ครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกับเจ น้ำเสียงเจแปลกๆ จนผมเริ่มเป็นห่วง ผมรู้ว่าเจไม่ใช่คนที่เข้มแข็งเท่าไหร่นัก แต่...ถ้ายังมีสองคนนั้นอยู่เคียงข้าง ผมก็พอจะเบาใจได้
“ว่าไงครับพี่บอล ทางนั้นมีปัญหาอะไรรึเปล่า”ผมรับโทรศัพท์ทางไกลจากพี่บอล ส่วนมากเราจะคุยกันเรื่องงาน และในเวลางาน แต่ตอนนี้ทางนั้นน่าจะเลิกงานแล้วนี่นา
“เรื่องงานไม่มีปัญหา แต่เรื่องส่วนตัวเอ็กซ์น่ะท่าจะเรื่องใหญ่”
“เรื่องผม? เรื่องอะไรครับ”
“ก็ตอนนี้คุณหญิงป้าคุณมาดูสถานที่สำหรับงานหมั้นแล้วน่ะสิ พนักงานในโรงแรมก็รู้กันทั้งนั้น ผมจะบอกว่าข่าวลือก็ไม่ได้ เพราะคุญหญิงท่านมาจัดการเอง”
“แล้วแม่ผมล่ะ”แม่ผมไปไหน ทำไมไม่ทัดทานเอาไว้ แม่เป็นคนบอกให้ผมมาเคลียร์ปัญหาเอง แล้วแม่จะคอยถ่วงเวลาให้นี่นา
“ท่านประธานไปฮ่องกงตั้งแต่วันแรกที่คุณหญิงมาถึงที่นี่นั่นแหล่ะ งดใช้วิธีเผชิญหน้าชั่วคราว”พี่บอลพูดผมก็เข้าใจแม่ผมนะ คุณป้าเป็นพี่สาวของผู้ชายที่แม่รัก จะเรียกว่าเหมือนแม่คนที่สองของพ่อผมก็ได้ แม่ผมเกรงใจป้าค่อนข้างมาก บางทีถ้าไม่ได้คุณป้า พ่อกับแม่ผมอาจไม่ได้พบกันและแต่งงานกัน การจะไปพูดอะไรกับท่านตรงๆ แม่ทำไม่ได้แน่ๆ ถึงทำได้ ผมก็ไม่อยากให้ทำ แต่ที่สำคัญ...ไหนมดบอกว่าคุณป้าไปค้างอยู่ที่บ้านเธอ ผมนึกแล้วว่าต้องมีลับลมคมใน ตอนแรกคิดว่าพยายามหลบหน้าผม แต่ที่แท้เป็นแบบนี้เอง
“พี่ก็ทำตามคุณป้าก่อนแล้วกัน ท่านจะให้จองห้องหรือเตรียมสถานที่อะไรก็ทำตามท่านไปก่อน เดี๋ยวเรื่องอื่นผมขอเคลียร์เอง”
“รีบๆ หน่อยก็ดีนะเอ็กซ์ พี่กลัวรู้ถึงหูเจเข้าสักวัน เห็นบริษัทนั้นเข้ามาจัดงานที่นี่ด้วย ไม่รู้ได้ยินอะไรไปบ้างหรือเปล่า”พี่บอลไม่บอกผมก็รู้ แต่จะทำไงได้ ตอนนี้ก็ทำได้เพียงหวังว่า....เจจะยังไม่รู้เรื่องนี้
ผมนั่งเคลียร์เอกสารการประชุมของวันนี้อยู่ในห้องจนเลยเวลาเลิกงาน มดก็เดินเข้ามาหาในห้อง
“วันนี้ไปกินข้าวเย็นด้วยกันมั้ย”น้ำเสียงเธอราบเรียบ แต่ก็รู้ว่าพยายามเค้นเสียงออกมามาก
“คุณกลับไปก่อนเถอะ เคลียร์ตรงนี้อีกนิดผมก็จะกลับ”ผมพูดจบก็ก้มลงอ่านเอกสารในมือต่อ พยายามเมินเฉยต่อเธอ รักษาระยะห่างให้มากที่สุด เสียงประตูห้องเปิดและปิดเบาๆ ผมถึงได้เงยหน้าขึ้นมอง ไม่มีร่างนั้นอยู่ในห้องแล้ว ถามว่าผมสงสารเธอมั้ย บอกได้เลยว่าสงสารมาก แต่...มันจะดีกับเธอ
เอกสารทุกอย่างถูกเก็บลงในกระเป๋าถือ ผมเดินออกจากห้องทำงาน ตรงไปที่ลิฟต์ของโรงแรม บอกเลขชั้นกับพนักงานที่คอยบริการด้านใน รอเพียงไม่นานก็ถึงชั้นที่ต้องการ เดินผ่านห้องต่างๆ จนมาถึงห้องริมสุด...ห้องพักของผม ตั้งแต่วันที่ผมรู้ว่าป้าจงใจหนีหน้า และเปิดโอกาสให้ผมใกล้ชิดกับมด ผมก็ย้ายข้าวของทุกอย่างออกมาเปิดห้องพักที่โรงแรมเพื่อความสบายใจของตัวเอง และเพื่อเจ.....ต่อให้เจไม่รู้ว่าผมอยู่กับมดตามลำพัง แต่...ผมรู้...ไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลัง ผมก็ไม่คิดจะทรยศความไว้ใจของเจ
เกือบสองสัปดาห์แล้วที่ไม่ได้โทรหาเจเลย ผมเดินทางข้ามไปรัฐโน้นรัฐนี้เป็นว่าเล่น หนักหน่อยก็ข้ามประเทศ เมาเวลาไปเลยครับ ปรับตัวไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ แต่ก็ต้องทน ห้ามเจ็บ ห้ามป่วย ทำงานแทบจะยี่สิบชั่วโมงต่อวัน อยากที่จะให้ทุกอย่างลุล่วงเพื่อจะได้กลับไปหาเจ กลับไปกอดคนๆ นั้น ร่างเล็กๆ ที่อบอุ่น ไม่ใช่ตุ๊กตาเย็นๆ ตัวนี้ ผมหยิบนาฬิกาบนหัวเตียงมาดู ล่วงเข้าวันใหม่แล้ว เจจะกำลังเรียนอยู่หรือเปล่า ถ้าจำไม่ผิด ตอนนี้น่าจะกำลังเรียนอยู่ วิชาสำคัญซะด้วยสิ ผมเอื้อมมือไปหยิบสมุดเล่มเล็กบนหัวเตียงมาเปิดดูตารางเรียนของเจ อีกแค่ 30 นาทีก็หมดเวลาเรียนแล้ว ผมจะรอก็แล้วกัน
“คิดถึงจัง”ทันทีที่มีเสียงตอบรับจากฝ่ายนั้นผมก็เอ่ยคำที่ต้องการบอกให้รับรู้ออกไปทันที
“......คิดถึงเหมือนกันครับ พี่หายไปไหนมา ไหนบอกว่าแค่สัปดาห์เดียวไง”เสียงหวานใสพูดเบาๆ สะบัดหางเสียงเล็กน้อย ทำให้รู้ได้ว่ากำลังงอนผมอยู่ ไม่รู้ว่าทำไม การได้งอน..ได้ง้อ...ทำให้ผมยิ้มได้
“ไปทำงานครับ หนักมากๆ เลย ไปตั้งหลายรัฐแน่ะ นั่งเครื่องจนมึนหัวไปหมดแล้ว”ถ้าคนอื่นมาได้ยินคงหัวเราะกันแย่ ก็น้ำเสียงผมมันออดอ้อนเจขนาดนี้นี่นะ
“แล้วไม่สบายรึเปล่า”เจถามกลับด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยจนผมอดยิ้มไม่ได้
“ก็มีมึนๆ บ้าง แต่กินยาตลอดครับ ไม่ต้องห่วงนะ แล้วเจเป็นไงบ้าง สบายดีใช่มั้ย”
“ก็ดีฮะ....ช่วงนี้กำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบกันอยู่ วุ่นๆ เหมือนกัน”
“เหรอ อย่าหักโหมนะ พักผ่อนบ้าง สองคนนั้นดูแลดีรึเปล่าเนี่ย”
“........ก็ดีครับ”
“เมื่อไหร่เจจะสอบเสร็จครับ”
“อีกประมาณสองสัปดาห์”เจพูดจบ ผมก็คำนวณวันคราวๆ ในหัวแล้วก็ฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม อยากให้เจมาเร็วๆ จัง
“สอบเสร็จแล้วรีบมาหาพี่เลยนะ เดี๋ยวพี่บอกให้พี่บอลเตรียมตั๋วให้”อีกแค่สองสัปดาห์เอง งั้นแสดงว่าผมอยู่มาเดือนกว่าเองเหรอ ทำไมเวลามันเดินช้าจัง
“พอดีเจ.....ติดงานหลังสอบพอดี คงไปหาพี่ไม่ได้”
“อ้าวเหรอ ไม่ต้องทำไม่ได้เหรอ พี่คิดถึงเจนะ”ผมก็บอกตลอดเลยนะว่าให้เจรีบมาหาผมทันทีที่สอบเสร็จ แต่...เจรับงานทำไมเนี่ย
“เจรับปากไปแล้ว คงถอนคำพูดไม่ได้ อีกอย่างเจก็ไม่เคยไปเมืองนอกด้วย เจ...ไม่อยากไป”เจพูดอ้ำๆ อึ้งๆ แต่ผมนี่สิอึ้งไปเลย ผมคิดถึงเจแทบตาย อยากจะไปหา แต่ทำไม่ได้ ในขณะที่เจทำได้ แต่ไม่อยากทำ
“เจ....มาหาพี่เถอะนะ เดี๋ยวให้พี่บอลพามาก็ได้ พี่คิดถึงเจมากจริงๆ นะ เป็นห่วง หวงด้วย อยู่นั่นจะมีใครมาเกาะแกะเจหรือเปล่าก็ไม่รู้ มาหาพี่เถอะนะ ไม่คิดถึงพี่บ้างหรือไง”ผมอดที่จะน้อยใจไม่ได้ กว่าผมจะหาเวลาโทรหาเจได้ก็ต้องเจียดเวลานอนอันน้อยนิด บางครั้งโทรไปก็ไม่ได้คุย หรือไม่เจก็ยุ่งจนคุยไม่กี่คำก็วางสายไป แถมยังไม่เคยโทรมาหาผมเลย แต่ผมก็ชินแล้ว เพราะน้อยครั้งที่เจจะเป็นฝ่ายโทรหาผมก่อน ผมรู้ว่าเจเป็นคนไม่ชอบโทรศัพท์ เลยพยายามไม่คิดมาก แต่...มันก็น้อยใจเป็นบางครั้ง
“พี่เอ็กซ์.....เจก็คิดถึงพี่นะ....แต่...คงยกเลิกงานไม่ได้”เจคงลำบากใจ ผมจะดีใจดีมั้ยเนี่ยที่เจเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบเรื่องงานขนาดนี้
“ไม่เป็นไรครับ แต่เสร็จงานแล้วรีบเลยนะ รู้มั้ยครับ”พี่ภานุใช้งานเจเก่งจริงๆ พอเห็นเจเริ่มรับงานหน่อย ใช้ไม่เกรงใจผมเลย คนเขาคิดถึงกันแทนที่จะปล่อยให้มาเจอกันเร็วๆ
“.....ครับ เอ่อ...พี่เอ็กซ์ เดี๋ยวเจจะไปกินข้าวแล้วน่ะ ไว้คุยกันใหม่นะครับ พี่อยู่คนเดียวก็รักษาสุขภาพด้วยนะ”เจพูดเสียงอ่อยๆ คงไม่กล้าบอกให้ผมวางสายสินะ แต่นี่บ่ายแล้ว ยังไม่กินข้าวอีกเหรอเนี่ย
“นี่มันบ่ายสองแล้วไม่ใช่เหรอ ไปๆ รีบๆ ไปกินข้าวเลยนะ ไว้พี่โทรไปหาใหม่นะครับ พี่รักเจนะ”
“......ครับ”เจพูดจบก็วางสายไป ผม...คิดถึงเจจังเลย แค่ได้ยินเสียงก็เหมือนกับจะทนไม่ไหว อยากไปอยู่ข้างกายเสียให้ได้ เสียงใสๆ ช่วยผ่อนคลายความอ่อนล้าจากปัญหารอบตัว แต่พอเสียงนั้นหายไป....คำว่าเหงาเจียนตายมันเป็นอย่างนี้นี่เอง นี่ใช่ไหมที่เจเคยรู้สึก การที่เราไม่สามารถอยู่เคียงข้างคนที่รักได้....มันรู้สึกแบบนี้นี่เอง
“เอ็กซ์...เสาร์อาทิตย์นี้ว่างรึเปล่า พ่อกับแม่ชวนไปทานอาหารที่บ้าน”มดถามผมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ตอนนี้เรากำลังนั่งทานอาหารกลางวันกันอยู่ที่ร้านเล็กๆ ใกล้สวนสาธารณะ
“......ว่างสิ บอกท่านนะว่าผมจะไป”ผมนั่งครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนจะตอบเธอ เธอทำหน้าแบบงงๆ ก่อนจะอมยิ้มน้อยๆ ออกมาให้เห็น และรอยยิ้มนั้นทำให้ผมต้องหันหน้าหนี เธอเคยชวนมาหลายครั้งแล้ว ผมก็ได้แต่บ่ายเบี่ยงว่าอยากทำงานให้เสร็จเร็วๆ
สัปดาห์นี้ผ่านไปเร็วมาก ผมเร่งนับเวลาให้ถึงวันหยุดเร็วๆ แล้วมันก็มาถึงจนได้ มดมารอผมที่หน้าโรงแรม เราเช่ารถขับออกไป ระหว่างทางเธอพยายามชวนผมคุยมากขึ้นจนเกือบเหมือนเมื่อก่อน ผมเองก็รู้สึกสบายใจ แต่ก็เห็นใจในขณะเดียวกัน
“สวัสดีครับท่าน สวัสดีครับคุณหญิง”ผมยกมือไหว้ชายหญิงท่าทางภูมิฐานที่นั่งอยู่กลางห้องรับแขก คุณพ่อของมดเคยเป็นที่ปรึกษาท่านฑูต แต่ตอนนี้เกษียณแล้ว ส่วนคุณหญิงเนี่ย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทำธุรกิจเดียวกับครอบครัวผม
“มาๆ มานั่งกันลูก ไม่ต้องสุภาพนักก็ได้ เรียกซะห่างเหินเลย เรียกลุงกับป้า หรือพ่อกับแม่ก็ได้จ๊ะ”คุณหญิงหัวเราะออกมาพร้อมกวักมือเรียกผมไปนั่งใกล้ๆ แต่ผมเลือกที่จะนั่งฝั่งตรงข้ามกับคุณพ่อของมด
“มากันตั้งไกล คืนนี้ค้างกันที่นี่เลยนะ มาอยู่ก็นานแล้วไม่ค่อยได้คุยกันเลย”คุณลุงวางหนังสือในมือลงบนเก้าอี้เล็กๆ ข้างโซฟา
“ครับ ไม่ว่างเลย กว่าจะได้คุยก็...ผ่านมาเสียนาน”ถ้าไม่เป็นเพราะมาแบบกระทันหัน แล้วคุณป้าผมจัดตารางงานจนแทบไม่เหลือเวลาให้พักผ่อน ผมก็คงได้มาคุยตั้งนานแล้ว ครั้งแรกที่มาก็ยังไม่สบโอกาสเหมาะ และคุณป้าก็ไม่ปล่อยโอกาสด้วย แต่ตอนนี้ในเมื่อท่านแอบทำอะไรลับหลังผมก่อน ผมจะทำบ้างก็คงไม่แปลก
“ผมขอคุยกับคุณลุงคุณป้าสักครู่ได้มั้ยครับ”ผมพูดเสียงเรียบๆ คุณลุงพยักหน้าให้ ในขณะที่คุณป้าทำสีหน้างงๆ ก่อนจะลอบยิ้มออกมาและบอกให้มดไปพักผ่อนบนห้องก่อน
ระหว่างมดเดินผ่านไป ผมพยายามไม่สบสายตา เธอเหมือนไม่มั่นใจ แต่ก็คงเริ่มสงสัยว่าผมต้องการคุยอะไรถึงดูมีลับลมคมใน
“มีอะไรก็ว่ามาได้เลย”คุณลุงจ้องหน้าผมนิ่ง ทำให้ผมอดเกรงในแววตานี้เหมือนกัน ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำงานแล้วแต่ยังดูภูมิฐานและมีอำนาจอยู่เต็มเปี่ยม
“ผมขอเข้าเรื่องเลยนะครับ ผมขอ
ปฏิเสธการหมั้นระหว่างผมกับมดครับ”ผมสบสายตาผู้ชายตรงหน้าอย่างแน่วแน่ คุณป้ายกมือทาบหน้าอกทันทีที่ได้ยิน แต่คุณลุงดูจะรับสถานการณ์ได้ดีกว่า
“ขอทราบเหตุผลได้มั้ย”
“ประการแรก...ผมไม่ได้รักลูกสาวท่าน และไม่มีวันรัก เพราะผมมีคนที่รักและคิดจะแต่งงานด้วยอยู่แล้ว ประการที่สองก็อย่างที่บอกไป ผมมีคนที่รักและจะแต่งงานด้วยแล้ว และคนนั้นก็เป็น...
ผู้ชาย”คำพูดสุดท้ายที่ได้กล่าวออกไป เหมือนกับยกภูเขาออกจากอก มันสบายใจอย่างบอกไม่ถูก แต่คนฟังคงไม่เป็นเช่นนั้น คุณป้าเหมือนกับรับไม่ได้ ทำท่าคล้ายจะเป็นลม คุณลุงก็ดูจะตกใจไม่น้อย ทั้งคู่ไม่พูดอะไรออกมาผมเลยถือโอกาสพูดต่อ
“คนที่ผมรักเป็นผู้ชาย เราคบกันมาได้สักระยะแล้ว เหตุนี้ผมถึงไม่สามารถหมั้นหรือแต่งงานกับมดได้ และไม่สามารถคบหาดูใจได้ด้วย ผมไม่อยากให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้ ผมคิดว่าคุณลุงคงจะระแคะระคายเรื่องของผมมาบ้าง แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงได้ยอมรับตัวผมที่เป็นแบบนี้ ส่วนหนึ่งผมก็ดีใจที่ท่านเมตตา แต่ก็ไม่ขอรับไว้ ผมเห็นมดเป็นเหมือนเพื่อน เหมือนน้องสาว ต่อให้แต่งงานกันไป ผมก็ให้ความสุขเธอไม่ได้ พวกท่านมีลูกสาวแค่คนเดียว ผมเชื่อว่าเธอมีดีพอที่จะพบคนที่ดีกว่าผม และสามารถมีทายาทให้พวกท่านได้ เพราะสำหรับผมแล้ว....คงทำให้เรื่องแบบนั้นเกิดขี้นไม่ได้”ผมแน่ใจว่าการนิ่งเฉยของคุณลุงเป็นเพราะท่านรู้ข่าวลือของผมมาบ้าง คนระดับนี้จะไม่หาสืบหาตื้นลึกหนาบางของคนที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวก็คงจะแปลกไปสักหน่อย
ผมทิ้งรถไว้ให้มดใช้เดินทางกลับ คุณลุงตบบ่าผมเบาๆ ก่อนที่จะให้คนขับรถของท่านมาส่งผมที่โรงแรม ถึงแม้เพิ่งจะผ่านเรื่องเครียดๆ มา แต่ตลอดทางผมกลับนั่งยิ้มอย่างโล่งอก การที่จะเอ่ยปากบอกคนอื่นในเรื่องความรักของผม....เป็นเรื่องยาก ไม่เคยคิดว่าจะต้องทำ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าทำไม่ได้ ในเมื่อผมยอมรับว่ารักเจ ผมก็พร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาตั้งแต่วินาทีนั้น
“แม่ครับ เอ็กซ์นะครับ”ทันทีที่กลับมาถึงห้องพัก ผมก็โทรไปหาแม่อันดับแรก
“ว่าไงล่ะเรา”เสียงแม่ฟังดูอารมณ์ดี และเหมือนกับรอโทรศัพท์จากผมอยู่
“ผมรู้น่าว่าแม่รู้เรื่องแล้ว ทางนั้นเขาว่ายังไงบ้างครับ”
“จ๊ะ พ่อคนฉลาด กว่าจะเคลียร์เรื่องได้ปาเข้าไปเกือบสองเดือนเชียวนะ ปล่อยให้แม่วิ่งหนีป้าเรารอบโลกแล้ว”น้ำเสียงฟังดูผ่อนคลายกว่าครั้งล่าสุดที่ได้คุยกันตั้งเยอะ ผมไม่รู้จะขอโทษและขอบคุณผู้หญิงคนนี้อย่างไรดี แม่คัดค้านการหมั้นของผมเท่าที่จะสามารถทำได้ ยอมขัดใจกับผู้ที่มีพระคุณและเป็นคนที่แม่เคารพ ทุกอย่างที่ทำ...ก็เพื่อความสุขของผมเท่านั้น
“ดูเหมือนคุณลุงจะเดาเรื่องเอาไว้อยู่แล้วเลยคุยกันง่าย แต่คุณป้าท่าทางจะรับไม่ได้นะครับ ท่านไม่พูดไม่มองหน้าผมเลย อย่างนี้จะมีปัญหากับธุรกิจเรามากมั้ย”
“.....แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เอ็กซ์ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก ต่อให้เขาถอนหุ้น และไม่ร่วมทุนในโครงการใหม่ก็ปล่อยเขา แม่คิดว่าเรามีความสามารถพอที่จะดำเนินงานคนเดียวได้ อาจลดงบประมาณลงมาหน่อย หรือเลื่อนระยะเวลาก่อสร้างออกไป”
“ผมขอโทษนะครับ ที่ปล่อยให้เรื่องมันมาถึงขั้นนี้”ผมทำได้เพียงถอนหายใจ มันไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ เลยสำหรับผม เรียกว่าเป็นจุดหักเหอีกจุดหนึ่งในชีวิตเลยก็ว่าได้ ยังไม่ได้ตั้งสติที่จะรับมือกับปัญหา ก็ถูกส่งมาทำงาน แถมยังถูกบีบทั้งคนรอบข้าง และงานมากมายให้ต้องรับผิดชอบ ผมเหนื่อย ผมท้อ แต่ถอยไม่ได้ เพราะรู้ว่ามีคนรอผมอยู่
“ไม่เป็นไรจ๊ะ แม่เข้าใจหนูนะลูก แม่รู้ว่าเราต้องเจออะไรบ้าง แม่รู้ว่าเหนื่อยแค่ไหน แต่อย่าลืมคนข้างหลังเรานะ อย่าลืมว่าเรากำลังทำเพื่อใคร”
“ครับ เอ็กซ์รู้ครับแม่ แม่ครับ......วันเกิด...เอ็กซ์ขอกลับไปหาน้องนะ”ตอนแรกกะว่าจะให้เจมาฉลองวันเกิดกับผมที่นี่ แต่เจติดงาน ไม่รู้ว่าจะมาทันหรือเปล่า ปีที่แล้วก็ไม่ได้ฉลองด้วยกันไปครั้งหนึ่งเพราะมัวแต่วิ่งตามหาเจ ปีนี้ไม่อยากพลาดอีกแล้วครับ
แม่อนุญาตให้ผมกลับไปได้ แต่อย่าทำให้งานเสีย ผมก็เร่งทำงานของตัวเองเต็มที่ ต่อให้เป็นวันหยุด แต่ถ้ามันจะทำให้ได้กลับไปอยู่กับเจได้นานขึ้นก็ยินดี
วันนี้ต้องเจอหน้ามดเป็นวันแรกหลังจากที่ไปคุยกับพ่อแม่เธอ ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง ลึกๆ ก็อดสงสารไม่ได้ เธอเป็นคนดี สมควรจะได้เจอคนที่ดีกว่าผม คนที่จะทำให้เธอมีความสุข ผมรอจนกระทั่งเกือบเลยเวลาเข้างาน มดเดินเข้ามาด้วยมาดของนักธุรกิจสาวเหมือนทุกวัน ลำคอตั้งตรง หน้าเชิด ไม่แสดงความอ่อนแอใดๆ ออกมาให้เห็น...นอกจากแววตาที่เศร้ากว่าทุกวัน
การทำงานวันนี้เต็มไปด้วยความอึดอัดเล็กน้อย มดเงียบลงไปเยอะ เราคุยกันเฉพาะเรื่องงาน เวลาพักต่างคนต่างแยกย้ายกันออกไปทานข้าว เลิกงานเธอเข้ามาลาแล้วก็ออกไปจากห้อง ผมก็เก็บของขึ้นไปทำต่อที่ห้องพักเหมือนเคย วันนี้ผมโทรไปหาเจไม่ติด ดูตารางเรียนแล้วเจไม่มีเรียนตอนบ่ายนี่นา ตอนเช้าก็มีแค่แล็บเอง สงสัยจะติดงานอีกแล้วสิเนี่ย ผมล้มเลิกการโทรเป็นมาเป็นส่งอีเมลล์ไปหาแทน เนื้อหาก็เล่าเรื่องการทำงาน เล่าเรื่องคนที่ได้พบเจอ ส่งรูปถ่ายที่ผมถ่ายเล่นๆ นอกนั้นก็พร่ำเพ้อแต่คำว่า..คิดถึง...คำว่า..รัก....อยากให้คนอ่านได้รับรู้...และตอบกลับมาบ้าง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังอยู่หน้าห้อง ผมที่กำลังเคลิ้มหลับต้องลุกออกไปเปิด หน้าห้องมีผู้จัดการโรงแรมยืนอยู่กับพนักงานอีกหนึ่งคน
“เลขาคุณรู้สึกจะดื่มหนักมาก ตอนนี้กำลังอยู่ที่บาร์ ผมเกรงว่าจะอันตรายเลยขึ้นมาบอก”ผู้จัดการรอบดึกเป็นคนไทย และค่อนข้างคุ้นเคยกันดีเพราะเคยทำงานที่โรงแรมผมมาก่อน ผมกล่าวขอบคุณก่อนจะขอแต่งตัวใหม่เพื่อลงไปดูเธอ
ลงมาถึงด้านล่าง ผู้จัดการก็ให้พนักงานพาผมไปที่ๆ มดกำลังนั่งอยู่ ผมเข้าใจแล้วว่าอันตรายของผู้จัดการหมายถึงอะไร รู้มานานแล้วว่ามดเป็นคนสวยและมั่นใจในตัวเองสูง ไม่แปลกเลยที่จะมีคนจ้องมองเธอในขณะนี้ เสื้อคล้องคอสีแดงกับกระโปรงรัดรูปขับผิวให้ดูผ่องท่ามกลางแสงสลัวของบรรยากาศภายใน ผมสีดำสยายกลางแผ่นหลัง ผมก็เคยนิยมชมชอบผู้หญิงลักษณะนี้มาก่อน ทำไมจะไม่รู้ว่าคนรอบๆ ตัวเธอกำลังมองด้วยสายตาแบบไหน
“มด...คุณเมามากแล้ว กลับเถอะ เดี๋ยวผมไปส่ง”ผมเดินไปแย่งแก้วที่กำลังจรดริมฝีปากบาง ไม่รู้ว่าดื่มไปมากแค่ไหน แต่ดูจากสภาพ...คงเมามากแน่ๆ
“....ไม่...มดจะดื่มอีก”เธอพยายามขอแก้วใบใหม่จากพนักงานตรงหน้า แต่ผมปฏิเสธและพยุงเธอให้เดินตาม เธอขัดขืนแต่ก็ทำได้ไม่มากนัก ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วถ้าไปส่งกว่าจะกลับผมคงไม่เหลือเวลานอน ผมบอกผู้จัดการให้เปิดห้องพักอีกหนึ่งห้อง แล้วก็พยุงมดไปพักที่ห้องนั้นแทน
“มด...คุณโอเคมั้ย ให้ผมเรียกคนมาช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าดีมั้ย”ผมพาเธอมานอนในห้อง เลื่อนผ้าห่มคลุมตัวเธอเอาไว้ แต่เธอก็พยายามปัดออกแล้วก็พึมพำอะไรไม่รู้เรื่อง ผมหยิบกระดาษบนโต๊ะมาจดโน๊ตบอกให้เธอลาหยุดพรุ่งนี้ ระหว่างที่วางโน๊ตไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง เธอก็เอื้อมมือมาคว้าแขนผมพร้อมดึงอย่างแรงจนผมแทบล้ม ถ้าไม่ติดว่าเอาขาดันเตียงไว้ก่อน ผมคงล้มทับตัวเธอแน่ๆ
“...ทำไม......ทำไมไม่ใช่มด”มดมองหน้าผมด้วยน้ำตาอาบแก้ม ผมไม่แน่ใจว่าสติเธอครบถ้วนสมบูรณ์หรือเปล่า แต่ผมรู้ว่าคำถามนี้...เธอต้องการรู้คำตอบจริงๆ
“ไม่ใช่ว่าผมไม่เลือกคุณนะ แต่เพราะผมรักเจ ไม่ได้คิดว่าจะเลือกไม่เลือก”ผมตอบตามจริงอย่างที่เคยตอบถ้าผมชอบทั้งคู่เท่าๆ กันแล้วไม่เลือกเธอ นั่นสิควรถาม แต่นี่ไม่ใช่...ผมรักเจ...มันก็แค่นั้น
“..แล้ว...ทำไมไม่รักมดบ้าง...มดรอได้”
“มด...ผมไม่คิดจะรักใครนอกจากเจอีกแล้วนะ อย่ารอผมเลย ผมเคยมีแฟน มีผู้หญิงมากหน้าหลายตาคุณก็รู้ แต่ทั้งหมด...ผมไม่รักเลยสักคน แค่ชอบ แค่ถูกใจ แค่อยากสนุกด้วย แต่...ไม่ใช่กับเจ ต่อให้เจไม่รัก...ผมก็จะรักเขาอย่างนี้”ไม่ว่าเมื่อไหร่ ความคิดผม ความรู้สึกผมก็ยังเหมือนเดิม การรอคำว่ารักจากคนที่เรารักมันทรมาน....ผมรู้ดี
“.............มดไม่เข้าใจ เด็กคนนั้นมีดีอะไร”
“แล้วผมล่ะ.....มีดีอะไร”สำหรับผม...ผมไม่ใช่คนดีเลย แล้วเจมีดีอะไรผมถึงรักงั้นเหรอ...ไม่รู้เหมือนกัน
“............”เธอสบตาผม แต่ไม่พูดอะไรออกมา น้ำตายังคงไหลริน ผมเลื่อนมือไปปาดออกจากแก้มเบาๆ ในขณะที่เธอยกมือมาจับมือผมแนบแก้มเธอเอาไว้ สายตาคู่นั้น....กำลังส่งผ่านความรู้สึกของเธอมายังผม ผมยอมรับว่าเธอสวยมากในตอนนี้ และยากที่จะเมินเฉยต่อสายตาเศร้าๆ คู่นี้
“ผมไม่เคยทำอะไรให้คุณเลย ทำร้ายคุณด้วยซ้ำ มีแต่คุณนั่นแหล่ะที่ช่วยเหลือผมตลอด คุณมีดีกว่าที่เห็นนะมด คุณเป็นคนเก่ง ฉลาด สวย มีคนตั้งมากมายที่อยากจะเข้ามาทำความรู้จัก เปิดใจรับคนอื่นดีกว่านะ”
“ถ้า...เห็นแก่ที่มดเคยช่วยเอ็กซ์มาตลอด...คืนนี้....เอ็กซ์กลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนได้มั้ย
แค่สนุก...ได้มั้ย”
**************************************************************************
http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V2CD4B0FPB0&Autoplay=0