จอมขวัญเงียบกริบ เขาไม่กล้าตอบคำถามหลานชาย เพราะคิดว่าคำว่า ‘ของเล่น’ ของเขาและขนมคงจะไม่ใช่สิ่งเดียวกัน
“อาของขวัญหน้าแดงทำไม ร้อนเหรอ…” เห็นคุณอารูปหล่อหน้าแดงแปลกๆ คนเป็นหลานผู้รักใคร่อายิ่งกว่าใครก็รีบร้องถาม แต่พอจอมขวัญส่ายหน้า เด็กชายขนมก็ตั้งคำถามต่อ
“…แล้ว…อาโตตามใจอาของขวัญขนาดนี้ อาของขวัญรักอาโตมั้ย” เด็กชายถาม เจ้าตัวค่อนข้างรักความยุติธรรม พอวิเคราะห์ได้ว่าอาโตรักอาของขวัญมากๆแล้ว ก็อยากให้อาของขวัญรักอาโตมากๆเหมือนกัน
พอมาถึงคำถามนี้ จอมขวัญก็ได้แต่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะตอบกลับไป
“อาไม่ได้รักเพราะเขาตามใจอา ที่อารักเขา เพราะเขาดุอา เขาสอนอา แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็อยู่เคียงข้างอา ขนมจำไว้นะ คนที่กล้าดุเรา กล้าสอนเรา แต่ยังอยู่กับเรา ยังรักเรา เพราะเขาอยากให้เราได้ดี อยากให้เราเป็นคนดี”
“อาโตชอบดุอาของขวัญเหรอ”
“แต่ก่อน”
“ดุแรงมั้ย ดุเวลาอาของขวัญดื้อเหรอ” ตั้งแต่เกิดมา ขนมไม่เคยเห็นอาของขวัญโดนอาโตดุ พอวันนี้ความจริงเปิดเผยจากปากอาของขวัญเอง ความสงสารเลยเอ่อล้นเสียจนเจ้าหนูเริ่มหน้าเสีย
“อืม อาโตดุเฉพาะตอนที่อาดื้อเท่านั้นล่ะ ก็เหมือนขนมเวลาถูกพ่อดุไง พ่อก็ดุแต่ตอนที่ขนมดื้อใช่มั้ยล่ะ” เด็กชายพยักหน้ารับน้อยๆ ในบรรดาสามคนพี่น้อง เจ้าตัวถูกพ่อดุบ่อยสุด เพราะทั้งแสบ ทั้งซน แถมยังชอบเล่นมากกว่าเรียน เลยถูกดุตั้งแต่เรื่องซนไปจนถึงเรื่องผลการเรียน
…แต่…ถึงจะถูกดุยังไง ขนมก็ยังรักพ่ออยู่ดี เพราะพ่อสอนขนมถีบจักรยาน เพราะพ่อช่วยขนมทำงานประดิษฐ์ส่งครู เพราะพ่อพาขนมไปเที่ยวสวนสนุก…
“แล้ว…อาโตดุอาของขวัญอย่างงี้ อาของขวัญยังรักอาโตมั้ย”
จอมขวัญยิ้มบาง ก่อนจะตอบ
“รักสิ”
เด็กชายมองใบหน้าหล่อเหลาของคุณอาหนุ่ม ใครๆก็บอกว่าอาของขวัญของขนมนั้นหล่อแสนจะหล่อ แต่เวลานี้ที่กำลังพูดคำว่า ‘รัก’ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้มที่มีแต่ความจริงใจ ขนมก็อยากจะตะโกนให้ก้องโลกว่าคุณอาของเขานั้นหล่อเกินกว่าคำบรรยายใดๆ!!
เด็กชายตัวน้อยบิดตัวไปมาเหมือนเขินจัด แก้มกลมแดงก่ำในขณะที่ริมฝีปากเล็กยิ้มกว้างเสียจนตาหยีมิด
“อาของขวัญอย่าไปบอกอาโตแบบนี้นะ ขนมฟังแทนขนมยังเขินเลย!”
“ขนมก็อย่าเอาไปบอกใครล่ะ เรื่องนี้เป็นความลับของเราสองคนนะ”
……………………………….
