บาปรัก...บาปบริสุทธิ์♥นิยายรักหื่นเซ็กเศร้าเอาฮา ตอนพิเศษ (9) หน้า 89 (24-02-14)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์♥นิยายรักหื่นเซ็กเศร้าเอาฮา ตอนพิเศษ (9) หน้า 89 (24-02-14)  (อ่าน 1000937 ครั้ง)

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
ไม่เป็นไรจ้า....รอได้ แต่อย่าให้รอนาน..555

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7

ออฟไลน์ romsai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1

ploylw_chery

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12

totoken

  • บุคคลทั่วไป
 :L1: :pig4: :L1: :pig4: :L1: :pig4: :L1:

ขอบคุณทุกกำลังใจเลยครับ ตอนนี้เขียนโครงเรื่องจนจบแล้วล่ะครับ

รับรองว่าสนุกแน่นอน เอาหัวเป็นประกัน แถมตอนพิเศษอีกก็ 100 ตอนพอดี

ดำเนินเรื่องมา 3 ใน 4 แล้วครับ งานใกล้จะลงตัวแล้วล่ะครับ

วันมะรืนนี้ได้อ่านตอนใหม่ติดต่อกันแน่นอน แต่ไม่บอกนะครับว่าจะลงกี่ตอน อิอิ

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4
เข้ามารอและเป็นกำลังใจให้คุณหมอค่่ะ

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป
พี่หมอสู้ๆ นั่งรอจนเหงือกแห้งก็ยอมค่ะ

totoken

  • บุคคลทั่วไป
วันนี้จะปั่นนิยายให้ยันเช้าเลยครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ค่อยๆแต่งก็ได้จร้า
เด๋วไม่สบายล่ะแย่เลย

ออฟไลน์ away3g

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-1
 :-[รอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอรอ

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 77 “ณัฐวนิช”
ยิ่งฉันใกล้เธอเท่าไหร่ ยิ่งอยากจะเผยใจ เมื่อสบสายตาก็ยิ่งหวั่นไหว มันยากเหลือเกิน จะเก็บซ่อนความรักเอาไว้ และความลับในใจของเธอ มีฉันอยู่บ้างไหม ความลับที่ฉันซ่อนไว้ ไม่เคยบอกใคร จะอดใจไม่ไห

         โตโต้ขับรถพาผมกับพี่บาสออกมาจากคอนโดแต่เช้า ผมพยายามมองสองข้างทางเพื่อดูเส้นทาง แต่ก็ยังจำทางไม่ได้อยู่ดี ไม่มีอะไรอยู่ในความทรงจำของผมเลย ไม่นานเราก็มาถึงระแวกหมู่บ้านคนรวย ดูจากรั้วบ้านแต่ละหลัง เรียกได้ว่าเป็นพระราชวังเล็กๆ เล็กก็ว่าได้

         “ถึงแล้วพลัส นี่ล่ะบ้านของนาย” ผมหันไปมองตามโตโต้ เห็นรั้วกำแพงบ้านสีขาวที่สูงท่วมหัวยาวหลายร้อยเมตร ทำให้รู้สึกได้ว่ากินบริเวณจนมีขนาดพื้นที่หลายไร่ มาถึงประทูทางเข้าบ้านทำด้วยเหล็กดัดขนาดใหญ่สีขาว ด้านข้างมีป้อมยาม กล้องวงจรปิด ยามที่อยู่ในป้อมรีบวิ่งออกมาทำความเคารพ แล้วกลับเข้าไปในป้อม

         ประตูรั้วเปิดออกอัตโนมัติเหมือนใช้ไฟฟ้า เพราะผมไม่เห็นคนเปิดประตูอยู่ด้านใน โตโต้ขับรถเข้ามาในบ้าน ผมมองสองข้างทางที่ประดับด้วยไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม เหมือนมีคนดูแลอย่างดี ทางเข้ากินระยะทางหลายร้อยเมตร ผ่านสนามหญ้าขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำ สนามบาส สนามเทนนิส ผมรู้สึกเหมือนที่นี่เป็นโรงเรียน มีคนอาศัยอยู่เป็นร้อย ด้วยพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกทำให้ต้องคิดแบบนั้น

         “นี่มันดูใหญ่กว่าในรูปที่พี่พีทให้ผมดูอีกนะครับ” ผมบอกออกไปด้วยความตื่นเต้น โตโต้หันมายิ้มให้ผมก่อนจะจอดรถที่หน้าประตูบ้านขนาดใหญ่ แม่บ้านสามคนใส่ชุดเป็นเครื่องแบบเหมือนกันยืนรอรับอยู่ตรงทางเข้า บ้านผมใหญ่จนต้องเรียกว่าคฤหาสน์ ทั้งผนัง และเสาประดับด้วยหินอ่อนทั้งหลัง

         “สวัสดีค่ะคุณพีท” แม่บ้านสามคนยกมือไหว้ผมพร้อมกัน และหันไปไหว้แขกทั้งสองที่มาพร้อมกับผมด้วย ผมรับไหว้ด้วยความลนลาน จากนั้นก็เดินไปหยิบกระเป๋าที่ท้ายรถโตโต้ลงมา

         “นายไม่ต้องหิ้วกระเป๋า แม่บ้านจะเป็นคนเอาไปไว้ในห้องนายเอง” โตโต้เดินมากระซิบด้านหลังผม ทำให้ต้องรีบปล่อยมือ เผลอลืมตัวตนได้ ทั้งที่โดนสั่งมาหลายครั้งว่าอยู่ที่นี่ต้องทำตัวเป็นคุณชาย คอยใช้ และสั่งให้คนอื่นทำงานแทนให้ติดปาก

         “นายเดินเข้าไปตามทางที่พีทมันเขียนบอกได้ จำได้ไหม มันวาดแผนที่บ้านให้นายดูจนละเอียดขนาดนั้น นายต้องพาผมกับพี่บาสที่เป็นแขกเข้าไปในบ้าน แลวก็นึกชื่อคนในบ้านให้ออกนะ พีทมันติวให้นายตั้งหลายรอบ อย่าหลุดเชียวนะ” โตโต้กำชับผมก่อนที่เราจะเดินเข้าไปด้านใน ผมรีบพยักหน้าตอบ แม้ในใจจะรู้สึกตื่นเต้นมากก็ตาม

