Lesson 102
( Pop Part )
“เฮ้ยมึงกูว่าพอก่อนดีไหม มึงดื่มมเยอะมากไปแล้วนะเว้ย”
“ปล่อยให้กูกินเถอะ” ผมบอกไอ้วิน ไอ้วินก็ยอมปล่อยผมครับ ผมจึงกระดกแก้วเหล้าที่อยู่ในมือเข้ารวดเดียวจนหมดแก้ว กระดกแล้วกระดกอีกแก้วแล้วแก้วเล่าจนไอ้วินแย้งแก้วเหล้าของผมไปอีกครั้งนึง
“มึงเป็นเหี้ยอะไรของมึง แดกเหล้ามาสามวันติดๆกันแบบเนี่ย มึงเป็นเหี้ยอะไร มึงนึกถึงคนอื่นเค้าบ้างว่าเค้าเป็นห่วงมึง มึงมีอะไรก็พูดออกมาสิวะ ไม่งั้นมึงจะมีเพื่อนไว้ทำเหี้ยอะไร!!!!!!!” ไอ้วินพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธจัดจนหน้าแดง
“พอแล้ววิน ป๊อปมันเครียดอะไรหรือเปล่าตัวเองค่อยๆคุยกัน” อัทก็เข้ามาช่วยห้ามไอ้วิน
“มึงไม่เข้าใจกูหรอก” พูดจบผมก็รินเหล้าใส่แก้วใหม่แทน ผมไม่รู้หรอกว่าผมกินเหล้าหมดไปเท่าไรรู้แต่ว่าหลังจากกลับจากพรหม ผมก็กินเหล้าจนเหล้าพอตื่นก็กินใหม่ วงจรชีวิตผมเป็นแบบนี้มาสามวันแล้วครับ
“ไอ้สัด!!!! กูถึงบอกให้มึงพูดมาไงไม่งั้นกูก็ไม่เข้าใจมึงหรอก” ไอ้วินพูดเดือดๆขึ้รอีกครั้ง
“ก็กูมันเลวไง!!! กูมันชั่วร้ายสันดารไม่ดี จะรักใครซักคนเค้ายังไม่รับรักกูเลย หึ...ก็สมควรแล้วล่ะกับคนเลวๆแบบกู ไม่มีใครเค้ามาสนใจกูหรอก” ผมพูดออกไปด้วยความอัดอั้น พวกมันสองคนก็นิ่งไปเลย ผมก็ดื่มเหล้าต่ออีกจนผมเริ่มไม่รู้สึกตัวอีกแล้ว
( Prom Part )
ผมนอนลืมตามองเพดานอยู่ในห้องตัวเองแบบนี้มาสามวันแล้ว ไม่ออกไปไหนและไม่ทำอะไรเลยทั้งสิ้น มันรู้สึกท้อและเหนื่อยกับชีวิตเหลือเกิน ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้สิ ตั้งแต่ป๊อปจากไปผมก็โหวงเหวงยังไงก็ไม่รู้ ผมหันไปดูนาฬิกาตอนนี้ก็จะสองทุ่มแล้วสินะ แต่ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลยตั้งแต่เช้า และก็ไม่ได้กินอะไรเลยสามวัน แต่ทำไมผมถึงไม่รู้สึกหิวเลยก็ไม่รู้
“ปิ๊งป่องๆ” เสียงออดหน้าห้องผมดังขึ้น ผมจึงค่อยๆลุกไปเปิดแต่ก่อนเปิดผมก็ต้องส่องตาแววก่อน เป็นบทเรียนจากครั้งที่ป๊อปลักพาตัวผม
“ว่าไงอัท” ผมพูดทักทายตามปกติ ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่ามาซะดึกเลย
“เรานอนด้วยซิคืนนี้อ่ะ”
“อ้าวทำไมหรอ…แล้ววินล่ะ”
“วินมันอยู่เป็นเพื่อนไอ้ป๊อปอ่ะ...เราไม่มีเพื่อนเลยมานอนกับพรหมด้วย” พูดจบอัทก็แทรกตัวเข้ามาในห้องพร้อมกับดันผมเข้าไปด้วยและปิดห้องล็อคเรียบร้อย
“พรหม...ทำไมช่วงนี้ถึงดูโทรมๆล่ะ” อทัเข้ามาถึงก็ถามผมทันที
“หรอ...ไม่รู้สิ” เมื่อผมตอบก็ต่างคนต่างนิ่ง
“เราอาบน้ำก่อนนะ” ผมบอกอัท
“อ้าว ก็ใส่ชุดนอนอยู่ยังไม่ได้อาบหรอ” อัทถามอย่างสงสัย
“อื้อ เรายังไม่ได้อาบตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ” ผมพูดยิ้มๆแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ผมอาบน้ำนานมากเพราะคิดเรื่องของตัวเองกับเรื่องของป๊อปเพลินไปหน่อย มันหนักใจนะกับความรู้สึกแบบนี้...เหมือนเป็นคนที่ไม่รู้จักตัวเอง
“ก๊อกๆ พรหมอาบน้ำนานไปไหม” อัทมาเคาะตะโกนเรียกผมหน้าห้องน้ำ
“เอ่อ...เอ้อ เสร็จแล้วโทษที แปปนึง” ผมปิดน้ำเช็ดตัวและแต่งตัวในห้องน้ำเลยครับ เดินออกมาก็ไม่เห็นอัทอยู่ในห้องแล้ว ผมจึงเดินหาจนเจอ...อัทอยู่ในครัวครับ
“พรหมกินข้าวเย็นยังอ่ะ” อัทถามผมในขณะที่ตัวเองก็คุ้ยหาของกินไปด้วย
“ยัง”
“แล้วข้าวเช้ากินอะไรไปอ่ะ” อัทถามผมต่อ
“ยังไม่ได้กินหรอก” เมื่อผมบอกไป อัทก็หันมามองผมขวับเลย
“เฮ้ย ทำไมไม่หากินล่ะ....ถามใหม่ดีกว่า กินข้าวมื้อสุดท้ายเมื่อไร” อัทถามผมหน้าตาดูซีเรียสมากๆครับ
“ก็....สามวันที่แล้ว” ผมตอบเสียงอ่อนเลยครับ แต่พอตอบไม่ทันจะขาดคำอัทก็ยัดขนมปากเข้าปากผมเลยครับ
“อื้อ.....อำไอ”(ทำไร) ผมพูดได้ไม่เต็มปากเพราะขนมปังมันคาปากผมอยู่
“กินลองท้องไปก่อนเลยนะ แย่จริงๆเลยทำไมปล่อยตัวเองขนาดนี้.....พี่ตัสหรอมาหาผมกับพรหมหน่อย...” แล้วอัทก็เดินออกไปคุยนอกระเบียงแต่ก่อนออกไปยังหันมากำชับผมว่าต้องกินขนมปังก้อนที่อยู่ในมือให้หมดด้วย ผมก็นั่งกินอย่างว่าง่ายและสักพักนึงอัทก็กลับเข้ามา
“คุยอะไรหรอ นานจัง” ผมถามไม่ทันจะขาดคำเลยเสียงกดออดหน้าห้องผมก็ดังขึ้น
“พี่ตัสมาละ” อัทเดินไปเปิดประตูห้องผม และก็ปรากฏร่างของคนที่ผมคุ้นเคยดีเดินปรี่เข้ามาหาผมด้วยความรวดเร็วพร้อมกับเป้ใบนึง
“พรหมกำลังทำอะไรอยู่บอกพี่สิ!!!!” พี่ตัสมาถึงก็ใส่ผมเลยครับ ผมก็เอ๋อสิครับงานนี้
“เอ่อ...อะไรพี่” ผมถามกลับด้วยความไม่เข้าใจ
“พรหม...ทำไมถึงเป็นแบบนี้โทรมลงไปตั้งเยอะรู้ตัวเองบ้างไหม มีอะไรในใจไหมตอนนี้” เมื่อพี่ตัสถามมาแบบนี้ผมก็นิ่งเงียบไม่ตอบ...เรื่องในใจน่ะมันมีอยู่แล้ว ผมก็พยักหน้าเป็นคำตอบแทนการพูด
“เรื่องป๊อปใช่ไหม” ผมก็พยักหน้าอีก พี่ตัสก็ถอนหายใจยาวพรืดเลยครับ
“มีปัญหาอะไรเล่าให้ฟังได้ไหม เพราะทางป๊อปเองก็เป็นหนักใช่เล่น” อัทพูดถามผมขึ้น
“มันไม่มีอะไรหรอก ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วงกัน”
“อย่าโกหกพี่พรหม....รู้ใช่ไหมว่าพี่ไม่โง่” พี่ตัสจ้องหน้าผมนิ่ง สายตาดุดันเอาเรื่อง
“ได้ครับ....เรื่องก็มีอยู่ว่า.......” ผมก็เล่าเรื่องตั้งแต่ผมไม่สบายแล้วนัทป๊อปไปสระน้ำและป๊อปพูดบอกลาผม เมื่อผมเล่าจบน้ำตาผมก็ไหลออกมา...ผมรู้สึกสะเทือนใจมาก แต่ว่าผมเป็นคนเลือกเองนี่นะ
“แล้วร้องไห้ทำไมพรหม” พี่ตัสพูดแล้วก็ปลอบผม
“ไม่รู้พี่...ผมไม่รู้” ผมกอดพี่ตัสแน่น เวลานี้ผมอยากได้ใครซักคนให้ผมเกาะไว้เป็นที่พึ่งหน่อย แล้วถ้าผมทำใจได้แล้ว....ผมจะปล่อยเอง
“จะทรมานใจตัวเองทำไม....ทำไมไม่เชื่อมั่นในความรู้สึกตัวเอง มัวแต่มีทิฐิอยู่แบบนี้ตัวพรหมเองไม่มีควาสุขหรอกนะ...เดี๋ยวพี่จะพาไปดูอะไรนี่” พูดจบพี่ตัสก็ลากผมและอัทไปขึ้นรถและขับรถพามาที่คอนโดแห่งหนึ่ง....คอนโดของป๊อป
“พี่พาผมมาที่นี่ทำไม” ผมถามพี่ไป
“ตามมาเถอะ” พูดจบพี่ตัสก็ลงรถและเดินนำหน้าขึ้นปห้องข้างบน อัทก็จูงมือผมให้เดินตามพี่ตัสขึ้นไปและเมื่อมาถึงห้องป๊อปพี่ตัสก็หยุดหน้าห้องแปปนึงก็มีคนมาเปิดประตูให้ พี่เบิร์ดนั่นเอง อัทก็จูงมือผมเข้าไป ภาพที่เห็นทำเอาผมเกือบวูบ ภาพของผู้ชายที่ผมคุ้นเคยอย่างดี กำลังอาละวาดอย่างบ้าคลั่ง!!!!
“ปล่อยกู ให้กูตายเถอะ กูไม่อยากอยู่แล้วแล้ว...พวกมึงออกไปอย่ามายุ่งไอ้เหี้ย!!! ปล่อยกู” ผมน้ำตาไหลพรากที่ผมตัดสินใจลงไปมันผิด ผิดมหันเลยครับ เพราะนี่เพื่อนป๊อปเกือบทั้งแก๊งต้องมาคอยช่วยกันจับป๊อปที่กำลังคิดสั้น
“เห็นแล้วใช่ไหม....อย่าทึกทักอะไรเอาเอง เราเคยผ่านจุดนี้มาก่อนนะพรหม” อัทพูดปลอบใจผม สักพักเสียงเพื่อนๆในห้องก็เริ่มโวยวายขึ้นเพราะจับป๊อปไม่อยู่แล้ว ผมจึงวิ่งเข้าไปจับตัวป๊อปโดยอัตโนมัติและผลักป๊อปล้มลงไปบนโซฟาแล้วผมก็นอนทับป๊อปไว้ทั้งตัวพร้อมกับกอดป๊อปไว้
“ป๊อปๆ เราขอโทษอย่าทำแบบนี้เลยนะ” ผมจะลองเชื่อความรู้สึกตัวเองดูสักครั้งก็ได้ ป๊อปก็ยอมอ่อนลง ผมจึงหันไปจ้องหน้าป๊อปเราสบตากันอยู่นาน ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบโดยปริยาย
“พรหมใช่ไหม...เราคิดถึงพรหมนะ” พูดจบป๊อปก็หลับตาลงและนิ่งไปในที่สุดผมก็นอนกอดป๊อปไว้แบบนั้นตลอดจนแน่ใจว่าป๊อปหลับไปแล้วจริงๆ ผมก็ช่วยกันเก็บกวดาห้องและทุกคนก็นอนกันที่ห้องป๊อป ส่วนผมก็นอนกอดป๊อปเอาไว้ถึงแม้ว่ามันจะอึดอัดที่คนสองคนนอนเบียดกันบนโซฟาแต่ผมหวังว่าป๊อปตื่นขึ้นมาแล้วจะเห็นผมเป็นคนแรก