ตอนที่ 27ธีความเจ็บแสบจากเบื้องล่างพุ่งจี๊ดขึ้นสมองเมื่อผมพยายามขยับตัว เพราะความอึดอัดจากแรงกอดรัดของอ้อมกอดอุ่นภายในวงแขนใหญ่ ใบหน้าขาวหล่อหลับพริ้มอมยิ้มนิดๆติดมุมปากของเจ้าของอ้อมแขนทำให้ผมชักจะหมั่นไส้ที่เห็นมันหลับสบายอยู่คนเดียว ส่วนผมต้องนอนทรมานเจ็บตูดแม้ขยับเพียงนิดความเจ็บแสบก็พุ่งปรี๊ดถึงสมอง ศึกเมื่อคืนต้องยอมรับว่าทำให้ผมมีความสุขแม้จะรู้สึกเสียฟอร์มไปนิดที่เป็นฝ่ายตั้งรับแต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร เพราะแววตาของไอ้หมอภีมที่จับจ้องผมนั้นมันแสดงออกชัดว่ามันหลง มันรัก และมันต้องการแค่ผมคนเดียว ทำเอาผมเคลิ้มไปยอมปล่อยตัวปล่อยใจไปกับมันซะหลายรอบ ส่วนไอ้หมอภีมก็ตอบสนองผมซะเต็มกำลังกระแทกมาไม่ยั้งทำเอาหัวสั่นหัวคลอน ตอนนั้นก็ดีอยู่หรอกแต่ผลในตอนนี้นี่สิแทบอยากกระชากหัวไอ้คนที่กำลังหลับสบายจับโขกขอบเตียงสักทีสองทีเป็นการเอาคืน
“อู้ยยย บ้าชิบ” ความเจ็บแล่นปลาบเมื่อผมขยับเพื่อให้ตัวเองหลุดจากอ้อมแขนใหญ่ จนต้องครางแถมสบถแบบไม่รู้ตัวออกมา เสียงผมคงไปปลุกคนที่กำลังฝันหวานให้รู้สึกตัวเพราะท่อนแขนใหญ่ที่ผมยกออกจากเอวได้แล้วมันดันกลับมาที่เดิมและกระชับร่างผมข้าหาเจ้าของมันอีกครั้ง
“โอ๊ยยย เบาๆดิ” แรงกระชับของเจ้าของอกอุ่นมันไม่เบาเลยทำเอาผมที่ร้าวระบมอยู่ต้องร้องอย่างเจ็บปวด
“ขอโทษครับๆ เป็นยังไงบ้างเดี๋ยวให้พี่ดูหน่อยนะ” เสียงแหบแห้งของคนที่เพิ่งตื่น คิ้วขมวดมุ่น แววตาตื่นตระหนกฉายแววกังวลชัดเจน ก่อนไอ้หมอภีมจะค่อยๆผละออกและวางผมลงกับเตียง มือควานหาแว่นและเปิดผ้าห่มออกจากตัว
“เฮ้ยยยย ทำไรวะ” ผมกำลังมองเพลินแต่รู้สึกเย็นวาบเพราะเพิ่งรู้ตัวว่าไอ้หมอภีมมันดึงผ้าห่มออก แต่มือคว้าผ้าห่มไม่ทันซะแล้ว และไม่มีเสียงตอบจากคนที่ผมถามไป
‘นี่มันคงไม่คิดจะทำอย่างที่ปากพูดใช่มั้ย’ ร่างกายเปลือยเปล่าของผมและไอ้หมอภีมไร้ซึ่งสิ่งปกปิด ผมขนลุกซู่ไม่รู้ว่าเพราะอุณหภูมิที่เย็นขึ้นอย่างเฉียบพลันหรือเพราะสายตาแน่วแน่ที่กำลังก้มหน้าสำรวจผมอยู่กันแน่ แต่ที่แน่ๆ ‘กูอายว่ะ’ ผมเบือนหน้าหนียกหมอนปิดหน้า เมื่อโดนมืออุ่นจับที่ข้อเท้าและแยกออกกว้างโดยไอ้หมอภีมย้ายตัวเองไปนั่งระหว่างขาของผมและก้มหน้าสำรวจช่องทางเบื้องล่างอย่างใกล้ชิด
“อึก อ๊ะ” เสียงผมเล็ดลอดออกมาเบาๆแต่มั่นใจว่าไอ้หมอภีมมันคงไม่ได้ยิน เพราะได้หมอนใบนุ่มช่วยกันเสียงไว้ จะไม่ให้ผมครางได้ยังไงก็ไอ้นิ้วอุ่นๆแตะเข้าที่ช่องทางอ่อนไหว และมีแหวกออกเบาๆเหมือนสำรวจนั่นน่ะครับ มันจะรู้มั้ยเนี่ยว่าผมอายแค่ไหนไม่รู้จะใช้วิชาที่เรียนมาอะไรกันตอนนี้
“แดง ช้ำ อักเสบนิดหน่อย” เสียงพึมพำลอยมาให้ได้ยิน ทำให้ผมนึกภาพตามก่อนความร้อนมันจะลามไปทั่วตัวผม และผมก็รู้สึกได้ว่ามีผ้าห่มกลับมาคลุมร่างไว้ดังเดิม หมอนก็ถูกดึงออกจากใบหน้า ใบหน้าหล่อประดับยิ้มกว้างเป็นสิ่งแรกที่ผมเห็นเมื่อเปิดตา
“เจ็บมากมั้ยครับ ลุกเข้าห้องน้ำไหวมั้ยหรือจะให้พี่เช็ดตัวให้” เสียงนุ่มที่เจ้าของมันนอนตะแคงข้างคุยกับผมอยู่ เอ่ยถาม
อย่างห่วงใยขณะที่มือก็ส่งมาลูบหัวผมอย่างปลอบโยน
“ผมอยากเข้าห้องน้ำ” ผมตอบเสียงแข็งไม่มองหน้าไอ้หมอภีมที่ยังยิ้มไม่หุบ แรงขยี้หัวและสัมผัสจากจมูกโด่งที่ขมับผมของคนช่างแกล้งทำให้ผมต้องปัดป้องออก ส่งเสียงหงุดหงิดออกไปแก้เขินให้รู้ว่าผมรำคาญ เสียงหัวเราะทุ้มดังไม่ขาดโดยที่มือใหญ่และจมูกโด่งไม่ได้ละไปจากหัวผมเลย ไม่รู้มันจะพิศวาสหัวเหม็นๆของผมอะไรนักหนากัน
หลังจากไอ้หมอภีมฟัดหัวผมจนพอใจแล้วก็พยุงผมเข้าห้องน้ำ มันทำท่าจะอุ้มแต่ผมไม่ยอมหรอกครับ ตัวออกจะใหญ่ขืนปล่อยให้มันอุ้มผมว่าเราได้ล้มกันทั้งคู่แน่ๆ ผมฝืนก้าวเท้าหอบสังขารโดยมีอ้อมแขนอุ่นประคองเอวมาจนถึงห้องน้ำได้สำเร็จ ไอ้หมอช่างแกล้งวางผมลงบนชักโครกในสภาพเปลือยก่อนหันไปบีบยาสีฟันใส่แปรงยื่นส่งมาให้ผม และมันก็ยืนแปรงฟันตัวเองหน้าตาเฉยอยู่หน้ากระจก
“เฮีย แปรงเสร็จก็ออกไปเลย ผมจะอาบน้ำ” ผมส่งสายตาพิฆาตไปพร้อมคำสั่ง แต่ไอ้คนที่ได้ยินมันกลับไม่สนใจหันมายกยิ้มยักคิ้วให้ผมทั้งๆที่ฟองเต็มปาก
ผมหันกลับมาอย่างโมโหยัดแปรงเข้าปากแบบทำอะไรไม่ได้เพราะสังขารไม่อำนวย นี่ผมไม่ได้ ‘งอน’ นะอย่าเข้าใจผิดกันก็แค่ ‘โมโห’ เท่านั้น แปรงฟันเหงือกแทบพังอยู่ดีๆก็มีมือใหญ่มาวางแหมะลงบนหัวและโยกไปมา ผมไม่ได้หันไปมองหน้าเจ้าของมือที่ทำตัวตบหัวแล้วลูบหลังหรอกครับ เพราะต้องซ่อนยิ้มไว้ไม่ให้ไอ้หมอเจ้าเล่ห์มันเห็น เดี๋ยวมันจะได้ใจแกล้งผมมากกว่านี้ เสียงน้ำจากก๊อกทำให้รู้ว่าไอ้หมอภีมมันแปรงฟันเสร็จแล้ว ผมเลยเบือนหน้ากลับมามองคนตรงหน้ากระจก ร่างใหญ่เปลือยเปล่าที่หันข้างให้นั้นอุดมไปด้วยกล้ามเนื้อไร้ไขมัน ผมจึงอดใจไม่ไหวไล่สายตาสำรวจตั้งแต่ต้นขาเรียบตึง หน้าท้องแกร่ง ต้นแขนที่มีมัดกล้าม แต่สายตาของผมต้องหยุดอยู่ที่ไหล่หนาที่มีรอยแดงวงใหญ่เป็นรอยซี่ฟันเกือบครบทุกซี่ ไม่ต้องบอกว่าเกิดจากใครและไอ้รอยที่ว่าก็ทำให้ผมสำลักฟองยาสีฟัน
