ขอบคุณคุณนักเขียนที่สรรค์ผลงานนี้มาให้อ่าน แม้จะไม่ได้ติดตามมาตั้งแต่ต้น รู้สึกสะกิดตรงคำว่าจบในตอนนึกว่าเป็นเรื่องสั้นที่ตอนเดียวจบ ในความคิดตอนกดเข้ามาคิดว่าอ่านเรื่องสั้นฆ่าเวลาที่เหนื่อยจากการทำงานเล่นๆ แล้วค่อยทำงานต่อ พอเห็นวรรคสองว่าจะเลิกอ่านเพราะคงยาวไปเดี๋ยวจะเยื้อพาลให้ไม่ได้ทำงาน แต่เรื่องนี้มันทำให้ฉันหยุดไม่ได้แม้ในวรรคแรกที่อ่านฉันจะรู้สึกงงๆ กับการใช้คำไปบ้าง แต่ด้วยเนื้อเรื่องมันทำให้ฉันสนใจที่จะติดตามไปจนถึงจุดสุดท้ายที่จะเขียนไปถึง แม้ในใจไม่ได้หวังว่ามันจะจบลงด้วยดีหรือไม่ แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังฉันรู้สึกว่าฉันเข้าถึงตัวละครทุกคน
ยิ่งตอนที่อ่านแรกๆ เห็นหลายรีพลายที่ดูจะไม่พอใจพี่ธีนัก แต่ฉันกลับรู้สึกถึงตัวตนของพี่ธีตั้งแต่คุณคนเขียนยังไม่ได้บรรยายลงไป อาจเป็นเพราะหลายๆ คนบอกว่าฉันเป็นคนที่เข้าใจผู้ชายหลากหลายนิสัย แต่ถามว่าตลอดเวลาที่อ่านฉันแอบเข้าข้างพี่ธีไหม? ใช่ฉันยอมรับว่าเป็นอย่างนั้น อย่างตอนที่พฤกษน้อยใจพี่ธีเรื่องงานตรงนั้นเรายังแอบคิดว่าพฤกษดูนิสัยเด็กไปสักหน่อย ถามว่าทำไมพี่ธีมีเรื่องที่ทำงานถึงไม่พูกให้พฤกษฟังยังแอบเข้าข้างพี่ธีว่า นิสัยผู้ชายเรื่องเหล่านี้มันเหมือนศักดิ์ศรีที่คำคอ รู้ว่ามันกินไม่ได้แต่มันก็มีมาตั้งแต่เกิด เวลามีเรื่องมักจะไม่ระบายกับใครมักจะต้องลองแก้ไขด้วยตัวเองจนสุดๆ แล้วถ้าไม่ไหวถึงระบายออกมา ถ้าเป็นผู้หญิงมักจะหาที่ปรึกษา แต่ผู้ชายนั้นไม่ยิ่งถ้า ก็คิดว่าพฤกษก็ผู้ชายไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้เหรอ แต่ก็นั่นแหละเราไม่ได้เจอกับตัวคนนอกมักมองได้ชัดเจนกว่าคนใน
แต่เรื่องนี้ก็เดินไปในทางที่เหมาะสม เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น จุดพีคของเนื้อเรื่องไม่ได้หวือหวาแต่มันเข้ากับสถานการณ์ในตอนนั้นของเนื้อเรื่องซึ่งเป็นไปได้ดี ฉันบอกเลยว่าประทับใจเรื่องนี้มาก ประทับใจตัวละครทุกตัว ทั้งพี่ธี น้องพฤกษ คุณพ่อ คุณแม่ และเพื่อนๆ ของพี่ธี ของน้องพฤกษ
ในวรรคสุดท้าย วรรคที่มาถึงจุดส่งท้ายของเรื่องนี้ฉันแอบลุ้นนะ ไม่สิเรียกว่าคิดไปก่อนเองเลยดีกว่าเพราะทั้งจะยิ้ม ทั้งจะร้องไห้ ฮ้า ก่อนที่พี่ธีจะเริ่มปฏิบัติการขอคืนดีอีก อีกอย่างเพลงลูกอม มันเป็นเพลงที่คนรักของฉันชอบล่ะ เรื่องนี้ทำให้ฉันมีความสุขจังที่ได้อ่านจบจบ(ถึงจะเสียงานไปบ้างนิดหน่อย) ฉันคิดไม่ผิดจริงๆที่กดเข้ามมา ขอบคุณ คุณนักเขียนอีกครั้ง ออกจะพล่ามยาวไปหน่อยไร้สาระด้วย ฮ่าๆ ฉันไม่ได้หื่นนะแต่อยากบอกว่าแอบอมยิ้มตอนที่น้องพฤกษย้อนความหลังคิดถึงคืนแรกที่ทดสอบความหนาของผนังล่ะ ฮ้า.. เอาล่ะคงต้องพอแล้วบ่นเยอะไปหน่อยงานการไม่ทำ ไว้ว่างๆ อีก เจอกันใหม่นะคุณนักเขียน
คุณ TiiTa
ด้วยความจริงใจ กับการเสียสละเวลามาอ่านเรื่อง [เวลา]
หากอยากอ่าน
เรื่องสั้น (ของจริง) ที่จบแบบน่ารัก ให้ไปหาเรื่อง
[หึง & ง้อ]แต่อย่าหลงอ่าน
[สองก้าว] + [ก้าวต่อมา] เด็ดขาด!!!.....