อธิปอาบน้ำเสร็จในอีกสิบห้านาทีต่อมา ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น ทั้งจอมขวัญและขนมก็หอบหิ้วกันขึ้นมาบนห้องนอนแล้วเรียบร้อย เจ้าหนูร่างอ้วนกำลังนั่งเล่นที่เก้าอี้ยาวตรงระเบียงด้านหลังกับคุณอารูปหล่อ ที่ระเบียงด้านหลังนั้นค่อนข้างเงียบอีกทั้งยังโบกปูนตีทึบขึ้นมาถึงช่วงเอวและจัดเป็นสวนหินเล็กๆวางต้นไม้จำพวกไม้กระถางและกล้วยไม้ห้อยระยางจากหลังคาที่ยื่นออกมาเล็กน้อย หากแต่ก็มีชานระเบียงที่พ้นหลังคาเผยให้เห็นท้องฟ้ากว้างยามค่ำคืน
อธิปแขวนผ้าขนหนูเอาไว้ที่ห้องนอน ก่อนจะเดินตรงมายังส่วนที่จัดเป็นโต๊ะทำงานและมีประตูสู่ระเบียงหลัง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ส่งเสียงเจี้ยวจ๊าวของสองอาหลานเป็นระยะ
“อ๊ะ! อาโต!! มาดูอาของขวัญดีดกีต้าร์เร็ว” เด็กชายขนมรู้ว่าคุณอาสุดหล่อมีความสามารถหลายด้าน ยกเว้นด้านการศึกษา ซึ่งขนมเองก็ไม่สนใจด้านการศึกษา แต่เรื่องอื่นๆของคุณอา ขนมสนใจทั้งหมด!
“ขนมก็อยากเล่นกีต้าร์เป็นบ้าง จะเอาไปจีบสาว” ว่าแล้วก็ทำหน้าเขินบิดตัวยุกยิกจนจอมขวัญหัวเราะ อธิปเดินมานั่งใกล้หลานชาย โซฟาเบดขนาดใหญ่เมื่อต้องมีคนนั่งถึงสามคนจึงแคบไปถนัด
“จีบใคร แนนนี่น่ะเหรอ” อธิปเป็นคนตั้งคำถาม เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อนเพิ่งไปรับขนมกลับจากโรงเรียนเนื่องจากจักรกฤษณ์และจอมขวัญติดงานที่โรงแรม และวันนั้นเจ้าหลานตัวแสบคนนี้ก็เล่าให้ฟังว่ากำลัง ‘อินเลิฟ’ อยู่กับแนนนี่ที่เป็นเพื่อนห้องข้างๆ
“ใช่แล้ว แนนนี่ต้องคิดว่าขนมเท่ห์แน่ๆเลย อาของขวัญเคยเล่นกีต้าร์จีบผู้หญิงมั้ย” ปลายนิ้วของคุณอาหนุ่มดูเหมือนจะหยุดไปเล็กน้อย เขาเหลือบตามองอธิปอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะรีบตาตกลงสบตากลมแป๋วของขนม
“ไม่เคย แต่อาโตเคย” คราวนี้เป้าหมายของเด็กชายย้ายไปอยู่ที่อธิปแทน
“จริงเหรอครับอาโต! แล้วอาโตจีบติดมั้ย”
“อยากรู้ไปทำไม” อธิปถามพร้อมรอยยิ้ม
“ก็เผื่อขนมจะได้ตัดสินใจว่าจะใช้วิธีไหนจีบแนนนี่ดีน่ะสิ”
“ก็จีบตรงๆไปเลย” จอมขวัญแนะนำ แต่เด็กชายส่ายหน้าหวือ
“ไม่แนวเลย ไหนๆ อาของขวัญสอนขนมดีดกีต้าร์หน่อย”
“มือขนมยังเล็กอยู่ สอนไม่ได้หรอก”
“แล้วอาของขวัญเล่นเป็นตอนอายุกี่ขวบ” จอมขวัญไม่ตอบ เพราะเขาเพิ่งให้อธิปสอนไม่นานมานี้เอง เนื่องจากเห็นหลานชายคนโตเล่นดนตรี จอมขวัญก็นึกอยากเล่นบ้าง แต่ก็ไม่ได้คิดจริงจังขนาดต้องไปลงคอร์สเรียน แถมอธิปยังเล่นเป็นอยู่แล้ว ก็ให้อธิปสอนเสียเลย
“แล้วใครสอนเหรอครับ”
“นู่น” จอมขวัญโบ้ยหน้าไปทางอธิปแทนคำตอบ
“งั้นอาโตก็เล่นเก่งกว่าอาของขวัญน่ะสิ! ถ้าขนมโตแล้ว อาโตสอนหน่อยนะครับ”
“อืม แต่ตอนนี้สามทุ่มแล้ว ไปนอนได้แล้วมั้ง ขนม”
“ว้า! นอนเร็วจังเลย! ทุกทีอาโตกับอาของขวัญนอนเร็วอย่างนี้เหรอครับ” สองผู้ใหญ่พากันเงียบ ไม่ยอมตอบคำถามหลานชาย เด็กชายขนมทำตาตกอย่างเหงาหงอยที่ต้องรีบนอน ทว่า…การที่สายตาของเด็กน้อยลดต่ำลงมองที่พื้นซึ่งโรยหินเอาไว้นั้น เจ้าตัวก็ดันตาดีเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่อยู่ข้างกระถางต้นไม้เข้า มือเล็กเอื้อมไปหยิบขึ้นมาดูด้วยความฉงน
มันเป็นซองสี่เหลี่ยมสีเงินสะท้อนแสง หน้าตาประหลาดชอบกลมีวงกลมเหมือนวงแหวนนูนขึ้นมา แต่แค่จับจ้องไม่กี่เสี้ยววินาที เสียงสองเสียงก็ดังลั่น
“เฮ้ย!!” เด็กชายหันมองตามเสียง พอดีกับที่ใครบางคนก็คว้าหมับแย่งไปจากมือ
“อาว่าเราเข้าไปนอนกันเถอะ!!” จอมขวัญร้องบอกหน้าตาเหลือก มือข้างหนึ่งซ่อนอยู่ข้างหลัง และใบหน้าหล่อเหลามีแววตื่นตระหนก
“มันคืออะไรเหรอครับ อาของขวัญ”
“อะไร…ไม่มีอะไรทั้งนั้น…ไป ได้เวลานอนแล้ว”
“เดี๋ยวสิครับ มันคืออะไรน่ะ” เด็กชายเห็นคุณอาซ่อนบางอย่างเอาไว้ด้านหลัง ก็ก้มลงมองตามพื้นเพื่อหาชิ้นอื่นๆที่อาจมีอีก และ…คราวนี้เจ้าตัวเห็นอีกชิ้นตกอยู่ไม่ไกลไปจากจุดเดิมที่เจอเจ้าซองประหลาดในครั้งแรก
“แล้วอันนี้มันหลอดยาอะไรเหรอครับ ยาทาแก้ปวดแบบเวลาพี่เข้มข้อเท้าพลิกรึเปล่า?” เจ้าหนูหยิบหลอดยาบางอย่างขึ้นมา และครั้งนี้สองผู้ใหญ่พากันตาเหลือกหนักกว่าเดิม จอมขวัญดึงหลอดในมือหลานออกมาแล้วโยนทิ้งไปทางอื่น ก่อนจะอุ้มขนมลอยหวือขึ้นจากพื้น
“ไปนอนกับอาเถอะขนม! ไปเร็ว!!”
“อ้าว แล้วจะทิ้งยาไว้แบบนั้นเหรอครับ” เด็กชายยังมองตามหลอดยาที่กลิ้งกลับไปอยู่ข้างไม้กระถางต้นหนึ่งด้วยความสงสัย ผู้ใหญ่นี่อะไรกันน้า ทำไมเก็บข้าวเก็บของไม่เรียบร้อยเลย
“เออ! ให้อาโตเก็บแทน!!” จอมขวัญตอบเสียงดังอย่างรวดเร็วแล้วอุ้มหลานรักกลับเข้าบ้านโดยไม่หันกลับไปมองอธิปอีกเลย!!
ติดตามตอนต่อไป (วันอังคารหน้าค่ะ)
มีคนกินข้าวเหนียวเปียกลำไยเป็นเปล่าาาาาา บัวว่ามันเป็นขนมไทยที่หากินยากมากกกกกก
ใครมีพิกัดร้านอร่อยบอกหน่อยนะคะ
อันนี้ไม่ได้ชาตินิยมนะ แต่บัวชอบกินขนมไทยมากกกก ยิ่งตระกูลพวกน้ำกะทิทั้งหลาย (แต่เวลากินจะกินแต่ตัวๆมัน น้ำกะทิจะเหลือเยอะมาก ฮ่าฮ่า)
ที่ชอบที่สุดคือบัวลอย (อันนี้ก็หาร้านที่อร่อยๆย้ากกกกกกยาก!)
เพราะงั้น อย่าแปลกใจไปที่เห็นรายชื่อขนมไทยในเรื่องนี้หรือเรื่องไหนๆ มันเกิดจากความอยากกินของบัวล้วนๆเลยค่ะ
เม้าเรื่องของกินเพลินไปหน่อย ยังไงก็อย่าเพิ่งลืมเรื่องจอมร้ายนะคะ ถึงจะเขียนจบแล้ว รวมเล่มแล้ว แต่บัวรักครอบครัวนี้มาก
อยากเขียนตอนพิเศษเขาไปเรื่อยๆ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ
ขอบคุณพื้นที่บอร์ด คนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และทุกกำลังใจเช่นเคยค่ะ
เจอกันพาร์ทหน้าอาทิตย์หน้า ไปปั่นพันธะหอยก่อน ช่วงนี้ความขยันล้นปรี่ ต้องรีบใช้ ฮ่าฮ่า