บาปรัก...บาปบริสุทธิ์♥นิยายรักหื่นเซ็กเศร้าเอาฮา ตอนพิเศษ (9) หน้า 89 (24-02-14)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์♥นิยายรักหื่นเซ็กเศร้าเอาฮา ตอนพิเศษ (9) หน้า 89 (24-02-14)  (อ่าน 914518 ครั้ง)

ออฟไลน์ IöLIKE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-6


ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
นาสงสารจิง   

น้ำ นน นัท  ไปทำกรรมอะไรไว้เนี้ย

ความทุกข์ถึงไม่จบไม่สิ้น :fire:
 :z3:

ออฟไลน์ sugarcandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
นาสงสารจิง   

น้ำ นน นัท  ไปทำกรรมอะไรไว้เนี้ย

ความทุกข์ถึงไม่จบไม่สิ้น :fire:
 :z3:

ผิดเรื่องหรือเปล่าตัวเธอว์  :m12:

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
พีท สิงห์ โตโต้ 3 คนนี้จะได้ลงเอยด้วยดีมั้ยนี้ น่าลุ้นซะ

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
พี่หมอมีเขียนเรื่องไหนออกมาอีกหรือเปล่าจ้ะ คิดถึงผลงานน่ะจ้ะ ไม่อยากให้ทิ้งไป อยากให้ออกมาอีกน่ะ ยังไงถ้ามีผลงานออกมาเมื่อไหร่มาตั้งหัวกระทู้จากเรื่องเดิมก้อได้น่ะจ้ะ จะได้ติดตามต่อน่ะ

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3

ออฟไลน์ dr_tylenol

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แบบว่า 2 วันเต็ม ๆ ละ สนุกมากเลย อิอิ  มาต่อให้ลงเอยกันให้ได้นะครับ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ Ra poo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
พีท เราอยากให้นายเลือกสักคน สิงห์ หรือ โตโต้



เท่าที่อ่านดู มันแปลกๆ อาจเพราะบรรยายเกี่ยวกับสิงห์ไว้ดีมาก (เราหลงรักสิงห์เลย เอ็นดูขึ้นมาติดหมัด)
พอมาพลิกกับโตโต้แล้วมัน..ตั้งตัวไม่ถูก หรือยังไงก็ไม่รู้

แต่ตอนนี้เราไม่เชื่อทั้งความรักที่พีทมีให้สิงห์และโตโต้

รักกับสิงห์มันฉาบฉวย รวดเร็ว
รักกับโตโต้มันคือความผูกพันรึเปล่า


แล้ว..พีทรักสิงห์กับโตโต้จริงรึเปล่า หรือแค่ถูกใครพูดให้ฟัง แล้วก็ไขว้เขว

โตโต่เราค่อนข้างเชื่อว่ารักพีท แต่กับสิงห์เราก็ไม่แน่ใจ..


สามเหลี่ยมวงนี้ มีโตโต้คนเดียวที่พอรู้ แต่อีก 2 คนไม่รู้


เฮ้อ เรื่องนี้ทำให้เรารู้ว่าจริงๆแล้วสามพีมันเหนื่อย..
ถ้าเลือกไดัรักแค่คนเดียวเถอะ พ่อคุณเอ๊ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2

Anyann

  • บุคคลทั่วไป
เป็นเรื่องยาวที่สนุกน่ารักมากค่ะ ตรงกับชื่อเรื่องเลย มีครบทุกรสจริงๆ(แต่รสหื่นอาจจะมากหน่อย 555)

แต่ว่าเสียดายที่ตอนพิเศษยังค้างคาอยู่เลย อยากจะรู้บทสรุปของคู่(คี่)นี้จังเลยค่ะ คุณหมอมีเวลาเมื่อไหร่อย่าลืมมาลงต่อนะคะ

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
สนุกมากค่ะ จะรอติดตามผลงาน่อไปนะคะ :กอด1:

B_O_M

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมาก ชอบมากมากมากมากมากมากครับ / เก็บเข้าคลังประทับใจ

totoken

  • บุคคลทั่วไป
          บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ ตอนพิเศษ (5) “เราสองสามคน”
          ไม่ว่าวันเวลา จะผ่านไปนานอีกสักเท่าไร เธอยังเป็นคนดีคนเดียวในใจที่ฉันยังมี เธอยังคงงดงาม ฉันยังคงรักเธอ แม้รู้ว่าเธอจะไม่มีทางกลับมา ตื่นมามองดูนาฬิกายังเดินต่อไปเหมือนเก่า และยังคงจะมีแค่เราที่เดินสวนนาฬิกา เธอยังคงชัดเจน เวลาไม่ช่วยให้ลืมเหมือนใครบอกไว้ ฉันรู้จากนี้มันไม่มีเธอต่อไป แต่ฉันก็ยังรักเธอ

           “เฮ้อออ เหนื่อยจังเลยครับ นี่ขนาดไม่ได้เป็นเจ้าสาวเองนะเนี่ย” เสียงน้องหยกบ่นออกมาก่อนตัวจะเดินมาถึงผมเสียอีก พูดจบก็ทิ้งตัวนั่งแหมะลงตรงเก้าอี้ว่างข้างๆ ผม ไม่นานพลัสก็เดินตามคนรักมานั่งข้างกัน

           “ปวดขาหมดเลยอ่ะพี่พลัส พี่พลัสดูสิ นี่ดีนะที่หยกไม่ต้องไปยืนกับพี่แชริมจนงานเลิก สงสารพี่แชริมจังเลย ป่านนี้ไม่รู้ว่าจะเหนื่อยขนาดไหน ต้องยืนรับแขกตั้งแต่เช้ายันงานเลิกเลยนะครับ” น้องหยกอ้อนพลัสไม่เกรงใจใครแถวนี้เลย เจ้าตัวว่าพลางเลิกขากางเกงขึ้นมาบีบนวดไปตามน่อง

           “มาครับ พี่นวดให้ เมื่อยมากเหรอครับ” ไอ้พลัสพูดจบก็ยกขาคนรักมาวางบนตัก ให้น้องหยกเอนตัวไปพิงเก้าอี้อีกตัวที่ยังว่างอยู่ พลางลงมือบีบนวดให้อย่างตั้งอกตั้งใจ จนคนแถวนั้นหันมามองตามกันเป็นแถบๆ น้องหยกก็ไม่ได้สนใจคนรอบข้าง พอเริ่มสบายตัวก็กลับเอนตัวกลับมาพิงบนไหล่พลัส ซบศีรษะลงบนบ่ากว้างในท่าสบายแทน

           “ถึงพี่แชริมจะเหนื่อย แต่หนูว่าพี่แชริมคงจะมีความสุขมากนะคะ ดูสีหน้ายังสดชื่นอยู่เลยเห็นไหมคะ” น้องพลอยสวยพูดออกความเห็นทันทีที่เดินเข้ามานั่งข้างน้องหยก ดูจะเคยชินกับการแสดงความรักให้กันและกันของคู่เกย์เสียเหลือเกิน

           “นั่นสิครับ สงสัยงานของเราคงต้องไปขอเคล็ดลับจากพี่แชริมแล้วเนาะ ใช่ไหมครับพลอย” น้องเจมาถึงก็หยอดน้องพลอยว่าที่คู่หมั้นสาวสวย น้องพลอยไม่ใส่ใจ แต่ตากลับเป็นประกายมองคุณแชริมในชุดราตรีสีขาวเป็นประกายสะท้อนแสงไฟในห้องจัดเลี้ยงงามสง่า ที่เดินคู่กับเจ้าบ่าวไปทักทายแขกจนทั่วงาน ก่อนจะพากันขึ้นไปบนเวที

          พิธีกรกล่าวเชิญแขกผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย ขึ้นมาบนเวทีเพื่อร่วมกล่าวอวยพรแก่คู่บ่าวสาวในค่ำคืนนี้ แขกในงานต่างไปยืนรวมกันตรงลานกว้างหน้าเวที แสงเฟรชจากกล้องถ่ายรูประยิบระยับไปทั่วบริเวณด้านหน้าเวที ทั้งเพื่อนๆ ทั่งนักข่าว ตอนนี้ต่างพากันเก็บภาพบนเวทีกันระรัว

          เมื่อพิธีกรกล่าวเชิญแขกทุกคนให้ปรบมือต้อนรับคู่บ่าวสาว พวกเราก็เดินไปรวมกับแขกท่านอื่นๆ ตรงหน้าเวที ผมกับสิงห์ยืนหลบมาทางด้านหลังหน่อย เพราะตัวเราทั้งคู่ค่อนข้างสูง กลัวจะเสียมารยาทบังภาพบนเวทีสำหรับแขกท่านอื่น

           “ขอขอบคุณคุณพ่อ และคุณแม่ของผม และเจ้าสาวที่ได้มอบความรัก และความไว้วางใจให้เราทั้งคู่นะครับ และขอกล่าวคำขอบคุณแขกทุกๆ ท่านที่ได้สละเวลามาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีแต่งงานที่โบสถ์ และมาร่วมเป็นเกียรติในงานเลี้ยงแต่งงานของเราที่นี่ และขอขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับญาติๆ รวมถึงเพื่อนๆ ที่อุตส่าห์เดินทางมาไกลจากต่างประเทศเพื่อมาร่วมงานแต่งงานของผมกับแชริมในวันนี้จากใจจริงนะครับ” พี่แดนนี่เป็นคนพูดนำก่อน มือของบ่าวสาวจับคู่กันไว้แน่น

          “สำหรับดิฉัน ขอขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ของเจ้าบ่าว และครอบครัวของดิฉันทุกท่านด้วยนะคะ การขอบคุณครั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะที่ท่านได้ลงทั้งทุน และแรงกาย แรงใจช่วยจัดงานแต่งงานให้เราทั้งคู่ แต่ขอขอบคุณท่านในทุกๆ สิ่ง ที่ท่านช่วยเหลือมาทั้งในอดีต ปัจจุบัน และต่อไปในอนาคต ขอย้ำว่าดิฉันพูดออกมาจากก้นลึกของหัวใจ ขอบคุณเพื่อนๆ เจ้าบ่าว และเพื่อนเจ้าสาวของดิฉันที่สละเวลามาช่วยเหลืองานแต่งงานของให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี” พี่แชริมพูดมาถึงจุดนี้ก็หันหน้ามาหาน้องหยกที่ยืนคู่อยู่กับพลัสตรงข้างเวที

           “น้องหยกคะ ถ้าไม่มีน้องหยก ดิฉันคงไม่ได้รู้จัก และคบกับพี่แดนนี่ ถ้าดิฉันไม่ได้รับความช่วยเหลือจากน้องหยก ทีแนะนำให้เข้ามาทำงานในร้านอาหารไทยที่อเมริกาของคุณป้าน้องหยกในครั้งนั้น ดิฉันคงไม่ได้พบกับเจ้าบ่าวของดิฉันจนเรามีวันนี้แน่ๆ วันที่ทราบข่าวว่าคุณพ่อของดิฉันป่วย คุณป้าหลิน เจ้าของร้านยังช่วยเหลือเรื่องค่าตั๋วเครื่องบิน ทั้งที่ดิฉันลาออกมาจากการเป็นพนักงานแล้ว โดยไม่ทันที่ดิฉันจะเอ่ยปากขอยืมด้วยซ้ำ ในคราวนั้นคุณแดนนี่ก็ตามดิฉันมาถึงเกาหลี อยู่เคียงข้างดิฉันตลอดเวลาที่ดูแลคุณพ่อ พอทราบข่าววันที่คุณหมอมาแจ้งว่าคุณพ่อหายดีแล้ว สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ คุณแดนนี่ก็ขอดิฉันแต่งงานตรงข้างเตียงคนไข้ของคุณพ่อที่ท่านพักรักษาตัวนั่นเอง วันนั้นดิฉันดีใจมากทั้งสองเรื่อง ตื่นเต้นจนตั้งตัวไม่ทัน แทบจะเป็นลมเข้าโรงพยาบาลต่อจากคุณพ่อทีเดียว” พี่แชริมเล่าจบแขกทุกคนก็ขำออกมาเบาๆ พลางปาดน้ำตาด้วยความซึ้งใจ ผมก็พลอยซึ้งใจตามไปกับคู่บ่าวสาวด้วย

          ฟังจากพี่แชริมเล่า ป้าหลินของน้องหยกท่าทางจะเป็นคนมีน้ำใจมาก มิน่าล่ะ ถึงสอนหลานให้มีนิสัยน่ารัก ฉลาด แถมเป็นคนดีมากขนาดที่ผมยังต้องดีใจแทนน้องชายของผมจริงๆ พลัสโอบกอดหยกเอาไว้แน่นในตอนนี้ หลายๆ คนอมยิ้มกับภาพที่เห็น ผู้ชายรูปหล่อตัวสูงใหญ่กอดคลอเคลียกับหนุ่มน้อยตัวเล็กหน้าตาน่ารัก บรรยากาศแบบนี้ทำให้ภาพนั้นดูไม่น่าเกลียดเลยแม้แต่น้อยในความคิดของผม
           “ท้ายที่สุด” พี่แดนนี่ยกไมค์ขึ้นมาพูด เงียบไปสักพัก โดยไม่ลืมหันไปมองหน้าเจ้าสาวของตัวเอง

           “ผมขอขอบคุณคนรักของผม ขอบคุณที่คุณอยากจะใช้ชีวิตร่วมกับผม และก็ขอบคุณที่เลือก และตกลงใช้ชีวิตร่วมกันผมนะครับ” พูดจบก็หอมแก้มเจ้าสาวโดยที่พิธีกรยังไม่ทันได้เชียร์เลยด้วยซ้ำ ได้ยินเสียงแซวกันกิ๊วก๊าวลั่นห้องจัดเลี้ยง จนเจ้าสาวต้องเขินอายหน้าแดงกันเลยทีเดียว

          หลังจากที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวกล่าวจบเรียบร้อยแล้ว พิธีกรก็เชิญชวนให้แขกทุกท่านที่มาในงานร่วมยกแก้วแชมเปญที่บริกรนำมาเสิร์ฟให้เพื่อดื่มอวยพรให้บ่าวสาวพร้อมกัน จากนั้นพี่แชริมกับพี่แดนนี่ เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ลงจากเวทีเข้าห้องพิเศษที่จัดอยู่ติดกันเพื่อให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนต่างๆ อยู่ตรงหน้าเวที ทั้งมาจากหนังสือพิมพ์ นิตยสาร วิทยุ โทรทัศน์ ดูเยอะเสียจนไม่นึกว่าจะหลุดออกมาจากวงนักข่าวกันได้ง่ายๆ

          ผมเห็นอาหนึ่งกับนายทองหล่อ เดินเข้าตัดวงล้อมนักข่าวรีบพุ่งไปร่วมแสดงความยินดีกับบ่าวสาว ทั่งคู่ไม่ได้สนใจนักข่าวที่พยายามถ่ายรูปอาหนึ่งกับทองหล่อ แล้วรีบหลบฝ่านักข่าวที่สอบถามเรื่องส่วนตัวของอาหนึ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัวที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในตอนนี้ แล้วหายออกไปจากงานอย่างรวดเร็ว

           “สิงห์ครับ เราออกไปหาอะไรทานกันเถอะ” ผมหันไปบอกคนรักเบาๆ สิงห์พยักหน้าตอบ เพราะเริ่มเบื่อกับบรรยากาศที่ทุกคนเริ่มพลุกพล่านไปทั่วบริเวณ ผมจึงเดินไปบอกน้องชาย และคนอื่นๆ ว่าขอตัวกลับก่อน เพราะเห็นว่าทุกคนสนิทกับบ่าวสาว จึงน่าจะยังรอถ่ายรูปพูดคุยกันจนดึกแน่ๆ

          ผมขับรถพาสิงห์ออกมาหาร้านอาหาร แถวถนนเกษตรนวมินทร์ มีหลายร้านที่ยังเปิดรับแขกอยู่ ผมจึงเลี้ยวรถเข้าไปจอดในร้านอาหารทะเลชื่อดังแห่งหนึ่ง ผมแนะนำให้สิงห์ถอดเสื้อนอกกับเนคไทน์ไว้ในรถ ดูท่าทางสิงห์ดีใจมากที่ได้ถอดเสื้อสูทออกจากตัวเสียที

           “ไม่ต้องสั่งมาเยอะนะครับพีท ตอนนี้ผมไม่หิวมากเท่าไรแล้ว อยากรีบกลับไปนอนมากกว่า” สิงห์บอกผมพลางใช้หลังมือขยี้ตาไปด้วย ท่าทางยังกับเด็กเล็กๆ เมื่อเรานั่งลงเตรียมสั่งอาหาร สิงห์ก็อ้าปากกว้างหาวทันที ดูท่าทางไม่สดชื่นเท่าไร ดวงตาแดงๆ เหมือนง่วงนอนมากกว่าอยากทานอาหาร

           “อ้าว...สิงห์ไม่บอกก่อนละครับ ผมจะได้หาอะไรทานเบาๆ ก็พอ ผมนึกว่าสิงห์อยากทานอะไรหนักๆ เสียอีก” ผมวางเมนูลง เลิกคิ้วถามคนรักด้วยความสับสน เมื่อตอนหัวค่ำยังอยากบ่นเรื่องทานอาหารไม่อิ่มอยู่เลย นี่ก็ยังไม่ดึกเท่าไรเสียด้วย

           “ก็ตอนนี้มันง่วงมากกว่านี่ครับ สั่งน้อยๆ ก็พอนะครับ” สิงห์ทำปากยื่น น้ำเสียงดูงอแงแบบนั้น ยังกับเด็กๆ ทั้งทีเป็นหนุ่มสูงใหญ่ไม่เข้ากับบุคลิกภายนอกเอาเสียเลย

           “โอเคครับ น้อง...เอาข้าวผัดทะเลหนึ่งที่ กุ้งใหญ่อบวุ้นเส้น หัวปลาเผือกหม้อไฟ น้ำเปล่าสองที่ แค่นี้ครับ” ผมสั่งพนักงานจบสิงห์ก็ยิ้มกริ่มมาให้ผม รอยยิ้มบ่งบอกถึงคำขอบคุณที่สั่งอาหารได้ถูกใจคนรักเหลือเกิน ผมจึงยิ้มตอบให้เช่นกัน ผมเริ่มเรียนรู้ว่าสิงห์ชอบทานอะไรไม่ชอบอะไรบ้างมากขึ้นในช่วงนี้

           “แบ่งข้าวผัดกันทานคนละครึ่งนะครับ” ผมบอกคนรักที่พยักหน้าตอบกลับมารวดเร็ว เรายิ้มให้กัน พลางคุยเรื่องงานแต่งงานของพี่แชริม กับพี่แดนนี่ในวันนี้ พูดถึงความสวยงามอลังการที่น่าจดจำสักพัก พนักงานก็นำอาหารกมาเสิร์ฟที่โต๊ะ

           “อาทิตย์หน้าผมคิดว่าจะขึ้นเหนือไปรับลูกที่โรงพยาบาล เราไปเยี่ยมพี่ศรด้วยกันเลยดีไหมครับ ช่วงนี้พี่ศรต้องรับเคมีบำบัดพร้อมกับฉายรังสีไปด้วย คงต้องการกำลังใจเยอะหน่อย” ผมเปิดประเด็นเรื่องพี่ศรชวนคนรักคุยระหว่างที่กำลังทานอาหารกัน

           “พีทครับ ผมอยากคุยเรื่องนี้อยู่พอดี คือ...ผมอยากไปอยู่เป็นเพื่อนพี่ศรช่วงที่รักษาตัวได้ไหมครับ ผมเป็นห่วงพี่ศร แกต้องอยู่โรงพยาบาลตัวคนเดียว ผมโทรไปคุยกับแกบ่อยๆ ก็ไม่ได้ แกพูดเยอะแล้วจะอาเจียนอยู่ตลอดเวลา อาการคงหนักน่าดู ผมอยากรีบไปดูแลแกใกล้ๆ ผมสงสารแกนะครับ” สิงห์วางช้อนส้อม จ้องหน้าผมถามอย่างจริงจัง ทำให้ผมต้องถอนใจออกมาด้วยความเข้าใจความรู้สึกที่สิงห์มีต่อพี่ชายคนเดียว

           “อยากไปก็ไปได้ครับ ผมไม่ว่าอะไรหรอก ผมเข้าใจดี สิงห์ไปอยู่เป็นเพื่อนแกก็ดีเหมือนกัน แกอาจจะมีกำลังใจในการรักษาตัวมากขึ้น แล้วอาทิตย์หน้าผมจะพาลูกๆ ไปเยี่ยมแกด้วยดีไหมครับ พาหลานไปให้พี่ศรได้เห็นหน้าบ้างคงจะดี หมอบอกว่าตอนนี้น้ำหนักตัวของลูกผมทั้งคู่เพิ่มขึ้นจนเป็นปกติแล้ว ร่างกายเด็กก็แข็งแรงดีแล้วด้วย ผมอยากไปหาลูกจะตายอยู่แล้ว” ผมเล่าความรู้สึกให้คนรักฟัง

           “ดีสิครับ อาทิตย์หน้าก็ครบกำหนดที่น้องพีช กับน้องพอร์ชจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมรอเจอแกที่โรงพยาบาลที่พี่ศรรักษาตัวเลยแล้วกันนะครับ พีทพาแกไปเยี่ยมพี่ศรให้ได้นะครับ พี่ชายผมจะได้มีกำลังใจมากขึ้นเวลาแกเห็นหน้าหลาน” สิงห์มีสีหน้าเบิกบานมากกว่าเมื่อครู่ที่ผ่านมา เมื่อนึกถึงภาพพี่ชายตัวเอง และกำลังจะได้เจอหลานอีกครั้ง
           “ผมสัญญาครับ พอพาลูกๆ ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ที่แรกที่ผมจะพาแกไป คือโรงพยาบาลที่พี่ศรรักษาตัวอยู่แน่นอน เรารีบทานข้าวกันเถอะ จะได้กลับบ้านไปพักผ่อน พรุ่งนี้ผมจะไปส่งสิงห์ที่สนามบินแต่เช้าเลยนะครับ” ผมบอกคนรักจบ เราทั้งคู่ก็ลงมือทานอาหาร แล้วพากันกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ค่ำคืนนั้นเพียงนอนกอดกันแนบแน่น ไม่มีอะไรพิเศษไปกว่านั้น

ออฟไลน์ Ra poo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
มาต่อล๊าววววววววววววววว กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด :ling1:

ออฟไลน์ akeins

  • ชีวิตเรา Undo ไม่ได้
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หายไปนาน ในที่สุดก็มาต่อจนได้
 :mew4: :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
หายไปนานมาก ๆ เลยจ้ะ ดีใจจ้ะที่กลับมาอัพต่อถึงแม้โดยส่วนตัวตัวเองจะมีหนังสือแล้วก้อตามแต่อยากให้เพื่อน ๆ ที่ติดตามอ่านและยังไม่มีหนังสือได้มาสัมผัสความสนุกสนานต่อเนื่องน่ะ คิดถึงผลงานของพี่หมอมาก ๆ เลยอยากให้มาเปิดเรื่องใหม่น่ะ ยังคิดถึงเสมอน่ะจ้ะ  :mew1:

vevi

  • บุคคลทั่วไป
เห็นชื่อเรื่องแล้วไม่กล้าอ่าน กลัวดราม่า
อ่านแบบเกร็งๆ ลุ้นตลอดว่าจะดราม่ายังไง จะอ่านต่อไปไหวไหม 555
สนุกมากคะ ครบรส ฮา สุข เศร้าพอประมาณ แต่ร้อนแรงมากๆ

อ่านจบเข้าใจชื่อเรื่องนี้ได้ชัดเจน
ทั้งน้องหยกและพี่กฤษ(หรือพลัส)ต่างก็ได้รับผลมาจากบาปรัก บาปบริสุทธิ์
จบhappy คนอ่านมีความสุข อิอิ

ว่าคู่หนูหยกกับพี่กฤษร้อนแรงแล้ว  :m25:
อั๊ยยะ เมื่ออ่านเจอคู่พี่พีท น้องสิงห์ และโตโต้ hotมากกกก

ขอบคุณผู้เขียนคะ ว่าจะกลับไปอ่านใหม่แบบสบายใจ อิอิ  :pig4:





ออฟไลน์ IöLIKE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
กลับมาแล้วเหรอออออออ ดีใจจุงงงง

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage

totoken

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณทุกท่านที่ยังให้ความสนใจสนับสนุนติดตามผลงานนิยายเรื่องนี้อยู่นะครับ ยังมีเรื่องราวอีกเยอะที่ยังไม่ได้ทยอยลง ยังไงรอติดตามได้เรื่องๆ นะครับ จะพยายมาลงต่อให้จนจบตอนพิเศษนะครับ

ออฟไลน์ pulovely

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ถ้าจำไม่ผิด  ตั้งแต่ได้รู้จักเล้ามา
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ได้อ่าน
ติดมาก ชอบมากๆ อ่านหลายรอบด้วย
ยิ่งฉากเอ็นซีจัดเต็มมา บรรยายได้ดีมากจนเห็นภาพ อุ๊ย เขินๆ

พี่หมอแวะมาอัพตอนพิเศษล่าสุดให้ได้อ่านกัน  พี่หมอน่ารักจัง

คิดถึงน้องหยกด้วย.....อ่านเสร็จแล้วจะเม้นท์ให้ใหม่นะคะ

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
เพิ่งได้เข้ามาตามอ่าน ขอสารภาพแอบกลัวชื่อเรื่อง
แต่พออ่านจริงๆ แล้ว มันดีมากๆ เลย มีครบทุกรสจริงๆ
ร้องไห้เยอะมากตอนคุณตากับคุณยายตาย เสียใจสุดๆ ไปเลย
พี่พลัสกับน้องหยกน่ารักมากๆ มั่นคงในความรักกันสุดๆ
พี่หนึ่งกับน้องทองตอนแรกรุนแรงแต่ตอนหลังหวานมดขึ้นเลยทีเดียว
ส่วนโตโต้พีทและสิงห์เป็นอะไรที่ซับซ้อนหลายมุมมองมากแต่สุดท้ายก็โอเค
ส่วนน้องเจกับน้องพลอยก็น่ารักคนอื่นๆ ก็น่ารัก
ตัวละครในเรื่องทุกคนมีสีสันและเสน่ห์ในตัวกันทั้งนั้น ประทับใจมากค่ะ
ขอบคุณพี่หมอมากค่ะที่แต่งนิยายดีๆ ออกมาให้อ่าน  :L2:

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6

ออฟไลน์ phai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 406
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

totoken

  • บุคคลทั่วไป
          บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ ตอนพิเศษ (6) “เราสองสามคน”
          กระวนกระวาย คิดถึงเท่าไหร่ก็ไม่ถึงเขา จะเป็นจะตายทุรนทุราย สุดท้ายก็เหงา ภาพเขานั้นทำเราเจ็บปวดแค่ไหน ที่ต้องเก็บความรักนี้ไว้ในใจ ข่มตาให้นอนกอดหมอนทุกคืน ต้องฝืนทุกครั้ง เธอคงรักใครที่ไม่ใช่เรา อย่าเอาแต่ฝัน อย่าไปคิดให้เกินตัว อย่าไปรักให้เปลืองใจ ยังไงก็คงไม่มีทาง

          เช้าวันต่อมา ผมตื่นนอนตั้งแต่แต่เช้ามืด หันไปปลุกคนรักชวนสิงห์ไปใส่บาตรเช่นเคย ช่วงนี้ผมตื่นเช้ามาใส่บาตรบ่อยขึ้น รู้สึกอยากทำบุญให้ได้ทุกวัน เผื่อว่ามันจะลบล้างบาปกรรมที่สั่งสมมาตลอดชีวิตทั้งกับน้องชาย คนรักเก่า คนรักใหม่ และเพื่อนรักของผมลงได้บ้าง แม้ว่าช่วงชีวิตในเวลานี้ จะเป็นช่วงที่จิตใจสงบร่มเย็นเป็นที่สุดก็ตาม แต่มันยังเหมือนยังขาดอะไรไปบางอย่าง เหมือนสิ่งสำคัญที่กำลังจะจางหายออกไปจากชีวิตไปเรื่อยๆ ในชีวิตของผมตอนนี้

          “โต้...มึงทำอะไรอยู่วะ ช่วงนี้ไม่โผล่หน้ามาหากูเลยนะ” ผมรู้สึกกระวนกระวายจนอดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์ตัดสินใจโทรหาเพื่อนสนิทที่ผมคิดไม่ซื่อคนนี้ หลังจากที่ผมไปส่งสิงห์ที่สนามบืนรอจนขึ้นเครื่องบินเพื่อไปดูแลพี่ศรเรียบร้อยแล้ว

          “กู...เอ่อ...กูติดงานเยอะเลยว่ะ ขอโทษที...คือ กำลังช่วยทีมอาหนึ่งเตรียมการไปสร้างโรงแรมแห่งใหม่ที่เชียงราย กูต้องไปอยู่เป็นผู้ช่วยอาหนึ่งเต็มตัว แถมยังต้องสอนงานทองหล่อให้มาเป็นเลขาของอาหนึ่งแทนพี่บาสอีก มึง...เอ่อ...คือ... กูอยากจะถาม...มึงคิดถึงกูเหรอ” ไอ้โต้มันพูดติดๆ ขัดๆ แถมยังอธิบายยาว พร้อมจบท้ายด้วยคำถามที่ทำให้ผมอึ้งไปเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะคิดถึงมันหรือไง ผมถึงได้โทรไปหาอย่างนี้

          “กู...คือ...กูไม่เห็นหน้ามึงตั้งหลายวันนี่หว่า กลัวมึงจะเป็นอะไรตายห่าไปแล้วกูไม่รู้เรื่อง มึงเล่นหายเงียบไปจากชีวิตกูแบบนี้ ถ้ามึงไม่ว่างก็ไม่เป็นไรกูอยากรู้แค่นี้ล่ะ” ผมตอบเลี่ยงๆ ไป แต่ในใจก็เต้นแรงจนรู้สึกได้อยู่เหมือนกัน ความตื่นเต้น ความเขินอายแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าจนร้อนผ่าวไปถึงหัวใจ รู้สึกได้เลยว่าหน้าผมกำลังแดงซ่านจนเป้นลูกตำลึงสุกไปแล้ว อยากจะกดโทรศัพท์วางสาย แต่มือที่ถือโทรศัพท์อยู่กลับยังแนบอยู่ข้างหูรอฟังเสียงปลายสายด้วยใจระทึก

          “เฮ้ย...มึงตอบไม่ตรงคำถาม กูถามว่ามึงคิดถึงกูเหรอ” ไอ้โตโต้ยังคงตอกย้ำคำถามที่ทำเอาผมรู้สึกร่างกายวูบวาบร้อนๆ หนาวๆ ผ่าวขึ้นมาตั้งแต่ปลายผมจนจรดปลายเท้าได้ทันที ที่ได้ยินคำถามแทงใจซ้ำชัดเจนเต็มรูหูด้วยน้ำเสียงจริงจังขนาดนี้

          “กู...กู เออนั่นล่ะ” ผมตอบจบก็วางสายทันที ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องตื่นเต้นกับคำถามของไอ้โต้มันได้ถึงขนาดนี้ ทำเอาความคิดในสมองสั่งการไม่ออก คิดคำตอบไปไม่ถูกทางเลยทีเดียว ไม่นานมันก็โทรกลับมา เสียงสายเรียกเข้าดังอยู่ในมือของผมที่ยังกำโทรศัพท์ค้างเอาไว้ ใจเต้นแรงอีกแล้ว ผมมองหน้าจอโทรศัพท์อย่างลังเลครู่หนึ่ง ก่อนที่จะสไลด์ปุ่มสัมผัสรับสายเพื่อนรักหักเหลี่ยมหื่นของผมคนนี้

          “มึงเขินเหรอ...อ๊ะๆ อย่าเพิ่งตัดสายกูนะ กูแค่จะบอกมึงว่ากูก็คิดถึงมึงเหมือนกัน ถ้ากูว่างเมื่อไรจะรีบไปหานะจ้ะ ที่...อุ้ย...เพื่อน...ร๊ากกก” ไอ้โตโต้มันใช้น้ำเสียงกวนตีนใส่ผม ทำให้ร้อนวาบไปทั้งหน้าอีกแล้ว นี่มันกล้าพูดจาหยอกล้อยังกับผมเป็นสาวน้อยที่มันกำลังจีบ มันทำกับเพื่อนสนิทอย่างผมแบบนี้ แล้วผมก็ยังเอามาคิดจนต้องเขินขนาดนี้เชียวหรือ เริ่มไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองขึ้นมาแล้ว หรือว่าผมกำลังเริ่มสนใจความรู้สึกของมันที่มีอยู่ในใจผม ที่ผ่านมาเป็นความเคยชินที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกันตลอด แต่พอมีเรื่องของพี่บาสกับสิงห์เข้ามา ทำให้ผมกับมันเข้าใจความรู้สึกตัวเองกันได้มากขึ้น ทำไมผมถึงมีความรู้สึกช้าขนาดนี้

          ผมนั่งจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์อยู่ที่สนามบิน ผู้คนพลุกพล่านแต่ในหัวสมองกลับไม่สนใจใคร พลางยิ้มกับตัวเองค้างอยู่อย่างนั้นเกือบครึ่งชั่วโมง คำพูดของไอ้โตโต้มันยังคาอยู่ในสมอง ผมคิดถึงมัน มันก็กำลังคิดถึงผม ทั้งๆ ที่ผมเป็นคนเห็นแก่ตัว มีสิงห์อยู่แล้วทั้งคน มันยังรับคนเลวที่ไม่รู้จักพอในความรักอย่างผมได้อีก สงสัยต่อไปนี้ผมจะต้องเรียกแทนตัวมัน ยกระดับให้มากกว่าคำว่าเพื่อนรักเสียแล้ว คิดได้ดังนั้นก็เริ่มมีความสุขขึ้นมา ในใจมีรักกับเพื่อนสนิท แต่ก็ไม่ได้มากหรือน้อยไปกว่าที่มีกับสิงห์ นี่ผมมีกี่ห้องหัวใจกันแน่
          ถามตัวเองไปแต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรเลย กลับรู้สึกหมั่นไส้ตัวเอง ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครให้รู้สึกว่าอยากจะรัก แต่บทจะมีขึ้นมา ก็ประดังเข้ามาพร้อมกันถึงสองคน แถมทั้งคู่ยังนิสัยดี น่ารัก จิตใจดี ให้ผมมีถึงสองคนพร้อมกันได้อีก อย่างนี้ผมยิ่งต้องปฏิบัติตัวให้เป็นคนรักที่น่ารักถึงสองเท่าเสียแล้ว คิดดังนั้นก็โทรหาคนรักอีกคนเสียหน่อย ป่านนี้จะขึ้นเครื่องไปหรือยังก็ไม่รู้

          “สิงห์...ถึงไหนแล้วครับ” ผมถามคนรักอีกคนทันทีที่ปลายสายกดรับ

          “เพิ่งขึ้นเครื่องบินมาครับ กำลังจะโทรหาพีทพอดี ก่อนจะปิดเครื่อง เหมือนใจเราตรงกันเลยเนาะ” สิงห์ตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี

          “ผมน่ะกลัวสิงห์จะไปไม่ถูกด้วยซ้ำ เพิ่งขึ้นเครื่องบินคนเดียวเป็นครั้งแรกอีกด้วย ดีนะครับที่ยังเดินไปถึงเครื่องบินได้” ผมชวนคุยเพราะน่าจะยังมีเวลา

          “โธ่...ถึงผมจะดูซื่อ ดูบ้านนอกขนาดไหน แต่ผมก็ไม่ได้โง่นะครับ เรื่องแค่นี้ไม่ต้องห่วงน่า เดี๋ยวผมต้องปิดมือถือแล้วล่ะ ไปถึงแล้วผมจะโทรหาอีกทีนะครับ ช่วงที่ผมไม่อยู่ ถ้าเหงาก็ตามโตโต้มาอยู่เป็นเพื่อนนะครับที่รัก จะได้มีคนดูแลอยู่ใกล้ๆ ผมก็จะได้สบายใจด้วย” คำพูดของสิงห์ที่พูดตอบกลับมาทำให้ผมอึ้งไปนิดหน่อย ไม่นึกว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ หัวใจพองโตขึ้นมายังกับจะระเบิดมันตรงนั้น

          “ครับ ขอบคุณนะครับที่รัก ผมรักสิงห์นะ” ผมตอบกลับไปด้วยใจจริง สิงห์ใจกว้างแบบนี้ ผมยิ่งต้องทำตัวให้ดีสมกับที่สิงห์เปิดให้ให้ผมกับโตโต้ก้าวเข้ามาในชีวิตคู่ของเรา คิดดังนั้นผมก็รีบลงไปหาพลัสกับน้องหยก หาเรื่องชวนทั้งคู่ไปเที่ยวเชียงรายอีกรอบในอาทิตย์หน้า เพื่อจะไปรับลูกชาย และลูกสาวของผมพาไปเยี่ยมพี่ศร ก่อนจะกลับมาอยู่ที่บ้านด้วยกัน

          เมื่อถึงวันที่ผมต้องไปรับลูกออกจากโรงพยาบาล ผมยังไม่ได้เจอหน้าไอ้โต้อีกอยู่ดี เพราะมันไม่ว่างจริงๆ แต่ไม่เป็นไร แค่รู้ว่ามันยังคิดถึงผมตลอดเวลา แต่ไม่กล้าโทรมาหา ผมก็ดีใจจะแย่แล้ว วันนี้ครอบครัวของผมก็ไปเชียงรายกันพร้อมหน้า คุณแม่กับคุณพ่อยอมเลื่อนตารางงานที่แน่นหนา จนหาเวลาว่างมาอยู่กับหลานถึงหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ พวกเราทั้งครอบครัวตกลงกันว่าจะไปเยี่ยมพี่ศรพร้อมหน้ากันหมดทุกคนอีกด้วย

          วันที่ลูกของผมได้ออกมาจากตู้อบ คนที่ตื่นเต้นมากที่สุดคือคุณแม่ ท่านถึงกับมือสั่นน้ำตาคลอ ใบหน้าอิ่มเอมไปด้วยความสุขที่เปี่ยมล้นเมื่อได้อุ้มหลานครั้งแรกในชีวิต ภาพนั้นทำเอาบ่อน้ำตาแตกไปตามๆ กัน พยาบาลเรียกผมกับป้าแก้วไปอบรมเรื่องการดูแลเด็กอ่อน ผมจึงได้เรียนวิธีการอุ้มเด็กทารกเป็นครั้งแรกในชีวิต แถมยังได้รู้วิธีการป้อนนม อาบน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม และการดูแลรักษาลูกเมื่อเกิดอาการไม่สบาย หัวอกคนเป็นพ่อครั้งแรก ทั้งตื่นเต้น ดีใจ หวาดกลัว ผสมปนเปกันไปหมด รายละเอียดเรื่องลูกทั้งสองของผมทำเอาต้องใช้เวลาที่โรงพยาบาลเกินครึ่งวัน พอออกมาจากโรงพยาบาลได้ เราก็มุ่งหน้าไปหาพี่ศรทันที นั่งรถตู้กันไปเกือบครึ่งวัน กว่าจะถึงโรงพยาบาลที่พี่ศรพักรักษาตัวก็เกือบค่ำ

          “ว๊าว...ละอ่อนน้อย ไหนๆ มาให้ลุงอุ้มโตย” สิงห์ลิงโลดทันทีที่ได้เจอหน้าหลาน รีบเข้ามาขออุ้มหลานแฝดไว้ด้วยอ้อมแขนหนาทั้งข้างซ้ายข้างขวาพร้อมกันทั้งคู่ด้วยความตื่นเต้น กว่าเราจะมาหาพี่ศรได้ก็เป็นเวลาค่ำแล้ว พลัสจึงไปหาอาหารรองท้องให้ทุหคน แล้วขอตัวไปหาโรงแรมที่พักในตัวเมืองกับคนขับรถตู้ พวกผมจึงเข้าไปเยี่ยมคุณนรศรที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้กันในห้องพักด้านใน

          สภาพพี่ศรตอนนี้ผิวกายเริ่มดำเกรียมจากการฉายรังสี ใบหน้าซูบซีดลงไปเยอะด้วยฤทธิ์เคมีบำบัด แต่ก็มีเลือดฝาดด้วยความดีใจพร้อมหยดน้ำตาที่ไหลลงมาอาบใบหน้า เมื่อเห็นหลานชาย หลานสาวตัวน้อยๆ มาเยี่ยมถึงเตียงนอนที่พักรักษาตัวอยู่ เสียงสะอื้นเบาๆ จากผู้ชายที่นอนอยู่ตรงหน้าทำเอาทุกคนสะท้อนใจไปตามๆ กัน พี่ศรไม่กล้าที่จะแตะต้องหลาน แต่คุณหมออนุญาตให้อุ้มได้ เพราะเด็กเริ่มมีพัฒนาการ มีภูมิต้านทานแล้ว และยังมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงดีอีกด้วย

          พอรู้ดังนั้นพี่ศรจึงรีบรับฝาแฝดมาวางข้างตัว โอบมือกอดประคองไว้ ดูเหมือนจะไม่มีเรี่ยวแรงพอจะอุ้มหลานทั้งคู่ พี่ศรมองหลานทั้งสองที่นอนหลับตาพริ้มด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น ประกอบหยาดน้ำตาคลออยู่ในเบ้าตาลึกจนเป็นร่องจากอาการป่วย จ้องอยู่อย่างเงียบๆ ได้สักพักก็หลั่งไหลออกมาไม่ขาดสาย ความปลื้มปิติที่เห็นพวกเราทุกคนตั้งใจมาเยี่ยมให้กำลังใจในการรักษาตัวครั้งนี้ ทำให้พี่ศรเอ่ยปากขอบคุณไม่ได้หยุด ทำเอาทุกคนต้องร้องไห้ออกมาด้วยความซาบซึ้งไปกับบรรยากาศ ไม่เว้นแม้แต่ผม เรายิ้มให้กันพร้อมรอยน้ำตา ซึ้งใจจนแทบพูดอะไรกันไม่ออก

          “ขอบคุณครับที่รัก ขอบคุณจริงๆ ฮึก...พี่ศรดีใจมาก ผมก็ดีใจด้วย คุณพ่อคุณแม่มีเมตตาเหลือเกิน” สิงห์สะอื้นกอดผมทันที ที่เราสองคนออกมาจากห้องพักคนไข้ ผมโอบกอดคนรักไว้ในอ้อมอกเอาไว้แน่น ลูบหลังลูบไหล่หนาปลอบประโลม พร้อมบรรจงจูบบนหนาผากเรียกขวัญให้สิงห์กลับมาเข้มแข็งโดยเร็ว

          “ไม่เป็นไรครับ เราครอบครัวเดียวกันนะครับ” ผมตอบเบาๆ ให้คนรักได้ยินที่ข้างหู สิงห์หันมามองหน้าผม สบตากันเท่านั้นก็ปล่อยโฮซบหน้าลงบนบ่าผม กอดกระชับแนบแน่นยิ่งขึ้นไปอีก โถ...ขี้แยจริงๆ ผมคิดในใจพลางยิ้มอย่างมีความสุข หากสิ่งที่ผมพาลูกพร้อมทุกคนมาเยี่ยม ทำให้สิงห์กับพี่ศรได้มีความสุขขนาดนี้ ผมก็รู้สึกปิติยินดีไม่แพ้กับความรู้สึกของคนรักของผมในตอนนี้เช่นกัน ทำให้คนอื่นมีความสุข เราก็พลอยมีความสุขใจตามกันไป สักพักพลัสก็โทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่าได้ที่พักเรียบร้อยแล้ว

          “วันนี้ผมจะนอนกับสิงห์ที่นี่นะครับ คนอื่นๆ จะพักกันที่โรงแรมในตัวเมือง พลัสโทรมาบอกว่าหาห้องพักได้แล้ว พรุ่งนี้ทุกคนจะมาเยี่ยมพี่ศรกันอีกครั้งก่อนจะกลับกรุงเทพ สิงห์หิวไหม” ผมเดินเข้าไปบอกทุกคนในห้องพักจบพลางหันกลับมาถามคนรักด้วยความเป็นห่วง สิงห์ดูผอมลงนิดหน่อยทั้งๆ ที่มาอยู่กับพี่ศรได้เพียงไม่กี่วัน ไม่รู้ด้วยความเครียด หรือเพราะอาหารการกินที่นี่ไม่สมบูรณ์ แต่ผมรู้สึกห่วงคนรักขึ้นมาจับใจ

          “หิวนิดหน่อยครับ เดี๋ยวเราไปส่งคนอื่นๆ ขึ้นรถแล้วค่อยหาอะไรทานข้างล่างก็ได้นะครับ” สิงห์ตั้งสติได้แล้วก็ยิ้มตอบผมมา ทุกคนในห้องพักคนไข้พูดคุยกันต่อนิดหน่อยทั้งเรื่องอาการพี่ศร เรื่องหลาน เรื่องการเรียนของสิงห์ และอีกหลายเรื่อง แต่ใช้เวลาไม่นานเพื่อให้พี่ศรได้พักผ่อนเต็มที่ก่อนที่ผมกับสิงห์จะออกมาส่งทุกคนที่รถตู้ที่กลับมารับคนอื่นๆ พร้อมกับพลัส

          ผมกับสิงห์เดินกลับเข้ามาในโรงพยาบาล เราตรงเข้าไปที่ห้องอาหารชั้นล่างของตึก ดีที่โรงพยาบาลที่นี่มีบริการอาหารยี่สิบสี่ชั่วโมง ผมไปสั่งอาหารเป็นกับข้าวมาสองสามอย่างแบบสำเร็จรูป พนักงานจัดวางในถาดให้ผมเสร็จก็ยกมานั่งทานกับสิงห์ที่เดินไปหยิบช้อนส้อมกลับมานั่งทานกันเพียงสองคนที่โต๊ะอาหาร ซึ่งมีเพียงแพทย์ และพยาบาลทานอีกสองสามโต๊ะรวมไม่กี่คนในห้องอาหารแห่งนี้

          “ช่วงนี้ดูผอมๆ ไปนะครับ ไม่ได้ทานข้าวเหรอครับ หรืออาหารที่นี่ไม่ถูกปาก” ผมถามด้วยความเป็นห่วง แต่สิงห์กลับส่ายหน้าให้ผมเบาๆ

          “ผมทานไม่ลงครับ เห็นพี่ศรทรมานแล้วมันปวดใจ เวลาแกฉายรังสีกลับมาที่ห้องแกจะร้องโอดโอยอยู่ตลอด เวลาแกรับยาที่หมอฉีดให้ แกก็จะอาเจียนอยู่ตลอดเวลา ผมเห็นแล้วสงสารแกเหลือเกิน คนเคยแข็งแรงบึกบึนอย่างพี่ศรต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้...ฮึก” สิงห์เล่าให้ผมฟังพลางน้ำตาไหลพร้อมปล่อยเสียงสะอื้นออกมาอีกแล้ว ผมได้ฟังแล้วก็น้ำตาซึมออกมาเช่นกัน

          “เราทำอะไรไม่ได้มากนี่ครับ นอกจากให้กำลังใจพี่ศร นี่เป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุดแล้ว ยังไงสักวันแกก็จะหายดีครับ ผมเชื่ออย่างนั้น สิงห์ต้องเข้มแข็งให้พี่ศรเห็นรู้ไหม แกจะได้ไม่รู้สึกว่าเราสงสารแก ให้แกมีกำลังใจในการรักษาเยอะๆ แล้วผมจะหาโอกาสมาอยู่เป็นเพื่อนสิงห์ที่นี่บ่อยๆ นะครับ” ผมให้กำลังใจคนรักต่ออีกทอดหนึ่ง สงสารสองพี่น้องคู่นี้เหลือเกิน

          สิงห์ไม่ตอบ กลับเม้มปากก้มหน้ากลั้นน้ำตา แล้วพยักหน้าให้ผมอย่างหนักแน่น สิงห์แทบไม่ยอมตักข้าวเข้าปาก เห็นแล้วต้องบังคับให้ทานเข้าไปเยอะๆ เราสองคนทานข้าวกันจนอิ่มแล้วก็กลับขึ้นไปบนห้องพัก เราทั้งคู่ยืนข้างๆ เตียงมองดูพี่ศรที่หลับไปแล้วอยู่บนเตียงคนไข้ สิงห์บอกว่าวันนี้พี่ศรมีสีหน้าอิ่มเอิบขึ้น ทุกทีแกจะนิ่วหน้าอยู่ตลอด สงสัยวันนี้แกจะมีความสุขมากที่ได้เห็นหน้าหลาน

          ผมชวนสิงห์มานั่งคุยเล่นให้หายคิดถึง เราออกมารับลมหนาวอ่อนๆ ที่ระเบียง เพราะยังเป็นเวลาค่ำไม่มาก เราสองคนยังไม่ง่วงกันเท่าไร พยาบาลจัดที่นอนให้ผมเพิ่มติดกับโซฟาที่สิงห์ใช้นอนเป็นประจำในช่วงเวลาที่มาพักอยู่กับพี่ศรที่นี่

          “โตโต้เป็นยังไงบ้างครับ ไปหาพีทบ่อยไหม” สิงห์ถามผมด้วยน้ำเสียงเป็นปกติ แววตาดูใสซื่อเหมือนเดิม ไม่มีอาการน้อยใจใดๆ แอบแฝง ผมคิดว่าอย่างนั้นเพราะรู้จักคนรักดี สิงห์เป็นคนโกหกไม่เก่ง ผิดกับผมที่มีอะไรอยู่ในใจมากมาย แต่ไม่กล้าที่จะแสดงออกมาจนเคยชิน อาการเก็บเงียบไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ให้ใครได้รับรู้ของผมเป็นมาตั้งแต่พลัสยังหายไปเมื่อหลายปีก่อน

          “ไม่เลยครับ ผมไม่ได้เจอโตโต้อีกเลย ตั้งแต่วันที่มีงานแต่งงานพี่แชริมกับพี่แดนนี่ครั้งนั้น แต่ก็ยังโทรคุยกันอยู่บ้างนานๆ ทีเท่านั้นเอง” ผมตอบสิงห์ด้วยน้ำเสียงปกติเช่นกัน ไม่แสดงอาการน้อยอกน้อยใจเหมือนที่กำลังรู้สึกอยู่ออกไปให้คนรักได้เห็น

          “อ้าว...เป็นเพราะผมหรือเปล่า ทำให้โตโต้ไม่กล้ามาหาพีท” สิงห์ถามด้วยอาการร้อนรน เหมือนไม่สบายใจในสิ่งที่ผมได้บอกเล่าให้ฟัง คนรักทำสีหน้าเศร้าขึ้นมาจนผมรู้สึกสงสาร นี่สิงห์ใจดีกับผมขนาดนี้เชียวหรือ เป็นห่วงความรู้สึกแม้กระทั่งโตโต้ที่เหมือนจะเข้ามาแทรกในชีวิตรักของเรา ผมตื้นตันใจกับน้ำใจของสิงห์เหลือเกิน

          “เปล่าหรอกครับ ช่วงนี้โต้กำลังยุ่งกับเรื่องที่อาหนึ่งทำโปรเจคใหม่ ก็ที่จะไปเปิดโรงแรมบนที่ของสิงห์ไง งานยุ่งจนไม่ได้เจอกันมากกว่า เห็นบอกว่าต้องบินไปกลับกรุงเทพเชียงรายบ่อยๆ แถมยังต้องช่วยสอนงานเลขาให้ทองหล่อแทนพี่บาสอีก อาหนึ่งจะให้ทองหล่อมาเป็นเลขา แต่ไม่มีคนช่วยอธิบายงาน โตโต้มันก็เลยหัวหมุนเลยช่วงนี้” ผมเล่าให้ฟังทั้งหมด สิงห์ไม่พูดอะไร เพียงพยักหน้าเบาๆ เป็นจังหวะ ฟังอย่างเงียบๆ แสดงท่าทีเหมือนเข้าใจเท่านั้น


          “โตโต้คงเหนื่อยเนาะ ทำงานหนักตลอด ต้องเดินทางไปมาบ่อยๆ แถมยังไม่มีใครคอยอยู่เคียงข้างให้กำลังใจแบบนี้ ผมว่าถ้ามีเวลาว่างพีทก็เข้าไปหาโตโต้ที่ทำงานเองสิครับ เอาขนมอร่อยๆ ไปฝาก เอาอาหารที่โตโต้ชอบไปเยี่ยมบ้างเผื่อโตโต้จะดีใจ มีกำลังใจทำงานมากขึ้น เวลาอยู่ตัวคนเดียวนี่มันเหงามากเลยนะ ผมเข้าใจดี” สิงห์แนะนำให้ผมไปหาโตโต้เอง จนผมไม่อยากจะเชื่อหูว่านี่สิงห์คิดอย่างไรกันแน่


          “ถามจริงๆ สิงห์ไม่โกรธหรือหึงเลยเหรอ ถ้าผมทำแบบนั้น” ผมถามคนรักด้วยน้ำเสียงจริงจังออกมาจากใจ อยากรู้จริงๆ ว่าสิงห์กำลังคิดอย่างไร

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
ปลื้มมมมมมมมมมมมมมมมมมม
กลับมาแล้ววววววว

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
สิงห์ดูทำใจได้นะ
โตโต้ ก็นะ ไม่คิดจะยอมโทรหาก่อนนเลยยย  :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด