พิเศษ อนุโมทนาสาธุ
“ผัวมึงจะบวชแล้ว”เสียงดังหน้าตาตื่น ทำเอาเพื่อนในห้องหันมามองให้ความสนใจ
“จริงเหรอ”ถามเกือบๆทั้งห้อง ไม่เว้นแม้แต่คุณปริณที่หน้านิ่งยังตื่นเต้นกับเขาด้วย ผมได้แต่พยักหน้ายิ้มๆ ก่อนจะหันมาจิกอีเพื่อนโทรโข่ง
“มึงจะเสียงดังทำห่าไรเนี่ยะ”ผมผลักหัวมันให้กลับไปพิงเก้าอี้ตามเดิม
“อีนี่ กูตื่นเต้นแทนมึงไง”มันตอบและยักไหล่ ส่งลูกอมรสมิ้นท์ให้ผม
“กูตื่นเต้นเองเป็น ทีมึงล่อกับไอ้เป๊บกูยังไม่เสียวแทนเลย”ผมพูดแหย่มันกลับบ้าง มันดูมีความสุขมาก วันเกิดมันที่ผ่านมานอกจากของขวัญพวกผม เพื่อนไอ้ไผ่ และพี่ๆที่รู้จัก มันยังได้ลูกหมาพันธ์โกลเด้นท์ฯเป็นของขวัญจากไอ้เป๊บด้วย มันดีใจมากฝันอยากเลี้ยงหมาพันธ์นี้มาตั้งแต่เด็ก ฟูมฟักประคบประหงมเรียกลูกทุกคำกับหมา แต่กูมึงทุกคำกับผัวตามเดิม ลูกมันชื่อ น้องปอย อันนี้เป็นชื่อเล่น พวกผมก็เติมชื่อเต็มให้ว่า อีปอยเปรต มันเป็นตัวเมีย มันก็ด่าหาว่าหูไม่มีสกุลฟังชื่อลูกมันผิด
“คนล่ะเรื่อง ด๊วกกกก ไม่ต้องเสนอหน้าปรารถนาดีเสียวแทนกูเลย มึงเคยพูดเองไม่ใช่เหรอของอย่างนี้เสียวใครเสียวมันแทนกันไม่ได้”มันยื่นหน้าพูดใส่ผมที่ล่นถอยหนีน้ำลายมันอย่างขำๆ
“พี่ไผ่จะบวชเหรอวะ”ไอ้โอมมาถึงก็ถามทันที
“เมื่อไร ตรงปิดเทอมหรือเปล่า”ไอ้อาร์มสนั่งเอามือกอดไหล่ผมทันที
“เออ ปิดพอดี ส่วนวันเดี๋ยวมันโทรมาบอกอีกที”ผมบอกพวกมัน ช่วงนี้มันกลับไปอยู่บ้าน ช่วยพี่ๆดูแลและขยายโรงแรมตอนนี้เป็นที่รู้จักมีคนมาใช้บริการมากขึ้นทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว ผมโคตรคิดถึงเลยแต่ก่อนไปก็เอา(กัน)อยู่ เลิฟๆๆ ดีว่าช่วงนี้มีรายงานและภาคปฏิบัติมาผ่อนคลายลงไปบ้าง มันห่วงผมเรื่องกินเรื่องขับรถ เป็นสองเรื่องที่ห่วงมาก
“ดีๆๆ พวกกูอยากไป”อีออยพยักหน้าแบบว่ากูอยากไปมาก ยังไม่ทันไรส่งข้อความไปบอกไอ้เป๊บแล้ว บอกว่าเคลียร์ตัวเองให้ว่าง ถ้าไม่ว่างกูจะไปหาเอาข้างหน้า 555 สักพักไอ้เป๊บตอบกลับมา ถ้าหาใหม่มันจะฆ่าลูกทิ้งทันที
“ไอ้เชี่ยะ ไอ้เลว ฆ่าได้กระทั่งลูกตัวเอง”มันด่าไปพิมพ์ไปยังไม่ทันส่ง ไอ้แฝดแย่งมาพิมพ์ต่อ ‘แต่มึงฆ่าไปเถอะ เดี๋ยวกูให้ผัวใหม่ซื้อให้ อิอิ’ ผมส่ายหน้าขำๆ ก่อนไอ้เป๊บจะโฟนอินกลับมาด้วยน้ำเสียงสุดเข้มผสมหื่น ‘เย็นนี้เจอกัน จะฟันให้เดี้ยงเลย’
