ตอนพิเศษนอส-ตะวัน : อยากได้ยินว่ารักกัน - Part of Nos
...หนึ่งปีแล้วที่คบกันมา...ผมมองคนในอ้อมกอดที่หลับลึกด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข คนที่เข้ามาทำให้ชีวิตผมสว่างไสวตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน คนที่ทำให้ผมยอมยกทั้งใจให้แต่เพียงผู้เดียว
...ตะวัน......คนที่ผมรัก..หมดหัวใจคนนี้...
“นอสรักตะวัน” ผมก้มลงกระซิบบอกรักคนในอ้อมกอด ตะวันขยับตัวยุกยิกน่าเอ็นดู “ตื่นได้แล้วครับคนดี”
ตะวันกระพริบตาตื่นขึ้นมางงๆ ผมหัวเราะก่อนที่จะก้มลงจูบหน้าผากเนียนรับอรุณอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวัน
“กี่โมงแล้ว” เสียงหวานถามขึ้น ผมเอี้ยวตัวมองนาฬิกาก่อนที่จะก้มลงบอกคนที่นอนเล่นอยู่ในอ้อมแขน
“แปดโมงครับ”
“เช้าจัง...” ตะวันพึมพำก่อนที่จะซุกหน้าเข้าหาอกผม แอบเห็นใบหูขึ้นสีแดงเรื่อให้ความรู้สึกอยากแกล้ง “อยากนอนต่อแต่เดี๋ยวน้องรอเนอะ”
ตะวันพูดเสียงอู้อี้กับอกผม พึมพำถึงน้องชายสุดที่รักเพียงคนเดียวก่อนที่จะขยับตัวทำท่าลุกออกจากเตียง
“บอกรักนอสก่อนสิ”
“ไม่เอา...จะไปอาบน้ำแล้ว” ตะวันพูดเสียงแผ่ว ใบหน้าขาวใสขึ้นสีแดง แม้จะดูน่ารักน่าหยิกแค่ไหนแต่ก็ไม่ทำให้ผมใจอ่อนอยู่ดี
“นะ...บอกรักนอสก่อน อยากได้ยินอ่ะ” ผมดึงอีกคนเข้าสู่อ้อมกอด กักตัวเอาไว้ไม่ยอมให้หนีไปไหนได้
ตะวันยู่หน้าใส่ผม ดีหน่อยที่ไม่ลงไม้ลงมือกันแต่เช้า “งั้นหลับตาก่อน”
ผมยอมหลับตาตามที่อีกคนสั่ง สัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มที่แนบลงมาบนแก้ม ผมอมยิ้มก่อนที่จะเริ่มรู้สึกตัวว่าคนในอ้อมกอดกำลังขยับหนี
“ไม่บอกหรอก คิก!” ตะวันอาศัยจังหวะที่ผมเผลอขยับตัวหนีออกจากอ้อมกอดที่คลายลง คนตัวเล็กกระโดดผลุงลงจากเตียงวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
เฮ้อ...อดฟังอีกตามเคย!
ผมยิ้มให้กับตัวเอง...พยายามปลอบใจตัวเองว่าอีกฝ่ายคงจะอายที่ต้องมานั่งบอกรักกัน
...เรื่องจริงที่ทุกคนไม่รู้...
...ตะวันไม่เคยไม่เคยบอกรักผมเลย...
หนึ่งปีที่ผ่านมาผมมีความสุขที่เราอยู่ด้วยกัน ตะวันดูแลผมอย่างดี...คอยรักและคอยเอาใจใส่ให้ความสำคัญกับผมเป็นที่หนึ่ง แต่สิ่งที่ตะวันไม่เคยให้ผมเลยนั่นก็คือว่าคำว่า ‘รัก’
ผมเคยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาไอ้นิกซ์ มันเข้าใจผมโดยที่เราไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ...เพราะมันเองก็เคยรอคำว่ารักจากจีอามาแล้วเหมือนกัน
การกระทำสำคัญกว่าคำพูดก็จริง...แต่บางครั้งผมก็แค่อยากได้ยินคำว่ารักจากคนที่ผมรักบ้าง...
...ก็แค่นั้นเอง...
Sex Syndrome ● ขอโทษที...ที่ผมติด “เซ็กส์”
“จีอาจะเอนท์คณะเภสัชฮะ” จีอาส่งเสียงเจื้อยแจ้วบอกเล่าอนาคตตัวเองให้พวกผมฟัง “แต่เรียวจะเอนท์คณะนิเทศ...ไม่รู้ไปติดใจอะไรมา ทั้งๆที่ตอนแรกอยากจะเอนท์วิศวะซะด้วยซ้ำ”
“คนละทางกันเลยนะนั่น” ตะวันหัวเราะ ผมพยักหน้าเห็นด้วยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร “แล้วนี่จีอาเตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว จะให้พี่ช่วยอะไรรีบบอกเลยนะ”
“ขอบคุณฮะ” จีอาหันมายิ้มให้ตะวัน ก่อนที่จะหันไปซบหน้าลงบนไหล่ไอ้เพื่อนรักของผม “แต่พี่นิกซ์ช่วยติวให้แล้ว”
“ติวอะไรจีอา? น้ำหน้าอย่างมันติวเรื่องบนเตียงน่ะสิไม่ว่า” ผมแกล้งแซวน้อง เห็นเด็กอายหน้าแดงกับแฟนมันที่โกรธหน้าดำแล้วตลกดี
“ไอ้เชี่ยนอส!”
“ไม่คุยกับพี่นอสแล้ว...” เด็กน้อยของไอ้นิกซ์เดินหนีเข้าครัวทั้งที่หน้ายังแดงก่ำ เพื่อนรักของผมหันมาชี้หน้าคาดโทษก่อนที่จะเดินตามภรรยาตัวน้อยเข้าห้องครัวไป
ตะวันหันมาตีหน้ายักษ์ใส่ผม ดีหน่อยที่ไม่แถมออพชั่นด้วยการดึงหูด้วย “นอสอ่ะ! พูดอะไรก็ไม่รู้”
“ก็พูดเรื่องจริงไงครับ”
“ลามกตลอด!”
“ลามกแล้วรักเปล่าล่ะ” ผมถามออกไปทันที ตะวันชะงักไปนิดหน่อยก่อนที่จะก้มหน้าหลบสายตาผม
“ถามอีกแล้ว...”
“ก็อยากรู้” ผมลองอ้อน คว้ามือบางของตะวันมากุมไว้แน่น “นะตะวัน...บอกนอสหน่อยนะครับ”
“ไม่เอา...เดี๋ยวนิกซ์ได้ยิน ตะวัน...ตะวันอาย”
“ป่านนี้มันเข้าไปผลิตลูกกันแล้วล่ะ ไม่ได้ยินที่เราคุยกันหรอก”
“ทะลึ่ง!” ตะวันว่าผมเสียงดังก่อนที่จะเอี้ยวตัวหลบผมที่กำลังจะคว้าตัวอีกคนมาก่อน แล้วเดินหนีเข้าห้องครัวไปอีกคนเฉยเลย
...อีกแล้ว...
ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ ความกังวลในตอนแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นความกลัว...ผมรู้ว่าหลังๆตัวเองเริ่มรุกหนักเรื่องที่อยากให้ตะวันบอกรัก และตะวันเองก็เริ่มหนีผมหนักขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน
ซักวัน...ตะวันจะหนีไปจากผมไหมนะ...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากทานข้าวเที่ยงเสร็จผมกับตะวันก็ขอตัวกลับบ้าน ใจจริงคนเป็นพี่ชายทำท่าจะงอแงอยู่ต่อแต่ก็ยอมปล่อยให้น้องไปอ่านหนังสือพร้อมทั้งยังสัญญาซะดิบดีว่าพรุ่งนี้จะมาหาใหม่ตั้งแต่เช้า
ผมคว้ามืออีกคนมากุมไว้เมื่อรถติดไฟแดง ตะวันหันมายิ้มหวานให้พร้อมกับเปิดเพลงจากวิทยุฟังไปด้วย ผมยกมือนิ่มนั้นขึ้นจูบก่อนที่จะชะโงกตัวข้ามเกียร์ไปหอมแก้มคนตัวเล็ก
“ฮื่อ...ขับรถไปเลยๆ” ตะวันอายหน้าแดง ผมเลยแกล้งดูดนิ้วอีกคนเล่น “นอส!”
“อร่อยอ่ะ”
“บ้า!”
“หึหึ” ผมหัวเราะขำ ตะวันแลบลิ้นใส่แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร “นอสรักตะวันนะ...รักมากเลยรู้รึเปล่า”
ตะวันยิ้มหวาน เอื้อมมือมาลูบแก้มผมเบาๆ “รู้สิ...”
ผมมองหน้าอีกคนด้วยความรักเต็มหัวใจ พยายามยั้งปากไม่ให้ถามคำถามนั้นออกมา...
“แล้วตะวันล่ะ รักนอสบ้างรึเปล่า”
...แต่ไม่ทัน..ผมยับยั้งชั่งใจไม่ทันจริงๆ...
ตะวันชะงักยิ้มพร้อมกับดึงมือกลับ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวพอดี
ผมหันกลับมาขับรถอย่างเดิมโดยที่ไม่พูดอะไร...แม้ข้างในจะรู้สึกน้อยใจกับปฏิกิริยาตอบรับของตะวันก็ตาม
“นอส...บ่ายนี้ไปดูหนังกันมั๊ย มีหนังเข้าใหม่ล่ะน่าดูมากเลย”
“ไปสิ...”
“เย้! ดีใจจัง” ตะวันยิ้มหวาน ร่าเริงซะจนผมรู้สึกผิดหวัง
...ผิดหวังที่มีแต่ผมที่จริงจังเรื่องคำว่ารักอยู่ฝ่ายเดียว...
“ถ้ายอมบอกว่ารักนอส...นอสจะพาไป”
“อะไรกัน...” ตะวันหันมามองหน้าผม ใบหน้าน่ารักนั้นขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ “เกี่ยวอะไรกับเรื่องบอกรักล่ะ นอสพาลแล้วนะ”
“ไม่ได้พาล” ผมตอบเสียงนิ่ง แม้จะรู้ว่ามันดูงี่เง่าแต่ผมก็จะทำ “นอสพูดจริง ถ้าตะวันไม่บอก...ก็ไม่ต้องไป”
“งั้นก็ไม่ต้องไป กลับบ้านก็ได้”
ผมหันไปมองหน้าตะวันอย่างไม่เชื่อหู ใจร้อนจนต้องจอดรถข้างทางเพื่อคุยเรื่องนี้กันให้รู้เรื่อง “ทำไมตะวันถึงไม่ยอมพูด...”
“นอสเป็นอะไรเนี่ย” ตะวันมองผมสีหน้าจริงจัง “ทำไมต้องเซ้าซี้เราด้วยเรื่องแค่นี้ด้วย”
“เซ้าซี้? เรื่องแค่นี้?” ผมถามเสียงแผ่วเหมือนคนหมดแรง “นอสรักตะวัน นอสอยากได้ยินตะวันบอกรักบ้าง...ไม่ได้หรือไง”
ตะวันถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่ “คนรักกันต้องบอกรักกันด้วยหรอ” เสียงของตะวันนิ่งจนผมเริ่มกลัว “แค่อยู่ด้วยกันยังไม่พออีกหรือไง”
ผมมองหน้าอีกคนด้วยความเสียใจ พยายามบังคับตัวเองให้พูดออกไปด้วยเสียงที่เป็นปกติ “ไม่พอ...นอสรักตะวัน ตะวัน...รักนอสบ้างรึเปล่า”
และเมื่อถามออกไป...ผมก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ควรเลย...
“นอส!” ตะวันหันมาเสียงดังใส่ผมก่อนที่จะปลดเบลท์ตัวเองออก “ถ้าพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ก็ค่อยคุยกันดีกว่า”
ผมคว้าตะวันเอาไว้ก่อนที่อีกคนจะลงจากรถไป “ตะวันอย่าไป...”
“ปล่อยตะวัน...ถ้ายังงี่เง่าอยู่แบบนี้ก็ไม่ต้องมาคุยกัน
ตะวันรำคาญ!”
เราสองคนนิ่งเงียบไปในทันทีที่ตะวันพูดคำนั้นจบ ผมค่อยๆปล่อยมือตะวันออกแล้วกลับมานั่งนิ่งเหมือนเดิม คนตัวเล็กข้างกายมองหน้าผมเหมือนคนรู้สึกผิดแต่มันกลับไม่ช่วยเยี่ยวยาจิตใจผมในตอนนี้ได้เลย
“นอสขอโทษ...เจอกันที่บ้านครับ” ผมพูดเสียงเบาไม่กล้ามองหน้าตะวัน รอให้อีกคนเปิดประตูรถแล้วเดินออกไปโดยที่ไม่พูดอะไร
...ผมได้คำตอบสำหรับเรื่องนี้แล้วล่ะ....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ผมขับรถไปเรื่อยๆ ออกจากกรุงเทพฯไปแถวชานเมือง ไม่สนใจที่จะเช็ดน้ำตาที่เปื้อนเต็มหน้า...ความเสียใจ...ความน้อยใจ...และความผิดหวังประดังเข้ามาจนผมแทบทนไม่ไหว
เสียใจ...ที่กลายเป็นคนงี่เง่าในสายตาคนที่รักมากที่สุด
น้อยใจ...ที่คาดหวังกับความรักครั้งนี้ไปเองฝ่ายเดียว
ผิดหวัง...ที่ยังไม่คู่ควรให้ตะวันรัก
ผมขับรถมาถึงชายทะเลแถบชานเมือง...นึกขำตัวเองที่ทำตัวเหมือนคนอกหักแล้วมาพักใจกับสถานที่แบบนี้
แต่ไม่แน่...อีกไม่นานผมอาจจะอกหักจริงๆก็ได้...
แสงสีส้มของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าให้อารมณ์ชวนเหงา ผมเดินเลียบชายหาดไปเรื่อยๆฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ก้มลงมองดูมือตัวเองที่ตอนนี้ว่างเปล่าไม่มีคนมาเดินข้างกาย
...ถ้าผมตายไป..ตะวันจะเสียใจไหมนะ...ผมลองเอาเท้าแตะผืนน้ำ...จากนั้นจึงค่อยๆปล่อยตัวปล่อยใจเดินลงสู่ทะเล ความคิดที่จะฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องความรักจากตะวันนั้น...ไม่มีหรอก
...ผมก็แค่อยากเล่นน้ำให้จิตใจมันเย็นลงก็แค่นั้นเอง...
“ตะวัน...” ผมเพ้อกับดวงอาทิตย์ที่อยู่ตรงหน้า ลองเอื้อมมือไปคว้าก็ได้แต่ความว่างเปล่า ผมยิ้มเศร้าๆ...ไม่อยากจะคิดในแง่ร้ายว่าถ้าตะวันจากไปผมจะเป็นยังไง
ผมไม่เคยมีแฟน...ไม่รู้หรอกว่าการเป็นแฟนที่ดีต้องทำตัวยังไง
ต้องบอกรักทุกวัน...ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา หรือแค่มีกันและกันอย่างที่ตะวันว่าก็พอแล้ว
ผมยอมรับว่าตัวเองงี่เง่า...เรียกร้องจากตะวันมากเกินไป ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่จนความรักของเราต้องเกิดปัญหา
แต่เพราะผมรักตะวัน...รักมากจนคงทนไม่ได้ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้รักผมเลย
“ตะวัน...นอสขอโทษ” ผมร้องไห้ให้กับตัวเอง ปล่อยให้น้ำตาร่วงลงสู่ทะเลแล้วกลืนหายไป
ผมไม่คิดจะฆ่าตัวตาย
...แต่ผมคงอยู่ไม่ได้..ถ้าไม่มีตะวัน...++++++++++++++++++++
PLEASE TBC in Final Partอะไรของมันวะ...หายก็หายไปนาน
กลับมาดันเอามาม่ามาฝากอีก!
#อนุญาตให้ตบได้เลย ฮา~
เนื่องจากตอนพิเศษสุดท้ายนี้มีความยาวเป็นพิเศษ
เลยแบ่งออกเป็นสองพาร์ท...พาร์ทของนอสและตะวันค่ะ
ตอนหน้าเป็นมุมมองของตะวันนะคะ
ไม่ช้าไม่นาน...จะพยายามมาวันอาทิตย์ค่ะ(กำลังปั่นหัวฟูพร้อมกับเล่นเกม หุหุ)
ตอนหน้าตอนสุดท้าย...อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะคะ
