32
“ดูคินมีความสุขจังเลยนะครับ”
ทำไมพีทต้องพูดอย่างงี้ด้วยวะ ผมจ้องหน้ามันอย่างตกตะลึงแสดงสีหน้าออกไปอย่างไม่ค่อยจะถูก ผมอยู่ในห้องน้ำกับพีทสองคน และดูเหมือนว่าจะไม่มีเพื่อนร่วมชั้นปีคนใดเข้าห้องน้ำตอนเกือบจะหมดเวลาพักอย่างนี้
“หืมมม ก็โอเคอ่ะ” ผมไม่รู้จะพูดอะไร เดินอ้อมหลังหน้าหล่อๆเหมือนเดือนคณะทั่วไปหมายที่จะไปเปิดประตูซึ่งพีทเพิ่งจะลงกลอน แต่ทว่า . .
ผมโดนพีทคว้าข้อมือเอาไว้
“คินคิดว่าผมจะลืมเหรอ” พีทพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “เวลาที่เราเคยไปกินข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน คุยโทรศัพท์กัน”
“เราไม่ได้คิดอะไรกับพีท” ให้ตาย ทำไมมันต้องรื้อฟื้นช่วงเวลาที่ผมโคตรจะเลวในตอนนั้นออกมาด้วยวะ ผมคิดว่ามันลืมผมแล้วซะอีก
ลางสังหรณ์กำลังบอก . . ว่าผมกำลังจะซวย
“ที่ผ่านมาเราขอโทษ” เสียงของผมแผ่ว มือของผมกำลังกดจะโทรออกหาฟิล์ม
แต่มันไม่พ้นสายตาของพีท
พีทแย่งไอโฟนผมไปวางตรงซิงก์ล้างมือล้างหน้า ด้วยอารมณ์ของมันตอนนี้คงอยากจะเขวี้ยงโทรศัพท์ผมทิ้งเสียด้วยซ้ำ
“ทำอะไรน่ะ!” ผมร้องลั่น เพราะมันคว้าตัวผมเข้าไปแนบกับตัวมัน พีทกอดผมแน่น แน่นมากจนผมรู้สึกว่ากระดูกกระเดี้ยวผมจะถูกมันรัดจนหัก
“พีทรักคินนะ รักมานานมาก ทำไมต้อง . . ทำอย่างนี้”
มันทำให้ผมรู้สึกผิดชิบหาย น้ำเสียงของพีททั้งปวดร้าวและขมขื่น ผมไม่รู้จะทำยังไง พยายามที่จะผลักมันออก แต่มันกลับกอดผมแน่นเข้าไปอีก
ที่แย่ไปกว่านั้น . . พีทพยายามที่จะจูบผม
เวรเอ๊ยยยยยย . .
“ช่วยด้วยเว้ยยยยยยย ช่วยด้วยยยยยย ไอ้เหี้ยพีท ปล่อยกู! กูขอโทษ กูขอโทษเว้ย กูรู้สึกผิดจริงๆนะ”
นี่มันถึงขั้นวิกฤตแล้ว! . . ไอ้พีทมันมานัวเนียผม ตัวมันใหญ่พอๆกับไอ้เหนือและที่แย่ไปกว่านั้นคือมัดกล้ามที่โคตรแน่นปั้ก! ผมทั้งเตะ ทั้งทุบ ทั้งต่อย ไม่ได้สะเทือนอะไรกับร่างควายๆของไอ้พีทเลย
มันเป็นเวรเป็นกรรมที่ผมจะต้องรับใช่มั้ย . . กับการที่ผมเคยให้ความหวังคนอื่น
“คินนนนน หอมมาก” ชิบหาย หายไปไหน หรือต้องไปงมที่มหาสมุทร!!! โอ้ยยยยย ปล่อยกูไปเถอะ!!!!
ผมโดนไอ้พีทแต๊ะอั๋งสุดฤทธิ์เกือบจะทุกจุดตั้งแต่ไหปลาร้าขึ้นไปจรดปลายเส้นผม มันพยายามจูบผมเป็นครั้งที่สิบแล้วมั้งแต่ผมปัดป้องมันเอาไว้ หวงปากตัวเองที่สุดในสามโลกไม่รู้เป็นอะไร . . จูบผู้หญิงมาเยอะ ถ้าจะจูบกับผู้ชายขอแค่กับคนเดียวได้ป่ะวะ
ถ้ายังจำกันได้ . . ถ้าไม่ใช่เพื่อนผม ผมไม่อยากให้ผู้ชายหน้าไหนมาแตะตัวเลยจริงๆ
นี่มันมากกว่าแตะ!!! มันกำลังจะข่มขืนผม!!! ชุดนักศึกษาที่เรียบสะอาดกำลังจะยับและสกปรกเพราะไอ้เวรนี่ มันดันผมไปชิดติดขอบกำแพง และพยายามปลดกระดุมเสื้อผม
ผลั่ก!
ผมต่อยอย่างจังเข้าที่แก้มมัน รู้สึกว่าพีทจะปากแตก
“กูขอโทษ ปล่อยกูไปนะ” ยังต้องเรียนด้วยกันอีกนาน อย่ามาทำอะไรให้มองหน้ากันไม่ติดเลย ผมจัดเสื้อให้เรียบร้อย ก่อนที่จะเดินไปที่ประตู แต่ . .
มันไม่ปล่อยผมง่ายๆ T^T
“ไอ้เหี้ย”
“คิน ผมขอโทษ . . แต่ผมต้องการคินจริงๆ”
ถามกูบ้างมั้ย !
มันดึงผมกลับเข้าไปใหม่แล้วปล้นจูบทุกซอกที่มันเข้าถึง ผมทุบตัวมันแต่รู้สึกว่ามือตัวเองกระทบแต่กับกล้ามแน่นๆ มันไปฟิตตอนไหนอะไรยังไง โอ้ยยยย แล้วอย่างงี้ผมจะไปรอดได้ไง
เมื่อผมขัดขืนจนมันรำคาญ (ผมวิ่งหนีไปที่ประตูแล้วโดนมันดึงกลับเข้าไปไม่ต่ำกว่าห้า) ในที่สุด . . มันก็ต่อยท้องผม
. . สาบานได้ ถ้าผมรอดไปจากวันนี้ ผมจะเข้าฟิตเนส TT
จุกเลยกู . . มันต้องจำมาจากในละครแน่ๆ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสักหน่อย
“ยอมง่ายๆ ทุกอย่างก็จบแล้ว”
ยอมเตี่ยมึงสิ TT ผมโดนพีทจับผลักให้ล้มลงไปนอนและปลดกระดุมทีละเม็ดๆ เวรจริงๆ ทุกอย่างเป็นเพราะความแต๋วของผมเอง เพราะไม่ยอมออกกำลังกายถึงสู้แรงมันไม่ได้
ผมขยับจะเตะไอ้พีทออกไปจากตัว แต่โดนมันรู้ทัน
โว้ยยยยยยยยยยย!!!!! ไม่ได้นะ!!! ผมไม่อยากเสร็จมัน ถ้าเสร็จล่ะก็ . . ผมจะมองรอยยิ้มของไอ้เหนืออย่างบริสุทธิ์ใจได้ไง!!!!!!!!!!!!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เหี้ยพีท!!! เปิดประตู!!!!!”
ขอบคุณสวรรค์ . . ขอบคุณที่ฟ้าประทานให้ผมมีเพื่อนถึกๆอย่างเชี่ยฟิล์ม
พีทสะดุ้งทันทีที่รู้ว่าเป็นเสียงใคร (มันกลัวไอ้ฟิล์มป่ะวะ)
“เปิดเดี๋ยวนี้!!! กูจะนับหนึ่งถึงสามนะ ถ้าเปิดเจอสองตีน ถ้าไม่เปิดเจอแปดตีน เอ๊ะ อาจจะสิบ สิบสอง หรือสิบสี่ ไม่รู้ว้อย เปิดๆๆ!!!!!!!!!”
เสียงดังขนาดนี้ อาจารย์คงใกล้จะได้ยินซะแล้วล่ะมั้ง พีทลนลานลุกขึ้นไปเปิดประตู ยังไม่ทันจะเปิดดีไอ้ฟิล์มก็ถีบประตูเข้ามาจนทำให้มันเสียหลัก
ฟิล์มมองดูสภาพผมอย่างอึ้งๆ
“คิน ผมจับตามองคินอยู่ทุกฝีก้าว ผมรู้เรื่องคินทุกเรื่อง”
พีทมันว่าอย่างงั้นก่อนที่จะมองไปที่ฟิล์มอย่างหวาดๆ แล้ววิ่งหายจ๋อมไปเลย . .
“ไอ้เหี้ยพีท!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
“เฮ้ยฟิล์ม ไม่ต้องไล่ตามมัน มาดูกูก่อนเว้ย!”
น่าอายชิบ ผมโดนไอ้ฟิล์มพยุงขึ้นมา มันตบหน้าผากตัวเอง
“เวรเอ๊ย . . ดูมันทำกับมึงสิ” ฟิล์มช่วยผมติดกระดุมจัดเสื้อให้เข้าที่ ดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเลือดที่มุมปากให้ด้วยครับ เจ๋งจริง เพื่อนใครวะ “ไม่ต้องมามองหน้ากูอย่างงั้น กูไม่ใช่ผัวมึง”
อดซึ้งเลย . .
“ไอ้เหนือติดหนี้กูนะเนี่ย ติดหนี้มากด้วย เลี้ยงเหล้าสี่วันหนี้ก็ไม่หาย” ฟิล์มบ่นอุบ “ลุกไหวป่ะ เดินไปเรียนเอง กูจะไปจัดการเชี่ยพีท กูเชื่อว่าถ้ามันกล้าโผล่หน้าเข้าไปเรียนแม่งก็เหี้ยมากแล้ว!”
“ไม่ต้อง” ขอแค่ครั้งนี้ . . เป็นการชดใช้เวรกรรมที่ผมเคยให้ความหวังพีทไปละกัน TT
ผมส่องกระจกดูสภาพตัวเอง หน้าเยิน ปากมีเลือด ผมที่เซ็ทมาเป๋มั่วไปหมด เสื้อยับ มีรอยเท้า(T^T เรียนคณะนี้แล้วถ้าเสื้อยับมากหรือสกปรกมันไม่น่าดูอ่ะ) และที่แย่ไปกว่านั้น . .
คิสมาร์ก
“ตายห่า!” ผมโพล่งออกไป
“เออ เชี่ยพีทนั่นแหละจะตาย! เลวขนาดนั้นเพื่อนมึงยังอุตส่าห์ชอบเข้าไปได้นะ” มันหมายถึงมิกแหงม
“เอ่อ นั่นก็ใช่ แต่กูนี่แหละ จะตายด้วย!”
“ทำไมวะ”
“คิสมาร์ก กี่รอยเนี่ย สาม! เหี้ยแล้ววววววววววววววว”
“ทำไม”
“ถ้าเหนือเห็นล่ะ?” มันต้องว่าผมแน่ๆ ตายละ ผมจะตอบมันยังไงดี?! ถูกเพื่อนร่วมคณะข่มขืนอย่างงี้อ่ะเหรอ และถ้าบอกไปมันเกิดเลือดร้อนอยากฆ่าไอ้พีทขึ้นมาล่ะ ตายๆๆๆๆๆๆๆ
ทั้งหมด . . เป็นเพราะผมคนเดียว
“ชิบหายแล้วล่ะ” ฟิล์มส่ายหน้าเบาๆ “ก็ดีดิ กูจะได้มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ยัดเดือนคณะทันตะปีสองลงไปในหลุม”
TT โหดสัด
ครืด ครืด
“เฮ้ยคิน โทรศัพท์มึงป่ะ”
ใช่เลย . . หน้าจอโชว์เบอร์ยาย
นอกจากเรื่องไอ้พีท . . ยังมีเรื่องยายให้ผมต้องคิด
ตอนจะไม่มีเรื่องอะไรก็ไม่มี๊ไม่มี แต่พอมีเรื่องหนึ่งอีกเรื่องก็ประเดประดังเข้ามา นี่มันความซวยอะไรของผม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“ฮะยาย” ผมอยากจะรับสายทั้งน้ำตาจริงๆ
“เย็นนี้มารับยายด้วยที่สนามบินนะจ๊ะ”
O_O
ฆ่ากูเถอะ T_________________________________________T
จริงดังที่ไอ้ฟิล์มคาด กระเป๋าของพีทหายไป และวันนั้นทั้งวันพีทก็ไม่โผล่หัวมาเรียน ฟิล์มกำหมัดแน่นทั้งวัน ไอ้มิกเลิกปั้นหน้ายักษ์หันมาถามไอ้ภัทรว่าเกิดอะไรขึ้นกับผมทั้งสองคน . . ผมเลือกที่จะไม่เล่าเรื่องพีท
แต่เรื่องยาย . . ผมเล่าเต็มๆ
“ชัดเลยมึง” ไอ้ภัทรวิเคราะห์เสร็จสักที “ยายมึงอาจจะรู้ว่ามึงคบอยู่กับใคร”
“และคบกับผู้ชาย” ฟิล์มเสริม
“และอาจจะไม่เห็นด้วย . . ที่มึงเป็นแบบนั้น” มิกเสริมอีกที ฟิล์มหันมามองมิกอย่างอึ้งๆ คงไม่คิดว่ามิกจะเสริมประโยคของมันกระมัง แต่ตอนนี้ดูเหมือนมิกจะสนใจผมมากกว่าอ่ะนะ
“ตอนที่กูเจอกับยายมึงเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว ท่านบ่นแทบตายว่าไม่เห็นด้วยเรื่องที่มึงมาเรียนทันตะ” ภัทรนึกถึงอดีต “ยิ่งมึงมีแฟนเป็นผู้ชายด้วยแล้ว . . กูว่า ณ ตอนนี้ท่านคงจะอยู่เฉยๆไม่ได้แล้วว่ะ”
“แล้วใครไปบอกยายกูวะ?” ผมทำหน้าฉงน ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เจ็บไปทั้งเนื้อทั้งตัว แล้วยังจะต้องมาคิดอะไรอย่างนี้อีก
“เอิ่ม . . ยายมึงก็ออกจะรวย เค้าคงสืบได้ไม่ยาก” มิกสรุป
เวรล่ะสิ . . ตอนนี้ในหัวสมองผมเจ็บปวดรวดร้าวนึกอะไรก็นึกไม่ออก พยายามคิดเข้าข้างตัวเองว่าสิ่งที่ผมพูดออกไปและสิ่งที่เพื่อนวิเคราะห์ออกมาทั้งหมดนั้นผมคิดไปเอง ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ยายผมรักผมจะตาย เธอต้องรู้ใจผมสิว่าผมต้องการอะไร
แต่มันก็อดคิดในแง่ลบไม่ได้จริงๆ ลึกๆแล้วผมกลัวชะมัด ยายเป็นคนที่มีทั้งเงินและก็อำนาจมากมายมหาศาล
เธอสามารถจับผมแยกกับไอ้เหนือได้เพียงแค่เธอออกปาก . .
นั่นแหละที่ผมกลัว . .
ผมไม่อยากแยกจากเหนือเลย TT
ผมกดโทรศัพท์โทรออกหาเหนือ ตอนนี้เพื่อนแยกย้ายกันกลับหมดแล้ว เวลาสี่โมงเย็นกับผมที่เตรียมตัวขับรถไปสนามบินเพื่อรับตัวยาย ผมต้องบอกเหนือไว้ก่อนว่าเย็นนี้เจอกันไม่ได้
“ทำไมล่ะ” เหนือสวนมาด้วยคำถามทันที “นี่เหนืออยู่หน้าตึกคณะแล้วนะครับ”
เอ่อ - - ผมหมดคำจะพูด
ผมยัดตัวเองเข้าไปในฮอนด้าซิตี้สีขาวที่ผมรัก . . ใบหน้าผมอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ทั้งๆที่พยายามจัดเสื้อให้ดูดี(ปิดรอยบ้าๆนั่น)และก็ลงรองพื้นปิดบังรอยแตกที่ปาก ก็ยังโทรมอยู่ดี ได้แต่หวังว่าเหนือจะไม่สังเกตอะไร
“ต้องไปรับยายที่สนามบิน” ผมเล่าให้เหนือในเสื้อช้อปฟัง วันนี้มันเซอร์ชนิดที่ว่าค่อนไปทางสกปรกก็ว่าได้ไม่รู้ไปทำอะไรมา แต่ก็ปิดบังรัศมีความหล่อของมันเอาไว้ไม่ได้อยู่ดี จากหล่อคมเข้ม กลายเป็นหล่อเท่เซอร์(ถุน)ไปซะงั้น
“อืม ครับ” เหนือยิ้มให้กำลังใจผม “ไปรับตอนนี้เลยมั้ย”
“เหนือ” ผมเขย่าแขนแกร่ง “กูกลัว”
“ไม่ต้องกลัว” มีอะไรที่ทำให้มันหยุดยิ้มได้มั้ยเนี่ย มันยิ้มให้กำลังใจผม โดยไม่มีทีท่าแสดงความกังวลออกมาเลย เหมือนกับ . . ล่วงรู้อนาคตแล้ว ว่าทุกอย่างจะไม่ได้ง่ายอย่างที่มันคิด “ไปสู้ด้วยกันนะ”
ผมนิ่งเงียบ . . มึงรู้รึเปล่าว่ามึงกำลังจะสู้กับอะไร . . .
ครืด ครืด
“ฮะยาย คินอยู่ที่สนามบินแล้ว”
“ยายเพิ่งลงจากเครื่องตะกี้นี้เอง รอแป๊บนึงนะลูก เฮ้ เปิ้ล เธอลืมหยิบจิมมี่ชูชั้นมาใช่มั้ย”
“อุ๊ย คุณหญิง เปิ้ลขอโทษจริงๆค่ะ” ผมได้ยินเสียงพี่เปิ้ลร้องลั่นตามสายมา ก็ทำให้ผมอดขำไม่ได้จริงๆ
แม้จะขำนิดๆก็เหอะ . .
“ยัยนี่หนิ ช่างเหอะ โอ๊ะ คินตาลูก เดี๋ยวยายเดินไปหานะคะ”
ปี๊บ!
ผมเหลือบมองไปที่ไอ้เหนือที่ตอนนี้เริ่มอยู่ไม่สุข มันเดินไปเดินมา เป่าลมหายใจออกมาทางปาก ท่าทางจะตื่นเต้นและก็กังวลเอาเรื่อง หึ ที่ยิ้มๆออกมานึกว่าจะไม่ได้คิดมากอะไร ที่ไหนได้ . .
. . ก็พอๆกัน
“นู่นใช่ป่ะ”
เหนือส่งเสียงถาม พลางพยักเพยิดให้ผมเห็น . .
สาวใหญ่อายุอานามห้าสิบห้าแต่ยังแจ๋วและเช้งกระเด๊ะ ผมสีแดงยาวสยายเกือบถึงสะโพก ใส่ชุดเดรสสุดเปรี้ยวพร้อมกับแว่นกันแดดอันโตตามสมัยนิยม เธอเดินนำเลขาร่างท้วมที่แต่งกายสุภาพและบริวารอีกสี่คน อย่างกับขบวนนักการเมือง แต่นี่ขบวนนักธุรกิจใหญ่ยักษ์ ผมไม่เห็นว่าจะต่างกันตรงไหนอยู่ดีนั่นแหละ . .
ยายผมก็เวอร์อย่างนี้
“คินตา!” ยายยิ้มแฉ่งเมื่อเห็นหน้าผม ผมรู้สึกดีใจเหมือนกันที่เห็นหน้ายาย ผมโผตัวเข้าไปกอดยาย ยายหอมผมแก้มซ้ายแก้มขวาอย่างไม่อายสายตาคนอื่น ซึ่งผมรู้อยู่แล้วว่ายายไม่แคร์
“แหม รองพื้นหนาจังเลยนะหลาน” ยายสวมกอดผมอีกที ผมยิ้มทักพี่เปิ้ลที่อยู่เบื้องหลัง เธอโบกมือตอบให้แต่ท่าทางเธอไม่ค่อยสดใสเอาเสียเลย
“กลัวดูดีไม่สู้ยายอ่ะ”
“หึ ไม่มีใครดูดีสู้ยายอีกแล้วล่ะ” ยายบอกอย่างสาวมั่น ฉับพลันสายตาของเธอก็ตวัดไปหาเด็กหนุ่มร่างสูงข้างตัวผมที่ทำหน้าตื่นทันทีที่เจอะเข้ากับซีอีโอใหญ่ของโภคินทร์พิพัฒน์กรุ๊ป
ยายชักสีหน้า . .
แตกต่างจากตอนที่มองผม . .
ผมรู้ผมดูออก . .
“แล้วนี่คือ . .”
“เพื่อนคินครับ ชื่อเหนือนที ยายเรียกมันว่าเหนือก็ได้” ผมทำเป็นยิ้มแฉ่ง พยายามกดความรู้สึกอึดอัดนั่นลงไปให้ลึกที่สุด . . ดึงตัวเหนือให้เข้ามายืนอยู่ใกล้ๆ
“อือฮึ” ยายรับคำ เธอมองเหนือตั้งแต่หัวจรดเท้า “ตัวจริงหล่อดี . .”
. . นั่นไง “ยายเคยได้ยินชื่อมันมาก่อนเหรอครับ” ผมไม่น่าถามออกไปทั้งๆที่ผมรู้คำตอบอยู่แล้ว
“ก็ดังพอดู” ยายเลิกสนใจเหนือ แล้วหันมากอดผม “ช่างเถอะ พายายไปบ้านหลานซะสิ” ยายไม่ชายตามองไอ้เหนืออีกเลย . .
นี่มันเจ็บกว่าด่ามันอีกนะ . .
“วันนี้ไอ้เหนือมันเป็นคนพาผมมาครับ ยายจะนั่งรถเหนือมั้ย” ผมพยายามทำตัวร่าเริงสุดฤทธิ์ .. ดึงเหนือให้เข้ามาอยู่ในวงสนทนาอีกครั้ง
“อืมมม” ยายทำท่าคิด “ไม่ล่ะ . . เปิ้ล โทรตามให้รถของโรงแรมสาขาจังหวัดนี้มารับชั้นภายในสิบห้านาที ส่วนคิน . . ไปกับยายนะลูก”
“เอ่อ ..”
ผมกลืนน้ำลาย ถ้าผมอึดอัด ไอ้หน้าหล่อข้างๆนี่ . . จะต้องอึดอัดกว่าแน่นอน . .
“งั้นผมขอตัวกลับก่อน” เหนือบอกลายาย
ยายไม่สนใจ . . เอาแต่สั่งงานกับบริวารที่ตามยายมา
ให้ตายสิ . . ทำไมยายทำกับแฟนของผมอย่างนี้
สิ่งที่ผมกลัวมันกำลังจะเกิด หัวใจของผมหล่นวูบลงไปที่ตาตุ่ม . .
“คุณครับ” เหนือเรียกอีกครั้ง
ยายของผมหันมา มองเหนือด้วยหางตา . .
“ผมกลับก่อนนะครับ” เหนือไหว้อย่างสง่า
“เชิญ” แต่ยายก็ไม่ได้ชื่นชมอะไรในตัวมันอยู่ดี
ผมมองหน้าไอ้เหนืออย่างมีความหมาย มันเม้มปากส่งมาให้ผมราวกับต้องการบอกว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย
“ไว้เจอกันใหม่นะครับ”
มันทิ้งท้ายไว้อย่างนั้น ก่อนที่จะเดินจากไป ไม่ลืมที่จะเหลียวหลังกลับมามองผมด้วย
ผมจ้องมองมันจนมันลับสายตา . .
ให้ตายสิ . . นี่มันเจ็บมากนะ
“ยายมีเรื่องจะคุยด้วย”
“ยายไม่น่าทำอย่างนั้น”
“ยังไง!”
“ทำเย็นชาอย่างนั้น นี่ไม่ใช่นิสัยของยาย”
“. . คิน”
“มัน . .” ผมกล้ำกลืนก้อนสะอื้นลงไปในคอ น้ำตาเล็ด . . แต่ไม่ไหล
“…”
“เป็นแฟนผมนะ”
ยายถอนหายใจพยายามกดอารมณ์เอาไว้ถึงขีดสุด . .
ที่ผมกับเพื่อนคุยกันไว้ . . ไม่ผิดเลยสักนิด TT
“ยายไม่รู้ว่าคินกินอะไรผิดสำแดงเข้าไป”
“ไม่ใช่อย่างนั้น”
“เมื่อก่อนคินไม่ได้เป็นแบบนี้”
“แต่…”
“เรื่องนี้จะต้องไม่มีแต่!!!!!” ยายคว้าไหล่บางของผมเอาไว้ ให้ผมประจันหน้ากับยายตรงๆ ส้นสูงคืบหนึ่งทำให้ผมกับยายสูงเท่ากัน
“ยาย” น้ำเสียงของผมอ่อนแรงลง
“ยายมาเพื่อห้าม . . ทายาทคนเดียวของโภคินทร์พิพัฒน์ . .”
“…” ผมอยากจะทรุดลงไปกองอยู่ตรงนั้น
“ไม่ว่ายังไง . . ก็เป็นแบบนี้ไม่ได้”
บนรถ . . ระหว่างทางกลับบ้าน
“ฮัลโหลตานนท์ แม่มาหาคินที่XXX” ยายหันมามองหน้าผมขณะที่คุยโทรศัพท์กับน้าชายของผม “คาดว่าอีกนาน กว่าแม่จะกลับเข้ากรุงเทพได้ อื้ม คินสบายดี แต่ไม่มีอะไร แม่แค่ติดหลานน่ะ อ่าฮะ ดูแลบริษัทดีๆด้วย และก็เรื่องเคท . .” เรื่องแม่ผมเอง “ตอนนี้อยู่ที่เมลเบิร์น มีคนดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว ไม่ต้องห่วงนะ”อ้าว ไปต่างประเทศแล้วเหรอ
ผมมองวิวทิวทัศน์ข้างถนน . . ตอนนี้ฝนกำลังลงเม็ดเบาๆ บรรยากาศชวนโรแมนติก แต่ผมไม่เห็นจะรู้สึกโรแมนติกอะไรนั่นเลย
เมสเสจเข้า . .
ถอยมาตั้งหลัก . . ครั้งหน้าสู้ใหม่ เหนือคิน อย่ายอมแพ้นะ
– Nurenatee
ผมหลุดยิ้มออกมานิดนึง หึ ยังอุตส่าห์จะใส่ชื่อตัวเองลงไปด้วยอีกน่ะ . .
ยายชำเลืองมามองตอนที่ผมดูโทรศัพท์ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ถ้าความรักของผมกับเหนือจะเหนือกว่าอุปสรรคทั้งปวงล่ะก็ . .
อุปสรรคครั้งนี้ . . คงจะผ่านยากน่าดู
ซดมาม่ากันสักนิด ก่อนจะกินบัวลอยนมสดหวานๆนะค้า
อย่าด่า อย่าว่าคนเขียนเรยเน้อ