ไผ่พับเสื้อตัวสุดท้ายลงกระเป๋า เขากำลังเก็บเสื้อผ้าของเขา
"เอ้อ ไผ่ ฉันเจออัลบั้มภาพ" เสียงเชนแว่วมาจากนอกห้อง
"ไม่เอาหรอก ทิ้ง" ไผ่ตอบ ดวงตาสำรวจหาข้าวของจำเป็นที่น่าจะเหลืออยู่ในห้องนอน
"ทิ้งรูปเหรอ" เชนถามเสียงสูงราวกับไผ่บอกให้โยนทองลงทะเลลึก "ไม่เอาน่าไผ่...ถึงจะเป็นแค่รูปเล็ก ๆ มันก็เป็นความทรงจำนะ"
เจ้าของอัลบั้มภาพไม่ได้ตอบ เขายกกระเป๋าเสื้อผ้าออกมานอกห้อง เห็นเชนกำลังนั่งเปิดอัลบั้มภาพดูอยู่บนพื้น "ในนั้นมีภาพอะไรบ้างล่ะ"
"สุดยอดเลยแฮะ" คนนั่งอยู่บนพื้นเอ่ยปากชม ตามองรูปภาพของเด็กชายตัวผอมแห้งกอดกับผู้หญิงคนหนึ่ง "นี่รูปนายตอนเด็กเหรอ หน้าเหมือนแบมมากเลยนะ...แต่ผอมไปหน่อย นี่คงเป็นแม่นายสินะ สวยจัง"
"อ๋อ ใช่ นั่นฉันถ่ายไว้ตอนราว ๆ เก้าสิบขวบมั้ง" ไผ่ชำเลืองมามอง เขากำลังค้นกองหนังสือที่ตั้งเป็นกอง ๆ ไว้บนพื้น เพื่อแยกว่าเล่มไหนจะเก็บ จะทิ้ง
"ว่าแต่ตอนนี้แม่นายไปอยู่ไหนล่ะ" เชนถาม
"แม่มีชู้หลังจากฉันพาแบมหนีออกจากบ้าน" ไผ่บอก สีหน้าไม่แสดงความรู้สึกอันใด "พ่อกับแม่หย่ากันตอนฉันอายุ 15 เพราะพ่อจับได้ว่าแม่ไปมีกิ๊ก แล้วแม่ก็ย้ายไปอยู่กับสามีใหม่ที่ออสเตรเลีย แม่ติดต่อกับฉันบ้างนาน ๆ ที แต่ก็ไม่ได้คุยกันหลายเดือนแล้ว"
เชนกัดริมฝีปาก ชีวิตของไผ่นั้นมีเรื่องสาหัสเข้ามามากจริง ๆ เขาผ่านมันมาได้อย่างไรกันนะ
"ฉันไม่ต้องการความเวทนาจากใคร" จู่ ๆ ชายหนุ่มผู้มีอดีตเลวร้ายก็เอ่ยขึ้น "อดีตก็คืออดีต สำคัญตรงที่ว่าฉันอยู่รอดมาได้จนถึงวันนี้..."
