ตอนที่18
ข้าวเหนียวมะม่วงที่กำลังเคี้ยวอยู่เกือบพุ่งออกมาเปรอะหน้าหล่อๆ ที่นั่งอยู่ตรงข้าม มู่ลี่พยายามกลืนมันลงคอไปทั้งที่ยังเคี้ยวไม่ละเอียดด้วยซ้ำ ก่อนจะรีบวางจานของว่างลงกับโต๊ะกระจกตรงหน้า แล้วยกน้ำขึ้นจิบล้างปาก
“มึงพูดอีกทีดิไอ้เจ กูฟังไม่ถนัด”
“โหยยย ไอ้นี่ นอกจากมีผัวหน้าตาดีแล้วชีวิตมีห่าอะไรดีบ้าง หน้าตาก็ไม่ใช่จะดี ปากก็ไม่ดี ตอนนี้หูก็ไม่ดีอีก” เจตราหน้ามู่ลี่ได้แบบปาดหน้าเค้กออกมาได้ทุเรศที่สุดเท่าที่เคยฟังมา คนโดนสบประมาทแยกเขี้ยว ก่อนจะเบ้หน้าแล้วเชิ่ดเข้าใส่คนหน้าหล่อ
“งั้นน้ำหน้าอย่างมึงก็มีดีแค่หล่ออย่างเดียวนั่นแหละ แม่ง ผู้ชายห่าอะไร หล่อแต่โง่”
“โอ้ย...มู่ลี่คนงาม พูดจาอย่างนี้รีทวิตกันเลยดีกว่า” เป็นซอที่เพิ่งเดินเข้ามาเอ่ยพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะพ่อคนหล่อที่แทนจะกลับหอไปเก็บของหลังจากออกมาจากบ้านของป้าติ๋ว แต่กลับมาสิงอยู่ที่บ้านของมู่แทน
“พวกมึงอย่าเพิ่งซ้ำกูสิวะ ไอ้มู่มึงรู้อะไรบ้างบอกกูมาให้หมดเลยนะ กูอกจะแตกตายแล้ว” เจว่างั้นน่ะนะ แต่มู่มันไม่ใช่คนที่จะอกแตกตายสักหน่อย ทำไมต้องเดือดร้อน
“ทำไมกูต้องบอกมึงอะ คนที่เดือดร้อนไม่ใช่กูสักหน่อย” น่ารักปะ?
“แม่เอ้ย...เมียได้นุชสุดยอดแสบ!” ซอว่า ก่อนจะวางเป้ไว้ที่โซฟาหวายอีกตัวแล้วนั่งลง “คนบ้านมึงไปไหนหมดวะ”
“แม่กูไปเยี่ยมญาติที่สิงคโปร์ พี่มรรคเข้ากรมตลอดเวลา พี่มีร์ยังไม่ตื่น ยัยมินทร์รับจ๊อบที่คลินิกหมาแถวมอเรา แม่บ้านอย่ท้ายครัว อ่อ...ส่วนพ่อกูมึงต้องไปไหว้ที่วัด...”
“พอมู่ พอ...แค่บอกว่าไม่อยู่ก็จบแล้วล่ะ กูไม่ได้อยากรู้มากขนาดนั้น แต่...เดี๋ยวนะน้องมึงชื่อมินทร์เป็นผู้หญิงทำงานพิเศษที่คลินิกสัตวแพทย์แถวมอ”
“ใช่ เจ้าของเป็นเพื่อนพี่กู ทำไมเหรอ?”
“เปล่า” ซอตอบทันที ก่อนจะแอบกลืนน้ำลาย กูว่าแล้วทำไมหน้าน้องมินทร์เวลามองถึงได้อารมณ์นึกถึงใครบางคน น้องไอ้มู่นี่เอง
“โอ้ยยย มึงสองคนอย่าเพิ่งนับญาติกันตอนนี้สิวะ” เจขัดขึ้นมา ทั้งสองคนเลยหันไปมองหน้าหล่อๆ นั้นพร้อมกัน แล้วพูดพร้อมกันด้วยว่า
“ควายอย่างมึงมีอะไรนักหนา”
ขอบคุณที่ผสมโรงกันได้ได้น่าฟังขนาดนี้...