“แค่กๆ อื้อออ แค่กๆ” ผมโดนพยุงขึ้นมาหน้าอ่างล้างหน้า ก่อนจะจัดการบ้วนปากล้างฟองยาสีฟันจนสะอาด เงยหน้ามองผ่านกระจกก็ได้สบตากับตาคมที่จ้องผมอยู่ก่อนแล้ว สายตาหวานเชื่อมของไอ้หมอภีมเริ่มทำผมไม่ไว้ใจรวมถึงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ครั้งนี้ด้วยเหมือนเจ้าของมันคิดไม่ซื่อกับผมอยู่ อาการเสียวแปลบที่สะโพกก็คอยย้ำเตือนให้ผมรู้ว่า ณ ขณะนี้ไม่ปลอดภัยซะแล้วครับ
“ฮึๆ อะไรครับ ทำไมธีต้องทำหน้าไม่ไว้ใจพี่แบบนี้ด้วย” ไอ้หมอหื่นมันยังมีหน้ามาถามผมอีกเหรอครับเนี่ย แล้วมือมึงทำไมต้องลูบลงต่ำไปขนาดนั้นกัน ผมคว้าข้อมือข้างที่ฝ่ามืออุ่นของมันตะปบเข้าที่สะโพกผมออก
“หน้าเฮียโคตรเจ้าเล่ห์อ่ะ แล้วมือเนี่ยอีก ออกไปเลยผมจะอาบน้ำ” ผมหันกลับมาเผชิญหน้าคนเจ้าเล่ห์ตรงๆหลังคุยกันผ่านกระจกแล้ว
“ยืนยังจะไม่ไหว เดี๋ยวได้ล้มหัวฟาดพื้นกันพอดี พี่อาบให้เอง อ๊ะๆ อย่าเถียง ไม่ต้องอายพี่เห็นมาหมดแล้ว ฮึๆ” ไอ้คนเผด็จการจอมเจ้าเล่ห์มันกลั้วหัวเราะหลังพูดจบ ผมไม่อยากจะเถียงกับมันเพราะคิดว่ายังไงก็ไม่มีวันชนะ จึงใช้ความเงียบตอบโต้มันไป
ไอ้หมอภีมมันก็หาสนใจผมไม่ครับมันพยุงผมไปที่ส่วนที่ใช้อาบน้ำมีเรนชาวเวอร์อันใหญ่อยู่เหนือหัว ผมหันหลังให้มันไม่อยากมองหน้าคนขัดใจหรอกครับไม่ได้สนใจว่ามันกำลังทำอะไร ถ้าขืนมันคิดไม่ซื่อจะต่อรอบเช้าผมจะขัดขืนเต็มกำลังเพราะร่างกายผมไม่ไหวแล้วจริงๆ สายน้ำอุ่นที่รินรดมาจากเหนือหัวทำเอาผมสะดุ้งนิดๆ ก่อนที่จะมีฝ่ามืออุ่นลูบไล้ที่แผ่นหลังผมอย่างไม่ทันตั้งตัวขนงี้ลุกเกลียวทั้งตัวแต่แสร้งยืนนิ่งไว้ ปล่อยให้ไอ้คนที่บอกว่าจะอาบน้ำให้มันทำงานไปครับ สายน้ำเอื่อยๆที่ไหลผ่านตัวกับสัมผัสลูบไล้แผ่วเบาและออกแรงบีบนวดที่หัวไหล่และต้นคอ ก็ทำให้ผมเพลินหลับตารับสัมผัสที่ทำให้สบายตัวจนเผลอครางออกมา
“อื้ออออ” ผมอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดที่เผลอปล่อยเสียงน่าอายให้อีกฝ่ายได้ยินและมันคงได้ใจว่าทำผมเคลิ้มได้ ผมรู้ได้จากเสียงหัวเราะในคอที่ดังขึ้นจากข้างหลัง
“ธียั่วพี่เหรอครับ” เสียงนุ่มดังขึ้นชิดหูจนผมต้องหันไปมองไม่คิดว่ามันจะประชิดตัวเร็วขนาดนี้
“ใคร อ๊ะ หยะ....ยั่วกัน” ผมหันหน้าหนีปากหยุ่นที่ฉวยโอกาสจูบผมตอนที่ผมหันไปมอง ก่อนใช้มือลูบน้ำออกจากหน้าและแอบลูบริมฝีปากตัวเองเบาๆ
“จะใครก็แฟนพี่น่ะสิ ส่งเสียงยั่วกันชัดๆ พี่ว่าเช้านี้จะไม่แล้วเชียวน้า เฮ้อออ” เสียงแสร้งถอนใจยาวจากไอ้หมอหื่นดังยาวกับประโยคที่โยนความผิดมาให้ผม ทำเอาคนที่โดนโบ้ยความผิดแบบผมทนไม่ได้เตรียมหันหน้าไปโวยใส่ให้มันได้รู้ตัว แต่ปากที่เปิดเตรียมต่อว่าก็โดนปิดซะก่อน
“อื้อออ อ่อย อ่ะ” ทุกคำพูดของผมถูกปากแดงนุ่มเก็บกลืนไปจนสิ้น จะดิ้นออกจากอ้อมกอดรัดแน่นก็ไม่ถนัดติดขัดไปซะหมด
ลิ้นนุ่มที่เกี่ยวกระหวัดกวาดต้อนก็เชี่ยวซะทำเอาผมเริ่มเคลิ้ม เผลอใช้มือคล้องคออีกฝ่ายเข้าหาพลิกองศาปรับมุมใบหน้าให้จูบเราลึกซึ้งขึ้น คนกำลังเคลิ้มแบบผมสะดุ้งเมื่อรับรู้ถึงความแข็งขืนร้อนผ่าวที่สะโพก ผมชะงักจูบถดตัวหนีความร้อนเบื้องล่าง แต่ไอ้หมอไม่ยอมให้ความร่วมมือมันยังคงดูดกลืนลิ้นผมเหมือนขนมหวานชิ้นโปรดที่อยากเก็บกินจนหมด มันไม่สนใจแรงขัดขืนของผมแต่กลับพยายามทำผมเคลิ้มดังเดิม ไอ้ผมก็ยอมรับแบบไม่อายว่าชอบจูบของมันแต่อาการเจ็บร้าวที่มีคอยย้ำเตือนว่าถ้าผมยอมผมได้ตายคาห้องน้ำมันแน่ครับ จึงทำให้ผมมีแรงขืนตัวจากจูบร้อนแรงและพลิกหน้าหนี ริมฝีปากแดงสดยังพยายามไล่ตามผมจึงยกมือปิดปากแดงๆนั้นไว้
“เฮียผมไม่ไหวแล้ว จริงๆ นะครับ” ไอ้หมอภีมหยุดชะงักมองผมตาโต คงไม่เคยเห็นผมอ้อนมาก่อนล่ะสิ งานนี้ขอไอ้ธีสาวแตกหน่อยครับเพราะต้องทำทุกวิธีเพื่อให้รอดพ้นจากปากเสือภีมให้ได้
ไอ้หมอภีมมันลูบหน้าลูบตาบ่นพึมพำผมจับใจความได้ประมาณว่า ‘แบบนี้ยั่วกันชัดๆจะให้ปล่อยไปได้ยังไง’ อ้าว! นี่ผมทำเพื่อให้รอดตัวแต่มันดันมองว่าผมยั่วเหรอครับเนี่ย ‘งานนี้ผมจะรอดมั้ยครับ’ ไอ้คนที่ผมแอบเหล่อยู่มันเงยหน้ามามองทำเอาผมสะดุ้งผวาไปชิดผนังห้องน้ำ สายตาแน่วแน่จ้องมองผมก่อนเดินเข้าหา ‘กูไม่รอดแล้วครับงานนี้’ ใจผมตกไปที่ตาตุ่มแต่ใจดันเต้นกระหน่ำกับสายตาของเสือร้าย ‘หมับ’ ฝ่ามือผมสัมผัสกับความร้อนแข็งขืนเข้าเต็มๆ ก้มหน้ามองของ
ร้อนในมือที่ขนาดไม่น้อยพลางนึกในใจว่า ‘เมื่อคืนกูรับมันไปหมดได้ยังไงวะ’ ก่อนเงยหน้ามองเจ้าของมันที่หน้าแดงก่ำกัดปากตัวเองแน่น จ้องผมอยู่ตาไม่กระพริบแววตามันบอกมาหมดว่าต้องการอะไร
“ธีต้องรับผิดชอบพี่ อ๊าๆๆ” ไอ้หมอภีมที่หน้าแดงก่ำมันโยนความรับผิดชอบมาให้ผมทั้งหมดทั้งๆที่มันเองนั่นแหละที่หื่นเอง ผมอดหมั่นไส้ไม่ไหวเลยเผลอกำของร้อนในมือซะแน่นทำเอามันครางออกมา
สีหน้าแววตาอ้อนวอนของไอ้หมอภีมทำผมนึกกระหยิ่มใจที่คิดหาวิธีเอาคืนมันได้ ผมคลายแรงจากฝ่ามือและเริ่มขยับช้าๆ ปากแดงเผยอครางแผ่ว ผมจึงขยับมือเพิ่มความเร็วอย่างได้ใจเหมือนว่าชีวิตมันได้ตกอยู่ในกำมือผมแล้วจะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ฮ่าๆๆ งั้นขอผมบีบๆคลายๆก็แล้วกันครับ
“ซี้ดดดด อืมมมมม” ใบหน้าหล่อร้ายเชิดหงายครางยาว ฝ่ามือทั้งสองยื่นมายันผนังข้างหัวผมเพื่อพยุงตัว ทำให้ผมต้องถอยหลังยืนพิงผนังห้องน้ำไว้โดยมีไอ้หมอภีมกั้นผมไว้ให้อยู่ตรงกลาง
ผมไม่รู้ตัวว่ายิ้มกว้างแค่ไหน รู้แค่ตอนนี้ผมมีความสุขที่ได้รู้ว่าตัวเองเหนือกว่าไอ้หมอบ้าอำนาจ ผมจึงเพิ่มความเร็วในขยับมือและสมใจที่อีกคนมันครางดังกว่าเดิม จนเสียงครางเสียงหอบหายใจดังขึ้นข้างหูไม่รู้ตัวว่ามันก้มหน้าเข้าหาตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะทั้งสายตาและมือของผมกำลังให้ความสนใจกับของร้อนในมือตัวเองเท่านั้น ปลายนิ้วยาวเชยคางผมขึ้นเพื่อรับจูบก่อนเรียวลิ้นร้อนจะเกี่ยวกระหวัดดูดลิ้นผมแรงๆและกัดริมฝีปากผมเบาๆอย่างหยอกเย้า เหมือนต้องการลงโทษที่ผมแกล้งบีบปิดส่วนหัวของแท่งร้อนในอุ้งมือ แต่เจ้าของมันก็ไม่ได้เอามือมาปัดป้องยังปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมในการมอบความสุขให้มัน ตาเยิ้มฉ่ำอยู่ชิดจนเห็นชัดเพราะหน้าผากเราชนกัน ไอร้อนจากปากและจมูกที่ปะทะใบหน้าผมบ่งบอกให้รู้ว่าอารมณ์ของเจ้าของแท่งร้อนในมือมันไต่ระดับสูงแค่ไหนแล้ว เราจ้องตากันสายตาสื่อความหมายแห่งความต้องการทำให้ผมขยับมือแรงและเร็วกว่าเดิม จนกระทั่งเสียงเรียกชื่อผมดังก้องไปทั้งห้อง
“อ๊าๆๆๆ ธีๆๆๆ” ใบหน้าแดงก่ำที่เจ้าของมันกำลังถึงจุดสุดยอดอยู่ชิดใกล้ เสียงแหบครางยาวด้วยชื่อของตัวเองที่ได้ยินทำเอาผมขนลุกใบหน้าร้อนผ่าว เขินอย่างไม่มีเหตุผลยิ่งได้สบตาแพรวพราวฉ่ำเยิ้มด้วยแล้ว ผมจึงไม่กล้าสบตากับมันอีกต้องเบือนหน้าหนีก่อนที่จะไหม้ไปทั้งตัว สัมผัสจากริมฝีปากนุ่มจูบย้ำๆที่ขมับพร้อมคำที่พร่ำบอกข้างหู
“ขอบคุณครับ พี่รักธีนะ” คำสองคำวนเวียนซ้ำๆให้ได้ยินด้วยเสียงกระซิบนุ่มจากเจ้าของร่างแกร่งที่โอบกอดผมไว้
ผมซบหน้าผากลงกับไหล่กว้างปล่อยให้คำสองคำไหลวนอยู่ในหัว หรือนี่จะเป็นแผนของไอ้หมอเจ้าเล่ห์ที่ตั้งใจงัดวิชาสะกดจิตมาใช้กับผมและผูกมัดตัวผมไว้กับมันด้วยคำสองคำนี้กันแน่ครับ ผมปล่อยตัวให้มันกอดปล่อยใจให้รับสัมผัสอบอุ่นปล่อยสายน้ำอุ่นให้ไหลผ่านร่าง แต่ผมไม่อยากปล่อยเวลาแห่งความสุขให้ผ่านพ้นไปเลยครับ ผมจะผิดมั้ยที่ต้องการจะยึดทั้งตัวและใจของผู้ชายคนนี้ให้เป็นของผมคนเดียว เพื่อจะได้มีเวลาแห่งความสุขแบบนี้ตลอดไป
เราสองคนใช้เวลาในห้องน้ำร่วมกันอีกไม่นานแต่ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากเราทั้งคู่ มีแค่เสียงน้ำและสัมผัสจากฝ่ามืออุ่นที่ลูบไล้ผิวกายผมอย่างอ่อนโยนจากเจ้าของหน้าหล่อตัวสูงที่ยิ้มให้ผมอยู่ตลอดเวลา จวบจนการอาบน้ำเสร็จสิ้นลง ไอ้หมอภีมก็พยุงผมออกมาและหาเสื้อผ้าให้ใส่ ก่อนที่ตัวมันจะพาผมมาปล่อยไว้หน้าทีวีและกลิ่นอาหารก็ลอยอบอวลมาเข้าจมูก และเด็กเสิร์ฟหน้าหล่อที่มาพร้อมรอยยิ้มก็เอาเจ้าของกลิ่นหอมหวนมาวางตรงหน้าผมถึงที่ ผมที่เสียพลังงานไปตั้งแต่เมื่อคืนก็ยิ้มรับไม่คิดปฏิเสธตั้งหน้าตั้งตาจัดการทุกอย่างเข้าปาก ส่วนคนทำมันก็ค่อยๆละเลียดอาหารอย่างไม่รีบร้อนเพราะดูท่าทางมันจะมีความสุขมากในการนั่งมองผมกิน ผมที่เงยหน้าขึ้นได้สบตาหวานเชื่อมเลยออกจะหมั่นไส้ จึงจิ้มไส้กรอกในจานมันมากินซะเลยอยากเผลอดีนัก ก่อนจะหัวเราะเยาะเย้ยมันไปที่เสียท่าโดนผมแย่งกิน ไอ้หมอภีมที่โดนผมแย่งมันไม่สะทกสะท้านเลยครับยังคงยิ้มได้อยู่ ก่อนแววตามันจะวาววับขึ้นมาวูบหนึ่งแต่ทำผมเสียววูบหยุดยิ้มเยาะมันทันที และมันก็พูดประโยคหนึ่งที่ทำเอาผมต้องรีบคายไส้กรอกที่กำลังเคี้ยวออกมาจากปากแทบไม่ทัน
“พี่ไม่รู้ว่าธีชอบกิน ‘ไส้กรอก’ ไม่งั้นพี่จัดให้ตั้งแต่เช้าแล้วครับ ฮึๆๆ”
............................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ >O<
ไม่รู้ซีนในห้องน้ำของคู่รักคู่ใหม่จะถูกใจคนอ่านมั้ยน้อ
หรือผิดหวังที่ไม่ได้เห็นฉากเฮียภีมจัดเต็มตี๋น้อยกันแน่
ด้วยความตั้งใจของคนเขียนเองที่ขอเสนอบทนี้ 555
แต่ใครที่ขัดใจเราขอแก้ตัวในตอนต่อๆไป(เร็วๆนี้)
นะคะ และขอน้อมรับความผิดแต่เพียงผู้เดียว โฮะๆๆ
ส่วนตอนหน้าคลื่นลมเบาๆเริ่มพัดแล้ว แต่ใจจริงไม่
อยากเรียกว่าคลื่นลมเลย เพราะอะไรก็ต้องติดตามค่ะ^^
ปล.+1ให้ทุกเม้นท์แล้วนะคะ เจอธีภีมตอนต่อไปวันพฤหัสฯค่ะ
ปล.2 ใครที่ยังไม่ได้อ่านคู่น้องไปอ่านได้นะคะ อัพตอนสุดท้ายแล้วค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29669.0