= Awkward = [ จบ / 28.7.56 / P.35 ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: = Awkward = [ จบ / 28.7.56 / P.35 ]  (อ่าน 272164 ครั้ง)

ออฟไลน์ sasa

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1008
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1020 เมื่อ02-01-2013 00:15:05 »

 :sad4:r

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1021 เมื่อ02-01-2013 01:41:32 »

จะมีอะไรต่อ!!! เกือบกระจ่างแล้วเชียว

Anyann

  • บุคคลทั่วไป
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1022 เมื่อ02-01-2013 02:28:28 »

รู้สึกเหมือนได้เฉลยมาช่วยให้ความกระจ่าง แต่ว่าสุดท้ายก็ยังมีอีกมากที่ต้องรอติดตามอยู่

เป็นเรื่องที่จะต้องอ่านช้าๆ ให้เห็นภาพตามที่บรรยาย
เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของไผ่จริงๆ

ชอบจอห์นนะ ที่ทำทั้งหมดคงจะเป็นวิธีแก้ปัญหาให้ไผ่กลับมา

ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ pharm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1023 เมื่อ02-01-2013 10:52:36 »

 :a5:

รึว่าคนที่เป็นไผ่อยู่จอนนี้จะไม่ใช่ไผ่ ว๊าก บ้าไปแล้วเรา

มาต่อเร็วๆน้า  ทิ้งร้างไว้นานเลย  คิดว่าลืมไปละนะนี่ เห็นขึ้นในเฟสดีใจน้ำตาจะไหล :sad11:
 
 :L2: สู้ๆน้า

ออฟไลน์ anchoviiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1024 เมื่อ02-01-2013 17:33:49 »

 :a5:




ซับซ้อน ........


ออฟไลน์ mrmixmo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1025 เมื่อ02-01-2013 20:59:03 »

อ่านเรื่องนี้แล่วสะท้อนอะไรหลายๆอย่าง ขอบคุณคนเขียนค่ะ:)  ปล.คนอ่านค้างมาก มาต่อด่วนนนน สู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ kokilolylove

  • รัก ได้ยินหรือเปล่า
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1026 เมื่อ04-01-2013 20:14:05 »

 :a5: สงสารซัน สงสารไผ่
ทำไม่กันๆ ถ้าเพื่อนไม่ทำอย่างนี้ เรื่องก็คงไม่เกิด เฮ้อออ

ออฟไลน์ shogun chai

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1027 เมื่อ04-01-2013 22:55:09 »

งง มาก แต่ก็ งงดี...งง

babynevercry

  • บุคคลทั่วไป
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1028 เมื่อ09-01-2013 12:11:14 »

 :z3:

อ่านสามรอบ กว่าจะเริ่มรู้เรื่อง แค่เริ่มนะ ยังงง

เอ๊ะงง ไม่งง โอ๊ยยยย งง แอร๊งงงงงงง  :z3: :z3: :z3:

ปล.แต่ชอบมากๆเลยนะ

ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1029 เมื่อ11-01-2013 00:09:02 »

เป็นตอนที่ชัดเจนแจ่มแจ้ง และน่าเศร้าใจ

"ขีดความอดทนที่แตกต่างของเด็กสองคนในเรื่องเดียวกัน" ถ่ายทอดดีจนรู้สึกแย่ตามไปด้วยเลย

//จอห์น-ไผ่ ตั้งแต่ป.4 เลอค่ามาก   

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
« ตอบ #1029 เมื่อ: 11-01-2013 00:09:02 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






sakurai

  • บุคคลทั่วไป
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1030 เมื่อ12-01-2013 00:05:42 »

ลอคอินมาเมนท์ให้กำลังใจ

เราชอบเรื่องนี้มาก

เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ติดตามอยู่ตอนนี้

ชอบวิธีการบรรยายมากๆๆเลย ให้อารมณ์เหมือนนิยายญี่ปุ่น ประมาณ โอทซึ อิจิ

ชอบเรื่องนี้ ที่ดูหลอนๆดาร์คๆ คลุมๆเคลือๆ แบบนี้

มาต่อไวๆนะ อยากรู้ตอนเฉลยจัง สุดท้ายจะทำเราตกเก้าอี้มั้ย

ออฟไลน์ SiLent_GRean

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1031 เมื่อ12-01-2013 19:25:54 »

สนุกมากเลยค่ะ 

มาต่อเร็วๆนะคะ   :bye2:

ออฟไลน์ krit24

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1032 เมื่อ22-02-2013 16:23:05 »

อ่านแล้วเครียดอ่ะ
สงสารไผ่ เหมือนไผ่หลุดไปแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1033 เมื่อ26-02-2013 22:10:35 »

:z3: :z3: :z3: :z3:เมื่อไรมาต่ออะคอยอยู่เน้ออออออออออออออ :call: :call: :call: :call:

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1034 เมื่อ22-05-2013 22:17:22 »

อ่านเรื่องนี้ แล้ว น้ำตาไหลเลย ไม่รู้เพราะอะไร แต่มันอินมาก

greentea2598

  • บุคคลทั่วไป
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1035 เมื่อ23-05-2013 00:39:52 »

หน่วงมาก หน่วงสุดๆ ที่สำคัญคือ...งง
แต่ชอบการเขียนเรื่องมาก บรรยายได้แบบว่าถ้าอ่านผ่านๆไม่ได้เลยต้องคิดตามทุกคัวอักษร
เป็นนิยายที่อ่านแล้วปวดหัวที่สุดที่เคยอ่านมา(ชมนะ)
น้ำตาร่วงตั้งแต่ตอนที่จอร์นเปิดคลิปเสียงให้ไผ่ฟัง..เออน่ะ อารมณ์มันแบบ กูว่าแล้ว จริงๆ
เหอๆ..หลังจากนั้นก็ไหลพรากกก เรื่อยๆ ไม่หยุดเลย
ถึงจะงง แต่อ่านมาจนถึงตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าทำไมไผ่ถึงลืมจอร์นกับคิม เพราะช็อค? เพราะยา?
และคิดอยุ่ว่าจอร์นรักและหวังดีกับไผ่ใช่ไหม? แต่ที่ทำมามันออกจะทำร้ายจิตใจไผ่มากไปน่ะ..อ่านๆแล้วมีความรู้สึกเหมือนที่ไผ่เริ่มเกิดอาการหนักเพราะจอร์น..เหอะๆ  ตอนนี้ระแวงคิมสุดๆ สรุปฮีจะมาดีหรือร้าย คงไม่ได้จะมาแกแค้นไผ่หรอกนะ ตอนนี้ก็น่าสงสารสุดๆไปเลย เห้ออ
หน่วงในอกจริงๆ ให้ตายสิ!

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1036 เมื่อ27-05-2013 14:52:00 »

หายไปเป็นเดือนๆแล้วนะ  :ling1:

ออฟไลน์ niji-fa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: = Awkward = [ Inert 17 / 1.1.56 / P.34 ]
«ตอบ #1037 เมื่อ02-07-2013 11:42:53 »

อยากอ่านต่อแล้ววววค่าา   :katai1:

ออฟไลน์ cn9095

  • unidentified
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +861/-5
Re: = Awkward = [ Inert 18 / 14.7.56 / P.35 ]
«ตอบ #1038 เมื่อ14-07-2013 19:33:48 »

Inert 18



เด็กผู้ชายตัวเล็ก วิ่งออกไปทางทะเลสีเทา
หันหลังให้ชายหาด มันไร้ผู้คน ร่มถูกปักลงบนพื้นทราย เป็นสีดำที่เข้มขึ้นมาหน่อย เมื่อเทียบกับทิวทัศน์รอบๆ
ใต้ร่มนั้น เยื้องออกมา
ผู้ชาย ผู้หญิงนั่งข้างกัน เว้นระยะห่างออกมาช่วงหนึ่ง เดาไม่ออกว่ามีความสัมพันธ์อย่างไรกัน


“นายรู้ใช่ไหม? ว่าพ่อฉันเป็นจิตแพทย์”

พยักหน้า
นั่งอยู่ที่สวน ต้นไม้โบกสะบัดตามแรงลม เงาเคลื่อนย้ายไปมา ราวกับจะลอกเลียนแบบการขยับปีกของผีเสื้อ
รู้สึกถึงความเย็นเชียบของน้ำ สูงครึ่งแข้งขึ้นมาจากพื้น
มองเห็นเงาของชายหญิงคู่นั้น หลบซ่อนอยู่ใต้รูปปั้นประหลาด เพ่งมองดูดีๆ เป็นเพียงเงาธรรมดาจากดินปั้น

“พ่อฉันพูดไว้เสมอว่า..”