“กูก็ไม่เข้าใจว่ามึงจะเดือดร้อนอะไรกับการที่ไอ้ผิงมันจะมีคนที่ชอบสักคนสองคน แล้วคนคนนั้นอาจจะเป็นใครก็ได้ที่มึงรู้จัก”
“หื้อ? ไอ้เจมันเดือดร้อนเรื่องนี้”
“เออดิ...” มู่ลี่ตอบซอที่หันขวับไปมองหน้าหล่อๆ ของเจที่แอบแดงเบาๆ
“ไหนว่ามึงบอกไม่แน่ใจไงวะ”
“ก็ใช่ไง กูไม่แน่ใจว่าคิดยังไงกับไอ้ผิง แต่พอมันบอกกูมาอย่างนี้กูก็”
“หวงก้าง อิโธ่...” มู่ลอยหน้าลอยตายกเอาจานของว่างมาทานต่อ “ชะมดกินข้าวเหนียวมะม่วงมั้ย” มีแก่ใจตะโกนถามคนที่เช็ครถอยู่ที่ด้านนอกบ้าน
“ถ้าน้ำใจมึงมีนะมู่ กูอยากดื่มน้ำ”
“เอาไงดีอะ กูแล้งน้ำใจ” มู่กวนประสาท ทำเอาเพื่อนๆ ส่ายหน้า จงขอบคุณสวรรค์ซะที่มันมีแฟนชื่อชนุตต์ ไม่อย่างนั้น...โลกนี้คงสูญสิ้นเกย์ไปอีกหนึ่งชีวิต
“คืนนี้มึงได้แดกน้ำทั้งคืนแน่ไอ้มู่ เอาน้ำมาเลย กูคอแห้ง” ไม่ทันจบประโยคด้วยซำ มู่ลุกพรวดวิ่งแจ้นไปห้องครัวร้องบอกแม่บ้านให้เอาน้ำมาให้ พร้อมของว่างเผื่อเพื่อนด้วย แต่พ่อคุณกลับยกมาแค่น้ำให้นุชก็พอ...
หลังจากที่ปล่อยให้เจกับซอนั่งทำใจกับอาการเกรงใจคุณแฟนของตัวเองราวๆ ห้านาทีร่างผอมบางของมู่ก็เดินเฉิดฉายมานั่งไขว่ห้างทานข้าวเหนียวมะม่วงต่อ
“มู่...กูจริงจังมาก มึงรู้ใช่มั้ยว่าผิงมันชอบใคร”
“รู้”
“ใคร”
“ไม่บอก” เจถอนหายใจกับความกวนประสาทของมู่ ส่วนซอก็หัวเราะคิกคัก เอ่อเนอะ ไอ้มู่ลี่มันก็น่ารักของมันจริงจังแหะ
“ไอ้มู่...กูเป็นเพื่อนมึงนะ”
“ไอ้ผิงไม่ใช่เพื่อนกูหรือไง? ไอ้นี่...เพื่อนดีๆ เขาไม่ขายความลับเพื่อนหรอกโว้ย คราวก่อนไอ้ชะมดก็ไม่ยอมบอกว่ามึงมีความลับอะไรทำไมถึงไม่บอกกู” จังกวะเดียวกับที่คนที่โดนเอ่ยถึงเดินเข้ามาพร้อมแก้วน้ำในมือ
“มีอะไร?”
“เปล่า” มู่ตอบนุชที่เอ่ยถาม เจ้าตัวเลยเดินเลยไปทางด้านหลังบ้านที่เป็นห้องครัว “มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับไอ้ผิงใช่มะ” เจพยักหน้า ทำเอามู่เบะปากเข้าใส่
“มึงกลัวกูจะเอาไปบอกไอ้ผิงใช่ปะ มึงทำอย่างกับกูไม่รู้จักอะไรควรไม่ควร กูปากมากกูก็รู้เหอะ แต่กูปากมีหูรูด” เจ็บมั้ยล่ะ โดนเพื่อนด่าเข้าให้...