         “โอ้โห...นี่มันวังชัดๆ ดูโคมไฟสิยังกะทำด้วยเพชรแน่ะ สวยชะมัด ใหญ่ขนาดนั้นไม่กลัวร่วงลงมาเหรอ” ผมอุทานด้วยความตกใจ เมื่อเข้ามาในโถงก็รู้สึกแสบตาจนต้องเงยหน้าขึ้นมองด้านบน โคมไฟระบ้าส่งประกายระยิบระยับแวววาวจนต้องมองตาค้าง จนเผลอเดินไปชนโต๊ะหินอ่อนกลางห้องโถงที่วางแจกันใส่ดอกไม้ขนาดใหญ่จนเกือบตกลงมา

         “เฮ้ย...พลัส นายตั้งสติหน่อยสิวะ เดี๋ยวก็โดนจับได้พอดี นายยังมีเวลาสำรวจบ้านตัวเองอักตั้งนาน ตอนนี้ทำตัวให้เป็นปกติก่อนได้ไหม” โตโต้รีบเอ็ดผมเข้าให้ สองคนนั้นวิ่งเข้าไปประคองแจกันยักที่เกือบจะหล่นลงมาแตกด้วยความสะเพร่าของผม พี่บาสทำหน้าตาตื่นตกใจ แต่โตโต้กลับมองผมด้วยสายตาดุจนรู้สึกผิด

         “ขอโทษ...ก็มันตื่นเต้นนี่” ผมแก้ตัวด้วยความประหม่า รีบเดินเข้าไปตามทางจนถึงห้องรับแขก พยายามห้ามสายตาไม่ให้มองสิ่งรอบข้าง ท่าทางพ่อกับแม่ผมจะรวยเอามากๆ ของประดับในบ้านดูมีราคามากมายจนแทบประเมินราคาไม่ได้

         “คุณพีท...กลับมาเมื่อไรค่ะ เมื่อกี้ยามหน้าบ้านกดอินเตอร์คอมมาบอกป้าตกใจแทบแย่ สวัสดีค่ะๆ  ตามสบายนะคะ” ผู้หญิงวัยกลางคนใส่ชุดผ้าฝ้ายดูดีกว่าแม่บ้านสามคนที่มาช่วยยกกระเป๋าวิ่งเข้ามาหาผม พร้อมรับไหว้โตโต้กับพี่บาสไปด้วย

         “ผมกลับมาได้สักพักแล้วครับป้าแก้ว นี่ไปเที่ยวหัวหินมากับเพื่อนๆ ก่อนกลับมาบ้านครับ โตโต้กับพี่บาสจะมาพักที่นี่สักอาทิตย์นะครับป้า” ผมพูดตามบทที่พี่พีทสอน ก่อนหน้านี้พี่พีทเปิดรูปคนในบ้านให้ผมท่องจำชื่อได้จนขึ้นใจ ป้าแก้วเป็นแม่บ้านคนเก่าแก่ของที่นี่ อยู่กับครอบครัวเรามาตั้งแต่สาวๆ สมัยคุณปู่ยังมีชีวิตอยู่ก่อนผมกับพี่พีทจะเกิดเสียอีก

         “เดี๋ยวสิ...ทำไมพี่ต้องพักที่นี่ด้วยเหรอ” พี่บาสมากระซิบถามผม โตโต้จึงรีบเข้ามาแทรกทันที

         “อยู่ช่วยพลัสที่นี่ก่อนสิครับพี่บาส นอนกับผมที่นี่จนกว่าพีทตัวจริงจะกลับมา แค่อาทิตย์เดียวเอง” โตโต้กระซิบบอกพี่บาสที่ทำหน้างงอยู่อย่างนั้น ผมได้รับข้อความจากโตโต้ทางโทรศัพท์มือถือเมื่อเช้า ให้บอกป้าแก้วแบบนี้ เพราะโตโต้อยากมีเวลาอยู่กับพี่บาสมากขึ้นนั่นเอง เรื่องแค่นี้ทำไมผมจะช่วยไม่ได้

         “แล้วไม่โทรมาบอกป้าก่อนละคะ จะได้เตรียมทำความสะอาดห้องหับไว้รับ นี่พาแขกมาด้วย ป้าเลยเตรียมตัวไม่ทัน” ป้าแก้วทำท่าเหมือนจะโวยใส่ผมเล็กน้อย พี่พีทบอกว่าป้าแก้วเหมือนญาติผู้ใหญ่ในบ้าน ให้แสดงความเคารพเอาไว้เสมอ คุณพ่อคุณแม่ไว้ใจป้าแก้วมาก

         “ขอโทษครับ พีทแค่อยากจะมาทำให้ป้าประหลาดใจเท่านั้นเอง” ผมเผลอเข้าไปกอดป้าแก้ว เพราะรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดตั้งแต่เมื่อได้เจอ ป้าแก้วผงะไปเล็กน้อยที่โดนผมกอด แต่ก็รีบเอามือมาลูบศีรษะผมเบาๆ แล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

         “ไม่เป็นไรค่ะ ป้าแค่ตกใจเท่านั้นเอง เดี๋ยวป้าจะให้เด็กไปจัดห้องให้ก่อนนะคะ” ป้าแก้วมองผมด้วยแววตาเอ็นดูแวบหนึ่ง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องรับแขก ผมหันไปมองรอบห้องที่กวางขวาง ทุกอย่างประดับด้วยสีขาวกับสีทอง วัสดุที่ใช้ดูมีราคาแพงพอสมควร เหมือนกับกำลังใช้ชีวิตอยู่ในวังยังไงอย่างนั้น

         “นี่พวกนายเตรียมมากันแล้วใช่ไหม พี่ไม่ยอมหรอก จะกลับบ้าน” พี่บาสโวยวายออกมาทันทีที่ป้าแก้วเดินออกไป โตโต้จึงหันมาสบตากับผมเหมือนขอความช่วยเหลือ

