มาแล้วปั่นมาสด ๆ ร้อน ๆ
พอดีมะวานยุ่ง ๆ
วันนี้พึ่งจะว่างเลยเอาตอน 12 มาลงให้อิอิ
ไปอ่านกันเลยแล้วกัน
*-------------------------*---------------------------*-----------------------------*
12
ตกดึกของวันฝ่าบาทก็เสด็จตำหนักเหม่ยชุน ตามที่เหล่าข้าราชบริพานคาดเพราะตั้งแต่แต่งตั้งฮองเฮาองค์ใหม่ก็ไม่ทรงเสด็จไปที่ไหนบ่อยเท่าที่นี่อีกแล้ว เหล่าสนมเองก็ทรงไม่เสด็จไปหาไม่เวลาจะยามใดก็จะทรงเสด็จที่นี่ จนเหล่านางกำนัลและขันทีชินตาไปเสียแล้ว
“ฝ่าบาทเสด็จ”เสียงนางกำนัลเอ่ยขึ้นและไม่ต้องรอเสียงผู้เป็นนายรีบเปิดประตูให้ฮองเต้ได้เสด็จเข้าไป
“ถวายพระพรเพค่ะ ฝ่าบาท”
หนี่เจินย่อกายถวายพระพร ก่อนที่พระกรแข็งแกร่งของฮ่องเต้จะโอบไหล่ฮองเฮาของตนให้ลุกขึ้นแล้วเลื่อนพระกรโอบรอบบางแทน และส่งสายตาไปให้เหล่านางกำนัลคนสนิทให้ออกไปได้แล้ว เหล่านางกำนัลคนสนิทเห็นเช่นนั้นก็ย่อกายแล้วรีบพาตัวเองออกจากห้องอย่างรู้งาน
ฮ่องเต้พาหนี่เจินมายังที่บรรทมก่อนจะเริ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังซึ่งคนร่างบางก็สะดุ้งขึ้น แต่ฮองเต้ก็หาให้โอกาสหนี่เจินหนี้ไม่ ประคองร่างบางให้ล้มลงนอนราบไปกับที่บรรทมก่อนจะจุมพิตที่เรียวปากบาง
“วันนี้ข้าคิดถึงเจ้าที่สุดเลยหนี่เจิน เกือบไม่เป็นอันทำงานรู้มั้ย”
“แล้วทำไมต้องทรงคิดถึงหม่อมฉันด้วยล่ะเพค่ะ ก็ในเมื่อฝ่าบาทเองก็ได้พบหม่อมฉันอยู่ทุกวัน”
“แต่ไม่ทุกเวลานี่ ข้าน่ะอยากกอดอยากหอมเจ้าเช่นนี้บ่อย ๆ ว่าแต่วันนี้เจ้าหายไปไหนทำไมมาหาข้าตอนเที่ยง”
“เสด็จแม่เรียกให้เข้าเฝ้าเพค่ะ แล้วพอไปก็ไปเจอเหล่าสนมของพระองค์นั้นแหละเพค่ะ”หนี่เจินตอบออกไปด้วยใบหน้าใสซื่อ
“ที่เจ้าพูดนี่เจ้าหึงข้าหรือ”
“หม่อมฉันไม่หึงฝ่าบาทเสียหน่อย ก็แค่พูดไปตามที่หม่อมฉันได้เจอมาก็เพียงเท่านั้น”
“มาให้ข้าง้อเจ้าก่อน”
แล้วก็ทรงจุมพิตที่เรียวปากบางอีกครั้ง ก่อนที่อารมณ์ปรารถนาจะปะทุขึ้น พระหัตถ์เริ่มไล้ไปตามเรือนร่างที่ยังคงปกปิดด้วยอาภรณ์สูงตามยศศักดิ์
“ฝ่าบาท...”เสียงหวานครางตามแรงอารมณ์ที่คนร่างสูงมอบให้
อาภรณ์ที่ปกปิดร่างกายถูกปลดออกอย่างรวดเร็ว พระหัตถ์หนาลูบไล้ไปตามแผ่นอกขาวก่อนจะประทับริมฝีปากทาบทับเรียวปากบางแล้วมอบความหวานให้
“อืม...อืม...”
ถัดจากเรียวปากบางก็ไล่ลงมายังซอกคอขาวยิ่งทำให้หนี่เจินครางเสียงหวานอีก เมื่อฮ่องเต้รับรู้ได้ถึงความต้องการของคนร่างบางก็ไม่รอช้าไล่ไปยังแผ่นอกขาวก่อนจะได้เรียวปากหนาดูดเค้นยอดอกที่ชูชันของคนร่างบาง ยิ่งทำให้คนร่างบางสะท้านด้วยความต้องการ
“ฝ่าบาทหม่อมฉันเจ็บตรงนั้นเพค่ะ”
หนี่เจินชี้ไปยังจุดอ่อนไหวของตัวเองที่ตอนนี้เริ่มปวดบวมอย่างเห็นได้ชัด ฮ่องเต้เมื่อเห็นเช่นนั้นก็เผยยิ้มบางออกมาอย่างพอพระทัย แล้วก็เลื่อนพระหัตถ์หนามาสัมผัสจนทำให้คนร่างบางถึงก็ร้องไม่ศัพท์
“อือ...อ๊า...อ๊า..อืม...”
“ตรงนี้รู้สึกดีหรือเปล่าหนี่เจิน”เสียงทุ่มที่กระซิบข้างหูเล่นเอาคนฟังหน้าอายงุดซบเข้ากับพระอุระ
“เพค่ะ อ๊า...อืม...”
แต่ก่อนที่คนร่างบางจะได้ทันปลดปล่อยแรงปรารถนาของตน พระหัตถ์หนาก็เลื่อนลงต่ำถูกช่องทางแคบทแล้วสอดนิ้วเข้าไป คนร่างบางถึงก็สะดุ้งเฮือกเมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งแปลกปลอมที่แทรกผ่านร่างกายเข้ามา แล้วใช้แขนสองข้างโอบพระวรกายหนาไว้แน่น
“เจ้าเจ็บเหรอหนี่เจิน”
“เปล่าเพค่ะ แค่...หม่อมฉัน....รู้สึกดี....เพค่ะ”ตอบแล้วก็ใช้มือที่เคยโดยพระวรกายหนามาปิดหน้าแทน
เมื่อเห็นว่าฮองเฮาที่รักยิ่งเขินอายทั้งที่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อยก็ยิ่งทำให้อารมณ์ปรารถนาเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวนัก
นิ้วที่ยังคงค้างในช่องทางแคบก็เริ่มขยับเข้าออกช้า ๆ แล้วเริ่งขึ้นจนคนร่างบางร้องออกมาไม่หยุดก่อนจะเริ่มเพิ่มจำนวนเป็นสองนิ้วและสามนิ้ว
เมื่อช่องทางแคบเริ่มใช้ได้แล้วก็ถอดนิ้วออกแล้วแทรกพระวรกายตรงหว่างขาของคนร่างบางแทน ก่อนจะ แทรกแกนกายที่ใหญ่กว่าเข้าไปยังช่องแคบ คนร่างบางเองก็ดูจะเจ็บเพราะสีหน้าเขินอายเมื่อกี้แปลเปลี่ยนเป็นเจ็บปวดเมื่อสิ่งที่แทรกเข้ามาในร่างกายใหญ่กว่านิ้วที่พึ่งถูกถอดออกไปมากนัก
ฮ่องเต้รอจนหนี่เจินพร้อมจึงเริ่มขยับในท่วงท่าช้า ๆ คนร่างบางภายใต้ร่างใหญ่เริ่มปรับสภาพแล้วเสียงหวานก็ครางขึ้น เร่งให้ฮองเต้ที่แรงอารมณ์ปรารถนาแรงกล้าจนต้องเร่งจังหวะขึ้น
“อ๊า....อ๊า...อืม....อ๊า...แรงอีกเพค่ะ...ลึกอีก....”
เสียงหวานเอ่ยเมื่อยิ่งลึกก็ยิ่งรู้สึกดี ทั้งฮ่องเต้ทั้งหนี่เจินต่างก็โอบรัดกันแนบแน่น ฮ่องเมื่อได้ยินหนี่เจินบอกเช่นนั้นก็หันมาจับคนร่างบางให้นั่งบนตักของตัวเองก่อนจะเริ่มขยับอีก คราวนี้คนร่างบางก็ยิ่งร้องเสียงหวานดังขึ้นอีก
“แบบนี้ใช้ได้หรือเปล่ายอดรักของข้า”
“อ๊า...อ๊า...ดี...เพค่ะ...”
กระแทกอยู่ท่านั้นไม่นานน้ำสีขาวขุ่นจากคนร่างบางก็พุ่งจนเปรอะเต็มหน้าท้อง จากนั้นฮ่องเต้ก็พลิกตัวของคนร่างบางให้หน้าหันเขากับที่บรรทมแล้วเอามือจับที่สะโพกมล คนร่างบางเมื่อตัวเองพลิกหน้าเขาก็เอามือยันที่บรรทมไว้ เมื่อเริ่มเข้าที่เข้าทางฮ่องเต้ก็เริ่มขยับอีกครั้ง
“อ๊า....อ๊า...อืม...”
“หนี่เจินข้าจะออกแล้ว”
“อืม....หม่อมฉันก็จะออกอีกรอบแล้วเพค่ะ”
ฮ่องเต้กระแทกเข้าแรง ๆ อีกสองสามทีน้ำสีขาวขุ่นจากคนร่างบางก็ถูกปลดปล่อยอีกครั้งและพร้อมกับที่ฮ่องเต้ปล่อยน้ำสีขาวขุ่นร้อนเข้าไปภายในตัวคนร่างบางด้วย
จากนั้นก็ล้มลงกอดคนร่างบางที่นอนหอบอยู่ข้างแล้วจุมพิตเบา ๆ บนหน้าผากมลคนร่างบางเองก็กอดตอบแล้วซบลงพระอุระอย่างเหนื่อยอ่อน
“อีกรอบได้มั้ยหนี่เจินข้ารู้สึกว่ายังไม่พอเลย”
“เพค่ะ”
แล้วฮ่องเต้และหนี่เจินก็เริ่มบรรเลงเพลงรักกันต่ออีกหลายต่อหลายรอบจนเกือบรุ่งเช้าของอีกวัน จึงได้หลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อน
หลายวันต่อมาคณะทูตจากทางมองโกเลียก็ได้เดินทางมาถึงผู้คนในเมืองต่างก็พากันออกมาดูขบวนคณะทูตที่นาน ๆ จะมีให้เห็นสักที
ณ วังหลวง
ภายในวังหลวงเองก็วุ่นวายกับการตกแต่งประดับประดาเพื่อใช้ในการต้อนรับเหล่าคณะทูตที่กำลังจะมาถึงในไม่ได้ ทั้งสถานที่และอาหารถูกจัดทำขึ้นอย่างสวยงามไม่ได้เสียชื่อของชาวถัง
หนี่เจินเห็นดังนั้นจึงลงไปดูเหล่านางกำนัลและขันทีทำงานอย่างวุ่นวายนั้นก็อดที่จะได้ไปช่วยไม่ได้ แต่แล้วก็โดนเหล่าขันทีและนางกำนัลบอกว่าให้อยู่เฉยเพราะนี่คืองานของพวกเขาไม่ใช่ของผู้เป็นถึงแม่ของแผ่นดินจะลงมาทำเอง หนี่เจินเลยได้แต่เดินดูอย่างเดียวจะช่วยใครก็ได้แทน
“ฮองเฮาเพค่ะเสด็จกลับตำหนักดีกว่าเพค่ะ”
“งั้นข้าอยากไปตำหนักใหญ่”
“จะทรงเสด็จไปหาฝ่าบาทหรือเพค่ะ”
“ใช่ ข้าไปไม่ได้เหรอ”
สองสาวใช้คนสนิทที่เลื่อนตำแหน่งเป็นนางกำนัลส่วนพระองค์ของฮองเฮามองหน้ากันอย่างเขิลอายแทน ก็พวกนางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าท่านอ๋องน้อยพวกนางนั้นตอนนี้หายใจเข้าออกก็มีแต่ฮ่องเต้อยู่ทุกเวลา
เพราะช่วงหลายวันมานี่ฮ่องเต้ทรงงานหนักมากจนผู้เป็นนายของพวกนางอดรู้สึกเหงาไม่ได้ ปกติแล้วฮ่องเต้จะทรงเสด็จมาหาวันละหลายรอบ แต่พักนี้น้อยลงอย่างเห็นได้ชัดด้วยราชกิจที่มีมากขึ้นเลยทำให้ไม่สามารถเสด็จออกมาหาหนี่เจินได้บ่อยเหมือนเช่นเคย
“แต่คิดอีกทีข้าไม่ไปดีกว่า ฝ่าบาทคงทรงงานอยู่เป็นแน่ข้าไปรังแต่จะไปกวนเสียเปล่า ๆ งานราชกิจก็เร่งรีบนัก ข้ากลับไปรอตำหนักเสียยังดีกว่า”
เอ่ยจบก็พาร่างบางงามสง่ากลับยังตำหนักเหม่ยชุน หนี่เจินเดินไปเลื่อย ๆ ไม่ได้สนใจสิ่งรอบด้านมัวแต่คิดอะไรใจลอยอยู่คนเดียวโดยไม่ทันได้มองข้างหน้าซึ่งเป็นบรรไดสูงที่ลงไปยังข้างล่าง ไห่เหยียนที่เห็นว่าตอนนี้เหล่านางกำนัลกำลังมัวสนใจอย่างอื่นอยู่ก็ยิ้มขึ้น
ไห่เหยียนที่แบกของทำทีว่าเริ่งรีบจะไปส่งของเดินเข้าไปประชิดตัวของหนี่ก่อนจะทำท่าเซเอียงตัวไปโดนหนี่เจินที่กำลังใจลอยจนเสียงหลักกลิ้งลงไปข้างล่าง
“กรี๊ดดดดด”
เสียงบรรดานางกำนัลที่ได้เห็นเหตุการณ์ต่างก็รีบเข้าไปหวังจะช่วยหนี่เจินที่ตกลงมาแล้วหมดสติไป ที่หัวของหนี่เจินมีเลือดออกมาอย่างน่ากลัวสองนางกำนัลคนสนิทรีบออกคำสั่งนางกำนัลที่อยู่แถวนั้นให้รีบตามหมอหลวงในทันที
“พวกเจ้ารีบไปตามหมอหลวงเร็วเข้า”เสียงเสี่ยวเย่หันไปบอกนางกำนัลที่ยังทำท่าตกใจอยู่ ก่อนจะมองร่างของผู้เป็นนายที่สลบไปแล้ว แล้วคิดแค้นใจนักถ้านางไม่มัวแต่มองนู้นนี่ท่านอ๋องน้อยคงไม่เจ็บตัวเช่นนี้แน่
ส่วนไห่เหยียนเมื่อทำตามที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จก็เผยรอยยิ้มอย่างผู้มีชัยก่อนจะเดินเลี่ยงออกจากที่เกิดเหตุไปเกรงว่าจะมีคนเห็นเหตุการณ์
*-----*-------------*-------------*--------------*
ช่วงนี้หนี่เจินจะเริ่มลำบากแล้วจ้า
ไปรอลุ้นแล้วกันจะไห่เหยียนจะมีวิธีอะไรมาทำร้ายหนี่เจินอีก
แล้วยิ่งองค์หญิงลีอาร์มาอีกคนจะยิ่งสร้างเรื่องอะไรขึ้นต้องติดตามตอนหน้า