บาปรัก...บาปบริสุทธิ์♥นิยายรักหื่นเซ็กเศร้าเอาฮา ตอนพิเศษ (9) หน้า 89 (24-02-14)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์♥นิยายรักหื่นเซ็กเศร้าเอาฮา ตอนพิเศษ (9) หน้า 89 (24-02-14)  (อ่าน 914693 ครั้ง)

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
สรุป กฤษซื้อกางเกงในแล้ว เย้ๆๆ
 o13 o13 o13

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
น้องหยกเป็นคนที่ดูแล เอาใจใส่ คนรักได้น่ารักจริงๆ

พี่กฤษเปลี่ยนไป กลายเป็นเสี่ยกฤษ ลงทุนซื้อ ไอโฟน4s เลย แต่ที่ฮาที่สุด คือ ยอมซื้อ กกน. ตั้ง 2 โหลแน่ะ

ชอบเจ๊ทองนางฮามากๆ ขอให้รักของเจ๊สมหวังนะจ้ะ 

รอตอนฮันนีมูนทริปหัวหิน :z1: :z1: 

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
โถๆๆๆๆ
พี่กฤษขา เดี๋ยวนี้พอมีเมีย
กลายร่างเป็นอาเสี่ยใจป้ำมากกกกกกกกก
ซื้อกางซื้อกางเกงในทีตั้งสองโหล
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก
 :laugh:
น่ารักกับความขี้เหนียวของพี่กฤษจริงจัง
 o13

ออฟไลน์ lidelia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1
ดูท่าพี่กฤษจะเปลี่ยนไปมากจริงๆ  :laugh: :laugh:

อิจฉาหยก  :-[

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
แพ้ทางเก้งกวางจากอเมริกา :m20: แพ้มากกว่าเนอะพี่กฤษ หุหุ
เหมือนพี่กฤษได้ปลดภาระจากการที่ต้องไถ่ที่คืนด้วยเนอะ ตอนนี้เก็บตังไว้ขอและเลี้ยงน้องหยกดีกว่าเนอะ :z1:

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 32 “กรหยก”
«ตอบ #305 เมื่อ14-01-2012 18:09:54 »

บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 32 “กรหยก”
ก็แฟนฉันรูปหล่อ และแฟนฉันรุ่นใหญ่ ไม่ทำเก็กไม่ทำตัวเด็กๆ เรื่องเล็กไม่ทำเป็นเรื่องใหญ่ เหมือนหนุ่มๆทั่วไป และแฟนฉันใจกว้าง ไม่เคยจะห่างไปไหน

          หลังจากพวกเราทั้งสี่คนทานพิซซ่ากันเสร็จเรียบร้อย พี่กฤษก็ขอตัวไปเอาโทรศัพท์มือถือที่ซื้อเอาไว้ พอผมเสนอตัวจะไปเป็นเพื่อนกลับบอกให้ผมพาสองพี่น้องไปหาซื้อของขวัญให้พี่แดนกับพี่แชริมดีกว่า เพราะผมสนิทจะได้เลือกของขวัญได้ถูกใจแล้วเราค่อยมาหารเงินกันอีกที ส่วนพี่กฤษบอกว่าจะให้พี่เจ้าของร้านสอนใช้โทรศัพท์ด้วย
 
           “พี่กฤษให้หยกสอนให้ก็ได้นี่ครับ ไม่เห็นต้องรีบขนาดนั้นเลย” ผมเสนอตัวไปเพราะเห็นว่ายังไง ผมก็ใช้เป็นอยู่แล้ว อาจจะช่วยสมัครเมล์ให้พี่กฤษไปด้วย แล้วคิดว่าจะได้ไปเปลี่ยนโปรโมชั่นโทรศัพท์เพื่อจะได้คุยกับคุณป้าได้บ่อยมากขึ้นกว่านี้ด้วย

           “ไม่เป็นไรหรอก น้องหยกไปซื้อของขวัญก่อนเลยจะได้ไม่เสียเวลา พี่จะตามไปเจอชั้นสามแผนกเสื้อผ้าผู้ชายเลยแล้วกัน” พี่กฤษรีบบอก ท่าทางเหมือนจะมีพิรุธ ไม่รู้ผมคิดมากไปเองหรือเปล่า แต่ผมไม่ใช่คนสอดรู้สอดเห็นอยู่แล้ว และเวลานี้ผมก็ไว้ใจคนตรงหน้าเต็มหัวใจ จึงไม่คิดมากที่จะตามไปอีก

           “หยก...เจ๊ว่า...กฤษมันดูแปลกๆ ไหม มันจะแอบโทรหาใครหรือเปล่า หรือมันจะให้พี่เค้าสอนใช้แอ๊พหาคู่เดทแล้วกลัวหยกรู้ หรือมันจะแอบลงคลิปโป๊แล้วอายหยก หรือมัน...ว๊ายยย อีชะนี” พี่ทองที่พูดระหว่างที่เราเดินแยกกับพี่กฤษออกมากันสามคนยังไม่ทันจบ ก็โดนน้องพลอยแกล้งยื่นขาไปขัดให้พี่ทองล้มคะมำลง จนต้องหันมาทำท่าจะด่าคนขัดขา

           “เจ๊...ถ้ายังสำรอกอะไรเยี่ยงนี้ออกมาจากปากอีก อย่าหาว่าหนูไม่เตือน พี่กฤษเหมือนพี่ชายหนูคนหนึ่ง แถมยังไม่เคยมีพฤติกรรมอะไรไม่ดีมาก่อน อย่ามาใส่ร้ายพี่หนูให้เสียหายไปกว่านี้เลยนะคะ” น้องพลอยดึงมือผมไว้ไม่ให้เข้าไปช่วยพยุงพี่ทอง แถมยังมีท่าทางโกรธเกรี้ยวจนผมตกใจ

           “อะไรกัน แล้วฉันไม่ใช่พี่แกหรือไง เจ๊...ก็แค่สงสัยเอง” พี่ทองรีบลุกขึ้นมาทันทีที่เห็นอาการน้องสาว แล้วก็พูดแก้ตัวเสียงเบา จนเราทั้งสามคนต้องเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรอีก พากันลงบันไดเลื่อนไปเดินหาซื้อของขวัญกันที่ชั้นล่าง

           “เจ๊ว่าน่าจะเป็นของประดับนะ จะได้เอาไว้ใช้ตกแต่งเรือนหอไง ดีไหม” พี่ทองชี้ไปที่ชั้นคริสตัลรูปสัตว์เจียระไนล้อแสงแวววับสีสันสวยงาม ผมเห็นด้วยเพราะพี่แชริมค่อนข้างชอบของน่ารักจุ๊กจิ๊กอยู่แล้ว ผมเลยเสนอเป็นนกแก้วเกาะกิ่งไม้คริสตัล ราคาสองหมื่นกว่าบาท ถ้าจะคิดดูแล้วราคานี้ยังไม่คุ้มกับค่าห้องโรงแรมที่พี่แชริมจะพาไปพักเลย

           “หนูว่าเจ๊เอาไปห่อที่ร้านข้างบนดีกว่าไหมคะ กระดาษห่อทางห้างเค้าจะไม่สวยเท่าไร เดี๋ยวไม่สมราคาของขวัญเอานะคะ” พอพี่ทองรูดบัตรเครดิตชำระเงินเรียบร้อย น้องพลอยเสนอให้พวกเราพากันขึ้นไปชั้นบนเพื่อหาร้านห่อของขวัญให้สมราคาสินค้าหน่อย

           ขณะที่พวกเราสามคนกำลังเดินขึ้นบันไดเลื่อนก็เห็นพี่กฤษที่เดินอยู่อีกฝั่งด้านตรงข้าม ท่าทางจะไม่เห็นพวกเรา กำลังหยิบของออกจากถุงกระดาษสีทองอร่ามใบเล็กใส่กระเป๋ากางเกงตัวเอง จากนั้นก็หยุดตรงหน้าบันไดเลื่อนทิ้งถุงกระดาษลงถังขยะ แล้วขึ้นบันไดเลื่อนไปอย่างรวดเร็ว

           “เจ๊...จะทำอะไร หยุดนะ ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านนัก” น้องพลอยเห็นพี่ทองที่ทำท่าลุกลี้ลุกลน จะไปยังถังขยะที่พี่กฤษเพิ่งจะทิ้งถุงกระดาษสีทองลงไป จึงตวาดแหวใส่จนพี่ชายหยุดกึก ยืนหน้าเสียทันที พี่ทองยังยืนนิ่งจนน้องพลอยต้องไปลากตัวกลับมายังร้านห่อของขวัญ

           “นี่...ถามจริงๆ ไม่อยากรู้เหรอว่าอีกฤษมันแอบไปซื้ออะไร เจ๊ว่าแล้วเชียวว่ามันต้องมีลับลมคมนัย” พี่ทองยังไม่วายพูดถึง เมือเรากำลังรอพนักงานห่อของขวัญที่จะนำไปให้พี่แดนกับพี่แชริม ผมนั้นอยากรู้เหมือนกัน แต่เห็นว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของพี่กฤษที่จะซื้ออะไร แล้วไม่มีความจำเป็นต้องบอกผมหรือใครก็ได้

           “พลอยคิดว่าถ้าพี่กฤษอยากให้รู้ เค้าคงชวนเราไปซื้อเป็นเพื่อนแล้วล่ะค่ะ ถ้าเค้าไม่อยากให้รู้ พลอยก็ไม่คิดอยากจะสู่รู้เรื่องของพี่กฤษเค้าหรอกค่ะ ไม่ใช่ธุระอะไรของพลอย” น้องพลอยตอบพลางทำสายตาเหยียดหยามใส่พี่ทอง จนเจ้าตัวสะบัดหน้าหนีพลางทำเสียงจิ๊จ๊ะเหมือนโดนขัดใจ

           “เสร็จแล้วก็จ่ายเงินสิคะเจ๊...จะมานั่งคอแข็งอยู่ตรงนี้ทำไม” น้องพลอยว่าพี่ทองเข้าให้อีกรอบ เพราะเจ้าตัวเป็นคนบอกเองว่าจะออกเงินค่าของขวัญกับค่าห่อให้ก่อนว่าเท่าไร แล้วค่อยมาหารเงินกันอีกที พูดจบน้องพลอยก็จูงมือผมที่ไม่รู้จะพูดอะไรดี ออกมาข้างนอกเดินไปที่แผนกเสื้อผ้าชายโดยไม่รอพี่ทอง

           “ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านจริงๆ พี่สาวฉัน ผัวตัวเองก็ไม่ใช่ เมียเค้าเองยังไม่คิดอยากจะถามเอาสักคำ ว๊าย...เทพบุตร” น้องพลอยที่จูงมือผมผ่านเข้ามาในแผนกเสื้อผ้าชายพลางบ่นไปเรื่อย อุทานพร้อมหยุดเดินกะทันหัน จนผมที่ไม่ทันระวังชนเข้าอย่างจังจนเซกันไป

