บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ ตอนพิเศษ (1) “เราสองสามคน”
เป็นร้อยเป็นพัน กี่นาที ที่ฉันต้องฝันต้องคอยแบบนี้ นับเป็นปี อีกกี่วันไม่รู้ วันไหนจะได้เจอ ฝันก็จบลงเมื่อตอน ที่เธอเดินเข้ามาข้างในหัวใจ บอกไม่ถูกเลยว่ารู้สึก ดีใจสักเท่าไร มากแค่ไหนก็ไม่รู้ คนคนเดียวที่ฉันเฝ้ารอ กลับมาเห็นเขาอยู่ข้างข้างฉัน ใช่เธอจริงๆ อยากร้องตะโกน บอกกับเธอที่รัก ว่ารักเธอจนหมดใจ ไม่รู้ทำไม เก็บอาการไม่ไหว เพราะรักจริงๆ เลย
บ่ายวันนี้เราลงเรือไปสนามบินมาเล่ย์ ประเทศมัลดีฟส์ เตรียมขึ้นเครื่องบินกลับเมืองไทย สิงห์กับโตโต้ยังคงเขม่นกันอยู่ในที แต่พอโดนผมโบกศีรษะแรงๆ ไปคนทีถึงจะสงบอาการลงได้ ทั้งคู่เลือกที่นั่งประกบผมมาตลอดทาง จนกระทั่งอยู่บนเครื่องบิน ต่างคนต่างไม่ยอมปล่อยให้ผมคลาดสายตา
ช่วงเวลานี้ผมรู้สึกอึดอัดจนเกือบจะถึงขั้นรำคาญ ที่ผมโดนเจ้าสองคนนี้จับจ้องอยู่ตลอดเวลา แต่ผมกลับมีความสุขอย่างประหลาด พวกเราทั้งหมดเดินทางมาถึงเมืองไทยในเวลาค่ำ ต่างคนต่างเหนื่อยอ่อนจากการเดินทางจนอยากจะกลับให้ถึงบ้านโดยเร็วที่สุด อาหนึ่งพาทองหล่อขึ้นรถที่บ้านซึ่งมารอรับอยู่แล้ว ส่วนพี่บาสร่ำลาเราทุกคนพลางกอดโตโต้เอาไว้แน่น ทั้งคู่ต่างยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตร ไอ้โต้เดินตามไปส่งพี่บาสขึ้นแท็กซี่ไปแล้ว แล้วรีบวิ่งกลับมาหาพวกผมที่รออยู่ทันที
“มึงไม่ขึ้นแท็กซี่กลับบ้านไปวะ หรือรอให้รถที่บ้านกูมารับพวกกูก่อน” ผมถามไอ้โต้มัน ส่วนสิงห์ไม่พูดอะไร ยืนอยู่ข้างๆ ผมด้วยสีหน้าเหนื่อยอ่อนเหมือนคนจะหลับใน สงสัยจะเพลียจากการวิ่งไล่จับกับไอ้โต้ไปรอบเกาะเมื่อกลางวัน
“พีท...ขอกูไปนอนบ้านมึงด้วยคนนะ” ไอ้โต้เข้ามากระซิบข้างหูผม ไม่มีใครสนใจเราทั้งคู่ พลัสกับน้องหยกต่างยืนพิงใหล่กันอยู่ริมถนนหน้าสนามบิน รอรถที่บ้านมารับพวกเรา ส่วนสิงห์ก็นั่งลงบนกระเป๋าเดินทางทำท่าเหมือนจะหลับลงให้ได้เดี๋ยวนี้
“เออ...ทำไมจะไม่ได้ล่ะวะ ถ้างั้นกูว่าเราแบ่งกันไปนั่งแท็กซี่กลับบ้านอีกคันแล้วกัน จะได้ไม่เบียดคนอื่น” ผมบอกโตโต้จบรถของที่บ้านก็มารับพวกเราพอดี ผมรีบยกกระเป๋าเดินทางไปเก็บเอาไว้หลังรถ พลางสั่งให้สิงห์นั่งรถที่บ้านกลับพร้อมพวกพลัสกับน้องหยก โดยให้สิงห์นั่งข้างหน้าข้างคนขับ ตอนแรกทำท่าฮึดฮัดเหมือนจะไม่ยอม พอผมทำตาดุใส่เท่านั้น สุดท้ายก็ต้องยอมผมแต่โดยดี ช่างอยู่ในโอวาทดีแท้ๆ อย่างนี้ค่อยดูน่ารักขึ้นมาอีกหน่อย
เมื่อส่งสามคนนั้นขึ้นรถที่บ้านเรียบร้อย ผมกับโตโต้ก็นั่งรถแท็กซี่ตามรถที่บ้านตามมาติดๆ กัน พวกเรามาถึงบ้านก็ต่างเดินกลับขึ้นห้องพักตัวเองกันทันที เพียงทักทายป้าแก้วนิดหน่อย เพราะวันนี้หมดแรงจากการเดินทางกันทุกคน ส่วนคุณพ่อคุณแม่เดินทางไปธุระที่ต่างประเทศเหมือนเคยอีกแล้ว
ผมเดินนำสิงห์กับโตโต้เข้าไปในห้องนอนได้ไม่นาน คนรับใช้ก็นำกระเป๋ามาส่งที่ห้องนอน พวกเราต่างไม่มีใครอยากรื้อกระเป๋าออกมาในตอนนี้ ผมกับสิงห์เข้าไปอาบน้ำอุ่นพร้อมกันสองคนในอ่างขนาดใหญ่ ไม่นานโตโต้ก็เดินตามเข้ามาอีกคน
“เฮ้ย...โตโต้ เข้ามาทำไม” สิงห์ที่นั่งเล่นน้ำกับผมอยู่ในห้องน้ำ ตกใจร้องโวยวายลุกพรวดพราดขึ้นมาจนน้ำในอ่างกระจายใส่หน้าผม เมื่อเห็นโตโต้เดินเปลือยกายเข้ามาข้างในห้องน้ำหน้าตาเฉย แต่สำหรับผมนั้นรู้สึกเคยชินตั้งนานแล้ว กับการที่เพื่อนรักโผล่เข้ามาในห้องน้ำตอนที่ผมอยู่ข้างในอย่างนี้
“เอิ่ม...สิงห์แล้วนายจะลุกให้ไอ้โต้มันดูนายแก้ผ้าทำไมล่ะ” ผมถามจบเท่านั้น สิงห์ก็ก้มลงมองน้องชายของตัวเอง แล้วรีบเอามือกุมส่วนกลางลำตัว พร้อมทิ้งตัวนั่งลงในอ่างน้ำอย่างรวดเร็ว จนน้ำในอ่างกระฉอกออกไปเกือบครึ่งทำให้พื้นห้องน้ำเปียกไปหมด
“หึหึ ไอ้พี่สิงห์ นายนี่มันทำตัวตลกดีจริงๆ ว่ะ” โตโต้หัวเราะขำกับท่าทางของสิงห์ ยังคงยืนอาบน้ำกับฝักบัวโดยไม่สนใจกับร่างกายที่เปลือยเปล่าของตัวเองอย่างเร่งรีบ สิงห์ยังคงหันหลังให้โตโต้อยู่ในอ่างน้ำอุ่นกับผมสองคน ไม่นานโตโต้ก็ปิดน้ำจากฝักบัวหันไปหยิบผ้าขนหนูในตู้ใต้อ่างล้างหน้าออกมามาเช็ดตัว แล้วเดินออกไปจากห้องน้ำไปอย่างหน้าตาเฉย
“ไอ้โต้ไปแล้ว หันหลังกลับมาแล้วรีบอาบน้ำได้แล้วล่ะ” ผมบอกพลางจับตัวสิงห์หันกลับมา แล้วรีบเปิดน้ำสะอาดล้างตัวให้เราทั้งคู่ ผมลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนใหม่มาส่งให้สิงห์หนึ่งผืน แล้วเช็ดตัวเองอีกหนึ่งผืน เราทั้งคู่พันผ้าขนหนูออกไปจากห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดนอนที่ห้องแต่งตัวข้างห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว สังเกตเห็นสิงห์ยังคงหน้าแดงด้วยความเขินโตโต้อยู่
“พีท...นายนอนตรงกลางนะ” สิงห์บอกผมเบาๆ ที่เห็นโตโต้นอนอยู่ริมซ้ายบนเตียงขนาดใหญ่ของผม ท่าทางของสิงห์ดูจะเขินโตโต้เอามาก ไม่เห็นเหมือนท่าทีเอาจริงเอาจังที่จะจับตัวโตโต้มาให้ผมจัดการเอามาเป็นเมียแบบเมื่อตอนกลางวันที่เกาะมัลดีฟส์เลยสักนิด
ผมได้แต่ขำในใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงก้าวขึ้นเตียงไปนอนตรงกลางข้างตัวโตโต้ ผมนอนตรงกลางเตียงพอดีไม่เบียดกันเพราะเตียงนอนมีขนาดใหญ่พิเศษ สิงห์ก็ตามมาขึ้นนอนลงอีกข้างของเตียงด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ ส่วนโตโต้ที่ท่าทางเหมือนจะหลับ พอรู้สึกได้ว่าสิงห์ล้มตัวลงนอนบนเตียงเรียบร้อยแล้ว ก็เอื้อมมือไปกดสวิทย์ดับไฟในห้องนอนที่อยู่ตรงหัวเตียง ทำอย่างคุ้นเคยกับการมานอนค้างในห้องนอนผมเป็นอย่างดีโดยไม่ลืมตาขึ้นมามองหาสวิทย์ไฟด้วยซ้ำ เพราะมานอนที่ห้องนี้บ่อยจนเหมือนเป็นห้องนอนของตัวเองไปแล้ว