“มันเกินไปแล้วนะพฤกษ์” ศิระตวาดลั่นเมื่อเหลืออดกับการกระทำของพฤกษ์ เขาเองก็ไม่ได้ตัวเล็กไปกว่านายนี่ซักเท่าไหร่ ที่พลาดท่าก็แค่ไม่ทันได้ทันตัว ใครกันแน่ที่มันวอน
“โอ้ย!!!!!!” พฤกษ์ร้องสุดเสียงเมื่อโดนศิระพลิกมือที่เขากุมไว้ออกแรงหักสุดแรงจนสุดจะทนความเจ็บปวดที่ได้รับ ศิระรู้สึกได้ถึงเรี่ยวแรงพฤกษ์หายไปจากการกดทับเด็กหนุ่มจึงออกแรงผลักเจ้าตัวออกอย่างสุดกำลังจนฝ่ายนั้นเสียหลักเซถลาออกไปตั้งตัวกลางห้อง
“กลับไปพฤกษ์ อย่างนายไม่มีปัญญาทำอะไรใครได้หรอก” คนผลักลุกขึ้นยืนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ถ้าคนตรงหน้าตอนนี้เป็นไอ้หน้าเข้มที่เขาไปเจอในห้องเป้ก็ว่าไปอย่าง รายนั้นคงยากเอาการอยู่ที่เขาจะขัดขืนถ้ามันคิดจะจัดการเขาจริงๆ แต่คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ คือพฤกษ์ คนที่เคยมีความอ่อนโยน อะไรๆก็เกิดขึ้นไม่ได้ถ้าเขาไม่ยอม
“เออ นายมันอวดเก่งกับฉันได้ทุกเวลาอยู่แล้วนี่” พฤกษ์เอ่ย ก่อนจะเดินไปทรุดนั่งสงบสติอารมณ์ที่เก้าอี้ที่อยู่คู่โต๊ะอ่านหนังสือของเจ้าของห้อง ก้มลงนวดมือตัวเองเบาๆ ศิระมองเจ้าตัวครู่หนึ่งก่อนจะรีบเบือนสายตาหนีเมื่อโดนมองสบตา
“ออกมาหวังว่าคงไม่เจอนายนั่งอยู่ในห้องนี้นะพฤกษ์” เด็กหนุ่มบอกก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ พฤกษ์มองตามจนเจ้าตัวปิดประตูปังใหญ่ใส่หน้า
ศิระขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำนานจนแน่ใจว่าพฤกษ์คงออกไปถึงไหนต่อไหนจึงเปิดประตูออกมา โดยถอดเสื้อที่ขาดวิ่นทิ้งไว้ในห้องน้ำ พฤกษ์ชะงักขณะก้มเก็บกระดุมเม็ดสุดท้ายที่กระเด็นหล่นไปข้างเตียงเพราะฝีมือตัวเองเมื่อเห็นศิระเปิดประตูออกมา ศิระเองก็ชะงักไม่ต่างกันแต่ก็ทำไม่สนใจเอ่ยถามเสียงเย็น
“ทำอะไร บอกให้ออกไปจากที่นี่ทำไมไม่ไป” พฤกษ์หยิบกระดุมเม็ดนั้นมารวมกับกระดุมที่อยู่ในมือเดินถือไปหาศิระที่ยืนเปลือยท่อนบนโดยไม่ตอบคำถามเมื่อครู่ เด็กหนุ่มยื่นมันให้เจ้าของรู้ว่ามันอาจดูตลกแต่เขาแค่เพียงอยากสื่อให้คนตรงหน้ารู้ว่าเขารู้สึกผิดที่ทำนิสัยแย่ๆอย่างเมื่อครู่ลงไป
“ทิ้งขยะไป เก็บมันมาทำไม” ศิระบอกเสียงแข็ง พฤกษ์ทำแบบนี้เพื่อสื่อถึงอะไรเขาไม่อยากรับรู้ทั้งนั้นถ้าลองทำให้เขาโกรธขนาดนี้ ไปให้ไกลตาซะเลยน่าจะดีที่สุด
“ที่ทำเมื่อกี้น่ะขอโทษ” พฤกษ์บอกเสียงอ่อน แต่ศิระไม่อ่อนตามมือเรียวยกปัดกระดุมที่ถูกยื่นให้นั่นสุดแรงจนหล่นกระจายลงตามพื้นอย่างเดิม พฤกษ์หน้านิ่วไปชั่วครู่เมื่อรู้สึกเจ็บจี๊ดที่มือก็เพิ่งโดนจับหักนิ้วอาการเจ็บยังไม่หายดีก็โดนปัดอีกสุดแรงจึงข่มอาการไว้ไม่อยู่ แต่ที่เจ็บยิ่งกว่ามือคือที่ใจเมื่อสัมผัสได้ว่าคนตรงหน้าไม่สะท้านเลยซักนิดว่าสภาพมือเขาเป็นยังไงตอนนี้
“กลับไปพฤกษ์ที่นี่ไม่ใช่ที่ๆนายควรอยู่” ศิระเอ่ยไล่อีก เห็นพฤกษ์ยืนนิ่งจึงเดินไปเปิดประตูให้เสียเอง
“ไปซะพฤกษ์” คนเปิดประตูเอ่ยซ้ำ พฤกษ์มองดูเจ้าตัวอย่างเจ็บปวด มันคงถึงเวลาที่ทางรักสายแรกของเขาจะขาดสะบั้นลงจริงๆ ในสายตาศิระเขาคงเป็นคนไม่เอาไหน
“เราเริ่มใหม่ไม่ได้เลยใช่มั๊ยศิระ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามทั้งที่การกระทำที่เห็นมันก็เป็นคำตอบชัดเจนจนน่าจะเข้าใจ แต่ก็แค่อยากได้ยินจากปากเจ้าตัว ศิระส่ายหน้าช้าๆ แทนคำตอบ พฤกษ์ใจหวิวแต่ก็แข็งใจพูดขึ้นใหม่
“แล้วนายไม่เสียดายเวลาที่ผ่านมาบ้างเหรอ ฉันรู้ว่าฉันอาจจะนิสัยเสียไม่เอาไหน แต่ทุกครั้งฉันก็ตามง้อนายตลอด นายเป็นคนแรกที่ฉันกล้าพูดว่าฉันรัก”
“เราต่างเหนื่อยกันมาพอแล้วพฤกษ์ อย่าฝืนต่อไปเลยดีกว่า ช่องว่างระหว่างเราถมยังไงมันก็ถมไม่เต็ม เลิกกันไป ต่อไปนายจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาตามง้อฉัน และฉันก็ไม่ต้องเหนื่อยที่จะต้องวิ่งหนีนาย มันน่าจะยุติธรรม” สองคนมองสบตากันและกัน ต่างฝ่ายต่างก็เจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้น พฤกษ์เจ็บปวดที่ศิระมองเห็นความไม่เอาไหนของเขามากกว่าช่วงเวลาที่เขาดูแลเอาใจใส่ ศิระเจ็บปวดที่พฤกษ์ทำให้เขาลำบากในการตัดใจ พฤกษ์เอ่ยคำว่ารักออกมาให้ได้ยิน เด็กหนุ่มรู้สึกแต่ฝืนไม่ใส่ใจทุกอย่างมันควรจบลงซะที
“นายคิดอย่างนั้นใช่มั๊ย” พฤกษ์ถามอีกเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อเห็นศิระพยักหน้ารับช้าๆ เด็กหนุ่มจึงเม้มปากพยักหน้ายอมรับการตัดสินใจนั่น
“เราคงเหนื่อยกันมาพอแล้วจริงๆ” มันเป็นประโยคสุดท้ายที่ศิระได้ยินจากพฤกษ์ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินผ่านหน้าออกจากห้องไปช้าๆ ศิระเอนหลังพิงประตูเพราะแรงวูบไหวเกิดขึ้นในใจเมื่อพฤกษ์เดินผ่านพ้นสายตา
ติดตามต่อไปในตอนที่18เน้อ
มาต่อให้ตามคำขอแล้วนาฟ๊อก
ใครอยากอ่านเรื่องดรีม รอก่อนนะเดี๋ยวพี่ป๊อมเขาจะเอามาลง คงจะรอให้เราลงเรื่องนี้จบก่อนแล้วถึงจะมาลงมั้ง
เราคุยกะพี่บอยเรียบร้อยแล้วล่ะ
ส่วนเรื่องนี้อีกไม่นานก็จะจบแล้วล่ะ
รอลุ้นแล้วกันว่าพฤกษ์กับศิระจะลงเอยกันยังไง
ยังโพสไม่เสร็จฟ๊อกจะรีบปาดไปหนายยยยย
กลัวไม่ได้เปิดซิงรึงายยยยยย