บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 52 “กฤษกร”
ไม่นึกเลยจริงๆ ว่าฉันต้องเจออย่างนี้ ก็ทุกๆที ดูเหมือนไม่มีอะไร ไม่นึกจริง ๆ ว่าเธอจะบอกข่าวร้าย ไม่ได้เตรียมใจ จะเจอกับคนสำคัญ อึ้งไปเลย เมื่อเขามองมาที่ฉัน
กว่าที่เราจะพาคุณตามาถึงที่โรงพยาบาลค่อนข้างใช้เวลาพอสมควร เมื่อจอดรถที่ตึกอุบัติเหตุเจ้าหน้าที่ก็นำรถเข็นมารับคุณตาเข้าไปด้านใน ตอนนี้เป็นเวลาค่ำแล้วผู้คนภายในโรงพยาบาลจึงมีน้อย ผมลงจากรถตามเข้าไปพบแพทย์ในห้องตรวจพร้อมกับคุณตา ปล่อยให้ไอ้ทองมันเอารถไปจอดที่ลานจอดให้เรียบร้อยเอง
พอเจ้าหน้าที่พาคุณตาขึ้นบนเตียงคนไข้ คุณหมอถามอาการเสร็จก็ลงมือล้างทำความสะอาดแผล และทายาที่แผลจากรอยถลอกตรงขาของคุณตา พร้อมทายารักษารอยฟกช้ำ พอเปิดดูแผลแล้วก็เห็นว่ามีรอยถลอกเป็นบริเวณกว้างบางจุดนั้นเป็นหนองจนน่ากลัว คุณหมอให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการรักษาตัว อาการคุณตาหากแผลไม่อักเสบก็จะไม่เป็นอะไรมาก ส่วนกระดูกยังปกติไม่ถึงขั้นต้องเอ็กซเรย์เพียงเท่านี้ผมก็โล่งใจ
ผมยืนรอข้างเตียงเป็นเพื่อนคุณตาระหว่างที่พยาบาลกำลังทำแผล เพราะกลัวว่าคุณตาจะรู้สึกไม่ดีหากปล่อยให้ท่านอยู่ลำพังกับหมอ และพยาบาล ไม่อย่างนั้นมีหวังว่าคราวหน้าคุณตาอาจจะไม่ยอมให้ผมพามาให้หมอดูแผลอีกก็ได้ ตอนนี้รู้สึกสงสารคนแก่ที่ต้องมาร้องโอดโอยกับอาการเจ็บแสบบริเวณแผลที่คุณพยาบาลช่วยล้างทำความสะอาด และทายาให้ พอเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ก็พาคุณตานั่งรถเข็นออกไปรอด้านนอก ระหว่างที่ผมไปรับยาที่ห้องจ่ายยา
ผมกลับมาหาทุกคนที่นั่งรอกันที่ด้านนอก พบว่าน้องหยกไปชำระค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดให้คุณตาของผมแล้ว ไม่ได้หวังจะให้คนรักต้องจ่ายให้ แต่การกระทำครั้งนี้ยิ่งสร้างความซาบซึ้งใจในความรู้สึกผมจากที่เติมเต็มอยู่แล้วเพิ่มจนล้นปรี่ขึ้นมาอีก
“ขอบใจนะที่รัก” ผมกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูระหว่างที่ปลอดสายตาคนรอบข้าง แล้วยิ้มให้น้องหยก เจ้าตัวเอียงคอหลบด้วยความเขิน เพียงยิ้มตอบกลับมาให้ไม่ได้พูดอะไรต่อกัน
“เสร็จแล้วใช่ไหมไอ้กฤษ ไปครับคุณตาเพลียกับอาการเจ็บจนเหมือนจะหลับอยู่แล้ว มึงยังจะมาพลอดรักกันอยู่อีก ไอ้เวร” ไอ้ทองคงแอบเห็นผมกับน้องหยกที่กำลังหวานซึ้งใส่กัน มันจึงพูดแทรกออกมาจนผมสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงดังของมัน แล้วรีบเข็นรถพาคุณตาของผมไปยังรถของมันที่จอดอยู่ตรงลานด้านหน้าโรงพยาบาล อยากจะด่าที่ไอ้ทองมันขัดจังหวะ แต่วันนี้มันยังมีน้ำใจมารับคุณตาผมไปหาหมออีกด้วย ไม่เป็นไรวันนี้มันคงรีบกลับไปดูแลผัวใหม่มันที่โรงแรม ผมจึงไม่คิดจะด่าปล่อยมันไปหนึ่งวัน
กว่าจะถึงบ้านผมก็เป็นเวลาดึกแล้ว คุณตากับคุณยายมาถึงแล้วจึงเข้านอนเลย ส่วนผมกับน้องหยกก็ลงไปอาบน้ำด้านล่างแล้วรีบกลับมาเข้านอน วันนี้เพลียมาทั้งวันจึงไม่มีแรงจะรื้อของในกระเป๋าเดินทางที่เพิ่งกลับมาจากหัวหิน อีกทั้งเจอเรื่องคุณตาเข้าจึงไม่มีแรงจะทำการบ้านกับภรรยาสุดที่รัก จึงได้แค่นอนกอดกันเพียงปกติจนหลับไปในเวลาอันรวดเร็วด้วยความเพลีย
เช้าวันนี้ผมรู้สึกสดชื่นอารมณ์ดีเป็นที่สุด เหตุผลก็เพราะวันนี้ภรรยาหน้าหวานของผม ส่งยิ้มหวานมาให้ทันทีที่ลืมตาตื่นนอนขึ้นมา ความน่ารักของน้องหยกทำให้ผมตาพร่าไปเลยทีเดียว ผมตื่นได้สักพักแล้วเนื่องจากชินกับการตื่นเช้า วันนี้ก็เช่นกันหลังจากทำธุระตอนเช้าเสร็จแล้วก็รีบกลับเข้ามาในห้องทันที
“ลุกได้แล้วครับที่รัก วันนี้เราต้องเข้าไปช่วยยายทำของใส่บาตรตั้งแต่เช้าเลยนะ ตายังป่วยอยู่เราสองคนลงไปช่วยยายแทนนะครับ” ผมเดินไปที่ฟูกหลังจากที่ตื่นไปเข้าห้องน้ำ และวิดน้ำจากคูน้ำที่ขุดไว้มารดน้ำต้นไม้ตั้งแต่ตีห้าเป็นประจำเหมือนทุกวัน แล้วนั่งลงข้างๆ ร่างบางที่เพิ่งลุกนั่ง
“วันนี้หยกตื่นไม่ทันพี่กฤษอีกแล้ว ทำไมไม่ปลุกหยกด้วยล่ะครับ” น้องหยกบ่นออกมาเบาๆ ในตอนท้าย
“ที่พี่ไม่ปลุก เพราะจะได้หยกพักผ่อนให้เต็มที่ ไม่ดีเหรอครับ หืม” ผมรู้ดีว่าน้องหยกอยากตื่นไปช่วยงานของผมในตอนเช้ามืดเหมือนกัน แต่มันคงหนักเกินไปสำหรับคนรักที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายหนักแบบผม จึงคิดว่าเพียงตื่นมาช่วยยายเตรียมของใส่บาตรในตอนเช้าก็พอแล้ว
“งั้นหยกไปล้างหน้าก่อนนะครับ เดี๋ยวตามไปช่วยยายที่ครัวหลังบ้านแล้วกัน” น้องหยกพูดออกมาเสียงเบา เหมือนยังคงงัวเงียไม่ตื่นเต็มที่ ผมจึงช่วยดึงร่างภรรยาสุดทีรักให้ลุกลงจากเตียง โดยที่อีกคนยังไม่ทันได้ระวังตัว ร่างบางเลยโผเข้าหาอ้อมกอดของผมในทันที น้องหยกเพียงตกใจแล้วโอบกอดผมไว้แน่น
“มาจูบอรุณสวัสดิ์กันหน่อยสิครับ ป่านนี้ยังเช้ามาก ยายยังไม่ตื่นหรอกครับ” ผมเอ่ยออกมาแล้วก้มหน้าลงไปหาคนรักทันที โดยไม่ให้หยกปฏิเสธออกมาได้ทัน บดเรียวปากหนาลงไปหาความหวานล้ำด้วยความรวดเร็ว ก่อนถอนปากออกมาแล้วมองหน้าสุดที่รักในอ้อมกอด เมื่อเห็นดวงหน้าขาวแดงซ่านด้วยความอาย ก็ส่งยิ้มเป็นกำลังใจไปให้ กำลังจะก้มลงไปจูบอีกรอบก็โดนมือขาวผลักใบหน้าไว้เบาๆ
“พอแล้วพี่กฤษปล่อยหยกก่อนครับ หยกจะไปอาบน้ำแล้ว” น้องหยกไม่ยอมเล่นด้วยผมจึงยอมปล่อยร่างนุ่มนิ่มของภรรยาแต่โดยดี และผมเองก็ยังไม่ได้อาบน้ำเช่นกัน แค่ยืนมองน้องหยกที่ลุกขึ้นรื้อกระเป๋าหยิบของใช้สำหรับเตรียมอาบน้ำ ก็นึกอยากจะอาบขึ้นมาด้วย ตอนนี้ทั้งตัวมีแต่เหงื่อเหนียวไปหมด