“ไอ้แฝดมันพิมพ์โว้ย กู ปะ สัด หาเรื่องให้กูแล้วไหมล่ะ”อีออยด่าไอ้เป๊บแต่ไม่ทันหันมาด่าไอ้แฝดที่หัวเราะชั่วร้าย สะใจ กำลังจะด่าแต่อาจารย์เข้ามาพอดีเลยยุติ
/
/
/
“อืม ไม่น่าจะยาก”ผมดูแบบการพับดาว สานตะกร้อ จากริบบิ้น
“ทำไรวะ”ถามพร้อมมือพาดไหล่
“กูอยากทำไอ้นี่”ผมบอกออยที่มองอย่างสนใจ ยิ้มและพูดต่อ
“กูสอนให้”มันบอกผมยักคิ้วใส่
“มึงพูดจริง”ผมถามมันอย่างไม่เชื่อว่ามันจะทำได้
“อีฝิ่น มันง่ายกว่าซ่อมรถอีกมึง”มันทำเสียงเนือยๆใส่
“กูไม่นึกว่ามึงจะทำได้นี่หว่า”ผมยักไหล่เดินไปกินข้าวที่โรงอาหารกัน ไอ้แฝดโบกมือให้รู้ว่าเพื่อนที่หน้าตาดีพอกับมึงนั่งตรงนี้ ไอ้ต้าร์กับเพื่อนซี้สองคนอยู่ด้วย
“อีโมนิค อีจ๋า อีหยี มันก็ทำเป็น”มันบอกอีก
“งั้นเย็นนี้ไปซื้อของและสอนกูเลยนะ”ผมกอดคอเอาหน้าแนบแก้มอ้อนมัน
“ไม่ต้องมาอ้อนเหมือนลูกกู”มันบิดจมูกผม
“กูน่ารักกว่า อีปอยเปรต ลูกมึงเยอะ”ผมพูดและวิ่งหนีมัน
“อีเวร กูไม่สอนซะนิ”มันด่าตามมาติดๆ นั่งปุ๊บกินปั๊บ มันซื้อไว้ให้แล้ว
“ถ้าไม่ติดธุระอะไร กูไปแน่”ไอ้ต้าร์บอกผมหลังจากกินข้าวและย้ายก้นมานั่งกันหน้าคณะไอ้ต้าร์
“เราคงไปไม่ได้ แต่จะร่วมทำบุญด้วย”นัมเบอร์พูดอย่างเสียดาย
“เราด้วย เสียดายจัง”เกลบอกมั่ง ทั้งคู่ไปซัมเมอร์
“ไม่เป็นไร แค่คิดดีก็ได้กุศลแรงแล้ว ขอบใจนะ”ผมบอกทั้งสองคนที่ยิ้มรับ บอกว่าพรุ่งนี้จะเอาเหรียญที่เก็บไว้มาให้ ผมก็ไม่ปฏิเสธเพราะเขาตั้งใจจะร่วมบุญด้วย ก่อนจะแยกย้ายกันขึ้นเรียน ผมกับอีออยไม่มีเรียนช่วงบ่ายแล้วก็เลยไปซื้อของกัน
“เอาทุกสีเลยดีกว่า”พูดและก็หยิบใส่ตะกร้า ซื้อไหมพรมด้วยซะเลย ผมถักได้หลายอย่างแล้วนะ เก่งไหมล่ะ กำลังเลือกเพลินโทรศัพท์สั่น หยิบมาดูกดรับทันที”อนุโมทนา หลวงพี่ บาปนะครับโทรหาเนี่ยะ”ผมทักคนปลายสาย
“มึงสิบาปเอามาล้อเลียน บาปหนักด้วย กูจะบอกให้”มันขู่ผมกลับมา
“มึงแหละบาปโกหกกู มีอะไร”ผมว่ามันกลับ คุยดีๆมาหลายวัน กัดกันบ้างดีกว่า
“กินข้าวยัง”นั่นไงประโยคเบสิคแต่ฟังแล้วคลาสสิคใจมาก
“ยังเลย”ผมตอบ มือก็หยิบไหมพรมสีแดงแปร๋นใส่ตะกร้าไปด้วย
“มัวด่าใครอยู่ล่ะ ถึงไม่มีเวลากินข้าว”มันถามเรียบแต่ฟังเหมือนด่าอ้อมๆ
“สัด งานหลักกูเหรอ เดี๋ยวจะด่ามึงนี่แหละ แล้วกินหรือยังหรือมัวแต่มองอีนั่นอีนี่อยู่ ปลงซะมั่งใกล้บวชแล้ว อย่าให้รู้นะ”ผมใส่มันกลับได้ยินเสียงมันหัวเราะเบาเบา
“มึงมากกว่าที่ปลงซะมั่ง แล้วสรุปมึงกินข้าวหรือยัง”มันพูดขำๆและถามคำเดิม
“ข้าวไม่ได้กิน กินแต่ผัดไท และมึงล่ะ”ผมตอบมัน ก่อนจะพยักหน้าให้อีออยว่าเสร็จแล้วเดินไปหามัน ส่งเงินให้มันชำระของให้เดินออกมาคุยนอกร้าน
“กินแล้ว อยู่ผับเหรอวะเสียงโคตรดัง”มันตอบและถามในสิ่งที่ไม่น่าถาม
“ผับบ้านมึงสิเปิดตอนนี้ แหกตาดูเวลามั่ง กูอยู่ห้าง”ผมแว็ดมันแต่หัวเราะไปด้วย
“คิดถึงกูไหม”อ้าว เปลี่ยนเรื่องซะงั้น
“คิดถึงสิ มากด้วย”ผมก็ตอบตรงๆ ก็คนมันคิดถึงนี่หว่า
“แค่นี้นะ”มันตัดบท
“เฮ้ย มึงอย่าบ้า โทรมาถามแค่นี้และจะวาง พูดตอบกูมาก่อน”ผมร้องและท้วงมัน
“ถ้าคุยต่อกูจะบ้าเพราะได้ยินเสียงแต่ไม่เห็นหน้ามึงนี่แหละ”มันบอกทำเอาผมอึ้ง ก่อนจะพูดกลับไป
“เหมือนกันเลย อยากเจอพี่เร็วๆ ฮึก”ผมพยายามกลั้นสะอื้นไม่ให้มันได้ยิน
“อย่าร้องสิ พี่เป็นห่วง น้องกินข้าวเยอะๆนะ เวลากอดจะได้อุ่น อย่าขับรถเร็วนะ รู้ไหมครับ”เสียงทุ้มพูดหวานๆให้ฟังถ้ามันได้ยินเสียงผมหงอยจนเข้าขั้นกลั้นสะอื้นมันจะพูดเพราะทันที เดี๋ยวนี้คุณพี่กระบือของผมเขาพัฒนาความหวานขึ้นเยอะ
“ครับ พี่ก็เหมือนกัน รอน้องด้วยนะ”ผมเช็ดน้ำตาบอกมัน ไม่รู้อีออยมายืนข้างๆเมื่อไรหยิบผ้าเช็ดหน้าซับให้
“ครับ แค่นี้นะพี่ไปดูงานต่อ ดูแลตัวเองให้ดีเหมือนที่อยู่กับพี่นะ”มันบอกเรียบๆแต่ผมสัมผัสได้ถึงความห่วงใย ที่มันมีให้ตลอดเพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกัน
“รู้แล้ว คิดถึงพี่ไผ่นะ”ผมบอกคุยอีกนิดก็วางสาย น้ำตาไหลอีกแล้ว
“โอ๋ ไม่ร้องนะ ถ้าพี่ไผ่รู้ว่ามึงร้องไห้เขาจะเป็นห่วง”อีออยปลอบผมเหมือนปลอบลูกมันเลย เช็ดน้ำตาให้
“มึงก็อย่า ฮึก ไปบอกสิ ฮึกๆ”ผมสั่งมันเหมือนเด็กที่ทำผิดแล้วห้ามไปฟ้องผู้ใหญ่ มันเหมือนจะขำเอามือกอดเอว
“เออ กูไม่บอกหรอก ไปไป กลับบ้านกัน เดี๋ยวเสาร์นี้ค่อยทำ กูนัดพวกนั้นไว้แล้ว”อีออยพยักหน้าก่อนจะเปลี่ยนโปรแกรม
“อืม ดีเหมือนกัน”ผมพยักหน้า ก่อนเดินไปรอไอ้เป๊บที่กำลังขับรถมารับและไปส่งผม
/
/
/
“แตก”
“เบาๆ แตกแล้ว”
“ซื๊ดดด กูบอกให้เบามือหน่อย”
“ทับแบบนี้”
“อา สอดเข้ามา”
“เยส เบานิด เดี๋ยวแตกอีก”
“นั่นแหละ”
“เก่งมาก”
“โอยยย พักก่อน”ผมบอกก่อนจะนอนเหยียดบนเสื่อที่ปูนั่งกันตรงหลังบ้าน ทุกเสียงที่พวกคุณได้ยินและจินตนาการ มันคือเสียงพวกเพื่อนผมเองที่กำลังสอนผมทำในสิ่งที่ต้องการอยู่
“หัวไวเหมือนกันนะมึง แป๊บๆก็เป็นแล้ว แต่สวยน้อยกว่าของกูหน่อย คริคริ”อีโมนิคชมแต่เหน็บไปด้วย
“กูยอมรับเรื่องนี้ แต่เรื่องหน้ากูสวยกว่ามึงเยอะ โหะโหะ”ผมหัวเราะใส่มันบ้าง
“อีเลว”มันด่าและเขวี้ยงหมอนอิงใส่ผมที่ดึงไอ้โอมรับแทน
“สัด โดนนิดเดียวทำสาหัสอ้อนเมีย”ผมด่ามันที่ทำเป็นล้มไปใส่ตักไอ้ต้าร์ที่กำลังตั้งใจสอดขั้นตอนสุดท้ายอยู่ ตกใจจนหลุดจากมือ
“โอม ลุกเลยเห็นไหมว่าทำอะไรอยู่ พังหมด”ไอ้ต้าร์ตีแขนให้มันลุก มันไม่ยอมเลยโดนไอ้อาร์มสจิกหัวขึ้นมาไม่ใช่หวังดีแต่อิจฉาว่าตัวเองไม่ได้นอน ไม่รู้จะแย่งอะไรกันป่านนี้แล้ว พอหมดไอ้สามสามัคคี เสียงชะนีก็ต่อ
“อีหยี ทำไมมึงพับได้เยอะกว่ากูวะ”นังจ๋าหันไปถามนังหยีจิกตาใส่
“ก็กูเก่ง ถึงจะไม่รวยมากแต่สวยกว่ามึง จบไหม”นังหยียักไหล่จิกกลับ
“ไม่จบ อีสตอ โกหกทั้งประโยค”มันไม่ยอม ผมนอนพวกมันก็เพลินดี วันนี้ผมบอกกำหนดการณ์พวกมึง โอเค ทุกคนว่าง เอารถตู้ไปคันเดียวพอ นอกจากผมก็มีปู่ แม่ และก็ป้านวลไปด้วย คุณว่าที่แม่ยายเสียงปลื้มมาตามสไกป ยุ่งยังไงก็ต้องมาบวชลูกเขยให้ได้เรียกเต็มปากเต็มคำมาก เมื่อสองเดือนก่อนแม่บินมา ชมมันใหญ่เลยว่าตัวจริงหล่อมาก สเป็คแม่ พูดไม่เกรงใจลูกชายตัวเองเอาซะเลย นั่นก็ชอบใจแต่เก็บอาการ แสดงออกโดยการทำอาหาร พาไปเที่ยว บริการทุกอย่าง เพิ่มคะแนนโหวตให้ตัวเองอย่างล้นหลาม ทำเอาผมอิจฉาตาร้อนผ่าวๆ แยกไม่ออกว่าอิจฉาใครกันแน่ ดีนะเป็นแม่จ๋าหนูไม่ว่า ถ้าเป็นอีนั่นอีนี่ โดน มันมีการมากระซิบข้างหูตอนนอนว่า แม่มึงก็เหมือนแม่กู รักลูกเขามากเท่าไรก็ต้องแสดงออกที่แม่ยายเท่านั้น มันเกี่ยวกันไหม แต่ก็ทำเอาหุบไม่ลงเลยกู หมายถึงปากนะที่ยิ้มปลื้มใจ
“เคลิ้ม อีนี่ นอนเคลิ้มคิดถึงผัว เป้าแฉะแล้วมั้งมึง”อีโมนิคสะกิดเอามือมาจับเป้า ผมสะดุ้งตีมือมันเกือบไม่ทัน
“อีนี่ เป็นสาวใช้นายนำหน้า ทะลึ่งมาจับไม่เข้าเรื่อง”ผมว่ามันก่อนจะลุกนั่ง
“อีฝิ่น มึงบีบนมกูให้ซิลิโคนแตกไปเลยดีกว่า ด่ากูอย่างนี้ อีห่า”มันพูดทำท่าดีดดิ้นไปมา จนไอ้ต้าร์ขำคิก ก่อนจะได้พูดอะไร ป้านวลกับพี่น้อยก็เอาของว่างมาให้
“ทานขนมก่อนค่ะ”ป้านวลบอกก่อนจะจัดวางเรียงให้
“คุณน้องทำได้เยอะหรือยังค่ะ”พี่น้อยถามผมที่เลื้อยไปนั่งพิงป้านวลแล้ว
“นี่ไง สวยไหม”ผมชูให้พี่น้อยดู อวดซะเลย
“เกือบสวยแล้วค่ะ”พี่น้อยตอบ ทำเอาไอ้พวกนั้นชอบใจ
“ยังไม่สวยอีกเหรอ นี่เข้าขั้นแล้วนะ”ผมขมวดคิ้วมองดาวที่พับ เบี้ยวนิดๆแตกหน่อยๆ
“อีกนิดค่ะคุณน้อง อีกนีดส์นึง”พี่น้อยพยักหน้าทำเสียงทำมือจิ๊บๆไปด้วย
“ก็ได้ ป้านวล”ผมรับก่อนจะเงยหน้าเรียกแม่นมคนสวย
“ถึงไม่สวยแต่เก่งค่ะ”ป้านวลพูดยิ้มๆ
“น้องยังไม่ได้ถามเลย”ผมท้วงแก
“ป้าก็บอกไว้ก่อนเลยไงคะ แล้วใช่คำตอบที่คุณน้องจะถามหรือเปล่าล่ะ”ป้านวลลูบผมถามอย่างอ่อนโยน ผมพยักหน้างึกๆ"เชื่อเถอะค่ะ พี่ไผ่ต้องชอบแน่ ของที่ทำด้วยมือถึงจะยังไม่งามแต่ตั้งใจทำ ก็ถือว่าดีแล้วค่ะ”ป้านวลพูดให้กำลังใจ
“แน่นอน พี่ไผ่ต้องชอบอยู่แล้ว เลี่ยงได้ที่ไหนล่ะ เน๊าะ”ผมพูดยิ้มๆทำเอาแกหัวเราะ ก่อนจะปล่อยให้ทำกันต่อ พรุ่งนี้ปู่ก็จะมาแล้ว เกือบลืมมีพี่ธรรณ์ไปด้วย คู่จิ้นปู่เขา 555 มะรืนคุณแม่คนสวยก็มาถึงเหมือนกัน
“เผด็จการไม่เลิกนะมึง”ไอ้โอมผลักหัวผมอย่างหมั่นไส้ หลังจากป้านวลไปแล้ว
“ทำอย่างกับแกเคยปฏิเสธ ขนาดมาม่าต้มจนอืดเละเทะ แกยังกินเลย”อีออยพูดพลางเบะปาก ไอ้เป๊บไม่ได้มาแต่มันตกลงแล้วว่าไปแน่นอน รอดไปอีปอยเปรตมึงไม่ถูกพ่อมึงฆ่าแล้ว
“ไม่ใช่เอาใจอะไรหรอก แกรำคาญหน้ามึงกับเสียงบ่นที่รมควันข้างหู ฮ่าๆๆๆๆ”ไอ้อาร์มสพูดอย่างรู้ดี
“ตีนเห๊อะ มันเสียดายของหรอก”ผมยันมันจนถลาไปซุกตักเมีย ไอ้โอมเลยถือโอกาสเอาคืน แหย่กันไปมาและนั่งทำต่อจนเกือบเย็นก็กินข้าวด้วยกันและแยกย้ายกันกลับ ผมเดินขึ้นห้องหลังส่งพวกมันแล้ว ก่อนกลับพวกมันกอดผมบอกว่าอย่าร้องไห้ต้องคิดอะไรที่มันดีๆพี่เขาจะได้ไม่เป็นห่วง อยากให้พวกมันทำอะไรให้ก็บอก อยากให้อยู่เป็นเพื่อนไหม ผมกอดตอบซึ้งในน้ำใจพวกมันมาก แม้แต่ไอ้ต้าร์กับไอ้เป๊บที่เพิ่งจะรู้จักกันไม่นาน ก็ยังให้กำลังใจและช่วยเต็มที่
“ในที่สุดก็สวยจนได้ หุหุ ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกดีกว่า”ผมนอนมองของที่พับในมืออย่างพอใจที่ฝีมือพัฒนาขึ้น แชะรูปไว้”น้องทำให้พี่ไผ่นะเพื่อวันที่ดีวันหนึ่งของครอบครัวเรา เพื่อนๆก็ช่วยด้วยนะ เจอกันนะครับ จุ๊บๆๆ”ผมส่งความคิดผ่านทางใจกอดตุ๊กตาควายที่สีเริ่มซีดลงยกเว้นความอบอุ่นที่ไม่เคยจาง มีผ้าพันคอด้วยนะผมถักให้เจ้าของตัวจริงที่ทิ้งกลิ่นจางๆติดไว้ อืม หอมจุงเบย กลิ่นโคลนสาบควายแต่หล่อนะ สิบอกให้ หุหุ
/
/
/
อนุโมทนาต่อจ๊ะ