เชนไม่ได้พูดอะไร เขาไม่คิดเลยว่าไผ่จะคิดได้แบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ครั้งแรกที่เชนเห็นนั้น เขานึกว่าชายหนุ่มจะเป็นพวกที่จมดิ่งอยู่แต่กับอดีตของตนเอง
"...นายไปนั่งรอแบมเหรอ ทุกเย็นที่ริมหาดทรายน่ะ" เชนตัดสินใจเอ่ยถาม
"ยังไม่ชัดอีกหรือไง" ไผ่ยกกองหนังสือที่เลือกจะเก็บไว้ใส่ลังใหญ่ลังหนึ่ง "เรื่องโรคร้ายนั่นก็เหมือนกัน ฉันกุมาว่าฉันเป็นโรคที่จะต้องอยู่ใกล้ชิดกับทะเลเพราะเรื่องแบมนี่แหล่ะ ฉันพยายามจะตามหาน้องสาวทันทีที่เป็นไปได้ อยากรู้ว่าน้องอยู่ยังไง มีความสุขดีไหม แต่มันคงไม่จำเป็นแล้วล่ะ ตอนนี้ฉันเป็นอิสระแล้ว"
"ความจริงนายน่าจะเจอแบมนะ ถ้านายไปรอที่หาดทรายทุกวัน" เชนบอก ลุกไปช่วยไผ่ขนลังไปขึ้นรถกระบะที่ยืมแพรวามา "แบมน่ะ ไปทะเลทุกวันเลย ไปเก็บขยะไง"
"พ่อกับแม่ไม่ชอบทะเล แล้วแม่ก็ไม่ยอมปล่อยให้ฉันคลาดสายตาตั้งแต่แบมหายไปจากบ้าน" ชายหนุ่มใช้มือปาดเหงื่อบนหน้าออก
"อย่าทำแบบนั้นสิ เดี๋ยวสิวก็ขึ้นหรอก" เชนร้อง ดึงมือไผ่ออก แล้วเอาผ้าเช็ดหน้าของตัวเองยื่นให้ไผ่ "เอ้า ใช้นี่เช็ด คราวหลังหัดพกผ้าเช็ดหน้าบ้างนะ"
ไผ่มองเชนอย่างอัศจรรย์ใจ "นายพกผ้าเช็ดหน้าด้วยเหรอ"
"พกแล้วทำไมล่ะ" เชนถามซื่อ ๆ "ก็พี่แจนกับแม่บังคับให้ฉันพกนี่ ฉันก็แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้นเอง"
"อ๋อ..ดีจังนะ มีคนคอยบังการชีวิตเนี่ย" ไผ่เปรยแล้วรีบเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเชนทำหน้าเสีย "เช็ดให้ฉันหน่อยสิ" ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ เชน
"อ๊ะ มือก็มีนี่ ทำไมไม่ทำเองล่ะ" เชนถอยหนีโดยอัตโนมัติ มือยังยื่นผ้าให้ไผ่ซึ่งคุกคามเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ไผ่ซึ่งตัวใหญ่กว่าแทบจะอยู่ในท่ายืนคร่อมเชน
"เอาน่า อยู่กันสองคน" ไผ่อมยิ้ม แล้วจับมือเชนที่กุมผ้าเช็ดหน้าอยู่ซับหน้าให้เขา
"เช็ดให้ก็ได้ แหม..แค่นี้มาทำเป็นอ้อน" เชนเริ่มเช็ดให้ไผ่ "เฮ้ย เอามือออกไป"
ไผ่ยังไม่ยอมปล่อยมือ เขายิ้มกวน ๆ "เอาออกไป อย่ามาจับ ฉันเช็ดไม่...อะ..."
ไม่รู้ว่าไผ่เลื่อนมืออีกข้างมาโอบเขาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เชนก็ถูกไผ่จูบเข้าอีกจนได้
....................................*
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านเจ้าค่ะ
ฉากจูบบ่อยไปรึเปล่านะ - -" ไม่มีประสบการณ์เลยเรา
แปลก ๆ ตรงนี้น่ะครับ
"พี่คงต้องไปแล้วล่ะ รถออกตอนสิบเอ็ดโมง" เธอดูนาฬิกา อีกครึ่งชม.จะถึงเวลา "เลทไม่ได้ ไปรถไฟ ดูแลแฟนแกให้ดี ๆ นะ พี่จะกลับมาต้อนรับน้องเขยให้ได้" แจนสัญญา เธอโบกมือให้ไผ่แล้วออกไปจากห้อง ไผ่ได้ยินเสียงพ่อกับแม่ของเชนออกจากบ้านไปส่งแจนที่สนามบินด้วย ความเงียบของบ้านทำให้เขารู้ว่า ตอนนี้เหลือเขากับเชนอยู่ในบ้านกันแค่สองคน...
แปลกยังไงเหรอคะ ชี้นำผู้น้อยด้วย
ปล. ฟ้าจะไปเข้าค่ายลูกเสือถึงวันเสาร์ คงได้อัพอีกทีหลังวันเสาร์นะคะ