กรุ่นกลิ่นรวงข้าว ตอน ๑๙ ตอนอวสาน(๘ เม.ย. ๒๕๕๕)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: กรุ่นกลิ่นรวงข้าว ตอน ๑๙ ตอนอวสาน(๘ เม.ย. ๒๕๕๕)  (อ่าน 114485 ครั้ง)

ออฟไลน์ Dongmin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-2
ชอบมากครับ บรรยากาศทุ่งนา อีกสามวันกลับบ้านอ่างทอง ขี่รถเล่นดูทุ่งข้าว

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
นึกภาพทุ่งนาสีทองกับความร้อน ณ ปัจจุบัน :เฮ้อ:

chantana

  • บุคคลทั่วไป
+1 ให้ค้า

แอบอ่านตอนไปบวชนะ  :really2:

ชอบค้าาาาาาาาาาาาาาาา    :z3:

รอ   :call:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
เพิ่งเข้ามาอ่านสนุกมาก
ทำให้คิดถึงบรรยากาศเมื่อก่อนตอนเด็กๆ
ตามปู่กับย่าไปเกี่ยวข้าวสนุกมากๆลมที่นาก็เย็นสบาย
มันผ่านมาเกือบจะยี่สิบกว่าปีแล้วอยากย้อนเวลาไปตอนเด็กๆจัง
+ 1 นะคะ

ออฟไลน์ NumPing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
กลับมาแล้วเหรอ

คิดถึงมากเลย

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
มาแล้ว เห็นเมฆกับโนรักกันมันก็ดี แต่สงสารหน่อง

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ดีใจจังกลับมาแล้ว :L2:

กด+เป็ดจ้า

ออฟไลน์ ลำนำบุหลันครวญ

  • Most Wanted!!!
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
ตอนที่ ๑๖

รถของนฤบดินทร์จอดที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ก่อนจะถามคนนั่งข้างๆด้วยน้ำเสียงเรียบๆโดยที่ไม่ได้หันไปมอง
“ปกตินายกินเหล้ากินยาหรือเปล่า”
“ก็....บ้างครับ”
“ลงไปซื้อลีโอมาสักลังสิ”
“ลังหนึ่ง!!!” ขจรเกียรติอุทาน “สองคนเนี่ยนะครับ”
“ไม่หมดก็เก็บไว้ได้ ลงไปเถอะน่า”
จอนทำหน้าลำบากใจเล็กน้อย ก่อนจะลงไปตามคำสั่ง
.
.
.
“ยกมานี่สิ” หน่องเปิดประตูห้องให้คนที่ถือลังเบียร์เข้ามาในห้องนอนของตน
“ให้วางตรงไหนครับ”
เจ้าของห้องเปิดประตูอีกบานหนึ่งที่เชื่อมระหว่างระเบียงกับห้องนอน “วางตรงนี้แหละ แล้วไปยกกระติกน้ำแข็งกับแก้วมาด้วย”

น้ำสีอำพันถูกรินลงในแก้วที่บรรจุน้ำแข็ง ก่อนที่ชายหนุ่มจะยื่นแก้วให้กับคนตรงหน้า “นี่ครับ”
“อืม” เขาขานรับ ก่อนจะยกแก้วขึ้นกระดกแล้วทอดมองออกไปเบื้องหน้า
“ผมไม่เคยเห็นพี่หน่องจะเป็นแบบนี้” ขจรเกียรติพูด ก่อนจะยกแก้วของตนขึ้นจิบช้าๆ
อีกฝ่ายปรายตามามอง “เรารู้จักกันมานานขนาดไหนกันเชียว” เขาพูดก่อนจะกระดกของเหลวที่เหลือจนหมดแล้วยื่นแก้วให้บ่าวจำเป็นรินให้
“ผมขอโทษครับ”
“ช่างเถอะ เอาเป็นว่าชั้นก็ไม่ใช่คนดีนักหรอก ออกจะร้ายด้วยซ้ำ”
“แต่ผมว่าพี่เป็นคนดีนะ” อีกคนค้านด้วยแววตาจริงจัง “ดีมากๆด้วย”
“เราก็แค่คนที่เพิ่งรู้จักกัน”
“ก็เพราะเราเพิ่งรู้จักกันน่ะสิ .... แต่พี่ก็ยังทำเพื่อผมขนาดนี้”
“เปล่าเลย ทั้งหมดนี้ชั้นทำเพื่อตัวเอง ทำเพื่อ.... “เกษตรอำเภอกลืนน้ำลายลงคอ “ช่างมันเถอะ”
“เพื่อพี่เมฆ” อีกฝ่ายตอบแทน
นฤบดินทร์ถอนหายใจก่อนจะหลบสายตาซักไซ้คู่นั้น “เหมือนชั้นจะเข้มแข็งนะ แต่พอมาเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆ ชั้นก็เจ็บอยู่ดี”
“ผมเข้าใจครับ”
“การทำตัวเป็นพระเอกมันต่างจากการเป็นไอ้โง่แค่เส้นบางๆเองนะ นายว่ามั้ย ทำทั้งๆที่ตัวเองต้องเจ็บและเขาเองก็ไม่เคยจะเห็นค่าเนี่ย”
น้ำสีอำพันถูกกรอกลงคอของชายหนุ่มอีกครั้งด้วยตัวของเขาเองจนหมดแก้ว ก่อนที่เขาจะพูดต่อ
“ไม่รู้เมื่อไหร่ถึงจะคิดได้ เมื่อไหร่ชั้นถึงจะเลิกทำแบบนี้ ไม่เบื่อบ้างหรือไง เจ็บเท่าไหร่ก็ไม่เคยจำ”
ขจรเกียรติมองดวงตาเศร้าของคนตรงหน้า ก่อนจะเลื่อนมือไปกุมมือของเขาที่วางอยู่
“ก็จนกว่าจะมีใครสักคนที่เขาเห็นค่าของพี่แหละครับ ผมเชื่อว่าสักวันพี่จะต้องเจอคนๆนั้น”
เจ้าของบ้านถอนมือออกเมื่อรู้สึกตัว “ขอบใจนะ”
“สำหรับ?”
“สำหรับคำปลอบใจและอยู่เป็นเพื่อนกินเบียร์”
หน่องยกมุมปากเล็กน้อยก่อนจะกระดกเบียร์ต่อไปเงียบๆ และเป็นการตั้งวงกินเบียร์ที่อาจจะเงียบที่สุดในโลก เพราะมีเพียงเสียงลมพัดเบาๆกับเสียงน้ำแข็งที่กระทบกันในแก้วเท่านั้นกระมังที่ดังขึ้น
.
.
ขจรเกียรติเก็บขวดเบียร์เปล่าขวดที่สี่จากในลังเก็บคืนในลังตามเดิม ก่อนจะดึงแก้วเบียร์ที่อยู่ในเมือของคนที่กำลังฟุบหน้าคว่ำอยู่บนโต๊ะออก
“เฮ้อ นี่น่ะนะ คนร้าย กินเบียร์ไม่กี่แก้วก็เมาหลับแบบนี้” เขาส่ายหน้าเบาๆพลางมองไปยังคนอวดดีตรงหน้า ก่อนจะค่อยๆช้อนร่างไร้สตินั้นไปวางบนเตียง
ใบหน้ายามหลับของเกษตรอำเภอเดิมบางนั้นนิ่งเรียบ หากแต่ซ่อนความอ่อนละมุนอยู่ภายใน ขจรเกียรติใช้มือข้างหนึ่งเกลี่ยผมที่ปกหน้าคนที่กำลังหลับช้าๆให้เป็นทรง ก่อนที่เขาจะชะงักมือกลับเมื่อนึกถึงสถานะของตัวเอง
“เอ่อ ผมขอโทษครับ”
“อืมมม” นฤบดินทร์พึมพำอย่างไม่ได้สติ
ขจรเกียรติเหม่อมองออกไปข้างนอก พลางถอนหายใจช้าๆ .... ณ ที่แห่งนี้ที่เขายืนอยู่ ยังมีเหตุผลอะไรที่จะทำให้เขาต้องอยู่ที่นี่หรือเปล่านะ ในเมื่อ....คนที่เขารักนั้นมีคนอื่นไปแล้ว และเขาเองก็คงไม่มีค่าสำหรับใคร
.
.
.
ยามสาย ณ ชายทุ่ง อโณชายืนสูดอากาศบริสุทธิ์ของบ้านเดิมบางลำพังด้วยใบหน้าที่แช่มชื่น เขานึกถึงเรื่องดีๆที่เกิดขึ้นมากมายหลังจากที่ได้เหยียบย่างหมู่บ้านแห่งนี้ สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้เขาคิดได้ถึงความวุ่นวายในเมืองกรุงที่เขาจากมา และตอนนี้เขาตัดสินใจแล้วว่า จากนี้ไป....เขาควรจะใช้ลมหายใจของตัวเองที่เหลือนั้นอยู่ที่ใด

“อุ้ย!” เขาอุทานเล็กน้อยเมื่อรู้สึกสัมผัสที่โอบรัดเขาจากด้านหลัง หากแต่เมื่อสติรับรู้เริ่มทำงาน เขาก็ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงแขนหยาบกระด้างสีดำที่แข็งแกร่งที่คุ้นเคย
“ขวัญอ่อน ยังไม่ชินอีกหรอ”
“ไม่คิดจะชินหรอก” เขาตอบอย่างไม่ตรงกับใจนัก
“พูดดี” คนที่ยืนอยู่ด้านหลังจับร่างบางของอโณชาให้พลิกหันหน้าไปหา “อย่างนี้มันต้องเลียนแบบหนังพิศาลจะได้หายอวดดี”
“เดี๋ยวจะโดนเตะ” อโณชาไสตัวเองออกจากวงแขนนั้นพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี “ทำอย่างนี้มันไม่ถูกนะ ลูกเขามีพ่อมีแม่”
“งั้นถ้าให้แม่ไปขอล่ะ จะยอมเป็นแฟนมั้ย” ไอ้หนุ่มบ้านนาผิวหมึกฉีกยิ้มฟันขาว
“ฮ่าๆๆ มาซี้ ถ้าแน่จริงน่ะ” อโณชาหัวเราะทีเล่นทีจริง
“อย่าท้าคนสุพรรณนะครับ คุณอโณชา”
ทั้งคู่ต่างยิ้มให้กัน ก่อนที่อโณชาจะส่ายหัวเบาๆและทรุดลงนั่งบนแคร่ไม้ไผ่ “นึกแล้วก็ไม่เชื่อตัวเองว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ ผมลองคำนวณคร่าวๆแล้ว หว่านอีกสักสองรอบก็น่าจะได้ตามเป้าแล้ว”

อโณชาหันมายิ้มให้กับอีกคนด้วยใจจริง “ ขอบคุณมากนะครับ”
“แล้วถ้าทำสำเร็จแล้วล่ะ จะทำยังไง ยังจะไปจากที่นี่อีกมั้ย”
“หึหึ” เจ้าของที่นาเสตาหนีแววตาซุกซนของคนตรงหน้า “ไม่แล้วล่ะ ผมกลายเป็นคนเดิมบางไปเสียแล้วล่ะ”
“ถ้าจะพูดให้ถูกคือเป็นสะใภ้เดิมบางต่างหาก” เมฆินทร์แกล้งตีรวน
“อยากโดนเตะจริงๆใช่มั้ย” คนถูกพาดพิงหันมาทำตาเขียว

เสียงหัวเราะของคนสองคนสอดประสานขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงลมโบกพลิ้วต้นไผ่ที่แทงต้นทะลุเอนไหวไปตามแรงลมเสียดสีกันหวีดหวิว ครั้งหนึ่งอโณชาเคยรู้สึกหวาดกลัวเสียงนั้นว่าเป็นเหมือนกับเสียงภูตผีที่หวีดร้อง หากแต่วันนี้เขากลับรู้สึกว่า มันเป็นเสียงบรรเลงเพลงของท้องทุ่งที่เขาฟังว่ามันก็ไพเราะดีไม่ต่างจากเพลงคลาสสิคจากเครื่องเล่นในเมืองเลย

.
.
.

“ไอ้หมา!!! แกว่ายังไงนะ” เสียงของผู้ใหญ่มั่นกับเมียอุทานพร้อมกันด้วยสำเนียงสุพรรณ “แกจะให้ฉันสองคนไปสู่ขอลูกสาวบ้านไหนนะ”
“ลูกสาวที่ไหนล่ะพ่อจ๋าแม่จ๋า หลานยายหลวยน่ะเป็นผู้ชายนะ” ลูกชายผิวเข้มยืนยิ้มแหยๆ หลังจากที่เขารวบรวมความกล้าอยู่หลายวันที่จะเปิดเผยเรื่องนี้ “ฉันรักเจ้าโนมัน”
“โอ๊ย! ... ให้ฟ้าผ่าควายตาย นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย” นางชื่นภรรยาผู้ใหญ่บ้านเอามือทาบอกอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“ฉันพูดจริงจ๊ะแม่” เมฆินทร์พูดย้ำชัดถ้อยชัดคำด้วยสำเรียงท้องถิ่น “ฉันรักเจ้าโนมัน ส่วนเรื่องขันหมากน่ะฉันพูดเล่น ฉันเพียงแค่บอกให้พ่อกับแม่รู้ว่าฉันเป็นยังไง และถึงฉันจะเป็นแบบนี้แต่ฉันก็เป็นยังเป็นลูกของพ่อกับแม่ เป็นคนดีคนหนึ่งของบ้านเดิมบางไม่ใช่หรอจ๊ะ”
“ข้าเข้าใจนะไอ้หมา แต่เอ็งมาบอกข้าแบบนี้ ข้ายังทำใจยอมรับไม่ได้เว้ย” ผู้ใหญ่มั่นกล่าว ในขณะที่ผู้เป็นแม่ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ก็อย่างที่ว่าแหละไอ้หมาเอ๊ย ข้ายอมรับนะว่าตกใจ” นางชื่นว่า ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก “แต่ก็เอาเถอะจะดีจะชั่วยังไงเอ็งก็เป็นลูกข้านี่นะ ว่าแต่....มีใครรู้บ้างล่ะเนี่ย บ้านตาวันเขารู้หรือยัง”
เมฆินทร์ยิ้มกว้างที่อย่างน้อยแม่ก็ยอมรับตัวตนของเขาได้ในระดับหนึ่ง ส่วนพ่อก็ไม่ได้ปฏิเสธรุนแรงนัก “ยังจ๊ะ ฉันบอกพ่อกับแม่ก่อน แต่เดี๋ยวฉันจะไปหาลุงวัน ฉันจะไปบอกว่าฉันชอบรักหลานชายแก ....เจ้าโนมันจะได้เลิกบ่นเสียทีว่าตัวเองก็เป็นลูกมีพ่อมีแม่”
“เฮ้อ  ข้าล่ะจะเป็นลม ว่าแต่นี่ข้าคงไม่ต้องจัดขันหมากไปสู่ขอหลานชายบ้านนั้นหรอกนะ” นางชื่นยังมีสีหน้ากังวล
“มันก็ไม่แน่หรอกจ๊ะแม่” เมฆินทร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ ที่ทำให้ผู้เป็นบุพการีต้องหนาวสันหลังวาบเมื่อได้เห็น
.
.
.
ควายรอดก้าวเท้าช้าๆบนทางลูกรังของถนนในหมู่บ้านในยามบ่ายพร้อมๆกับที่เจ้าของของมันขี่หลังมันพลางผิวปากอย่างสบายอารมณ์ อโณชามุ่งหน้าไปยังบ้านของผู้ใหญ่มั่นเพื่อมาหาผู้เป็นลูกชายของบ้านนั้น เขาแปลกใจเล็กน้อยที่บ่ายนี้ไม่ได้เห็นหน้าและรอยยิ้มกวนๆของไอ้หนุ่มบ้านนา ความสงสัยระคนกับเหตุผลที่ว่าตนมีธุระปะปังกับผู้ชายคนนั้นนิดหน่อย เนื่องจากจะไหว้วานให้ไปในเมืองเป็นเพื่อนเพื่อไปซื้อพันธ์ข้าวมาเพาะกล้าสำหรับดำนารอบใหม่ ทำให้ชายหนุ่มจำเป็นต้องเป็นฝ่ายมาหาเมฆินทร์ถึงบ้าน

“ผู้ใหญ่ครับ ป้าชื่นครับ พี่เมฆอยู่มั้ย” ขายหนุ่มร้องเรียก และไม่นานนัก นางชื่นก็เดินลงมาจากชั้นสอง พลางใช้สายตามองว่าที่ลูกสะใภ้ที่ลูกชายหมายมั่นด้วยแววตาที่ยังไม่ปกตินัก
“เอ่อ ....ผมมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าครับเนี่ย” สายตากึ่งๆไม่เป็นมิตรของนางชื่นทำให้อโณชารู้สึกได้
“ไอ้เมฆมันไม่อยู่หรอก ไม่ได้อยู่กับเรารึ”
“ป...เปล่าครับ”
“ไม่ได้คุยกันล่ะมั้งเนี่ย” นางชื่นถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่เสียงปืนลูกซองแฝดจะดังขึ้นจากท้ายทุ่ง
“ปัง!!!!!!”
“เสียงปืนใช่มั้ยครับเนี่ย” อโณชาถามขึ้น
“บ้านไหนมีงานกันนะ ทำไมฉันไม่รู้เรื่อง”

ไม่ทันที่ทั้งสองคนจะคลายความสงสัย เสียงโหวกเหวกก็ดังขึ้นจากคนในหมู่บ้านที่ช่วยกันตีเกราะกระจายข่าว
“เจ้าข้าเอ๊ย!!!! ตาวันบ้าไปแล้ว คว้าปืนไล่ยิ่งไอ้เมฆเป็นหมาเลย เจ้าข้าเอ๊ย!!!”

“พี่เมฆ/ไอ้หมา!!!!” อโณชาและนางชื่นประสานเสียงแทบจะพร้อมกัน ก่อนจะรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุโดยทิ้งความคลางแคลงที่มีต่อกันละกันเมื่อครู่ทิ้งไปชั่วคราว


ได้มาต่อเสียที แหะๆ ที่หายไปไม่ได้ทิ้งนิยายนะครับ
ไปจบเรื่อง อิฐเก่าเล่าตำนาน และมีนิยายเรื่องใหม่ (เผื่อใครไม่เห็น)
โดยเรื่องใหม่นี้ เป็นนิยายที่แพลนว่าจะเขียนนานแล้ว เป็นภาคต่อของ นิยายเรื่องแรกที่เขียน (หรือจะเก็บรักไว้ในสายลม)
นั่นก็คือเรื่อง "เพทุบายในสายหมอก" ยังไงก็ฝากนิยายเรื่องใหม่และฝากลิ้งค์ไว้เลยนะครับ อิอิ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32192.0

ส่วนพี่เมฆกะน้องโนใกล้จะจบแล้ว
(เริ่มจะมีอะไรหวือหวาเอาตอนใกล้จะจบ เรื่อยเปื่อยจริงๆ)

ยังไงก็ช่วยติดตามเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-03-2012 13:27:49 โดย ลำนำบุหลันครวญ »

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
จิ้มคนแต่ง แล้วไปอ่านอย่างไว อิอิ

พี่เมฆจะมีชีวิตรอดมั้ยเนี่ย ฮ่าๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2012 17:55:55 โดย -~iK@iZ_KunG~- »

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
ถึงกับจะฆ่าจะแกงกันเลยเหรอ




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






yayee2

  • บุคคลทั่วไป
เมฆโดนทดสอบด้วยลูกปืนซะแล้ว โนรีบไปช่วยเร็วนะ

ออฟไลน์ Dongmin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-2
พี่เมฆโดนซะแล้ว

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
เมื่อพี่เมฆเอาจริงก็ต้องวัดด้วยลูกปืนซะแล้ว

บวกเป็ด

Aimmie88

  • บุคคลทั่วไป
ว้าวมาต่อแล้ววว
กำลังลุ้นเลยว่าจะมาต่อเมื่อไหร่ 5555
ตามมาจากเรื่องอื่นน่ะค่ะ ชอบทุกเรื่องทุกแนวที่คุณแต่งเลย :)

เรื่องนี้ถึงจะเรียบๆหน่อยแต่ก็น่ารักดี อ่านแล้วอมยิ้ม
แอบลุ้นคู่จอนกะหน่องด้วยอ่ะ เวลาจอนอยู่กะหน่องแล้วน่ารักดี
ดูไม่น่าจะร้ายแบบตอนแรกเลยอ่ะ
ยังไงก็จะรอลุ้นต่อนะคะ เอาใจช่วยพี่เม่ให้หนีพ้นลูกปืนลุงด้วยละกัน 555

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
พี่เมฆทำแบบนี้ไม่ปรึกษากันเลย
ทำตัวเรื่อยเฉยอยู่ตั้งนาน บทจะจีบก็รีบเสียจนตามไม่ทัน

ออฟไลน์ wittawattrk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 11
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ในที่สุดก็มาซะที รอตั้งนานอิอิ ขอบคุณคร้าบบ ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ NumPing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
พี่เมฆแย่แล้ว โนต้องรีบไปช่วยแล้วล่ะ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
พี่เมฆโดนซะแล้ว

บวกเป็ด

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ผิดคาดนึกว่าพ่อแม่พี่เมฆจะมีปัญหา กลายเป็นฝ่ายลุงน้องโนซะนี่ แกคงช็อก
จอนอยู่เป็นเพื่อนหน่องไปเรื่อย ๆ สิ คนเหงาสองคนช่วยปลอบใจกัน

wdaisuw

  • บุคคลทั่วไป
พี่เมฆสู้ๆ  :mc4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
สงสารเมฆนะต้องวิ่งหนีลูกปืน แค่ไปขอโนแค่นั้นเอง เอิ้ก

ออฟไลน์ Cherry Red

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-0
พี่เมฆงานเข้า คุณลุงไม่ปลื้มอย่างแรง ถึงกับเอาลูกซองไล่ยิง หวังว่าจะรอดกลับมาหาคุณโนอ่ะนะ... :m29:

ชอบคู่สมาคมคนอกหักจังเลย เพราะรักเลยต้องหลบ เพราะรักเลยต้องเจ็บ แต่รักครั้งใหม่ น่าจะใกล้กว่าที่คิดนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
ตายล่ะ!!!!!! พี่เมฆจะมีชีวิตรอดกลับมาหาน้องโนมั๊ยเนี่ยยยยยยยยยยย

ว่าแต่ จอนนี่ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดนะ ตอนแรกนึกว่าจะฉวยโอกาสกับหน่องซะแล้ว

อยากให้คนเหงาสองคนใจตรงกัน จะได้ไม่ต้องเหงาอีกต่อไป จอนกับหน่องก็ดูเข้ากันดีอยู่นะ ^^

ออฟไลน์ pedgampong

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อั้ยยะ เสียงปืนเลยหรอค๊าาา
ว่าแต่สงสารหน่องจัง  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ londoneye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :m20:

พี่เมฆโดนไล่ยิง

ก็ไปขอหลานชายเค้าอะนะ

น่ารักจริงๆ  แต่จะจบแล้วอ่า

รอลุ้นตอนต่อไป^^

ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
ฮ้าๆๆๆ นึกภาพพี่เมฆวิ่งหนีลูกปืนลุงวันแล้วฮาจริงๆ
แต่จะบอกว่าพี่เมฆกล้ามากอ่ะ สุโค่ยยย ลูกผู้ชายตัวจริง

ตอนนี้มีใช้ชื่อผิดด้วยนะ
เมฆินทร์ยิ้มกว้างที่อย่างน้อยแม่ก็ยอมรับตัวตนของเขาได้ในระดับหนึ่ง ส่วนพ่อก็ไม่ได้ปฏิเสธรุนแรงนัก “ยังจ๊ะ ฉันบอกพ่อกับแม่ก่อน แต่เดี๋ยวฉันจะไปหาลุงมั่น ฉันจะไปบอกว่าฉันชอบรักหลานชายแก ....เจ้าโนมันจะได้เลิกบ่นเสียทีว่าตัวเองก็เป็นลูกมีพ่อมีแม่”
ตรงนี้ต้องเป็น ลุงวัน ใช่เปล่า
ควายแฉะก้าวเท้าช้าๆบนทางลูกรังของถนนในหมู่บ้านในยามบ่ายพร้อมๆกับที่เจ้าของของมันขี่หลังมันพลางผิวปากอย่างสบายอารมณ์ อโณชามุ่งหน้าไปยังบ้านของผู้ใหญ่มั่นเพื่อมาหาผู้เป็นลูกชายของบ้านนั้น
ตรงนี้ต้องเป็น ควายรอด รึเปล่า ควายของโนชื่อรอดไม่ใช่หรอ

รอตอนต่อนะ
 :L2: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ ลำนำบุหลันครวญ

  • Most Wanted!!!
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
บ่ายโมงของวันเดียวกันนั้น....
.
.
.

“อ้าวว่าไงไอ้เมฆ ไปยังไงมายังไงถึงมาหาข้าถึงบ้านได้” นายวันถามขึ้นเมื่อเห็นเด็กหนุ่มที่คุ้นหน้าคุ้นตามานานตั้งแต่เด็กๆ
“ก็มีธุระกับลุงวันนิดหน่อยแหละจ๊ะ” เด็กหนุ่มยกมือไหว้ พลางเดินขึ้นไปบนเรือน
“มีธุระกับข้างั้นรึ?” เจ้าของบ้านทำหน้าสงสัย ก่อนจะยกน้ำใส่ขันมาให้ “อะไรล่ะ”
“คือผมจะบอกว่า....” เมฆินทร์สีหน้าเขินเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็เฉลย “ผมกับโนเรารักกันน่ะครับ”
“เฮ้ย!!! ตาเถร” นายวันอุทานลั่นด้วยดวงตาเบิกโพลง “เอ็งพูดบ้าๆอะไรเนี่ย”
“ผมพูดจริงๆครับลุงวัน ผมรักโน และผมก็มาบอกให้ลุงรู้” ชายหนุ่มตอบชัดเจน “ผมก็ไม่ได้จะป่าวประกาศไปทั่วแต่ผมก็อยากให้ผู้ใหญ่ของผมกับของโนรู้ เพราะผมจริงจังกับโนนะครับ”

“พลั่ก!!!” เมฆินทร์หงายหลังลงกับพื้นเรือนอย่างแรงจากแรงถีบอย่างจังเบอร์ที่กลางหน้าอกของเจ้าบ้านที่อารมณ์คุกรุ่น คนที่นอนกองกับพื้นตกใจไม่น้อย หากแต่เขาก็ยังพยายามที่จะอธิบายความจริงต่อไป
“ลุงวันครับ”
“เอ็งหุบปากเลย ไอ้เมฆ  เอ็งจะเป็นห่าอะไรก็ไม่สนหรอก แต่เอ็งจะโมเมว่าหลานข้าวิปริตแบบมึงไม่ได้ ไป!! มึงจะไปไหนก็ไป!!”
“แต่ลุงวันครับ...”
“เปรี้ยงงงง!!!” เสียงปืนลูกซองที่แขวนไว้ข้างฝาถูกคว้าอย่างว่องไว ทิศทางของกระสุนถูกยิงขึ้นฟ้าหนึ่งนัด เสียงของมันดังกังวาลและแผดก้องราวกับเสียงกรีดร้องของพญามัจจุราชที่สามารถพรากชีวิตของชายหนุ่มไปได้
“ข้าบอกให้เอ็งกลับไป”
“ผมไม่กลับ จนกว่าลุงจะเข้าใจผมกับ...”
“เปรี้ยงงงง!!!” เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้ทิศทางของกระสุนนั้นพุ่งไปทางพื้นเรือนในรัศมีที่ไม่ไกลจากเมฆินทร์นัก ทำให้เจ้าตัวสะดุ้งโหยงและดีดตัวลอยราวกับบินได้
“ถ้าเอ็งยังพูดพล่อยๆอีก ข้าจะเป่าให้กระหม่อมกระจุยเลย”
.
.
เมฆินทร์ก้าวถอยหลังช้าๆ ก่อนจะค่อยลงไปจากบ้านของนายวันอย่างผู้แพ้ เขาเดินคอตกไปจนถึงกลางทาง มาพบนางชื่นและอโณชาที่วิ่งตาตื่นาแต่ไกล ก่อนที่ทั้งคู่จะหอบแฮ่กเมื่อพบว่าคนที่เป็นห่วงปลอดภัยดี
“ไม่เป็นไรใช่มั้ยพี่เมฆ/ไอ้หมา” สองคนประสานเสียง หนุ่มผิวคล้ำยิ้มแหยๆก่อนจะตอบ
“ยังไม่ตายครับ”
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ยครับ พี่เมฆ” อโณชาถามขึ้น ด้วยยังงุนงงกับเหตุการณ์ทั้งหมด
“ก็เพราะเอ็งนั่นแหละ” นางชื่นแผดเสียง “เพราะมันรักเอ็ง ลูกฉันถึงได้เกือบจะเอาชีวิตไปทิ้ง!!”
“ป้าชื่นว่ายังไงนะครับ ผม...ผมงงไปหมดแล้ว”
“แม่ครับ พอเถอะ ไม่ใช่ความผิดของโนมันหรอก” คนที่เพิ่งรอดกระสุนปืนมาหวุดหวิดปกป้องอโณชา “ผมทำตัวเองทั้งนั้น”

“แล้วมันได้อะไรขึ้นมาเฮอะ ไอ้หมา เอ็งจะเอาชีวิตไปทิ้งเพราะความรักงั้นหรอ ....ไอ้หมา ฟังแม่นะ ลำพังเรื่องความรักของเอ็ง ข้าก็ทำใจลำบากแล้ว แต่ถ้าฝั่งตาวันมันไม่เอาด้วยแบบนี้ ข้าเองก็ไม่เอาด้วยเหมือนกัน ข้าน่ะก็รักเอ็งไม่แพ้ที่เอ็งรักเจ้าโนมันหรอก และข้าก็จะไม่ยอมให้เอ็งต้องมาตายเพราะความรักโง่ๆแบบนี้ ” นางชื่นพรั่งพรูความรู้สึกทั้งหมด ด้วยดวงตาแดงก่ำเหมือนจะร้องไห้ และนางก็เลือกที่จะหันหลังให้กับคนทั้งคู่
“ลูกมันก็เลี้ยงได้แต่ตัว แต่ถ้าเอ็งเลือกที่จะตายแบบนั้นก็ตามใจ แต่ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่อีก!!!”

นางชื่นค่อยๆเดินลับตาไป ทิ้งไว้แต่สองหนุ่มที่ยืนนิ่งงันโดยไม่พูดไม่จา
“ทำไมทำอะไรไม่ปรึกษากัน นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้วนะ”
“พี่ขอโทษโน พี่ผิดเอง” ชายหนุ่มก้มหน้ายอมรับ
“ผมเข้าใจความรู้สึกพี่เมฆนะครับ” คนตัวบางแตะไหล่อีกคนด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ “แต่พี่ก็ควรจะเลือกครอบครัวของพี่ ไม่ใช่คนนอกอย่างผม”
“โน อย่าทำแบบนี้” เมฆินทร์จับมือของอีกคนไว้แน่น “พี่ไม่ยอมให้มันเป็นแบบนี้แน่”
“ ผมขอเวลาคิดอะไรๆสักหน่อยเถอะครับ ช่วงนี้.... เราควรต้องห่างๆกันสักพัก”
ชายหนุ่มค่อยๆแกะมือของอีกคนออก ก่อนจะเดินจากไปทิ้งไว้แต่ไอ้หนุ่มบ้านนาที่กำลังเข่าทรุดลงกับพื้นและหลั่งน้ำตาลูกผู้ชาย
“มันต้องไม่เป็นแบบนี้สิ ไอ้เมฆ”
.
.
.
อโณชานั่งเหม่อมองท้องฟ้าอยู่ที่เฉลียงชั้นสองด้วยความรู้สึกสับสน เขาไม่ปฏิเสธหรอก ว่าเวลานี้ตัวเองก็มีใจให้กับลูกชายผู้ใหญ่บ้านไม่น้อย หากแต่....ความรู้สึกทั้งหมดมันเพิ่งจะเริ่ม และหากความสัมพันธ์ของเขามันจะก่อปัญหาให้กับใครต่อใคร .... ถ้าเป็นเขา เขาก็เลือกที่จะถอย เพราะเขารู้ ว่าเขาทำใจได้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาอกหักสักหน่อย

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ สามเดือนที่ผ่านมาแทบจะไม่มีใครโทรเข้าจนชายหนุ่มต้องเปลี่ยนโปรโมชั่นเป็นแบบเติมเงินให้เหมาะสมกับการใช้งาน และเมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นเบอร์ของใคร เขาจึงตัดสินใจรับสายนั้น
“ว่าไงครับแม่”
“ชั้นจะโทรมาถามสารทุกข์สุขดิบไม่ได้รึไง นี่มันไม่ใช่แค่วันสองวันนะที่แกหายหัวไปน่ะ” ปลายสายยังคงมีนิสัยเช่นเดิม
“ทำอย่างกับแม่ใส่ใจผมนัก ปกติก็โทรมาตอนสิ้นเดือนอยู่แล้วนี่”
“เอาเถอะ ชั้นไม่อยากต่อปากต่อคำกับแกเท่าไหร่ แกสบายดีใช่มั้ย”
“ก็....” ชายหนุ่มนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง “สบายดีมั้งครับ”
“ก็ดี .... ความจริงที่โทรมาเนี่ย ชั้นก็มีเรื่องจะบอกอยู่เหมือนกัน ..... “
“เงินหมดอีกหรือไง”
“เปล่าหรอก ชั้นแค่จะบอกว่า ชั้นจดทะเบียนกับผัวใหม่แล้วน่ะ แกจำได้มั้ย ตาชิตน่ะ”
อโณชาค้นหาชื่อและหน้าตาของคนชื่อชิตในความทรงจำ และก็พบว่าเป็นหนึ่งในผู้ชายหลายๆคนของแม่ หากแต่เขาก็รู้จักผู้ชายคนนี้เพียงผิวเผินมาก
“ทำไมถึงเลือกตาคนนั้นล่ะแม่”
“คนเราดีไม่ดีก็ดูกันยามยากนี่แหละ ช่วงที่แกแย่ๆ แม่ก็ได้เค้าช่วย ถึงเค้าจะดูทึ่มๆขัดกับสเปคชั้นสักหน่อย แต่ก็ดีกว่าพวกไก่แก่แม่ปลาช่อนคนอื่นๆ” แม่ตอบตรงไปตรงมา

คำว่าผู้ชายซื่อๆทึ่มๆ ทำให้อโณชานึกถึงใบหน้าของคนๆหนึ่งลอยขึ้นมาในความคิด คนที่เขาควรจะต้องตัดสินใจแล้วว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลังกับผู้ชายคนนี้
“แล้วแกล่ะ ไปอยู่ที่นั่น ไปได้กับชาวนาที่ไหนบ้างมั้ย” คำถามของแม่ยังตรงกับบุคลิก
“เฮ้อ .... ไม่มีหรอกครับ มาทำงานไม่ได้มาหาแฟนนี่”
“แล้วไอ้จอนล่ะ เห็นมันมาถามหาแก ได้เจอกันหรือยัง”
“เจอกันครับ....แต่ผมกับจอนไม่ได้เป็นอะไรกันมานานแล้ว”
“แล้วแกเป็นอะไรของแกล่ะ ฉันรู้นะ....ตอนนี้จิตใจของแกไม่ได้เป็นปกตินักหรอก”
“แม่....รู้ได้ยังไงไง” อโณชาตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินแม่ของตนพูดเช่นนั้น
“เพราะชั้นเป็นแม่แกไง ทำไมชั้นจะไม่รู้เช่นเห็นชาติ แกอาจจะใสซื่อกับคนอื่น แต่แกไม่อ่อนหวานกับชั้นนักหรอก แล้วที่แกมาพูดเสียงอ่อยๆใส่ชั้นนั่นแสดงว่าแกคงมีเรื่องไม่สบายใจอะไรอยู่ ...แต่ก็เอาเถอะ ชั้นก็ไม่ได้ขอให้แกมาระบายกับชั้นหรอก แกเองก็โตรู้เรื่องรู้ภาษาแล้ว แต่ยังไงชั้นก็เป็นแม่แก มีอะไรให้ช่วยได้ก็บอกมาแล้วกัน”
“เอ่อ....” อโณชาหลับตา และถอนหายใจเบาๆ “ขอบคุณมากครับแม่ เอาเป็นว่าผมยินดีด้วยกับแม่แล้วกัน เรื่องแฟนใหม่น่ะ”
.
.
.
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!” เสียงเคาะประตูบ้านเกษตรอำเภอดังขึ้นในเช้าตรู่วันหนึ่ง ผู้ที่อาศัยในบ้านทั้งสองคนมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนที่นฤบดินทร์จะเป็นคนไปเปิดประตูให้เมื่อเจ้าของบ้านพยักหน้ายินยอม

บานประตูไม้ถูกเปิดออกเผยให้เห็นแขกผู้มาเยือนที่คุ้นหน้าแต่แปลกตาออกไปด้วยสภาพที่ดูอิดโรยกว่าทีเคยเห็น
“ขอคุยด้วยหน่อยสิ จอน”
“ผมหรอครับ พี่เมฆ” ขจรเกียรติย่นคิ้วอย่างแปลกใจด้วยไม่คิดว่าชายตรงหน้าจะมีธุระกับตน
“ใช่ .... นายนั่นแหละ” เมฆินทร์ย้ำคำแน่นหนัก
“งั้น .... คุยข้างในดีมั้ยครับ”
เมฆินทร์พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินตามอีกคนเข้าไป นฤบดินทร์มองแขกผู้มาเยือนด้วยแววตาที่แปลกใจไม่ต่างกับผู้เป็นบ่าวนัก หากแต่ด้วยหลายๆอย่างที่ผ่านมาทำให้เขาเลือกที่จะประพฤติตัวเย็นชาให้กับผู้มาเยือน
“มีเรื่องอะไรล่ะเนี่ย”
“พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับจอนสักหน่อยน่ะหน่อง”
“งั้น....ผมต้องหลบไปที่อื่นก่อนมั้ย”
“ไม่ต้องก็ได้ .... อยู่ฟังด้วยกันนี่ล่ะ เผื่อหน่องจะมีความคิดอะไรดีๆ”
.
.
.
“สมน้ำหน้า ทำอะไรไม่คิด” นฤบดินทร์พูดสั้นๆเมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด พลางยักไหล่อย่างไม่แยแสต่อความรู้สึกของคนที่กำลังทุกข์หนัก
“ก็รู้ว่าผิด แต่ยังไงพี่ก็ไม่ยอมให้มันจบลงแบบนี้นะ”
“แล้วไง ซมซานมาที่นี่เพื่ออะไร ผมน่ะนะ....”นฤบดินทร์ตอกย้ำ แต่ชายผู้ทุกข์ร้องก็ยกมือห้ามไว้
“ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะพี่แค่จะขอยืมตัวจอนไปด้วย...เท่านั้นเอง” เมฆินทร์เฉลยความต้องการ ทำเอาอีกสองคนต้องหันมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจนัก
“ผม.... น่ะหรอครับ” คนที่ถูกอ้างถึงเลิกคิ้ว “ผมจะทำอะไรได้”
“พาผมไปหาแม่ของโนที่อยู่กรุงเทพหน่อยได้มั้ย ผมยินดีทำทุกอย่าง .... ขอแค่พาผมไปหาแม่ของโน ให้ผมได้ไปพูดกับท่าน แต่ถ้ามันจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปกว่าเดิม ผมก็คงต้องยอมแล้ว แต่ผมขอดิ้นรยต่ออีกหน่อยเถอะ”
ขจรเกียรติและนฤบดินทร์มองหน้ากันเป็นเชิงถามใจ ก่อนที่ฝ่ายเกษตรอำเภอจะหยักหน้าและถอนหายใจเสียงดังด้วยสีหน้าเซ็งๆ
“ตกลง .... แต่พี่เมฆสัญญาแล้วนะว่ายินยอมทุกอย่าง”
“ใช่ ผมสัญญา”
“หึหึ....ตกลง งั้นเราจะไปกันเดี๋ยวนี้เลยมั้ยครับ”
“ได้...ได้สิ ไปกันเดี๋ยวนี้เลย” เมฆินทร์มีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด


รถกระบะของเมฆินทร์บึ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วด้วยความที่คนขับคงจะอยากให้ถึงกรุงเทพให้เร็วที่สุด นฤบดินทร์มองรถคันนั้นที่ค่อยๆแล่นลับตาไปพลางส่ายหัวเบาๆ พลางนึกเป็นห่วงเมฆินทร์อยู่ลึกๆ เขาคงมัวแต่หูตามืดบอกเพราะความรักจนลืมที่จะสังเกตแววตาเจ้าเล่ห์ของคนที่พาไปด้วย ถึงแม้นฤบดินทร์จะพอมองออกว่า ขจรเกียรติไม่ได้เป็นคนที่ชั่วร้ายมากนักเหมือนในอดีต แต่เชื่อเถอะ ขึ้นชื่อว่าหมาจิ้งจอกน่ะ ต่อให้เอามาหัดให้กินพืชแต่มันก็ไม่ทิ้งนิสัยเจ้าเล่ห์หรอก

“อย่าแกล้งตานั่นแรงนักก็แล้วกันนะจอน” นฤบดินทร์อมยิ้มพลางภาวนาในใจ ก่อนจะเดินเข้าบ้านไปอย่างอารมณ์ดี บางทีให้ไอ้หนุ่บ้านนอกโดนซะมั่งมันก็ดีเหมือนกัน



“ผมขอค่านำทางห้าหมื่น” ขจรเกียรติแจ้งเงื่อนไขของตนเมื่อรถแล่นข้ามทางแยกเดิมบาง ซึ่งคำพูดนั้นทำให้กามนิตหนุ่มถึงกับต้องรีบจอดรถเข้าข้างทาง
“ห้าหมื่น นายจะบ้ารึไง!!!” เมฆินทร์สบถลั่น
“ไม่เป็นไร งั้นผมขอลงตรงนี้แล้วกันครับ” ขจรเกียรติยิ้มเจ้าเล่ห์ และเปิดประตูรถออกไป
“โว้ยยย ไอ้....!!!!” เมฆินทร์ตะโกนอย่างเหลืออดและหมดทางเลือกเมื่อเจอเด็กเมื่อวานซืนอย่างขจรเกียรติย้อนเกล็ดเข้าอย่างจัง!


มาต่อแล้วครับ

ช่วงนี้จะวุ่นๆนิดหน่อย แต่ก็ไม่มากมายเหมือนช่วงก่อนบวช

ยังพอมีเวลาจัดการนิยายบ้างอะไรบ้างอยู่

สำหรับเรื่องนี้ก็ใกล้จะเข้าโค้งสุดท้ายแล้ว

ตามแพลนที่วางไว้ น่าจะอีกสักสองตอนน่าจะจบ

และมีตอนพิเศษในหัวอยู่อีกสองตอน

โดยทั้งหมดทั้งปวง จะลงสลับกันระหว่าง เพทุบายในสายหมอก กับเรื่องนี้นะครับ

ส่วนความถี่ในการลง ตอนนี้ก็อาจจะห่างสักหน่อย (แต่พยายามไม่ให้เกินอาทิตย์)

หลังสงกรานต์ อะไรๆ น่าจะเข้าที่เข้าทางมากกว่านี้

ขอบคุณสำหรับการติดตาม และยินดีต้อนรับมิตรรักนักอ่านที่เพิ่งเข้ามาคอมเมนท์และได้รู้จักกันนะครับ

ขอบคุณคุณ Penda สำหรับการตรวจคำผิด เดี๋ยวลงเสร็จผมจะกลับไปแก้คำผิดนะครับ

ส่วนหมาน้อย พี่ลงพี่เมฆให้อ่านแล้วนะ  :z1:

ขอรางวัลหน่อยเร็ว

 :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-03-2012 13:25:36 โดย ลำนำบุหลันครวญ »

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
จอนแกเรียกค่านำทางอย่างนี้จะแกล้งเมฆเหรอ

ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
ฮิฮิฮิ จอนแสบว่ะ กะเรียกค่านำทางจากพี่เมฆเอาให้หมดหนี้เลยป่ะ

เป็นกำลังใจให้พี่เมฆนะ ขอให้ได้ลงเอยกันเร็วๆ :L2: :L2:

ออฟไลน์ NumPing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
ไอ้จอน ชั้นอยากจะตื๊บแกแทนพี่เมฆจริง ๆ

ขอให้แม่โนเห็นใจด้วยเถอะนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด