ผมแต่งตัวเรียบร้อยก่อนที่จะออกเดินโซเซอย่างคนเสียหลัก ในใจพร้อมจดบัญชีหนังสุนัขไว้ในใจ หนอยเล่นงานคน
อย่างไอ้การ์ฟิลซะเสียศูนย์ตอนนี้เหลือแค่สองคนสุดท้ายแล้วที่ตนเองยังไม่ได้กด เอาว่ะรอเจอเมื่อไร พ่อจะจับปล้ำเป็นเมียแน่ๆ
แต่ตอนนี้ขอพักหน่อยเหอะ จัดหนักกันจังฟระ (รักจัดหนักงายเพ่)
“อ้าวการ์ฟิล ทำไมเดินแบบนั้นหล่ะคับ”กุนเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ยังจะถามอีกนะ”ผมกัดฟันกรอด ไม่ลองเป็นตรูไม่รู้สึกหรอกเฟ้ย
“ให้ผมพยุงไปไหม การ์ฟิล”ต่ายว่าพลางช่วยพยุงผม
“เอ่อไม่ต้องหรอก ว่าแต่พวกนาสองคนจะไปไหนต่อหรือเปล่า”ผมว่าพลางผละออกห่างเล็กน้อย
“เดี๋ยวจะแวะไปช่วยแม่นวลยกของนิดหน่อย เห็นบอกว่าเย็นนี้จะเลี้ยงฉลองให้ฮีโร่การ์ฟิลน่ะ”ต่ายตอบยิ้มๆ
“ฮีโร่การ์ฟิล?”ผมขมวดคิ้วทันที
“ก็คุณหญิงแม่กับแม่นวลแกปลื้มที่การ์ฟิลช่วยเหลือพวกตนตอนเช้าไง”กุนตอบแทนทันที
“เอ่อ...”จะบอกว่าไงดีหล่ะ บอกว่ามันเป็นไปเองอัตโนมัติ ก็ไม่อยากเห็นใครตายนี่หว่า
(แต่ตอนจัดการโจรร้ายลืมตัวนะ เพราะโกรธที่มันชั่วอ่ะ)
“ไม่ต้องคิดอะไรน่าการ์ฟิล พวกท่านอยากทำให้คุณนะ”สองคนบอกพลางส่งยิ้มให้
จากนั้นพวกเราก็เดินลงมาข้างล่างกัน ผมก็ได้เจอแฟนอีกสองคนที่ผมยังไม่ได้เสียพรมจรรย์ให้
(เพ่ยังมีเหลืออยู่เหรอ /// ด้านหน้าไงไอ้คนเขียน // อ๋อๆ

)
“อ้าวการ์ฟิล หมอเขียวคิดถึงจัง ขอกอดหน่อย”ว่าเสร็จหมอเขียวก็โผกอดทันที
“อั๊ก!!!”จะรัดแรงทำไมฟระ
“นี่หมอเขียว อย่ากอดการ์ฟิลแรงแบบนั้นสิ ปล่อยก่อน”แพะเอ่ยพลางสะกิดให้ปล่อยก่อนที่ตนจะสวมกอดต่ออีกที
“หมับ!! คิดถึงจังครับ เนี่ยนึกว่าจะไม่ได้มาหาแล้วนะเนี่ย”แพะว่าพลางสูดกลิ่นเรือนผม
“เอ๋? ไมพูดแบบนั้นหล่ะ”งงหล่ะเด่ะ
“ก็การ์ฟิลเล่นทำให้มือปืนทั้งห้าเจ็บหนัก ดีนะที่พ้นขีดอันตราย ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว”หมอเขียวเอ่ยตำหนินิดหน่อย
“อ้าว การ์ฟิลไม่ได้ทำนะ พวกคุณน่านแหละทำ”โยนเข้มาให้มีเหรอจะรับ
“แต่คนสั่งคือการ์ฟิลนะ”แพะไม่วายยังอดครวญไม่ได้
“เอาน่า อย่ารื้อฟื้นเลย เดี๋ยวพวกผมไปขนของก่อน พวกเพ่หมอก็ดูแลการ์ฟิลไปนะ”กุนเอ่ยบอกก่อนที่จะก้มมาหอมแก้มผมเบาๆ
“ไปหล่ะ แมวอ้วน”
“ฟอด ผมด้วยหล่ะ การ์ฟิลไปอาบน้ำด้วยหล่ะครับ เพิ่งซ้อมต่อสู้มา”ต่ายหอมก่อนที่จะสำทับ
“เออ!!!”ผมตอบกลับอย่างฉุนๆ ก็ใครหล่ะที่ทำให้เสียเหงื่อหล่ะ (เพ่ไปท้าพวกนั้นเองไม่ช่ายเหรอ)
“งั้นการ์ฟิลอยากทานอะไรดีครับ”แพะเอ่ยถามทันที
“แพะจะทำอาหารเหรอ”ผมอดสงสัยไม่ได้ บ้านนี้คนงานก็มีให้ทำไปเดะ อยู่บ้านตรูค่อยทำเฟ้ย
“ครับ ผมกะทำข้าวผัดหัวใจใส่ความรัก แกงจืดผักใส่ความคิดถึง ยำใหญ่ใส่ความคิดคนึง ขนมเต้าทึงแทนคำหวานซึ้งว่า ผมรักคุณ”
“ง่ะ ไม่ต้องทำหล่ะกัน”แค่ชื่อก็พานจะไม่อยากกินแล้ว
“โหพี่แพะ เล่นอ้อนการ์ฟิลก่อน เขียวก็แย่น่ะสิ”
“แย่ยังไงหรอเขียว”ผมอดถามไม่ได้
“ก็อดอ้อนการ์ฟิลไง ว่าแต่การ์ฟิลไปอาบน้ำกันเถอะ เดี๋ยวผมขัดหลังให้นะ”เขียวเอ่ยพลางจูงมือผมทันที
“เฮ้ย เดี๋ยวไม่ต้องก็ได้”หากแต่อยู่ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดเสียก่อน
++++แค่เป็นอีกคนคนอีกคน คนหนึ่งคน คนที่รักเธอไกลๆ คนที่ไร้ตัวตนในสายตา
แค่คนอีกคนเป็นอีกคน คนที่มองอยู่ทางนี้หวังดีต่อเธอเรื่อยมา
ไม่แคร์ว่าเธอไม่เคยเห็นค่าความสำคัญ ++++++++ฟังแล้วอดคิดในใจไม่ได้ว่า เลือกเสียงเรียกเข้าชวนหดหู่จังฟระ
“ฮัลโหล ครับๆ คุณพ่อเหรอครับ อะไรนะครับท่านปู่บ่นคิดถึง เขียวก็คิดถึงเหมือนกันครับ ยังไม่มีวันหยุดเลยครับ ฝากคุณพ่อกับคุณ
แม่กราบขอโทษคุณปู่ด้วยนะครับ อะไรนะครับคุณปู่อยากเจอแฟนผมเหรอครับ อ๊าคุณพ่อก็ ผมยังไม่ได้ถามเขาเลยครับ ครับๆ
ไว้ผมจะพาไปเจอพร้อมคุณปู่ครับ สวัสดีครับ”
ผมเงี่ยหูฟังพลางคิดในใจ แหมหมอเขียวเนี่ยเป็นเด็กมีปัญหานะเนี่ยไม่ยอมไปเจอครอบครัวนี่เอง มิน่าตาต่ำ เอ๊ย สิ้นคิด ไม่สิ
หลงผิดมาชอบผมได้ หากแต่ยังไม่ทันได้ถามเรื่องราว (แส่รู้ว่างั้น) เสียงโทรศัพท์ก็ดังอีกเครื่อง
+++ไม่ว่าเป็นที่เท่าไหร่ของเธอ เธอก็คือที่สุดเสมอไป ถ้าเผื่อเธอพอมีเหลือแม้เพียงเสี้ยวใจ จะแบ่งปันให้ฉันบ้างหรือเปล่าและคนๆหนึ่งซึ่งไม่สำคัญ ก็ยังเฝ้ารอสักวันของเรา แค่อยากได้ยินว่ารักซักคำเบาๆ ให้ฉันได้หรือเปล่าคนดี ++++ ฮ่วย สรุปพวกที่เป็นหมอเนี่ย ชอบเพลงแนวน้ำเน่าใช่ไหมเนี่ย (เพ่จำไม่ได้เหรอ ที่แฟนเพ่บอกไง ถึงน้ำจะเน่าก็ยังเห็นเงาจันทน์นะครับ : คนเขียน)
“สวัสดีครับคุณพ่อ ครับคนไข้ตอนนี้ปลอดภัยแล้วครับ เอ่อคุณพ่อครับ ทางคุณมังกรและคุณเซนต์ขอให้เจ้าหน้าที่เข้ามาอารักขา
คนไข้ครับ แจ้งว่าเป็นพยานสำคัญ ทราบครับ แพะได้แจ้งให้ทางพยายาล และ เวรยามรับทราบเบื้องต้นแล้วครับ ครับ
ขอบคุณมากครับ”
“เอ่อ คือว่า”จะว่าไงดีหล่ะ
“มีอะไรเหรอการ์ฟิล หรืออยากอาบน้ำมาครับ เดี๋ยวหมอเขียวจะพาไป”เขียวพูดเองเออเองแล้วก็ดึงผมตามไปทันที
“เดี๋ยวสิ ไม่ใช่นะ”ผมพยายามเอ่ยห้าม หากแต่กับโดนดันหลัง
“ไม่ต้องกลัวครับ เดี๋ยวหมอแพะจะเข้าไปด้วย”แพะว่าพลางส่งยิ้มพร้อมกับดันหลังเช่นกัน
“คะ คือว่า”โว้ยยย ตรูไม่ได้ว้อนเฟ้ยยยย
เมื่อพวกเรามายังห้องน้ำ ผมก็รีบถอยกรูดไปยังผนังทันที จนสองหนุ่มทำหน้าไม่ถูก
“การ์ฟิลเป็นอะไรเหรอครับ”แพะว่าพลางเดินดุ่มเข้ามา
“คะ คือว่าขออาบคนเดียวได้เปล่า”ว่าพลาง ผมก็กำมัดแน่น(ในใจ)ตัวๆ ตรูมีสิทธิ์กดแต่นี่สองต่อหนึ่ง มานเปอร์เซ็นแพ้สูงเฟ้ย
“หรือการ์ฟิลไม่อยากอาบน้ำกับหมอเขียวครับ”เขียวเอ่ยเสียงอย่างกับจะร้องไห้ทันที
“ก็ใช่น่ะสิ”อยากอาบคนเดียวเฟ้ย
“ชีวิตสามีที่ภรรยาไม่ยอมอาบน้ำด้วย ช่างน่าอั๊บอายยิ่งนัก อยู่ไปก็ไร้ราคา ยาเม็ดบัวพิฆาตเม็ดนี้คงช่วยปลิดชีพชีวิตเราได้เป็น
แน่แท้”ว่าพลางหมอเขียวก็หยิมยาขึ้นมาทำท่าจะกินทันที
“เฮ้ย อย่าบ้านะ”ผมรีบผวาเข้าไปปัดออกทันที ก่อนที่จะหันไปพูดกับหมอเขียวที่ตอนนี้น้ำตาคลอแล้ว
“ง่ะ อย่าร้องไห้สิหมอเขียว กะ ก็ได้มะมาอาบน้ำกันนะ”โว้ยนี่ตรูต้องใจอ่อนให้เด็กโข่งเหรอเนี่ย
“ชีวิตสามีที่ภรรยาโกหกว่าอยากอาบน้ำด้วย ช่างน่าอั๊บอายยิ่งนัก อยู่ไปก็ไร้ราคา ยาเม็ดบัวพิฆาตเม็ดนี้คงช่วยปลิดชีพชีวิตเราได้
เป็นแน่แท้”หมอเขียวทำเสียงเศร้าอีก ก่อนที่จะหยิบยาขึ้นมาอีกครั้ง
“อร๊ายไม่นะ”ว่าพลางรีบปัดมือออกอีกครั้งก่อนที่จะอดโวยวายไม่ได้
“โว้ย อยากทำอะไรก็ทำเลยเฟ้ยย อยากจะอาบน้ำ อยากจะทำอะไรก็เชิญเลยเฟ้ยยย”
“งั้นไม่เกรงใจนะ”ว่าเสร็จหมอเขียวก็ถอดเสื้อผ้าทั้งหมดออกทันที จนร่างอวบตกตะลึง
“อ้าวการ์ฟิลทำไมไม่ถอดครับ หรืออยากให้ช่วย พี่แพะถอดเสื้อผ้าเสร็จยังมาช่วยการ์ฟิลถอดกันเถอะ”เขียวว่าพลางหันไปทาง
แพะชักชวนทันที
“อ๋อ เสร็จพอดี ไม่ต้องอายหุ่นหรอกครับ ไงเราสองคนก็เคยเห็นของการ์ฟิลแล้วนี่ จำไม่ได้เหรอ”แพะว่าพลางเดินเข้ามาช่วยหมอ
เขียวอีกคน
“อ๊ะ ไม่ต้องก็ได้ อ๊ะอย่าถอดกางเกงเซ่ ซู่ๆๆๆ”พวกแกหัดฟังตรูบ้าง จะได้ไหมฟระ
หากแต่พวกนี้กลับไม่ทำอะไรผม เพียงแค่ใส่เจลอาบน้ำ พร้อมกับกดสบู่เหลวมาถูตัวให้เท่านั้น โดยต่างคนต่างขัดถูเบาๆไปบน
ร่างผม จนผมอดที่จะสงสัยไม่ได้
“นี่ไม่คิดจะพูดอะไรกันหน่อยเหรอ”หรือว่าพวกนี้อาบน้ำกันจะไม่พูด (เหมือนเวลาทานข้าวอะไรประมาณนั้น)
“ก็เห็นการ์ฟิลไม่พูดอะไรนี่ครับ หมอแพะเลยไม่รู้จะพูดอะไร”แพะเอ่ยเรียบๆ
“หมอเขียวไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกันครับ เพราะตอนนี้ทำหน้าที่อาบน้ำให้แฟนครับผม”เขียวเอ่ยนิ่ง แต่คนฟังเหมือนโดนน้ำเย็นก็
ไม่ปาน
“นี่พูดอะไรน่ะ ฟังแล้วจั๊กจี๊”ผมหันไปพลางจะยกมะเหงกใส่ หากแต่เขียวกับจับข้อมือผมไว้ก่อนที่จะส่งสายตาอ้อนวอนอะไร
สักอย่างมาทันที
“อะ อะไรเหรอหมอเขียว”แนวนี้มันแหม่งๆว่ะ
“การ์ฟิลขัดหลังให้หมอเขียวได้ไหมครับ”
“อ๊ะ อ๋อ ได้สิไม่มีปัญหา”ผมพยักหน้าให้ทันที โด่แค่นี้เอง
“ง่ะ หมอแพะด้วยได้ไหมครับเนี่ย”แพะอ้อนด้วยเช่นกัน
“ได้สิ”ผมพยักหน้าให้ทันที ก่อนที่จะคิดอะไรได้กับประโยคเด็ดชาวสีม่วง
หันหลังก่อนเป็นเมีย (ปกติมันจะเป็นหลับก่อนเป็นเมียไม่ใช่เหรอเพ่ : คนเขียน)
เยส วันนี้ที่รอคอย เคี๊ยกๆ
จากนั้นผมก็เริ่มใช้สบู่ก้อนขัดหลังสองหนุ่มเบาๆ เรื่อยๆก่อนทีจะใช้ไม้เด็ดทันที
“อุ๊ย สบู่หล่น”อะฮิ อะฮิ จากนั้นผมก็ใช้มือผมไล้จากหลังไปที่บั้นท้ายก่อนที่จะวนกลับมายังหน้าท้องของสองคนทันที
“คะ คือการ์ฟิลครับ แบบนี้มัน”หมอเขียวครางเสียงกระเซ่า
“ดะ ได้โปรดหยุดเถอะครับ”แพะร้องห้ามแต่เสียงขาดช่วง
“หยุดอะไรเหรอ”ผมแกล้วทำเป็นไม่ได้ยิน ตอนนี้ฟองจากกุชชี่มันดังคร้าบ เลยต้องเลื่อนหน้าไปยังตรงกลางใช้ลมหายใจ
รดติ่งหูสองหมอเบาๆ
“อ๊ะ” “อุ๊”
อร๊าย เสียงเหมือนพวกรับร้องตอนเจอรุกหยอกเอินอ่ะ ฮ่าๆๆ ใครๆ ครายหน้าไหนบอกว่าไอ้การ์ฟิลจะเสร็จสิบสองคน
ไม่มี๊หล่ะ ไม่มี ยะฮู้ๆๆ
“ปล่อยให้ใจเป็นอิสระเถอะน่า อย่าใช้สมองให้มันมากนักเลย”อร๊ายวลีเด็ดจากหนังเรื่องชั่วฟ้าดินสลายเลยนะเนี่ย
“นะ แน่ใจเหรอครับ”เขียวหันมาถาม
“จะดีเหรอการ์ฟิล”แพะเอียงคอมาถามเช่นกัน
หากแต่ผมไม่ตอบเลื่อนมือจากลำตัวไปยังเขียวน้อยกับแพะน้อย เพียงแค่สัมผัสปลายนิ้วก็บอกได้เลยว่า น้องชายสองคนตื่น
อย่างเห็นได้ชัด แหมไอ้การ์ฟิลแกเนี่ยช่างเป็นเมะที่เก่งกาจ แค่เพียงปลายนิ้ว อารมณ์เคะสองคนก็ตื่นพร้อมเสียแล้ว มามะมาให้กด
“อ๊ะ เดี๋ยว อุ๊บอืออ”หากแต่ผมยังไม่ได้ทันได้เอ่ยอะไร เขียวก็หันมาประกบปากกับผมทันที ขณะที่แพะเดินไปทีขอบอ่างอาบน้ำ
ก่อนที่จะหยิบอะไรมาด้วย หากแต่เพียงที่ได้ยินก็แทบร้องกรี๊ดดดด(ในใจ)
“เขียว ใช้น้ำมันจัสมินนี่นะ เพราะว่าในน้ำแรงเสียดมันเยอะ”แพะว่าพลางก่อนที่จะส่งน้ำมันให้เขียว ขณะที่ตนเองก็ดึงผมมาแลกดูดจูบปากทันที
“การ์ฟิลอดทนหน่อยนะครับ”เขียวเอ่ยแค่นั้นก่อนที่จะสอดให้ที่นิ้วผมทำให้ตื่นทันที
“อึ๊ก อ๊ะ ดะ เดี๋ยวสิ”ผมแทบจะร้องห้ามก็นะ เพิ่งโดนมายังไม่ถึงชั่วโมงเลยจะโดนอีกเหรอ
“เดี๋ยวไม่ได้หรอกครับ ใจสั่งให้ผมต้องทำครับ”เขียวเอ่ยบอกทันที
“ก็การ์ฟิลพูดไม่ใช่เหรอ ให้ใช้ใจมากกว่าสมอง”แพะพูดตอกย้ำทันที
“ป๊าบๆๆ กระเฉาะๆๆ แฉะๆๆ จ๋อมๆๆ”โว้ยเสียงมันจะพิศดาลไปไหมเนี่ย แต่ที่นอกจากเสียงมันกลับมีสิ่งที่ผมเพิ่งเข้าใจ
ก็ไอ้คำว่าแรงเสียด ขอบอกใครคิดมีอะไรในน้ำน่ะ
อย่าคิดเลยว่ะ

“อ๊ะ อ๊า การ์ฟิล”เขียวที่เด้งสะโพกสักพัก ก็เอ่ยเสียงสุขสมให้ได้ยินทันที
“งั้นต่อไปตาหมอแพะนะครับ แต่ว่าขอเป็นแบบสบายๆนะครับ”แพะเอ่ยบอกจนผมงง
“สบายยังไงเหรอ”หรือว่า ไม่จริ๊งแพะกะไม่ทำแต่ให้ผมทำ อุ๊ยคนสุดท้ายผมได้เป็นคนเอาเหรอ
“อย่างงี้ครับ การ์ฟิลมาใกล้หมอแพะสิครับ”หมอแพะว่าเสร็จก็ไปอีกมุมที่มีฟองอากาศลอยฟุ๊ดๆ
“โอเค”ผมจึงผละจากหมอเขียวก่อนที่จะเข้าไปใกล้ หมอแพะก็แยกขาออก ผมก็รีบพุ่งทันทีหากแต่เมื่อไปถึง หมอแพะก็จับ
ก้นผมวางลงไปบนแพะน้อยก่อนที่จะรู้ว่าไอ้คำว่าสบายเนี่ยคืออะไร
“ปั๊บๆๆ ฟุตๆๆ”ไม่เคยคิดว่าจะเจอการมีอะไรที่ประหลาดเช่นนี้ ฟองอากาศกระแทกก้นหมอแพะก่อนที่จะอัดกระแทกผมอีกที
แรงปะทะเลยเป็นสองเท่าเล่นแทบจุกทันที อดเปรยถามไม่ได้
“มันสบายตรงไหนเนี่ย”ผมที่ตอนนี้ต้องซบหน้าลงกับหน้าอกหมอแพะ
“ก็เป็นการนวดโดยฟองอากาศทั้งผมและการ์ฟิลจะได้สบายตัวไปด้วยไงครับ”หมอแพะว่าพลางจูบเรือนผมร่างอวบเบาๆ
“อึ๊กๆๆ อ๊ะๆๆ”แต่ตรูไม่ได้สบายนะเว้ยแบบนี้
“โอววว”สักพักหมอแพะก็ร้องเสียงครางออกมาก่อนที่จะย้ายผมมานอนข้างๆโดยมีหมอเขียวย้ายมาด้านข้างเช่นกัน
“อาบน้ำแบบนี้เรียกว่าไงดีครับหมอแพะ”เขียวหันมาถาม โดยไม่สนใจว่าข้ามหัวร่างอวบก็ตาม
“คงต้องบอกเป็นอาบน้ำร่วมรักหล่ะมั้งหมอเขียว”แพะตอบครับยิ้มๆ
“พูดอะไรกันน่ะ ไม่อายเหรอไงกัน”ผมอดพูดขัดคอไม่ได้
“ไม่อายหรอกครับ กับคนที่รัก”หมอเขียวตอบกลับทันที
“ถ้าอายแล้วไม่มีความสุข หมอแพะขอหน้าด้านครับ”หมอแพะเอ่ยยิ้มๆ
“งั้นที่เอายาพิษกินอะไรนั่นก็โกหกหล่ะสิ”ผมหันไปคาดคั้นหมอเขียวทันที
“ก็เป็นยาแต่ไม่ได้บอกว่ายาพิษนี่ครับ เป็นวิตามินการ์ฟิลจะกินเหรออาบน้ำเสร็จเดี๋ยวหมอเขียวเอาให้นะ”ยังหน้าด้านตอบกลับ
มาได้อีกนะตาหมอเขียว
“อืม ไม่คิดนะเนี่ยหมอเขียวจะเอามุกแบบนี้มาเกี๊ยวการ์ฟิล”หมอแพะเอ่ยพลางขยิบตาส่งซิกซ์ให้
“แต่พี่แพะก็ตาไวกับเรื่องกายภาพนะครับ”หมอเขียวตอบกลับพลางขยิบตาส่งซิกซ์กลับเช่นกัน
ผมได้แต่มองภาพบาดใจพร้อมกับกรี๊ดร้องในใจดังๆว่า
ตรูโดนน๊อคสิบสองยกรวด ม่ายยยยยยยยยยยย (แอ๊คโค่นิสสสสสสส)