Made for you.http://www.youtube.com/v/No3FmavI2qI?version=3&hl=en_US&rel=0ได้ยินเสียงพลุดังออกมาจากนอกหน้าต่าง
แสงสว่างผ่านลอดผ้าม่านเข้ามา ฉายลงบนร่างของพวกเราสองคนที่อยู่ในความมืด
ลมหายใจติดขัด ราวกับถูกไล่ตอนไปจนถึงชั้นบนสุดของขั้นบันได
เหมือนถูกช่วงชิงอากาศทั้งหมดไป ภายใต้จูบที่แสนจะบ้าคลั่ง คล้ายคลื่นที่ซัดเข้าใส่ชายฝั่งยามพายุร้ายพาดผ่าน
“พ..พ.พี่หมอก”
เรียกด้วยเสียงที่สั่นเทา ราวกับไร้เรี่ยวแรง
ไม่รู้ทิศไหนเป็นทิศไหน ผมรู้เพียงแต่ตอนนี้ ถูกกอดไว้แน่นจนไร้ช่องว่าง รู้สึกเหมือนจะถูกหลอมกลายเป็นหนึ่ง เป็นความคิดที่ในตอนนี้ อาจจะเกิดขึ้นได้จริง
มือไล้ไปตามตัว เต็มไปด้วยความต้องการแต่ไม่ได้หยาบโลน ความรู้สึก อัดแน่นเต็มไปเสียหมด รับรู้ได้ผ่านอากาศรอบๆตัว
ต้องการ
ต้องการกันและกัน
เหมือนกับขั้วแม่เหล็ก ที่ไม่อาจจับแยกกันได้
เหมือนถูกสร้างมาเพื่อคู่กันความคิดเหล่านั้น ถูกพูดผ่านมือที่ลูบอย่างถะนุดถนอม มองไล่ตามพื้นที่ๆมือนั่นไล่ผ่าน ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปสบตาด้วย ก็อดไม่ได้ที่จะดันตัวขึ้นไปจูบกันอีกครั้ง
เสื้อถูกดึงออก ความหนาวเข้าปะทะตัวได้ไม่นานก็ถูกทดแทนด้วยความอุ่นจากร่างตรงหน้า หุ่นที่ราวกับพระเจ้าสรรค์แต่งขึ้น ผมอดอิจฉาไม่ได้จากมุมมองของผู้ชายด้วยกัน
ไม่ชอบเวลาถูกดึงมือขึ้นไปจูบ เพราะจะควบคุมหัวใจตัวเองไม่ได้ เต้นรัวไปหมด จนได้ยินถึงหู คิดว่ามันก็คงจะได้ยินเหมือนกัน
พี่หมอก ที่ปากหนัก ไม่ค่อยพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด แต่กลับบอกผ่านความคิดเหล่านั้น ด้วยการกระทำออกมาอย่างชัดเจน
ถูกกัดข้อนิ้ว รู้สึกเหมือนเป็นการกระทำที่แสนลามก อาจเป็นเพราะสายตาที่จ้องมองมาด้วย อาย..ที่เผลอจินตนาการไปถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
พี่หมอกโน้มตัวลงมา กดจูบที่ต้นคอ เผลอหัวเราะด้วยความจั๊กจี๋ที่ยังทำใจให้ชินไม่ได้สักที แต่เสียงหัวเราะนั้นอยู่ได้ไม่นาน เพราะเวลานี้ ไม่ใช่เวลาของความสดใสแบบเด็กๆ แต่เป็นกลิ่นอายของผู้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยความปรารถนา
กางเกงผมถูกดึงออกได้ไม่ยาก อาจเป็นเพราะใส่มาหลายครั้งจนขอบกางเกงเปื่อย แต่ก็ยังทำใจทิ้งไม่ลงเสียที ได้แต่โทษนิสัยขี้งกของตัวเอง
ใต้กางเกงนั้น กางเกงในสีเทาเปียกชุ่มไปหมด พอถูกจ้อง ก็ร้อนไปทั้งตัว..
“ทนไม่ไหวขนาดนี้เลยหรอ?”
“เพราะใครหล่ะ ก็เพราะพี่นั่นแหละ”
“กูสอบเยอะ..มึงคงจะทนมานาน”
ไม่ได้ถอดกางเกงในออก แต่มือนั้นกลับดันผ่านเข้าไปแทน ผมที่นอนอยู่ถึงกับสะดุ้งเฮือก หยัดหลังขึ้นจากที่นอน ขาสั่นไปหมด จิกปลายเท้าลงกับเตียงเมื่อรู้สึกถึงความอุ่นรอบๆส่วนอ่อนไหว…
“อึก….”
เสียงที่ดังตามมาพร้อมความชื้นแชะนั้น ทำให้อายเสียจนไม่รู้จะทำตัวอย่างไร
ในระหว่างที่คิด ก็ได้แต่จ้องมองคนที่ทำเรื่องลามกกับร่างกายตนเองอย่างเผลอไผล
จ้องมองตามลิ้นชื้นที่เลียริมฝีปากตัวเอง ราวกับคนกระหายน้ำ
สัมผัสของฝ่ามือที่ประครองแก้มของผมหายไป พี่หมอกดึงกางเกงของตัวเองออก มองไม่ว่างตา ทำยังไงก็ไม่รู้สึกคุ้นชินกับความรู้สึกแบบนี้สักที อยากจะหายไปซะเดี๋ยวนี้ ความอายที่พุ่งสูงจนร้อนไปทั้งหน้าทำให้มือสั่นไปเสียหมด
ตามมาด้วยอาภรณ์ชิ้นสุดท้าย ที่ถูกโยนทิ้งลงข้างเตียงอย่างไม่ใส่ใจ
ถูกดันตัวขึ้นด้วยหัวเข่าทั้งสองข้าง เห็นรอยยิ้มจางๆที่บอกไม่ได้ชัดว่าอยู่ในอารมณ์ไหน แสงสว่างน้อยเกินไปจนปกปิดความคิดใต้รอยยิ้มนั้นไว้สนิท
“อ…อึก…”
ถึงแม้จะเตรียมพร้อมไว้แล้ว แต่ไม่ว่ายังไง ก็ยังแตกต่างกัน
ทั้งอุณหภูมิ ขนาด ความรู้สึก
ได้ยินเสียงที่ดังออกมาเบาๆจากคอตัวเอง ครวญครางราวกับจะขาดใจ
รับรู้ได้ว่าเขาเข้ามาอยู่ในตัว..
เหงื่อหยดลงที่หน้าท้อง จากปลายคางของพี่หมอก ไหลเอนมาจนถึงแผ่นอกผม
มือของพี่หมอกไล่ลงมาตามเหงื่อเม็ดนั้น ราวกับจะลบรอยน้ำที่ทิ้งไว้ตามทาง
จนมาหยุดที่หน้าอก…
หัวใจเต้นแรง คิดว่ามันน่าจะรู้สึกได้
วางมือทาบทับมือพี่เขาไว้อีกที รู้สึกถึงความอบอุ่น ที่เหมือนจะซึมลงไปผ่านผิวกาย
“ใจมึงเต้นแรง..”
“..สุดๆ ผมจะตายไหม?”
“ต่อให้ตาย กูก็จะตามไปดึงมึงขึ้นมา…”
หัวสมองว่างเปล่าไปพักหนึ่ง ได้ยินแต่คำนี้ดังก้องไปมา
สิ้นเสียง ก็กระแทกกายเข้ามาลึกกว่าเดิม หลังกระตุกขึ้นจากที่นอน เริ่มขยับกาย เป็นการเคลื่อนไหวที่บอกตัวตนของพี่หมอกได้ ความดุดัน พลังที่ซ่อนอยู่ แม้แต่นิสัยหยิ่งทะนงตนของเขาก็ยังถูกพูดผ่านการเคลื่อนไหวนี้
พี่หมอกก็ยังเป็นพี่หมอก
ที่เริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด
ถึงจะดุดัน แต่เขาก็ยังอ่อนโยน
ความอ่อนโยนที่มีข้อจำกัด
ข้อจำกัดที่นอนอยู่ในอ้อมกอดอย่างผมนั้นกลั้นเสียงไว้ โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ก็เผลอโอบขาไว้รอบเอวของอีกฝ่าย รู้สึกว่าเข้ามาลึก ลึกกว่าทุกที เป็นค่ำคืนที่พิเศษ บรรยากาศหลายๆอย่างดูจะชัดเจนขึ้นกว่าเดิม
“ที่ตรงนี้..เป็นของกู”
พูดหนักแน่น หัวใจที่มันกำลังสัมผัสถึงอยู่ตอบกลับด้วยการเต้นเร็วกว่าเดิม
“เป็นของกู..คนเดียวเท่านั้น”ในเวลานี้..
คำพูดสั้นๆ ตามแบบฉบับของพี่หมอก ก็ทำให้ใจคนฟังพองโตไปด้วยความสุข
อยากพลิกตัว นอนหงายแต่ถูกยกเอวแบบนี้นานๆก็รู้สึกเมื่อย แต่พี่หมอกไม่ยอม เพราะถ้าเป็นแบบนั้นพี่หมอกจะไม่เห็นหน้าผม จึงต้องทน
“กูอยากเห็นหน้ามึง..อยากรู้มึงคิดอะไร”
“…พี่..พี่อ่านใจผมได้หรอ…”
“กูรู้ว่ามึงคิดอะไรอยู่…”
“ต..ตอนนี้ผมคิดอะไรอยู่”
ส่งยิ้มยียวนไปให้ พี่หมอกเอื้อมมือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าให้ ก่อนจะตามลงมากดจูบลงบนแก้ม ที่เผลอเอนรับอย่างเคยตัว
“มึงคิดว่ามึงรักกู….”เหมือนวินาทีนั้น ทุกอย่างหยุดไปหมด
พี่หมอกพูดถูก
ถูกทุกคำ
คำที่แม้แต่ตัวเองยังไม่เคยพูดออกไป ไม่รู้ว่ามันคิดจริงจังหรือแค่พูดออกมาเล่นๆ แต่ก็ทำให้คนฟังถึงกับอึ้ง
“พ..พี่พูดเล่นหรอ?”
“กูพูดจริง”
“…พ..พี่หมอก”
ความรู้สึกบางอย่างวิ่งแล่นไปทั้งตัว หยดน้ำตาไหลลงแก้ม พี่หมอกดึงตัวผมขึ้นมากอดไว้ หยุดทุกการเคลื่อนไหวทั้งๆที่กายยังเชื่อมต่อกัน
“…ร้องไห้ทำไม”
“ผ..ผมไม่รู้”
“เด็กขี้แย…”
โอบกอดรอบคอพี่เขา ซุกหน้าลงกับไหล่กว้างๆ มันก็ยกมือขึ้นกอด มืออีกข้างก็ลูบหัวเบาๆ
ทำไมกันนะ
ทำไมถึงได้ร้องไห้กัน
เป็นความรู้สึกที่บรรยายเป็นคำพูดไม่ถูก ไม่เชิงมีความสุข ไม่เชิงว่าเศร้า แต่รู้ว่าความรู้สึกนี้กำลังกัดกินทั้งหัวใจ
ความรู้สึกนี้…มันคือรักอย่างนั้นหรือ?
สิ่งที่อยู่ในใจมาตลอด…มันเรียกว่ารักใช่ไหม?
เหมือนคำตอบที่ค้นหามานาน ถูกเปิดเผย เมฆหมอกทุกอย่างที่เคยปกคลุมอยู่หายไป ตอนนี้ทุกอย่างชัดเจน
ในอ้อมกอดแห่งนี้ รู้สึกได้ว่าตัวเองปลอดภัย รู้สึกเหมือนอยู่ในความสงบที่ผ่อนคลาย ความเหนื่อยถูกชะล้างจนหมด
พี่หมอกไม่ได้ละออกมาเช็ดน้ำตาให้ จึงเปียกไปทั้งไหล่
ร้องไห้ต่อหน้าคนๆนี้มากี่ครั้งกันแล้วนะ?
ทั้งๆที่ไม่อยากจะแสดงออกถึงความอ่อนแอให้ใครเห็น แต่ก็อยากจะแสดงออกความเป็นตัวของตัวเองให้เขาได้รู้
“…หยุดร้องไห้ได้หรือยัง?”
“พี่ก็ยังปลอบห่วยเหมือนเดิมเลย”
“กูไม่ได้ปลอบ…มึงอยากร้อง ก็ร้อง กูจะห้ามทำไม…”
“….พี่เปลี่ยนไปนะ”
อีกฝ่ายเลิกคิ้ว ไม่จำเป็นต้องพูดออกมาก็รู้ว่ากำลังสงสัย
“วันนั้นผมร้องไห้ พี่เอาแต่ตะโกนบอกให้ผมหยุด ตอนนี้พี่ไม่ห้ามผมแล้ว…”
“…กูอยากให้มึงสบายใจ ร้องไห้ออกมา ดีกว่าเก็บไว้เอง”
คำพูดของมันตรงไปตรงมา ไม่เคยโกหก
พอได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกเหมือนถูกกอดไว้ด้วยคำพูดเหล่านั้น
ถูกจูบ จูบที่เป็นสัญญาณบอกว่ากำลังจะสานต่อเรื่องที่ค้างคาไว้ ริมฝีปากถูกกัดเบาๆเหมือนหยอกเล่น พี่หมอกไม่กัดคอเหมือนอย่างที่เคยชอบทำ เพราะรู้ผมเจ็บ ช่วงแรกๆก็ยังเผลอทำอยู่ แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว
สวนกายขึ้นมา รู้สึกแปลก ไม่เคยอยู่ข้างบนมาก่อน จึงไม่รู้ว่าความรู้สึกเป็นยังไง น้ำหนักของตัวที่ถูกดึงลงตามแรงโน้มถ่วง ยิ่งทำให้การสอดใส่ ลึกขึ้นกว่าเดิม..หลับตาแน่น เสียงหอบหายใจดังอยู่ติดหู คิดว่าพี่เขาก็คงจะได้ยินเสียงของผมเหมือนกัน
พี่หมอกกัดที่หูผมเบาๆ ก่อนจะกดจูบที่ซอกคอ มือข้างหนึ่งรั้งเอวไว้ ไม่ให้ผมหงายหลังไป ผมไม่ค่อยขยับตัว อาย อายไปหมด อายจนทำอะไรไม่ถูก
ในช่วงเวลาที่โอบรอบกายพี่เขาไว้แน่น ได้ยินเสียงพลุที่ถูกจุดขึ้นจากข้างนอก แสงสว่างที่เห็น สว่างจ้าไปทั้งหัว
รู้สึกเปียกที่หน้าท้อง ก้มลงมองก็ถูกหอมแก้ม ใกล้ขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าสายตาพี่หมอกจ้องมาที่ผม ไม่เคยเปลี่ยนแปลง.. ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน สายตาคู่นี้ ก็ไม่คิดจะมองที่ใคร
รู้สึกตัวเองมีคุณค่า มีความสำคัญกับใครสักคน..เป็นความรู้สึกที่อิ่มไปทั้งใจ
เร่งขยับไม่นาน พี่หมอกก็หยุด ดึงตัวออกจากผม แต่ก็ยังกอดกันอยู่ รับรู้ถึงความอบอุ่นของกันและกัน
ชอบกอดของพี่หมอก ชอบเวลาที่พี่เขาทำเหมือนผมเป็นคนเดียว ที่ได้รับสัมผัสแบบนี้จากพี่
ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ แต่กลับรู้สึกเหมือนได้รับการปกป้อง
“ปีใหม่แล้ว…”
กระซิบข้างขมับ กดจูบลงเบาๆ ผมที่ปรกหน้าอยู่ถูกทัดไว้ที่หู
“…ปีใหม่นี้พี่อยากได้อะไร”
พอเอนตัวลงนอนกับเตียง อีกฝ่ายก็เอนตัวตามลงมา กอดหมอนนอนคุย ดึงผ้าห่มที่ร่วงไปอยู่แถวปลายเท้าขึ้นมา
“…กูได้สิ่งที่กูต้องการแล้ว” ไม่บอกว่าเป็นอะไร ทำเพียงยื่นมือมาลูบแก้มผมเบาๆ..
“ผมก็ได้สิ่งที่ผมอยากได้แล้วเหมือนกัน”
“อะไร?”
“ไม่บอก”
“..แล้วมึงจะพูดขึ้นมาทำไม”
“พี่อยากรู้หรอ?”
“เออ”
“ไม่เห็นต้องทำเสียงไม่พอใจแบบนั้นเลย ผมบอกก็ได้..ยื่นหูมาดิ”
พอเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ก็ป้องมือไว้ที่ข้างๆหูพี่หมอก
ได้กลิ่นตัวผม..อยู่ที่ตัวพี่หมอก…
และคิดว่าบางที กลิ่นพี่หมอกก็อาจจะติดอยู่ที่ตัวผมเหมือนกัน
กระซิบลงช้าๆ เน้นที่ละคำ
รอยยิ้มค่อยๆปรากฏขึ้นมาบนหน้าพี่หมอก
ในเวลานั้น พลุอีกดอกถูกจุดขึ้น
สว่างไสว..
เจิดจ้า เสียจนท้องฟ้ายามค่ำคืนสวยงามไม่แพ้เวลากลางวัน..
ได้พูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการออกไปแล้ว…
ต่อมาก็คงจะต้องเป็นคำว่า
“สุขสันต์วันปีใหม่นะครับ…”……………………………….
……………………..
[
Made for you, For New year’s occasion. Wish you luck in the New Year which is coming]
[26.12.54]
รายงานผลการสอบวันที่ 3 วันสุดท้ายของสังเวียนนี้
พูดได้สามคำว่า "ศิษย์-พี่-หมอก"

ทำได้มากที่สุดตั้งแต่สอบมาสามตัว วิศวะนี่ทำยิกๆทั้งชั่วโมง ไม่เหมือนอันอื่น ทีไ่ด้แต่ช็อคน้ำลายหยดแหมะๆ
แต่เรื่องคะแนน ค่อยว่ากันอีกที

ปล.มาต่อให้แม่ยกตี๋หมอก เดี๋ยวจะงอนกันซะก่อน ที่มีแต่เฮียฟิน 555