เสียงจอห์นถูกกลืนไปกับเสียงคลื่น
สีสันพลบกลับ จมหาย ขาดใจตาย
เทา ขาว ดำ
ถูกกักขังในห้วงทะเลทรายแห้งผากของเม็ดสี

“…เราทุกคนล้วนแต่เป็นบ้ากันทั้งนั้น…”

คำกระซิบที่สายลมจูงมือมา
ยกมือขึ้นโบกในอากาศ ผู้ชายเป็นฝ่ายเห็นก่อน แต่เขาก็ทำเพียงเบนหน้าหนีไปช้าๆ
ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นช่างคุ้นตา เธอยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่รู้สึกประหลาด กักขฬะ น่าอึดอัด
ก้มมองเงาสะท้อนที่เป็นรูปมุมประหลาดในท้องน้ำ
รอยยิ้มร่วงหล่นออกจากหน้ากาก จมหายไปในพื้นทรายขุ่นมัว
ด้านล่างนั้น
พายุใต้ระลอกคลื่นก่อตัวอย่างช้าๆ

บางที
ระเบิดทั้งหลายอาจถูกขุดกลบอยู่ใต้พื้นหญ้าหลังบ้านตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
ครอบครัวที่รอวันเวลา
เข็มนาฬิกาที่ตีตัวย้อนหลัง

“เราแค่รอวันที่มันประทุออกมา”

“ต่างกันแค่ความรุนแรงของมัน..”

“นายก็รู้..ฉันว่านายเข้าใจดีเลยล่ะไผ่”

“ของที่มันระเบิดออกแล้ว เป็นยังไง”

“….ฉัน…”

ปลายนิ้วลูบที่ปลายแก้ม

นัยน์ตาสีฟ้า ตาขวา เงาทิ้งตัวลงมา เงาของใบไม้ใบใหญ่จากตรงนั้น ทำให้กลายเป็นนัยน์ตาสีน้ำเงิน
บางครั้ง ก็เห็นแววจริงจัง
บางครั้ง ก็เป็นแววตาขี้เล่น เย้าหยอก ไม่สนใจเรื่องอะไรรอบๆตัว
หลายครั้ง ลึกลงไปเหมือนมหาสมุทร

กระจัดกระจาย
รวยระริน แทบไร้เรี่ยวแรงหายใจต่อ
สูญเสียศรัทธาในการมีชีวิตต่อ

“ชีวิตมันคืออะไรกันแน่นะ?”

จอห์นไม่ตอบ
กำลังเฝ้ารอประโยคต่อมา

“ใครกัน บอกให้เราต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป”

“นายหิวหรือเปล่า?”

ส่ายหัว

“กลั้นหายใจสิ…”

ทำตาม
จอห์นทาบนิ้วลงที่วางเหนือริมฝีปาก รอจนกลั้นหายใจต่อไปไม่ไหว
เขาปล่อยมือออกเมื่อได้ยินเสียงหอบหายใจเบาๆ

“ร่างกายนาย..บอกให้นายมีชีวิตอยู่ต่อ”

ถูกจับข้อมือขึ้นมา
กางนิ้วทั้งห้าออก

“ทุกเซลล์ของนายดิ้นรนที่จะมีชีวิตต่อทั้งนั้น แม้แต่หัวใจของนาย ก็ยังเต้นต่อ ถึงนายจะอยากตายแค่ไหน แต่นายก็ยังมีชีวิตอยู่”

“แค่นั้นหรอ..”

“ไผ่..ชีวิตคนไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้น แต่มันก็ไม่ได้ยากเกินไป เกินกว่าที่นายหรือฉันจะเข้าใจหรอกนะ”

“งั้นก็อธิบายสิ”

จอห์นจ้องหน้านิ่ง
บางทีอาจคิดอยู่ลึกๆ
คำที่จะพูดต่อไปนี้ อาจเป็นคำพิพากษา ส่งผลต่อการกระทำต่อๆไป ไม่อาจคาดเดา

เขาเลือกที่จะไม่ตอบ
พูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาแทน

“…ถ้านายไม่อยู่ ฉันก็คงจะหงุดหงิดใจ”

“ทำไมต้องรู้สึกแบบนั้น?”

“สักวันฉันคงหาคำตอบได้ แล้วจะบอกให้นายฟัง”

ผ้าพันแผล มัดแน่น
สายตาสองคู่จ้องมองมันอย่างเงียบเฉียบ
โดยที่ไม่ได้พยักหน้าหรือปฏิเสธไป

แรงกำรอบข้อมือนั้นแน่นจนเจ็บแผล


……………………………….
……………………..


บนเตียง
คนหนึ่งจ้องมองผนัง เฝ้ารอให้บางอย่างเกิดขึ้น
อีกคน หลับสนิท เสียงลมหายใจเป็นระยะ

พลิกตัว
รู้สึกว่าเสียงลมหายใจของอีกฝ่ายเงียบลง
พลิกตัวหันกลับมา
ก็สบสายตากันในความมืด

“นอนไม่หลับ?”
“….”
“พูดสิ”
“ใช่”

“คิดอะไรอยู่”
“ถ้า-“
“อย่าเริ่มประโยคด้วยคำว่าถ้า ไผ่ มันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดเรื่องสมมติขึ้นมา”
“….”
“นายก็รู้ สิ่งที่นายจะพูด มันเป็นไปไม่ได้”

ใช่
และไม่มีวันเป็นไปได้
หนึ่งชีวิต ได้ตายจากไปแล้ว
ไม่มีเส้นทางที่หวนคืนได้

“ทำไมนายไม่กลับไป?”
“ถึงอยู่ที่บ้านก็ไม่มีอะไรทำอยู่ดี อยู่ที่นี้อาจพอมีเรื่องสนุกบ้าง”
“แล้วมีหรือเปล่า?”
“ที่นี่ก็แทบไม่มีเหมือนกัน”

“…..”
“…..”

“นายพูดเก่งขึ้นนะ”
“….”
“ได้รู้เรื่องที่ไม่รู้ สบายใจขึ้นหรือเปล่า?”

ทั้งใช่หรือไม่
ทั้งคู่ล้วนแต่เป็นคำโกหก

“ฉันไม่อยากไปโรงเรียน”
“นายจะลาออกก็ได้”
“…..”
“พ่อฉันจะคุยให้”
“แม่คงไม่ยอม…”

จอห์นจำหน้าของเธอที่เห็นวันนี้ได้
ซ่อนตัวอยู่ในเงาของผนัง
ดวงตาบวมช้ำ ไร้แสงในลูกตาทั้งสองข้าง
คล้ายศพที่หายใจได้
วิญญาณจมลึกลงไปในเศษเนื้อ ส่งกลิ่นเหม็นเน่าอย่างช้าๆ

บางอย่างบอกให้จอห์นรู้
อาจไม่ใช่แค่ไผ่เพียงคนเดียวที่แบกรับโลกทั้งใบอยู่

เมื่อก้าวขึ้นมา แต่ละขั้นบนบันได
ร่างที่ไกลออกไปนั้น ยิ่งจืดจาง เคลื่อนไหวคล้ายหอยทาก ทิ้งรอยเมือกเหนอะไว้เบื้องหลัง

“งั้นก็คุยกับพ่อของนายแทน”
“พ่อ..”

พ่อของเด็กสองคน
สีดำและสีขาว

ผู้ชายที่เคยรู้จักมาทั้งชีวิต
ในวินาทีสั้นๆ กลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน

รอยยิ้มที่ได้รับ
แตกร้าว
ทิ้งตัวร่วงหล่น เสียงกระจกดังติดกันคล้ายเสียงฝน

ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋านักเรียนใบนั้น กล่องดินสอ เสื้อ หรือเวลาที่ใช้ร่วมกันทั้งหมด
ถ้าทั้งหมดเป็นเพียงการชดใช้
ผลลัพธ์ที่ได้ อาจเป็นเพียงแค่การกดเขา ให้จมลึกลงไปในห้วงของความอึดอัดไม่สิ้นสุดนี้มากขึ้นเท่านั้น

“จูบที”
จอห์นที่เหมือนจะลอยล่องออกไปไกล แสงในดวงตากลับมาเป็นประกายอีกครั้ง ขมวดคิ้วจ้องหน้าคู่สนทนา
“…..”
“ทำซิ”
“เพื่ออะไร?”
“….”
“ฉันถามไม่ได้แปลว่าฉันจะปฏิเสธหรอกนะ”

จอห์นทำอย่างที่พูด

โลกหมุนวน

เชื่อมเข้าหากัน
น้ำหวานที่ข้นจนเหนียว
รอยชื้นที่สะท้อนในเงามืด

ไม่ได้มีความรู้สึกรักในนั้น

สิ่งที่รู้สึก มีเพียงก้อนกักขฬะ อัปลักษณ์
ผู้ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆกับชีวิต
คล้ายไนโตรเจน 78 เปอร์เซ็นต์ในอากาศ
ร่างกายไม่อาจนำธาตุนี้ไปใช้งานได้

“ถ้าฉันไม่มีนาย”
พูดขึ้นมา แล้วหยุดแค่นั้น

ถ้อยคำในหัวเรียบเรียงไม่ได้เป็นประโยค คำพูดกระจัดกระจาย สลายไปกับไนโตรเจนและก๊าซต่างๆรอบตัว
จอห์นยื่นมือออกไป
คล้ายจะจับเรียงคำพูดไร้ตัวตนนั่นเรียงต่อกันให้แทน

“ฉันคงตายไปแล้ว”

“ใช่”
หันมองหน้ากัน

สูดกลืนความเงียบของกันและกัน
ไหล่ชนไหล่
ชวนให้นึกถึงภาพของระเบิดไร้แป้นนาฬิกา
หน้าจอดิจิตอลดับมืด ตัวชนวนภายใน เคลื่อนไหวตามคำสั่งเดิม

“ถ้านายไม่มีฉัน นายตายไปแล้วไผ่”
“บางทีนั่นอาจจะเป็นทางทีดีกว่า”
“ความตายไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด”

ปลายเชือกแกว่งอยู่ตรงนั้น
เขาคิดจะเอื้อมมือไปจับ
แต่จอห์นก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมมีดเล่มหนึ่ง

“ความตายน่ะ ไม่พอที่จะชดเชยสิ่งที่นายทำไปด้วยซ้ำ”

ไม่มีใครเคยพูดว่ามันเป็นอุบัติเหตุ
ทุกคนพึงพอใจกับการโยนความรับผิดชอบให้กับใครสักคน
ไม่ว่าผู้นั่นจะเป็นแกะขาว หมาป่า หรือหมาป่าหุ้มขนแกะ

ไม่มีใครสนใจ
ไม่แม้สักคน

ชี้นิ้วไปข้างหน้า ยืนล้อมกันปิดแน่นเป็นกำแพงมนุษย์ เอียงหน้าหันข้าง ซ่อนรอยยิ้มไว้ในมุมลับตา

มนุษย์

คำสั้นๆ อธิบายทุกอย่างได้ด้วยพยัญชนะ สระ และการออกเสียงราวกับงับความรู้สึกยินดีลงไป
เลือกเหยื่อที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละสถานการณ์ เหยื่อที่จะดิ้นไม่หลุด
ปล่อยให้โคลนหนืดดูดลงไป ในห้วงเวลาที่เหนอะนะ จบลงด้วยการสิ้นใจตายเพียงลำพัง

“แม่ของซันคงคิดภาพลมหายใจสุดท้ายของนายเป็นร้อยๆครั้ง ร้อยๆวิธี”

ขณะที่ถ้อยคำเหล่านั้นหลุดออกมา
จอห์นพลิกตัวขึ้น กึ่งนั่งกึ่งนอน มือข้างหนึ่งยื่นมาลูบหัวไหล่ช้าๆ

หยุดหายใจในบางครั้งที่มือนั่นเข้าใกล้คอมากเกินไป
ปลายคมแหลมส่องประกาย
ถ้อยคำทักถอ ร้อยใย ตกอยู่ใจกลางเส้นเหนียว สัตว์แปดขานอนประกบข้างกาย

“อย่ามองฉันแบบนั้นสิ”
“นาย..”
“เราโตมาด้วยกันไผ่ ถึงนายจะจำฉันไม่ได้ แต่ฉันก็ไม่มีวันลืมนาย”
“…..”
“ฉันรู้จักนายทุกอย่าง ไม่ว่าจะภายนอกที่คล้ายกับตายไปแล้วนี่ หรือข้างในที่กลวงเปล่า ฉันก็รู้จักมันทั้งหมด”

ปลายนิ้วกดลงมาที่กลางอก
แสงผ่านผ้าม่าน ย้อมทั้งห้องกลายเป็นสีน้ำเงิน โลกใต้น้ำ สัมผัสถึงแรงกดจากทุกทิศทาง
จอห์นเคาะปลายนิ้วลงมาเบาๆ ได้ยินเสียงคล้ายยามที่เคาะมือลงกับเครื่องสาย
เสียงก้องไปทุกทิศทาง บอกถึงช่องว่างภายใน

ปลายนิ้วอีกข้าง ลูบต้นคอเบาๆ
รู้สึกถึงเชือกที่กระชับห่วงมากขึ้น

หายใจถี่

“ถึงนายจะซ่อนนัยน์ตาแบบนั้นไว้ใต้แว่น ก็ไม่มีประโยชน์หรอก ไผ่ เห็นรูปนั่นหรือเปล่า”

รูปผู้หญิงอยู่ในกรอบเหนือหัวเตียง กระดาษกลายเป็นสีเหลือง กระโปรงยาวเลยเข่า ท่อนขาแนบติดกัน สวมแว่น ทรงผมสุดเชย พอถูกพูดถึง ก็คล้ายกับว่าคลื่นน้ำพัดพามันขึ้นฝั่งให้มองเห็นได้ชัดเจน

“เห็นตาของเธอไหม มันบอกว่าพร้อมจะอ้าขาให้ใครหลายๆคน เหมือนกับนาย”

ควรจะโกรธ
ใช้เวลาอยู่นาน กว่าจะนึกขึ้นได้ว่าสมควรจะรู้สึกอย่างนั้น

ผู้หญิงในกรอบรูป
เข็มวินาทีที่ขยับอยู่ ดึงความเยาว์วัยออก เด็ดปีกที่เธอเชื่อว่าเธอมี ย่ำยีด้วยโลกที่เธอปฏิเสธจะมอง