ทุกคนที่ได้ยินเข้าใจเลยล่ะว่ามันน่าน้อยใจที่เหมือนตัวเองโดนกันออกจากเรื่องสำคัญทั้งที่ก็เพื่อนก๊กเดียวกัน แต่บางที...บางอย่างก็ต้องให้เวลากันบ้างเหมือนกัน
“เฮ้...อย่างน้อยใจไม่เข้าเรื่องน่ามู่ ไอ้เจมันก็เครียดเหอะเรื่องนั้นอะ แล้วปากมึงน่ะน่ากลัวน้อยที่ไหน ที่สำคัญมันไม่ได้กลัวมึงไปบอกไอ้ผิงหรอก มันกลัวมึงจะด่ามันมากกว่ากับเรื่องที่มันทำ”
“แล้วมันทำอะไรล่ะ” มู่หันมาถามเอาความกับนุชแทน คนที่เพิ่งเข้ามาไหล่เกลี่ยเรื่องให้ก็เลยไปไม่ถูกเหมือนกัน ได้แต่มองคนนั้นทีคนนี้ทีจนมาจบตรงคนหล่อที่นั่งก้มหน้าอยู่
“กูขอโทษที่ไม่ได้บอกอะไรมึง”
“กองไว้ตรงนั้นแหละ มือกูไม่ว่างถือจานขนมอยู่”
“มู่ ถ้ามึงไม่ใช่เพื่อนกูนะ ไอ้นุชได้เป็นหม้ายแน่” เจสวนกลับมาให้ แต่มู่ก็ลอยหน้าลอยตาจนทั้งซอและนุชต้องส่ายหน้าละอา...
“ก็เพราะมึงเป็นงี้แหละ ผู้หญิงยังอาร์ตสู้ไม่ได้เลย” ซอว่า ก่อนจะขำก้าก
“ไอ้มู่มันไม่คู่ควรกับอาร์ตหรอก อย่างไอ้นี่ต้องยาจุดกันยุ่งตราห่านฟ้า” สาบานอีกเหมือนกันว่านี่คือปากของคนที่ได้ชื่อว่าจูบกับมู่บ่อยที่สุด
“ห่านดินกินหญ้า ห่านฟ้ากินตับมู่”
“ไอ้ชะมด”
“จ๋าจ๊ะ!”
“โอ้ยยยย ไมเกรนจะจับ” เจโผล่งออกมาจ้องหน้ามู่เขม็ง “บอกกูมา”
“ไม่”
“ไอ้มู่”
“มีไรแลกเปลี่ยน”
“เชี่ย!” ไม่ใช่แค่เจนะที่พูด แต่เป็นอีกสามคนช่วยกันตะโกนใส่หน้าของมู่ลี่
“ช่วยไม่ได้ กูไม่ได้เดือดร้อนกับเรื่องนี้ซะด้วย กูก็แค่รู้ว่าไอ้ผิงมันชอบใคร? คนแบบไหน? แล้วก็เรื่องนั่นโน่นนี่ของไอ้ผิงกูก็รู้เยอะแยะไปหมด”
น่าหมั่นไส้มันชิบหาย!
“กูสาบานว่าถ้ามันไม่ใช่คนที่มึงรักนะไอ้นุช กูจะเตะมันเดี๋ยวนี้เลย ดูมันทำ” เจเค้นเขี้ยว แต่มู่กลับไม่สะทกสะท้าน ลอยหน้าลอยตาเคี้ยวข้าวเหนียวมะม่วงตุ้ยๆ
“มึงรู้ก็บอกมันไปเถอะมู่ ดูดิมันเครียดจนหน้าแก่แล้วเนี่ย” ซอแขวะให้อีกทีแล้วก็หัวเราะ
“ก็มีอะไรมาแลกเปลี่ยนบ้างล่ะ”
“โหยยยย”
“มึงอย่าโหดกับไอ้เจเลยเหอะ สงสารมัน” นุชว่า แต่ทั้งปากและตากลับซ้อนรอยขบขันไม่ไหว
“ก็แค่บอกเรื่องอะไรๆ มาเป็นข้อแลกเปลี่ยน หนึ่งเรื่องต่อหนึ่งข้อสงสัย” มู๋ลี่พูดอย่างถือไพ่เป็นต่อ เจได้แต่ถอนหายใจ.. “อะๆ กรุณาเป็นเรื่องของมึงที่เกี่ยวกับไอ้ผิง ไม่ใช่เรื่องตดขี้เยี่ยวราดที่ไหน พวกนั้นกูไม่อยากรู้”
“แม่ง...แสบว่ะไอ้นุชเมียมึงเนี่ย”
“กูโคตรภูมิใจเลยว่ะซอ” นุชว่า ก่อนจะขำแล้วส่ายหน้ากับความแสบนั้นของแฟนที่ยกเท้าขึ้นมาวางพาดบนตักของเขา
“มันก็มีอยู่เรื่องเดียว” เจงึมงำ ก่อนจะยีผมจนยุ่ง ให้ตายเถอะ เขาไม่เข้าใจตัวเองสักนิดว่าตัวเองเป็นอะไรนักหนา ทำไมถึงได้เดือดเนื้อร้อนใจจนอยู่ไม่สุขขนาดนี้ แค่รู้ว่าผิงมีคนที่ชอบอยู่แล้ว...
“...กูรอฟังได้นะ” มู่ว่าอย่างนั้นแล้วก็ยิ้มร้ายๆ ซึ่งทั้งซอและนุชต่างเห็นพร้อมกันเลยว่า เพื่อนเจของเขาโดนหนักแน่...
“กู...จูบ...ไอ้ผิง”
เคร้ง!
เสียงช้อนของหวานตกกระทบกับจานแก้งที่แทบไม่เหลือข้าวเหนียวมะม่วงอยู่ เจ้าของบ้านหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทกระพริบตาปริบๆ แล้วหันมามองหน้าของนุชที่พยักหน้ายืนยัน
“แต่...แค่ แอบจูบตอนมันหลับนะ นานแล้วด้วย”
“เมื่อไหร่!”
“มึงตอบเรื่องที่กูถามมาก่อน”
“ชิส์!” นับว่าเจยังพอมีสติที่ทวงมาก่อน มู่เลยค้อนเข้าใส่
“มึงบอกกูมาว่าใครคือคนที่ผิงมันชอบ”
“ลึกเกินไป ตอบแบบนี้ไม่ได้ กูหักหลังไอ้ผิงไม่ได้” มู่ว่า เจจิ๊ปาก แต่ก็เข้าใจมู่
“อ้อมๆ พอให้เดาหน่อยได้มะ”
“เรียนวิศวะที่เดียวกับเรา ปีหนึ่ง...”
“เฮ่ย!” เจคือคนที่ร้องออกมา แต่ทั้งซอและนุชก็ตกใจไม่แพ้กัน
“ใกล้ขนาดนั้นเลยเหรอมู่” มู่พยักหน้าจิ้มมะม่วงส่งไปที่ปากของนุช
“กินไปซะปากจะได้ไม่ว่างมาช่วยไอ้เจมันถาม เดี๋ยวกูเบลอตอบมึงหมดพอดี” นั่น! นี่ก็ฉลาดปานวอก
“เดี๋ยวดิ...เด็กคณะเราเนี่ยนะ สาขาอะไรวะ”
“อะเท่อออ...ความลับๆ อย่ามาเนียน จูบเมื่อไหร่” มู่หรี่ตามองเพื่อนรัก อีกฝ่ายก็เลยเกิดอาการหน้าแดงขึ้นมาอีก
“ก็วันที่กูมาค้างบ้านไอ้ผิงครั้งแรกแหละ”
“ไวไฟ...” มู่ค้อน ก่อนจะอ้าปากเคี้ยวข้าวเหนียวคำสุดท้าย “แล้วไอ้ผิงมันรู้ปะ” มู่ถาม แต่เจก็มองอีกฝ่ายด้วยสายตารู้ทันเหมือนกัน
“มึงบอกกูมาก่อน” แต่มู่ส่ายหน้า...
“กูเดาว่าเรื่องของมึงคงมีแค่เรื่องนี้แหละ และกูก็เดาคำตอบได้ด้วยว่าไอ้ผิงมันรู้หรือเปล่า หึหึ มึงหมดโค้วต้าละ” ว่าแล้วก็ลุกหนี เอาจานของว่างมาเก็บ
“มู่มีอีกปะ?เอามากินอีกดิ หิวแล้วอะ”
“เดี๋ยวน้า...” เสียงมู่ลอยตามมา ร่างผอมบางไปชะเง้อมองป้าคำแก้วที่กำลังจัดของว่างใส่จานเกือบเสร็จพอดี “เดี๋ยวยกไปเลยนะป้า”
“ไม่ต้องค่ะคุณมู่ ไปนั่งคุยกับคุณๆ เถอะค่ะ เดี๋ยวป้าให้นังอุ้ยมันยกไปให้” เจ้าของบ้านพยักหน้าก่อนจะยิ้มแผล่หอมแก้มแม่นมที่เลี้ยงเขามาแต่เด็ก
“ขอบคุณครับ อ่อ...เย็นนี้พี่มีร์คงทานที่บ้านนะรับป้า เตรียมพวกสลัดให้คุณเธอด้วย ส่วนมินทร์เก็บพวกของว่างมื้อดึกให้ก็พอ”
“ได้ค่ะ ป้าเก็บกระเป๋าให้คุณมู่แล้วนะคะ”
“ขอบคุณครับ” ว่าแล้วก็หมุนตัวเดินกลับมาที่กลุ่มเพื่อนที่กำลังซุบซิบกันอยู่หน้าดำคร่ำเครียด
“เห้เอ้ย... กูทำไงดีวะ” มู่เลิกคิ้วมองคนนั้นทีคนนี้ทีแล้วก็มองเจที่นั่งเอนหลังกับโซฟาวายสองมือปิดหน้าหล่อๆ ไว้ ท่าทางอาการหนัก
“???”
“มันเครียดน่ะ” นุชว่า แต่มู่ไม่เคลียร์เลยสะกิดคนตาหวานอีก “มันไม่รู้ว่ามันชอบผิงแบบนั้นหรือเปล่า?”
“ทั้งที่อาการมันเป็นแบบนี้น่ะนะ” มู่ถามเสียงสูง ทั้งหมดแค่พยักหน้า แล้วก็เงียบ เมื่อสาวใช้ในบ้านยกของว่างมาเสิร์ฟ
ข้าวเหนียวมะม่วงราดน้ำกะทิพร้อมกับมะม่วงน้ำดอกไม้สีเหลืองสวยน่าทานวางเรียงรายอยู่สามจานพร้อมน้ำเย็นๆ ยั่วน้ำลายได้ดีจริงๆ แต่คนที่เครียดกลับพาลไม่นึกอยาก
“พวกมึงเข้าใจกูมั้ย? กูไม่ใช่เกย์ กูไม่ได้จะอะไรๆ กับผู้ชายด้วยกัน กูไม่ได้รังเกียจพวกนี้นะ” ทุกคนพยักหน้าเมื่อเจเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงคิดไม่ตก “มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับกูเลยสักนิด กูรู้แค่ว่าผิงมันน่ารัก อยู่ด้วยแล้วกูสบายใจ สบายหู แต่เรื่องความรักมันแค่นี้ไม่พอนะ ยิ่งต้องมาเป็นแบบนี้...กับเพื่อนตัวเองด้วย”
“กูเข้าใจมึง” เป็นคำพูดที่ไม่มีใครคิดว่าจะออกมาจากปากของมู่ นุชเองก็แค่ยิ้ม...
“กูก็เข้าใจมึง” พ่อตาหวานว่า แต่ซอกลับส่ายหน้า
“กูไม่เข้าใจหรอก เพราะสำหรับกูเพื่อนก็คือเพื่อน ต่อให้แสนดีแค่ไหนก็ไม่เคยเปลี่ยนสถานะเพื่อนให้เป็นเมีย หรืออะไร แต่กูเข้าใจเรื่องหนึ่ง...มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบอกว่า เฮ้ย! กูเป็นเกย์ว่ะ ง่ายๆ ของแบบนี้ถ้าเอาแต่อารมณ์สุดท้ายมันก็หดเหมือนกัน”
ทุกคนพยักหน้า...
“กูน่ะ ชอบไอ้มู่มาก” นุชว่า เอาส้อมจิ้มมะม่วงเล่น “แม้ปากมันจะแบบนี้ก็เถอะ แต่...กูบอกตรงๆ ว่ากับผู้ชายด้วยกันไม่ใช่กูเอาใครก็ได้ กูมั่นใจว่าถ้าไม่ใช่ไอ้มู่ กูเอาไม่ลงแน่”
“ถ้ามึงจะบอกรักกูแล้วแอบด่ากูไปด้วยขนาดนี้นะนุช”
“กูรู้น่าว่ามึงชอบ” พ่อตาหวานยักคิ้วใส่ ก่อนจะอ้าปากกินมะม่วงมองคนแก้มยุ้ยพองแก้มแดงๆ นั้นอย่างนึกรัก
“แล้วพวกมึงทำยังไงกันวะ” เจเอ่ยถาม หัวคิ้วเข้มกดเข้าหากันอย่างนึกยากจะเข้าใจจริงๆ ว่าสองคนนี้ผ่านช่วงเวลาแบบนั้นมาได้ยังไง
“ก็ไม่รู้เหมือนกัน อย่างกู...กูรู้นะว่ากูชอบมองผู้ชายด้วยกัน แต่ไม่คิดว่าจะเป็น เพราะแบบ กูอาจจะอยากหล่อ อยากเท่ห์เหมือนคนที่กูมองมั้ง กูคิดอย่างนี้ จนมาขลุกอยู่กับไอ้บ้านี่แหละ ชิบหายเถอะ กูร้องไห้แทบทุกวัน เพราะกลัวมันจะรู้ว่ากูคิดอะไรแล้วแบบรังเกียจกู” มู่พูดแล้วก็หัวเราะแก้เขิน
“หลายปีเลยนะนั่น” ซอว่า “ส่วนกู...ก็บอกไม่ถูก รู้ว่าชอบมอง แล้วก็รู้ด้วยว่า...เอ่อ...” อยู่ๆ ซอก็ออกเสียงเหมือนคิดอะไรออก...
“อะไรวะ” เจถาม มองซอที่จ้องตัวเองด้วยสายตาแวววาวราวกับคิดเรื่องดีๆ ออก...
“มึงแอบจูบไอ้ผิง?”
“ก็ใช่...”
“แสดงว่ามึงอยากจูบมัน” เจพยักหน้า หวนนึกถึงความรู้สึกตอนที่จ้องหน้าของผิงในคืนนั้น
“กูใจเต้นมากมึง มันแบบ มองแล้วแบบ...ปากนิด จมูกหน่อย มือสั่น...มันบอกไม่ถูก” ซอตบมือเข้าหากันอย่างพอใจ มู่เองก็เม้มปาก ส่วนนุชก็วางจานของว่างแล้วมองหน้าเพื่อน
“มึงเคยแบบอยากกอดไอ้ผิงปะ?” มู่ถาม แน่นอนว่าเจคิดไม่นานแล้วก็พยักหน้า
“หอมแก้มล่ะ จับมือด้วย” ซอเอามั่ง แน่นอนว่าคำตอบก็ง่ายๆ คือพยักหน้า...
“แล้วมึงแบบ...”
“เฮ่อ...มึงเคยอยากมีเซ็กส์กับผิงปะวะ”
“.......................................................”
เงียบกริบ... คำถามที่นุชเอ่ยแทรกก่อนที่มู่จะได้ถามอะไรต่อทำเอาทุกคนไปต่อไม่ถูก เจกลืนน้ำลายลงคอ ใบหน้าดงซ่าน เหลือบสายตามองหน้าเพื่อนทุกคนแล้วก้มหน้า...รู้สึกเหมือนร่างกายร้อนเป็นไฟ...
“ไอ้นุช! มึงรุกเร็วไปแล้ว” มู่โวยวาย
“แม่งกูว่าจะถามต่อไอ้มู่สักหน่อย” ซอก็เป็นอีกคนที่เอาด้วย
“ก็พวกมึงก็เห็นอยู่ว่าอาการมันฟ้องแค่ไหน... ว่าไง เคยปะ” นุชถามแล้วมองท่าทางของเพื่อน “กูว่านะท่าทางอย่างนี้...ไม่รอด!”
“คือกู...ไม่ได้จะอกุศลอะไรกับผิงมันนะ แต่บางทีกู...”
“กูเข้าใจ เพราะกูเป็นบ่อย ง่ายๆ เลยนะ ถ้ามึงอยากรู้ว่ามึงชอบใครสักคนหรือเปล่า แค่คิดง่ายๆ เลยว่ามึงรู้สึกอยากได้เขาแบบนั้นหรือเปล่า แต่...มันหมายความว่าไม่ใช่แค่ไคร่อยากอย่างเดียวนะ กูว่ามึงพอจะแยกออกว่าอันคือใคร่เอาแก้อยาก หรือใคร่รัก”
“กูเพิ่งรู้นะนุช ว่ามึงมีสาระ”
“มีมากกว่ามึงด้วยมู่ หุบปากเงียบๆ ไป พูดเรื่องนี้แล้วแม่งนึกถึงเรื่องตัวเอง”
“ไอ้เชี่ย! มึงเคยคิดงี้กะกูเหรอ”
“บ่อย!.....มาก!” คำตอบมันช่าง... เรียกเลือดบนผิวหน้าจริงๆ มู่รีบนั่งเงียบไม่พูดไม่จาปล่อยให้ความแดงบนแก้มมันฟ้องความรู้สึกของตัวเองเสียอย่างนั้น
“แสดงว่ากูเป็นเกย์เหรอวะ” ทุกคนส่ายหน้า
“พวกกูตอบให้มึงไม่ได้หรอก มึงต้องตอบตัวเอง เพราะเกย์ก็มีหลากหลายแบบ อย่างกูจะเรียกเกย์ก็ได้กูไม่ขัดนะ แต่กูเอาผู้หญิงได้แน่”
“เขาเรียกไบฯ” ซอเอ่ย... “กูว่ามึงอย่าเพิ่งคิดเลยว่ามึงใช่หรือไม่ใช่ กูว่าที่มึงต้องคิดก็คือ มึงชอบผิงในแบบที่ไม่ใช่เพื่อนหรือเปล่า”
ทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน “แล้วไอ้ทฤษฎีที่ไอ้นุชมันว่าน่ะ มันก็ไม่ได้หมายความว่าใช้ได้ทุกคนหรอกนะ” ซอพูดต่อ“กูแนะนำอีกอย่าง... มึงลองคิดว่ามึงมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นดูสิ เผื่อมันจะชัดเจนเร็วขึ้น”
“กูไม่อยากจะบอกนะ ตอนที่กูลองคิดว่าจะทำอย่างนั้นกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ไอ้มู่แล้วสภาพกูเป็นยังไง”
“ยังไงวะ” มู่และเจถามพร้อมกัน แต่ซอกลับหัวเราะหึครั้งเดียว...
“กูนึกสภาพมึงออกเลยว่ะนุช”
“เห้เถอะ กูอ้วกจนไม่รู้จะอ้วกออกมายังไง ยิ่งตอนที่รุ่นพี่ที่โรงเรียนแม่งแกล้งเอาสะโพกมาถูหน้าขากูนะ สุดยอดแห่งความทรมานเหอะ” นุชพูดทำหน้าตารับไม่ได้อย่างชัดเจน
“หมายความว่าไงวะ” เจถาม
“เขาเรียกว่ารักเดียวในชีวิตของการเป็นชายรักชายไง” ซอขยายความ “อย่างกูน่ะผู้ชายไม่เกี่ยงถ้าชอบ แต่อย่าเป็นผู้หญิงเลย ไม่ใช่รังเกียจพวกเธอๆ นะ แต่แค่คิดมันก็ไม่ใช่แล้ว” มู่พยักหน้าเห็นด้วย
“กูเองตอนนี้ก็คิดไม่ออกว่าถ้าต้องคบกับผู้หญิงเป็นยังไง”
“ส่วนกู...แค่ไอ้มู่คนเดียว กูจบหมดละ” นุชพูด แต่ไม่ได้ตั้งใจจะหวานอะไรหรอกนะ แค่พูดให้เพื่อนเข้าใจอะไรมากขึ้น แต่ไอ้คนที่นั่งฟังอยู่ข้างๆ น่ะมันเขินจนแก้มป่องแดงไปหมดแล้ว
“สุดท้ายแล้วกูก็ต้องทำความเข้าใจเองสินะ”
“มันก็แหงอยู่แล้ว” ซอว่าแล้วเอาข้าวเหนียวมะม่วงมาทานบ้าง
“แต่อย่านานล่ะ น้องผิงของมึงอะฮ๊อต ล่าสุดพี่ปีสามแม่งซื้อของขวัญให้เป็นนาฬิการาคาแพงโคตรให้ มันวิ่งเอาไปคืนแทบไม่ทัน วันก่อนเด็กนิเทศน์ก็มาขอเบอร์ ตอนโน้น...”
“พอๆ มู่ พอ...เยอะละ”
“ความจริงทั้งนั้น”
“จริง?”
“จริงๆ” คราวนี้คนที่ตอบคือนุช “กูเห็นกะตา ได้ยินกับหู เป็นคนเดินพามันเอาของไปคืนพี่แจ็คด้วย”
ชิบ...
หาย...
แล้วมั้ยล่ะ....
“แล้วคนที่ผิงมันชอบล่ะ?”
“มึงก็หาเองดิวะ ยากที่ไหน” มู่ว่า ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกา “นี่เย็นแล้วนะมึงไม่กลับไปเก็บของวะ แล้วจะมาค้างที่นี่ปะ พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องให้นุชมันขับย้อนไปรับ” เจทำหน้าคิด
“นอนที่หอเถอะมึงอะ ไปนอนคิดอะไรคนเดียว มาที่เดี๋ยวก็โดนพวกกูไซโคอีก ถ้าจะค้างกับไอ้ผิงก็คิดให้ดีแล้วกัน กูว่ามึงต้องตั้งสติหน่อยว่ะ”
“ก็ถูกอย่างที่ไอ้ซอว่านะเจ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูวนรถไปรับ อย่าสายก็พอ”
“ถ้าว่างั้นก็ตามนั้น งั้นกูกลับล่ะ” ตัดสินใจแล้วก็ลุกขึ้น เม้มปากเหมือนคิดอะไร แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา ก่อนจะลาเพื่อนๆ อีกทีแล้วกมุนตัวเดินออกไป
“เอ่อ...เจ...” มู่เรียกร่างสูงที่กันมามองด้วยสายตาเป็นคำถาม “เห็นว่าเป็นเพื่อนกันหรอกนะ”
“อะไร?” มู่ถอนหายใจ
“คนที่ไอ้ผิงชอบน่ะ ตัวสูงๆ หน้าหล่อ คิ้วเข้ม ตาดุ เรียนเก่งแคลฯมาก แล้วก็...อืม...เรียนโยธา”
“โยธา!” ทุกคนพูดออกมาพร้อมกัน แน่นอนว่ามู่พยักหน้า
ไม่ได้หักหลังผิงนะ ไม่ได้เอ่ยชื่อสักหน่อย...
“ตัวสูงๆ หน้าหล่อ คิ้วเข้ม ตาดุ เรียนเก่งแคลฯมาก แล้วก็...อืม...เรียนโยธา” มู่พยักหน้ากับการทวนลักษณะนั้นของเจ แน่นอนล่ะพอได้ยินแค่นี้ไม่ว่าจะนุชหรือซอก็แทบจะร้องเฮให้ แต่ติดที่ว่า...
“ขอบใจ” เจว่า แล้วหมุนตัวออกไป...เงียบๆ
“เฮ้ย...มันรู้ปะเนี่ย” นุชถาม ส่วนซอก็นิ่วหน้า...
“ไม่รู้สิวะ แต่ขนาดนี้แล้วนะถ้ามันไม่รู้...”
“คือถ้ากูบอกขนาดนี้แล้วแม่งไม่รู้นะ รับรองว่าควายก็สามารถเรียนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งได้ เพราะมีไอ้เจโง่และซื่อบื้อแทน”
นั่นสินะ มันบ่งชี้ขนาดนั้นแล้ว... ถ้าร่างสูงที่เดินออกจากบ้านของเพื่อนไม่รู้ก็...
“ตัวสูงๆ หน้าหล่อ คิ้วเข้ม ตาดุ เรียนเก่งแคลฯมาก แล้วก็...อืม...เรียนโยธา” เจทวนลักษณะนั้นจนแทบจะขึ้นใจ ก่อนจะขมวดคิ้วเข้ม
“ไอ้เหี้ยมู่ ล้อเล่นกูแรงแล้วนะ กูคิดลึกทำไง ไอ้เวร!”
###############

สภาพแย่มาเลยค่ะ งื้อๆ ๆ แต่ก็นอนมากกว่านี้ไม่ได้ ฮือออออ เอามาแปะเพื่อร่วมประนาม อิเจกันนะคะ อิผู้ชายคนนี้ มาคิดได้ไงว่าน้องมู่ของนิมาอำเล่น
อิบ๊า!!!!
ฝากอันนี้ด้วยนะค้า....
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32132.0