.........................................*
สีสันของงานปีใหม่ดูรื่นเริง แสงไฟถูกตกแต่งไปทั่วทั้งเมือง เกาะกลางถนนดูสว่างสดใสด้วยดวงไฟเล็ก ๆ นับร้อย ๆ ดวง ตามหน้าร้านค้าต่าง ๆ ก็มีข้อความจากริ้วประดับว่า "สุขสันติ์วันปีใหม่" ทั่วทั้งเมือง
งานปีใหม่ที่ทุ่งกลางเมืองดูคึกคัก ผู้คนมากมายจากที่ต่าง ๆ หลั่งไหลเข้ามาสังสรรในงานแห่งนี้ ทั้งวัยเด็ก ผู้ใหญ่ หรือนาน ๆ ทีก็เห็นวัยชราเดินกันให้ควั่ก
ความจริงไผ่ไม่ชอบงานที่มีแต่ผู้คนเดินไปเดินมาน่าเวียนหัว หรือเสียงเพลงดังหูดับตับไหม้เช่นนี้ ถ้าหากไม่ได้มากับเชนเขาคงปฏิเสธไปแล้ว
เชนก็ดูรื่นเริงกับงานดี เขาดูสดใสเหมือนปกติ
"ไผ่ดูไม่ค่อยสนุกเลยนะ" ใบหน้าเชนเปื้อนยิ้มตลอดเวลา "ดูสิ ซุ้มนั้นน่าสนใจนะ เข้าไปดูกันหน่อยไหม"
ไผ่ตามใจเชนอีกครั้ง ซุ้มที่ว่านั้นเป็นซุ้มปาเป้า ดูเหมือนเชนจะชอบเล่นเกมปาเป้าและยิงปืนชิงรางวัลมากกว่าที่อื่น ๆ ไผ่ดูเชนปา เชนยิง แต่ก็ไม่เคยได้รางวัล กระนั้นเชนก็หัวเราะชอบใจ บ่อยครั้งที่เชนชวนไผ่เล่นด้วยกัน แต่ก็ได้รับคำตอบเป็นการส่ายหน้าทุกครั้งไป
"เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆไปได้" ไผ่ติง
"ฮะ ฮะ ถ้านายไม่เคยเป็นเด็ก นายก็ไม่ได้โตหรอก"
"แต่อย่างนายนี่ เขาเรียกว่าเด็กเลี้ยงไม่โต"
"เฮ้ ๆ ฉันอายุมากกว่านายนะ" เชนร้องเมื่อถูกคนอ่อนวัยกว่าว่าเข้าให้ คำตอบคือการถอนหายใจและรอยยิ้มขบขัน
ไผ่เห็นอะไรบางอย่างสะท้อนแสงอยู่ที่ร้านข้าง ๆ ร้านขายของแบตามดินธรรมดา
"เชน เดี๋ยวฉันไปดูของร้านข้าง ๆ นี่นะ"
ไผ่เดินจากมาเมื่อเห็นเชนพยักหน้ารับรู้ ดูเหมือนเขาจะสนุกสนานกับการปาเป้าอย่างจริงจัง
ชายหนุ่มเดินมาดูแผงขายเครื่องประดับของวัยรุ่น เขาเองก็เลยวัยนั้นมาแล้ว นิสัยของเขาไม่เหมือนวัยรุ่นนักแม้ตอนที่ยังอยู่ในวัยนั้น แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าเขาสนใจเจ้าสร้อยคอสายโซ่ที่มีจี้เป็นหินสีดำเส้นนี้นัก หินก้อนนี้เป็นหินสีดำที่ดูเหมือนจะขัดจนเงางาม และเนื่องจากความเรียบง่ายธรรมดาของมัน จึงดูเหมือนว่าเจ้าสร้อยเส้นนี้ไม่ได้ถูกแตะต้องจากลูกค้าคนใดมาก่อน
แต่ความธรรมดานี้แหล่ะที่ไผ่ชอบนัก
"นี่ไผ่" เชนเข้ามาทัก เขาชะงักเมื่อเห็นไผ่จ้องมองสร้อยเส้นนั้น "สนใจเหรอ ฉันซื้อให้เอาไหม ของขวัญวันปีใหม่ไง"
"ไม่เป็นไรหรอก" ไผ่ตอบ แล้วเดินไปดูอย่างอื่น พยายามมองหาสิ่งอื่นที่เขาสนใจ
เชนมองสร้อยเส้นนั้น แล้วหยิบขึ้น เอาไปจ่ายเงินกับเจ้าของร้าน
ไผ่มองเชนที่ตามออกจากร้านมาอย่างสงสัย แล้วสังเกตเห็นสร้อยสีนิลที่เชนสวมอยู่
"นายซื้อสร้อยเส้นนั้นเหรอ" เชนพยักหน้าเนิบ ๆ เป็นคำตอบ
"ฉันชอบมันนะ นายไม่เอา ฉันเอาเอง"
แสงไฟวูบวาบ เสียงเพลงดังสนั่น และผู้คนมากมายทำให้ไผ่เวียนหัว เขาไม่ชอบบรรยากาศปีใหม่นักตามประสาคนรักความเงียบสงบ เชนสังเกตเห็นจึงชวนไปเล่นชิงช้าสวรรค์ ซึ่งไผ่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ
ไผ่ช่วยเชนปีนขึ้นชิงช้า ทั้งสองอยู่ด้วยกันตามลำพังในกระเช้า
"นานแล้วนะที่ไม่ได้มานั่งเนี่ย" เชนรำพึง ไผ่สังเกตเห็นดวงตาของชายหนุ่มเบื้องหน้าทอประกายหม่นหมองบางอย่าง
"ฉันไม่เคยมานั่งเลย" ไผ่พึมพำ แล้วสังเกตเห็นว่าเชนมองเขาอย่างประหลาดใจ "แปลกยังไงเหรอ"
"ก็...ฉันไม่คิดว่าจะมีเด็กที่ไม่เคยนั่งชิงช้าสวรรค์นะ เพื่อนฉันก็เคยนั่งกันทุกคน"
ไผ่หัวเราะ เขาดีใจที่เห็นเชนยิ้มได้สักที
"เชน ฉันขอถามคำถามนายสักข้อได้ไหม" ไผ่ออกปากหลังจากไตร่ตรองดีแล้ว
"ถามมาสิ ถ้าตอบได้ก็จะตอบ"
"นายโกรธฉันหรือเปล่า เรื่องที่ฉันเคยถามว่านายมาเก็บขยะที่หาดนั่นทำไม" นี่คือเรื่องที่ทำให้เขาไม่สบายใจมาหลายต่อหลายวันแล้ว
"ถ้าโกรธ ฉันก็ไม่มาหานายอีกแล้วน่ะสิ" เชนตอบ ตามองไปยังแสงไฟเบื้องล่าง "ฉันไม่ได้โกรธหรอก แต่มันสะกิดใจ เลยไม่อยากจะตอบทันที.."
ไผ่ถอนหายใจอย่างโล่งอก
"แต่ถ้านายอยากรู้จริง ๆ นะ..." ชายหนุ่มร่างเล็กมองออกไปยังท้องฟ้าเบื้องนอก แสงจันทร์ถูกบดบังไปหมด ไม่มีดาวสักดวงบนท้องฟ้า "ฉ้นจะเล่าให้นายฟังก็ได้"
ไผ่มองดูเพื่อนที่ดูเศร้าสร้อยขัดกับบุคลิกปกติ
"ถ้าเรื่องนั้นทำให้นายเศร้า นายก็ไม่ต้องเล่าให้ฉันฟังหรอกนะ แต่ฉันก็ยินดีจะรับฟัง ถ้ามันจะทำให้นายสบายใจ"
"ขอบคุณนะ" เชนหันมายิ้มให้ไผ่ "นายดูร่าเริงมากขึ้นเยอะเลยหลังจากออกจากโรงพยาบาล"
"ฉันมีความสุขเวลาที่อยู่ใกล้นาย" ไผ่ตอบอย่างไม่ปิดบัง เชนรู้สึกว่าหัวใจเขาเต้นเป็นจังหวะแปลก ๆ ชายหนุ่มตรงหน้าไม่เคยปิดบังความคิดของตนเองเลย อาจจะเป็นเพราะไม่ใช่นิสัยของเขาก็ได้
เชนนิ่งคิด เขาเองก็รู้สึกดีที่ได้ยินไผ่เอ่ยเช่นนั้น
"ฉันก็...คงรู้สึกเหมือนนาย"
ไผ่ยิ้มให้เชน และได้รับรอยยิ้มที่ดูสบายใจตอบกลับมา
คืนนั้น หัวใจของเขาทั้งสองพองโตด้วยความสุข
............................................................................................*
โอ้ รักกันง่ายไปหน่อยมั๊ยเนี่ย