“ เลิกเพ้อเจ้อ แล้วจะไปไหนก็ไป เงินแค่นี้ฉันไม่คิดติดใจเอาคืนจากนายหรอก บอกแล้วไงว่าถือซะว่าฉันทำบุญ อย่าโทรมาดึกๆแบบนี้อีกถ้าคิดจะมาพูดจาไร้สาระแบบนี้ ทางที่ดีลืมเบอร์บ้านฉันไปซะจะขอบใจมาก” เสียงโทรศัพท์วางโครมพร้อมเสียงสัญญาณขาดหายไป ศิระ ใจสั่นเป็นห้วงๆ นึกโกรธตัวเองที่โทรไปให้พฤกษ์ด่าอย่างไม่ไว้หน้า นายนั่นไม่เคยเอาเรื่องเขาไปคิดให้หนักสมอง มีแต่เขาเองหรอกเหรอที่คิดว่าตัวเองมีภาระติดอยู่กับคนแบบนั้น มันน่าอายสิ้นดีที่หลงคิดไปคนเดียว คำพูดที่พฤกษ์ตอกกลับเมื่อครู่ช่วยย้ำให้เด็กหนุ่มสำนึกได้ดีว่าเขาหลุดไปจากวงจรชีวิตของพฤกษ์ตั้งแต่วันนั้นที่ลานจอดรถแล้ว
“เป็นไรวะ หน้าซีดๆ” โก๋ทักเมื่อศิระเอาโทรศัพท์ที่ยืมไปโทรเมื่อครู่มาคืน แต่ก็มาแบบสภาพเลื่อนลอยแถมหน้าตายังซีดยังกะโดนผีหลอกมา
“เปล่า”ศิระตอบสั้นๆ คอเขาแห้งผากไปหมด น้ำลายที่จะกลืนลงไปยังไม่มี เพราะฝืนให้ก้อนสะอื้นลงไปจุกที่อกเอาไว้
“เขาว่าไงบ้าง” โก๋ถามต่อ
“ไม่มีอะไรหรอก ทุกอย่างมันจบแล้ว กูบ้าไปเองคนเดียวแหละ คนระดับนั้น เขาไม่มาสนใจเงินแค่นี้ให้เสียเวลาหรอก”
“แสดงว่าเขาไม่เอาคืนเหรอ”
“จริงๆเขาไม่เอาตั้งนานแล้ว แต่กูบ้าเอง ขอบใจนะที่มึงมาเป็นเพื่อน มึงกลับเหอะมันดึกแล้ว”
“แล้วมึงล่ะ”
“เออ ไม่ต้องห่วงกูหรอก กูไม่นอนข้างถนนหรอกน่า เจอกันพรุ่งนี้เพื่อน” ศิระฝืนยิ้มให้เพื่อน แต่เด็กหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่ารอยยิ้มของตัวเองมันดูเศร้าจนเกินที่โก๋จะปล่อยให้เขากลับคนเดียว
“ศิระ ท่าทางมึงไม่ค่อยดีเลยว่ะ มีอะไรหรือเปล่าวะ”
“ไม่มีอะไรจริงๆ คนอย่างกูเนี่ยนะจะมีอะไรให้แย่กว่าที่เป็นอยู่”
“ทำไมมึงชอบประชดตัวเองนักวะ เอาเถอะ มึงคงอยากอยู่คนเดียว กูไม่กวนก็ได้ แต่อย่าคิดอะไรมากนะโว้ย ยังไงมึงก็มีกู มีอะไรก็โทรหากูแล้วกัน” คนบอกตบไหล่เพื่อนแล้วเดินแยกจากไป ลับหลังเพื่อนที่แสนดี ศิระยืนหลับตานิ่งเพื่อไล่ความรู้สึกสมเพชตัวเองให้หายไป อะไรที่แย่กว่านี้ยังเคยผ่านมันไปได้นับประสาอะไรกับเรื่องของคนๆหนึ่งที่เหมือนเป็นเส้นขนานของชีวิตเขาจะลืมมันไปไม่ได้
“เป็นไรวะพฤกษ์ เหม่อๆชอบกล” ปอนด์ทักเพื่อนขณะนั่งรอเมษาอยู่ วันว่างแบบนี้ พวกเขาก็มักจะชวนพฤกษ์มาเที่ยวนอกบ้านเสมอ เมื่อก่อนอาจจะใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานซักหน่อยกว่าที่พฤกษ์จะยอมออกมาด้วย แต่วันนี้พวกเขาแทบจะไม่ต้องออกแรงพูดให้เปลืองแรงพฤกษ์ก็ยอมออกมาหาด้วยดี แต่มาแล้วมาเหม่อแบบนี้มันก็ไม่ค่อยที่จะดีนัก
“มีอะไรบอกกูได้นะโว้ย” เด็กหนุ่มพูดต่อเมื่อพฤกษ์ยังไม่ยอมเปิดปากถึงสาเหตุที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับ
“อย่ามายุ่งกะกู มึงนั่งรอเพื่อนมึงเงียบๆไปเถอะ” พฤกษ์พูดออกมาในที่สุด เขากลายเป็นคนหงุดหงิดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ตอนแรกคิดว่าอยู่คนเดียวจะยิ่งหงุดหงิดเลยยอมมออกมาหาเพื่อนคุย แต่กลับกลายเป็นว่าเขาต้องหงุดหงิดเพิ่มเมื่อได้ยินโปรแกรมเที่ยวที่ปอนด์วางเอาไว้ให้
“ทำไมพูดงี้วะ เพื่อนกูก็แฟนมึงนะโว้ย” ปอนด์แย้ง แต่มันเป็นคำแย้งที่คนได้ยินฉุนขาดทันที
“ใครแฟนกู มึงอย่ามั่วไอ้ปอนด์ กูยังไม่ได้ตกลงจะคบใครนะมึง”
“อ้าว มึงจะรอคบไอ้กุ๊ยนั่นเหรอ ถึงไม่ยอมตกลงลองเปิดใจคบกับเมษาดู”
“มึงหมายถึงใคร”
“ไอ้ศิระ”
“กูบอกมึงแล้วไงว่าอย่าเอ่ยถึงไอ้นั่นให้กูได้ยินอีก”
“เออๆ กูแค่เผลอ ขอโทษที ว่าแต่มึงจะเกลียดอะไรมันขนาดนั้นวะ”
“มึงไม่ดีใจเหรอที่กูเกลียดมัน มึงอยากให้กูเป็นอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ”
รอติดตามอีกนะ
ฝากนิสนึง
ตอนนี้มหกรรมกีฬาแห่งอาเซี่ยนเริ่มแล้ว
อย่าลืมมาเป็นกำลังใจให้ทัพกีฬาไทยกันนะคับ
ซีเกมส์ครั้งที่ 24 จัดที่นครราชสีมานะคับ