ตอนที่2
“ไงว่ะมึง มาหากูตั้งแต่ไก่โห่” เสียงทักดังขึ้นทันทีพร้อมกับร่างสูงที่เดินลงมาจากชั้นบน
“ทำไม กูมาหามึงไม่ได้เหรอหรือมีเมียแล้วลืมเพื่อน”
“สาดฟิวส์ ทำงอนเป็นตุ๊ดเลยนะมึง”ไอ้เซ้นส์ด่าพลางเตะขาผมเบาๆ
“แล้วนี่ พี่กันกับเด็กๆไปไหนล่ะหรือยังไม่ตื่น”
“กันน่ะตื่นแล้วล่ะ สงสัยคงอาบน้ำอยู่ข้างบน เข้าเรื่องดีกว่าไหมไอ้ฟิวส์ มาทำอะไรแต่เช้าเนี่ย”
“ก็ที่ฉันโทรมาบอกแกไง เรื่อง “ของเล่นที่น่าสนใจ”ไงเล่าแกจำไม่ได้เหรอ” ผมตอบ ไอ้นี่ท่าจะความจำเสื่อม เพิ่งคุยโทรศัพท์กันหยกๆลืมซะแล้ว
“อืม แล้วไงโดนเขาปฏิเสธมาอีกสิท่า”
“ยิ่งกว่าปฏิเสธอีก เขามีแฟนแล้ว”
“แล้วไงว่ะ เขามีแฟนแล้วมึงก็เลิกซะสิ คนอย่าง มึง มีคนวิ่งเข้าหาตลอดเวลาอยู่แล้วแล้วจะสนใจอะไรกับคนๆเดียวว่ะ”
“ไม่มีทาง มึงดูปากกูดะนะว่า ไม่ มี ทาง !!!!” ผมตะโกนไม่รู้ว่าทำไมพอได้ยินว่าต้องปล่อยคนๆนั้นไป ผมต้องโมโหมากด้วย รู้แค่ว่าตอนนี้โมโห มาก นี่ถ้าไอ้เซ้นส์ไม่ใช่เพื่อนรักผมนะผมต่อยมันไปแล้วนะครับ
“ไอ้ฟิวส์ กูว่าท่าทางมึงเป็นเอามากแล้วนะ มึงแน่ใจนะว่าแค่ต้องการเอาชนะเขาเท่านั้น”
ไอ้เซ้นส์หรี่ตามองผมอย่างจับผิด เกิดจะมาสงสัยอะไรตอนนี้ว่ะเนี่ย
“ก็เออสิว่ะ มึงอย่าถามมากน่า เอาเป็นว่าหาทางช่วยกูหน่อยแล้วกัน”
“อ้าว ฟิวส์ มาแต่เช้าเลย” เสียงพี่กันเอ่ยทัก หลังจากที่ลงมาจากชั้นสอง
“สวัสดีครับพี่กัน แล้วนี่เด็กๆไปไหนครับ” ผมถามออกไป แหม พี่กันเนี่ยนางฟ้ามาโปรดผมแท้ๆ กำลังหาทางเลี่ยงสามีพี่บังเอิญอยากฉลาดขึ้นมา
“อ้อ เด็กๆยังไม่ตื่นน่ะ ว่าแต่มาแต่เช้าจะกินข้าวเช้าด้วยกันไหม”
“ไม่ดีกว่าครับพี่ เดี๋ยวผมกลับเลยดีกว่า ไปนะครับพี่กัน ไปนะเซ้นส์”
ฟู่ ผมถอนหายใจอย่าโล่งอกทันทีที่ออกมาจากสายตาจับผิดของไอ้เพื่อนรักได้ แล้วทำไมผมต้องโล่งอกด้วยครับ ผมเป็นอะไรไปว่ะเนี่ย
ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงพยาธิในกระเพาะอาหารที่ส่งเสียงประท้วงว่าหิว ก่อนเหลือบมองนาฬิกาหัวเตียงที่บอกว่าตอนนี้ 10 โมงกว่าแล้ว ผมมองไอ้ตัวที่นอนอืดอยู่ข้างๆ พลางคิดถึงคำพูด ไอ้แขกไม่ได้รับเชิญเมื่อเช้า คิดได้ไงเนี่ยว่าผมกับไอ้นะเป็นแฟน กัน แค่คิดว่าผมกับไอ้นะ จะทำอะไรๆที่คนเป็นแฟนเขาทำกันแล้ว มันขนลุกแปลกๆ แล้ว ขยะแขยง ชอบกล
“ไอ้นะ ตื่นเว้ยสายแล้ว”
“อือ อย่ามายุ่งน่าเบสพี่จะนอน” ไอ้นะบอกเหมือนละเมอ เบสไหนว่ะ ได้ข่าวผมชื่อ ต่อ นะครับ แล้วเบสคือใคร ใครคือเบส ชักแปลกๆแล้วเว้ย
“ไอ้นะ ตื่นสิเว้ย!!! ” ผมตะโกนกรอกหูมัน ถ้ายังไม่ตื่นกูจะตะโกนจนมึงเป็นหูน้ำหนวกเลย คอยดู
“เออๆๆ ตื่นแล้ว ทำไมชอบปลุกพี่แต่เช้าจังห่ะเบส” ไอ้นะโวยวายทันทีที่ตื่น นั่นไงหลุดชื่อนั้นออกมาอีกแล้ว
“มึงพูดถึงใครว่ะ ไอ้นะ”
“เฮ้ย!!! ไอ้ต่อ” 0.o
“อืมก็กูไง มึงจะตกใจอีกนานไหมได้ข่าวว่าเมื่อเช้ามึงเป็นคนขอนอนห้องกูเองนะ”
ผมพูดพลางมองหน้าไอ้นะอย่าจับผิด ประมาณว่ามึงมีไรปิดบังตูบอกมาบัดเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเจ็บแน่
“อะ เอ่อ มึงอย่ามองกูแบบนั้นสิต่อ กูกลัวนะเนี่ย”
“ไม่ต้องมาทำเนียน มึงจะบอกกูได้หรือยังว่า เบส เป็นใคร” ผมถาม นี่ถ้าเป็นหนังฮ่องกงคงจะประมาณว่า ผมจับไอ้นะนั่งบนเก้าอี้แล้วมัดมือ มันเอาไว้ก่อนจะชักปืนมาขู่ เพื่อให้มันยอมบอกความลับแน่ๆ
“เออๆ บอกก็ได้แต่มึงห้ามตกใจนะ”
“เออน่า บอกมาเถอะ”
“คือเบสอ่ะ คือ เอ่อ……แฟนกูเอง” ไอ้นะตอบเสียงเบา
“ก็เท่านั้น เออว่าแต่แฟนมึงชื่อแปลกดีนะ ผู้หญิงชื่อเบสเนี่ย”
“คือว่า เอ่อ แฟนกูเอ่อ ……………..เป็นผู้ชายว่ะ”
“มะ มึงว่าอะไรนะ” ผมได้ยินผิดใช่ไหมครับ ไอ้นะไม่ได้บอกว่าแฟนมันเป็นผู้ชายใช่ไหม
“มึงรังเกียจกูเหรอต่อ ที่กูเป็นเกย์”
“เอ่อ คือ เปล่านะเว้ย แต่ยังไงดีว่ะ เอาเป็นว่ากูไม่ได้รังเกียจแต่แค่ตกใจนิดหน่อยน่ะ กูขอเวลาทำใจสักพักนะ”
ผมบอกใครจะไปคิด ล่ะครับ ว่าไอ้นะจอมกะล่อนเนี่ยนะมีแฟนเป็นผู้ชาย หน้าตาท่าทางมันไม่เห็นเหมือนเกย์สักนิด แต่ของแบบนี้มันดูที่รูปร่างหน้าตาไม่ได้นิเนาะ
“ยังไงมึงก็เป็นเพื่อนกู กูคงไม่ตัดเพื่อนกับมึงเพราะเหตุผลแค่นี้หรอก”
“ขอบใจว่ะเพื่อน ที่ไม่รังเกียจกู”
“แต่ตอนนี้กูหิวมาก มึงทำกับข้าวให้กินหน่อยสิ ต่อเพื่อนรัก”
เอ่อ มึงเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วมากครับไอ้คุณเพื่อน ฮ่าๆๆ ผมได้แต่หัวเราะให้กับความติงต๊องของไอ้นะก่อนจะจัดการทำกับข้าวซึ่งก็คือ ไข่เจียวธรรมดาๆ นี่ละครับ แต่ไอ้นะ มันตั้งชื่อซะ หรูว่า “ไข่เจียวรวมมิตร(ภาพ)” เอากะมันสิ
เช้าวันจันทร์ที่แสนวุ่นวายไม่อยากให้มาถึงเลยให้ตายสิโรบิ้น นี่ดีนะครับที่ห้องผมอยู่ใกล้ที่ทำงานเลยไม่ต้องเจอรถติดเหมือนคนอื่นๆ ผมจัดการอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะเดินไปทำงาน หวังว่าวันนี้คงไม่เจอคนอะไรเซ็งๆอีกหรอกนะครับ
“ต่อมาพอดีเลย วันนี้ผู้จัดการคนใหม่จะเข้ามาทำงานนะ อีก15 นาทีเจอกันที่ห้องประชุม” พี่นิดสาวเก่งประจำแผนกบอกผมทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะทำงาน
“ครับ”ผมตอบเสียงเรียบ ก่อนจะจัดการกับงานบนโต๊ะต่อ
“เฮ้ยไอ้ต่อ พี่นิดให้มาเรียกไปห้องประชุมน่ะ” ไอ้นะตัวแสบเดินมาเรียกผมก่อนจะลากผมไปที่ห้องประชุมทันทีท่ามกลางสายตาแปลกๆของคนในแผนก ก็จะอะไรซะอีกละครับ ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าไอ้นะน่ะมันเป็นพวกโลกสดใส ยิ้มง่ายยังกะคนบ้าส่วนผม ก็ยิ้มยาก จนใครๆไม่ค่อยอยากสุงสิงด้วย แล้วพอผมกับไอ้นะ สนิทกัน ทุกคนในแผนกแทบจะเรียกว่าสิ่งมหัศจรรย์เลยนะครับ
“มาแล้วคร้าบ” ไอ้นะตะโกนบอกทุกคนหลังจากที่เปิดประตูไปในห้องประชุม ก่อนที่พวกผมจะนั่งรอ ผู้จัดการคนใหม่ที่ผมแอบได้ยินสาวๆในแผนกเขาพูดว่าเป็นลูกชายของ คุณ ภยันต์ภักดิ์ เจ้าของบริษัทด้วยนะครับ เหอะ ก็คงหนีไม่พ้นไอ้พวกลูกท่านหลานเธอ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อเหมือนเดิมล่ะมั้ง
“ขอโทษที่ทำให้ทุกคนรอนานนะครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับที่ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง
“เอาล่ะทุกคน นี่คุณ ภยันต์พล เปรมบริภักดิ์ ผู้จัดการคนใหม่ของพวกเราจ๊ะ” พี่นิดแนะนำคุณผู้จัดการคนใหม่ให้พวกเรารู้จัก แต่ทำไมผมรู้สึกคุ้นหน้าอีตาผู้จัดการจังเลยครับเคยเจอที่ไหนรึเปล่าหว่า
อืม เดี๋ยวนะครับขอคิดก่อน ปากแบบนี้ จมูกแบบนี้ หน้าแบบนี้ เฮ้ย!!!! 0.o นะ นี่ มัน มัน คือ
“คุณ!!!!” ผมตะโกนขึ้น จนทุกคนในห้องประชุมมองผมเป็นตาเดียว
“ไอ้ต่อตะโกนทำไมว่ะ ละเมอเหรอ” ไอ้นะกระซิบเบาๆ
“เอ่อคือ ขอโทษครับ” ผมบอกออกไป เฮ้อ ไอ้ต่อนะไอ้ต่อดันคิดซะดังเลย เกือบซวยแล้วไหมเล่า เพราะไอ้คุณผู้จัดการแท้ๆ ทำไมโลกมันต้องกลมขนาดนี้ด้วยครับ คนหล่อไม่เข้าใจ
“เอาล่ะครับ ทุกคนกลับไปทำงานได้” ผู้จัดการบอก เฮ้อ ได้โอกาสเลี่ยงแล้วเว้ย ไอ้ต่อ รีบเลยดีกว่า
“เดี๋ยวครับ คุณที่ตะโกนเมื่อกี้น่ะ ตามผมไปห้องทำงานด้วยนะครับ” เขาสั่งเสียงเฉียบต่างจากมาดจอมกวนที่ผมเคยเจอ จะมาไม้ไหนกันเนี่ย ผมได้แต่จำใจเดินตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ เจ้านายสั่งก็ต้องทำใครใช้ให้เรากินเงินเดือนเขาอยู่ล่ะ ด่าเขาไว้ตั้งเยอะจะโดนไล่ออกไหมว่ะเนี่ย
“เชิญเข้ามาสิครับคุณเป็นต่อ”
“ครับ” ผมตอบก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานทันที
“ผู้จัดการมีอะไรจะใช้ผมเหรอครับ”
“แหม คุณใจคอจะเป็นทางการไปถึงไหนเนี่ย ไม่อึดอัดเหรอครับ”
เขาถามท่าทางสบายๆ ยังไงกันแน่ เมื่อกี้ยังวางมาดอยู่เลยนะแล้วนี่ยังไง งง นะครับ เนี่ย
“ไม่ดีหรอกครับ คุณเป็นหัวหน้าส่วนผมเป็นลูกน้อง พูดจาสนิทสนมกันมันคงไม่เหมาะ”
“ฮ่าๆๆ แหมคุณแล้วไอ้ที่คุณด่าผมฉอดๆ วันก่อนน่ะมันดูไม่สนิทสนมเลยเนาะ”
“วันก่อนคือวันก่อนครับที่ทำไปเพราะผมไม่รู้ว่าคุณเป็นหัวหน้าถ้าคุณโกรธผมก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวไปทำงานนะครับ”
“เดี๋ยวคุณก็รู้ เราสองคนจะสนิทสนมกันยังไง เชิญกลับไปทำงานได้แล้วครับ”
ขอบคุณสำหรับเสียงตอบรับนะคะ
มีอะไรก็ติก็ชมได้เน้อ แหะๆ รู้สึกช่วงนี้ตัวเองป่วงๆ เนื้อเรื่องอาจป่วงๆ มึนๆไปบ้าง
อย่ารมณ์เสียนะคะ