           “พะ...พี่กฤษ หล่อจังเลยค่ะ” น้องพลอยยังเหมือนไม่สนใจที่ผมเดินชน กลับพูดถึงคนรักของผมจนต้องเงยหน้ามองตาม พระเจ้า...พี่กฤษในชุดเสื้อกล้ามสีขาวสวมทับด้วยเสื้อคอวีผ้าถักบางๆ โปร่งๆ ซีทรูสีน้ำเงินเข้มขนาดพอดีตัวแขนยาว มองเห็นกล้ามได้รูปเนื้อชัดเจน แขนเสื้อรั้งขึ้นมาถึงข้อศอกทั้งสองข้างดูทะมัดทะแมง สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีขาวรัดรูป ร้องเท้าหุ้มข้อสีขาวขลิบแต่งด้วยหนังสีครีม หล่อมาก ยังกับนายแบบหลุดออกมาจากนิตยสาร

           “อ้าว...มาช้าจัง พี่กำลังลองชุดเพิ่มอีก เผื่อใส่ไปเที่ยวกลางคืนด้วย ชุดนี้พี่ใส่แล้วดีไหม” พี่กฤษอวดเสื้อที่สวมอยู่และเสื้อผ้าที่เลือกแล้วให้ดู มีเสื้อเชิ้ตสีฟ้าแขนสั้นลายกราฟฟิคตรงชายเสื้อ  เสื้อยืดสีสันสดใสอีกสองสามตัว กางเกงขาสั้นสีครีม กางเกงยีนส์แต่งลายขาดเท่ห์ๆ ดูแล้วสดใสกว่าทุกครั้งที่เคยเห็นมา ท่าทางยังมีแบรนด์อื่นอีกหลายชุดที่ซื้อมาก่อนหน้านี้แล้วด้วย สังเกตจากถุงกระดาษที่กองเอาไว้ข้างห้องลองเสื้อ

           “พี่กฤษหุ่นดีหน้าตาก็ดี ใส่อะไรก็ขึ้นหมดล่ะค่ะ เชื่อน้องพลอยเถอะค่ะ” น้องพลอยทำสีหน้าชวนฝันมองคนรักผมด้วยสายตาปลาบปลื้ม จนผมต้องปลื้มตาม เพราะเห็นด้วยทุกประการกับน้องพลอยจริงๆ แล้วอยู่ๆ คนรักก็เดินมาหาผมใกล้ๆ

           “แล้วน้องหยกว่ายังไงบ้างครับ พี่ใส่แบบนี้แล้วหล่อไหม” พี่กฤษพูดใกล้เสียจนผมรู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้า อายพนักงานแถวนั้นและน้องพลอยเหลือเกิน ท่าทางพนักงานก็เริ่มสนใจเราสองคนมากขึ้นแล้วด้วย ผมจึงต้องรีบพยักหน้าเร็วๆ ให้คนตรงหน้าพอใจกับคำตอบแล้วไปเปลี่ยนเสื้อเสียที

           “พี่กฤษซื้อมาเยอะจังเลยคะ จะโละเปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งตู้เลยหรือเปล่า แต่พลอยว่าเอาเสื้อเก่าของพี่กฤษไปแลกไข่ไก่ยังไม่รู้เลยว่าเค้าจะเอาหรือเปล่า เพราะมันเก่ามากจริงๆ คิกๆๆ” น้องพลอยที่เห็นคนรักผมถือถุงกระดาษจนเต็มสองมือ ก็แซวเข้าให้ด้วยความสนิทสนม ส่งเสียงหัวเราะคิกคักจนพี่กฤษยิ้มให้

           “พี่จะเอาไว้ใส่ไปเที่ยวเท่านั้นล่ะ ถ้าอยู่บ้านหรือทำงานพี่ก็ใส่ชุดเดิม ไม่ทิ้งหรอกเสียดายจะตาย นี่พี่ยังขาดเป้ไว้ใส่ของไปเที่ยวอีก เราไปช่วยพี่เลือกซื้อเป้เป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ นี่...แล้วเจ๊มันหายไปไหน” พี่กฤษชวนเราไปแผนกขายกระเป๋า แล้วถามหาพี่ทองจนผมก็เพิ่งรู้สึกว่าพี่ทองไม่อยู่กับเราจริงๆ ด้วย

           “โน่นไงคะ ยืนจีบพนักงานขายเสื้ออยู่โน่น อย่าไปสนใจเลยค่ะ เราไปซื้อของกันต่อเถอะ” น้องพลอยพูดแบบไม่ใส่ใจนัก ทำให้ผมรู้สึกสงสารคนที่จะมาเป็นแฟนพี่ทองเหลือเกิน ท่าทางจะเจ้าชู้ไม่เบาเหมือนกัน จะว่าไปใช่ว่าพี่ทองจะดูดีน้อยไปเสียที่ไหน หากพี่ทองไม่แสดงออกความเป็นเกย์สาวออกมาผมว่าสาวๆ แถวนี้ก็มองตามกันเกรียวอยู่เหมือนกัน

          เราสามคนไปเลือกซื้อเป้กับพี่กฤษเสร็จก็มาตามพี่ทองกลับบ้าน สองพี่ทองไปส่งผมที่บ้านพี่กฤษด้วยรถยนต์ก่อนเพื่อที่จะเอาของที่พี่กฤษซื้อมาลงมาเก็บไว้ที่บ้านก่อน จึงค่อยกลับไปเอารถมอเตอไซด์ที่โรงแรม เราทุกคนจดเบอร์โทรศัพท์มือถือเครื่องแรกของพี่กฤษไว้ในโทรศัพท์ แล้วตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะมาเจอกันที่โรงแรมเพื่อรอรถตู้พี่แดนนี่กับพี่แชริมมารับในตอนบ่าย แล้วก็แยกย้ายกันไปเพราะเริ่มจะมืดค่ำพอสมควร

          หลังจากกลับบ้านอาบน้ำเข้ามาในห้องนอนแล้ว พี่กฤษเปลี่ยนมาใช้ผ้าขนหนูผืนใหม่เช็ดตัว แต่ยังนุ่งผ้าขาวม้าอาบน้ำอยู่เลย แถมยังไม่ยอมเปลี่ยนเสื้อผ้า กลับลงมานั่งข้างผมที่เปลี่ยนชุดนอนเรียบร้อยแล้ว บอกว่าให้ผมสอนใช้อีเมล์และโทรศัพท์

           “อ้าว...แล้วไหนพี่กฤาบอกว่าจะให้คนขายโทรศัพท์สอนให้ไงครับ” ผมงง เพราะพี่กฤษพูดกับพวกเราตอนที่อยู่ในห้างแบบนั้น แล้วตอนนี้กลับมาให้ผมเป็นคนสอนให้ใช้โทรศัพท์ แม้ไม่ได้คิดที่จะจับผิด แต่ก็อดที่จะตั้งคำถามออกมาไม่ได้

           “ก็...ก็พอดีลูกค้าพี่เค้าเยอะน่ะ พี่ก็เลยรอไม่ไหวบอกว่าจะกลับมาให้หยกสอนแทนก็เลยไม่ได้รอให้เค้าสอนให้ไงครับ” พี่กฤษตอบมาแบบตะกุกตะกัก ทำให้ผมทราบทันทีว่าพี่กฤษเริ่มหัดที่จะโกหกผมเข้าแล้ว อีกอย่างทำให้เริ่มสงสัยว่าที่แอบไปซื้อของอะไรไม่ให้พวกเรารู้นั้น จะเอาไปให้ใคร

           “ก็ไม่ยากหรอกครับ พี่กฤษอยากใช้ชื่ออีเมล์ว่าอะไรก็เซทตรงนี้ แล้วก็นี่เป็นวิธีเมมเบอร์โทร เวลาโทรออกทำแบบนี้ เดี๋ยวหยกจะสอนใช้แอพที่จำเป็นก่อนทีละแอพเลยแล้วกันนะครับ” ผมเลี่ยงที่จะถามคนรัก เพราะไม่กล้า แต่ตกลงสอนการใช้โทรศัพท์ไปอย่างเป็นปกติ

          คิดว่าอย่างไรพี่กฤษไม่อยากบอกใครเรื่องแอบไปซื้อของก็ต้องมีเหตุผลส่วนตัว เหมือนที่น้องพลอยพูดเอาไว้ว่าถ้าพี่กฤษอยากบอกก็คงไม่ต้องแอบไปซื้อของคนเดียวแล้วล่ะ ยิ่งผมคิดมากกับเรื่องเล็กแค่นี้ ถ้าหากมีเรื่องใหญ่ในอนาคตผมจะรับมือไหวได้อย่างไร ผมจึงเลิกคิดทันที

          พอสอนการใช้โทรศัพท์เสร็จ พี่กฤษบอกผมว่ามีอะไรจะให้ดู เจ้าตัวลุกขึ้นยืนกลางห้องแล้วเอามือไปปลดปมผ้าขาวม้าให้ร่วงลงตรงหน้าผม อวดให้ดูกางเกงในตัวใหม่ที่ใส่อยู่ด้วย คนบ้าอะไร...ทำเอาใจหายหมด ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นพี่กฤษเปลือยต่อหน้า แต่ทำแบบนี้มันเกินคำบรรยาย ใจยังเต้นอยู่ดี แถมตอนนี้รู้สึกเหมือนตัวจะระเบิดออกมาเพราะความร้อนรุ่ม

          คนตัวใหญ่ทำท่าอย่างกับเด็กอนุบาลส่งการบ้านคุณครู เดินใส่กางเกงในตัวเดียวส่ายก้นวนรอบห้องให้ผมชมอยู่นั่นล่ะ ทำยังกับเป็นนายแบบแฟชั่นโชว์กางเกงใน แถมยังเปลี่ยนสวมให้ดูทุกแบบ ทุกสี ทุกแบรนด์ แต่ก็แอบตื่นเต้นเหมือนกันที่ได้เห็นแฟชั่นโชว์พิเศษแบบริงไซด์คนเดียวเท่านั้น
 
          ในคืนนี้ผมโดนคนรักนอนกอดเพียงอย่างเดียว เราไม่มีอะไรกันเพราะพี่กฤษบอกว่าตอนนี้เค้าเป็นเจ้าของที่ดินแล้ว บ้านนี้ก็เป็นชื่อของเค้า ฉะนั้นจะขอขึ้นค่าเช่าแล้วจะเก็บค่าเซ้งล่วงหน้ารวมกันที่หัวหินเลยทีเดียว ผมได้แต่ขำกับความคิดของคนรัก เพราะทราบดีแล้วว่าพี่กฤษเป็นคนทะลึ่ง คืนนี้เป็นคืนที่ผมฝันดีสุดๆ อีกคืน แค่ได้นอนกอดกันผมก็มีความสุขที่สุดแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2012 02:13:53 โดย AxCiO@ToToKeN »

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
นั่นแน่ๆ..แอบไปซื้อแหวนรึป่าวพี่กฤษ
รอรับฉากหวานที่หัวหินดีกว่า ฮิ้วววววว

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
กฤษต้องแอบซื้ออะไรไว้เซอร์ไพรหยกเเน่ๆเลย
แต่ท่าทางจะตื่นเต้นกับกางเกงในตัวเเรกน่ะเนี๊ย(ยุ่งกับกางเกงในเขาจริงๆเลย)
๕๕๕๕๕๕๕


totoken

  • บุคคลทั่วไป
ช่วงนี้อาจจะไม่ได้ตอบทุกเม้นต์แล้วนะครับ แต่ยังไงก็ยังอ่านทุกเม้นต์จริงๆ ครับ

ขอบคุรมากครับสำหรับPM หลังไมค์ที่ให้กำลังใจ และ เข้ามาถามไถ่เรื่องราวของนิยาย

รับรองว่าผมจะพยายามลงให้บ่อยๆ ครับ เพียงแต่ช่วงนี้คลินิกค่อนข้างยุ่งเพราะลูกค้าเยอะ

แต่ผมวางพล็อกเรื่องเอาไว้แล้ว คนอ่านบางคนก็เดาเก่งจริงๆ ครับ แต่ยังไม่มีใครเดาถูกทั้งหมด

เพราะก่อนเขียนผมร่างเรื่องราวคร่าวๆ เอาไว้แล้ว จะได้บรรยายในแต่ละตอนได้ละเอียดถูกต้อง

บางครั้งผมก็ต้องเข้าไปแก้ไขคำผิด และเนื้อเรื่องบางพารากราฟนิดหน่อย เพื่ออรรถรสเพิ่มเติม

หากเรื่องช่วงนี้มันจะยืดไปหน่อย เพียงเพราะตัวละครหลักยังออกไม่ครบเลยครับ บางปมยังไม่เกิด

ผมมีเหตุผลที่ดำเนินเนื้อเรื่องแบบนี้ เพราะจะได้เล่าที่มาที่ไปของเหตุการณ์ได้อย่างถูกต้องไม่วกวน

บางท่านอาจไม่พอใจที่เนื้อเรื่องดูอืด ไม่บอกเสียทีว่าปริศนาที่มีอยู่ตอนนี้จะคลี่คลายยังไง ขอให้ใจเย็นครับ

เพราะว่าผมตั้งใจจะให้มันคลายปมเรื่องที่ดินเอาตอนกลางเรื่องครับ เพราะว่าครึ่งเรื่องหลังยังมีอีกปมที่ผมวางไว้

ครึ่งหลังจะเป้นจุดเปลี่ยนแปลงชีวิตของพระเอกในเรื่อง และคนเล่าเรื่องก็จะกลายเป็นพระเอกของเรา

หากอยากได้ตอนพิเศษเป็นแบบไหน ผมตามใจผู้อ่านนะครับ เพราะบอกตรงๆ ว่าตอนพิเศษผมไม่ได้คิดไว้

อยากให้ช่วยแชร์ความคิดเห็นด้วยครับ ผมยินดีเอามาเป็นแนวการเขียน เพราะตอนพิเศษถือว่าเป็นเรื่องแถม

คาดว่าทุกท่านคงสนุกกับการอ่านนิยายเรื่องแรกของผมนะครับ วันนี้ดีใจมากเลยครับที่มีผู้อ่านเกินหมื่นคนแล้ว

ขอบคุณอีกครั้งครับ สำหรับกำลังใจที่มีมาให้กัน และยินดีมากที่เข้ามาพูดคุยกันในนี้ เป็นแรงผลักดันให้คนเขียนอย่างดีเลยครับ

 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:

little_nok

  • บุคคลทั่วไป
แอบลุ้น พี่กฤษซื้อแหวน หรือไม่ก็สร้อย ให้น้องหยก
เพื่อเป็นของหมั้นหมาย ต่อไปก็ต้องไปสู่ขอกับคุณป้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
อั๊ยย่ะ ตอนพิเศษของแบบหื่นๆ อิอิ เข้ากับอีพี่กฤษ ดีค่ะ อ่านตอนนี้แล้วแบบว่าจิ้นภาพตามมากมาย ถ้ามีคนมาใส่กกนเดินโชว์แบบนี้บ้างจริงๆก็คงดี :z1: :z1:

ออฟไลน์ vk_iupk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-2
ฮั่นแน่ พี่กฤษแอบไปซื้ออะไรทะลึ่งๆ มาใช้กับน้องหยกอ่ะเปล่า  :m12: :laugh3:

เอ ตอนพิเศษเนี่ย ขอแบบพี่กฤษงอลนู๋หยกหน่อยได้เปล่า
อยากเห็นนู๋หยกง้อ ว่าจะง้อแบบไหน o.O!!!

ป.ล. ตั้งใจทำงานนะค่ะ ร่ำๆ รวยๆ แล้วมาปล่อยให้นักอ่านกู้บ้าง o.O!!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-01-2012 21:54:20 โดย vk_iupk »

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
เป็นนิยายที่อ่านและเกิดอาหารหลอกหลอนหวาดกลัว

กลัวมาม่ามามิรู้ตัว (คนเขียส่ออออออออ) (คนอ่านเครียดดดดดดดดดด)


แต่สนุกมากคะ เป็นกำลังใจให้ ^,,^

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป
แหวนทองรึเปล่าน้อที่พี่กฤษไปซื้อมา

chai235

  • บุคคลทั่วไป
ตอบคำถามผู้เขียนนะครับ

ดำเนินเรื่องตามใจผู้เขียนเลยครับ

ผู้อ่านอย่างผม อาจหงุดหงิด ที่ไม่เคลียร์สักที แต่มันก็เป็นอรรถรสอย่างนึงที่ทำให้ติดตามตลอดครับ :o8:

ส่วนตอนพิเศษ บอกตรงๆ ส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ มันเหมือนซื้อ DVD หนังมาดูได้สักพัก ก็เร่งไปดูตอนจบของเรื่อง  :serius2: แล้วค่อยกลับมาดูใหม่ ผมชอบเป็นไปตามเรื่องไปเรื่อยๆ  อันนี้เฉพาะตอนพิเศษแบบเนื้อเรื่องในอนาคตอย่างหลายเรื่องๆใช้นะครับ ถ้ามีแบบนั้นส่วนใหญ่ผมข้ามไปมากกว่าไม่ค่อยอยากอ่าน ถ้าเป็นตอนพิเศษเรื่องในอดีต ก็โอเค

แต่ก็ต่างคนต่างความคิดครับ บางคนอาจจะชอบก็ได้

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 33 “กรหยก”
«ตอบ #315 เมื่อ15-01-2012 01:13:02 »

บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 33 “กรหยก”
ตาเรามีสองตา ก็ต่างสบตามองดูหน้ากัน มีปากอันเดียวคุยกันทั้งวัน ก็อยากใกล้ชิดกันมากกว่านี้ มือเรามีสองมือ จะกอดมือถือทำไมทั้งวัน ก็อยากแสดงเป็นคนรักกัน ก็มากอดฉันเบาๆซักที

          วันนี้ผมตื่นเช้าไปใส่บาตรกับครอบครัวพี่กฤษเหมือนเคย เราทานอาหารเช้าง่ายๆ วันนี้มีผัดผักแขนง กับไข่ผัดบวบใส่หมูสับ แล้วก็ปลาช่อนแดดเดียวทอด ทานกับข้าวต้ม รสชาติอร่อยเหมือนเคยเพราะเป็นฝีมือคุณยายของพี่กฤษทำ ฝีมือการทำอาหารตกทอดมาถึงพี่กฤษทำให้หลายๆ คนพลอยติดใจในรสมือพี่กฤษไปด้วย

          ผมกับพี่กฤษอาบน้ำเตรียมตัวจัดกระเป๋าสำหรับเดินทาง ผมสวมเสื้อยืดสีขาวพิมพ์หน้าอกเป็นแบรนด์กาแฟชื่อดังระดับโลก สวมกางเกงยีนส์ธรรมดา ส่วนพี่กฤษเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เป็นเสื้อเชิ้ตสีเขียวอ่อนแขนยาวพับแขนมาถึงข้อศอก ท่อนล่างสวมกางเกงยีนสสีซีดตัวใหม่ที่ป้ายราคายังไม่ทันได้ดึงออก ผมเห็นเข้าก็เลยขำแล้วไปช่วยดึงออกให้ ทำให้เจ้าตัวยืนเกาหัวแก้เขินที่มัวแต่เห่อกางเกงในใหม่จนลืมแกะป้ายราคาจากเสื้อผ้า

          พอเราเตรียมตัวเสร็จ ก็สะพายเป้ถือรองเท้าผ้าใบมาคนละคู่วางไว้ที่หน้าบันได แล้วเดินเข้าไปลาคุณตาคุณยายในบ้าน ท่านอวยพรขอให้เดินทางปลอดภัย ก่อนลงจากบ้านไปคุณตาฝากให้นำขนุนที่คุณยายแกะแช่เย็นเอาไว้ไปฝากเพื่อนๆ ทานด้วยกันระหว่างเดินทางด้วย คุณตาและคุณยายของพี่กฤษมีน้ำใจกับทุกคนเสมอ จากนั้นพวกผมก็รีบเดินทางมาที่โรงแรม “บ้านขนม”

           “สวัสดีค่ะพี่กฤษพี่หยก พี่ทองยังแต่งตัวไม่เสร็จค่ะสงสัยลองเสื้อผ้าแล้วเปลี่ยนเข้าเปลี่ยนออกอยู่นั่น” น้องพลอยทำหน้าเซ็งอยู่ที่ชุดรับแขกคนเดียว พร้อมกระเป๋าเดินทางแบบลากใบเล็กสีเทาเพียงแค่ใบเดียว วันนี้น้องพลอยดูน่ารักด้วยชุดเดรสสั้นกระโปรงระบายสามชั้นสีชมพูลายจุดสีขาว มีต่อช่วงอกเป็นสีขาวแขนสั้นขลิบระบายลูกไม้เล็กๆ เส้นผมถูกคาดด้วยแว่นกันแดดสีชาอันใหญ่ น้องพลอยสวมตุ้มหูและสร้อยลูกปัดสีขาวสลับชมพู เห็นแล้วเป็นสาวหวานขึ้นมาทันที

           “แล้วน้องพลอยรอนานแล้วเหรอ กินอะไรหรือยังล่ะ นี่ใกล้เที่ยงแล้วด้วย” พี่กฤษยังคงเป็นห่วงที่ทุกวันจะมีป้านวลมาเตรียมอาหารเช้าให้ แต่วันนี้เราปิดโรงแรมจึงไม่แน่ใจว่าจะมีใครเตรียมอาหารให้สองพี่น้องได้ทานกันในช่วงเช้า

           “ยังสิคะ นั่งท้องร้องรอพี่กฤษมาทำให้หนูกินนี่แหล่ะ แล้วไม่ต้องทำเผื่ออีเจ๊เลยนะ ถ้าทำเผื่อหนูโกรธจริงๆ ด้วย แต่งตัวนานเป็นชาติ นี่เมื่อคืนก็เตรียมของใส่กระเป๋าทั้งคืนเลยนะคะ สงสัยจะตื่นเต้นที่ได้เที่ยวกับผู้ชายหล่อๆ ทั้งนั้น” น้องพลอยพูดด้วยความหมั่นไส้พี่ชายสุดที่รัก ที่ตอนนี้ยังไม่มีวี่แววจะลงมาเลยด้วยซ้ำ

           “พี่ว่าเรากินข้าวเที่ยงกันเลยดีไหม หยกลองโทรไปถามพวกพี่แดนนี่ดูสิว่ากินอะไรกันมาหรือยัง พี่จะได้ทำเผื่อ กินให้อิ่มก่อนแล้วค่อยเดินทางจะได้ไม่ต้องแวะที่อื่น” พี่กฤษเสนอความคิดเห็นจบผมก็รีบกดโทรศัพท์หาพี่แชริมทันที คาดว่าป่านนี้คงกำลังเดินทางมารับพวกผมอยู่แล้ว

           “พี่แชริมครับ ถึงไหนกันแล้วครับ...อ๋อไม่ได้เร่งครับ ฮ่าๆๆ แค่จะถามว่าพวกพี่ทานข้าวเที่ยงกันมาหรือยัง หยกจะชวนทานข้าวเที่ยงกันก่อน แล้วค่อยเดินทางครับ...อ๋อ...ครับ...ครับ...ดีเลยครับ งั้นรีบมานะครับ เดี๋ยวเจอกันครับ” ผมคุยโทรศัพท์เสร็จก็เดินเข้าไปหาพี่กฤษที่เข้าไปในครัวโน่นแล้ว

           “พี่กฤษครับ พี่แดนนี่จะมาถึงอีกครึ่งชั่วโมงครับ แล้วจะทานข้าวด้วย ตกลงเค้าไม่มารถตู้แล้วครับ เพราะเพื่อนเค้าที่เหลือจะขับรถตามไปกันเอง พี่แดนเลยเอารถเจ็ดที่นั่งออกมาแทน” ผมบอกไปตามที่ได้คุยกับพี่แชริม เห็นพี่กฤษเตรียมของอยู่หน้าตู้เย็น ก็เดินเข้าไปช่วย

           “มีกิมจิซองที่คุณแม่น้องพลอยซื้อมาฝากจากที่ไปเที่ยวเกาหลีอยู่เยอะ พี่เคยอ่านวิธีทำข้าวผัดกิมจิมาแล้ว ลองทำดูดีไหม ไข่ดาวคนละฟอง แล้วก็แกงจืดเต้าหู้ใส่สาหร่ายเอาไว้ซดให้คล่องคออีกอย่างเนาะ” พี่กฤษนำเสนอข้าวผัดกิมจิ ผมเคยทานตอนที่อยู่อเมริกาหลายครั้ง เพราะพี่แชริมนั่นล่ะที่เป็นคนทำให้ผมทาน เลยพยักหน้าเห็นด้วยท่าทางพี่สาวผมคงจะชอบ

           “งั้นหยกเตรียมเครื่องให้นะครับ พี่กฤษต้มน้ำเตรียมทำแกงจืดได้เลยครับ” ผมช่วยพี่กฤษเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบที่จะทำอาหาร คอยเป็นลูกมือหยิบโน่นส่งนี้ ใช้เวลาประมาณหนึ่ง จนได้ยินเสียงพี่แชริมดังแว่วเข้ามาในครัวจึงออกไปดู ปล่อยให้พี่กฤษตักข้าวผัดใส่จานแล้วโปะไข่ดาวต่อไป

           “สวัสดีครับพี่แชริม พี่แดน พี่มาร์ท เพิ่งมาถึงใช่ไหมครับ กับข้าวเสร็จแล้วนั่งก่อนครับเดี๋ยวหยกยกออกมาให้...ไม่ต้องช่วยครับ หยกกับพี่กฤษสองคนก็ยกได้หมดแล้วครับ นั่งก่อนเถอะครับ” ผมทักทายจนพี่ทั้งสามรับไหว้แล้วทำท่าจะลุกขึ้นมาช่วยผมจึงต้องรีบห้ามแล้วขอตัวไปช่วยพี่กฤษต่อทันที

           “พี่กฤษขึ้นไปลากเจ๊หนูลงมาให้ที่สิคะ ป่านนี้แล้วยังไม่ลงมาเลย หลับต่อหรือเปล่าก็ไม่รู้” น้องพลอยที่เข้ามาเอาน้ำเย็นใส่ถาดไปเสิร์ฟแขกและเผื่อพวกผมด้วยนั้น บ่นให้พี่กฤษฟังด้วยความเบื่อหน่ายเต็มที

           “ได้เลยหนู เดี๋ยวเฮียจัดให้” พี่กฤษที่จัดข้าวผัดใส่ถาดเอาไว้สองถาดครบเจ็ดจานพร้อมแกงจืดเต้าหู้สาหร่ายถ้วยใหญ่เสร็จแล้ว ให้ผมช่วยยกไปหนึ่งถาดพร้อมถ้วยแบ่งแกงจืดเจ็ดใบ พอวางถาดลงบนโต๊ะทักทายทุกคนเสร็จก็รีบเดินขึ้นด้านบนอย่างรวดเร็ว จนได้ยินเสียงโครมครามแล้วเสียงกรีดร้องของเจ๊ทอง ตามมาด้วยเสียงด่าว่าพี่กฤษแล้วก็เงียบไป

           “หึหึ ท่าทางสนิทกันดีนะคะ...อุ๊ย...เพิ่งสังเกต ข้าวผัดกิมจิน่าทานมาก นี่ทำมาเอาใจพี่หรือเปล่าคะเนี่ยน้องหยก น่ารักจังเลย” พี่แชริมพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าปลื้มปิติ จนทุกคนต้องยิ้มตามไปด้วย ไม่นานพี่กฤษก็ลงมาบอกว่าให้พวกเราทานกันไปก่อนได้เลย เราทุกคนจึงลงมือทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย ผิดแต่หนุ่มอิตาเลี่ยนที่คอยแต่ชะเง้อมองไปที่บันได เหมือนกำลังรอใครบางคน

           “อาหารไม่ถูกปากเหรอครับคุณมาร์ท ผมทำอย่างอื่นให้ก็ได้นะครับ หรือว่าจะรอทานพร้อมกับใครอยู่หรือเปล่าครับ” พี่กฤษถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นคุณมาร์ตินไม่ยอมเริ่มทานอาหาร เอาแต่นั่งมองไปที่บันได ซึ่งผมเดาว่าพี่กฤษคงรู้แล้วล่ะ ว่าคุณมาร์ทกำลังรอใคร เพียงแต่แค่อยากแกล้งก็เท่านั้น

           “โน...ปล่าวครับ...ทานได้ครับ ผมทานได้ทุกอย่าง เอ่อ...คุณทองเค้าจะไปเที่ยวด้วยไหมครับ” หนุ่มอิตาเลี่ยนเอ่ยปากถามถึงคนที่มัวมองหาขึ้นมาจนได้ ผมแอบเห็นพี่กฤษขำก็เลยหยิกเข้าให้ที่แขนตรงใต้โต๊ะ จนคนตัวใหญ่สะดุ้งยกแขนขึ้นไปปัดถูกโต๊ะเสียงดัง จึงได้แต่ขอโทษทุกคนเบาๆ สมน้ำหน้าชอบแกล้งคนอื่นดีนัก

           “พี่ทองทำอะไรอยู่เหรอคะพี่กฤษ ทำไมถึงช้าขนาดนี้” น้องพลอยกระซิบถามพี่กฤษพอให้ได้ยินกันเบาๆ

           “หึหึ เดี๋ยวลงมาก็รู้เองล่ะ นั่นไงลงมาพอดีเลย ฮ่าๆๆ” พี่กฤษพูดจบพวกเราก็มองตามไปที่บันไดกันทุกคน ภาพที่เราเห็นคือพี่ทองมีใบหน้าบวมตุ่ย ตรงข้างแก้มและหน้าผากมีปื้นแดงเหมือนกับสภาพผิวหนังอักเสบ เดินหน้ามุ่ยลงมาข้างล่าง ทำเอาทุกคนเงียบมีแต่เพียงพี่กฤษที่ยังคงหัวเราะอยู่ในลำคอเบาๆ

           “คุณทอง หน้าไปโดนอะไรมาครับ” พี่มาร์ทถามคนแรกด้วยความห่วงใย แถมยังลุกพรวดพราดเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ให้อีก ส่วนผมเริ่มรู้สึกไม่ดีที่พี่กฤษยังหัวเราะเยาะเพื่อนก็เลยหันไปทำตาเขียวใส่ จนคนตัวใหญ่หุบยิ้มทันที รีบก้มหน้าก้มตาทานข้าวต่ออย่างรวดเร็ว

           “ท่าทางจะแพ้สารเคมีนะครับ ขอไบคาร์บอเนตสองช้อนผสมน้ำสักแก้วสิครับ ผมเห็นอาโรเวล่าตรงข้างหน้าทางเข้า ช่วยไปตัดมาให้ผมสักชิ้นได้ไหมครับ” คุณมาร์ตินทำหน้าเป็นห่วงพี่ทองพร้อมกับจ้องมองดูรอยผื่นแดงอย่างละเอียด หันมาสั่งใครสักคนให้ช่วยเตรียมอุปกรณ์บรรเทารอยแผลพี่ทองทันที พี่กฤษกับน้องพลอยยังทำหน้างง จนผมต้องบอกว่าน้ำผสมผงฟู กับว่านหางจระเข้จึงร้องอ้อวิ่งเข้าครัวไป

          พี่กฤษหยิบมีดอันเล็กออกไปข้างนอกไม่นานก็เข้ามาพร้อมว่านหางจระเข้หนึ่งก้านใหญ่ ผมรับเข้าไปในครัวล้างให้สะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง ปอกเปลือกออกแล้วปาดเป็นแผ่นหนาเรียงไว้ในจานนำไปให้คุณมาร์ตินด้านนอกที่กำลังใช้สำลีชุบน้ำผงฟูเช็ดไปตามใบหน้าพี่ทองซ้ำๆ จนเหมือนรอยแดงจะจางลงแล้ว คุณมาร์ตินก็นำว่านหางจระเข้มาแปะลงบนผิวที่มีรอยผื่นแดงจงๆ แล้วนำผ้าก็อตมาพันรั้งเอาไว้รอบกรอบหน้าพี่ทอง

           “เสร็จแล้วครับ วันนี้เย็นๆ คงดีขึ้นนะครับ สงสัยจะแพ้เครื่องสำอางนะครับ เวลาไปเที่ยวก็อย่าให้โดนแดดแรงนะครับ” คุณมาร์ทยิ้มระหว่างทำแผลให้พี่ทอง จนเจ้าตัวเริ่มออกอาการเขินที่มีคุณหมอรูปหล่อมาทำแผลให้อย่างใกล้ชิด อาการร้อนรนกังวลเรื่องแผลบนใบหน้าในตอนแรกหายเป็นปลิดทิ้งทันที

           “ทานข้าวกันดีกว่าครับ จะได้รีบออกเดินทาง” พี่แดนนี่ร้องเรียกให้พวกเรามาทานข้าว พร้อมกับส่งยิ้มยักคิ้วหลิ่วตาให้เพื่อนชายชาวอิตาเลี่ยนไปหนึ่งที คุณมาร์ทก็มีอาการเขินขึ้นมาบ้างเพราะใบหน้ามีอาการแดงซ่านเล็กน้อย แล้วก็ได้แต่นั่งอมยิ้มมองพี่ทองทานข้าวจนพี่แชริมทักจึงได้สติตักข้าวเข้าปากตัวเองบ้าง

           “เจ๊...เอ้ย..พี่ทองไปทำอะไรมา ทำไมหน้าถึงเป็นแบบนี้คะ” น้องพลอยทานข้าวเสร็จแล้วก็เปิดประเด็นตั้งคำถามให้พี่ทองอึกอักไม่กล้าเล่าให้ฟัง จนพี่กฤษหัวเราะก๊ากออกมาก็จ้องหน้าเขม็งเหมือนจะบอกความนัยว่าห้ามเล่าให้ใครฟังเด็ดขาด แล้วพี่กฤษก็ได้แต่หัวเราะหึหึในลำคอ

           “พร้อมแล้วก็ออกเดินทางเถอะครับ เดี๋ยวจะไปถึงที่นั่นเย็นเกินไป” พี่แดนนี่พูดหลังจากที่ช่วยกันเก็บกวาดโต๊ะอาหาร แล้วพี่แชริมกับน้องพลอยก็ช่วยกันล้างจานจนเสร็จ เราทุกคนก็ลากกระเป๋าไปยังที่จอดรถ พี่ทองเอากระเป๋าสัมภาระไปสามใบ มีเป้ กระเป๋าสะพาย และกระเป๋าลากไปอีกหนึ่งใบย่อม

           “ไอ้ทอง มึงจะย้ายบ้าน หรือจะไปอยู่ที่นั่นกี่ปี อ้อ...หรือมึงจะหนีตามเค้าไปอยู่อิตาลีวะ” พี่กฤษเห็นคุณมาร์ทที่ช่วยลากกระเป๋าและช่วยสะพายเป้ ให้พี่ทองถือแค่กระเป๋าสะพายข้างใบเดียว จึงกัดพี่ทองให้ต้องหันมาตวาดแว๊ดใส่พี่กฤษอย่างลืมตัว ท่าทางพี่ทองเวลาโกรธนี่จะหลุดสาวออกมาได้อย่างง่ายดายจริง

           “กูแยกกระเป๋าเสื้อผ้า กระเป๋าเครื่องสำอาง กระเป๋าโน้ตบุ๊ค ครบสามใบสวยๆ พอดี เยอะตรงไหนยะ” พี่ทองยังเถียงออกมา เราทุกคนจึงได้ขำเวลาพี่ทองกับพี่กฤษทะเลาะกัน เพราะแต่ละคนไม่ยอมกันเลยจริงๆ คุณมาร์ทก็ไม่มีทีท่าว่าจะบ่น กลับยินดีช่วยยกกระเป๋าขึ้นรถให้อย่างเต็มใจ

          พี่แดนนี่เป็นคนขับรถมีพี่แชริมนั่งข้างคนขับ ถัดมาผมกับพี่กฤษจะนั่งคู่กันตรงกลางรถ ส่วนที่นั่งด้านหลังน้องพลอยนั่งริมในให้พี่ทองนั่งกลาง แล้วก็ตามด้วยคุณมาร์ทที่ยังคอยดูแลสภาพแผลบนใบหน้าของพี่ทองอยู่เป็นระยะตลอดทาง พวกเราพูดคุยกันเรื่อยเปื่อย เอาขนุนที่คุณตาฝากมาแบ่งกันทานในรถ เคล้าเสียงเพลงสากลเบาๆ ที่พี่แดนนี่เปิดระหว่างขับรถ

          เราไม่ได้แวะเติมน้ำมันจนกระทั่งถึงหัวหิน เลี้ยวเข้าโรงแรมแบรนด์ชื่อดังที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก โรงแรมมีชายหาดส่วนตัวด้านสุดหาดพอดี แลดูเป็นส่วนตัวไม่มีคนพลุกพล่านนอกจากแขกภายในโรงแรมเท่านั้น เราเข้าไปจอดรถด้านหน้าก็มีพนักงานมารับกุญแจ และนำรถเข็นสัมภาระมาถ่ายกระเป๋าออกจากท้ายรถ

          พี่แชริมพาเราเดินเข้ามาด้านในให้นั่งรอที่โซนรับแขก ส่วนเจ้าตัวไปยืนหน้าล็อบบี้พนักงานทุกคนกล่าวสวัสดี ใช้เวลาเพียงชั่วครู่ก็ได้กุญแจการ์ดมาสี่ใบ ยื่นให้พี่กฤษ คุณมาร์ท และน้องพลอย แล้วก็พาเราเดินไปที่รถเข็นกระเป๋าเพื่อคล้องหมายเลขห้องติดไว้ที่หูกระเป๋าให้พนักงานนำไปส่ง

           “เอ่อ...คือ คุณทองครับ คุณทอง...นอนห้องผมก็ได้นะครับ จะได้ช่วยดูแผลให้ด้วยดีไหมครับ” คุณมาร์ทที่ช่วยนำผ้าก็อตและว่านหางจระเข้ออกจากใบห้าพี่ทองแล้ว ยังยืนเกาหัวเก้ๆ กังๆ อยู่สักพัก ก็เอ่ยปากถามเหมือนคนขาดความมั่นใจ ทำเอาพวกเราอมยิ้มกันถ้วนหน้าไม่อยากจะพูดอะไร ปล่อยให้พี่ทองเป็นคนตัดสินใจเอาเอง

           “เอ่อ...ก็ดีเหมือนกันครับ นอนกับน้องสาวเป็นผู้หญิงคงไม่ค่อยสะดวกเท่าไรนะครับ” พอพี่ทองพูดขึ้นมาเท่านั้น น้องพลอยก็หันขวับมามองหน้าทำตาโตแล้วทำปากขมุบขมิบอ่านได้ชัดเจนเลยว่า “ผู้หญิงเหมือนกันย่ะ” ทำเอาพี่ทองต้องเม้มปากแล้วถลึงตาใส่น้องพลอยที่กลั้นหัวเราะเดินหนีไปหน้าลิฟต์เสียแล้ว

           “ถ้างั้นเราลงมาเจอกันที่ล็อบบี้ตอนหกโมงเย็น ผมจะพาไปเดินเล่นกันที่เดอะ ซิเคด้า มาร์เก็ตกันนะครับ ไปหาอะไรทานกันที่นั่นเลยดีไหมครับ” พี่แดนนี่เสนอขึ้นมาระหว่างที่อยู่ในลิฟต์ ผมยังไงก็ได้อยู่แล้วจึงพยักหน้าตอบไป และทุกคนก็เหมือนจะเห็นด้วย พอลิฟต์มาถึงชั้นบนสุดทุกคนจึงแยกย้ายกันเข้าห้อง

          ภายในห้องพักตกแต่งแบบทันสมัยมีสไตล์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใช้แสงสีและวัสดุไม้เคลือบเงา ค่อนไปทางหรูหราอลังการ โดยผสมผสานเอาความโดดเด่นของสถานที่ และการตกแต่งอย่างมีระดับมารวมกันไว้ได้อย่างลงตัว โดยตัวห้องแยกโซนระหว่างห้องรับแขก ห้องทานอาหารที่เหมือนเป็นห้องประชุมภายในตัว และห้องนอน ทุกห้องปูด้วยพื้นพรมหนานุ่มสีครีม ผนังประดับด้วยรูปภาพ และมุมห้องมีดอกไม้สดช่อใหญ่ที่ได้รับการจัดตกแต่งอย่างสวยงาม

          ภายในห้องรับแขกติดกับส่วนทานอาหารได้เตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ให้บริการอย่างครบครัน มีทั้งโทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่ ตู้เย็น มินิบาร์ เครื่องทำกาแฟ ส่วนห้องนอนมีระบบควบคุมแสงและเสียงภายในห้องที่หัวเตียง โทรทัศน์จอแบนขนาดใหญ่อีกเครื่อง เครื่องเป่าผม ตู้เซฟนิรภัย มุมโต๊ะทำงาน อีกทั้งระเบียงส่วนตัว พร้อมเตียงอาบแดดที่สามารถชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของท้องทะเลได้อย่างกว้างไกล

           “พี่กฤษอาบน้ำก่อนไหม หรือค่อยอาบตอนเย็นเลยทีเดียว” ผมถามคนตัวใหญ่ที่เข้ามาในห้องได้ก็กระโดดขึ้นเตียงนอนกางแขนกางขาเสียเต็มเตียงเลยทีเดียว ท่าทางเหมือนเด็กๆ ที่ไม่เคยได้นอนเตียงใหญ่ขนาดนี้มาก่อน แถมยังกอดหมอนแล้วกลิ้งตัวไปมาเสียน่าเอ็นดู เอ๊ะ...เพิ่งสังเกตว่ามันเป็นเตียงเดี่ยวคิงไซน์ ไม่ใช่เตียงทวินเหมือนห้องทั่วไป นี่พี่แชริมเป็นคนจัดการแน่ๆ เลย

           “พี่ว่าค่อยกลับมาอาบดีกว่า เตียงใหญ่แล้วก็นุ่มมากเลย หยกมานอนตรงนี้สิครับ” พี่กฤษเอามือตบที่ว่างข้างตัวปั๊บๆ ให้ผมล้มตัวลงมานอนข้างๆ แล้วก็ก้มลงมาหอมแก้มใสของผมฟอดใหญ่ก่อนจะกอดผมไว้แน่น เรามองหน้ากันสักครู่แล้วก็ประกบริมฝีปากแลกลิ้นจูบกันดูดดื่ม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2012 02:35:22 โดย AxCiO@ToToKeN »

ออฟไลน์ vk_iupk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-2
นักอ่าน เลือดหมดตัวแน่ๆ งานนี้  :z1: :m25:

ออฟไลน์ wasawath

  • เด็กดีบนโลกที่ว่างเปล่า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เลือดหมดตัว แน่งานนี้

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
โอ๊ะ โอ พี่ทองมีหมอส่วนตัวด้วย อยากรู้อะพี่ทองไปทำไรมา ทำไมหน้าเป็นผื่น อิอิ

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป
มีท่าว่าพี่ทองกับพี่หยกจะไม่รอด พี่กฤษอย่าเก็บค่าเช่านะพี่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยพี่ทองคงจะโบกเครื่องสำอาง
เพื่อพี่มาร์ท
แต่ท่าจะผิดสูตรน่ะเนี๊ย

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
เพิ่งเข้ามาอ่านครั้งแรกค่ะ อ่านรวดเดียวเลย

สนุกมากค่ะ ชอบเวลาพี่ทองกับพีกฤษทะเลาะกันน่ารักดี :o8:

 :L2: :L2:


ออฟไลน์ lidelia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1

PotaeMunmun

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ
ก่อนอื่นต้องขอบคุณผู้เขียนมากครับ ที่นำเสนอเรื่องราวสนุกสนาน มาให้ได้
อ่านกันครับ เนื้อหาสนุกและน่าติดตามมากเลยครับ วันนี้ก็เข้ามาอ่านต่อจากคราวที่แล้วครับ  o13
อ่านแล้วก็อด อมยิ้ม รู้สึก และรับรู้ ไปตามตัวละครไม่ได้เลยครับ เรียกว่า อ่านกันจนเพลิน ทีเดียวครับ  :o8:
ก็จะเป็นกำลังใจ ให้กับผู้เขียน ละมาคอยรอลุ้นตอนต่อไปอยู่อย่างสม่ำเสมอครับ ในที่สุด
ก็ทำให้ "หัวใจพองโต อีกแล้ว"    :man1:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
ไงต่อ ไงต่อออออออออออออออออออออออออ

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 34 “กรหยก”
«ตอบ #325 เมื่อ15-01-2012 17:22:11 »

บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 34 “กรหยก”
เอามาเลย เอาไฟของเธอมาเลย จุดไฟที่ใจกันเลย ให้มันร้อนแรงจนละลาย เอามาเลย เอาไฟรักเธอมาลน ให้มันลุกลามในใจ ให้มันละลายกันไปเลย

           “กริ๊ง...” เสียงกริ่งดังที่หน้าห้อง เหมือนสัญญาณช่วยให้คนตัวใหญ่ผละออกจากร่างกายผม เพื่อเดินไปเปิดประตูรับเอากระเป๋าเข้ามาเก็บภายในห้อง ยังไม่ทันที่จะได้ถามหรือพูดอะไร พี่กฤษก็โถมตัวเขามากอดรัดฟัดผมด้วยความหื่นกระหาย

           “พี่กฤษอย่าเพิ่งสิครับ...ฮือออ อือออ” ผมต้องหันหนีใบหน้าคมสันที่แนบเข้ามาซุกไซร้เรื่อยลงมาถึงซอกคอ สองมือทั้งผลักทั้งยันไหล่หนา หากแต่ไม่เป็นผล คิดตอนแรกว่าอยากจะกอดเพียงอย่างเดียว ไม่นึกว่าจะเลยเถิดถึงขนาดนี้ สัมผัสร้อนจากริมฝีปากหนาของคนรักพร่างพรมจูบไปทั่วร่างผมจนเริ่มสับสน มารู้ตัวอีกทีเมื่อคนตัวใหญ่ที่พลิกตัวขึ้นมาทาบทับ

          พี่กฤษเลิกชายเสื้อยืดผมขึ้นจนถึงคอ ก้มลงลากปลายลิ้นร้อนลุ่มโลมเลียไปตามเนินอก แล้ววกไปขบเม้มยอดปลายอกจนผมสะดุ้ง แต่สายตายังจับจ้องมาที่ดวงหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเสียวกระสันของผม ราวกำลังทดสอบปฏิกิริยา ความเสียวสะท้านทำเอาผมต้องแอ่นแผ่นหลังบางสะท้านเยือก

           “พะ...พี่กฤษ...อย่าเพิ่งครับ ซี๊ดดด” ร่างสูงยังคงไม่สนใจเสียงอ้อนวอนเลยแม้แต่น้อย เขากลับคิดถึงวิธีการมากมายที่จะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นเสียงคราง มือหยาบกระชากทั้งยีนส์และชั้นในของผมออกรวดเดียวจนเปล่าเปลือย ลมหายใจอุ่นๆ รดรินไปทั่วกายผม ประกอบกับการเล้าโลมที่ไร้ความอ่อนโยนเกินความคาดหมาย ความกระสันเริ่มก่ออารมณ์ปั่นป่วนให้ผมเสียแล้ว

          มันยากจะอธิบายเมื่อทุกครั้งที่บิดกายเพราะความเสียวจนร่างไหวสะท้าน สัมผัสจากฝ่ามือหนาและริมฝีปากปากรุ่มร้อนของคนข้างบน ปลายลิ้นอุ่นชื่นคอยย้อนกลับมาหยกล้อกับยอดอกทั้งสองข้างของผม สลับกันไปมาแบบนี้ บัดนี้ส่วนกลางลำตัวของผมที่แข็งขืนมาตั้งแต่โดนเล้าโลมในช่วงแรก เริ่มมีอาการกระตุกด้วยความเสียวจนถึงกับปล่อยหยาดหยดใสเยิ้มไหลออกมาเป็นทางยาวบนหน้าท้อง

           “อาาา...พี่...กฤษ หยกเสียวนะครับ...ซี๊ดดด ฮาาา” เสียงหอบเครือที่ผมพยายามอดกลั้นอย่างสุดความสามารถสร้างความสนุกสนานให้กับคนข้างบนมากทีเดียว การตอบสนองที่ไร้เดียงสาด้วยอาการด้อยประสบกามของผมทำให้พี่กฤษยิ้มกริ่ม ปรนเปรอความกระสันให้ผมได้บิดร่างเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงไปมา

           “อา...” ผมถึงกับต้องหลับตาพริ้ม หลุดเสียงครางค่อนข้างดัง เมื่อปลายลิ้นช่ำชองไล่หยอกมาถึงร่องสะดือ รวมทั้งมือข้างหนึ่งที่กอบกุมเล้าโลมไปตามความยาวตามอาการตั้งชันของผม บ่อยครั้งที่แกล้งเฉี่ยวไปรูดรั้งโดนส่วนปลายที่อ่อนไหวทำเอาสะท้านเฮือกไปทั้งร่างด้วยความเสียวสยิวสุดตัว ผิวแก้มแดงก่ำด้วยความอับอายด้วยรู้ว่าเริ่มตื่นตัวจนเต็มที่ และแทบจะอดกลั้นต่อไปไมไหวเสียแล้ว

           “ฮ่ะ...อาาา พี่กฤษมันสกปรก หยก...ยัง...ไม่อาบน้ำ” ต้นขาขาวเรียวของผมต้องเกร็งสั่นเมื่อปลายลิ้นที่เปียกชื้นไล้เลียลงไปกลางหว่างขาตรงๆ อาการตอบรับแอ่นสะท้านของร่างกายเด่นชัดขึ้นไปอีก ยิ่งร่างสูงตวัดลิ้นรับมันเข้าไว้ในโพรงปากอุ่นร้อน จนผมต้องงอตัวเกร็งด้วยความเสียว สองมือที่กำขยำผ้าปูที่นอนต้องรีบยกมากอบกุมศีรษะคนรักเอาไว้แน่น

          พี่กฤษที่ดูจะไม่ค่อยชำนาญในการทำรักด้วยปากในช่วงแรก มีสะดุดโดนฟันกระทบเข้ากับส่วนผิวหนังอ่อนนุ่มของผมให้ได้สะดุ้งด้วยความเจ็บบ้าง แต่คนรักของผมก็พยายามเรียนรู้ และปรับปรุงปรนเปรอความต้องการให้ผมอย่างรวดเร็ว จนเริ่มรู้สึกถึงความชำนาญในช่วงเวลาการฝึกระยะสั้น

           “ซี๊ดดด...พี่กฤษ อาาา หยกจะออกมาแล้วนะครับ” ผมร้องบอกคนรัก แต่กลับยิ่งอยากกรีดร้องให้สุดเสียง หากเพราะหนุ่มหล่อข้างบนกลับหนักไปทางหยอกล้อกลั่นแกล้งเร่งกระชับริมฝีปากอุ่นร้อน จนผมต้องหลับตาแน่น หายใจหอบถี่ด้วยความซ่านเสียวระคนทรมาน จนต้องบิดร่างกายไปมาเพื่อบรรเทาความกระสัน ฝ่ามือของผมขยี้ศีรษะคนรักจนยุ่งเหยิงไปหมด

          ผมทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้วด้วยอาการสั่นสะท้าน จึงแยกขาออกอย่างยินยอมด้วยไมรู้ตัว  พลางแอ่นเอวขึ้นรับริมฝีปากร้อนของร่างสูงอย่างต้องการ พี่กฤษจึงหยุดอมแก่นกายผมคาไว้แต่ใช้วิธีกลืนน้ำลายเพื่อให้ลำคอตอดรับลำยาวของผมเบาๆ ให้เสียวกระสันขั้นพอทนรับไหวเพื่อผ่อนอารมณ์ผมให้ช้าลงเพียงสักพัก

          ไม่นานคนรักก็เริ่มใช้ลิ้นเปียกร้อนของตนเอง วนคลึงส่วนปลายบานภายในปากตนเองอย่างเชื่องช้า แต่หนักแน่นขึ้น สลับกับการดูดดุนแกนลำของผมนั้นจนสมใจอยาก  คนรักของผมค่อยๆ รูดดึงส่วนหนังหุ้มปลายตามแกนร้อนด้วยการกระชับริมฝีปากตั้งแต่โคนจรดปลายขึ้นลงช้าๆ เมื่อความเร็วในการรูดรั้งส่วนหนังโดยไม่ใช้มือเพิ่มขึ้น ประกอบกับการวนเวียนทำซ้ำทำให้เสียวซ่านจนต้องร้องครางออกมาอย่างทรมาน

           “อะ...พะ...พี่กฤษครับ...อ๊า...จะ...เสร็จแล้ว...อื้อ...อะ...อ๊าาา...”  เสียงครางสุดท้ายก่อนร่างผมจะแอ่นตัวเกร็งดันตัวเองเข้าไปสุดความยาวเข้าปากคนรัก กระฉูดน้ำรักอุ่นร้อนด้วยปริมาณมากมายหลายละลอกเข้าสู่โพรงปากของผู้กระทำ   ร่างสูงหลับตาอมของเหลวนั้นเอาไว้ในปากประกอบกับเสียงสะอึก จนมีปากส่วนทะลักย้อนไหลออกมาตามแรงโน้มถ่วงลงสู่กลุ่มไหมบางตรงโคนลำที่หน้าท้องของผม ผมยังคงกระตุกเกร็งด้วยความเสียวสะท้านอีกสามสี่ครั้ง หอบหายใจเฮือกใหญ่ล้มตัวลงนอนแผ่อย่างหมดแรง

           “พี่กฤษทำอะไรน่ะ...คายออกมาครับ มันสกปรก” ผมลืมตามองคนรักก็เห็นภาพที่ต้องเสียวสะท้าน เพราะพี่กฤษกำลังหลับตาพยายามขย้อนกลืนน้ำรักปริมาณมากมาย ที่ยังอมไว้อยู่ในปากเมื่อครู่ให้ไหลเข้าไปในลำคอหลายอึกจนหมด ผมรีบลุกขึ้นไปตะกองกอดกระชับคนรัก ประทับจูบดูดดื่มจนได้กลิ่นคาวคลุ้งในโพรงปากของพี่กฤษ

          ผมกวาดลิ้นเลียร่องรอยน้ำรักของตัวเองในโพรงปากของพี่กฤษที่คงค้างอยู่จนหมด จากนั้นจึงผละปากมาไล้เลียส่วนที่ไหลย้อยตรงมุมปาก ผมพรมจูบไปทั่วใบหน้าพี่กฤษ รู้สึกถึงความรักและความเสียสละของคนตรงหน้าอย่างที่สุด เพียงเพื่อให้ผมได้รับรสชาติที่สุขสมถึงขนาดนี้

           “พี่รักหยกนะครับ” คำกระซิบที่ข้างหูทำให้ผมต้องยิ้มออกมา พี่กฤษถอดเสื้อกางเกง และกางเกงในออกจนตัวเปลือยเปล่า เราล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้าง พี่กฤษหันมากอดแนบส่วนแข็งขืนเป็นแท่งอวบหนาร้อนรุ่มยาวเกือบถึงสะดือ สัมผัสบดเบียดอยู่ตรงหน้าท้องผม พร้อมเผยอริมฝีปากอิ่มขึ้นรอรับจุมพิตแสนหวานของผมอย่างแนบแน่น

           “หยกครับ...พี่กฤษรักหยกที่สุดในโลกนะครับ อย่าทิ้งพี่ไปไหนนะครับ” พี่กฤษจูบเปลือกตาผมเบาๆ ก่อนจะเอ่ยคำบอกรักที่จุดชนวนให้อารมณ์รักคุกกรุ่นขึ้นอีกครั้ง

           “พี่คิดว่าหยก...จะไปไหนรอดเหรอครับ ตอนนี้หยกหลงพี่กฤษรูปหล่อคนนี้จะแย่แล้วครับ” ผมจ้องลงไปในนัยน์ตาคนรักสื่อความหมายให้รู้เป็นนัย แฝงไว้ด้วยความเสน่หาและความต้องการที่ยังไม่รู้จักพอ ถึงแม้จะเป็นคนพูดคำหวานใส่ แต่ตัวผมเองก็ยังอดใจเต้นไม่ได้ เมื่อเห็นแววตาที่บ่อบอกถึงความปรารถนาจ้องตอบกลับมามองผม

          เมื่อพี่กฤษพลิกร่างหนากำยำได้สัดส่วนขึ้นทาบทับบนตัวผม ร่างกายผมจึงตอบสนองด้วยการยกสองแขนขึ้นโอบกอดรอบลำคอแกร่งของคนรักให้โน้มลงมาหา ผมหลับตาพริ้มด้วยคำหวานของคนรัก คำพูดแสนวาบหวามที่พร่ำบอกไม่หยุดจนทำให้ร่างกายอ่อนระทดระทวยไปทั้งร่าง

           “งั้นพี่จะทำให้หยกทั้งหลงทั้งรักพี่ จนไม่กล้ามองใครอีกเลยนอกจากพี่ดีไหม” ใบหน้าหล่อเหลาของพี่กฤษเต็มไปด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ที่ผมลืมตาเห็นเพียงแวบเดียวก็ต้องรีบหลบสายตาด้วยความเขินอายไปด้านข้าง พี่กฤษพลางฉวยโอกาสหอมแก้มนวลใสของผมอีกฟอดใหญ่ แต่พอลดใบหน้ากดปลายจมูกลงมาที่หัวไหล่ ผมก็รีบขยับกายหนีพร้อมกับดันหน้าคนรักออกเบาๆ

           “พอเลยครับ อย่างเมื่อกี้ยังแกล้งหยกไม่พออีกเหรอครับ” ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา ผมก็ยิ่งชาวาบไปทั้งใบหน้า ฝ่ามือพี่กฤษยังสัมผัสลูบไล้ทั่วเรือนร่างผม ทำให้ร่างกายของผมร้อนรนคล้ายกำลังถูกหลอมละลายก็ไม่ปาน

           “เมื้อกี้พี่ไม่ได้แกล้งหยกเลยนะครับ พี่ทำให้หยกด้วยหัวใจ ด้วยความรักที่พี่มีให้กับหยกต่างหากล่ะ” พี่กฤษหยุดมือที่กำลังลูบไล้ไปทั่วร่างผม จับศีรษะผมให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา คนตัวใหญ่ยังอมยิ้มพร้อมกับฉวยมือเรียวขาวเนียนของผมไปหอม ประทับจูบ และหงายฝ่ามือผมถูไถลูบไล้ไปแก้มตนเองไปมาเบาๆ

           “พี่กฤษ...” ผมเรียกคนรักเสียงแผ่วเบา พยายามดึงมือตัวเองออกมาจากการเชยชมด้วยความสะท้านอาย จนคนตัวใหญ่ยอมปล่อยมือ แต่สองมือหนากลับมาจับประคองที่หัวไหล่ของผมแทน ทว่าไม่ได้หยุดนิ่งอยู่เพียงแค่นั้น ฝ่ามือร้อนผะผ่าวลูบไล้จากหัวไหล่กลมมนขึ้นไปจนถึงลำคอเรียวยาวของผม ก่อนจะประคองสองแก้มให้ผมแหงนเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน ปลายนิ้วหัวแม่มือไล้ไปมาแผ่วๆ ที่แก้มนุ่มนวลเนียนนั้นอย่างแผ่วเบา

           “พี่รักหยก...” พี่กฤษบอกรักผมด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม แล้วประทับจุมพิตพลิ้วแผ่วลงไปบนริมฝีปากบางที่เผยอน้อยๆ สอดแทรกลิ้นอุ่นเข้าไปทักทายทั่วอาณาบริเวณที่อ่อนนุ่มหอมหวาน กวัดเกี่ยวนวดเน้นลิ้มรสละมุนจากลิ้นน้อยๆ ของผมที่ต้อนรับการมาเยือนของคนรักอย่างเต็มอกเต็มใจ

          เรียวปากอุ่นชื้นของคนรักผละลงมาที่ลำคอผม ผิวเนื้อเนียนตามไรผมของพี่กฤษหอมกลิ่นเหงื่ออ่อนๆ ช่างยวนเย้า จนผมอดใจไม่ได้ที่จะฝังปลายจมูกโด่งเคล้าคลอสูดกลิ่นสดชื่นนั้นอย่างเพลิดเพลินเช่นกัน ริมฝีปากของเราต่างโลมไล้สัมผัสกันและกันอย่างไม่หยุดหย่อน

          ผมพลิกตัวเองขึ้นมาอยู่ด้านบนเพื่อยากจะเป็นฝ่ายรุกคนรักเองบ้าง พรมจูบไปทั่วตรงหน้าผากกว้างขมับ แก้ม และลำคอ ดวงตาของพี่กฤษหรี่ปรือ เพียงการเล้าโลมเล็กน้อยคนตัวใหญ่ก็พร้อมจะเคลิบเคลิ้มไปกับผม ผิวกายหนาแกร่งร้อนผ่าว ความต้องการภายในเรียกร้องเพื่อรอรับการเติมเต็มที่แสนหวาน

          ฝ่ามือผมเลื่อนไล้ผ่านเนินอกนูนเนียนขาวตัดกับสีผิวภายนอกที่โดนแดดเผาจนเป็นสีทองแดง ผมโน้มใบหน้าเข้าไปเกลือกกลิ้งสูดดมผิวกายกำยำ ก่อนจะขบเม้มเบาๆ ที่เม็ดทับทิมสีแดงสวยที่ประดับอยู่บนปลายยอด ส่งปลายลิ้นออกมาสัมผัสดูดดื่มมันจนคนรักเริ่มส่งเสียงครางเบาๆ

          ร่างแกร่งเริ่มมีอาการเนื้อตัวสั่นสะท้าน หวามวาบจนเริ่มหายใจหอบ กล้ามอกสวยสองข้างถูกครอบครองด้วยปากข้างหนึ่งของผม ด้วยมือที่กำลังนวดเฟ้นอีกข้างหนึ่ง สองมือหนาของพี่กฤษจึงยกขึ้นวางบนบ่าผมเพื่อหาที่จับยึด เหมือนกลัวจะหมดสิ้นเรี่ยวแรง ผมจึงลุกโหย่งตัวขึ้นไปคร่อมอยู่บนร่างกายคนรัก ก้มลงจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากของคนตัวใหญ่ ก่อนจะลดระดับใบหน้าต่ำลงมาที่เรือนร่างหนาแกร่งกำยำอันน่าหลงใหลอีกครั้ง

          ผมส่งริมฝีปากร้อนระอุประทับจูบโลมเร้าไล่ต่ำลงมา จนถึงหน้าท้องแบนเต็มไปด้วยกล้ามท้องนูนเป็นลูกระนาด และยังเคลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ ฝ่ามือผมเลื้อยลูบไล้ไปบนพงหญ้าหนารกทึบรอบท่อนลำแกร่งอวบหนาส่งผ่านความร้อนรุ่มเต้นกระตุบเป็นจังหวะ ผมคว้าหมับอยู่ในฝ่ามือเป็นที่เรียบร้อยจนคนข้างล่างสะดุ้ง

           “อื๊อออ...ซี๊ดดด” เสียงครวญครางดังขึ้น เมื่อผมจรดปลายลิ้นเรียวสอดลงรูที่ใจกลางส่วนปลายบาน พร้อมกับดันขาสองข้างของคนรักให้กางออกทีละน้อย รสสัมผัสเสียวปลาบจากปลายลิ้นอุ่นที่ไล้เลียกรีดขึ้นลงตามลำอวบยาวลากขึ้นลงช้าๆ ทำให้คนรักแทบคลั่ง ยิ่งผมส่งปลายลิ้นดุนดันช่วงรอยต่อตรงปลายบานที่ค่อนข้างไวต่อความรู้สึก คนรักก็ยิ่งครางดังขึ้นอย่างสุดจะทน

          มวลความซ่านกระสันไหลวนจากส่วนอ่อนไหว ขึ้นมาถึงท้องน้อยเพียงสังเกตได้จากอาการเกร็งจนเห็นระลอกคลื่นกล้ามเนื้อหน้าท้องนูนเด่นชัดเจนขึ้น รู้สึกได้ว่าลำแกร่งที่แข็งขืนจนกำไม่รอบกำลังสั่นระริก ด้วยอาการระเริงรสรักที่ผมกำลังปรนเปรอ

          ผมยังคงตวัดลิ้นโลมเลียน้ำหวานใสที่ทยอยซึมออกมาจากรูตรงส่วนปลายลำอย่างเพลิดเพลิน ยิ่งได้ยินเสียงครางของคนรักก็ยิ่งฮึกเหิม ใช้หัวแม่มือบีบบี้ส่วนปลายบานเบาๆ ให้รูเปิดกว้างแล้วละเลงลิ้นรัวเร็วเข้าออกสลับกับกระตุ้นถุงหุ้มแหล่งผลิตน้ำเชื้อสีชมพูสดสวยข้างล่าง ที่หดตัวขึ้นลงตามจังหวะอาการเกร็ง

          ผมละใบหน้าออกจากส่วนกลางลำตัวของคนรัก เตรียมพร้อมจะปลดปล่อยตนเองบ้าง ด้วยการลุกไปหยิบเจลหล่อลื่นจากกระเป๋าเป้ กลับมาที่เตียงแล้วยันกายแกร่งลุกขึ้นนั่งคร่อมบนตัวคนรัก บีบเจลลงฝ่ามือลูบไล้ไปทั่วท่อนลำอวบแกร่งจนเจ้าของต้องซี๊ดปากออกมาด้วยความเสียว จากนั้นก็สอดนิ้วเข้าไปในช่องทางตัวเองเพื่อเพิ่มหล่อลื่นบ้าง

          ผมก้มลงไปจับส่วนที่ตั้งตระหง่านพร้อมจะสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกับคนตัวใหญ่ มือหนาของคนข้างล่างช่วยจับท่อนขาของผมขึ้นมาพาดอยู่ตรงข้างเอวทั้งสองข้าง แล้วขยับกายเข้าหา สอดแทรกความแข็งร้อนซอกซอนสู่ช่องทางที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยเจล

           “อ๊ะ...” ผมและคนตัวใหญ่ครางอีกครั้งพร้อมกันเมื่อความใหญ่โตแทรกผ่านเข้ามา เนื้อเยื่อที่ถูกสัมผัสเสียดสีอยู่ลึกล้ำภายใน ตอดรัดตัวตนของพี่กฤษไว้แน่น เว้นจังหวะพอบรรเทาความตึงแน่นจนรู้สึกเจ็บ จึงเริ่มขยับเข้าออกกับส่วนปลายเบาๆ เพื่อให้ช่องทางปรับขยาย แล้วค่อยๆ กดลึกลงไปจนบดเบียดกลุ่มไหมดกดำของหนุ่มหล่อใต้ร่าง จนเริ่มเสียวสะท้านอีกหน

          ความคับตึง จนรู้สึกแน่นแทบจะขยับไม่ได้ ทำให้ผมต้องหยุดเคลื่อนไหว จนคนรักที่ทนไม่ไหวต้องเป๋นฝ่ายออกแรงยกสะโพกผมขึ้น และออกแรงกดดึงเข้าหาอย่างหนักหน่วง ไม่นานก็เร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ขยับเข้าออกสลับกับส่ายหมุนวนไปมาอย่างชำนิชำนาญ

           “อืมมม...หยกของพี่กฤษ โอว...พี่...ออกแล้ว” เพียงไม่นานก็รับรู้ได้ถึงท่อนเนื้อแข็งร้อนที่เต้นตุบๆ พร้อมกับอาการกระตุกเกร็งของคนตัวใหญ่ข้างล่าง ผมส่งคนรักไปแตะเส้นชัยได้แล้วด้วยเวลาอันสั้นเพียงเพราะเก็บกักความอัดอั้นเอาไว้นานหลายวัน แต่มันยังไม่จบเพียงเท่านี้แน่ เมื่อพี่กฤษยังมีพละกำลังเหลือเฟือ ไม่เคยได้ระบายความต้องการเพียงครั้งเดียวแล้วจะพอ

          พี่กฤษหอบหายใจและจับสะโพกผมให้หยุดนิ่งจากการบดเบียด เพียงชั่วเวลาเดียวคนรักก็ยันกายลุกขึ้นสอดท่อนแขนกำยำเข้าใต้แผ่นหลังของผม อุ้มประคองให้ลุกขึ้นมานำพาร่างของผมขึ้นนั่งบนตัก จับเรียวแขนของผมขึ้นกอดประคองรอบต้นคอเขา แล้วเริ่มเด้งสะโพกขึ้นหาอีกครั้ง

          อกผมที่เสียดสีแนบชิดกับแผงอกแข็งแกร่งยามที่คนรักขยับสะโพกขึ้นลง ยิ่งเพิ่มความวาบหวามเมื่อปลายยอดอกของเราทั้งคู่ถูกบดเบียดขยี้ให้กันและกัน แต่มันยังไม่เท่าตัวตนความใหญ่โตของพี่กฤษที่สอดประสานขึ้นลงไม่หยุดหย่อน พออยู่ในท่านี้น้ำหนักตัวของผมยามทิ้งตัวลงตามจังหวะการเคลื่อนไหวของคนรัก ยิ่งทำให้การสอดแทรกลึกล้ำและเสียวสะท้านกว่าเดิมหลายเท่า

           “อาาา...อืมมม...หยกรักพี่กฤษ” ผมต้องกอดรัดต้นคอของพี่กฤษเอาไว้แน่น ช่องทางค่อนข้างลื่นจากหยาดหยดของคนรักและเจลที่ผสานกับแรงเสียดสีจนเกิดเป็นฟองขาวขุ่น ผมพยายามกัดริมฝีปากกลั้นเสียงครางจากความหวามไหวที่กำลังได้รับ แต่ก็สุดจะทานตนจนต้องปลดปล่อยเสียงแห่งอารมณ์หฤหรรษ์ออกมา

           “ครับ...พี่ก็รักหยก อึ๊บ...อ๊ะ...พี่รักหยก...ซี๊ดดด” คนรักครางสลับกับบอกรักผมไม่หยุด จนผมเผลอขย่มสะโพกเข้าหาพี่กฤษไปอย่างไม่รู้ตัว ตอนนี้พี่กฤษแทบไม่ต้องเคลื่อนไหวอะไร กลายเป็นผมที่ร่อนเอวบางในจังหวะร้อนแรงแทนที่ทันทีให้ได้ยินเสียงเนื้อกระทบกันดังเป็นจังหวะ

           “พี่กฤษครับ...หยก อ๊ะ...หยกใกล้จะไม่ไหวแล้ว” ปากบอกไม่ไหวแต่ผมยังโถมสะโพกดันช่องทางเข้าหาคนรักไม่หยุดหย่อน เร็วขึ้นแรงขึ้นจนพี่กฤษต้องส่งเสียงครางเช่นกัน กายแกร่งกำยำจับสะโพกผมไว้แน่นจนต้องหยุดเคลื่อนไหว เราทั้งคู่พักหอบหายใจกระเส่า ต่างคนต่างเอนตัวลงเท้ามือกับที่นอน พี่กฤษเหยียดขาตรงนั่งนิ่งรับความเสียวสะท้านที่ผมกลายเป็นผู้ควบคุมจังหวะทุกอย่าง

          ภาพคนรักที่มีร่างกายแข็งแรงกำยำ ออกแรงร่วมรักจนมัดกล้ามเนื้อปรากฏขึ้นมาให้เห็นเด่นชัด หยดเหงื่อพราวเต็มตัวทั้งใบหน้าและร่างกาย ทั้งที่อากาศภายในห้องค่อนข้างเย็นด้วยเครื่องปรับอากาศ เป็นภาพที่เซ็กซี่เย้ายวนจนผมแทบจะห้ามการปลดปล่อยไม่อยู่ แต่ในเมื่อคนตัวใหญ่กำลังหลงเพลินอย่างเมามันจึงพยายามอดกลั้นไว้อีกนิดเพื่อจะเดินทางไปพร้อมคนรัก

          ผมใช้อุ้งมือนวดเฟ้นเนื้ออกอวบนูนแน่น ปลายนิ้วสะกิดกดคลึงปลายยอดสลับไปมาแบบนี้ทั้งสองข้าง คนรักถึงกับนิ่วใบหน้า เส้นขนบางตามร่ากายแข็งแรงลุกเกรียวตั้งชัน ด้วยอาการเสียวสะท้านกับการกระทำของผมเหลือเกิน แต่ไม่รู้เลยว่าคนดูยิ่งเสียววาบกว่าเป็นร้อยเท่า

           “ดีมาก...โอว...หยกของพี่...อื้อ...เก่งจังเลยครับ” ชายหนุ่มร่างใหญ่ครางอย่างพอใจ ความซ่านกระสันอัดแน่นรุนแรงขึ้นทุกที เมื่อคนรักเริ่มขยับเอวอีกครั้งจนกระทั่งเพิ่มความรัวเร็วไม่หยุด เลือดเนื้อทุกอณูกำลังเต้นระริก กับคลื่นแห่งความสุขสมระรอกใหญ่ที่รออยู่ คนตัวใหญ่เร่งความเร็วและลงน้ำหนักสุดแรงประสานกับผม

          จนร่างกายงามแกร่งเริ่มบิดเร่า ผมรู้ดีว่าคนรักใกล้จะถึงจุดแตกดับเต็มทน คนตัวใหญ่เสียวกระสันสุดประมาณครางกระเส่าเหมือนจะขาดใจ มือสองข้างจิกผ้าปูนอนไว้แน่น จนในที่สุดคลื่นความหวามวาบก็ซัดสาดท่วมท้นจนร่างของเราทั้งสองผวาเข้ากอดรัดกระตุกเกร็ง ดวงตาปิดสนิทแน่น ใบหน้านิ่วกับความเสียวซ่านที่ได้รับ

          ในที่สุดจุดหมายปลายทางของเราก็มาถึง ผมรีบขยับกายขึ้นแล้วทิ้งน้ำหนักลงอีกสองสามครั้ง ก่อนที่จะฉีดพ่นหยาดรักราดรดบนหน้าท้องคนรักโดยไม่ได้แตะต้องมันเลย ประกอบกับอาการเกร็งกระตุกรัดของช่องทาง จนพี่กฤษผวายันตัวขึ้นมากอดรัดผมแน่นขึ้นตามจังหวะการเกร็งเป็นระลอก สักครู่ผมจึงทิ้งร่างบอบบางซอนซบลงหาร่างของกำยำของคนรักอย่างหมดเรี่ยวแรง

           หยาดหยดเหนียวข้นส่งกลิ่นคาวคลุ้งไปทั่วหน้าท้องของผมกับพี่กฤษ เวลาแห่งความหวามไหวผ่านพ้นไปแล้ว ทั้งห้องมีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศเบาๆ และเสียงหอบหายใจรัวฟืดฟาดเหมือนกำลังขาดอากาศ แต่สองร่างของเรายังเปลือยเปล่ากอดก่ายกันไม่ห่าง พี่กฤษพรมจูบไปทั่วใบหน้าของผมที่ยังคงแดงจัดด้วยความเหนื่อยและเขินอาย แม้ว่าจะผ่านเวลาวาบหวามมาหลายนาทีแล้ว

           “หยกร้อนแรงจริงๆ นะเนี่ย” พี่กฤษเอ่ยแซวด้วยรอยยิ้มทะเล้นบนใบหน้า จนผมต้องกำหมัดแล้วทุบอกแกร่งเบาๆ ด้วยดวงหน้าร้อนวาบแดงซ่านจากคำชมที่ทำให้ต้องรู้สึกอาย จนพี่กฤษต้องหัวเราะพลางโน้มใบหน้าลงไปเกลือกกับซอกคอผมให้เสียวสยิวจนขนลุกอีกครั้ง

          “อือออ...พะ...พี่กฤษไม่เอาแล้วนะครับ หยกไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวไม่มีแรงไปเที่ยวคืนนี้” ผมรีบปฏิเสธจนคนรักหัวเราะเบาๆ แล้วขยับใบหน้าขึ้นมายิ้มหวานให้ ใบหน้าหล่อคมปานเทพบุตรโน้มเข้ามาหอมแก้มของผม ก่อนจะพรมจูบไปทั่วใบหน้า แล้วแตะปลายจมูกตนเองกับปลายจมูกผม ส่ายหน้าไปมาเบาๆ ไล้ปลายจมูกเล่นกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2012 02:29:55 โดย AxCiO@ToToKeN »

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป
ร้อนแรงมาก :m25: :m25: แบ่งไว้ให้พี่ทองบ้างก็ได้พี่กฤษ

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
ว่างเป็นไม่ได้เลยน่ะกฤษ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด