hello! SUNSHINE [ตะวันร้าย..ที่รัก]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณปลื้มตัวละครไหนมากที่สุด?

ซันนี่
ซินเซียร์
ไอ้เอี้ยฟ้า
ไอ้บ้ากาย
อิเมย์บี

ผู้เขียน หัวข้อ: hello! SUNSHINE [ตะวันร้าย..ที่รัก]  (อ่าน 1235728 ครั้ง)

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
Your highness~

แอร๊ย คุณพ่อบ้านของอลัวส์  :z1: (มั่วเรื่องและๆ)

ถ้าฟ้ารู้จะต้องเป็นเรื่องแหงมเลยซันนี่ เอ้ย ซันซายน์

 o22

ออฟไลน์ phoenixa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
เราก็ว่าดราม่ายากจริงๆ
เพราะแต่ละคน รั่ว บ้า ฮา เกรียนกันหมด
เต็มที่กับความหลุดโลกได้อีก
(หรือว่าเป็นปกติของพวกเขากันนะ)
เพราะฉะนั้น โคเน่จะทำอะไรอีก (ขอเรียกบ้างได้ไหมอ่ะ)

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
โอ้ยอะไรจะขนาดนั้น :m31: :m31: :m31:

maii

  • บุคคลทั่วไป
อ้างถึง
  เกิดอะไรขึ้นนนนนนนนนอีก?
ชีวิตฟ้านี่แบบ เป็นฉันกัดลิ้นตายไปละ จะได้จบ ๆ

 o13 เห็นด้วยค่า

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 :pig4:

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
 :z6: ขอถีบโคเน่ซักรอบ

กล้ามากนะที่มายุ่งกับซันนี่ กรี๊ด!!!!!!!!!!!

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
Chapter :: 38 :: เลือกทางไหน?







“..อือออ ทำอะไรของคุณแต่เช้าน่ะ ซันนี่?” เสียงคนบนเตียงนุ่มเอ่ยถามงัวเงีย ..ขณะที่ผมกำลังแต่งตัวหลังอาบน้ำชำระล้างร่างกายเรียบร้อยแล้ว


“โทษที ผมทำให้คุณตื่นรึเปล่า?” ผมหันไปถามเจ้าของห้องอย่างเกรงใจ เห็นทางนั้นพลิกตัวอย่างเกียจคร้าน แล้วคว้าเอาหมอนที่ผมใช้หนุนนอนเมื่อคืน(..จริงๆ คือเกือบเช้าแล้วตอนนั้น)มากอดไว้แทนหมอนข้าง


“กลิ่นหอมๆ ของคุณติดอยู่เต็มหมอนเลย” หมอนั่นยิ้มคล้ายกำลังแกล้งยั่ว ซบใบหน้าเอาไว้ที่หมอนใบนั้น ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าเผยให้เห็นกล้ามเนื้อสมส่วนอย่างคนที่ดูแลตัวเองดี ขณะที่ท่อนร่างมีผ้าห่มปิดไว้อย่างหมิ่นเหม่น่าหวาดเสียว


อืม.. จะว่าเซ็กซี่ก็เซ็กซี่ล่ะนะ นี่ถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่ผม แต่เป็นสาวๆ สักคนล่ะก็.. คงได้ละลายกันไปข้างแล้ว แต่พอดีว่านี่เป็นผมไง เลยไม่มีใครละลาย


ก็นะ.. อกก็แบนราบยิ่งกว่าสาวสองมิติ เรียวขาก็ขนหน้าแข็งขึ้นให้รึ่ม(ก็ผู้ชายนี่หว่า..) ถ้าไม่ใช่เอี้ยฟ้าล่ะก็.. ทำน้องซันชายน์ของผมกรึ่มไม่ได้หรอก ..จริงๆ


“แหงล่ะ เมื่อคืนผมนอนน้ำลายไหลด้วย แถมก่อนนอนยังไม่ได้แปรงฟันอีกต่างหาก ..กลิ่นมาดามหอมชื่นใจดีมั้ยล่ะ?” ผมยักไหล่ พูดทีเล่นทีจริงพลางติดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้ตัวเองไปด้วย ทำเอาโคเนโรหัวเราะชอบใจกับความหน้ามึนของผม


“แล้วนี่.. คุณจะไปโรงพยาบาลเหรอ?” เขาถามผมหลังจากหยุดหัวเราะแล้ว


“ใช่” ผมตอบสั้นๆ


“แต่เช้าเนี่ยนะ?” คนถามเลิกคิ้ว ก่อนจะบิดขี้เกียจด้วยลีลาที่ชวนให้คนมองอย่างผมพลอยนึกขี้เกียจตามไปด้วย ตบท้ายด้วยการหาวนอนอีกหวอดใหญ่


อะไรมันจะง่วงขนาดนั้น? 


“ฮ้าวววว... คุณไม่ง่วงบ้างรึไง? ตั้งแต่กลับมาคุณก็ไม่ยอมนอนเลยนี่”


“ผมนอนไม่หลับน่ะ..” พูดแล้วก็นึกไปถึงคนที่อยู่โรงพยาบาล ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง? จะฟื้นหรือยัง? ทำไมไม่เห็นมีใครส่งข่าวมาบอกเลย?


ผมมองหน้าจอไอโฟนที่แสนจะเงียบเชียบของตัวเอง(ได้มาจากพ่อบ้านพร้อมเสื้อผ้าแหล่ะ)แล้วก็ต้องทอดถอนใจ ..ทั้งมานะ ทั้งเมรันดรี ไม่มีใครส่งข่าวเลย ให้ตายสิ..


“แล้วนี่มันก็เกือบจะสิบโมงอยู่แล้ว คุณชาย..” ผมบ่นพึมพำไม่ดังนัก “เช้าอิตาลีบ้านคุณสิ”


“..เป็นห่วงจังเลยนะ” เสียงพูดลอยๆ นั่นทำให้ผมต้องหันไปขมวดคิ้วมองด้วยไม่ทันฟัง


“ฮะ?”


“ดูคุณเป็นห่วงเพื่อนคนนั้นจังเลยนะ” โคเนโรพูดยิ้มๆ หลี่ตามองผมเหมือนจับผิด “เมื่อวานก็เห็นทำท่าร้อนรนจะเป็นจะตาย ..แค่เพื่อนแน่เร้อออ~?”


“...ถ้ามากกว่าเพื่อนแล้วไง?” ผมยักไหล่ แล้วหันไปหยิบแป้งฝุ่นหน้ากระจกมาลูบหน้าลูบคอสักหน่อย


“ฮะฮะ.. คุณนี่เปิดเผยเหมือนพี่ชายคุณเลยนะ” หมอนั่นพูดกลั้วหัวเราะ


“คงเพราะเราเป็นญาติกันมั้ง” ผมตอบอย่างไม่คิดมาก เหลือบไปเห็นขวดน้ำหอมยี่ห้อหรูอิตาเลี่ยนแท้วางอยู่ใกล้มือพอดี เลยหยิบมาลองฉีดเล็กน้อย


อืม.. หอมดี(เนียนเนาะกู ฮ่ะๆๆ) 


“แล้วคิดจะคบกันไปอีกนานแค่ไหนล่ะ?” จู่ๆ โคเนโรก็ถามอะไรแปลกๆ


“หมายความว่าไง?” ผมเลิกคิ้ว ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายพยายามจะสื่ออะไร? ต้องการคำตอบแบบไหน? แต่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่เห็นความนัยจากสีหน้าและแววตาที่ดูเหมือนจะรื่นรมย์ตามประสาคนอารมณ์ดีของหมอนั่นแม้แต่น้อย


“ก็แค่สงสัย..” หมอนั่นยักไหล่บ้าง “..ว่าความรักแบบนี้มันจะอยู่ได้นานซักเท่าไหร่กัน?”


“ความรักแบบนี้งั้นเหรอ?” ผมพึมพำ หันไปมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก ...ความรักแบบนี้งั้นเหรอ?


นั่นสินะ มันจะอยู่ได้อีกนานสักเท่าไหร่กัน?


“เอ้อ.. ผมไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกหรือวิจารณ์รสนิยมของคุณของนะ” โคเนโรรีบออกตัวเมื่อเห็นผมเงียบไป


“ผมเข้าใจ..” ผมพยักหน้ากับตัวเอง ก่อนจะหันไปยิ้มบางให้คู่สนทนา “ผมเข้าใจ.. แต่คำถามของคุณ...คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นแหล่ะที่ตอบได้..”


ใช่.. พระเจ้าเท่านั้นแหล่ะที่จะตอบได้


ผมก็เพียงแค่มนุษย์ธรรมดา.. เมื่อตอนนี้มีหน้าที่รัก ก็ทำได้แค่รัก เรื่องของอนาคตน่ะ ผมไม่รู้หรอก..


“งั้นผมไปก่อนนะ” ผมบอกพลางก้าวตรงไปยังประตู “อ้อ.. ถ้าคืนนี้คุณกลัวจะถูกผีอำอีก ผมแนะนำให้คุณรีบไปหาเช่าพระเครื่องดังๆ มาซักองค์สององค์แล้วกันนะ เพราะผีที่นี่ไม่กลัวกระเทียมกับไม้กางเขนของคุณหรอก.. และผมก็ไม่ว่างจะมานอนเล่นเป็นเพื่อนคุณทุกคืนด้วย”


นี่แหล่ะเหตุผลที่ผมถูก โคเนโร แบร์ลุสโคนี แห่งอิตาลีแลนด์แดนพิซซ่าลากกลับมานอนที่โรงแรมด้วย เห็นหมอนี่บอกว่าคืนแรกที่มาก็เจอดีเลย


โดนผีอำ.. ซะงั้น


พอคืนที่สองเลยสยองจนไม่อยากนอนคนเดียว สุดท้ายก็ลากผมมานอนด้วยอย่างที่เห็น เหอๆ


ตอนระหว่างนั่งรถกลับมาก็เห็นบ่นง้องแง้งงอแงตลอดทางว่าผีไทยเฮี้ยน น่ากลัวมั่ก ไม้กางเขนก็เอาไม่อยู่ บอกไม่อยากนอนเลย ว่ายังไงคืนนี้ก็คงหลับไม่ลงแน่ๆ แต่พอตัวกลับถึงห้อง หัวลงถึงหมอน เท่านั้นแหล่ะ ..หลับเป็นตาย


ไอ้บ้าเอ๊ย! ทำอะไรปัญญาอ่อนไม่ได้เข้ากับหน้าหล่อๆ นั่นสักนิด ให้ตายเหอะ.. แล้วมาเห็นผมเป็นเทวรูปศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์กันผีไปได้ไงวะ?


อ้อ.. แล้วที่เห็นมันนอนแก้ผ้าน่ะ ไม่ใช่วิธีแก้เคล็ดเวลากลัวโดนผีหลอกแบบภูมิปัญญาชาวบ้านแต่อย่างใด อย่าเข้าใจผิด ..รู้สึกจะเป็นสันดานปรกติของเขาน่ะ ชอบแก้ผ้านอนเหมือนกับซอลลี่เลย ..ถึงว่าสิคบกันได้


มีแต่ผมสิที่ตาค้าง นอนยังไงก็นอนไม่หลับ ห่วงเอี้ยฟ้าก็ห่วง คิดถึงซินก็คิดถึง เพราะเวลาวิกฤติแบบนี้ไม่เคยมีหรอกที่ผมต้องอยู่คนเดียวเหมือนครั้งนี้ ทุกทีต้องมีซินคอยอยู่ข้างๆ ผมเสมอ..


สุดท้ายไม่รู้จะทำอะไรเลยโทรไปหาซิน เล่าทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ซินฟัง พอฟังจบซินไม่ออกความเห็นอะไรเลย บอกแค่ว่าจะรีบกลับมา แล้วก็วางสายไป ..แต่นั่นกลับทำให้ผมรู้สึกดีและอุ่นใจกว่าคำปลอบประโลมใดๆ มากมายหลายเท่าซะอีก ..เพราะถ้าซินบอกว่าจะรีบมาหาผม มันก็หมายความตามนั้นจริงๆ


และอีกไม่กี่ชั่วโมงผมก็จะได้ซินกลับมาอยู่ข้างๆ เหมือนเดิม..     


“ซันนี่?” เสียงเรียกดังขึ้นจังหวะเดียวกับที่ผมเอื้อมมือไปเปิดประตูพอดี


ผมชะงัก หันกลับมาเลิกคิ้วถาม “ฮะ?”


“ถ้าเพื่อนคุณฟื้นแล้ว ฝากบอกเค้าด้วยนะ..ว่าคนที่ช่วยชีวิตเค้าไว้เมื่อคืน ชื่อ โคเนโร แบร์ลุสโคนี..”
 





“ซันนี่!!” 


!!.. เสียงเรียกเนิบๆ แต่ฟังกังวานลั่นห้องตั้งแต่วินาทีแรกที่เปิดประตูห้องพักฟื้นผู้ป่วยเข้าไป ก็ทำเอาเจ้าของชื่ออย่างผมถึงกับสะดุ้งสุดตัว มองหาที่มาก็เห็นเป็นเอี้ยฟ้าท่าทางแข็งแรงดี กำลังนั่งทำหน้ากึ่งบูดกึ่งมึนอยู่บนเตียงคนไข้ รอบกายรายล้อมไปด้วยแขกตาหน้าคุ้นๆ ทั้งนั้น


“..........” ผมใช้เวลาราวสามวินาทียืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น กระพริบตาปริบๆ ในสมองไร้ซึ่งความคิดใดๆ ก่อนจะค่อยๆ ก้าวถอยหลังกลับออกมาตามทางเดิม และปิดประตูห้องลงอย่างเบามือที่สุด..


“..ฮืมมม” ผมครางฮึมฮัมกับตัวเองด้วยความสงสัย ยืนกอดอกเอียงคอมองป้ายหน้าประตูก็เห็นชื่อ ‘ฟ้าประทาน ทามิยะ’ เขียนกำกับไว้ชัดเจน


ก็..ไม่มีอะไรพลาดนี่หว่า? งั้นถ้าจะผิดก็คงผิดที่ตาผมแล้วแหล่ะ


อืม.. ใช่ๆ เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงคนที่มีอาการโคม่าแบบนั้นจะฟื้นตัวเร็วขนาดสามารถลุกขึ้นนั่ง แถมยังมีท่าทางเตรียมพร้อมจะอาละวาดแบบนี้ได้ไง?


เป็นไปไม่ได้น่า.. ปรกติแค่ฟื้นคืนสติได้ภายในเวลาไม่ถึง 12 ชั่วโมง ก็น่าดีใจจะตายห่าแล้ว ..เป็นไปไม่ได้เด็ดๆ ตาฝาดแหงมๆ 


“..สงสัยจะอดนอนจนเบลอแล้วกู เหอะๆ” ผมขยี้หูขยี้ตา หัวเราะแกนๆ กับตัวเองแล้วตั้งใจจะผลักประตูเข้าไปใหม่


“แล้วมัวไปทำอะไรถึงไม่ได้หลับได้นอนล่ะจ๊ะ?” 


!!!.. เสียงปริศนา(มหาหื่น)ที่ดังอยู่ใกล้ๆ หู พร้อมกับลมอุ่นๆ ที่ถูกเป่าเข้าใส่ ทำเอาผมถึงกับผวาร้องลั่นขวัญบินหนีด้วยความตกใจ “ว้ากกกกก?!”


“ตกใจหมด ไอ้บ้า!” ผมหันไปตวาดอย่างลืมตัว “อุ้ย!” แต่พอเห็นหน้าคู่กรณีก็ต้องรีบปิดปากตัวเองไว้เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามันเสียมารยาท 


“โอ๊ะยะ ท่าทางคึกคักแต่เช้าเชียวนะ ..ฮ้าววววว~” แต่ไอ้หมอพันธุ์บ้าคนเดียวกับเมื่อคืนก็หาใส่ใจไม่ มันยืนหาวหวอดๆ ด้วยท่าทางเกียจคร้านสุดจะบรรยาย เอาซะตาน้ำหูน้ำตาเล็ด ก่อนเอ่ยทักทายผมด้วยรอยยิ้มระรื่น “อรุณสวัสดิ์ พริตตี้บอย”


“ผมชื่อซันชายน์” ผมบอก กรอกตาเซ็งๆ


“อ้อ.. เหมาะดีนะ” หมอนั่นพูดยิ้มๆ มองสำรวจทั่วตัวผมด้วยสายตาไม่น่าไว้ใจ แล้วยื่นมือออกมาข้างหน้าพร้อมทั้งพูดแนะนำตัว “เคอิ ทานิซาวะ ครับ..” 


ผมก็เลยจำใจต้องยื่นมือ(แบบส่งๆ)ไปจับทักทายตามมารยาทอันควร 


“ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะ ..ซันนี่”


“ซันชะ..” ผมกำลังจะแก้เป็น ‘ซันชายน์’ แต่ไอ้หมอหน้ามึนกลับไม่สนใจจะฟังกันสักนิด มันเดินผ่านผมพลางหาวหวอดๆ แล้วผลักประตูห้องเข้าไปเฉยเลย


เฮ้ย! ฟังคนอื่นพูดบ้างสิวะ!


“อ้าว คนไข้ตื่นแล้วเหรอครับ?” เสียงไอ้หมอเวรร้องทักคนในห้อง “โอ้ ดูดีเลยนี่นา ..สงสัยพรุ่งนี้คงกลับบ้านได้เลยมั้งเนี่ย ..หนุ่มๆ นี่ดีจังนะ~”


“แหงล่ะ ต้องดีกว่าแก่ๆ อย่างแกอยู่แล้ว” แว่วเสียงมานะกัดหมอดังลอดออกมา


“..........” ผมค่อยๆ แง้มประตู แล้วเบียดตัวแทรกเข้ามาในห้องอย่างเนียนๆ เมื่อแน่ใจแล้วว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดหรือคิดไปเองที่เห็นเอี้ยฟ้ามันลุกขึ้นมานั่งทำหน้ามึนได้ตามปรกติแล้ว


“ไปไหนมา ซันนี่?” เอี้ยฟ้าเอ่ยถามเสียงเย็น จ้องตรงมาที่ผมเขม็ง ไม่ได้สนใจหมอที่กำลังจับสำรวจชิ้นส่วนนั่นนี่บนร่างกายตัวเองแม้แต่น้อย


“เมื่อกี๊เหรอ? คือกู...งงๆ น่ะ นึกว่าเข้าห้องผิด” ผมยิ้มแหยตอบอีกฝ่าย แล้วค่อยสาวเท้าเข้าไปใกล้เตียง “แล้วนี่มึงไม่เป็นไรแล้วเหรอ? ทำไมรีบลุกจังล่ะ?”


“มึงไปไหนมา? เมื่อเช้ากูตื่นมาไม่เห็นมึง ถามใครก็ไม่มีใครบอกกูได้ซักคน” เอี้ยฟ้ายิงคำถามสวนทันที หาใส่ใจจะตอบคำถามของผมไม่


ผมกระพริบตาปริบๆ กำลังงงอยู่ว่าพ่อบ้านกับมานะไม่บอกอะไรมันเลยหรือไง? สองคนนั้นก็รู้นี่นาว่าผมไปไหนมาเมื่อคืน.. หันไปมองพ่อบ้านก็เห็นว่ากำลังก้มหน้าก้มตาเตรียมน้ำเตรียมยาให้คนป่วยอยู่ พอหันไปมองทางมานะที่ยืนอยู่ริมหน้าต่างก็เห็นมันขยิบตายิกๆ รัวๆ ..ก็ไม่รู้ว่าอะไรเข้าตามันเหมือนกัน ทำไมไม่ไปล้างออกวะ? เดี๋ยวก็เป็นตาแดง


ผมหันกลับมายังคนบนเตียงที่กำลังรอคอยคำตอบ ก็เลยตอบออกไปตรงๆ แบบพาซื่อ “กูก็..ไปนอนกับโคเนโรมาน่ะ” 


เพล้งงงงงงง~!!


เสียงแก้วน้ำหล่นกระทบพื้นและแตกกระจายด้วยฝีมือของเมรันดรีทำให้ทุกคนพากันสะดุ้งและหันไปมองโดยพร้อมเพรียง


“เอ้อ ขออภัยครับ ผมซุ่มซ่ามไปหน่อย” พ่อบ้านหันมาขอโทษขอโพย


“..ไปนอนกับโคเน...” ขณะที่ทุกคนพุ่งความสนใจไปที่เมรันดรีและเข้าไปช่วยเก็บกวาด เอี้ยฟ้ากลับนั่งนิ่ง พูดทวนคำของผมเหมือนกำลังป้อนข้อมูลเข้าสู่ระบบสมองของตัวเองอีกที ก่อนจะเบิกตาโตกว่าเดิมเล็กน้อยเมื่อกระบวนการประมวลผลเสร็จสิ้น 


“โคเน่!!” แล้วอยู่ดีๆ มันก็พรวดพราดจะลงจากเตียงทั้งที่มีสายอุปกรณ์ช่วยชีวิตห้อยระโยงระยางรอบตัวไปหมด


“เฮ้ยยยย!” ผมแทบคว้าตัวมันเอาไว้ไม่ทัน คนอื่นๆ ก็รีบขยับเข้ามาล้อมเตียงกันผู้ต้องหา..เอ้ย..คนไข้หลบหนี


เอี้ยฟ้านั่งฮึดฮัดน่าเป็นตูดด้วยความขัดเคืองใจ แขนข้างที่เจ็บใส่ผ้าผูกคล้องเอาไว้กับคอกันแผลกระทบกระเทือน แถมข้อเท้าข้างหนึ่งยังมีผ้าพันเอาไว้เนื่องจากเกิดข้อเท้าพลิกเมื่อคืนด้วย


สารรูปแบบนี้มึงยังคิดจะซ่าส์ไปไหนอีกวะ ไอ้คุณเอี้ยฟ้า? ช่างไม่เจียมบอดี้เอาซะเลย ให้ตายสิ!


“เป็นอะไรของมึงเนี่ย?” ผมถามขณะที่มือก็กดขามันไว้กับเตียงอย่างไม่ไว้ใจ(กลัวมันจะลุกอีก) “แล้วจะรีบลุกไปไหน? ปวดฉี่ไปห้องน้ำเหรอ? ให้กูช่วยพาไปดีกว่ามั้ย?”


ผัวะ!!


?!.. สาบานได้ว่าผมถามด้วยความหวังดีโดยบริสุทธิ์ใจหามีสิ่งใดเจือปนไม่ ...แล้วทำไม? ทำไมผมถึงวูบ? ..ไม่สิ..ไม่ใช่วูบนี่หว่า...แต่เอี้ยฟ้าแมร่งตบหัวกูทำไมวะเฮ้ย?! เอาซะเกือบหน้าคะมำลงไปจูบตีนมันแล้วไหมล่ะ? ..เจ็บน้า~


“....?....” ผมยกมือขึ้นคลำหัวตัวเองแบบมึนๆ มองหน้าอีกฝ่ายอย่างงุนงงสงสัยและใคร่อยากรู้เหตุผลของการถูกกระทำ


ขณะที่ห้องทั้งห้องเงียบกริบราวกับคนอื่นๆ ได้แปลงสภาพตัวเองไปเป็นอากาศธาตุกันหมดแล้ว..   


“มึง – นอก – ใจ – กู !” เอี้ยฟ้าพูดเน้นทีละพยางค์ ชัดๆ หนักๆ ราวกับต้องการให้คำพวกนั้นมันสลักฝังลึกลงไปบนกะโหลกหน้าผากของผมยังไงยังงั้น


“หา?!!” และนั่นก็เล่นเอาผมถึงกับอ้าปากหวอไปเลยทีเดียว


“มึงแย่มาก ซันนี่..” ไอ้คนเจ็บแต่ไม่รู้จักเจียมพูดพลางทิ้งตัวนอนบนเตียง แล้วพลิกตัวตะแคงข้างหันหลังให้ราวกับไม่อยากมองหน้าผม ปากก็บ่นงึมงำๆ อย่างคนไม่สบอารมณ์ “คลาดสายตาแป๊บเดียวมึงก็หาเขามาสวมให้กูซะแล้ว ไอ้นิสัยไม่ดี! ..เค้าว่าสามวันจากนารีเป็นอื่น แต่มึงแมร่งยังไม่ถึงสามชั่วยามดีเลยมั้ง ไอ้คนใจง่าย! ..ไหนป๊ะป๋าบอกสอนมาอย่างดีไง? ไอ้ลูกพ่อสอนไม่จำ! ไอ้ใจดำตับเป็ด! ไอ้..”


“ไอ้เอี้ย!!” ผมชิงด่ามันอย่างเหลืออด “มึงหยุดเลยนะ!”


คนถูกขัดส่งเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจ มันพลิกตัวกลับมานอนหงาย เหลือบตามองผมอย่างเอาเรื่อง(ตะแคงมาทางผมไม่ได้ เดี๋ยวทับแผล)


“มึงเข้าใจไปถึงโลกไหน สัด?!” ผมเริ่มโมโหขึ้นมาตงิดๆ “ดูปากกูนะ.. กูบอกว่ากูไป ‘นอน’ กับโคเนโร! ไม่ได้บอกว่าไป ‘เอา’ กับโคเนโร! ..ชัดมั้ย หงอก? ไม่มีใครเค้าโรคจิตจ้องแต่จะแทงข้างหลังกูเหมือนมึงหรอก ไอ้เวรเอ๊ย! ด่ากูเสียหมาหมด”


ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า? แต่ผมรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงสอนหายใจอย่างโล่งอกของคนอื่นนอกจากเอี้ยฟ้าด้วยล่ะ


แต่พอหันไปมองก็เห็นมานะส่งยิ้มแหยๆ คล้ายสำนึกผิดมาให้ .....ทำไม?


อย่าบอกนะว่า... เฮ้ย! นี่มึงก็คิดว่ากูไป ‘อย่างว่า’ กับโคเนโรมาเหมือนกันงั้นเรอะ ไอ้เปรตมานะ?! ผมรีบหันไปหาเมรันดรีบ้าง ทางนั้นรีบหลบสายตาวูบทันที แล้วทำเป็นจับนู่นจัดนี่บนรถเข็นที่ใส่ยาและอาหาร.. แต่อย่าคิดว่าจะเนียน! ผมเห็นแล้วโว้ยยย! ..โหยยยย แม้แต่พ่อบ้านที่ดูเป็นผู้ใหญ่สุดก็ยัง...ฮึ่ม! ผมจะทำยังไงกับเจ้านายลูกน้องบ้านนี้ดีวะ? อยากจับมาตบกะโหลกเรียงตัวซะเหลือเกิน!


แต่จะว่าไปเมื่อคืนโคเนโรมันก็พูดไม่เคลียร์ด้วยแหล่ะ แล้วหลังจากขอให้ผมไปนอนด้วย หมอนั่นก็ลากผมออกมาท่ามกลางสายตาอึ้งๆ ของสองพ่อลูก(บุญธรรม)นี่เลย กว่าจะให้เหตุผลและเริ่มเล่าเรื่องโดนผีอำให้ผมฟังก็ตอนที่ขึ้นมานั่งบนแท็กซี่กันแล้วโน่น...


แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะทำให้พวกคุณมึงเข้าใจกูผิดได้นะเว้ย!! เห็นกูเป็นคนยังไงกันวะห๊ะ? แค่ไปค้างกับผู้ชายก็ต้องได้เสียเป็นเมียผัวกับผู้ชายด้วยหรือไง?! พวกมึงลืมไปหรือเปล่าว่ากูก็ผู้ชายเหมือนกันนะโว้ย! กูไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นวงกลมข้างซ้าย! ไม่ได้ฝักใฝ่ใคร่อยากเป็น! และไม่คิดจะเป็นให้ใครด้วย!! (เอิ่ม..ยกเว้นเอี้ยฟ้าสักคนก็ได้) ..โหยยย บัดซบจริงๆ เลย!


“แล้วทำไมต้องไปนอนกับเค้าด้วยอ่ะ?” คนบนเตียงถามด้วยสีหน้า แววตา และน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิมเล็กน้อย


ผมระบายลมหายใจอย่างล่ะเหี่ย ก่อนตอบ “ก็คืนก่อนหมอนั่นโดนผีอำ เมื่อคืนเลยไม่กล้านอนคนเดียว..” 


ยังพูดไม่ทันขบ เอี้ยฟ้าก็ถามต่อตาใส “แล้วทำไมต้องเป็นมึงอ่ะ?” 


“คงเพราะกูโทรไปขอร้องเค้าตอนนั้นพอดีมั้ง?”


“แล้วทำไมมึงต้องไปขอร้องเค้าด้วยอ่ะ?”


“ก็กูอยากได้เลือดเค้าไง”


“แล้วทำไมมึงต้องอยากได้เลือดเค้าด้วยอ่ะ?”


“เฮ้ย นี่มึงเป็นเจ้าหนูจำไมรึไงวะ?! เอาแต่ถามว่า ‘ทำไมๆ’ อยู่ได้” ผมชักรำคาญ ผลจากการอดนอนเริ่มแผลงฤทธิ์ให้รู้สึกหงุดหงิดง่ายขึ้นมาแล้ว..


“แล้วทำไมต้องตวาดกันด้วยอ้ะ?!” ไอ้เอี้ยฟ้าขึ้นเสียงสู้อย่างไม่ยอมแพ้ ท่าทางมันเอาแต่ใจสุดฤทธิ์เดชอ่ะวันนี้


นี่มึงเจ็บหนักจนประสาทกลับเลยหรือไงวะ? คิดว่าตัวเองอายุกี่ขวบกันห๊ะ? เดี๋ยวปั๊ด...หลังแหวนซะดีมะ? ..ผมเท้าเอวมองคนบนเตียงอย่างไม่อาจทำความเข้าใจในอาการเอาแต่ใจแบบแปลกๆ ของมัน ก่อนจะระบายลมหายใจออกมาอีกยาวเหยียด ...เฮ้ออออออ สุดปอด


“โทษที.. กูไม่ได้ตั้งใจ” ผมบอกแล้วยิ้มบางให้มัน


ไม่ได้อยากจะต่อความยาวจนกลายเป็นทะเลาะกันไปจริงๆ ไหนๆ มันก็อุตส่าห์รอดตายมากวนประสาทผมได้เหมือนเดิมแล้ว ผมควรจะดีใจมากกว่าจะมาหงุดหงิดโมโหใส่มันนี่นา


ฮึบ!.. เอาล่ะ จงเย็น จงเย็น ซันชายน์.. จงยิ้ม จงให้อภัย และจงดีใจที่ไม่ต้องตกพุ่มหม้ายตั้งแต่ยังหนุ่มสิมึง(..ฮ่ะๆๆ ผมพูดอะไรของผมเนี่ย?)


“เมื่อวาน.. มึงเสียเลือดมากไง” ผมเริ่มพูดดีๆ กับมันอีกครั้ง ส่วนมันก็ลุกขึ้นมานั่งฟังตาแป๋ว(..ท่าทางจะยังไม่มีใครเล่าอะไรให้มันฟังจริงๆ นะเนี่ย ..ทำไมวะ?) “แล้วเลือดของมึงก็ดันเป็นกรุ๊ปที่ทางโรงพยาบาลขาดแคลนอยู่พอดี ..มันไม่มี มึงเข้าใจใช่มั้ย? แล้วซอลลี่พี่กูก็บอกมาว่าโคเนโรมีเลือดกรุ๊ปเดียวกับมึง ทีนี้กูก็เลยโทรไปขอร้องให้เค้ามาบริจาคเลือดให้มึง แล้วเค้าก็มา ..เรื่องมันก็ประมาณนี้ ..อ้อ แล้วก่อนที่กูจะมาที่นี่เค้าก็ฝากมาบอกมึงด้วยว่า...คนที่ช่วยชีวิตมึงไว้เมื่อคืนชื่อ โคเนโร แบร์ลุสโคนี ..จบป่ะ?”


“จบ” เอี้ยฟ้าพยักหน้ารับหงึกๆ ..เป็นอันว่าเข้าใจตรงกัน


แต่ที่ผมไม่ค่อยเข้าใจคือมันเอื้อมมือไปฉวยมีดปลอกผลไม้จากมือไอ้จี้ที่นั่งอยู่ข้างเตียงมาถือไว้มั่น(..ฟังไม่ผิดหรอก ไอ้จี้มันก็อยู่ในห้องนี้ด้วย) แล้วมันก็กวักมือเรียกหมอเพี้ยน(ที่ถอยห่างไปยืนข้างไอ้มานะตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้)เข้ามาหา


“เคอิจัง..” เอี้ยฟ้าเรียกหมอพลางกวักมือยิกๆ


“ครับ บ๊จจัง” หมอรับคำแล้วขยับเข้ามาใกล้


..ว่าแต่ไอ้ ‘บ๊จจัง’ นี่มันแปลว่าอะไรวะ? รู้สึกพวกมึงจะเรียกกันน่ารักน่าชังซะเหลือเกินนะ ไอ้หมอกับไอ้คนไข้จากดาวมฤตยูคู่นี้..


“มีอะไรเหรอครับ?” หมอถามหน้าระรื่น


แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนเป็นแตกตื่นเมื่อถูกไอ้คนไข้ตัวป่วนคว้าหมับที่ข้อมืออย่างรวดเร็ว ถึงจะมีแขนแค่ข้างเดียวแต่นั่นกลับไม่เป็นปัญหา เอี้ยฟ้าใช้เข่าข้างหนึ่งกดทับมือข้างที่ยึดจากหมอมาได้ไว้กับเตียงแน่น ก่อนเงื้อมือที่ถือมีดปลอกผลไม้ขึ้นสูงเตรียมจ้วงแขนหมอ! ..เฮ้ยมึง!!


“ม่ายยยยยยย” ไอ้หมอแหกปากร้องลั่นห้อง


“เดี๊ยวววววว!!!” ผมรีบไปคว้าแขนข้างที่กำลังจะทำฆาตกรรมแขนของหมอเอาไว้ก่อน “จะทำบ้าอะไรของมึงเนี่ย เอี้ยฟ้า?”


“จะเอาเลือดไปคืนหมอนั่นน่ะ...ไม่อยากให้เป็นบุญคุณ” เอี้ยฟ้าตอบหน้าตาเฉย


“เดี๋ยวนะๆ” ผมยกมือขึ้นด้วยตามความคิดบรรเจิดของมันไม่ทัน “โคเนโรให้เลือดกับมึง...แล้วมึงก็เลยจะเอาเลือดจากหมอไปคืนเค้า..เพื่อไม่ให้ติดค้างบุญคุณกัน...เนี่ยนะ?”


“ใช่” มันตอบชัดเป๊ะ!


ผมตบหน้าผากตัวเองดังป้าบ ..หลังจากที่ได้คบหากันมาสักระยะหนึ่ง ผมหลงคิดว่าตัวเองเริ่มจะเข้าใจสารระบบความคิดของฟ้าประทานขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้ว....แต่เปล่าเลย ความจริงในวันนี้ก็คือ...ผมไม่เข้าใจอะไรมันเลย ..จริงๆ 


“ก็แล้วทำไมมึงไม่เอาเลือดตัวเองไปคืนเล่าโว้ย?!” ผมถามออกไปอย่างคนสับสนกับชีวิต ก่อนจะแย่งทั้งมีดทั้งมือหมอออกมาจากมือมาร..อย่างมัน “จะไปเอาของหมอเค้าทำไม?”


“จะเอาได้ไง..” เอี้ยฟ้ากลับไปนั่งขัดสมาธิเหมือนเดิม แต่หน้าบูดบึ้งกว่าเดิม “..กูยังเจ็บอยู่นะ”


“อ้อ.. เรอะ?” ผมพยักหน้าแกนๆ กวาดสายตามองมันตั้งแต่หัวจรดเข่า(ก็มันนั่งขัดสมาธิไง) “..ดูไม่ออกเลยนะ”


“กูเจ็บ..” แล้วมันก็หงายหลังตึงลงไปเลย แถมยังพลิกตะแคงหันหลังให้ผมอีกแล้ว ปากก็บนพึมพำ “..แฟนก็ไม่ค่อยจะสนใจ”
กูว่ามึงเรียกร้องความสนใจมากเกินไปแล้วมากกว่า ไอ้คุณเอี้ยฟ้าครับ..ผมก็ได้แต่ส่ายหัวปลงๆ


“ทำไมมันถึงฟื้นตัวได้เร็วจนน่าตกใจขนาดนี้ล่ะหมอ?” ผมหันไปถามหมอที่หน้าเริ่มกลับมามีสีเลือดอีกครั้งด้วยความสงสัย “เมื่อวานยังเกือบจะไม่รอดอยู่เลย”   


“อ๋อ ก็เป็นแบบนี้ทุกทีแหล่ะ โชกเลือดมาหาหมอทีไรก็ไม่เห็นจะตายจริงซักที” ไอ้หมอตอบพลางทำหน้าคล้ายผิดหวัง “ตามความเห็นส่วนตัวที่ยังไม่มีงานวิจัยไหนรับรองนะ.. หมอคิดว่าบางทีเค้าอาจจะเป็นสายพันธ์อมตะที่ไม่รู้จักตายก็เป็นได้”


“ตลกแล้วหมอ” ผมหลี่ตามองหมอ(ด่าทางสายตาน่ะ) “แปลว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก?”


“ฮือฮึ..” หมอส่ายหน้า “มาบ่อยไป”


“แล้ว...ต้องให้เลือดแบบนี้บ่อยด้วยรึเปล่า?” ผมสงสัย


หมอทำหน้านึก “ก็หลายครั้งอยู่นะ..” 


“งั้นทุกทีเอาเลือดมาจากไหนล่ะ?”


“ถ้าโชคดีเราก็มีเลือดกรุ๊ปนี้สำรองอยู่”


“แล้วถ้าโชคร้าย...?”


“ก็ต้องใช้เลือดหมอน่ะสิ” หมอถอนหายใจพลางส่ายหัว


“แปลว่าหมอก็เลือดกรุ๊ปเดียวกับมัน..?” ผมชี้หน้าหมอสลับกับคนที่นอนหันหลังให้แต่เสือกเอี้ยวคอกลับมามองคนเขาคุยกันด้วยท่าทางอยากรู้


ไอ้หมอมองหน้าผมสลับกับเอี้ยฟ้าแบบอึ้งๆ อยู่พักหนึ่ง ก่อนจะร้องออกมาพร้อมทุบกำปั้นลงบนฝ่ามือตัวเอง “โอ๊ะ ใช่!” 


“..หมอลืมไปสนิทเลย~” พูดพลางทำหน้าตาบ้องแบ๊วสุดขีด


“..........”


รู้งี้ปล่อยให้โดนเอี้ยฟ้ามันเฉาะแขน เลาะกระดูก แล้วเอาเลือดบ้าออกซะบ้างก็ดีหรอก ไอ้หมอนรก!



(ต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2012 18:39:47 โดย White Raven »

ออฟไลน์ White Raven

  • I'm beautiful in my way.~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +779/-3
    • Fanpage
(ต่อ)




หลังจากหงุดหงิดโมโหทั้งไอ้คุณหมอ ไอ้คุณแฟน ไอ้คุณบอดีการ์ดของแฟนที่แม่งก็เสือกลืมเหมือนกันว่าเจ้านายมันมีเลือด(บ้า)กรุ๊ปเดียวกับหมอ ปล่อยให้ผมต้องว้าวุ่นวิ่งหาเลือดมาให้มันแทบเป็นแทบตาย แถมยังโดนโคเนโรปั่นหัวจนหมุนแบบเมื่อคืนอีก ผมก็เลยประท้วงพวกมันทุกตัวด้วยการปิดปากตัวเองเสียสนิท ไอ้เอี้ยฟ้างอนผมก็ไม่ง้อแม่ง ไอ้หมอบ้าพูดแหย่ผมก็ไม่ใส่ใจ จะไอ้มานะหรือพ่อบ้านเข้ามาชวนพูดคุยถามไถ่อะไรผมก็ไม่หือไม่อือด้วยทั้งนั้น


ผมเคืองมาก ณ จุดนี้!!


จากนั้นผมก็เดินหน้าบูดมาทิ้งตูดลงบนโซฟาที่มีไอ้จี้นั่งอยู่ก่อนแล้ว ไอ้หมอนี่เป็นคนเดียวที่ไม่คิดจะเปิดปากพูดกับผม และผมเองก็ไม่ได้สนใจจะเปิดปากพูดกับมันเช่นกัน(ตอนนี้ปวดประสาทเกินทน) เราต่างคนต่างนั่งเงียบๆ อยู่คนละด้านของโซฟา ..จะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้นที่ผมได้เจอกับมัน


นึกถึงเรื่องคืนนั้นขึ้นมาผมก็อดที่จะมองไปทางมันไม่ได้ ไม่รู้ฟื้นขึ้นมาแล้วเป็นไงมั่ง? จำอะไรต่อมิอะไรได้บ้างหรือเปล่า? แต่พอผมหันไปก็เหมือนว่ามันจะคอยหลบตา และพอผมดึงสายตากลับมาก็เหมือนว่ามันจะแอบมองผมอยู่...


อะไรของมันวะ?


รอบตัวมึงนี่จะหาคนธรรมดาที่สติดีๆ สักคนไม่มีเลยใช่ไหม เอี้ยฟ้าประทาน?     


ระหว่างที่ผมเล่นเกมส์แอบมอง(?)กับไอ้จี้อยู่นั้น.. ไอ้มานะที่ถอดใจจะคุยกับผมแล้วก็เอ่ยขอตัวจากทุกคนในห้อง เห็นบอกว่ามีบางอย่างที่ต้องไปจัดการ แต่เพราะเห็นว่ามันไม่ได้นอนมาตลอดทั้งคืน ไอ้หมอนรกเลยบอกว่ามันควรจะไปพักผ่อนมากกว่า ไว้ร่างกายพร้อมค่อยออกไปก็ได้ แน่นอนว่าไอ้มานะต้องไม่ฟังอยู่แล้ว มันรั้นจะออกไปให้ได้ แต่ไอ้หมอก็ไม่คิดยอมง่ายๆ เหมือนกัน พวกมันเลยทะเลาะกันใหญ่โตในห้องพักผู้ป่วยนั่นล่ะ โดยมีเจ้าของห้องนอนดูตาแป๋ว ไม่คิดจะมีส่วนร่วมหรือห้ามปรามใดๆ ทั้งสิ้น เมรันดรีเองก็ยืนมองเฉยๆ เช่นกัน ยิ่งผมกับไอ้จี้นี่ไม่ต้องพูดถึง ต่างคนต่างนั่งมองประมาณว่า..ไม่ใช่เรื่องของกู กูไม่เกี่ยว


สุดท้ายไปไงมาไงไม่รู้ จู่ๆ ไอ้หมอเวรก็ชี้ออกหน้าต่างไปยังตึกตรงข้าม แล้วร้อง ‘อ๊ะ! สไปรเดอร์แมน!!’ ไอ้หนูน้อยมานะรีบหันควับตามนิ้วไปทันทีด้วยหวังจะได้เจอฮีโร่ในดวงใจ(..อันหลังนี่ผมเดาเอาน่ะ ฮ่ะๆ) ไอ้หมอผีเลยฉวยโอกาสนั้นสับเข้าที่ต้นคออย่างชำนาญ....ก็ล่วงสิครับงานนี้ ..แล้วหมอบ้ายังมีหน้าหันมาชูสองนิ้วพร้อมยิ้มแฉ่งให้ผู้ชมในห้องผู้ป่วยอีกต่างหาก(ตกลงมึงเป็นหมอแน่ป่ะวะ ไอ้โหด?! ..แต่ผมรู้สึกเหมือนเดจาวูยังไงไม่รู้สิ คล้ายๆ เรื่องปัญญาอ่อนทำนองนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับตัวเองมาก่อน เหอะๆ)


ยกนี้หมอเฮี้ยนชนะบอดีการ์ดซื่อ(บื้อ)อย่างไม่ต้องสงสัย ..จากนั้นมันก็แบกไอ้มานะผู้ไม่ได้สติขึ้นบ่าแล้วพาออกจากห้องไปอย่างอารมณ์ดี


“ผมฝากด้วยนะครับ หมอ” คุณพ่อบ้านฝากฝังลูกบุญธรรมด้วยท่าทางสุภาพเช่นเคย


หมอหันมาชูนิ้วโป้งพร้อมยิ้มกว้าง “เชื่อใจได้เลย!”


พ่อบ้านจะเชื่อหรือเปล่าไม่รู้ แต่ผมคนนึงล่ะที่ไม่เชื่อมัน..




 
“อืม..” ผมไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงคนหลายคนคุยกันเหมือนอยู่รอบๆ หัวผม


ผมขยับตัวเล็กน้อยแล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้น กว่าจะปรับสายตาให้ชินกับแสงสว่างก็เสียเวลาไปอีกครู่หนึ่ง แต่พอเริ่มจับโฟกัสได้ ใบหน้าแรกที่ผมมองเห็นกลับเป็นใบหน้าหวานๆ ที่ดูกระอักกระอ่วนของไอ้จี้ ...ไหงงั้น?


ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ก่อนจะจับรู้สึกได้ว่าที่ตัวเองกำลังหนุนนอนอยู่มันไม่น่าจะใช่หมอน...แต่เป็นตักของไอ้หน้าหวานนี่ต่างหาก! เฮ้ยยยย!


“โอ๊ยยย! // อูยยย..” ผมซึ่งพรวดพลาดลุกขึ้นก็เลยหัวโขกกับเจ้าของตักซึ่งหลบไม่ทันแบบจังเบอร์ ..วิ้งเลย~


“เป็นอะไรมากรึเปล่า ซันนี่?” ซินเซียร์ที่ไม่รู้ว่ากลับมาถึงกรุงเทพตั้งแต่ตอนไหนรีบปรี่เข้ามาดูผมด้วยท่าทางเป็นห่วงแบบเว่อร์ๆ ผมโบกมือเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร..


“เจ็บมากรึเปล่าครับ คุณจี้?” พ่อบ้านก็เข้ามาถามอาการของผู้ร่วมชะตากรรมของผมเช่นกัน


“ไม่...จี้ไม่เจ็บเท่า..ไหร่..” คนพูดเสียงแผ่วหายไปเมื่อหันมาสบตากับผม ..แล้วก็หลบตาไปอีก ..อะไรวะ?


“โทษทีนะ” ผมเอ่ยขอโทษจากใจ ..ท่าทางว่าผมจะเผลอหลับแล้วไหลไปหนุนตักมันแน่ๆ แถมตื่นมายังเนรคุณด้วยการเอาหัวไปโขกเขาอีก กูเนาะกู..


“แล้วก็ขอบใจ..ที่ให้ยืมตัก” ผมพยายามยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร ทางนั้นเหลือบมามองแค่นิดนึง แล้วก็รีบก้มหน้างุดทันที


“มะ..ไม่เป็นไร” มีเสียงพูดตอบกลับมาเบาๆ


“ให้ผมเอายามาทาให้มั้ยครับ?” พ่อบ้านถามเราทั้งคู่


“คุณเมรันดรีเอามาทาให้..ให้ ซันชายน์ เถอะ ..เดี๋ยวจี้ขอตัวไปห้องน้ำก่อน” ว่าแล้วก็รีบลุกหนีกันไปดื้อๆ ซะงั้น


อะไรของมันวะ? แล้วถ้าผมตาไม่ฝาด ผมว่าแก้มมันแดงๆ ด้วยนะนั่น? หรือจะไม่สบาย? ก็เลยดูเพี้ยนๆ ไปอีกคน?


ตกลงรอบตัวมึงนี่มีแต่คนเพี้ยนจริงๆ สินะ เอี้ยฟ้า?


ผมโบกมือเป็นเชิงว่าไม่เป็นอะไรให้พ่อบ้าน แล้วหันกลับมาสนใจซินและคนอื่นๆ ในห้องบ้าง ..ตอนนี้นอกจากซินกับเมรันดรีแล้ว ห่างออกไปยังมีซอลลี่ยืนกอดอกหน้าตาเรียบเฉยอยู่ด้วย ถัดออกไปมีสกายกับเมย์บียืนยิ้มอยู่(..นี่พวกมันก็ตามซินกลับมาจากขอนแก่นด้วยเหรอ? ยังอยู่บ้านเกิดไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงกันด้วยซ้ำนะนั่น) และข้างๆ เตียงของเอี้ยฟ้า มีผู้ชายใส่แว่น(แบบเปลือยกรอบ) ท่าทางสุภาพ อายุประมาณสามสิบกว่าๆ ยืนส่งยิ้มบางมาให้ผมด้วย ..ใครหนอ?


แล้วมากันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย? ทำไมไม่มีใครปลุกผมบ้างเลย? ไม่รู้นอนน้ำหลายไหลหรือเผลอกรนโชว์แขกไปบ้างหรือเปล่า? หึยยยย..


“ซันนี่..” เอี้ยฟ้าเรียกชื่อผม(ดูจากสีหน้าท่าทางแล้ว.. สงสัยว่ามันจะลืมเรื่องที่งอนผมอยู่ไปแล้วล่ะ) แล้วผายมือไปทางผู้ชายใส่แว่นคนนั้น “..นี่คุณพิณ”


“อ่า.. สวัสดี..ครับ” ผมยกมือไหว้แบบเก้ๆ กังๆ


ทางนั้นก็ยกมือรับไหว้ผมซะอย่างสวยเลย แถมยังยิ้มมากกว่าเดิมอีก “สวัสดี ซันนี่ ..เคยเห็นแต่ในรูปกับฟังเรื่องเล่ามาบ้าง ดีใจจังที่วันนี้ได้เจอตัวจริงซักที”


“ตัวจริงดูดีกว่าในรูปเยอะใช่มั้ยล่ะฮะ?” ผมถามทีเล่นทีจริง ไม่อยากให้บรรยากาศมันดูทางการจนเกินไป เดี๋ยวผมจะทำตัวไม่ถูก ฮ่ะๆๆ


“ถุ๊ย!!” แว่วเสียงถ่มถุยจากไอ้อีสองตัวที่ติดสอยห้อยตามซินมา


“นั่นสินะ” คุณพิณหัวเราะเบาๆ และหัวเราะดังขึ้นเมื่อซินยืดอกขึ้นและพูดอย่างภาคภูมิว่า ‘น้องผมๆ’


..ท่าทางว่าตอนที่ผมหลับทุกคนจะแนะนำตัวกันไปหมดแล้วสินะ


ผมลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะอย่างน้อยตอนนี้ผมก็ยังไม่ถูกแอนตี้จากคนในครอบครัวของ ‘แฟน’ ล่ะน่า


เอ้อ.. เห็นแบบนี้แต่ผมก็แคร์ญาติมันเหมือนกันนะ ไม่อยากให้เกิดกรณีแบบ..แม่ผัว-ลูกสะใภ้เหมือนในละครหรอก ..เฮ้ย!! ใครพูดอะไร ‘ผัวๆ’ วะ? ใครผัวใครห๊ะ? เดี๋ยวปั๊ดตบปากกลบเลือดเลยนี่ ชิชะ!


เราพูดคุยทำความคุ้นเคยกันอีกหลายประโยค ก่อนที่คุณพิณจะยื่นนามบัตรของตัวเองมาให้ผม “..นี่ครับ”


จะว่าไปแล้ว.. แววตาดำๆ ทึบๆ ของคุณพิณนี่ดูเหมือนของเอี้ยฟ้าชะมัดเลยแฮะ จะต่างไปหน่อยก็ตรงที่มันแฝงนัยเศร้าแปลกๆ ชอบกลด้วย ..ก็ไม่รู้ว่าเป็นมาแต่กำเนิด หรือเกิดจากประสบการณ์ชีวิตกันแน่?


ผมรีบยื่นมือทั้งสองข้างออกไปรับกระดาษแผ่นเล็กๆ นั่นมา แล้วอ่านออกเสียงตามมารยาทสังคมที่เคยถูกเสี้ยมสอน “นายแพทย์ เพลงพิณ ทามิยะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สาขาจิตเวชศาสตร์เด็กและวัยรุ่น คลินิก...”


เดี๋ยวนะ.. ก็ไหนเอี้ยฟ้าบอกว่าคุณพิณเป็นน้องคุณขลุ่ยไง? คุณขลุ่ยก็แม่มันใช่ไหมล่ะ? แล้วทำไมน้องของแม่ถึงมาใช้นามสกุลเดียวกับมันได้ล่ะ? ..ยังไงเนี่ย? หรือผมเข้าใจอะไรผิด? เอี้ยฟ้าใช้นามสกุลน้ามัน? ไม่ได้ใช้นามสกุลของพ่อมันหรอกเหรอ? แล้วตกลงพ่อมันนามสกุลอะไร??


เอ๊ะ.. ทำไมอยู่ดีๆ หางตาขวาก็กระตุกแบบนี้วะ?


“ทามิยะ...” ผมพูดออกมาแค่นั้น ก็เหมือนว่าเอี้ยฟ้าจะเดาความคิดของผมออก มันเลยพูดตอบสิ่งที่ผมไม่ได้ถาม(แต่คิด)ออกมาด้วยเสียงเนิบๆ


“กูใช้นามสกุลคุณขลุ่ยน่ะ”


“แล้ว..นามสกุลพ่อมึงล่ะ?” ผมถามอย่างไม่แน่ใจ


รู้สึกคล้ายๆ กำลังหวาดระแวงอะไรบางอย่างที่แม้แต่ตัวผมเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร?


“แบร์ลุสโคนี” 


คำตอบนี้ไม่ใช่มาจากปากคนที่ผมถาม แต่ออกมาจากปากบางๆ ของซอลลี่ที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่ใกล้หน้าต่างต่างหาก! 


“พี่ว่าอะไรนะ?!” ผมหันไปถามซอลลี่ด้วยความตกใจ ห้องทั้งห้องเงียบกริบลงอีกครั้งอย่างไม่ตั้งใจ


แบร์ลุสโคนี..?!


งั้นหมอนี่กับโคเนโรก็... ..แล้วทำไม?? ทำไมถึงไม่มีใครพูดอะไร?


“พี่แปลกใจนะ ที่นายยังไม่รู้เรื่องนี้” ซอลลี่ขยับเข้ามาใกล้ผม พลางกวาดสายตาไล่มองคุณพิณ เอี้ยฟ้า และเมรันดรีที่ต่างยืนเงียบ โดยไม่แสดงอารมณ์ใดออกมาทางใบหน้าสวยๆ นั่นแม้แต่น้อย ..ท่าทางซอลลี่ดูจริงจังอย่างที่ผมแทบไม่เคยเห็นเลยล่ะ “หมอนี่เป็นคนของตระกูลแบร์ลุสโคนี พี่ว่าพี่เคยบอกนายไปแล้วไม่ใช่รึไง?”


“แต่ตอนนั้นพี่บอกว่าจำคนผิด!” ผมเถียงเท่าที่พอจะจำได้


“พี่ก็พูดไปงั้นแหล่ะ” ซอลลี่ยักไหล่ง่ายๆ “นายไม่เห็นรึไงว่าหน้าตาแฟนนายมันแทบจะเป็นพิมพ์เดียวกับโคเน่อยู่แล้ว”


“..........” ข้อนี้ผมเถียงไม่ออก


นั่นน่ะสิ.. ต่อให้โง่แค่ไหนก็ต้องนึกสงสัยบ้างแหล่ะว่าทำไมมันสองคนถึงได้หน้าคล้ายกันขนาดนี้? แต่ผมกลับไม่เอะใจอะไรเลย..
ผมนี่มันเป็นที่สุดของความโง่เง่าเลยสินะ?


เฮอะ! แล้วไง? ก็ไม่เห็นมีใครบอกผมเลยนี่หว่า? แล้วไอ้ผมมันก็คนซื่อด้วย(?) จะไม่รู้ก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน?


ผมแอบเหล่ไปทางเอี้ยฟ้าอย่างคาดโทษ ก็เห็นว่ามันกำลังจ้องผมอยู่เช่นกัน ดวงตาสีดำนั้นแสดงออกถึงความกังวล ...กังวล??


“แล้วที่วันนี้พี่อุตส่าห์ถ่อมาถึงนี่ก็เพราะอยากจะพูดกับนายเรื่องนี้แหล่ะ” ซอลลี่เริ่มเข้าเรื่อง ขณะที่ผมเริ่มใจไม่ดี “ในฐานะที่พี่เป็นพี่นาย และพอจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับคนในตระกูลนี้มาบ้าง..”


“พูดตามตรงนะ พี่อยากจะให้นายถอยห่างออกมาจากหมอนี่จะดีกว่า”


“พูดอะไรน่ะ ซอลลี่?” คราวนี้เป็นซินที่ร้องถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “พี่ไม่ควรจะมาก้าวก่ายเรื่องของซันนี่แบบนี้นะ”


“พี่ก็ไม่ได้อยากก้าวก่าย ถ้าแฝดของนายไม่ใช่น้องชายของพี่..” ซอลลี่ว่าแล้วหันไปทางคนบนเตียง “..แล้วหมอนี่ก็ไม่ใช่น้องชายของโคเน่”


“ทำไม.. พี่เองก็เป็นเพื่อนกับโคเนโรนี่นา” 


“ใช่.. พี่เป็นเพื่อนกับโคเน่ และรู้จักหมอนั่นดีเกินกว่าจะยอมปล่อยให้นายคบกับน้องชายของเขาต่อไปโดยไม่คิดจะทำอะไรเลย...” ยิ่งฟังซอลลี่พูดผมก็ยิ่งไม่เข้าใจ ซอลลี่กำลังพูดอะไร? แล้วทำไมผมจะคบกับฟ้าประทานต่อไม่ได้?


“ตามพี่ไปคุยข้างนอกดีกว่า” ซอลลี่พูดแล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป


ผมกับซินเลยต้องจำใจลุกขึ้นเดินตาม.. แต่ก่อนไปยังไม่วายหันไปมองเอี้ยฟ้าอย่างคนต้องการกำลังใจหรือความมั่นใจอะไรสักอย่าง แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงความกังวลและคล้ายกับกำลังอ้อนวอนอยู่ในแววตาสีดำคู่นั้น ส่วนเมรันดรีกับคุณพิณทำเพียงมองพวกผมพี่น้องด้วยความสงบเท่านั้น




 

“ตอนนี้นายก็รู้แล้วใช่มั้ยว่าแฟนของนายน่ะมีวิถีชีวิตยังไง?” ทันทีที่หามุมเงียบๆ ในโรงพยาบาลได้ ซอลลี่ก็เปิดประเด็นต่อ “ต่อให้ครั้งนี้โชคดีรอดมาได้ ก็ไม่แน่ว่าครั้งต่อไปจะยังเหลือโชคให้ใช้อีกหรือเปล่า? ..แล้วมันก็จะเป็นแบบนี้ไปตลอดถ้าหมอนั่นยังเอาแต่วิ่งหนีชะตากรรมของตัวเองอยู่แบบนี้..”


ชะตากรรม? วิ่งหนี??


“ตราบใดที่หมอนั่นยังไม่ยอมหันไปเผชิญหน้า ปัญหามันก็จะไม่มีวันจบ หรือไม่หมอนั่นก็ต้องจบชีวิตลงไปอย่างหมาขี้แพ้ ..นายทนได้เหรอ ซันนี่? ต้องทนอยู่กับคนที่ใช้ชีวิตอยู่บนเส้นด้ายโดยไม่รู้ว่ามันจะขาดลงเมื่อไหร่แบบนี้..?”


“..........” ผมพูดไม่ออก


ซอลลี่เหมือนจะรู้ตื้นลึกหนาบางของเรื่องที่เกิดขึ้นกับเอี้ยฟ้ามากมายหลายขุมกว่าผมนัก ..แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่เพียงพอที่จะทำให้ผมทอดทิ้งเอี้ยฟ้าไปในช่วงเวลาแบบนี้ได้หรอกนะ!


“..ที่พูดทั้งหมดเนี่ย เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของนายหรอกนะ ถ้าเกิดนายเป็นอะไรไป แล้วฝาแฝดตัวแสบของนายจะอยู่ยังไง? ไหนจะริต้า ไหนจะตาลุงอีก? ..รวมทั้งพี่ด้วย ถึงจะไม่ค่อยแสดงออกแต่พี่ก็ไม่เคยลืมหรอกนะว่าเราเป็นอะไรกัน”


..ที่พูดนี่เพราะซอลลี่ห่วงผมหรอกเหรอ?


“..รู้ใช่มั้ยว่าพวกเราทุกคนเป็นห่วงนาย ซันนี่?” ซอลลี่ถามพลางมองไปทางซินที่นั่งเงียบอยู่ข้างผม “..โดยเฉพาะแฝดพี่ของนาย”


“ซิน..” ผมเองก็หันไปมองซินด้วยเหมือนกัน


“พี่มาเพื่อที่จะเตือนสตินายแค่นี้ล่ะ ..จะเลือกทางไหนก็คิดดูให้ดีแล้วกัน แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน...ก็เตรียมใจรับผลที่จะตามมาเอาไว้ด้วยล่ะ” พูดจบซอลลี่ก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่มีคำล่ำลาใด เหมือนกับตอนมาที่ไม่มีคำทักทายใด


หลังจากร่างของพี่ชายคนโตลับสายตาไปแล้ว ผมก็เอื้อมมือที่ยังมีผ้าพันแผลพันไว้ไปกุมมือของซินที่วางอยู่บนโต๊ะ ซินก็เลยเอามืออีกข้างมากุมทับผมไว้อีกที เราสองคนบีบมือกันเบาๆ โดยไม่มีคำพูดใด เพียงแต่ส่งความรู้สึกให้แก่กันและกันผ่านทางอุณหภูมิของร่างกายและสายตาเท่านั้น


ก่อนจะเป็นซินที่ยิ้มอย่างมั่นใจออกมา แล้วพูดว่า “..ถ้ามึงเลือกที่จะเสี่ยง กูก็พร้อมที่จะเสี่ยงไปกับมึง ซันนี่”


“ซิน..” ผมเรียกชื่ออีกฝ่ายอีกครั้ง


แต่ผมจะเอาซินเข้าไปเสี่ยงด้วยได้ยังไง? ผมจะอยู่โดยไม่รับผิดชอบชีวิตซินได้ยังไง? ผมทำไม่ได้...


แต่ถ้าผมถอยออกมา.. แล้วฟ้าล่ะ?


จะให้ผมทิ้งฟ้าไปงั้นเหรอ? ..นั่นผมก็ทำไม่ได้อีกเหมือนกัน


แล้วผมควรจะทำยังไงดี..?


“ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น.. ทำตามหัวใจตัวเองเถอะ” ซินบีบกระชับมือผม “เพราะหัวใจของซันนี่ ก็คือหัวใจของพี่”


“ซิน..” ผมโผเข้าไปกอดซินไว้แน่นด้วยซาบซึ้งใจ “ขอบคุณ ..พี่ชาย”


“ถ้าซินเสี่ยง กูก็พร้อมจะเสี่ยงด้วยคน” จู่ๆ สกาย(ที่คงจะแอบฟังมานาน)ก็ปรากฏตัวขึ้นจากมุมตึก พร้อมกับเมย์บีที่ยืนอยู่ข้างหลังเป็นกำลังเสริม


“กูไม่มีทางปล่อยให้สุดที่รักของกูต้องไปเสี่ยงอันตรายตามลำพังเด็ดขาด!” ไอ้กายพูดอย่างมุ่งมั่น แล้วชู่กำปั้นขึ้นฟ้า (..เพื่อ??)


“อ้วกกกกก!!” ผมกับอีเมย์ร้องขึ้นแทบจะพร้อมกัน


แต่คนหน้าด้านอย่างสกายมีหรือจะระคายเคือง ..ยิ่งกว่านั้น ‘สุดที่รัก’ ของมันยังทำหน้าปลาบปลื้มดีใจเห็นดีเห็นงามไปกับความโอเวอร์ของมันซะอีก


“กายยย~” ซินผละจากผมแล้วโผไปหาไอ้บ้ากายแทน “กูรักมึงจัง เมียรัก”


“กูก็รักมึงเหมือนกัน~” ไอ้กายยิ้มกว้างกอดตอบ พร้อมลูบหัวลูบไหล่ซินไปด้วย “..แต่กูไม่เป็นเมียได้มะ?”


“มึงไม่เป็นแล้วหมาที่ไหนจะเป็น?” ซินว่า


“แต่กูไม่อยากเป็นอ่า..” ไอ้กายอิดออด


“งั้นเราเลิกกัน!” ซินประกาศตัดความสัมพันธ์ด้วยความขัดใจ


“ไม่น้าาาาา~” และไอ้บ้ากายก็แหกปากร้องตามสูตร


“..........”


นี่พวกมึงนึกว่ากำลังเล่นขายของกันอยู่หรือไง? ปัญญาอ่อนได้อีก..


“มันเป็นแบบนี้กันมาตลอดทางแหล่ะ จากกรุงเทพถึงขอนแก่น จนขอนแก่นกลับมากรุงเทพ ..มันก็ยังตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะเป็นเมีย” อีเมย์พูดหน่ายๆ ขณะยืนมองสองผัวผัว(ไม่มี ‘เมีย’ เพราะยังไม่มีใครยอมเป็น)ทะเลาะกันล้งเล้ง “..กูเสนอจะเป็นเมียให้เอง แมร่งก็ไม่เอาอีก เรื่องมากกันชิบหาย”


“เป็นกูก็ไม่เอาเหอะ..” ผมพึมพำเบาๆ โดยไม่ให้อีกฝ่ายได้ยิน


“แต่มึงไม่ต้องห่วงนะ อีซันซัน..” อยู่ดีๆ เมย์บีก็เอื้อมแขนมาพาดคอผม พร้อมกับพูดอะไรงงๆ จนผมต้องหันไปเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม “ก็เรื่องของมึงไง ..ยังไงกูก็พร้อมจะยืนข้างมึงและคนที่มึงรักเสมอนะ”


“เมย์..” ผมกำลังจะซึ้งแล้วเชียว


ถ้าไม่ได้ยินมันพูดประโยคถัดมาซะก่อน..     



“เพราะกูถือคติ.. ผัวเพื่อนก็เหมือนผัวกู”



“โอ๊ย!!”


นั่นแหล่ะ.. มันก็เลยโดนผมตบกะโหลกแทนคำขอบคุณไป









TBC.  :z2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2012 18:39:51 โดย White Raven »

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
 : :z3: :z3:ฟ้าตื่นขึ้นมารู้จะเปนยังไงนะ.     แล้วซันนี่เขาบอกนามสกุลแล้วรู้รึยังว่า ชายคนนี้เปนครายยยยยย ซันนี่เอ้ยยยยย :laugh:




 :laugh:  ผัวเพื่อนคือผัวเราคตินี้ดีนะ. ซันนี่ตัดสินใจได้ดีมาก o13. สงสารฟ้าคงกลัวซันนี่เปลี่ยนใจ :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2012 23:25:32 โดย Tiamo_jamsai »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
โล่งอก  เฮ้อ  นึกว่าจะมีศึกสายเลือดซะอีก

ออฟไลน์ Usukushii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
โดนผีอำ !!  :m29:



โล่งอกไปที  :try2:


ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
แบบนี้เค้าเรียกหักมุม
ถ้าอยู่บนถนน นี่มันก็โค้งหักศอกช้าดๆ
พลิกกันตกเก้าอี้หม๊ด!!!!
 :a5:

ออฟไลน์ AllRiseApril

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 507
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
มาไวมากก  ดีค่ะ  กันอารมณ์ค้างดีสุดๆ
หายนอยด์ด้วย 5555555555555
โอเคๆๆ  โคเนโรก็ไม่ได้เลวร้ายมากมั้ง
แต่ไม่รุ้ว่าตอนฟ้าตื่นมา แล้วรู้ว่าได้เลือดจากใคร
จะอาละวาดเงียบมั้ยวะ ฮ่าา
เอาเหอะ  ยังไงก็รอดตายแล้วว เรื่องอื่นช่างมันเหอะน่า

ออฟไลน์ P.PAN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด รักคนเขียนค่ะ
ตอนที่แล้วก็ใจหายไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นแบบที่คิด ฟุ้งซ่านจิงๆเล๊ยยยคนอ่าน ><

รอๆ เมื่อไหร่ฟ้าจะฟื้น TT

ryokame

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้ออออ ค่อยโล่งหน่อย

ออฟไลน์ กฤษณ์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0

o oxijan

  • บุคคลทั่วไป
โคเน่ นะ เว้ย เฮ้ย   :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

เรียน หมอ มา รัก ษา เอี้ย ฟ้า ดี กว่าาาาาาาาาาา 55 เว้ย เฮ้ย :really2:

 :m1: :m1: :m1: :m1: ชอบโคเน่

faratellll

  • บุคคลทั่วไป
  :laugh:  เจ๊ฟุ้งไปไกลล่ะ. 

ซินแกไม่กลับบ้านกลับช่องเลยนะ ติดเมียซะ. (ใช่ป่าวว่า o18:laugh:
จริง. จริงนะไอ้คาโบนารา.  มันต้อง want something sure ! เชื่อเจ๊สิ :z1:

P.S.  หายหัว เฮ้ย หายไวไวนะที่รักของเจ๊  :haun5:

ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4
มนุษย์จากนอกโลกอีกคนซินะ :serius2:

fafanyla

  • บุคคลทั่วไป
สมัครสมาชิกเพื่อมาเม้นบอกว่า

เราชอบโคเน่อ่ะค่ะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ไม่ใช่นะ คือเราชอบฟิคเรื่องนี้ม้ากมากกกกกกก ตามอ่านอย่างเดียวชักไม่มันส์ ขอกระโดดมาเม้นด้วยคนนะคะ  :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
มันมาอีกคนละนิสัยแบบนี้ถึงว่า พี่น้องกัน :laugh:

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
เอิ่มสรุปคือไม่ได้กันใช่มะตกใจหมด

ออฟไลน์ silverwar

  • เสี่ยว...กาก...เกรียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: โล่งอก นึกว่าจะเกิดศึกสายเลือดซะแล้ว

พลิกซะ แทบหงายตกเก้าอี้

โคเน่ นายกลัวผีอำ !! ไม่น่าเชื่อ  o22

มันมีอะไรให้น่ากลัวไปกว่า ตัวนาย และ น้องชายของนาย กันฮ๊าาาาาาาา :m31:



Edit


จี้ นายหน้าแดงทำไม !!!

ชอบจัง มิตรภาพระหว่างแฝด ~ และของเพื่อนๆด้วย

ดีใจแทนซันนี่จัง ที่มีเพื่อน และ พี่ชาย ที่ดีแบบนี้

ปล. นายยังตกลงกันไม่ได้อีกเรอะ ซิน-กาย ว่าใครจะเป็น ภรรเมีย...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2012 16:36:48 โดย silverwar »

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
อ่านะ บอกทั้งชื่อ แล้วยังซันนี่ที่เอาน้ำหอมไปฉีดอีก 
อารมณ์หมาฟ้ามันต้องกลบกลิ่นแน่ ๆ 55++

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
เฮ้อออออออออออออออออออ  โล่งอกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ทำเราคิดไปถึงสุไหงโกลกเลยนะเนี้ย ฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
อ้อ มันเปนอย่างนี้นี่เอง อืมๆ

ออฟไลน์ my pumpkin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 93
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
หลังจากที่เหมือนจะด่าไว้ซะเยอะเลยเมื่อตอนที่แล้ว
มาตอนนี้เค้าก็อยากจะขอโทษคุณพี่ชายนะคะ ^/\^

พี่ชายดีจริงใช่ไหมเนี่ย? เพื่อซอลลี่ก็ต้องเป็นคนดีสิเนอะ? ><

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
โอ๊ยยยย แอบหวังให้โคเน่เป็นพี่ที่ห่วงและอยากสนิทกับน้อง#พอจะมีหวังมั้ย?
ขอกำลังเสริมด่วน รับมือไม่ไหวแล้วตอนนี้
ซินจ๋าาาาา กลับมาเร้วววววววววววว

 :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด