ตอนที่ 21
หนุ่มน้อยถูกจับแขนและขาทั้งสองข้าง โดยบรรดาเด็กอันธพาลที่เคยมาแกล้งมายด์
แม้เด็กพวกนั้นจะอยู่แค่ชั้นมัธยมต้น แต่ตัวของพวกเขาใหญ่กว่ายู ทั้งที่หนุ่มน้อยอายุเกือบจะสิบแปดอยู่แล้ว
“พวกแกต้องการอะไร” ยูพยายามดิ้น แต่ก็ไม่พอสู้แรงของคนอีกสี่คนไม่ได้
หัวหน้าแกงค์อันธพาลเดินมาหายูที่ยูที่ถูกจับยู
“ก็มาดูซิว่าไอ้ลูกสารวัติที่มึงโม้ไว้มันจะทำอะไรพวกกูได้ ได้ยูโดสายดำมาไม่ใช้เหรอ มาสู้กับกูซิ”
มายด์เห็นยูถูกจับก็จะวิ่งเข้าไปช่วย แต่เขาโดน ไอ้หัวหน้าแก๊งค์ เตะกระเด็นออกมา
“อย่ามายุ่งไอ้เด็กเวร” พอด่าเด็กน้อยเสร็จ เขาก็หันมาสั่งลูกน้อง
“เฮ้ย พวกมึงค้นตัวมันดิว่ะ ว่ามีอะไรบ้าง”
พวกลูกน้องจึงช่วยกันค้นทั้งกระเป๋ากางเกงของยู และกระเป๋านักเรียน
ของมีค่าต่างๆทั้งกระเป๋าเงิน โทรศัพท์มือถือ กองกระจัดกระจายอยู่ตรงหน้ายู
“แล้วค้นของไอ้เด็กคนนั้นด้วยมั้ย” ลูกน้องถามหัวหน้าแก๊งค์
“เดี๋ยวกูค้นเอง” เขาจึงเดินไปกระชากกระเป๋าของมายด์ทันทีและยกกระเป๋าขึ้นเพื่อเทของในกระเป๋า
หนังสือเรียน และเครื่องเขียนในกระเป๋าก็ร่วงหล่นลงมา
และของชิ้นสุดท้ายที่ตกลงมาคือ ลูกกุญแจโบราณ
“เฮ้ย มีมันกุญแจอะไรว่ะ” หัวหน้าแก๊งค์หยิบกุญแจนั้นขึ้นมาเขามองด้วยความสงสัย
มายด์เห็นหัวแกงค์ถืองูกกุญแจอยู่ เขาก็รีบวิ่งเพื่อจะไปแย่งกุญแจนั้น
ตัวยูเองก็ตกใจ เมื่อเห็นว่ากุญแจที่หัวหน้าแก๊งค์ถือคือลูกกุญแจดอกที่สี่
“พวกแกอย่ายุ่งกับกุญแจนั้นน่ะเว้ย” ยูตะโกนบอกออกไปพร้อมพยายามดิ้นสุดแรง
หัวหน้าแก๊งค์สงสัยว่าทำไมยูและมายด์ถึงต้องการลุกกุญแจขนาดนั้น
“พวกแกโวยวายกันขนาดนี้ ลูกกุญแจนี้มันต้องมีอะไรดีแน่ๆ”
มายด์ที่แอบวิ่งมาด้านหลังก็กระโจนเข้ามาแย่งลูกกุญแจ
แต่เด็กน้อยพลาดท่า เพราะหัวหน้าแก๊งค์ไหวตัวทันเลยคว้าคอของมายด์ และเขวี้ยงตัวเด็กน้อยไปกระแทกกำแพง
“โอ๊ย” มายด์กระเด็นกระดอนร่วงลงมาจากกำแพง
ยูเห็นว่าหัวของมายด์มีเลือดไหลออกมา เขาจึงใช้แรงที่มีอยู่ทั้งหมด ดิ้นจนหลุดจากพวกเด็กอันธพาล
“แกมันเลวจริงๆ” เขาวิ่งพุ่งตรงมาหาหัวหน้าแก๊งค์ เขายกกำปั้นกะจะต่อยไอ้เด็กเลวนี้
ด้วยประสบการณ์การต่อสู้ที่เยอะกว่า เขาจึงหลบยูได้และกระชากคอเสื้อยูขึ้นมา
หัวหน้าแก๊งค์หยิบคัตเตอร์ออกมา เขาเอาคัตเตอร์มาทาบไว้ที่ใบหน้าของยู
“อันนี้มันซ่าส์นัก ต้องเจอดีซะแล้วมึง”
มายด์เริ่มรู้สึกตัว เขาโกรธมากที่โดนรังแกขนาดนี้ อีกทั้งยังจะทำร้ายยู คนที่เขาชอบอีกด้วย
เด็กน้อยมองรอบตัว เขาเหลือบไปเห็นไม้ปลายด้ามแหลม เขาจึงหยิบมันขึ้นมา พร้อมด้วยความโมโหที่มีมากมาย
ยูสังเกตเห็นว่าตัวอักษรบนลูกกุญแจเริ่มส่องแสงไปทั่ว
เขาจึงเห็นว่ามายด์กำลังถือไม้ปลายแหลมและกำลังหง้างมาที่หัวหน้าแก๊งค์
“ไม่น่ะ มายด์อย่าทำแบบนั้นพี่ขอร้อง” ยูพยายามตะโกนเพื่อนเตือนสติเด็กน้อย
แต่ด้วยความโมโหที่มีมากมายเหลือล้น มายด์ไม่ฟังคำใดๆทั้งสิ้น
“เฮ้ย ลูกพี่ระวัง” พวกลูกน้องเห็นว่ามายด์กำลังหง้างมือจะแทงไม้พปลายแหลม จึงตะโกนเตือนหัวหน้าของเขา
แต่ช้าไปเสียแล้ว แค่เพียงหัวหน้าแก๊งค์หันมามองดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ไม้ปลายแหลมก็ทะลุร่างของเขาทันที
ยูรู้สึกว่าภาพที่เกิดขึ้นข่างช้าเหลือเกิน ระหว่างที่มายด์กำลังแทงไม้เข้าที่ร่างของหัวหน้าแกงค์ หนุ่มน้อยเห็นว่ามีชายหนุ่มในชุดผ้าคลุมปิดร่างทั้งตัวยืนอยู่ตรงหน้าเขา
เขาจำได้ว่า นั้นคือ เปกาเฟอร์ ปีศาจร้ายที่เป็นศัตรูของไมเคิล
“ว่าไง หนุ่มน้อย ไม่นึกเลยน่ะว่าจะเจอเจ้าอยู่ตัวคนเดียว” ปีศาจร้ายทักทายหนุ่มน้อย พร้อมคว้ามือไปหยิบกุญแจ
“ทำไมแกถึงทำแบบนี้” ยูไม่สนใจสิ่งที่ปีศาจพูด
“ใครว่าข้าทำหล่ะ พวกมนุษย์ต่างหากที่เป็นคนทำ อย่ามาโทษข้าสิ”
ยูหันไปมองรอบตัว เขาเห็นว่าทุกคนสลบกันหมด
ปีศาจร้ายกำกุญแจแน่น เขาอยากจะต่อสู้กับเหล่าเทวดา เขามองไปที่หนุ่มน้อย ปีศาจเริ่มคิดแผนการชั่วร้าย
“เจ้าพวกเทดาไปไหนกันหมดหล่ะ”เปกาเฟอร์ค่อยๆเดินตรงมาที่ยู
“หรือว่า พวกมันจะให้เจ้าเป็นเหยื่อล่อข้า” เปกาเฟอร์เดินใกล้เข้ามาจนถึงตัวของหนุ่มน้อย
“อย่าน่ะ” แม้ยูจะพยายามหลีกหนีเจ้าปีศาจ แต่เขาก็หลบไม่พบ
เปกาเฟอร์เอื้อมไปคว้าตัวยูไว้
“ไมเคิล!”ยูกลัวมาก เขาจึงเรียกให้ไมเคิลช่วยด้วย
บนหน้าผากของยูจึงปรากฎรูปกางเขนขึ้น เปกาเฟอร์สะดุ้งตกใจ เหมือนร่างของยุร้อนขึ้นจนเขาไม่สามารถแตะต้องตัวหนุ่มน้อยได้
เปกาเฟอร์ผลักยูออกไปให้ไกลจากตัวเขา
“นี้มันอะไรกัน” เขาตกใจที่เห็นยูมีสัญลักษณ์กางเขนบนหน้าผาก
ทันใดนั้นเอง พลังบางอย่างก็พุ่งตรงมาทำร้ายเปกาเฟอร์
ปีศาจร้ายกระเด็นออกไปตามแรงของพลัง
ไมเคิลวิ่งเข้ามาประคองร่างของยู
เปกาเฟอร์ตั้งตัวได้ เข้าจึงปล่อยพลังหมายจะทำร้ายไมเคิลและยู
ไมเคิลเองไม่ทันตั้งตัว เพราะมัวแต่ห่วงยู เขาเห็นว่าเปกาเฟอร์ปล่อยพลังออกมา
เขาจึงเอาตัวเพื่อมาบังตัวของยูไว้ แต่แล้วก็เหมือนมีรังศีมาคลุมร่างของคนทั้งสองไว้
“รังศีสะท้อน” ราฟาแอลตะโกนปล่อยพลัง
พลังของเปกาเฟอร์จึงย้อนกลับไปหาตัวของเขาเอง
เปกาเฟอร์ล้มลง พร้อมกุญแจดอกที่สี่ ที่กระเด็นออกมาจากมือของเขา
กาเบีรยล์เห็นกุญแจจึงรีบวิ่งไปคว้ามา
แต่เปกาเฟอร์ไม่ยอมแพ้ ปล่อยพลังออกมาอีก
กาเบีรยล์ไหวตัวทันเขายื่นมืออกมาปล่อยพลังออกมากันพลังทำร้ายล้างของเปกาเฟอร์
“วายุพัดพิฆาต” ลำแสงหมุนตัวเป็นเกลียวคลื่น รัดสำแสงสีดำของเปกาเฟอร์ จนลำแสงอันชั่วร้ายหายไป
เปกาเฟอร์แปลกใจที่เหล่าเทวดามีพลังเพิ่มมากขึ้น
ไมเคิลวางร่างของยูลง พร้อมพูดกับเพื่อนๆของเขาว่า
“ตอนนี้หล่ะจัดการเลย” ไมเคิลลุกขึ้นพนมมือ
ราฟาแอล และกาเบีรยล์ก็พนมมือด้วย
ทันใดนั้น ร่างทั้งสามก็มีรัศมีออกมา พร้อมกับสัญลักษณ์ของเทวดา คือ ปีก รูปกางเขนบนหน้าผาก และรัศมีรอบศีรษะ(แสงสีทองวงกลมลอยอยู่เหนือศีรษะ)
“ด้วยเดชะอำนาจของพระบิดา พระบุตร พระจิต โปรดประทานพลังแก่ข้าด้วย”
แล้วเทวดาทั้งสามทำเครื่องหมายมหาสำคัญกางเขน พร้อมตะโกนสุดเสียง
“พลังเทวา พิฆาตมาร”
ลำแสงสีทองพุ่งออกมาจากร่างทั้งสาม และร่วมเป็นหนึ่งเดียว มุ่งหน้าพุ่งตรงมาหาเปกาเฟอร์
หนุ่มน้อยรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกถึงพลังอันรุนแรง
เขาเห็นว่าเทวดาทั้งสามกำลังปล่อยพลังเพื่อกำจัดปีศาจ เขาคงเป็นมนุษย์คงเดียวที่ได้เห็นการต่อสู่ของเทวดากับปีศาจ
ร่างของเปกาเฟอร์เหมือนโดนเผาไหม้ จนเขาร้องด้วยความเจ็บปวด
และหายตัวไปในที่สุด
เทวดาทั้งสามทรุดตัวลง ยูรีบไปประคองไมเคิล
ไมเคิลหันไปมองยูที่รีบมาประคองตัวเขา แล้วสายตาทั้งสองก็ประสานกัน
ไมเคิลรู้สึกถึงพลังบางอย่างในตัวของยู และแล้วความรุ้สึกนั้นก็หายไป
“ไหวไหม” ยูถามไมเคิล เขาพยักหน้าแล้วลุกขึ้นยืน
ยูเห็นว่าไมเคิลไม่เป็นอะไรเขาจึงรีบเดินไปหามายด์ที่ยังสลบอยู่
ยู้เห็นแผลบนหน้าผากของเด็กน้อย เขาจึงหันไปพูดกับราฟาแอล
“ราฟาแอล คุณช่วยหน่อยได้ไหม”
ราฟาเอล จึงเดินมาประคองร่างของเด็กน้อย แล้วปกมือเหนือบาดแผล
แผลของเด็กน้อยก็หายไป
กาเบีรยล์ก็รีบเด็กมาหาเด็กน้อยเช่นกัน เขาเงยหน้ามามองยู
“ผมจำเป็นต้องลบความทรงจำ”
ยูพยามยามข่มใจ เขาเองรู้สึกดีที่ได้รู้จักมายด์เพราะมายด์เปรียบเหมือนน้องชายของเขา
กาเบีรยล์จึงลบความทรงจำของมายด์ตั้งแต่เด็กน้อยเจอกุญแจเป็นต้นมา
ราฟาแอลก็ไปรักษาบาดแผลให้หัวหน้าแก๊งค์ด้วย
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ไมเคิล และ ยูก็กลับบ้าน
ไมเคิลรีบเอาอาหารที่ตัวเองทำมาเสนอหนุ่มน้อย
“นี้ผมทำเองหมดเลยน่ะ”
“จะกินได้เหรอเนี้ย ทำไมไข่เจียว ไส้มันทะลักขนาดนี้เนี้ย”
ยูใช้ช้อนตักสตูพร้อมบ่นว่า”ทำไมเนื้อมันแข็งหล่ะ เคี่ยวน้อยไปหล่ะซิ”
ไมเคิลเกาหัวยอมรับความผิด
“ซุชิพอไหวไหนลองชิมซิ” แล้วเขาก็หยิบซุชิเอาเข้าปาก
ยูเคี้ยวอยู่นาน จนไมเคิลลุ้นกับผลที่ออกมา
ยูขมวดคิ้ว “ทำไมเป็นแบบนี้”
ไมเคิลแปลกใจว่าเขาทำอะไรผิดไปเหรอ “ทำไมไม่อร่อยเหรอ”
“ป่าว อร่อยมากต่างห่าง 555” แล้วทั้งสองก็หัวเราะพร้อมกัน
เปกาเฟอร์พยุงร่างอันบอบช้ำ มาหาหัวหน้าของเขา
“ท่าน ท่าน ช่วยเพิ่มพลังให้ข้าด้วย พวกมันได้พลังเพิ่มจนข้าสู้ไม่ไหว”
ท่านหัวหน้ายืนหันหลังพูดกับลูกน้องของตัวเอง
“แต่เจ้าทำงานพลาด”
“ข้า ข้า พยายามแล้วท่าน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง
“เจ้าไม่จำเป็นต้องทำอีกแล้ว”น้ำเสียงของหัวหน้าปีศาจดูน่ากลัว
“ถ้ามันเพิ่มพลังแล้ว ก็หมายความว่า มีแต่ข้าท่านนั้นที่จะต่อสู้กับมันได้”
แล้วเขาก็หันหน้ามามองลูกน้องของตัวเอง
“ส่วนเจ้าก็หมดความหมายกับข้าแล้ว” เขาเดินมาใกล้เปกาเฟอร์
“ท่าน ลูซิเฟอร์ หมายความว่าท่าน...” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบประโยค
เปลวไฟก็ลุกโชติช่วงไปทั้วตัวของเขา
ในพริบตาเดียวร่างของเขาก็หายวับไป
ลูซิเฟอร์กำมือแน่น ไม่นึกว่าตัวเองจะต้องมาปะทะกับไมเคิลอีกครั้งหนึ่ง
แต่คราวนี้เขาต้องชนะ และจะไม่แพ้เหมือนอดีตกาล
-----จบตอน-----