ก็เพิ่งได้มาอ่านนะขอรับ
ข้าน้อยเองก็ มีเรื่องคล้ายๆกับ เป็นเรื่องที่มันยังคงติดตัวข้าน้อย สำหรับข้าน้อยแค่สองสามคนในชีวิตเท่านั้นที่รู้
ข้าน้อยทั้งรัก และ โครตเกลียดวันเกิดของตัวเอง โดยเฉพาะปีที่ 15
ผมกับ บ่าว เรารู้จักกันตั้งแต่ป.5เพราะงานกีฬาเขต ที่ทุกโรงเรียนประถมจะมาเจอกัน
ผมขี้โรค เลือกไปพักใต้ต้นนุ่น มันร่มรื่นมาก กำลังสบายเลย แต่รู้สึกเหมือนมีลูกขนุนหล่นตุบข้างตัว
เป็นครั้งแรกที่เราเจอกัน มันอยู่คนละโรงเรียน บ่าวเป็นลูกทะเล ดำๆ แต่มีรอยยิ้มที่สว่างไสวมาก
ผมให้เบอร์บ้านมันไป ไม่รู้ว่าให้ไปได้อย่างไร จนเกือบลืมๆไปนั่นแหละ
จนเข้าม.1 ผมได้ห้องที่บ๊วยที่สุด อาจเพราะแรงบนบานของแม่ เพราะสุขภาพไม่ดี อาจหยุดเรียนบ่อย
จำได้ว่าตื่นเต้นมากจน ใต้ต้นไม้ เหมือนเดิม และมันก็หล่นตุบลงมา นั่นทำให้เจอกันอีกครั้ง ผมจำมันไม่ได้
เพราะมันสูงขึ้น แต่มันจำผมได้ รื้อฟื้นเรื่องราว มันอยู่ห้อง3 ผมอยู่ ห้อง6 มันเริ่มแวะเวียนบ่อย ทั้งผมทั้งมัน
เช้ากินข้าวด้วยกันเป็นคนที่อยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ จนซันนี่ แวกความเป็นผัวตัวเมีย ระหว่างผมกับมัน
ผมยอมรับว่าชอบมัน มันก็บอกว่าชอบผม ม.2 อยู่ด้วยกันเยอะขึ้น เพราะผมต้องเฝ้าห้องสมุดไม่ต้องเข้าแถว
มันเองก็ตามผม จนจารย์ดวงท่านไม่ว่าอะไร ด้านหลังโรงเรียนเป็นเขา เราปืนด้วยกัน รู้สิ่งที่อยากทำ สิ่งที่มันคิด
สำหรับผมตั้งแต่ตอนนั้นถึงทุกวันนี้ มันโครตเท่ที่สุด มันไปรับไปส่งผม
ทั้งๆที่บ้านเราอยู่คนละทิศ ตรงกันข้ามฝากเมือง อาจเพราะเราไม่ประสีประสา กับการเรียก ผัวเรียกเมีย
ไม่ทำให้น่าอาย ผมชอบเวลานั่งซ้อนท้ายมัน ขี่หลัง กอดคอกัน พ่อแม่มันก็ไม่เคยว่าอะไร เพราะผมไปบ้านมันบ่อย
พอๆกับที่มันมาบ้านผม จนปลายม.2 แม่ผมเสีย ผมต้องย้ายบ้าน ตอนแรกผมไม่ได้บอกใคร ไม่ให้บ่าวไปส่ง เพราะ
ผมอยู่บ้านญาติ มันคงรู้ แต่ผม ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตอนนั้นไม่บอกใคร พยายามใช้ชีวิตปกติ
จนมันบุกเข้าห้องผมตอนเรียน ลากผมออกมา ผมบอกมันไป ว่าแม่ผมเสีย และผมต้องย้ายโรงเรียน
ผมร้องแบบไม่อาย มันก็ถามว่าทำไมไม่บอก ผมกลัว กลัวมันโกรธ กลัวมันเกลียด กลัวมันจะไม่เป็นเพื่อนกับผม
ที่ผมให้มันไป คือเบอร์มือถือของพี่ชาย แล้วผมก้ย้ายมา โดยไม่ได้บอกมัน
การปรับตัวกับโรงเรียนใหม่ ดี แต่ผมก็เหงา คิดถึงมัน ไม่มีเบอร์โทร ไม่มีจดหมายตอบกลับ จนประชาสัมพันธ์เรียกชื่อผม
เที่ยงวันหนึ่ง ผมเดินไม่ถาม แต่มันยืนอยู่ข้างหลัง มันใส่ชุดบ้าน ยิ้มมันสดใส อย่างทุกครั้งที่ได้เจอกัน ผมร้องเลย
มันก็กอดๆลูบๆ มันบอกว่าเรื่องไรจะปล่อยผมไปง่ายๆ ผมดีใจ ชีวิตมันไม่คว้างต่อไป
(ย้ายมาคนละจังหวัด นั่งรถประมาณ สองชั่วโมง) มันบอกว่ารู้จากจดหมาย มันก็ขึ้นรถบัสมา ให้คนขับบอกเวลาถึงโรงเรียน
จากนั้นทุกเดือนมันจะมาหาผม เช้ามาเย็นกลับ มันมีมือถือ แต่ของมะมัน มีโทรกันบ้าง
จนวันเกิดผม วันนั้นฝนตก และมีรถเครื่องทะลุมาหน้าบ้านผม มันมา ตัวเปียก ไม่มีของขวัญไม่มีคำอวยพร
แต่บอกว่าคิดถึง และ กุรักมึง แม้ไม่ใช่การบอกครั้งแรก แต่ผมก็ดีใจที่สุด มันบอกต้องกลับไปให้ทันออกเล เรือปลา
ผมนึกเสียใจอย่างเดียวคือไม่ได้รั้ง ไม่แม้แต่บอกลา
มันหายไปหลังจากนั้น ผมโทรหา เจอมะรับสาย มะ ก็บอก ว่า พระองค์ประสงค์ให้มันไปอยู่ด้วย มันกลับมาไม่ถึงบ้านด้วยซ้ำ
ฝนตกหนัก เบาะลื่น เบรกไม่ดี มันหลุดโค้งฟาดที่กั้นถนน ลงทะเล
เพราะผมไม่ห้ามมันไว้ เพราะวันเกิดผม มันเลยมา เพราะ ผมเกลียดตัวเองมาก ตอนที่แม่เสียผมยังไม่เป็นขนาดนี้
มะบอกอย่าคิดแบบนั้น มันบอก ว่าความสุขมัน นอกจากการเป็นมุสลิมที่ดี ก็คือผม ผมเป็นลูกมะเหมือนมัน
ก็โทษตัวเอง อย่าลืมมัน อย่ากลับที่จะมาเยี่ยมปะกับมะ ผมหวังให้มะด่าผม มันอาจทำให้ผมรู้สึกดีกว่านี้ แต่ก็ไม่
ผมเป็นอยู่แบบนั้น จนปิดเทอม ไปหามะ ไปหาปะ มีแต่ลูกสะอื้นติดคอ มะกอดผมไว้ บอกดีใจที่มา ผมได้แต่ขอมาอัพ
ขอโทษซ้ำไปซ้ำมา
จนถึงตอนนี้ ผมก็ยังไปเยื่ยมปะกับมะ ท่านทั้งสองยังคงสบายดี ต้อนรับผมอย่างอบอุ่น ทุกอย่างที่มะบอกว่ามันอยากทำ
มันเคยพูด ผมเอาไปทำทุกอย่าง
เรียนจบมหาลัย เดินทางท่องเที่ยว ยิ้ม ตอนนี้ ผมยังคงจำทุกอย่างของมันได้ การคิด รอยยิ้ม สิ่งที่มันเคยพูด
เหมือนไกด์นำทางชีวิตผม ผมอยากให้มันอยู่ตรงนี้ ทุกที่ที่ไป ทุกสิ่งที่ทำ แม้จำหน้ามันแทบไม่ได้ แต่มันคือตัวตนผม
หากมันยังอยู่ ผมก็อยากบอกมันว่ารักมันมาก และผมหวังว่า มันคงไม่ว่าที่ผมเขียนเรื่องมันแบบนี้
ไม่รู้นะครับ ว่าที่ผมรู้จักมันมา3ปี กับทุกสิ่งที่มันทำนำชีวิตผมมาจนวันนี้ จะเรียกว่ารักได้ไหม
แต่ผมคิดถึงมันเสมอ
แชร์ๆความรู้สึกกันครับ