         “พี่บาสครับ อยู่ช่วยผมหน่อยสิครับ เกิดมีอะไรฉุกเฉินขึ้นมา มีพี่อยู่ที่นี่ช่วยผมอีกแรงจะได้เบาใจขึ้นมาหน่อย ไหนๆ อาหนึ่งก็ขอใหพี่มาอยู่ช่วยผมแล้วนี่ครับ นะครับ ถือว่าผมขอร้องแล้วกัน” ผมอ้อนวอนพี่บาสทำให้เจ้าตัวเริ่มมีท่าทีอ่อนลง

         “พวกนายวางแผนกันมาก่อนไม่ยอมบอกพี่เองนี่นา อืม...อยู่ด้วยก็ได้” พี่บาสมีท่าทีลังเลในตอนแรก แต่พอสบตาผมเข้าก็ทำให้ใจอ่อนลง หันไปทำหน้าไม่พอใจใส่โตโต้ที่มีท่าทีดีใจจนออกนอกหน้าแทน

         “หนุ่มๆ ทานอะไรกันมาหรือยังคะ หิวหรือเปล่า” ป้าแก้วกลับเข้ามาพร้อมคนรับใช้ที่ใส่เครื่องแบบแม่บ้านอีกคนถือถาดใส่เครื่องดื่มทั้งน้ำเปล่า น้ำส้มมาเสิร์ฟให้เราสามคนที่นั่งอยู่ที่ชุดรับแขก หน้าตาไม่เหมือนสามคนแรกที่มายกกระเป๋าพวกผมเข้าบ้านไป ผมเริ่มสงสัยว่าที่นี่จะมีคนรับใช้มากมายกี่คนกันแน่

         “ยังไม่หิวหรอกครับป้า ป้าแก้วครับ วันนี้พีทขอเป็นคนทำอาหารเองนะครับ กะว่าจะไปซื้อของเตรียมทำอาหารต้อนรับคุณแม่พรุ่งนี้ด้วย” ผมนึกขึ้นได้ว่าฝีมือทำอาหารของตัวเองค่อนข้างจะดี จึงอยากทำอาหารเอาใจคุณแม่เสียหน่อย

         “เอ่อ...คุณพีททำอาหารเป็นด้วยเหรอคะ” ป้าแก้วทำหน้าสงสัยมองผมตาค้าง

         “อ๋อ...พีทไปเรียนมาจากเพื่อนคนไทยที่อเมริกาน่ะครับ เราทำอาหารทานกันเองตอนอยู่ที่นั่น ทำไมป้าต้องตกใจขนาดนั้นล่ะครับ” ผมแก้ตัวออกไปทันที

         “ก็ตั้งแต่ป้าเลี้ยงคุณพีทมา ยังไม่เคยเห็นคุณพีทสนใจจะเข้าครัวเลยสักครั้ง กลับมาคราวนี้นอกจากจะอ้อนป้าผิดปกติ ยังจะอยากทำครัวอีก เอ้...ป้าว่าแววตากับรูปร่างคุณพีทก็แปลกๆ ไปนะคะ ดูไม่เหมือนคุณพีทของป้าเลย” ป้าแก้วพูดจบผมก็รู้สึกใจหายวาบ

         “เอ่อ...พีทมันเล่นฟิตเนสที่อเมริกาน่ะครับ มันเลยดูตัวใหญ่ขึ้นใช่ไหมครับป้าแก้ว” โตโต้รีบช่วยผมแก้ตัว

         “ตัวใหญ่ป้าว่าคล้ำขึ้นเยอะด้วยนะคะ” ป้าแก้วมองผมเหมือนพิจารณา

         “ใช่ครับ ก่อนกลับมานี่พวกผมพากันไปเที่ยวหัวหินไงครับ แดดที่นั่นแรงจะตายไปครับ พีทไปนอนอาบแดดริมหาดทุกวันก็เลยคล้ำขนาดนี้ไงครับป้าแก้ว” พี่บาสก็รีบเสริมช่วยผมอีกแรง

         “ค่ะ ป้าว่าดูหล่อไปอีกแบบนะคะ มาดแมนขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลย อย่างนี้คงมีสาวๆ ติดกันเกรียวกราวอีกเยอะ” ป้าแก้วชมออกมาแบบนี้ ทำให้ผมต้องลอบยิ้มออกมา อยากให้พี่พีทมาได้ยินป้าแก้วพูดจัง รู้สึกว่าผมจะหล่อกว่าพี่พีทในสายตาคนอื่น ทำให้ภูมิใจในตัวเองขึ้นมาจริงๆ

         “ผมหล่อขึ้นจริงเหรอครับป้าแก้ว ป้าน่ารักจังเลย” ผมเข้าไปกอดเอวป้าแก้วเหมือนคุ้นเคยมานาน แม้จะเพิ่งเคยได้เจอกัน ปกติผมก็อ้อนคุณยายแบบนี้บ่อยๆ จึงไม่รู้สึกแปลกอะไรกับการเข้าไปกอดผู้ใหญ่ มีแต่ป้าแก้วดูจะไม่ชินกับอาการขี้อ้อนของผม

         “คุณพีทมาอ้อนป้าแบบนี้ ทำให้...เอ่อ” ป้าแก้วลูบหลังผมช้าๆ แล้วบอกออกมา ผมจึงเงยหน้ามองด้วยความสงสัย

         “อะไรเหรอครับ” ผมถามออกไปทั้งที่ยังกอดป้าแก้วอยู่อย่างนั้น ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมกล้าทำแบบนี้กับป้าแก้ว ความรู้สึกอบอุ่นในใจที่ได้กอดป้าแก้ว คล้ายกับความรู้สึกที่ได้กอดคุณยายสมัยท่านยังมีชีวิตอยู่

         “เปล่าค่ะ...ป้าแค่ไม่ชิน คุณพีทเป็นคนขี้อ้อนคนแก่แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ เมื่อก่อนไม่เห็นจะพูดเยอะแล้วก็อ้อนป้าแบบนี้เลย” ป้าแก้วเหมือนจะมีน้ำตาคลออยู่ตรงหางตา แต่รีบใช้ปลายนิ้วเขี่ยออกเหมือนกลัวว่าหยดน้ำตาจะไหลออกมา

         “ก็ผมไปอยู่ที่อื่นมาตั้งนานนี่ครับ ผมก็ต้องคิดถึงป้ามากเป็นธรรมดา” ผมพูดแบบนั้นทำให้ป้าแก้วยิ้มกว้างให้ผมทันที เราสองคนยิ้มให้กันเหมือนกับคนคิดถึงกันมานาน แล้วเพิ่งจะกลับมาเจอกันในตอนนี้

         “คุณพีทน่ารักจริงๆ เป็นอย่างนี้กับคุณผู้หญิงคุณผู้ชายบ้างก็ดีนะคะ ป้าไม่ค่อยจะเห็นคุยกันเท่าไรเลย ป้าดีใจนะคะที่คุณพีทอยากอวดฝีมือทำอาหารให้คุณผู้หญิงทาน ปกติไม่เคยทานข้าวพร้อมหน้ากันมานานหลายปีแล้วสินะคะ” ป้าแก้วพูดออกมาให้รู้สึกว่าครอบครัวผมดูห่างเหินกันขนาดนั้นจริงหรือ

         “ถ้าไม่ทานข้าวพร้อมกัน แล้วปกติคุณพ่อคุณแม่ทานข้าวที่ไหนล่ะครับ” ผมถามออกไปอย่างซื่อๆ

         “อ้าว...ก็ปกติเห็นพวกคุณต่างคนต่างทานข้าวกันมาจากข้างนอกแทบทุกวัน วันไหนมีงานมีแขกถึงจะได้ทานพร้อมหน้ากันเท่านั้น แล้วหลังๆ มานี้ก็ไปจัดเลี้ยงกันตามห้องอาหารบ้าง ในโรงแรมบ้าง ที่บ้านไม่ได้ตั้งสำรับมานานหลายปีแล้วนะคะ มีแต่มื้อเช้าเท่านั้นที่ลงมาทานพร้อมกันบ้างเป็นบางวัน ทำไมคุณพีทถามเหมือนไม่รู้อย่างนั้นล่ะคะ” ป้าแก้วพูดพร้อมมองหน้าผมเหมือนกับว่ากำลังสงสัยอะไรบางอย่าง

         “ป้าทราบไหมครับว่าคุณพ่อคุณแม่ชอบทานอะไรกันบ้าง ผมไม่ค่อยได้ทานข้าวพร้อมกันก็เลยจำไม่ได้แล้วล่ะครับ” ผมถามตามน้ำไปอย่างนั้น ลืมถามพี่พีทตั้งแต่แรก เพราะมัวแต่ตื่นเต้นเรื่องจะกลับเข้ามาในบ้าน ป้าแก้วมองผมอย่างชั่งใจสักพักจึงเดินไปนั่งอีกฟากของโซฟาตัวใหญ่

         “สมัยก่อนคุณผู้หญิงชอบทานพวกยำรสจัดกับสลัดค่ะ มื้อเย็นจะไม่รับข้าวเกินหนึ่งทัพพี ส่วนอาหารที่โปรดจะต้องมีส่วนประกอบของผลไม้ ยิ่งถ้าเป็นผลไม้เปรี้ยวๆ ที่นำมาปรุงอาหารจะชอบทานมากเป็นพิเศษ ส่วนคุณผู้ชายจะชอบทานอาหารไม่เผ็ด ของชอบก็จะเป็นอาหารทอดแทบทุกอย่าง แกงจืดต่างๆ ไม่ชอบทานผักเท่านั้นล่ะคะ” ป้าแก้วจ้องหน้าผมพร้อมเล่าให้ฟังอย่างละเอียด

         “ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้คุณแม่จะกลับมาช่วงบ่าย ป้าแก้วให้คนขับรถที่ชื่อลุงสิงห์ไปรับแล้วตรงมาที่บ้านเลยนะครับ ผมจะเข้าครัวทำอาหารเย็นเอง” ผมพูดออกมาอย่างร่าเริง คิดว่าคงหาเมนูโปรดให้คุณแม่ไม่ยากแล้ว

         “คุณพีทค่ะ ป้าว่าคุณพีทดูแปลกๆ นะคะ คุณพีทเรียกชื่อป้าทุกคำ เมื่อก่อนเรียกแต่ป้าๆ คำเดียวไม่เคยเรียกป้าว่าป้าแก้วเลย ใช้ภาษาแปลกๆ อย่างให้คนขับรถที่ชื่อลุงสิงห์ แถมยังเรียกชื่อลุงสิงห์อีก เมื่อก่อนก็เรียกแต่คำว่าลุง ไม่เคยเรียกพร้อมชื่อเลยสักครั้ง” ป้าแก้วพูดจบก็สบตาผมนิ่งอย่างนั้น ทำเอาหัวใจกระตุกวูบทีเดียว

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
พลัสหลุดเยอะจังเลยจะโดนจับได้ไหมนะ

ออฟไลน์ lidelia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1

ออฟไลน์ leeteuk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
โดน จับได้แน่ๆๆเลยอ่ะ นี่แค่เข้ามายังไม่ถึงวันเลยนะนี่  เสดแน่ๆๆนาย พลัสเอ๋ย

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
พี่พลัสจะโชว์เสน่ปลายจวักให้พ่อกับแม่ทานด้วย น่ารักจริงๆเนอะ
 :man1:

ออฟไลน์ NOO~KUNG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 718
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-3
มาเป็นกำลังใจให้  + 1 ให้ก่อนไปนิทรา... :กอด1:

คาดว่าความคงแตกเร็วๆ นี้.....ก็พี่พลัสออกจะขี้อ้อน แสนซื่อ
อีกอย่างคือรู้จักตัวตนของคู่แฝดน้อยมาก อาจจะเป็นด้วยเวลาไม่อำนวย
แถมพี่แกก็ชอบทำอาหารส่ะขนาดนี้....555  ไม่อยากจะคิดเลย

ปล.รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2012 02:02:29 โดย NOO~KUNG »

ออฟไลน์ DooDee_In

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ romsai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1

dog

  • บุคคลทั่วไป
โห พลัสจ๋า
นายหลุดมาเป็นชุดเลยเนี่ย
แบบนี้ไม่เกิน 2 วันเค้าจับได้กันหมดแน่ๆว่าไม่ใช่พีท
โอ๊ย อยากอ่านต่อลุ้นอยากให้พลัสเจอพ่อกะแม่ไวๆ
หุหุ

ออฟไลน์ maxtorpis

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-4
โทษฐานที่เลื่อนบ่อย มาต่อเพิ่มอีกสองสามตอนเลยนะคับ อิอิ

SuMoDevil

  • บุคคลทั่วไป
5555 เข้าบ้านยังไม่ถึงชั่วโมงเลยพลัสเอ๊ยยยย :laugh:

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 78 “ณัฐวนิช”
กลับมายืนที่เดิม ที่ที่เคยคุ้นตา ที่ที่ใจนั้นคอยเรียกหา เฝ้าคิดถึงวันที่ผ่านไป ที่ที่เคยพบเธอ ที่ที่ยังฝังใจ กลับมาตามหาความสดใส ที่ยังเหลือพอให้จดจำ

         “พีทมันไปเรียนที่อเมริกามาตั้งหลายปีนะครับ ภาษามันเลยฟังแปลกๆ ไป ป้าอย่าไปสนใจมากเลยครับ พวกผมขอตัวไปรื้อกระเป๋าข้างบนก่อนนะครับ” โตโต้พูดออกมาเสียงดังหลังจากที่ป้าแก้วพูดจบ ผมได้แต่นิ่งเงียบด้วยความตกใจ ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง พี่บาสเลยลุกเดินมาดึงแขนผมให้ตามโตโต้ออกมาจากห้องรับแขก ป้าแก้วยังมองตามผมมาเหมือนสงสัยอะไรบางอย่าง

         “พลัส...นายพูดออกมาแปลกๆ แบบนั้นป้าแก้วก็จับได้พอดี ต่อไปต้องระวังมากกว่านี้รู้ไหม นี่ยังไม่ทันพ้นวันแรกเลย นายก็เกือบโดนจับได้แล้ว” โตโต้บ่นใส่ผมระหว่างที่พาผมเดินขึ้นบันไดหินอ่อนมาที่ชั้นสอง เราเดินมาตามทางลึกเข้าไปอีกด้านที่มีผนังหินอ่อนประดับด้วยภาพถ่ายต่างๆ กรอบทองสวยงาม จนมาถึงห้องหนึ่งทำให้ผมสะดุดยืนนิ่งอยู่หน้าห้องนั้น

         “อะไรอีกล่ะ เดินตามาเร็วๆ สิ” โตโต้เห้นผมหยุดยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นก็เดินย้อนกลับมาตามผม

         “พีท แอนด์ พลัส” ผมอ่านป้ายไม้รูปวงรีสีสันสดใสลายการ์ตูนน่ารักติดอยู่ตรงประตูหน้าห้อง

         “เอ่อ...พลัส นายอยากเข้าไปดูเหรอ” พี่บาสถามผมออกมา จึงพยักหน้าตอบโดยไม่หันไม่มอง สายตาผมยังจ้องค้างอยู่ตรงป้ายไม้หน้าประตูห้องนี้

         “ลองเปิดเข้าไปดูสิ” พี่บาสเอ่ยปากบอกผม แต่มือผมกลับยกไม่ขึ้น ในใจอยากเข้าไปดูห้องนั้นมาก แต่ร่างกายกลับเป็นอัมพาตชั่วคราว ทั้งมือทั้งขารู้สึกหนักอึ้งเหมือนขยับไม่ได้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น จนโตโต้ต้องเดินแทรกเข้ามาจับลูกบิดประตูเปิดออก หัวใจผมเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นเหมือนจะทะลุออกมา

         “นี่คงเป็นห้องเด็กสมัยพวกนายยังอยู่ด้วยกันที่นี่” โตโต้บอกผมที่ยังยืนตาค้างอยู่หน้าประตูห้อง ภายในห้องมีเตียงเด็กสองเตียงตั้งอยู่ติดริมผนังฝั่งตรงข้ามกัน ลายวอลเปเปอร์เป็นรูปการ์ตูนโทรสีฟ้าสีสันสดใส ของเล่นเด็กเล็กถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบบนชั้นไม้สีขาวข้างประตูห้อง ผมเดินเข้ามาด้านในกวาดสายตาไปรอบๆ ห้องด้วยความเลื่อนลอย

         “มีรูปนายสองคนด้วยดูสิ” พี่บาสร้องบอก ทำให้ผมต้องหันไปมองตามรูปติดผนังขนาดใหญ่ เป็นเด็กทารกสองคนกำลังหัดคลานอยู่บนเตียงนอนขนาดใหญ่ ใบหน้าคล้ายกันมาก ดวงตากลมโต ปากนิด จมูกหน่อย น้ำลายไหลยืดอย่างไร้เดียงสาทั้งคู่ ที่คอของเด็กทั้งสองมีสร้อยทองคนละเส้น ห้อนอยู่ด้วยจี้รูปครึ่งหัวใจเขียนตัวอักษรภาษาอังกฤษเล็กๆ ว่า PEET และ PLUS เหมือนที่ผมใส่อยู่ที่คอในตอนนี้

         “พลัส...นายเป็นอะไรหรือเปล่า” โตโต้เดินมาตบบ่าผมจนต้องสะดุ้งด้วยความตกใจ ผมหันมามองแวบเดียวแล้วรีบหันกลับไปจ้องมองรูปใบนั้นอีกที ผมดึงจี้ทองคำที่เขียนชื่อผมออกมาดู ก่อนหน้านี้ผมไปซื้อสร้อยทองเส้นใหญ่กว่ามาเปลี่ยน และเก็บเสร้อยเส้นเล็กนั้นเอาไว้อย่างดี ผมจ้องมองจี้ที่คอตัวเองสลับกับจี้ในรูปถ่ายใบนั้น

         “พลัส...นายกลับมาอยู่กับครอบครัวตัวเองจริงๆ แล้วนะ พี่ดีใจด้วยจริงๆ นายจะได้มีความสุขเสียที” พี่บาสบอกผมจากด้านหลัง ทำเอาน้ำตาผมไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว

         “นี่เป็นวามจริงใช่ไหม ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ผมกลับมาอยู่บ้านของผมแล้วใช่ไหมครับ ผมยังมีพ่อยังมีแม่ใช่ไหมครับ ผมมีพี่ชาย ผมมีครอบครัวอยู่ใช่ไหมครับ” ผมถามออกไปทั้งที่มือยังถือจี้รูปครึ่งหัวใจค้างอยู่ สายตาจับจ้องไปยังรูปถ่ายใบนั้น

         “ใช่...นายไม่ได้ฝัน นายคือพลัส ลูกชายของครอบครัวนี้ นายเป็นน้องชายฝาแฝดของพีทเพื่อนสนิทผม” โตโต้ยืนยันความคิดผมอยู่ข้างๆ ผมยกมืออีกข้างขึ้นไปลูบแก้มเด็กทารกที่ห้อยจี้อันเดียวกับผม บนรูปถ่ายใบนั้น นี่คือรูปถ่ายของผมตอนยังเป็นทารก ใช่จริงๆ สินะ มันคือรูปถ่ายของผม

         “พลัส นายกลับเข้าห้องตัวเองก่อนดีกว่า เดี๋ยวใครมาเห็นนายอยู่ในห้องนี้จะยิ่งสงสัยเข้าไปอีก” พี่บาสเตือนสติผม แม้ใจยังอยากจะยืนมองรูปถ่ายใบนั้นอยู่ แต่ต้องตัดใจเดินเช็ดน้ำตาออกมาข้างนอกห้อง ผมเดินตามโตโต้ไปตามทางเดินเงียบๆ ไม่นานก้มาถึงห้องหนึ่ง

         “นี่คือห้องพีท ข้างๆ นี่คือห้องนาย ไม่ต้องมองหน้าแปลกใจขนาดนั้น พ่อแม่นายทำห้องนายเอาไว้ แม้ว่านายจะหายตัวไปเป็นยี่สิบปีแล้ว แต่พวกท่านก็ยังเตรียมห้องนายเอาไว้เหมือนห้องของไอ้พีททั้งหมด พวกท่านให้คนไปทำความสะอาดเอาไว้เสมอ เหมือนว่าสักวันนายจะกลับมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง” ผมมองไปยังห้องข้างๆ ห้องพี่พีท

         หน้าประตูห้องผมมีป้ายโลหะสลักอักษรภาษาอังกฤษว่า PLUS เหมือนหน้าห้องพี่พีทแค่ต่างกันที่ตัวอักษรสลักคำว่า PEET ผมอยากเข้าไปดูห้องตัวเองมากกว่า แต่ก็ต้องตัดใจตามโตโต้กับพี่บาสเข้ามาในห้องพี่พีทแทน เราสามคนเข้ามาในห้องแล้วโตโต้ก็เดินไปปิดประตู
         ห้องพี่พีทเน้นไปทางความหรูหรา แต่ดูเรียบง่าย ในสไตล์โมเดินท์ การตกแต่งไม่ดูหนักมากจนเกินไป เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นโทนสีขาว สลับสีไม้โอ๊ค และดำ เป็นห้องที่แบ่งสัดส่วนมีมุมอ่านหนังสือ เป็นมุมเล็กๆ ที่มีชั้นวางหนังสือสีขาวคั่นระหว่างเตียงนอนขนาดใหญ่ ถัดไปอีกด้านเป็นเหมือนห้องแต่งตัวที่ถูกกั้นออกเป็นสัดส่วน ด้านในทะลุไปเป็นห้องน้ำ ขนาดห้องนอนพี่พีทใหญ่หว่าพื้นที่บ้านผมทั้งหลังอีก

         “นายมองตาค้างเลยนะพลัส ห้องพีทสวยมากขนาดนั้นเลยเหรอ ห้องนายก็เหมือนกับห้องไอ้พีทเด๊ะเลยล่ะ ต่างกันแค่สลับมุมตรงข้ามกันเท่านั้นเอง” โตโต้บอกผมที่ยืนตะลึงมองไปรอบห้องด้วยความสนใจ

         “ท่าทางพ่อแม่นายจะยังไม่มีทางลืมนายง่ายๆ เลยนะพลัส อย่างนี้นายคงดีใจมากเลยสิ” พี่บาสที่นั่งอยู่ตรงชุดโซฟาสีขาวเล็กๆ ในห้องนอนพี่พีทเอ่ยขึ้นมา ผมได้แต่ยิ้มด้วยความตื้นตันไม่รู้จะตอบอะไรออกมา ในใจรู้สึกถึงความขอบคุณที่คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยลืมผมเลยมากกว่า

         “วันนี้นายต้องนอนห้องนี้นะ คนอื่นจะได้ไม่สงสัย ส่วนผมกับพี่บาสจะไปนนอีกด้านนึง เป็นโซนห้องสำหรับให้แขกมาพัก” โตโต้พูดออกมาทำให้ผมต้องมองด้วยความสงสัย

         “เวลานายมาค้างที่นี่ต้องไปนอนห้องนั้นทุกครั้งเลยเหรอ” ผมถามออกไปด้วยความอยากรู้

         “เปล่า ผมนอนห้องไอ้พีทนี่ล่ะ โซนนั้นมันไกลคนละฟากของบ้านเลย แต่วันนี้มีพี่บาสมาด้วย ยังไงป้าแก้วก็ต้องจัดให้ผมไปนอนที่นั่นอยู่แล้ว” โตโต้อธิบายให้ผมเข้าใจ แต่รู้สึกใจหายชอบกล หากผมต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน จะไปตามสองคนนี้ได้ยังไง

         “ไม่ต้องหรอกนายกับพี่บาสนอนห้องนี้แล้วกัน ส่วนผมจะไปนอนห้องตัวเอง คิดว่าป้าแก้วคงไม่สงสัยอะไรมากกว่านี้หรอก ดีกว่าให้พวกนายไปนอนไกลๆ ผมแบบนั้น เวลามีอะไรฉุกเฉินผมจะพึ่งใครที่ไหนล่ะ” ผมขอบอกพร้อมขอความเห้นไปในตัว

         “นั่นสิโต้ ถ้าเกิดพลัสมีอะไรให้เราช่วย แล้วห้องเราอยู่กันคนละฟากแบบนี้จะช่วยทันได้ยังไง” พี่บาสก็คิดเหมือนผมเช่นกัน

         “แต่...ทำแบบนี้มันเสี่ยงนะ นายไม่กลัวใครรู้เหรอว่านายคือใคร” โตโต้ยังลังเลกับความคิดผม

         “ถึงยังไงอาทิตย์หน้าพี่พีทก็ต้องกลับมาเฉลยความจริงให้ทุกคนรู้อยู่ดีล่ะน่า อย่าคิดมากไปเลย” ผมคิดอย่างนั้นจริงๆ เพราะตอนนี้ยังรู้สึกผิดเล็กน้อยที่แอบปลอมตัวเป็นพี่พีทเข้ามาในบ้านตัวเอง

         “เอางั้นก็ได้วะ มาถึงขั้นนี้แล้ว นายยกโทรศัพท์ในห้องกดเลยศูนย์สาม แล้วบอกให้คนย้ายกระเป๋าผมกับพี่บาสมาห้องนี้ด้วยแล้วกัน” โตโต้สั่งผมก็รีบทำตามทันที รอไม่นานก็มีคนมาเคาะประตูห้อง เป็นคนรับใช้ที่หน้าตาไม่เหมือนคนข้างล่างนำกระเป๋าเดินทางสองใบมาให้

         “โตโต้...ผมถามหน่อยสิ คนรับใช้บ้านผมมีกี่คนกันแน่ ตั้งแต่เข้ามาในบ้านทำไมดูหน้าไม่ซ้ำกันเลย” ผมอดสงสัยไม่ได้

         “ก็ประมาณยี่สิบกว่าคนได้ ตั้งแต่คบไอ้พีทมา ผมก็ยังจำชื่อได้ไม่หมดเลย ไอ้พีทเองก็จำได้แค่บางคนเท่านั้น นายไม่ได้กังวลไปหรอก” โตโต้บอกผมแบบไม่ใส่ใจนัก

         ทั้งวันนี้เราสามคนขลุกกันอยู่แต่ในห้องพี่พีท จนค่ำจึงเดินลงมาข้างล่าง เราออกไปทานข้าวข้างนอก เพราะวันนี้ป้าแก้วไม่ได้เตรียมอะไรไว้ทำอาหารให้พวกเรา ผมจึงถือโอกาสไปหาซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารให้คุณแม่ทานในวันพรุ่งนี้ด้วย

         พอกลับมาในบ้านก็มีคนรับใช้มารับของไปเก็บไว้ในครัว ส่วนป้าแก้วเพียงมองผมไกลๆ มาจากด้านในบ้าน แล้วเดินหายไปด้วยความรวดเร็ว พวกผมจึงกลับขึ้นมาบนห้อง ผมเข้าไปในห้องนอนตัวเอง ภายในห้องถูกตกแต่งเหมือนกับห้องพี่พีทอย่างที่โตโต้ว่าไว้ เพียงมุมของจากจัดวางเฟอร์นิเจอร์เท่านั้นที่สลับด้านกันเหมือนอีกด้านของกระจกเงา

         คืนนี้ผมนอนไม่หลับเพราะความตื่นเต้นกับสถานที่ ภายในห้องนอนหรูหราของผมเอง บ้านของผมเองที่จากมาตั้งแต่อายุสองขวบ ผมโทรศัพท์ไปหาน้องหยก ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ให้คนรักฟัง เจ้าตัวคุยได้เพียงนิดหน่อยเพราะกำลังยุ่งกับการช่วยคุณป้าดูแลร้านอาหาร แต่เราก็ส่งความคิดถึงกันจนฉ่ำหัวใจ ทำให้ผมนอนหลับลงได้อย่างเป็นสุข

         ผมตื่นขึ้นมาแต่เช้าในวันใหม่ที่ห้องของตัวเอง จะหยิบจะจับอะไรก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี ห้องน้ำก็มีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย ระหว่างที่ผมกำลังแช่น้ำอยู่โทรศัพท์ในห้องน้ำก็ดังขึ้น ผมจึงเอื้อมมือไปรับสาย

         “คุณพีทค่ะ เมื่อคืนนอนห้องน้องเหรอคะ” เสียงป้าแก้วถามมาตามสายอย่างราบเรียบ

         “เอ่อ...ครับ พอดีผมให้โตโต้กับพี่บาสนอนห้องผมแล้ว ตัวผมเองก็เลยมานอนห้องพลัสน่ะครับ” ผมบอกป้าแก้วด้วยความประหม่า เหมืนเด็กกำลังทำความผิดไม่กล้าสารภาพกับผู้ใหญ่ ป้าแก้วยังเงียบอยู่พักหนึ่ง

         “ค่ะ แล้วคุณพีทกับเพื่อนจะรับอาหารเช้าด้วยไหมค่ะ ป้าจะเตรียมไว้ให้” ป้าแก้วถามผมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำเอาโล่งใจพอสมควร

         “ขอบคุณครับป้า เตรียมไว้เลยครับ เดี๋ยวผมกับเพื่อนจะลงไปทานครับ” ผมพูดจบป้าแก้วก็วางสาย จึงรีบอาบน้ำแล้วไปปลุกโตโต้กับพี่บาสในห้องพี่พีท เคาะประตูอยู่ตั้งนานโตโต้ก็เดินมาเปิดประตูให้

         “ยังไม่ตื่นเหรอ ป้าแก้วเตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว ลงไปทานด้วยกันเร็วๆ เหอะ” ผมเข้ามาในห้องมองไปยังพี่บาสที่นอนม้วนผ้าห่มรอบตัวหลับสบายอยู่บนเตียงพี่พีท ส่วนโตโต้ได้แต่พยักหน้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยอาการสะลึมสะลือ

         ไม่นานโตโต้ก็นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาปลุกพี่บาสที่ทำท่าเหมือนไม่อยากจะลุกจากที่นอน แต่ก็ยอมไปอาบน้ำแต่โดยดี เมื่อเห็นผมนั่งรออยู่ในห้อง เราสามคนลงมาที่ห้องอาหารด้านล่าง ถัดจากห้องรับแขกไปพอสมควร ห้องอาหารเป็นโต๊ะยาวนั่งได้หลายคน ภายในห้องตกแต่งประตับประดาอย่างสวยงาม เหมือนห้องจัดเลี้ยงขนาดย่อม ผมเห็นอาหารเช้าสามที่วางอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว

         “ทานได้เลยนะคะ ป้าเพิ่งเตรียมเสร็จเมื่อกี้เอง ถ้าอยากได้อะไรเพิ่มเติมก็บอกเด็กได้นะคะ ป้าขอเตรียมของบาตรก่อนค่ะ” ป้าแก้วบอกผมจบ คนรับใช้ก้มายืนแทนที่เหมือนรอรับใช้พวกผมอยู่ตรงริมผนังห้อง

         “ป้าแก้วครับ เตรียมของใส่บาตรเผื่อผมด้วยสิครับ ผมทานเสร็จจะไปใส่บาตรด้วยครับ” ผมอยากไปใส่บาตรพร้อมป้าแก้ว เพราะนึกถึงตอนคุณตาคุณยายยังอยู่ ผมก็ต้องตื่นเช้ามาเตรียมของไปใส่บาตรทุกเช้าเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว

         “อะไรนะคะ คุณพีทจะไปใส่บาตรกับป้า” ป้าแก้วหันมาถามผมเสียงดังเหมือนไม่เชื่อ ทำให้ผมต้องนั่งนิ่งด้วยความงง การใส่บาตรพร้อมป้าแก้วก็เป็นเรื่องผิดแกติอีกเหรอเนี่ย

         “ผมแค่อยากทำบุญบ้างน่ะครับ ไม่ได้ทำตั้งนานแล้ว ผมไปช่วยเตรียมของตอนนี้แล้วค่อยกลับมาทานอาหารเช้าก็ได้นะครับ” ผมรีบแสดงความกระตือรือร้นกลบเกลื่อนความผิดปกติที่เกิดขึ้น พี่บาสกับโตโต้จึงรีบออกตัวว่าอยากไปใส่บาตรด้วยเช่นกัน ทำให้ป้าแก้วเงียบไป

         “ได้ค่ะ ป้าจะเตรียมของเผื่อให้คุณพีทกับเพื่อน ทานเสร็จแล้วค่อยตามป้าไปหน้าบ้านแล้วกันนะคะ” ป้าแก้วปรับสีหน้าเป็นปกติ แล้วเดินออกไปจากตรงนั้น ผมรีบหลบสายตาโตโต้ที่จ้องเขม็งมาเหมือนกำลังต่อว่าผมอยู่กลายๆ เราสามคนไม่พูดอะไรจึงรีบทานอาการเช้าให้เสร็จแล้วเดินไปหน้าบ้าน

         “คุณหนูกับเพื่อนขึ้นมาสิครับ ป้าแก้วให้ผมรอขับรถกอล์ฟไปส่งที่หน้าบ้านครับ” เด็กหนุ่มที่พี่พีทบอกผมว่าชื่อปันนั่งอยู่ด้านคนขับบนรถกอล์ฟ บอกทันทีที่พวกผมเดินพ้นประตูบ้านออกมา เราสามคนจึงนั่งรถที่ปันขับมาส่งตรงหน้าบ้าน ป้าแก้วยืนรอใส่บาตรอยู่แล้ว พอพระมาผมก็ถอดรองเท้าพนมมือนิมนต์พระ และเป็นคนหยิบของใส่บาตร ส่วนคนอื่นก็คอยส่งของให้

         “คุณพีทรู้ธรรมเนียมการใส่บาตรดีจังเลยนะคะ ป้าไม่เคยเห็นคุณพีทใส่บาตรมาก่อนเลย” ป้าแก้วถามทันทีที่เราใส่บาตรเสร็จ ผมช่วยเก็บถาดมาใส่ท้ายรถกอล์ฟที่ปันขับ เราทั้งหมดนั่งรถกอล์ฟกลับเข้าบ้านมาด้วยกัน

         “ก็ไม่เห็นแปลกนี่ครับ ป้าแก้วแค่ไม่เคยเห็นผมใส่บาตรเท่านั้นเอง” ผมบอกออกไปเหมือนเป็นเรื่องปกติ ป้าแก้วไม่พูดอะไร เพียงยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยนกลับมา

         “คุณพีทรู้ไหมค่ะ ว่าตรงที่เรายืนใส่บาตรคือจุดที่คุณพีททำน้องหายไปเมื่อยี่สิบปีก่อน” อยู่ดีๆ ป้าแก้วก็พูดขึ้นทำเอาใจผมกระตุก รู้สึกอึ้งอยู่อย่างนั้นจนไม่กล้าหันไปมงหน้าใครเลย

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
ดีใจจังวันนี้ได้อ่านสองตอนควบเลย
กำลังจะได้เจอคุณพ่อคุณแม่แล้ว
เชื่อว่าคุณแม่ต้องจำพลัสได้แน่นอน

+1  :กอด1:

ออฟไลน์ NOO~KUNG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 718
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-3
เรื่องปกติของพี่พลัสเนี่ยล่ะ....ที่เป็นจุดแตกต่าง
ป้าแก้วแกแอบมองด้วยความสงสัยแล้ว...
พ่อหนุ่มแสนซื่อคงไม่รอดไปได้กี่วันหรอก.

ปล.ไปนอนจริงแล้ว

JipPy

  • บุคคลทั่วไป
เลิ๊ก เลย  ป้า แก้ ว   ชี แน่มากกก

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
ความจะแตกมั๊ยเนี่ย พี่พลัส  :m29:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด