ต่อจากด้านบนค่ะ
v
v
ท้องฟ้ามืด ก็ถึงเวลารวมตัวของพวกเรา ผมเรียกพี่โซกับพี่น้ำอุ่นลงมากินอาหารที่ไอ้เคลมจัดเตรียมไว้ รวมทั้งป๊าด้วย แต่แป๊ะปฏิเสธ เพราะอยากให้เด็กๆ ได้ฉลองกันอย่างเป็นกันเอง
ตอนที่พี่โซกับพี่น้ำอุ่นกลับมาบ้านแล้วเห็นว่าพวกเราเตรียมยกอาหารมาจัดวางที่โต๊ะกลางก็มองอย่างสงสัยว่าพวกเราจะเลี้ยงใคร แต่พวกผมไม่ตอบหรอกครับ ถ้าบอกแบบนั้นก็ไม่เซอร์ไพรส์ ซึ่งพี่โซก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม จนผมเรียกให้ไปที่สนามหน้าบ้านนั่นล่ะ ถึงจะรู้ก็ขอบใจพวกผมกัน ไอ้เพื่อนลิงๆ ของผมก็เข้าไปกอดพี่โซกันคนละทีสองที ส่วนผมก็มองแล้วยิ้มตาม
ไอ้เคลมสั่งคนสร้างบรรยากาศในสนามหน้าบ้านของผมให้ดีขึ้น โต๊ะอาหารสำหรับพวกเราทุกคนเป็นโต๊ะยาวสิบที่นั่ง ปูด้วยผ้าสีขาวปักลายสีทอง อย่างกับงานแต่ง มีโต๊ะอีกตัวเป็นโต๊ะวางอาหารชนิดต่างๆ ที่มันให้แม่ครัวทำมา ทั้งสเต็กหันชิ้นเล็กกว่าปกติครึ่งเท่า สลัดผักและผลไม้ ขาหมูเยอรมัน แมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีส แต่ใช่ว่าจะมีแค่อาหารจากเมืองนอกที่พี่โซกับพี่น้ำอุ่นคงกินจนเอียนแล้ว ยังมีอาหารไทย จำพวกน้ำพริกปลาทู ผักต้ม ไข่ชะอม แกงจืดเต้าหู้ ข้าวผัดหมู กะเพราไข่เยี่ยวม้า แม้แต่ส้มตำ ยำรวมมิตรก็ยังมี เรียกได้ว่เตรียมพร้อมมากๆ ว่าใครอยากกินแบบไหนก็พร้อม
รอบๆ มีแสงไฟสีขาวนวลส่องสว่างขัดกับท้องฟ้าที่มืดลงแล้ว ประดับด้วยแสงสีรุ้งดวงเล็กๆ กระจายอยู่รอบบริเวณ มีดอกไม้จัดอยู่สี่มุมเหมือนเป็นการแสดงอาณาเขต นี่ถ้าคนอื่นเห็นคงคิดว่าเป็นการเลี้ยงงานแต่งของพี่โซกับพี่น้ำอุ่น
ทุกคนนั่งลงตามใจชอบว่าจะเลือกตรงไหนเป็นที่ถิ่นหลักปักฐาน ผมนั่งลงข้างพี่โซ ส่วนที่ข้างๆ กะเว้นไว้ให้ไอ้กราฟ แต่กลับมีตัวเสือกมาเสนอหน้าซะก่อน
“มานั่งตรงนี้ทำไม นี่ที่เพื่อนกู”
ผมหันไปพูดกับมัน ไม่ได้เสียงดังมากนัก เพราะไม่อยากให้พี่โซกับพี่น้ำอุ่นไม่สบายใจ ซึ่งมันก็ตอบกลับมาด้วยเสียงระดับเดียวกัน
“ก็กูอยากนั่งตรงนี้ มึงตอบคำถามกูได้หรือยังล่ะ”
“กูไม่จำเป็นต้องตอบมึง”
ผมย้อน ถึงจะตัดสินใจแล้วว่าจะทำยังไง แต่ก็ไม่คิดจะตอบมันออกมาโดยตรง ทว่าดูท่ามันจะไม่สบอารมณ์เท่าไหร่
“มึงท้าให้กูบอกพี่ชายกับป๊ามึงสินะ”
“มึงก็ดูเอาเองว่ากูเลือกทางไหน”
ผมบอกมันแค่นั้นก่อนจะหันกลับมา มองหน้าไอ้กัสที่อยู่ตรงข้าม มันก็พยักพเยิดหน่อยๆ เหมือนกับเป็นการบอกให้ผมปล่อยๆ ไอ้เชี่ยน้ำไป เพื่อตัดปัญหาที่จะตามมา เหมือนอย่างที่เราคุยกันไว้ ผมเลยหยักหน้าเบาๆ ตอบรับมัน ก่อนทุกคนจะเริ่มลงมือทานอาหารกัน
ใครจะทานอะไรก็ลุกขึ้นไปตักตามใจชอบ แต่ก็มีไอ้เหี้ยน้ำเสนอตัวว่าจะไปตักใส่จานใหญ่ แบ่งๆ มาให้จะได้ไม่ต้องลุกกันไปหลายๆ รอบ ก่อนมันจะเอาอาหารเกือบทุกอย่างมาวางบนโต๊ะ และไม่พ้นว่ามันตักอาหารมาใส่จานของผม โดยที่ผมไม่ต้องการด้วย
“กูไม่เอา”
“กินไปเหอะน่า กูอุตส่าห์ตักให้”
เสียงและคำพูดของมันเรียกพี่โซกับพี่น้ำอุ่นให้หันมามองได้ พี่น้ำอุ่นยิ้มนิดๆ แต่ผมกลับอ่านรอยยิ้มนั้นได้ว่า ญาติดีกันแล้ว ดีจริงๆ ส่วนพี่โซ เอียงตัวมากระซิบข้างหูผม
“เขาดีกับเราแล้ว ก็ดีกับเขาตอบด้วยล่ะ”
ฟังแล้วผมยิ่งหงุดหงิดกว่าเดิม ไหนจะต้องยอมอ่อนข้อให้มันเยอะขึ้น แล้วยังต้องทำเฉยชากับแฟนจริงๆ ของตัวเองอีก ถ้าเทียบระหว่างเป็นแฟนกับไอ้น้ำ กับให้ไอ้พี่ชมพูแยกร่างมีสองคนแล้วคบกับผมพร้อมๆ กัน ผมว่าอย่างหลังยังดีกว่า ถ้าไม่เพราะมันรู้จุดอ่อน ผมคงไม่แม้แต่จะมองหน้าไอ้เหี้ยน้ำ นี่ดีว่าพี่ชมพูไม่ได้มาอย่างที่บอกเอาไว้ ไม่อย่างนั้น ผมคงกดดันและรู้สึกผิดมาก
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกำลังคิดถึงหรือยังไง แต่ไอ้คนที่ผมพูดถึงอยู่ในใจก็มาหยุดที่ด้านหลังไอ้กัส ตรงข้ามกับผมทันที และไม่ใช่แค่ไอ้พี่ชมพู แต่กราฟก็มาพร้อมกันด้วย
“มาได้แล้วเหรอมึง”
ผมเลือกจะคุยกับไอ้กราฟหลังจากทั้งคู่ทักทายพี่โซกับพี่น้ำอุ่น แล้วทำเป็นมองข้ามไอ้พี่ชมพูไป ทั้งที่ไม่อยากทำอย่างนี้เท่าไหร่ แต่ก็ทำ มันเองก็มองผมอย่างงงๆ ว่าทำไมผมถึงทักไอ้กราฟคนเดียว จะว่าผมเกลียดมันเหมือนเมื่อก่อนจนไม่อยากคุยด้วยก็ไม่ใช่ เพราะผมกับมันผ่านช่วงเวลานั้นมานานแล้ว มันก็รู้ดี
“ติดธุระว่ะ โทษที”
มันตอบผมมาแบบนั้น ก่อนจะเลือกที่นั่งข้างไอ้เคลมโดยไม่ต้องรอให้ใครบอก เพราะจะบอกว่าเป็นคนกันเองก็ไม่ผิด นอกจากพี่น้ำอุ่นกับไอ้เหี้ยน้ำแล้ว เพื่อนผมทุกคนก็สนิทสนมกับพี่โซดี
“เออๆ กินๆ”
ผมบอกตัดบท แม้จะสงสัยอยู่ว่าธุระที่มันบอกคงไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องไอ้ไนล์มากกว่า แล้วพอไอ้กราฟเห็นผมอนุญาตให้มันแดกได้ มันก็ไปตักอาหารมา ส่วนพี่ชมพู ยังยืนอยู่อย่างนั้น ไม่นั่งลง เอาแน่มองหน้าผม จนผมรู้สึกอึดอัด ต้องก้มหน้าหลบสายตาของมัน ไม่ใช่แค่ไอ้พี่ชมพูหรอกที่กำลังรู้สึกแย่ที่ผมทำเป็นมองไม่เห็น แต่ผมที่ทำแบบนั้นก็รู้สึกแย่ไม้แพ้มัน
เป็นไอ้กัสที่พอจะรู้สถานการณ์ มันถึงได้ชักชวนให้ไอ้พี่ชมพูนั่งด้วยกัน แล้วไล่ไอ้เคลมมานั่งฝั่งผม ข้างๆ ไอ้น้ำแทน ไอ้เคลมก็บ่นๆ อยู่หน่อย เพราะมันกินค้างอยู่ แต่ถึงงั้นมันก็ยอมย้ายที่ให้พี่ชมพูมานั่งข้างไอ้กัสแทนมัน เพราะไอ้เคลมก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ถ้ามันไม่รู้ ผมมั่นใจเลยว่ามันไม่ยอมย้ายที่ แต่สั่งให้ไอ้น้ำย้ายแทน
พี่ชมพูยอมนั่งแต่โดยดี ก่อนไอ้กราฟที่ตักอาหารมาเผื่อจะเอาจานวางตรงหน้ามันให้ ผมเหลือบมองมันนิดๆ ไม่ไปให้มันจับได้ว่าผมแอบมองอยู่ แต่ก็ยากที่จะทำแบบนั้น เพราะมันเอาแต่จ้องผมตลอด แม้แต่ตอนที่ตักอาหารเข้าปาก มันยังไม่ยอมก้มลงไปดูว่าตักผิดตักถูกหรือข้าวหกเรี่ยราดมั้ย แล้วก็ไม่ใช่ผมคนเดียวที่รับรู้ถึงสายตานั้น เพราะคนที่นั่งข้างๆ ผมมันก็เห็นได้ชัด มันเลยพยายามตักอาหารให้ผมหลายๆ อย่างเพื่อเย้ยไอ้พี่ชมพู พยายามชวนผมคุยทั้งที่ผมไม่ได้อยากคุยกับมันเลยด้วยซ้ำ
คนที่ถูกผมเรียกว่าหมีควายบ่อยๆ หน้าตึงมากกว่าเดิมจนผมรู้สึกเหมือนมีก้อนหินมาทับอยู่บนอก ตอนนี้คนที่กล้าและไม่กลัวใครอย่างผมกลับไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองไอ้พี่ชมพู ไม่กล้าที่จะสบตาที่กำลังจับจ้องผมมาด้วยความสงสัยและไม่พอใจ จนผมรู้สึกทนไม่ไหว ทั้งที่ไอ้เคลมคอยพูดคุยกับคนอื่นๆ สร้างบรรยากาศครื้นเครงไม่ให้น่าอึดอัด แต่ผมกลับหายใจไม่ออก
“กราฟ มากับกูหน่อย”
ไอ้กราฟซึ่งเป็นคนเดียวที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเงยหน้ามองผมทั้งที่ปากมันยังงับช้อนอยู่ด้วยซ้ำ แต่ผมไม่รอให้มันทักท้วงอะไร ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากโต๊ะไป ไอ้กราฟเลยต้องรีบลุกตาม ผมนำมันไปคุยกันอีกฟาก ไม่ให้คนอื่นๆ เห็นว่าผมกับไอ้กราฟคุยอะไรกัน
“มึงรู้มั้ยว่าเมื่อวานกูมีเรื่องจะปรึกษามึง”
“เรื่องอะไร?!”
มันทำตาโตตกใจที่ไม่รู้เรื่องเลยว่าผมกำลังเดือดร้อน เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่มันจะไม่อยู่ข้างๆ ผมเวลาที่ผมมีเรื่องไม่สบายใจ กราฟเป็นเพื่อนที่อยู่กับผมไม่ว่าเมื่อไหร่ แต่ครั้งมันกลับพลาด และผมก็รู้ว่ามันกำลังรู้สึกแย่
“เรื่องนั้นไว้กูเล่าให้มึงฟังที่หลังได้ แต่กูมีเรื่องสำคัญที่จะคุยกับมึงมากกว่าเรื่องของกู”
ไอ้กราฟดูค่อนข้างงุนงงว่าผมจะพูดเรื่องไหน อารมณ์เมื่อกี้ผ่อนลงไปค่อนข้างมาก มันคงเห็นว่าผมไม่ซีเรียสเท่าไหร่กับเรื่องนั้นล่ะมั้ง
“เรื่องมึงกับไอ้ไนล์”
ผมย้ำน้ำหนักที่ชื่อของคู่กรณี พลอยให้ไอ้กราฟต้องเบิกตากว้างอีกครั้ง มองหน้าผมด้วยแววตาที่ผมบอกไม่ถูก ตกใจ ไม่เชื่อ หรืดปิดบัง
“บอกกูหน่อยได้มั้ยว่ามึงกับมันมานอนอยู่บนเตียงด้วยกันได้ยังไง การพนันของมึงไม่ใช่แบบนี้ไม่ใช่หรือไง”
เน้นคำถามให้ชัดเจนเลยว่าผมต้องการอะไร ให้มันรู้ว่าผมรู้เห็นเรื่องเมื่อคืนหมดทุกอย่าง มันเม้มปากนิดๆ ก่อนจะปล่อยออก เหมือนกำลังคิดว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี ผมรู้ มันกำลังคิดแบบนั้น เพราะผมรู้จักมันดี
“กู... กูเป็นแฟนกับมันแล้ว”กลายเป็นผมที่ตกใจเสียเอง ผมไม่คิดว่าคำตอบที่จะได้เป็นแบบนี้ มันเป็นไปไม่ได้เสียด้วยซ้ำในความคิดของผม ไอ้กราฟจะเป็นแฟนกับไอ้เหี้ยไนล์ได้ยังไง!!
“มึงพูดว่าอะไรนะ”
ผมถามมันอีกครั้ง หวังว่าคำตอบจะไม่ใช่แบบเดิม แต่เพื่อนที่รักที่สุดของผมกลับทำให้ผมผิดหวัง
“กูเป็นแฟนกับมัน”
“มึงเป็นแฟนกับมันได้ยังไง มึงไม่รู้เหรอว่ามันทำเหี้ยๆ กับมึงไว้”
“กูรู้”
ไอ้กราฟตอบแค่นั้น แต่กลับทำให้ผมรู้สึกเหมือนหัวใจแตกสลาย ทั้งที่ไอ้เหี้ยไนล์เคยทำให้มันเกือบตาย และมันรู้อยู่แก่ใจ แต่มันก็ยังไปคบกับไอ้เหี้ยนั่น
“มึงรู้แล้วทำไมมึงยังไปคบกับมัน กราฟ กูไม่โกรธที่มึงไม่เล่าให้กูฟังว่าระหว่างมึงกับมันเกิดอะไรขึ้น แต่กูไม่ไหวถ้ามึงจะเอามันเป็นแฟน กูยอมรับไม่ได้ กูยอมรับคนที่ทำให้เพื่อนกูต้องกลับไปเจอฝันร้ายแบบนั้นไม่ได้ มึงเข้าใจกูมั้ย”
“กูรู้ ยีน กูรู้”
มันได้แต่ย้ำคำนั้น ตอนนี้ผมเบลอไปหมด รู้แต่ว่าผมไม่ยอมรับไอ้ไนล์ที่จะมาเป็นแฟนไอ้กราฟ
“ถ้าเป็นคนอื่นกูจะไม่อะไรเลย แต่คนนี้กูขอได้มั้ยกราฟ กูขอ มึงอย่าไปยุ่งกับมันอีกเลย ได้มั้ย ทำเพื่อกูได้มั้ย ถ้ามึงรู้ทำไมมึงยังไปคบกับมัน”
น้ำเสียงของผมไม่ได้เกรี้ยวกราด แต่เต็มไปด้วยความรู้สึก และผมก็รู้ว่าไอ้กราฟเข้าความรู้สึกของผมทั้งหมด แต่มันก็เลือกที่จะไม่ตอบผม
“มันดีนักหรือไง มันดีกว่ากูอีกเหรอ ฮะ กราฟ มันดีกว่ากูเหรอ ระหว่างกูกับมัน มึงเลือกได้มั้ย”ทั้งที่ไม่ได้อยากทำแบบนี้ ไม่อยากทำตัวเหมือนเป็นเจ้าเข้าเจ้าของมัน เพราะผมเป็นแค่เพื่อนมัน เป็นเพื่อนที่มันรักที่สุด แต่ผมก็ทนไม่ได้ ผมกลัวว่าไอ้เหี้ยนั่นจะคิดทำอะไรกราฟอีก กลัวว่ามันคิดไม่ดีกับเพื่อนของผม เหตุผลที่มันรู้จักกันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย ถ้าไอ้ไนล์ไม่เคยทำเรื่องแบบนั้นไว้ ผมก็คงยอม แต่มันไม่ใช่ และมันก็เปลี่ยนความรู้สึกของผมไม่ได้
“มึงถามแบบนี้.. กูเลือกไม่ได้ ยีน กูเลือกไม่ได้ มึงเป็นเพื่อนรักกู ที่กูไม่ยอมเสีย แต่มันก็เป็นคนทำให้กูยอมเปิดใจจริงๆ อีกครั้ง มึงลองให้โอกาสมันสักครั้งไม่ได้เหรอ มันไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้กูตกอยู่ในสภาพแย่ๆ แบบนั้นเลย มันแค่จะช่วยกู”
“ช่วยเหี้ยอะไรแบบนั้น”
“แต่ตอนนี้กูหายแล้ว”
ผมชะงักไป มองหน้ามันอย่างไม่เชื่อว่าเป็นอย่างนั้น แต่มันก็ย้ำด้วยเสียงจริงจัง
“กูหายแล้วจริงๆ”
ผมพูดอะไรไม่ออก มันเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่ากราฟหายจากอาการแบบนั้น ทั้งที่ต้องทนทุกข์กับมันมาสามปี แต่คำยืนยันของมันก็ทำให้ผมสับสน
“มึงเชื่อกูนะ ให้โอกาสมันสักครั้ง แล้วมึงจะรู้ว่ามันเป็นคนดี”
ผมไม่ตอบอะไร แต่หันหลัง เดินห่างออกจากมันมา แต่ไอ้กราฟก็ตามมาจนทันแล้วเอาแขนพาดคอของผมแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะด้วยกัน
ความรู้สึกแย่ๆ ยังรุมล้อมผม ถึงผมคิดจะยอมให้โอกาสกับไอ้ไนล์อย่างที่ไอ้กราฟขอเอาไว้ แต่ผมก็ยังรู้สึกเครียดอยู่ดี มันเป็นเพื่อนที่ผมรักมาก เพราะงั้นผมคงทนไม่ได้ หากว่ามันต้องตกอยู่ในสภาพเดิมๆ อีก ผมกลัวเรื่องนี้มากที่สุด กลัวอีกฝ่ายจะจากไป จะไม่เห็นค่า และเล่นสนุกกับมันตามเกมเพื่อเอาชนะ เพราะถ้าผมต้องเห็นมันกำลังจะตายต่อหน้าอีกครั้ง ผมคงทนไม่ไหว
มันเหนื่อยนะครับ ที่ต้องพยายามสุดชีวิตเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนให้พ้นจากความตาย และมันก็เจ็บไปทั้งใจที่เห็นเพื่อนเหมือนคนที่ตายทั้งเป็น ผมไม่อยากเห็นไอ้กราฟเป็นแบบนั้นอีกแล้ว
“ผมอิ่มแล้ว กลับห้องก่อนนะครับ”
ผมบอกพี่โซกับพี่น้ำอุ่น ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้เพื่อนๆ เป็นการบอกลา ก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องไป รู้สึกหดหู่ไปหมด ทั้งเรื่องไอ้กราฟและเรื่องของตัวเอง ไม่รู้ว่าอะไรนักหนาถึงเข้ามาทับถมผมในตอนนี้พร้อมๆ กัน คxยเอ๊ยยยยยยย!!
เดินเข้าตัวบ้านมาเพียงไม่กี่ก้าว แขนของผมก็ถูกใครบางคนดึงไว้ มันลากผมให้เดินเข้าไปด้านในด้วยกันให้เร็วกว่าเดิม แต่ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ไม่มีอีกคนตามมันมาด้วย เพราะรู้ดีว่าเพื่อนๆ ของผมคงจัดการแล้ว
“ปล่อยก่อน”
ผมบอกไอ้คนตัวโตที่มันลากผมเข้ามาจนเกือบถึงห้องนั่งเล่น ซึ่งมันก็ยอมทำตามแต่โดยดี แต่ก็หันมาจ้องหน้าผมเขม็ง พูดออกมาด้วยเสียงหนักๆ
“มึงมีอะไรจะบอกกูมั้ย”
“ไม่มี”
ผมสวนกลับทันควัน ทำให้มันยิ่งไม่พอใจมากกว่าเดิม
“งั้นกูถาม ทำไมมึงต้องทำเป็นไม่สนใจกู ทำไมมึงต้องทำเหมือนกูไม่มีตัวตน”
“ไม่มีอะไร”
ผมตอบมันเสียงแข็ง พยายามปั้นเสียงของตัวเองออกมาให้เป็นอย่างที่หวัง แต่กลับใช้ไม่ได้กับคนตรงหน้า มันจ้องหน้าผมใกล้ขึ้นอีก ราวกับจะใช้สายตาของมันทะลุทะลวงเข้ามาในใจผมจนอ่านออกทั้งหมด
“มึงคิดว่ากูจะเชื่อมึงเหรอ”
“ก็มันไม่มีอะไร แล้วพี่จะถามให้ได้อะไรขึ้นมา”
ผมแย้งเต็มเสียง ไม่ยอมที่จะบอกความจริงกับมัน เพราะถึงผมจะแน่ใจว่าไอ้กัสกับไอ้เคลมจะช่วยกันไอ้น้ำเอาไว้ แต่ผมก็ยังไม่วางใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไอ้เหี้ยนั่นจะไม่ใช่เล่ห์เพทุบายของมันจนมาแอบมองผมอยู่ที่ไหนสักแห่งเพื่อแอบฟังผมกับพี่ชมพูคุยกัน
ทว่านั่นก็เป็นเหตุผลมากพอที่จะทำให้ไอ้พี่ชมพูอารมณ์กรุ่นจนทนไม่ไหว มันจับตัวผมขึ้นพาดบ่าโดยที่ผมไม่ได้ตั้งตัว ก่อนจะแบกผมขึ้นไปชั้นบนและเป้าหมายไม่ใช่ที่อื่นเลย นอกไปเสียจาก...ห้องนอนของผม
====================
กว่าจะได้อัพตอนนี้ ชัทดาวน์ตัวเองไปหลายรอบมาก
ช่วงนี้มาถี่หน่อย เพราะยังพอมีเวลา
แต่อีกไม่นานน่าจะหายเป็นเดือนๆ อีกแล้วล่ะมั้ง
บอกล่วงหน้าค่ะ

ปล. บวกเป็ดให้ทุกคนที่ยังติดตามจนมาถึงวันนี้ค่ะ
Undel2Sky