มาแล้วจ้ามาแล้ว กินขนมกันเสร็จก็มาชมกันต่อเร๊ว.........
..........................................................
องค์ที่ 47
ผมเดินมาถึงโต๊ะทำงาน ก็ต้องแปลกใจ เพราะมีกล่องขนมเค้ก วางอยู่ชิ้นนึง ถามใครก็ไม่มีใครรู้ แผนกผมนี่ จะมีใครรู้เรื่องคนอื่นมั่งมะเนี่ย
แต่ก็นะ ของฟรี (กลัวเหมือนกันว่าจะมีการเก็บเงินทีหลังป่ะเนี่ย) ผมก็เคลียร์งานไปเรื่อยจนลืมเค้กไปเลย พอเที่ยงไอ้หมีก็ยังไม่โทรมา มันจะงอนอะไรของมันกันนักหนาว๊า ผมเลยต้องเป็นฝ่ายโทรไปหามันเอง
“เที่ยงแล้วนะ ไปกินข้าวกันเหอะ”
“สนใจกรูด้วยหรอ”
“เอ้ามรึงนี่ งอนไรว๊า”
“กรูมีสิทธิ์ด้วยหรอ งอนไปก็ไม่มีใครง้อ กรูจะกล้าหรอ”
“โหยมรึง น่านะ กรูขอโทษ ไปกินข้าวกันเหอะนะ นะ”
“วันนี้กรูอยากกิน KFC” กว่าจะได้กิน ก็ปาเข้าไปเที่ยงครึ่ง ขี้ใจน้อยจริงๆเลยแฟนกรู
.........................................................................................
กลับมาก็เคลียร์งานตลอดบ่าย จนใกล้เลิกงาน น้องทีก็โทรมา
“อร่อยมั้ยครับ” งงเลย
“อะไรอร่อยอ่ะ”
“อ้าว ก็เค้กไงครับ อร่อยมั้ย”
“อ๋อ ของเราเองหรอ พี่ยังไม่ได้ชิมอ่ะ ยุ่งๆอยู่”
“หืม...พูดแบบนี้เดี๋ยวเค้กมันก็น้อยใจแย่ซิครับ” มาอ้อนกรูอีก
“เย็นนี้พี่หนุ่มว่างมั้ย ไปกิน MK กันมั้ยครับ เดี๋ยวผมเลี้ยง”
“ไม่เป็นไรดีกว่า พี่ยังต้องเคลียร์งานอีกหน่อยอ่ะ” ของฟรี ของฟรี
“หรอครับ แย่จังเลย งั้นเอาไว้คราวหน้า ห้ามปฏิเสธนะครับ” ผมก็ได้แต่ อือ ออ ไป ไม่ได้คิดอะไร ก็รีบเคลียร์งานให้เสร็จ
ไอ้การที่มีคนมาปลื้มๆก็ดีอยู่หรอก แต่มากไปก็ชักจะรำคาญ ก็ผมมันพวกเบื่อง่าย แต่ถ้าชอบก็ชอบนาน เช่นว่า ชอบกินก๋วยจั๊บร้านนี้อ่ะ ผมกินได้เป็นเดือนเลยหนะ(ทำมาแล้วจนไอ้หมีมันบ่น) ก็มันอร่อยนี่เนอะ แต่พอกินไปกินมา รู้สึกว่าเอ๊ะ มันไม่อร่อยเหมือนเคย ก็จะเลิกกินไปอีกนานเลย เนี่ยแหละผม
กว่าจะเคลียร์งานเสร็จก็ปาเข้าไปหกโมงกว่าแล้ว เหนื่อยชมัด ส่วนไอ้หมีนะหรอ มันลงมานั่งที่โต๊ะข้างๆรอผมตั้งแต่ยังไม่ 5 โมงเลยด้วยซ้ำ มาคิดๆดูรู้งี้เรียน IT มาดีกว่ามั้ง ดูท่างานไม่ค่อยจะยุ่งเล้ย
พอปิดเครื่องปั๊บ ไอ้หมีก็บ่นปุ๊บเลย
“หิวแล้วเนี่ย”
“เออ กรูรู้”
“เป็นเพราะรอใครก็ไม่รู้ กินข้าวไม่ตรงเวลาเลย ไม่รู้จะเป็นโรคกระเพาะรึเปล่า” แล้วมันก็เอามือลูบๆท้องมัน
“ดีเลย เอาให้น้ำย่อยกัดให้กระเพาะโหว่เลย บอกให้กลับก่อนก็ไม่เชื่อ”
“ทำไมอยากให้กลับนักเนี่ย นัดใครไว้รึไง” เอาอีกละ ชวนทะเลาะอีกละ
“อะไรของมรึงเนี่ย กรูก็อยู่ของกรูดีๆไม่ได้ไปยุ่งกะใครเลยนะมรึง” ผมละอ่อนใจ
“กรูรู้ มรึงอ่ะไม่ยุ่งกับใครหรอก แต่มรึงไม่รู้หรอก ว่าไอ้ใครๆๆๆๆๆน่ะ มันอยากยุ่งกับมรึงจนตัวสั่น” ดูมันนะ คิดเอง แล้วมีหน้ามางอนผม
“ก็ถ้ากรูไม่ยุ่งกะไอ้ใครๆๆๆๆ ที่มรึงว่า มันจะมายุ่งกะกรูได้ไงเล่า” ชักมีน้ำโหครับ หึหึ
แล้วมันก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่ผมดิ เหนื่อยก็เหนื่อย ยังต้องมาทะเลาะอะไรไร้สาระกะมันอีก เวลาจะเข้าใจอะไรก็เข้าใจดี๊ดี แต่ทีเวลาจะง๊องแง๊งละมันน่าเตะซะจริงๆ
“หิวไม่ใช่หรอ รีบไปดิ” แล้วผมก็เดินนำมันออกไปโดยไม่ลืมหยิบเค้กติดมือไปด้วย แล้วก็จริงดังคาด ไอ้หมีถามว่าเค้กใคร
“เค้กกรู” ผมตอบแค่นั้นแหละ ก็มันของผมริงๆนี่หน่า รึใครจะเถียง.............
“มรึงไปซื้อตอนไหน” นั่น ยังไม่จบ ผมก็แกล้งเนียนๆทำเป้นไม่ได้ยิน แล้วเดินนำมันไปที่รถ
“มรึง ตอบมาดิ ไปซื้อมาตอนไหน”
“อะไรอีกว๊า ถามจริงเลย หิวข้าวไม่ใช่รึไง” จริงๆแล้วถ้าจะบอกมันก็ไม่น่าจะเป้นอะไร แต่ผมคิดว่า ถ้าบอกตอนนี้ เดี๋ยวมันก็พาลหาเรื่องทะเลาะกับผมอีกอ่ะ เลยยังไม่บอกดีกว่า
“มรึงก็บอกกรูมาก่อนดิ”
“ไอ้ทีมันซื้อมาให้ พอใจยัง” ถามนัก ผมเลยตัดสินใจบอกไปเลย เพราะมันก็ไม่เห้นจะมีอะไรมากกว่านั้นเลย
“ทำไม ทำไมมันต้องซื้อให้มรึง เดี๋ยวนี้มรึงสนิทกับมันแล้วนิ ชอบละซิ” นั่นปะไร
“ก็มันซื้อมาให้กรูเอง กรูไม่ได้บอกมันเลยนะ” ผมพยายามจะอธิบาย ผมเองก็เข้าใจไอ้หมีมันอยู่หรอก แต่ดูท่าทางมันจะไม่ยอมเข้าใจอะไรซะเลย
“กรูบอกแล้ว ก็มันชอบมรึงไง แล้วมรึงไปรับของมันมางี้ มรึงให้ความหวังมันงั้นซิ” ดูมันทำฉุนใส่ผม กลายเป้นว่าผมผิดใช่มะเนี่ย
“มรึงนี่ ทำไมไม่หัดเข้าใจอะไรให้มันง่ายๆหน่อยวะ มันไม่ได้มีอะไรเลยนะเนี่ย กะอีกแค่เค้กชิ้นเดียว”
“ใช่ซิ กรูมันโง่ไง กรูมันพวกหญ้าแก่ไง อยากกินหญ้าอ่อนรึไงมรึง มันเสนอมาซะขนาดนั้น ก็สนองมันหน่อยซิ”
ผมต้องสูดลมหายใจ ลึกๆ ยาวๆ ระงับอารมณ์ไว้ก่อนนะลูก ใจเย็นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
“เอาเป็นว่า กรูรู้ว่ามรึงไม่ชอบใจละกัน ต่อไปกรูจะไม่รับของอะไรจากใครอีก โอเคมั้ย”
“มรึงไม่ต้องมาทำพูดประชดกรูเลย ลับหลังกรูมรึงจะไปทำอะไรมั่งกรูก็ไม่รู้ ขนาดเรื่องเค้ก มรึงยังไม่บอกกรูเลย” มันจะอะไรกันนักกันหนาว๊า นี่ก็ไม่ดี นั่นก็ไม่ได้ ผมเหลืออดแล้ว
“ก็เพราะกรูรู้ไงว่าถ้าบอกแล้วมรึงจะเป็นแบบนี้อ่ะ” คราวนี้ผมตวาดใส่มันเต็มๆ ก็มันอดไม่ไหวจริงๆ คนยิ่งเหนื่อยๆอยู่
“ถ้ามรึงไม่ไว้ใจกรู มรึงก็บอกมาเลย กรูจะได้ไม่ต้องไปคุยกับใครอีก” ดูมันอึ้งๆไป มันคงเริ่มได้สติ แต่ตอนนี้ ผมขาดสติแล้วครับ
“แล้วเค้กเชี่ยๆเนี่ย ถ้ามันเป้นต้นเหตุให้มรึงโมโหกรู กรูไม่แดกก็ได้” พูดจบปั๊บ ผมขว้างเค้กลงพื้นไปเลย (นึกแล้วยังเสียดายยยยย)
“เป็นไง พอใจแล้วใช่มั้ย แค่นี้พอใจรึยัง ต้องให้กรูทำอะไรอีกมั้ย” ผมยืนด่ามันอยู่ที่ลานจอดรถนั่นแหละ ดีหน่อยที่มันเป็นเวลาหลังเลิกงานนานแล้ว คนเลยไม่ค่อยพลุกพล่าน
“ทำไมมรึงต้องทำอย่างนี้ด้วยล่ะ” ดูดิ มันยังมีหน่ามาถามผม ทั้งๆที่มันเป็นคนเริ่มก่อนด้วยซ้ำ
ผมสูดลมหายใจลึกๆๆๆๆ ให้เต็มๆๆๆๆๆปอดอยู่สอง-สามทีก่อนจึงพูดกับมัน
“เอาเป็นว่า มีอะไรค่อยพูดกันทีหลังละกัน วันนี้กรูเหนื่อย” พูดจบผมหันหลังเดินกลับห้องเลย ข้าวเขิ้วไม่กินมันละ ผมไม่สนใจว่ามันจะทำอะไรต่อ ขืนผมยังอยู่ตรงนี้ ไม่ผมก็มันคงจะต้องมีรอยฟกช้ำดำเขียวกลับบ้านแน่ ไอ้คนเอาแต่ใจ ไอ้คนนิสัยไม่ดี ไอ้บร้า ไอ้หมีโง่...........ได้แต่นึกด่ามันในใจ เดินมาถึงห้องตอนไหนก็ไม่รู้