“หรือเราจะอาบน้ำพร้อมกันเลย พี่ว่าอาบพร้อมกันเลยดีกว่า จะได้ประหยัดเวลาไงครับ” ผมพูดจริงทำจริง และเริ่มถอดเสื้อผ้าทันทีที่พูดจบ เดินไปหยิบผ้าขาวม้าที่พาดอยู่ริมหน้าต่างมาพันตัวหน้าตาเฉย ภรรยาสุดที่รักได้แต่ยืนอึ้งอยู่ข้างฟูกกลางห้องนอนกับพฤติกรรมของผม
“อ้าว มาสิครับหยก” ผมเดินกลับมาจูงมือคนรักที่ยังยืนอยู่กลางห้องให้เดินตามออกมา พอมาถึงลานตรงด้านหลังบ้านที่เราจะอาบน้ำ พอวางอุปกรณ์อาบน้ำลงแล้วผมรีบโอบร่างคนรักเอาไว้ น้องหยกตกใจพยายามผลักผมให้ออกห่าง แต่ด้วยเรี่ยวแรงที่มีน้อยกว่า ทำให้หยกถูกผมตวัดเข้าไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง
“พี่กฤษให้หยกอาบก่อน อีกเดี๋ยวยายก็ตื่นขึ้นมาแล้วนะครับพี่” น้องหยกพูดเสียงอ่อนลงพร้อมสีหน้าเป็นกังวลกับอาการจาบจ้วงของผม ทำให้ผมต้องก้มมองหน้าคนรักที่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเองแล้วขำออกมา
“ไม่ต้องตัวสั่นขนาดนี้ก็ได้ วันนี้พี่มีงานต้องทำ งานเยอะด้วย ก็แค่อยากจูบเธออีกครั้งเท่านั้นเอง นะ...นิดเดียวเท่านั้น โธ่...ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นแล้ว เร็วครับ จูบเดี๋ยวเดียว แล้วรับรองไม่กวนอีกเลยตลอดชั่วโมงนี้” พูดจบผมก็ก้มหน้าลงแนบริมฝีปากจนแนบสนิทแน่นกับเรียวปากบางนั้น เนิ่นนานลึกซึ้งตรึงใจ แล้วยอมตัดใจถอนปากออกอย่างเสียดาย
“เชิญครับ คราวนี้ตามสบายเลย แล้วเอาไว้คืนนี้พี่ค่อยจัดเต็มให้อีกทีนะครับ” ผมยังไม่วายแหย่ภรรยาอีกเล็กน้อย ทำเอาน้องหยกรีบหยิบขันพลาสติกตักน้ำเย็นๆ มาสาดใส่ร่างผมจนเย็นวาบไปทั้งตัว ผมรีบเอามือเสยผมที่เปียกลู่มาบังตาขึ้น พอขยับตัวก็โดนสาดน้ำใส่อีกขันต้องยืนห่อปากตัวสั่นไล่ความหนาว
ผมรีบเดินหนีออกจากไปยืนหลบอยู่ด้านหลังแท็งก์ เพราะน้องหยกเอาแต่สาดน้ำใส่ผมจนเปียกทั้งตัวหนาวไปหมด พอเข้าใกล้ก็โดนสาดน้ำใส่อีกผมจึงหยิบสบู่มาถูตัวห่างๆ เพื่อรอให้ภรรยาขี้โมโหอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยก่อน แล้วจึงหยิบขันล้างสบู่ออกจากตัว
ร่างบอบบางของน้องหยกเดินเร็วๆ ขึ้นชั้นบนของบ้าน ผมจึงรีบตามมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดีเดินตามหลังลงมาติดๆ กัน พอได้น้ำเย็นๆ ล้างตัวก็เรียกความสดชื่นจนหายเหนื่อยล้า ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมีแสงสีทองจางๆ ของพระอาทิตย์ที่กำลังจะขึ้นมาในยามเช้า
เราผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จด้วยความรวดเร็ว เพราะอากาศที่ยังเย็นอยู่ น้องหยกไม่ยอมให้ผมได้เข้าใกล้เลย คงกลัวว่าผมจะแกล้งอะไรเข้าให้อีก ความจริงแล้วไม่ได้อยากจะแกล้ง เพียงแค่เวลาอยู่ใกล้แล้วมันอดไม่ได้ที่จะอยากกอด อยากหอมคนรักที่ตอนนี้ผมกำลังหลงเสน่ห์จนเรียกได้ว่ารักหมดตัวและหัวใจ
“กฤษเอ้ย...กฤษ ตื่นหรือยังลูก” เสียงคุณยายดังอยู่หน้าห้อง ทำให้ผมรีบโผล่หน้าออกไปดู
“ตื่นแล้วครับยาย เพิ่งอาบน้ำเสร็จครับ มีอะไรครับ” ผมสงสัยกับอาการตื่นเต้นของคุณยาย สีหน้าไม่สู้ดีนัก นึกขึ้นได้ว่าคุณตายังคงป่วยอยู่ ภาวนาอย่าให้คุณตาเป็นอะไรในตอนนี้เลย
“ตาไข้ขึ้นสูงเลยลูก ตอนนี้เพ้ออะไรใหญ่แล้ว ยายจะทำยังไงดี” คุณยายมีอาการร้อนรนจนผมตกใจ รีบวิ่งไปหยิบยามา น้องหยกก็วิ่งไปเอาน้ำเข้าไปในห้องตา ผมป้อนยาเข้าปากตามด้วยน้ำให้คุณตาดื่ม แล้วก็รีบบอกให้หยกโทรหาไอ้ทองช่วยมารับคุณตาไปโรงพยาบาลอีกรอบ
“ลูกทิพย์...ลูก...พ่อขอโทษ...พ่อไม่น่าทำแบบนั้นเลย ลูก...อย่าเสีย...ใจนะ พ่อขอโทษ” คุณตาเพ้ออะไรไม่รู้ พูดแต่ขอโทษอะไรกับแม่ของผมสักอย่าง แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ผมจะทำยังไงดี ตอนนี้ทำอะไรแทบไม่ถูกเหมือนกัน หันไปมองน้องหยกที่รีบกลับเข้ามาดูคุณตาหลังจากออกไปโทรศัพท์เสร็จแล้ว และยกกะละมังเล็กกับผ้าขนหนูดขเมาก็เห็นคุณยายยืนน้ำตาไหลอยู่ข้างๆ ประตู
“ยายครับ จะร้องไห้ทำไมกัน ตาแค่เพ้อเพราะไข้ขึ้นน่ะครับ ยายไม่ร้องนะครับ” น้องหยกหันมองตามสายตาผมไปเห็นคุณยาย จึงวางกะละมังแล้วเข้าไปพยุงให้นั่งลง หยกกอดปลอบโยนคุณยายที่ร้องไห้เหมือนสะเทือนใจกับคำเพ้อของคุณตา
“ทิพย์ลูกพ่อ...พ่อขอโทษ พ่อผิดเอง...พ่อให้เค้าเอาลูกเอ็งไป ฮือ...ฮือ...ทิพย์ ให้อภัยพ่อนะลูก” คุณตายังเพ้ออกมาไม่หยุด จนคุณยายทนไม่ได้จึงรีบลงมาเอาผ้าชุบน้ำในกะละมังเช็ดหน้าเช็ดตาให้คุณตา
“ยายครับตาพูดเรื่องอะไร” ผมทนไม่ไหวจึงเอ่ยปากถามคุณยายออกมาเบาๆ แต่...ยายไม่ตอบ ทำเหมือนไม่ได้ยินคำถามผม เพียงร้องไห้เบาๆ และยังคงเช็ดตัวให้คุณตาอยู่อย่างนั้น
“ยาย...ยายรู้ใช่ไหม” ผมถามย้ำอีกครั้ง คราวนี้คุณยายถึงกับปล่อยโฮออกมาจนผมตกใจ น้องหยกที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็ตกใจพอกันจึงรีบลุงเข้าไปจับแขนยายเบาๆ ยายสะอื้นจนตัวโยน
“คุณยาย...คุณยายเป็นอะไรไปครับ ไม่เอานะครับไม่ร้อง” น้องหยกกอดปลอบคุณยายแน่น ผมงงกับเหตุการณ์เพียงครู่ก็รีบเอาผ้าขนหนูไปชุบน้ำใหม่อีกรอบ แล้วบิดให้หมาดมาเช็ดตัวให้คุณตาต่อ อยากจะเค้นถามแต่เห็นอาการคุณยายเป็นแบบนี้แล้วก็ไม่กล้า ทั้งที่สงสัยเรื่องราวอยู่จนอึดอัดในใจ
“ทิพย์...พ่อขอโทษ พ่อ...ยกลูกเอ็ง...ให้พ่อหยกเทพไปแล้ว เอ็งอย่าโกรธพ่อนะ พ่อหวังดี...กับลูกของเอ็ง แล้วก็ตัวเอ็ง เอ็งอย่าโกรธพ่อ...เลยนะ พ่อ...เสียใจ พ่อ...ขอโทษ” คุณตาเพ้อออกมาอีก ทำเอาผ้าขนหนูที่ผมถืออยู่ร่วงหลุดจากมือ ชื่อหยกเทพ คุณหยกเทพ ชื่อเหมือนคุณพ่อหยก คิดได้เท่านั้นผมรีบหันไปมองหน้าคนรัก น้องหยกจ้องเขม็งตาค้างมาที่คุณตาเหมือนกำลังช็อก นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ผมสับสนไปหมดแล้ว