ผมไม่ได้อยากหาเรื่องทะเลาะกับเจหรอกนะครับ แต่การที่เอ็มมันพูดเรื่องนี้ออกมา ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาได้ ต่อให้ผมพยายามไม่คิดมากเรื่องความสัมพันธ์ของพวกนั้น แต่บางทีผมอาจคิดผิดไป ตี๋เองก็ควรจะมีใครสักคน ไม่ใช่มัวแต่มาทุ่มเทให้เจคนเดียว บางครั้งที่อยู่กับเจ ตี๋ก็จะมองห่างๆ ไม่พยายามเข้ามาชิดใกล้ ถึงตี๋จะบอกว่าตัดใจได้ แต่....รักมานานขนาดนั้น มันตัดใจกันได้ง่ายๆ เหรอ
“อ้าว เจไม่ได้นอนห้องนี้เหรอ”เอ็มเปิดประตูเข้ามาหลังจากเคาะหน้าห้องและผมส่งเสียงตอบรับไป
“ไปนอนกับเพื่อนมันมั้ง แล้วเอ็มมีอะไร”
“ไม่มีหรอก ว่าจะมาขอยืมรถพี่ไปถ่ายรูปตอนเช้าพรุ่งนี้”
“อืม เอาไปดิ กุญแจอยู่ที่หลังทีวี”
“....พี่มีอะไรกันหรือเปล่า ทะเลาะกันเหรอ”
“...ก็ไม่เชิง แค่ความเห็นไม่ตรงกันนิดหน่อย”
“เรื่องที่ผมทะเลาะกับไอ้ตี๋มันหรือเปล่า ผมแค่แหย่มันสนุกปากเฉยๆ นะ เจมันคิดมากด้วยเหรอ”
“เจมันเป็นคนคิดมากอยู่แล้ว เอ็มไม่ต้องสนใจหรอก นานๆ มีคนพูดอะไรแบบนี้ให้พวกมันรู้สึกตัวก็ดี”
“ตกลงนี่ไอ้ตี๋ชอบเจจริงๆ เหรอ มิน่าเห็นดูแลซะจนเว่อร์”
“เหรอวะ”
“ใช่ดิ พี่ก็ด้วย ประคมประหงมอย่างกับไข่ในหิน มันน่ะอายุเท่าผมไม่ใช่เหรอ”
“อ่อนกว่าหนึ่งปี”
“อ้าว นึกว่าเท่ากัน แสดงว่าน้องพี่สามปีเลยสิ ทำไมมันเข้าก่อนเกณฑ์เยอะจังวะ”เอ็มพูดแบบงงๆ ตอนแรกผมก็งงเหมือนกัน แต่พอถามมันบอกว่าโรงเรียนต่างจังหวัดเป็นแบบนี้แหล่ะ ดีว่าโก้กับตี๋เข้าตามเกณฑ์ บางครั้งเจเลยเหมือนน้องคนเล็กเพราะห่างกับพวกนั้นสองปี
“เออเอ็ม...ถือว่าพี่ขอแล้วกันนะ อย่าพยายามไปพูดยั่วตี๋หรือโก้มันมาก ทะเลาะกันขึ้นมาจะมองหน้ากันไม่ติดเปล่าๆ”
“ไอ้ตี๋นี่มันอายุเท่าเจเปล่าเนี่ย”
“เปล่า อายุเท่าเอ็มน่ะแหล่ะ”
“นึกว่าเด็กกว่า เห็นแหย่ขึ้นตลอด พี่ก็รู้ว่าผมแค่กัดมันเล่นๆ แต่มันของขึ้นง่ายเอง ทีไอ้โก้มันก็กัดมันไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย เห็นเงียบตลอด”
“นิสัยมันไม่เหมือนกัน โก้มันนิ่งไม่ใช่เพราะไม่คิด แต่เป็นเพราะมันไม่สนใจอะไรเลยต่างหาก ถ้าอยากแหย่ไอ้โก้ก็ลองทำเจเจ็บดูสิ แล้วจะรู้ว่าแหย่ขึ้นไม่ขึ้น”
“ยังไม่อยากเสี่ยง แค่โดนน้ำสาดใส่ก็พอแล้ว ผมไม่ได้กลัวมันหรอกนะ แต่รู้สึก...เหมือนจะสู้ไม่ได้ยังไงไม่รู้ ไม่ควรเป็นศัตรูด้วยอย่างยิ่ง”เอ็มบ่นเบาๆ พร้อมกับเดินออกไป ที่มันพูดมาผมก็เคยคิดเหมือนกัน สำหรับตี๋...ต่อให้มันพยายามยังไงผมก็คิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แต่สำหรับโก้...ถ้ามันเกิดอยากแย่งเจขึ้นมา บอกตรงๆ ผมไม่รู้จะสู้กับมันได้ยังไง เหมือนยืนอยู่บนเส้นแบ่งระหว่างความรักกับความผูกพันธ์...เราไม่สามารถก้าวไปยืนอยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้เลย
รุ่งเช้าบ้านนี้ยังอยู่ด้วยความสงบ เพราะเอ็มกับพงษ์ขับรถออกไปถ่ายรูปตามที่มันมาบอกไว้เมื่อคืน และไม่ได้บอกเวลากลับด้วย
“พี่เอ็กซ์จะกินข้าวเลยเปล่า ผมทำข้าวต้มหมูไว้”โก้เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ ตี๋กับเจยังนอนอยู่หน้าทีวี
“ยังไม่หิวว่ะ แล้วนี่เมื่อคืนนอนดึกกันเหรอ”
“ดูหนังจบไอ้สองตัวนั้นก็เล่นเกมส์กันต่อเกือบเช้า กว่าจะตื่นคงเที่ยงน่ะแหล่ะ เดี๋ยวผมจะไปบ้านแล้วค่ำๆ จะกลับมา พี่อยากกินอะไรหรือเปล่า ตอนเย็นจะได้ซื้อของที่ตลาดมาทำ”โก้นี่มันทำหน้าที่เป็นพ่อครัวหัวป่าจริงๆ ไปจ่ายตลาด คิดเมนูอาหาร แถมรสชาดก็เทียบเท่าเชฟตามร้านอาหารได้เลย
“พี่ยังไงก็ได้ ทำตามใจไอ้ตัวเรื่องมากที่นอนขดอยู่นั่นดีกว่า”ผมมองตรงไปที่เจ โก้เองก็รู้ว่าผมหมายถึงใคร
“ตามใจมันมากมีหวังได้ผอมตายกันพอดี”โก้เดินหัวเราะออกไป ผมหยิบเอกสารเกี่ยวกับงานที่โรงแรมมมานั่งอ่านที่ระเบียงไม้ข้างบ้าน
“ว่าไงครับแม่”นั่งอ่านไปได้สักพักคุณแม่สุดที่รักก็โทรมาพอดี
“เอ็มไปหาแล้วใช่มั้ยลูก”
“มาแล้วครับ ตอนนี้พากันออกไปถ่ายรูปข้างนอกกับเพื่อนมันอยู่ แม่มีอะไรกับน้องหรือเปล่า”
“ไม่มีหรอก แต่เห็นไม่ขับรถไปเอง แม่ก็กลัวหลงแล้วจะหากันไม่เจอ”
“โธ่แม่ เอ็มมันก็เที่ยวตะลอนขึ้นเหนือล่องใต้ออกบ่อย ถ้ามาแค่นี้แล้วหลงมันก็น่าจะหลงป่าตั้งนานแล้วล่ะครับ”
“ดูพูดเข้า แล้วน้องเจล่ะ เป็นยังไงบ้าง ฝากบอกด้วยนะว่าแม่คิดถึง”
“คิดถึงแต่น้อง แล้วผมล่ะครับ”น่าน้อยใจนะครับเนี่ย โทรมาก็ถามถึงเอ็มก่อน ประโยคต่อมายังฝากคิดถึงเจอีก ตกลงใครลูกแม่กันแน่
“ไม่ต้องมาทำเป็นงอนเลยตาเอ็กซ์ ไม่คิดถึงแล้วแม่จะโทรมาหาเหรอ แล้วไงจะกลับเมื่อไหร่”
“อีกไม่กี่วันก็กลับครับ แม่มีอะไรด่วนให้ทำหรือเปล่า”
“ไม่มีหรอก เพียงแต่เลขาที่แม่จะหาให้เอ็กซ์น่ะ เรียบร้อยแล้วนะ คุณป้าฝากให้มาทำงาน จบด้านนี้พอดี อายุเท่ากับลูกเลย จบใหม่เหมือนกัน เอ็กซ์กลับมาเมื่อไหร่ก็คงได้ร่วมงานทันที ช่วงนี้แม่จะให้น้องมดเขาฝึกงานกับเลขาแม่ไปก่อน”
“ก็ดีครับ เอาไว้ผมจะกลับวันไหนจะโทรไปบอกแม่อีกทีแล้วกัน”เพิ่งมาอยู่กับเจไม่กี่วันเอง ขออู้งานสักพักค่อยกลับไปลุยดีกว่า แต่คงอยู่นานมากไม่ได้ เป็นห่วงงานเหมือนกัน
คุยกับแม่เสร็จ ผมก็นั่งอ่านเอกสารต่อ สักพักเจกับตี๋ก็ตื่น พวกเราสามคนเลยอุ่นข้าวต้มที่โก้ทำไว้กินเป็นอาหารเที่ยง วันนี้ทั้งวันไม่ได้ออกไปไหนเลยครับ รถไม่อยู่ จะขี่มอเตอร์ไซต์แดดก็ร้อนมาก นั่งเล่นนอนเล่นอยู่ในบ้านทั้งวัน จนเย็นเอ็มซื้ออาหารจากข้างนอกเข้ามาเยอะมาก เจเลยต้องโทรบอกโก้ เดี๋ยวจะซื้อมาชนกัน แต่โทรไปแล้วไม่ติด เจก็เลยส่ง sms ไปบอกแทน
“ทำไมกินน้อยจังวะ”เจถามตี๋ที่ตอนนี้มันวางช้อนเรียบร้อย เป็นครั้งแรกที่อิ่มก่อนเจ
“ไม่ค่อยหิวว่ะ”
“ไม่หิวหรือไม่อยากกิน”เอ็มมันคิดเหมือนผมเลย สงสัยวันนี้ตี๋กับเจมันคงสลับล่างกัน
“ไม่อยากกิน มีอะไรมั้ย”ตี๋ตอบสวนมาแบบไม่คิดเลย ใจคอพวกมันจะหาเรื่องกันทุกครั้งที่เจอหน้ากันเลยใช่มั้ย
“ไม่กินก็เรื่องของมึง กูอุตส่าห์พยายามไม่หาเรื่องก่อนแล้วนะ มึงก็เริ่มก่อนจนได้”ผมเห็นด้วยกับเอ็ม ครั้งนี้ตี๋ผิดคนเดียวเต็มๆ
“มันไม่กินก็เรื่องของมันสิ จะพูดหาเรื่องกันทำไม”เจก็เข้าข้างตี๋อีกตามเคย คราวนี้คนห้ามทัพยังไม่กลับมาด้วย พงษ์กับผมก็เป็นคนกลาง นั่งมองดูพวกมันเถียงกันไปมา
“ใครหาเรื่องกันแน่เจ มันทำนิสัยเหมือนเด็กก่อน เจก็อย่าเข้าข้างมันให้มากนัก เกรงใจพี่เอ็กซ์บ้าง”หลังจากเอ็มพูด แทนที่เจจะสลด กลับเป็นตี๋ที่นั่งเงียบลงไปทันที
“จะกัดกันก็ไปกัดกันข้างนอก นี่มันเวลากินข้าว อาหารก็ให้ตรงเวลา มาเห่าใส่กันอยู่ได้ น่ารำคาญ”เปล่านะครับ ผมไม่ได้พูด แต่เป็นเสียงที่ดังมาจากร่างสูงที่ยืนหน้าเหี้ยมอยู่ข้างหลังเจ
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ไม่ได้ยินเสียงรถเลย”ตี๋เริ่มพูดอีกครั้งแล้วครับ นับว่าโก้เข้ามาแก้ไขสถานการณ์ได้ถูกเวลาพอดี
“กูให้เพื่อนมาส่ง เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยไปเอารถที่บ้านมัน”พอผมสังเกตุโก้มันดีๆ ถึงได้รู้ว่ามันไปกินเหล้ามา หน้าแดงๆ หน่อย คงดื่มมาหนักเหมือนกัน
“ไปกินเหล้ากับใครมาวะ ไม่มีชวนกันเลย”
“ไปกับเด็กเก่ากู พวกมึงไม่รู้จักหรอก”โก้พูดแล้วก็เดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่น ปล่อยให้เจกับตี๋นั่งงง
“มันไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่วะ มึงรู้จักเปล่า”เจกันไปถามตี๋ และก็ได้รับการส่ายหน้าแทนคำตอบ
อาหารมื้อค่ำจบลงด้วยความมึนงงจากคำพูดของโก้ เรื่องขัดแย้งระหว่างตี๋กับเอ็มก็ถูกลบหายไป แทนที่ด้วยความสงสัยว่าบุคคลปริศนาที่โก้เอ่ยถึงนั้นคือใคร แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากร่างที่นอนแผ่กลางบ้าน ซึ่งคาดว่าจะตื่นอีกทีก็รุ่งเช้า และไม่มีใครกล้าปลุกขึ้นมาสอบถามหาความจริงด้วย
วันรุ่งขึ้นเอ็มกับพงษ์ก็นั่งรถทัวร์ไประยองทันทีที่โทรเช็คกรมอุตุฯ ว่าพายุได้ผ่านไปแล้ว พวกมันจะได้ไปถ่ายรูปกันสักที แต่ถึงเหตุการณ์จะกลับมาสู่ภาวะปกติ ผมก็อยู่ได้อีกไม่นาน ต้องรีบกลับไปยื่นเรื่องขอจบกับทางมหาวิทยาลัย และกลับไปทำงานด้วย
“พรุ่งนี้พี่ก็จะกลับแล้วนะเจ”ผมนอนกอดเจด้านหลัง พอถึงเวลาต้องห่างกันจริงๆ ก็รู้สึกเหงาจนแทบทนไม่ไหว ผมกับเจไม่เคยต้องห่างกันแบบนี้เลย
“อื้ม”ดูเจมันตอบ แค่..อื้ม...แถมสายตามันยังจ้องไปที่หนังสือการ์ตูนในมือ แทบจะไม่สนใจผมที่กอดมันอยู่ด้านหลังเลย
“เจจะคิดถึงพี่มั้ยครับ”
“อื้ม”
“พี่ไม่อยู่ข้างๆ เจเหมือนทุกวัน เจจะเหงามากมั้ย”
“อื้ม”
“ไหนๆ พี่ก็จะไม่เจอเจอีกตั้งนาน พี่ขออะไรเป็นพิเศษหน่อยสิ”
“อื้ม”
“เจ...ทำให้พี่หน่อยสิ”
“อื้ม.....ห๊ะ! อะไร ทำอะไร”ไม่ทันแล้วครับ ผมถือว่าคำแรกเป็นคำตอบแล้ว อยากไม่สนใจผมดีนัก
“ไม่ต้องหนีเลยนะ รับปากพี่เอง มานี่เลย เลี่ยงมาหลายครั้งแล้ว”ผมดึงแขนเจให้ล้มนอนทับลงบนตัว แย่งหนังสือในมือเจมา แล้วก็โยนทิ้งไปบนพื้นห้อง เจมันก็ดิ้นขลุกขลักอยู่บนตัว แต่มันดิ้นผิดที่ผิดทางไปหน่อยนะ จากตอนแรกผมแค่จะแหย่เล่นๆ เลยเกิดอยากเอาจริงขึ้นมาเลย
“เจครับ...พี่รักเจนะ รักมากๆ แล้วนี่เราก็จะไม่เจอกันตั้งหลายวัน พี่ต้องคิดถึงเจมากแน่ๆ เลย เจก็คิดถึงพี่ให้มากๆ เหมือนกันด้วยนะ”ผมกอดเจไว้บนตัว หลังจากพูดออกไปเจก็ยอมให้ผมกอดนิ่งๆ
“ว่าไงครับ เจจะคิดถึงพี่มากๆ เหมือนกันรึเปล่า”ผมถามย้ำอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้คำตอบ
“........”เจไม่ได้พูดออกมา แต่ใช้การพยักหน้าที่อกผมเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม แล้วยื่นหน้ามาจูบปากผมเบาๆ แต่เนิ่นนานกว่าจะถอนหน้าออกไปซบลงที่อกตามเดิม สำหรับผม...ได้แค่นี้ก็ดีมากแล้ว แค่บอกว่าคิดถึงกัน แค่แสดงให้เห็นว่าห่วงใยกัน ทั้งหมดนี้ มันเป็นพื้นฐานของความรัก...คำว่า..รัก...ที่ผมไม่ได้เรียกร้อง แต่ก็ยังแอบหวังว่าจะได้ยินสักครั้ง
***********************************************************************
เฮ้ออออ...ปั่นสุดชีวิตแล้วนะ วันสองวันนี้ยุ่งมากจริงๆ ใครเข้าใจและรู้สถานการณ์ก็ดีไป ใครไม่รู้ก็อยากให้เข้าใจว่าจีพยายามเต็มที่แล้ว ยังไงก็...ขอบคุณที่รอคอยกันนะคะ