------ คำเม้นท์ทุกถ้อยคำ ผู้เขียนชื่นชอบมากค่ะ (ถอนสายบัวให้ค่ะ)
หากไปเยือนเรื่องไหน และอยากเม้นท์อีก
เชิญตามสบายนะคะ ผู้เขียนชอบอ่านคำพูดจากความรู้สึกของผู้อ่านค่ะ
ด้วยใจและจริงใจ
ตอนแรกมีความรู้สึกว่า...มันคือ ทิฐิ แต่พอเราปล่อยไว้ นิ่งคิดสิ่งที่ได้ก็คือ...คำพูดมันทำร้ายใจกันได้มากกว่าอาวุธใดๆ
หลายอย่างที่ได้รับจากนิยายเรื่องนี้ คือหลายอย่างที่นิมาเองได้เคยเรียนรู้มาในชีวิตจริงและหลงลืมไป... ขอบคุณที่ทำให้คิดถึงเรื่องราวในอดีตเพราะเรื่องสั้นเรื่องนี้นะคะ....
ความรัก...มันมาหาเรา มันไม่ยากที่จะไขว่คว้ามันมา แต่สิ่งที่ยาดที่สุดคือการ "รักษา ดุแล ใส่ใจ ความรักนั้นให้อยู่กับเราไปตลอด"
บางวรรคบางตอนตอนขอยอมรับว่านิมาข้ามที่จะไม่อ่าน เพราะอ่านแล้วมันจี้ใจดำจนนึกเกลียดตัวเองที่มีนิสัยไม่ดีแบบนี้ ขอโทษนะคะนักเขียน TT^TT
เข้าใจตัวเอกทั้งสองว่าเพราะอะไรจึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เข้าใจว่าทำไมจึงเกิดเรื่องเข้าใจผิดมากมายขนาดนั้น...
ขอโทษนักเขียนอีกทีนะคะที่เม้นต์ที่เดียวอย่างนี้ รู้สึกเสียมารยาทมากๆ แต่อ่านเกือบทุกวรรคมันจุกจนกระดิกนิ้วไม่ค่อยได้(อย่ารู้ทันนะคะว่ามันคือข้ออ้าง)
ตอนที่ย้อนเวลาไปตอนที่ทั้งคู่รู้จักกัน รักกัน มันเจ็บจนอึ้งไปเลย เพาะรู้ว่าตอนไปต้องเจอกับอะไร และมันก็เป็นสะท้อนออกมาในหัวตอนที่อ่านตัวอักษรที่เรียงรายอยู่นั้น...
อ่านจบตั้งนานแล้วกว่าจะทำใจเข้ามาเม้นต์ แต่ก็เม้นต์ไม่ได้มากอย่างที่ใจคิดเลย...
ขอโทษนักเขียนอีกครั้งนะคะ TT^TT และก็ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องสั้นที่ทำให้นิมามีโอกาสนึกถึงเรื่องเดิมๆ ที่คล้ายๆ กันในอดีต (แต่มันไม่ได้จบสวยแบบนี้อะน้าาาา)
เรื่องสั้นเรื่องนี้ทำให้รู้ว่า...เราควรหันกลับมาดูแล รักษาความรักของเราให้มันอยู่กับเราไปนานๆ
ขอบคุณค่ะ
โอ๋นะคะ คุณNima4
ชีวิตจริงมันไม่จบแบบพี่ธีและน้องพฤกษหรอกค่ะ .... เป็นความจริง!
ถึงจะรู้ทุกอย่างแต่ ทิฐิ... เป็นตัวขวางเราทุกกรณี....
ผู้เขียนก็พิมพ์มันไปทั้งที่ใจเจ็บๆ ไม่ต่างจากคุณผู้อ่าน
อ่านข้ามบ้าง ไม่เป็นปัญหาค่ะ.... รับรู้และเข้าใจ-----"ความขม" ใครๆ ก็อยากลืมมัน
ใจจริงผู้เขียนเคยอยากให้จบแบบ----ความจริง ในโลกของจริง.... เกรียนงานตัวเองแบบสองก้าว!!
ทว่า.... พอพิมพ์คำพูดของพ่อ "ชีวิตมันไม่ได้ใช้ยากนักหรอกหากว่าเราใช้มันเป็น"
ผู้เขียนเลยเปลี่ยน---บทจบ
และเพิ่ม [เวลาต่อมา]......
ด้วยอยากสื่อสารว่า........
หากยังรัก หากยังมีกันอยู่ ทิ้งความขุ่นมัวทุกอย่างไว้ซะ แล้วพวกคุณจะกลับไปสู่ "ความหวาน" ที่น่าภิรมณ์
ขอให้รักคงอยู่ในหัวใจเราทุกคน
ขอให้ความเข้าใจยั่งยืน
ขอให้ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต...เป็นประสบการณ์
ผู้อ่านทุกท่าน.... ทั้งผู้ที่เข้ามาอ่าน ผู้ที่เข้ามาเม้นท์ ผู้ที่เพิ่มตัวเลข
ทุกๆ ท่านคือแรงใจของผู้เขียนเสมอค่ะ