เธอนั่งร้องไห้เพียงลำพังอยู่ในครัว ชั้นล่าง ตำแหน่งตรงกันกับเตียงหลังนี้
ในโลกที่มีเพียงเธอ ความฝันยืดยาวออกเป็นกรง หลับตา กุมมือ บอกกับตัวเองว่าโลกแห่งนี้ไม่ได้มีอยู่จริง

ริมฝีปากที่เข้ามาใกล้
ประกบเข้าหากัน
ลิ้นกวัดเกี่ยว
เป็นตัวแทนของความสิ้นหวัง พยายามยึดเหนี่ยวทุกสิ่งเท่าที่จะคว้าได้ คล้ายคนจมน้ำ

เสียงของฟองอากาศที่แตกออก
ความชื้นที่มุมปาก
ยื่นมือออกไปจับ
ความอุ่นนี่มีอยู่จริง
ในขณะที่ยืนอยู่ท่ามกลางโลกจำลอง บอกตัวเองได้ว่าอย่างนั้น
ผมที่คล้ายขนสัตว์ระหว่างร่องนิ้ว มือที่ช้อนเข้ามาโอบใต้กระดูกสะบัก จิกเล็บลงไปจนรู้สึกตัว

ลืมตาขึ้น
เหลือบมองขึ้นไปบนเพดาน

ภาพที่ไม่ชัดเจน ฉายย้อนเข้ามาในห้องที่ว่างเปล่า
โรงหนัง เก้าอี้ราวสี่ร้อยตัว ถูกจับจองโดยผู้ชมเพียงหนึ่งคน
แสงจากจอหนัง สาดส่องลงบนหน้า ฟิลม์หมุน ร่องขีดดำฉายขึ้นบนจอสลับไปมาคล้ายกับชัตเตอร์ภาพที่ทำให้ตาพร่า

ผู้หญิงคนนั้นนอนอยู่บนเตียง จ้องมองผ่านร่องประตู
ถูกขย้ำ หายใจรวยริน ผมที่ยาวออก ยุ่งเสียทรง บดบังสีหน้าใต้นั่นไว้
ช่วงที่คิดว่าผู้หญิงคนนี้คงจะต้องตายแล้ว
กลับได้ยินเสียงครางออกมา

ผู้ชายที่ไม่รู้จัก อยู่เหนือร่างของแม่
เขามองมา เอวขยับ คลื่น กลิ่นเหงื่อ กลิ่นคาว คละคลุ้งอัดแน่นแทบตกตะกอน
เผลอสบตากันเข้า
เชื่อมความว่างเปล่าในความคิดเข้าหา ผู้หญิงคนนั้นจมยอมอยู่ภายใต้ความรู้สึกที่หนักหน่วงจนไม่ได้ละสายตาขึ้นมอง ใช้เวลาสักพัก ก่อนที่ความว่างเปล่านั่นจะขาดผึงออกจากกัน

เงาของประตูนั่น ขยายตัวออก พื้นที่ที่มันกลืนกิน มากเกินกว่าที่มันควรจะเป็น
เสียงเนื้อที่กระแทกเข้าหากัน หยาบโลน
เงาของซี่พัดลม รอยสั่นของขอบฟิลม์

ตั้งแต่ตอนนั้นหรือเปล่า
ที่เขารู้สึกได้ถึงขอบข่ายดำมืดไม่สิ้นสุด
ไม่ว่าจะเหยียบเท้าไปที่ไหน ที่แห่งนั่นก็ดูจะแห้งเหี่ยว ถูกดูดสีสันออกไป กลายเป็นจุดศูนย์กลางของหลุมดำเวิ้งว้าง

จิกมือเข้ากับผ้าปูเตียง เจ็บคล้ายกับฝังเล็บลงขอบประตู
จอห์นโอบรอบแก้ม บังคับให้สายตาเชื่อมต่อเข้าหากัน

“ความลับที่ไม่ใช่ความลับ จะโทษพ่อนายอย่างเดียวก็ไม่ถูกนักหรอก”
“…รู้ได้ยังไง”
“นายลืมไปแล้วหรอ? ว่าพ่อฉันเป็นใคร”

สงสัย แต่ไม่ได้ถามออกไป
จอห์นเกลี่ยผมที่ปรกอยู่ข้างหูออก เกี่ยวทัดหูให้

“พ่อฉันเป็นจิตแพทย์ของนาย ทุกอย่างที่จะเป็นสาเหตุของปัญหา ทั้งหมด เรื่องลึกลับในตู้เสื้อผ้าของนาย ยันเรื่องใหญ่ระดับโลกที่ทำให้นายหวั่นใจ พ่อฉันก็รู้ทุกอย่าง”

“ถ้าไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้นมา พ่อกับแม่นาย ก็คงจะแยกกันไปคนละทางแล้ว…”

ทางเดินสีขาวแยกออกเป็นสองข้าง
เห็นภาพชัดเจนว่าเขายืนอยู่ใจกลางเส้นทางสีดำ ในขณะที่เส้นทางของคนสองคน ต่อเป็นเส้นขนานลวงตา แยกห่างออกจากกันทีละนิดจนไม่เห็นจุดบรรจบ

ความทุกข์ที่คล้ายวัฎจักร
เริ่มจากจุดเล็กๆที่ไม่ทันได้ระวังในชีวิตทั่วไป
นำไปสู่เส้นด้ายเส้นต่อไป ก้อนเนื้อร้ายที่ไม่ทันได้กำจัด

ผ้าปูเตียงยุบลง
ตัวฟูกถูกสูบเข้าสู่จุดศูนย์กลางที่ไม่มีอยู่จริง ดูดกลืนร่างของเขาลงไปช้าๆ

จอห์นที่อยู่ตรงหน้า ห่างไกลออกไปเรื่อยๆ
ยิ้ม
หยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดด้วยคำสั้นๆ

“เอาฉันเข้าไป”

เสียงกระซิบ
ฟังคล้ายเวลาที่เหยียดขาไปกับผ้าห่ม
แผ่วบาง เป็นลำแสงเล็กที่วิ่งผ่านอณูสสาร เข้าสู่สภาวะแรงโน้มถ่วงเข้มข้น ปลายแสงบีบเข้าหากันคล้ายโคนกรวย สิ้นแสง ณ จุดๆหนึ่งโดยไร้ซึ่งประจักษ์พยาน

“เอาฉันเข้าไปในโลกว่างเปล่าของนายสิ”

ตกกลับมาอยู่ในอ้อมกอดที่รัดแน่นนั้นอีกครั้ง
ลมหายใจรดที่ใต้หู ขนตาสัมผัสกับข้างแก้ม

ไผ่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
ไม่แม้แต่สักคำเดียว คล้ายถูกปีศาจขโมยลิ้นไป



เอาแต่เฝ้ามองรองเท้าหนังสีดำคู่นั้น ที่เหยียบก้าวเข้ามาในโลกบิดเบี้ยวอย่างเอาแต่ใจ


………………………………
…………………..


[Inert 18 : complete]
[14.7.56]




ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
Re: = Awkward = [ Inert 18 / 14.7.56 / P.35 ]
«ตอบ #1039 เมื่อ14-07-2013 19:54:39 »

ก่อนอ่าน 18 คงต้องย้อนไปอ่าน 1-17 ใหม่อีกรอบ 

ดีใจที่น้องชุยังไม่ลืมไผ่กับจอห์นน้าา   

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: = Awkward = [ Inert 18 / 14.7.56 / P.35 ]
« ตอบ #1039 เมื่อ: 14-07-2013 19:54:39 »





ออฟไลน์ SiLent_GRean

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 566
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: = Awkward = [ Inert 18 / 14.7.56 / P.35 ]
«ตอบ #1040 เมื่อ14-07-2013 19:56:53 »

กลับมาแล้ววววววว  :hao5: :hao5: :hao5:


ตอนนี้ก็ยังคงหน่วงๆเหมือนเดิม แต่เราก็จะรอวันที่จอห์นก้าวเข้าไปในโลกแห่งนั้นนะคะ  :sad4: :sad4: :sad4:

Anyann

  • บุคคลทั่วไป
Re: = Awkward = [ Inert 18 / 14.7.56 / P.35 ]
«ตอบ #1041 เมื่อ14-07-2013 20:10:20 »

ต่ออารมณ์เดิมได้เยี่ยมเลยค่ะ อ่านแค่บรรทัดแรกๆก็รู้เลยว่านี่แหละ Awkward

มีตอนใหม่มาแล้ว ดีใจ แล้วก็อยากได้ตอนถัดไปอีก เหมือนอยากรอฟังคำเฉลยของปริศนาไปอีกเรื่อยๆน่ะค่ะ  :mew3:

ออฟไลน์ ::UsslaJlwaJ::

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1011
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
Re: = Awkward = [ Inert 18 / 14.7.56 / P.35 ]
«ตอบ #1042 เมื่อ14-07-2013 20:10:57 »

ยอมรับว้าลืมตอนเก่าหมดละ ต้องอ่านใหม่  :katai5:

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
Re: = Awkward = [ Inert 18 / 14.7.56 / P.35 ]
«ตอบ #1043 เมื่อ14-07-2013 20:37:16 »

หน่วง

ออฟไลน์ pharm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
Re: = Awkward = [ Inert 18 / 14.7.56 / P.35 ]
«ตอบ #1044 เมื่อ14-07-2013 20:43:46 »

คิดภาพตามยังกะหนังผี :mew5:

กลัวเลย แถมสองคนยังจิตๆอีก
(คนอ่านจิตตาม)

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
Re: = Awkward = [ Inert 18 / 14.7.56 / P.35 ]
«ตอบ #1045 เมื่อ14-07-2013 21:20:56 »

มันน่าติดตาม แบบต้องอ่านทุกตัวอักษรเลยจริงๆ o13

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
Re: = Awkward = [ Inert 18 / 14.7.56 / P.35 ]
«ตอบ #1046 เมื่อ14-07-2013 22:27:26 »

 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:ในที่สุดก็มาต่อแล้ว :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
Re: = Awkward = [ Inert 18 / 14.7.56 / P.35 ]
«ตอบ #1047 เมื่อ15-07-2013 07:27:34 »

ก่อนอ่่านตอนนี้คงต้องบอกว่า  ขอย้อนหลับไปอ่านตอนที่1-17อีกรอบ
เพระาว่าเลือนไปแล้วววว
นานมากเลยยยยย

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
Re: = Awkward = [ Inert 18 / 14.7.56 / P.35 ]
«ตอบ #1048 เมื่อ15-07-2013 11:52:49 »

เรื่องนี้ ข้าน้อยขอคาราวะเลย

เขียนได้สุดยอดมาก  :z3:

หน่วง มึน งง หลอน ด้วย   :mew2:

ออฟไลน์ cn9095

  • unidentified
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +861/-5
Re: = Awkward = [ จบ / 28.7.56 / P.35 ]
«ตอบ #1049 เมื่อ28-07-2013 09:49:28 »

Last



ในขณะที่ทุกอย่างกำลังจมลงอย่างช้าๆ
ร่างกายกลับถูกพยุงอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น

จ้องมองผนังที่ว่างเปล่า
ใต้เกราะสีขาวนี่ จะมีอะไรซ่อนอยู่?
สีแดง สีดำ หรือเป็นอีกมิติหนึ่งที่ถูกปิดกั้นไว้

ไม่มีใครให้คำตอบ
และไม่มีใคร อยู่ที่ตรงนั้น พร้อมที่จะให้คำตอบ

นั่งอยู่เพียงลำพัง อย่างที่เคยเป็นมา
สูดลมหายใจ หนักอึ้งคล้ายผสมปรอท เซลล์ทุกเซลล์ส่งเสียงโอดครวญ สาปแช่ง

ในมือที่กำแน่น รู้สึกเหมือนมีอะไรกำลังดิ้นรนอยู่ในนั้น
ชีวิต
ไม่ใช่ชีวิตของเขาเอง แต่เป็นชีวิตที่ถูกพรากมา พยายามกลับสู่ร่างเดิมที่ไม่มีอยู่จริง ณ เข็มวินาทีนี้

จังหวะที่คิดว่าต้องหลับตาลง แล้วจะเห็นภาพสีดำสนิท
เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เห็นสีเลือดอยู่หลังเปลือกตา

เทียบกันแล้ว ความว่างเปล่าที่น่าหดหู่ก่อนหน้านี้ กลายเป็นสิ่งที่เขาปรารถนามากที่สุด

อยู่โดยที่ไม่ต้องรู้อะไร
อยู่อย่างไร้จุดหมาย
ล่องลอยดั่งขยะในธาร หมดความสำคัญ รอคอยจุดจบที่ไม่เคยถูกกำหนดขึ้น

สิ่งเหล่านั้น เป็นเพียงเรื่องห่างไกลที่เหมือนไม่เคยเกิดขึ้นจริง

ฝันร้ายที่เติบโต กำลังยึดครองช่วงเวลาทั้งกลางวันและกลางคืนเป็นของมัน

“ไผ่…กินยาสิลูก”

เสียงนั่นดังขึ้นที่หน้าประตู
เคาะซ้ำเป็นจังหวะ
คล้ายลูกตุ้ม แกว่งทับระนาบเดิม ไป มา ตามหลักควอนตัมฟิสิกส์

“ไผ่ กินยา”

รู้สึกถึงเมือกเหลวที่ผ่านร่องประตูนั้นมา
คืบคลานช้าๆ งอกมือนับไม่ถ้วน เอื้อมมาหาจุดที่ดำมืดที่สุดของห้อง
ความรู้สึกประหลาด คลั่กขุ่นไปทั้งห้อง

อึดอัดจนรู้สึกเหมือนนี่คือสิ่งที่เรียกว่าความตาย

เขาปิดปากเงียบ หลับตาลง รอให้โลกอีกฝั่งดึงตัวข้ามผ่านมิติอันเวิ้งว้าง กลับสู่ที่หลบภัยเพียงหนึ่งเดียว
แต่สิ่งเหล่านั้นมันไม่เกิดขึ้น
หลังเปลือกตา ท่ามกลางภาพวุ่นวาย ฉูดฉาด

มีเพียงปลายรองเท้าหนังคู่นั้น ที่เด่นชัด

มองนาฬิกา กลั้นหายใจเมื่อเห็นว่ายังเหลืออีกสองชั่วโมง
จ้องอยู่นานเพื่อให้แน่ใจว่าเข็มนาที หรือเข็มชั่วโมง เดินทางตามและสวนแรงโน้มถ่วงของโลกจริง ไม่ใช่ถูกหยุดไว้ด้วยโลกกลับหัวในบ้านหลังนี้
สองชั่วโมง ก่อนจะถึงเวลาเลิกเรียน

เสียงโทรศัพท์ดังมาจากที่ไกลมาก ได้ยินเพียงเสียงคล้ายเสียงกรีดร้องเพียงแผ่วเบา
หลับตาฟัง เสียงอื่นในหัว ดังขึ้นแทรก
ใช้เวลาอย่างไร้ประโยชน์ ตอหนวดทิ่มแทงผ่านผิวหนัง พยายามสุดแรงที่จะทิ้งความเจ็บปวดไว้บนหัวเข่า ไม่เป็นผล
ที่ไหน
คือโลกแห่งความเป็นจริงกันแน่

ถ้าโลกนี้มีหลายคู่ขนาน
ได้แต่สงสัย
ว่าสักแห่ง ในมิติที่ลึกลับออกไป คนที่หน้าตาเหมือนกัน ใช้ชื่อเดียวกันนี้ จะสามารถมีความสุขได้จริงๆหรือเปล่า

หรือว่าทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องโกหก

โกหก

ทั้งหมด เป็นคำโกหก

เสียงกระทบที่หน้าต่าง ทำให้หลุดออกจากความคิดเหนอะหนะ
ลุกขึ้นยืน เมือกที่รัดรอบลำคอ เลื่อนลง ทิ้งคราบไว้เจือจาง
เห็นคิมอยู่ที่ถนนด้านนอก ชั่ววินาทีนั้น เขาเห็นรถคันใหญ่ขับทับร่างนั้นจนกลายเป็นเพียงชิ้นเนื้อ กระพริบตาอีกครั้งเพื่อรับรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกคู่ขนาน

ในมือของคิม ยังมีหินอีกก้อนที่ถูกเตรียมไว้
โบกมือช้าๆ ที่คล้ายคำบอกลา ใบหน้านั้นไม่มีรอยยิ้ม

“ฉันมีเรื่องต้องคุยกับนาย”

ได้ยินคำนั้นชัด

คิมยืนอยู่ข้างตัว กระซิบคำนี้ที่ข้างหู คิมอีกคนหนึ่ง ยังยืนนิ่งอยู่ที่ถนน รอคำตอบ

“ฉันมีเรื่องเยอะแยะ ที่อยากจะคุยกับนาย”
“ทำไมนายต้องฆ่าเขาด้วย? นายตอบได้ไหม? นายมีคำตอบให้กับแม่ของเขาบ้างหรือเปล่า?”
“หรือว่านายอยากจะทำแบบนั้นอยู่แล้ว ความจริง จะเป็นใครก็ได้หรือเปล่า ที่นายคิดจะระบายความว่างเปล่าของนายลงไปด้วยวิธีนี้”
“ไผ่ นายมันก็เป็นแค่ฆาตกร เป็นสิ่งที่ไม่สมควรจะมีอยู่—“


ก้อนหินอีกก้อนถูกปาขึ้นมา


……………………………………..
……………………………


สายตาของเธอเดินตามหลังมา เหยียบลงบนเมือกนั้น รับรู้ได้ถึงความคิดต้นตอ ที่ก่อกำเนิดพวกมัน
ถ้าหยุดยืนที่ตรงนี้ คงจะถูกกลืนกินลงไป
การเคลื่อนไหว ถูกชะลอ อ้าปาก ส่งเสียง คลื่นพลังงานไม่เดินทางภายใต้ความหนืดนี้
ประตูเปิดเข้ามา คิมยื่นมือมาหา แสบตาจนลืมตาไม่ขึ้น

“ออกมาสิ ไผ่”

ประตูปิดลง ส่วนหนึ่งของมันที่ตามออกมาระเหิดหาย


……………………………………..
…………………………..


“วันนี้จอห์นไม่อยู่หรอ?”

คิมไม่ได้รับคำตอบ
แต่รู้ดีว่านี่คือการตอบรับ

“ไผ่ จอห์นเล่าเรื่องทั้งหมดให้นายฟังแล้วใช่ไหม?”

ถูกค้นคำตอบในดวงตา ไม่เคยรู้สึกชอบวิธีนี้
เป็นวิธีเดียวกันกับที่จอห์นชอบทำ
ก้าวเท้าเข้ามาในโลกอย่างไร้มารยาท ได้สิ่งที่ต้องการ ก็รีบผละตัวออกราวเห็นสิ่งน่าขยะแขยง

“เล่าแล้วสินะ…”

“…ต้องการอะไร”

“ฉัน?” พูดซ้ำ ราวกรอเทปกลับ “ฉันต้องการอะไรน่ะหรอ?”

“ไผ่ ฉันมาเพื่อเตือนนาย ไม่ใช่ว่าฉันต้องการอะไรหรอกนะ”

เตือน
เตือนตอนที่เรื่องทุกอย่างมันเกิดจนถึงจุดจบ
ไม่ต่างอะไรจากเฟืองที่ใช้งานไม่ได้จริงในแผงกลไก ในเวลาที่ระบบล่มสลาย

ขมวดคิ้วฟังคำนั้น

“ออกห่างจากจอห์นซะ”
“ทำไม?”

“….นายรักหมอนั่นหรอ?”

ตัวลอยขึ้นสูง แล้วถูกทิ้งลงมาจากความสูงระดับนั้น
เป็นความรู้สึกแบบนี้เสมอเมื่อได้ยินคำนี้
ความรู้สึกที่คล้ายความตายอยู่ปลายจมูก มีเพียงสิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวร่างกายหุ้มวิญญาณนี้ไว้

“…จอห์นรักนาย”

“…….”

“แต่เพราะอย่างนั้น ฉันถึงมาเตือนนาย”

“เตือน…”

“ใช่ ออกห่างจากจอห์นเถอะ ถ้านายทำด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ ฉันจะช่วยเอง”

กระพริบตา
คิมสีหน้าบิดเบี้ยว อวัยวะส่วนประกอบทั้งหมด เป็นเพียงเปลือกผิวของสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่เขาไม่เคยเห็น
ส่ายหัวออกไป พยายามเดินถอยหนี ถูกจับแขนไว้

“ฟังฉันเถอะ”

“…ไม่เข้าใจ”

“ที่ก่อนหน้านี้ ฉันยังไม่เข้ามาบอกนายตรงๆ เพราะฉันไม่รู้ว่าจอห์นพูดกับนายถึงไหนแล้ว แต่ในเมื่อตอนนี้ ไผ่รู้ทั้งหมด ฉันก็ควรจะบอกให้นายรู้ซักที”

“รู้..รู้อะไรอีก”

คิมหลบสายตาไปทางอื่น
ปากที่ขยับออกมา แก็ซพิษเลื่อนตัวปกคลุมอย่างเชื่องช้า

“….ความจริงอีกด้านหนึ่ง”



……………………………………..
………………………….


“ไผ่”

“ไผ่ มานี่สิ”

“ทำไมล่ะ?”

เสียงนั่นคอยเอาแต่จะรบกวนอยู่ตลอด
เป็นความน่ารำคาญคล้ายถูกหยิกเบาๆลงบนผิว ซ้ำไปมา

“ไผ่ หันหน้ามาทางนี้สิ”

จอห์นยื่นมือมา
ถูกปัดออก

นัยน์ตาสีฟ้า กลับเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม

“อะไร? วันนี้นายทำอะไรมา”

คำพูดเดินทางถึงปลายลิ้น เขากัดฟันแน่น มันดิ้นรนหาทางอื่น ซึมลึกผ่านลงทางเส้นเลือด เส้นประสาท สั่งการให้ยื่นมือออกไปแทน

จอห์นดูจะแปลกใจที่เห็นมือนี้ยื่นออกมาจับเอง

“คิม..”

“คิมทำไม”

คาดคั้นเหมือนจะบีบให้ตาย
บรรยากาศคล้ายใต้ทะเล ถูกกวนวก ศูนย์กลางอยู่ที่จอห์น

ความเงียบถูกเปลี่ยนเป็นก้อนพลังงาน จอห์นขมวดคิ้วจนรู้สึกคล้ายกับที่ตรงกลางหว่างคิ้ว เป็นที่อยู่ของเขา ถูกบีบอัด รัดแน่นจนเครื่องในบิด

“บอกมาสิไผ่ คิมมาที่นี่งั้นหรอ?”

โดยที่ยังไม่ได้คำตอบ ก็ถูกกระตุกแขน ถ้ามันหลุดออกไปข้างหนึ่ง ก็คงจะถูกดึงอีกข้างหนึ่งออก
ทั้งขาทั้งแขน จอห์นเหมือนต้องการจะเด็ดมันทิ้งทั้งหมด
สะสมผีเสื้อไร้ปีก
วิปริต
งดงาม

“ไปกันเถอะ”

“ที่ไหน?”

“ฉันไม่รู้”

จอห์นเดินนำ เมือกทั้งหมด แหวกตัวออก
บรรยากาศน่าอึดอัด เมื่อความรู้สึกของจอห์นเปลี่ยน บ้านทั้งหลังก็พร้อมตอบรับ
อากาศร้อน
เผาไหม้รอบข้อมือที่ถูกกำ ผิวหนังสุก เลือดระเหย ได้กลิ่นคล้ายกลิ่นสัตว์ที่ถูกปรุง

รถที่จอดอยู่หน้าบ้าน จำได้ว่าเป็นของพ่อจอห์น
ประตูรถถูกเปิดออก

“ขึ้นไปสิ”

ลมพัดผ่านรอบตัว
คล้ายภูเขาที่ต่างกลางหุบเหว
เส้นคั่นบางๆ
ด้านหลังคือหลุมลึก อาจจะเป็นบ่อที่ร้างแห้ง ชีพจรชีวิตเต้นอย่างไร้เรี่ยวแรงอยู่ในซอกลึก
ด้านหน้า
เป็นรถเที่ยวเดียว สู่นรกที่ดำมืด

มือของขุมปีศาจ ผลักเขาเข้าไปในรถโดยที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ


…………………………..
……………………..


รถขับออกไป ไฟที่อยู่ด้านหน้า ตัดความมืดออกเป็นสองกรวย
เสียงเครื่องยนต์ ไม่มีเพลงที่ถูกเปิด รถสะอาดเหมือนถูกจัดไว้เพื่อจุดประสงค์ที่เร้นไว้
P.M. บนแป้นนาฬิกา เปลี่ยนเป็น A.M.
ตอนนั้น เป็นตอนที่รถจอดนิ่ง กลางถนนคล้ายในจินตนาการ

ไม่มีรถคันอื่น จอดอยู่กลางช่องว่างระหว่างสองภูเขา ด้านหน้า ทางสามแพร่ง
นอกรั้วกั้นของทางตรง ไผ่มองไม่เห็นอะไร ได้ยินเสียงของคลื่นน้ำ อาจเป็นหุบเหวไร้ก้นใต้ท้องทะเล ทางเข้าออกเดียวของนรก
จอห์นไม่ได้เลี้ยวขวา หรือเลี้ยวซ้าย แต่จอดมันกลางทางที่ต้องตัดสินใจ

“คิมพูดอะไรบ้าง?”

“….”

“ไผ่..นายเชื่อคำพูดของคิมหรือเปล่า?”

มีอะไรถูกส่งออกมาด้วยกับคำพูดนั้น
มันแผ่วบาง
คิดจะจับเอาไว้ ก็แตกสลายในมือ

 “ฉันไม่รู้”

“ตัดสินใจสิ”

เหมือนกับทางตรงนี้
จะไปที่ไหนต่อ

“ทำไมเราต้องเดินทางต่อ…”

จอห์นหันหน้ากลับมา ฟัง

“หยุดอยู่แค่ตรงนี้—“

“ไม่ได้ ไผ่ นายทำแบบนั้นไม่ได้”

“….”

“ฉันรู้ ฉันรู้ว่าถ้าเราหยุดตรงนี้ มันจะดีกว่า แต่ฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้นหรอกนะ ไผ่”

“แล้วต้องการอะไร…”

“นั่นขึ้นอยู่กับนายตัดสินใจ”

“จอห์น”

ดวงตาคู่นั้นกลายเป็นสีดำ หลบอยู่ในกลีบเงาเมฆ

“ทำไม….”

“นายก็รู้คำตอบว่าทำไม”

“ไม่…ฉันไม่รู้”

“ฉันเป็นคนฆ่าซัน”

เบาะรถยนต์
คล้ายกับล่องลอยในความมืด

ไม่กล้าพอที่จะหันไปมองหน้าจอห์นในตอนนี้
ไม่มีความกล้านั่นเกิดขึ้นเลย แม้แต่ในความคิด

“ฉันพยายามจะแย่งกรรไกรออกมาจากมือนาย แต่นายก็กำมันไว้แน่น ฉันเลยแทงเข้าไปทั้งแบบนั้น”

จอห์นไม่ได้รอให้เขาพูดอะไรออกมา เพราะรู้ว่ามันไม่มี มันไม่เกิดขึ้น จอห์นกำลังพูดคุยกับตัวเอง ตกอยู่ในเมือกที่ถูกสร้างขึ้น สีของมันประหลาด หุ้มรอบตัวของจอห์นอย่างช้าๆ

จอห์นสูญเสียสิ่งที่ปกป้องตัวเองมาโดยตลอด

เอาฉันเข้าไปในโลกว่างเปล่าของนายสิ…

ความว่างเปล่า ไม่เคยมีความปราณี
มันนิ่งเงียบ ซุ่มอยู่ในความมืด โจมตีโดยไร้เสียง

กลืนกินจิตใจคนลงไปอย่างตะกละตะกลาม ในขณะเดียวกัน ประณีต
มันไม่เคยทำงานผิดพลาด
เขารู้จักมันดี มากเกินกว่าใครจะรู้จัก

“ฉันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่บ้านของนาย ฉันได้ยินมาเยอะ แม้แต่พ่อฉัน ก็ยังรู้เรื่องนายกับซัน เพราะมันเป็นเรื่องจริง”

พ่อ
หน้าตาแบบไหนนะ

พยายามเค้นนึก สมองปฏิเสธ
ทุกอย่างห่างออกไป นึกย้อนมองดู คล้ายกับเฝ้ามองดูชีวิตของคนอีกคนหนึ่ง คล้ายตัวละครในภาพยนต์หดหู่

“ฉันไม่ได้เกลียดซัน ไม่เคยเกลียดเลย แต่ฉันทำ เพราะว่าต้องทำ”

“ทำเพื่ออะไร..”

“เพื่อปกป้องนาย”

 เสียงถอนหายใจ คล้ายเสียงลมหายใจสุดท้ายของคนจมน้ำ

“ถ้าปล่อยซันอยู่ต่อไป ก็มีแต่จะทำร้ายนายเสียเปล่าๆ เพราะยังไง ซันก็ยังอยู่บนโลกใบนี้ อยู่ไปพร้อมกับนาย บางทีตอนนั้น ฉันคงคิดตื้นเกินไป”

“กรรไกรอันนั้นใช้ตรวจรอยนิ้วมือไม่ได้ เพราะก่อนหน้านี้ มีคนจับอยู่ตลอด แล้วพวกเราก็เด็กเกินกว่าที่ใครจะคิดเกินคำว่าอุบัติเหตุ”

ซันยืนอยู่ที่ตรงนั้น
นอกตัวรถ ระหว่างไฟหน้าทั้งสองข้าง
ยืนอยู่ในความมืด เฝ้าฟังอย่างพิจารณา
บนหน้านั้น ไม่มีรอยยิ้ม

“ฉันคิดจะรับผิด แต่พ่อฉันไม่ยอม ถ้าฉันสารภาพออกไป พ่อก็จะตกงาน โดนประณาม ส่วนฉัน ก็คงจะไม่ได้เจอนายอีก สิ่งที่ทุกคนเข้าใจ คือเรื่องที่เกิด เป็นเรื่องที่ไม่มีใครต้องการให้มันเกิดขึ้น พ่อเลยอาสาเป็นจิตแพทย์ให้นาย ในเมื่อเรื่องมันเกิดว่านายเป็นคนทำเข้าจริงๆ พ่อฉันเลยทำให้นายลืมทั้งหมดนั้นไป”

เด็กผู้ชายห้าคน ตกเป็นเหยื่อ
คนหนึ่ง ตาย
สองคนเข้าใจผิด
หนึ่งคนรู้ความจริง
อีกหนึ่ง ฆาตกร

ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นปกป้อง หรือเพื่อกลบเกลื่อน ทั้งหมดนั่น เริ่มต้นจากจุดจบของหนึ่งชีวิต

เดินมาถึงจุดที่ย้อนกลับไปเป็นแบบเดิมไม่ได้อีก

“ฉันถูกส่งไปที่อื่น ถูกดึงออกจากนาย ฉันต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้พ่อฟัง เพราะไม่ว่าใคร ก็โกหกต่อหน้าพ่อไม่ได้”

“ทันทีที่ฉันกลับมา ฉันมาหานาย” จอห์นกำพวงมาลัยแน่น มันคือที่ยึดเหนี่ยวเดียวในเวลานี้ “ไม่เคยคิดเลย ว่าเรื่องจะมาถึงตรงนี้ได้ เพราะฉันไม่คิด ว่าคิมจะอยู่ใกล้พวกเราขนาดนี้”

ความผิดพลาดเพียงการก้าวเดินของหมากเดียว
ทำให้ทั้งตาราง พลิกผัน

“คิมเคยถามนายใช่ไหม? ว่าจำได้หรือเปล่า?” เสียงของจอห์นไม่ชัดเจน เหมือนพูดอยู่ใต้น้ำ ความเย็นที่สัมผัสกับผิวหนัง ทำให้เผลอคิดไปว่าอาจจะเป็นเรื่องจริง “เพราะคิมไม่เคยรู้ ว่าหลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง พวกเราแยกย้ายกันไปคนละทาง”

ใคร?
วิธีไหน?
อะไรกันแน่ ที่เรียกว่าปกป้อง?
สิ่งไหนกันแน่ ที่ถูกต้อง?

คำถามผุดขึ้นมาสั้นๆ สลายตัวด้วยครึ่งชีวิตเพียงเสี้ยววินาที

“แต่ฉันไม่อยากเห็นนายในสภาพนั้นเลย นายที่เหมือนตายไปแล้ว ไผ่ ตัวนายจริงๆ มันสว่าง สว่างกว่านั้นมาก”

สว่างคล้ายพระอาทิตย์
ซัน
สองคนที่คล้ายกัน จุดเริ่มต้นอยู่ที่ดีเอ็นเอ

เวลาผ่านไปนาน ถูกทิ้งร้างในห้วงความเงียบงัน
สงบราวกับโลกหลังความตาย

“รู้ความจริงทั้งหมดแล้ว นายรู้สึกยังไงบ้างล่ะ?”

ถามหาคำตอบจากสิ่งที่แตกสลาย
พิงหัวกับกระจก ฟองอากาศลอยขึ้น ชนเพดานรถ

“…ถ้าทั้งหมด มันไม่เกิดขึ้น” เสียงงึมงำ หันไปมองจอห์นที่หันหน้ามา “ก็คงจะดีกว่านี้”

“มานี่สิ”

ทำตามอย่างว่าง่าย
จูบแลกถ่ายออกซิเจน ยาวนานกว่าครั้งไหนๆ
เป็นจูบที่ไร้ซึ่งคำโกหกอยู่ในนั้น
ความสิ้นหวังถูกนำมากองอยู่รวมกัน

จอห์นเป็นฝ่ายผละออก
ริมฝีปากยังเห็นเป็นรอยชื้น ขยับ

“ไผ่ ฉันให้นายตัดสินใจ”

ทำไมต้องเป็นทางตรงนี้…
ทางที่ไม่รู้จัก ในเวลาที่มืดมิดที่สุด

“ถ้านายรักฉัน” ดวงตาคู่นั้นมีแววสะท้อน หยดน้ำกลั่นตัว ควบแน่น เกาะอยู่ที่หางตา เมื่อตอนที่นัยน์ตาสีน้ำเงินนั่นหลุบลง ก็ดูคล้ายกับว่าหยดน้ำเหล่านั้นถูกจ้องมอง “ก็ไปกับฉันเถอะ”

“…ไปที่ไหน?”

“ที่ไหนก็ได้ ที่นายอยากจะไป ทุกที่” ฝนที่พรำ มุดตัวผ่านอะตอมของโครงเหล็กรถ รวมตัวกันที่ใบหน้าจอห์น “ฉันจะไปกับนาย ถ้านายขอมา”

ลมเปลี่ยนทิศ
เขารู้สึกทุกความชื้นที่แก้ม

ไผ่ร้องไห้ออกมาด้วยตาซ้าย
และคิดว่าบางที จอห์นอาจจะร้องไห้ด้วยตาขวาเพียงข้างเดียวเหมือนกัน

ความว่างเปล่ายึดกินซีกข้างที่เหลือ
เพียงลำพัง คงพูดไม่ได้อีกต่อไป ว่ายืนอยู่บนโลกใบนี้ในฐานะมนุษย์อย่างเต็มตัว

ต้องพึ่งพา ทำร้าย ปลอบโยน เหยียบย่ำ ต่อประกอบ ทะนุถนอม ทำลาย
เพื่อที่จะเป็นคนหนึ่งคน

“ขอแค่เพียงนายรักฉัน ไม่ว่าอะไรก็ตาม ไผ่”

ความรักที่เห็นแก่ตัว
ความรักที่คล้ายกับใบมีด กรีดลึกลงไป ทิ้งรอยแผลไว้ให้ทุกคนที่ยื่นมือเข้ามา
แต่ทุกคนก็เรียกร้องหามัน
เป็นคำสั่งระดับยีนส์ ที่ฝังลึก สร้างความว่างเปล่า เพื่อให้ถูกทดแทน

ไผ่มองไปยังทิศทางที่ถูกเลือก
โน้มตัวเข้าไปหาจอห์น ในระยะครึ่งทางที่พบเจอกัน จูบกันราวกับเป็นจูบสุดท้าย

“ไปสิ”

“ฉันขอฟังคำนั้นก่อนได้ไหม?”

“มันอาจจะว่างเปล่าถ้าพูดออกไป”

“นั่นก็คือคำนิยามของเราไม่ใช่หรือไง?”

ทั้งอึดอัด ว่างเปล่า
ความรู้สึกที่คล้ายกับต้องดิ้นทุรนทุรายเพื่อหาความหมายของการดำรงชีวิต
ทั้งหมดนั้น

คำพูดนั้นดังขึ้นพร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่ถูกจุดติดขึ้นอีกครั้ง
ตัวรถเคลื่อนผ่านเงาของซัน เด็กผู้ชายคนนั้นหันมองตามรถที่ขับออกไป ยกมือขึ้น โบกมือลา
พูด ‘แล้วเจอกัน’
ไผ่มองผ่านกระจกหลัง ร่างนั้นเลือนหาย ด้วยความมืดที่วิ่งตามหลังมา

ภาพที่เคยอยู่ด้วยกัน ใต้น้ำเย็นยะเยือกในสระของโรงเรียน ผุดเข้ามาในหัว
ภาพต่อภาพ คล้ายกับภาพเคลื่อนไหว
จอห์นหันไปมอง เห็นรอยยิ้มของไผ่ที่ตอบกลับมา นั่นเป็นครั้งแรก ที่ได้เห็นรอยยิ้มนั้นอีกครั้ง หลังที่ไม่ได้เห็นมานาน



สองมือจับเข้าหากัน


……………………………..
………………….



[Complete]
[28.7.56]

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด