[Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END  (อ่าน 133374 ครั้ง)

niph

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
«ตอบ #150 เมื่อ08-01-2008 15:36:56 »

 :o12: :o12: :o12:
เศร้า
 :sad2: :sad2: :sad2:

DekDoy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
«ตอบ #151 เมื่อ09-01-2008 11:03:56 »

ผมอ่านเรื่องนี้ตั้งแต่อยู่บอร์ดปาล์ม

ขอบอกว่าชอบมากนะครับ  คุณบอย

ชอบพฤษ์กับศิริ  แต่ไม่อยากให้จบแบบนั้นเลย

แอบสงสาร....
 :m15:

DekDoy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
«ตอบ #152 เมื่อ09-01-2008 11:06:27 »

 :m13:

อยากให้โพสเรื่องต่อไปของคุณบอย

เป็นเรื่อง  Dream Series จะได้ป่าวครับ

เพราะเป็นอีกเรื่องของคุณบอยที่ผมโปรดมากๆ

 :m1:

ออฟไลน์ life_fracture

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +518/-4
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
«ตอบ #153 เมื่อ09-01-2008 13:35:50 »

วันนี้เข้ามาอ่านทวน

เฮ้อ...
อยากจะหมั่นไส้นายพฤกษ์จริงๆ

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #154 เมื่อ09-01-2008 14:14:59 »

15..“ดูรักกันดีนะครับ” เสียงห้วนดังแทรกผ่านเข้ามาในห้องทันทีที่ประตูที่ปิดอยู่ได้เปิดออก พฤกษ์ถึงกับชะงักขณะที่กำลังประคองศิระกลับไปที่เตียง เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียง เมษานั่นเอง
“ยังไม่หายเหรอศิระ” เมษาเมินหน้าหนีจากสายตาของพฤกษ์เพื่อหันไปถามคนที่กำลังพยายามถอยตัวออกจากคนประคอง
“เดินเองได้” ศิระไม่ตอบคำถามเมษาแต่หันไปบอกคนข้างตัวแทน ฝ่ายนั้นจึงได้สติ ตอบกลับมาเสียงแข็ง
“อย่าดื้อไม่เข้าเรื่องศิระ เดี๋ยวเลือดก็ได้ไหลย้อนออกมาอีก” พฤกษ์ไม่รอให้ศิระแย้งอะไรได้อีก เด็กหนุ่มประคองพาเจ้าตัวไปจนถึงเตียง ก่อนจะจัดแจงห้อยกระปุกน้ำเกลือให้เข้าที่ แล้วส่งศิระนอนลงที่เตียง
“ไปดูแลคนของนายก่อนดีกว่า” ศิระเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นพฤกษ์ไม่สนใจอีกคนที่ยืนทำตัวไม่ถูกอยู่ในห้อง
“ก็ทำอยู่นี่ไง”
พฤกษ์ตอบ ตอนนี้ไม่ว่าใครจะมาไม้ไหนเขาก็จะไม่ยอมทำให้คนที่นอนอยู่ตรงหน้าสับสนในตัวเขาได้อีก เมษาคงไม่ได้มาดีหรอก แค่ฟังน้ำเสียงก็เดาได้ไม่ยาก
“ฉันหมายถึงเพื่อนของนาย” ศิระบอก เขาเองก็เคยเป็นส่วนเกิน มันรู้สึกแย่ขนาดไหนเขารู้ดี พฤกษ์เงยหน้าขึ้นชำเลืองมองเมษา ได้ทีฝ่ายนั้นที่รออยู่ จึงรีบเอ่ยด้วยน้ำเสียงน้อยใจกึ่งตัดพ้อทันที โดยยกเพื่อนร่วมกลุ่มขึ้นมาอ้างทั้งๆที่ขัดกับความเป็นจริง
“ไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเลยนะพฤกษ์ เพื่อนๆพอรู้ว่าคุณไม่ไปเที่ยวด้วยกันทุกคนพาลไม่อยากจะไปกันหมดเลย  เนี่ยยังเกาะกลุ่มกันอยู่ที่โรงแรม”
“อย่าบอกนะครับว่าคุณมาตามผม” พฤกษ์ดักทางเอาไว้ก่อนที่เมษาจะพูดจบ ฝ่ายนั้นจึงพยักหน้ารับ
“เห็นสภาพศิระแล้ว คงไม่ต้องให้ผมบอกนะเมษา ว่าผมจะเอายังไง”
ศิระหันไปสบตากับเมษาทันทีที่พฤกษ์เอ่ยจบ ตาเมษาดูเศร้าจนเขาไม่อยากจะคิดว่าเจ้าตัวกำลังรู้สึกแย่เหมือนที่เขาเคยเป็นเลยตัดสินใจหันมาเอ่ยกับคนที่ยืนอยู่ใกล้ตัว
“ย่าให้ทุกคนหมดสนุกเลยนะพฤกษ์พวกเขาตั้งใจมาเที่ยวกัน ฉันอยู่โรงพยาบาล อยู่กับหมอ คงไม่ตายง่ายๆหรอก”
“พูดมากน่า” พฤกษ์ดุขึ้นเมื่อตีความหมายศิระออก ตัวเองโดนอะไรมาบ้างยังจะทำเป็นคนใจดีอีก
“ทำไมต้องดุกันด้วยวะ” ศิระเถียงขึ้น พฤกษ์มองหน้าแค่แวบเดียว ก่อนจะหันไปบอกกับเมษา
“ฝากขอโทษทุกคนด้วยเมษา ผมคงไปไหนไม่ได้ จนกว่าน้ำเกลือที่ให้ศิระจะหมด” เมษาใจเต้นเพราะความฉุน เมื่อเห็นน้ำเกลือที่ให้ศิระเหลืออยู่ไม่ใช่น้อยๆ
“งั้นผมว่าคุณคงต้องค้างที่นี่อีกคืนแล้วมั้งครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยประชด น้ำเกลือเหลือเต็มกระปุก หยดทีละหยดสองหยด มันจะหมดลงง่ายๆได้ยังไง
“ก็ไม่เห็นแปลก ผมตั้งใจไว้ว่าอย่างนั้นอยู่แล้ว” พฤกษ์ตอบ ศิระถอนหายใจ รู้ว่าบรรยากาศตึงเครียดขึ้นอย่างแน่นอน พฤกษ์เปลี่ยนเป็นคนละคนขนาดนี้
“จะมานอนทำไม เกะกะเปล่าๆ ช่วยหมอได้เหรอนาย” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นเพราะไม่อยากให้เมษารู้สึกแย่ เขากับพฤกษ์ยังไงคงไปกันไม่ได้อยู่แล้ว เหตุการณ์ที่ผ่านมามันฟ้องอะไรชัดเจน เขาอยากได้ความรักจริงๆไม่ใช่ความรักที่เกิดจากความสงสาร ต่อให้พฤกษ์มาทำดีกับเขาตอนนี้เท่าไหร่ ความรู้สึกที่เสียไปของเขาก็ยากที่จะผสานต่อให้มันคงรอยเดิมได้
“อยากอยู่กะหมอนั่นสองต่อสองนายก็บอกมาเถอะศิระ” พฤกษ์สวนกลับเพราะคิดไปไกลถึงสาเหตุที่ศิระไม่อยากให้เขาอยู่ ศิระเห็นว่าเป็นทางเดียวที่จะทำให้บรรยากาศดีขึ้นได้เลยปล่อยเลยตามเลย
“ก็ทำนองนั้น” เด็กหนุ่มตามน้ำ สังเกตเห็นพฤกษ์นิ่งไปซักพัก แต่ก็ไม่อยากสนใจ เขากำลังแคร์จิตใจเมษาอยู่ ไม่รู้สิ หรือเพราะเขาเคยรู้สึกแย่จนเสียน้ำตามาแล้วหรือเปล่าเลยไม่อยากให้เมษาตกอยู่ในสภาพแบบนั้น เด็กหนุ่มหาเหตุผลให้ตัวเองที่อยู่ๆเกิดนึกใจอ่อนเห็นใจคนที่เคยไม่ชอบหน้าขึ้นมา
“งั้นก็ตามใจ อยากอยู่กะมันนักก็ตามใจ” พฤกษ์แพ้ใจตัวเองในที่สุด ว่าจะอดทนให้มากที่สุดเท่าที่จะทนได้ แต่ก็อดน้อยใจในสิ่งที่ได้ใจคิดไม่ได้ จึงโพล่งออกมาเพื่อประชด แต่คนฟังกลับไม่คิดที่จะใส่ใจ
“เที่ยวให้สนุกนะ” ศิระบอกเสียงเย็นเป็นเชิงมัดมือชกให้พฤกษ์ไม่มีข้อแย้งก่อนจะหลับตาเหมือนจะไม่รับฟังอะไรอีก เด็กหนุ่มจึงไม่มีโอกาสได้เห็นว่าพฤกษ์กำลังมองเขาด้วยแววตาเจ็บปวดที่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองคงไม่สามารถทำอะไรให้คนที่นอนอยู่รู้สึกดีๆต่อเขาขึ้นมาได้อีก

ศรันย์เข้ามาดูอาการศิระกลางดึกเมื่อได้เวลาที่จะถอดสายน้ำเกลือให้เจ้าตัว ระหว่างที่พยาบาลผู้ช่วยกำลังจัดการตามคำสั่งเขาอยู่ หมอหนุ่มเลยถือโอกาสพูดคุยกับคนป่วย
“ห้องนี้มันแคบไปเหรอครับ”
“หืออ..” ศิระลากเสียงในลำคอถามอย่างสงสัยว่าคนพูดหมายถึงอะไร หมอมือใหม่เห็นอาการนั่นเลยเฉลยคำพูดของตัวเอง
“ก็เห็นเพื่อนคุณไปนั่งสัปปะหงกอยูด้านนอกก็เลยงงว่าทำไมไม่เข้ามานอนในห้องนี้กับคุณ ทางเราก็ไม่ได้ห้ามญาติเข้ามานอนเฝ้าซะหน่อย ห้องนี้เขาก็เป็นคนจองน่าจะรู้กฎดี” ศิระรู้สึกหวิวๆขึ้นมาเมื่อรู้ทันทีว่าศรันย์หมายถึงใคร พฤกษ์ไม่ได้ไปกับเมษาหรอกเหรอ นายนั่น นั่งอดหลับอดนอนอยู่ข้างนอก ไปทรมานตัวเองทำไม บ้าชัดๆ
“อืม ผมถอดสายน้ำเกลือแล้ว ผมขอออกไปดูเขาได้มั๊ยครับ” ศิระบอก ศรันย์เอ่ยยิ้มๆอย่างคนใจดี
“ได้สิครับ ถ้าคุณไม่เพลีย”
“คงไม่ล่ะครับ ล่อน้ำเกลือไปซะขนาดนี้” ศิระเอ่ยติดตลก แต่ใจตัวเองตอนนี้ไปอยู่กับคนที่ตัวเองกำลังนึกภาพอยู่ว่าไปนั่งหลับๆตื่นๆอยู่ส่วนไหนของโรงพยาบาล

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #155 เมื่อ09-01-2008 14:27:46 »

“ไปพร้อมกันมั๊ยล่ะครับ ผมกำลังจะไปดูคนไข้รายอื่นอยู่เหมือนกัน”
ศรันย์เสนอ ศิระส่ายหน้าอย่างไม่อยากรบกวน
“ผมไม่เป็นไรแล้ว ไม่รบกวนล่ะครับผมว่าผมเดินไปเองดีกว่า”
“แล้วรู้เหรอครับว่าญาติคุณอยู่ตรงไหน โรงพยาบาลที่นี่ถึงจะอยู่ต่างจังหวัดแต่ก็ไม่ได้แคบนะครับ” ศรันย์เอ่ยล้อๆ ศิระไม่มีทางเถียงเลยเดินคู่กับหมอหนุ่มออกไปจากห้อง 
พฤกษ์มองสองคนที่กำลังเดินคู่กันออกมาตามแนวทางเดินที่เชื่อมมาตรงที่เขากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ เด็กหนุ่มหายจากอาการเบลอๆจากการที่เพิ่งจะตื่นทันที หมอนั่นทำให้ศิระมีรอยยิ้มสดใสอย่างที่เขาไม่เคยเห็น จนอดที่จะน้อยใจขึ้นมาไม่ได้ จึงรีบลุกเดินหนีก่อนที่จะอยู่เผชิญหน้ากับสองคนที่กำลังจะเดินมาถึง
“ไปไหนแล้วล่ะ เมื่อกี้ตอนผมจะเข้าไปตรวจคุณเขาก็ยังนั่งหลับอยู่ตรงนี่นี่นา” ศรันย์เอ่ยเมื่อพาศิระเดินมาถึงที่ ที่เขาเดินผ่านตอนทีพฤกษ์หลับอยู่
“คงตื่นแล้วมั้งครับ อาจไปห้องน้ำ” ศิระบอก แต่ในใจพาลคิดไปว่าพฤกษ์คงกลับไปที่โรงแรมแล้ว นายนั่นจะมาอดหลับอดนอนเพื่อเขาทำไมกันล่ะ
“คงงั้นมั้งครับ งั้นเดี๋ยวผมขอตัวไปดูคนไข้ก่อนนะครับ ยังไงผมจะให้พยาบาลพาคุณกลับไปที่ห้องละกัน” ศรันย์บอกก่อนจะหันไปมองพยาบาลสาวผู้ติดตาม แต่ศิระเอ่ยขึ้นก่อน
“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้เองผมกลับเองได้ ไม่รบกวนล่ะครับ ขอบคุณนะครับ ผมคงขอตัวเหมือนกัน” พูดจบเด็กหนุ่มก็รีบเดินแยกออกมา จากที่นอนมาทั้งวัน ร่างกายจึงไม่มีอาการเพลียหรือง่วง ศิระจึงเดินเนือยๆช้าๆอย่างไม่เร่งรีบที่จะกลับไปพักผ่อน ไฟในโรงพยาบาลยังสว่างจ้า บรรยากาศจึงไม่ได้น่ากลัวอะไร คงมีแต่สายตาพยาบาลที่เดินสวนเขาเท่านั้นที่มองเขาแปลกๆ คงคิดว่าใครปล่อยให้เขามาเพ่นพ่านกลางดึกในชุดผู้ป่วยแบบนี้ ก็หมอเจ้าของไข้เป็นคนอนุญาต ต่อให้ใครจะมองให้จนตาพลิกเขาก็ไม่สนหรอก อีกอย่างตอนนี้จิตใจเขาไปอยู่ที่คนที่เขากำลังคิดว่าไปอยู่ที่ไหนแล้วต่างหาก


   พฤกษ์เบือนหน้าหนีจากคนที่เปิดประตูห้องเข้ามา นึกๆแล้วก็เคือง เด็กหนุ่มพาลคิดไปว่าภาพที่เห็นเมื่อครู่ที่ตัดสินใจเดินหนีมาเป็นการที่ศิระออกเดินตามหมอเจ้าของไข้ไป ศิระชะงักเมื่อเห็นพฤกษ์อยู่ในห้องของตัวเอง ก่อนจะรวบรวมสติเอ่ยถาม
“มาอยู่นี่ได้ไง”
“มาไม่ได้หรือไง” พฤษ์ตอบกลับเสียงขุ่นแต่ยังไม่ยอมหันไปมองคนถาม จนฝ่ายนั้นเดินเข้ามาหยุดตรงเตียงนอนแล้วเอ่ย
“ฉันนึกว่านายไปกับเพื่อนนายแล้วซะอีก”
“อยากให้ไปนักหรือไง” พฤกษ์ยอมหันมามอง สองสายตาประสานกันก่อนจะต่างคนต่างหลบเมื่อคิดไปคนละทาง ศิระ รู้สึกผิดนิดๆที่เห็นสีหน้าและแววตาอ่อนล้าของพฤกษ์ ที่คงอดหลับอดนอนเพราะคำพูดของตัวเอง ส่วนพฤกษ์นึกว่าศิระไม่พอใจที่เขาเข้ามาเสนอหน้าอยู่ในห้องนี้อีก ถึงได้พูดกับเขาแบบนี้ ภายในห้องเงียบไปชั่วครู่เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมเอ่ยอะไรออกมา พฤกษ์ก็ได้แต่นั่งน้อยใจในคำพูดของคนที่เขามั่นใจตัวเองแล้วว่ารัก ส่วนศิระก็ไม่รู้ว่าจะเอ่ยคำพูดใดออกมา อาการต่อต้านว่าอย่าอ่อนไหวกับท่าทีที่คนตรงหน้าอาจขุดหลุมพรางให้ตกลงไปอีกมันเกาะติดอยู่ที่ใจ จึงไม่กล้าแสดงอาการใดๆออกมาว่าแคร์คนๆนี้ เพราะกลัวว่าตัวเองจะกลับไปจุดเดิมที่อุตส่าห์ผ่านมันมาได้
“ฉันกลับล่ะ” พฤกษ์ตัดสินใจเอ่ยเพราะทนอาการเฉยชาศิระไม่ไหว เจ้าตัวผลุนผลันลุกขึ้นจะเดินออกจากห้อง แต่ต้องชะงักเมื่อรู้สึกถึงมืออุ่นๆของศิระที่รวบมือเขาไว้ขณะเดินผ่าน ศิระทำเพราะเผลอตัว พอเห็นพฤกษ์อยู่ชิดตัวจึงเริ่มรู้ว่าตัวเองทำบ้าอะไรลงไป
“โทษที” เด็กหนุ่มรีบบอกก่อนจะปล่อยมือตัวเองออกแต่มันไม่ง่ายเมื่อพฤกษ์เป็นฝ่ายกุมไว้เสียเองแถมยังดึงเขาเข้าไปชิดตัวจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน
“กำลังทำอะไรอยู่ศิระ”พฤกษ์เอ่ยถาม กระแสบางอย่างที่เขาสัมผัสได้จากการกุมมือของคนใกล้ตัว ความรู้สึกมันบอกว่าศิระกำลังต่อต้านเขา ทั้งๆที่ส่วนลึกของใจมันไม่ใช่
“ก็บอกแล้วไงว่าขอโทษ” ศิระเถียง พยายามข่มอาการไม่ให้คนถามจับความรู้สึกอ่อนไหวตัวเองได้ มันเท่ากับเป็นจุดอ่อนให้โดนทำร้ายจิตใจถ้าหากว่าพฤกษ์แค่เล่นๆกับเขาเหมือนอย่างที่ผ่านมา
“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น” พฤกษ์ออกแรงดึงคนที่พยายามเบี่ยงตัวหนีให้เขามาชิดตัวยิ่งกว่าเดิม ทั้งๆที่เจ้าตัวฝืนจนตัวเกร็ง แล้วถาม
“แล้วนายหมายความว่าไง”
“จริงๆนายก็ยังรู้สึกกับฉันอยู่ใช่มั๊ย” พฤกษ์บอกตรงๆ กลั้นใจฟังคำตอบที่อยากได้ยิน
“นายคิดว่าฉันจะโง่ขนาดนั้นเลยเหรอพฤกษ์” ศิระตอบเสียงนิ่งต่างกับใจที่พยายามซ่อนความจริง แม้มันจะต้องฝืนแค่ไหน แต่การทรมานแค่ไม่กี่นาที มันก็ยังจะดีกว่าต้องกลับไปตกหลุมพรางแล้วเจ็บจนตลอดชีวิต
“นายโกหกฉัน” พฤกษ์ออกแรงดึงอีกเมื่อศิระพยายามเบี่ยงตัวหนี ถ้าคำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่มาจากใจจริงๆของศิระเขาก็พร้อมที่จะยอมรับ แม้มันจะยากก็เถอะ แต่ที่เขาสัมผัสได้ ศิระคงกำลังฝืนตัวเองอย่างหนัก เขาทำให้คนๆนี้หวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้เลยเหรอ
“มองตาฉันสิศิระ ถ้านายพูดจริง” พฤกษ์คาดคั้น ยิ่งเห็นอาการศิระเขาก็ยิ่งรู้สึกผิด
“ปล่อยเถอะพฤกษ์ ฉันจะนอน” ศิระบอกปัดเมื่อพฤกษ์ดึงเขาเข้าไปใกล้ซะจนตัวชิดกัน
“กลัวฉันจะทำอะไรเหรอ” พฤกษ์ถามพลางโน้มหน้าลงมาใกล้
“เปล่า” ศิระปฏิเสธพลางเบือนหน้าหนี แล้วออกแรงดันตัวพฤกษ์
“เปล่าแสดงว่าไม่กลัว” พฤกษ์เอ่ยขึ้นอีก ศิระจึงอดไม่ได้ที่จะมองค้อน แต่แค่ชั่ววูบเดียวเท่านั้นที่เขาสบตาพฤกษ์ สิ่งที่เขาไม่คาดคิดมันก็เกิดขึ้นจนทำให้ใจสั่น เมื่อริมฝีปากอุ่นๆของพฤกษ์ประกบที่ริมฝีปากเขาที่กำลังจะเอ่ยคำพูดที่คิดไว้ สัมผัสพฤกษ์ไวเกินกว่าที่เขาจะตั้งตัว ปากและลิ้นของพฤกษ์เล่นงานเขาจนเขาตั้งตัวไม่ติด พฤกษ์เหมือนรู้ว่าคนที่เขากำลังเล่นงานอยู่จะทรงตัวไม่ไหว จึงถอนปากออกมาแล้วเอ่ยถาม
“ทำไมต้องสั่นขนาดนี้ด้วย”
“ใครจะไม่สั่น นี่มันโรงพยาบาล นายมาทำแบบนี้ เกิดใครมาเห็นเข้าคิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น” ศิระเถียงพลางยันตัวให้ออกห่างจากคนที่ทำให้สติหลุดลอย

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #156 เมื่อ09-01-2008 14:36:55 »

เกือบจะเช้าเมษายังคงนั่งครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ตอนที่เขาไปตามตัวพฤกษ์ที่โรงพยาบาล เด็กหนุ่มเริ่มร้อนรนเมื่อไม่สามารถพาพฤกษ์ออกมาจากที่นั่นได้ ขนาดศิระออกปากไล่ แทนที่พฤกษ์จะมากับเขา เจ้าตัวกลับบอกจะอยู่เฝ้าศิระต่อ เขากำลังจะตกเป็นรองคนอย่างศิระแล้วเขาจะมองหน้าคนรู้จักหลายๆคนที่เคยป่าวประกาศบอกว่าพฤกษ์คือคนที่เขาเลือกจะคบได้ยังไง เหตุการณ์ที่ผ่านมา มันชัดเจนจนแน่ใจว่าพฤกษ์เลือกศิระ พฤกษ์กลืนน้ำลายตัวเองชัดๆ มันต้องมีหนทางสิ ที่สองคนนั่นจะผิดใจกันจนมองหน้ากันไม่ติด
   ที่โรงพยาบาล พฤกษ์ตื่นตั้งแต่เช้า เขาบอกกับศิระตอนที่นั่งคุยกันเมื่อคืนก่อนที่ต่างคนต่างหลับว่าทันทีที่ออกจากที่นี่เขาอยากจะไปเที่ยวรอบเมืองกันแค่สองต่อสองกับเจ้าตัวเพื่อทดแทนเวลาที่เขาเมินเฉยไม่ดูแล ศิระเองแม้ไม่รับปากแต่อาการเงียบเขาก็ถือ ว่านั่นเป็นคำตกลง
“ตื่นแล้วเหรอ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามยิ้มๆเมื่อเห็นคนที่นอนอยู่พลิกกายแล้วค่อยๆลืมตาขึ้นมา ศิระมองคนทักก่อนจะพยักหน้ารับแล้วยันกายลุกนั่ง
“ตื่นเช้าจัง นอนพอแล้วเหรอ” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม เห็นใจพฤกษ์เหมือนกันที่อดหลับอดนอนกับเขาหลายชั่วโมง
“จะให้ตื่นหลังคนป่วยหรือไง มาเฝ้านะไม่ได้มานอน” พฤกษ์ตอบก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและของใช้ที่ถูกเตรียมไว้ให้จากพยาบาล
“ล้างหน้าล้างตาก่อนนะ ลุกไหวมั๊ย” เด็กหนุ่มหันไปบอกคนที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วถาม ศิระรู้สึกดีอยู่ลึกๆ แต่ก็ไม่อยากคิดไกลเพราะแผลใจที่พฤกษ์กรีดไว้มันยังไม่สนิทดี
“หรือจะให้ทำให้” พฤกษ์แกล้งแหย่ ศิระจึงว่า
“ไม่ได้ป่วยเป็นอัมพาต”
“งั้นก็ลุกสิครับ”
“จะเร่งไปทำไม คนเพิ่งตื่นนะ”
“เบื่อที่นี่เต็มทนแล้ว หรือนายอยากอยู่ต่อ อยากรอเจอหน้าไอ้หมอจบใหม่นั่นใช่มั๊ยล่ะ”
“ก็ทำนองนั้น” ศิระแกล้งตอบ ทั้งๆที่ตัวเองก็เบื่อที่จะอยู่ห้องสี่เหลี่ยมนี้แทบแย่เหมือนกัน
“อย่ายั่วโมโหศิระ” พฤกษ์บอกเสียงขรึม อารมณ์ดีๆพาลจะหงุดหงิดไปกับคำพูดเมื่อครู่ ศรันย์ไม่ใช่ตาสีตาสา ถ้าศิระจะสนใจขึ้นมาจริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะดูท่านายนั่นจะเอาใจใสดูแลศิระมากกว่าเขาเสียอีก ถึงมันจะเป็นหน้าที่ของหมอเจ้าของไข้ก็เถอะ แต่เขาก็อดที่จะคิดไม่ได้
“ใครไปยั่วโมโหนาย” ศิระบอกไม่รับรู้อาการหงุดหงิดของคนฟัง
“ที่พูดเมื่อกี้ไง คิดนะโว้ย” พฤกษ์บอก ศิระมองสบตาอย่างนึกสนุก ถ้านายนี่แคร์คำพูดเขาจริงๆมันก็น่าแกล้งน้อยอยู่ซะเมื่อไหร่ล่ะ ทำกับเขาไว้ก็เยอะ เอาคืนซักหน่อยเถอะน่า
“คิดก็เรื่องของนายสิ เราไม่มีอะไรเกี่ยวกันแล้วนี่”
“พูดงี้หมายความว่าไง”
“ก็อย่างที่พูด”
“ก็แล้วมันหมายความว่าไงล่ะ”
“ขี้เกียจอธิบาย พูดแค่นี้ไม่เข้าใจ ก็เรื่องของนาย”
“ศิระ” พฤกษ์ได้ร้องเรียกตามหลังเมื่อศิระลุกเดินมาแย่งของในมือเขาเดินหายเข้าไปในห้องน้ำเมื่อพูดประโยคสุดท้ายจบ  ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกอีกครั้ง ศิระก้าวออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวที่พันกายเพียงผืนเดียว รู้สึกแปลกนิดๆที่เห็นพฤกษ์จ้องมองเขาเหมือนสำรวจร่างกายเปล่าเปลือยท่อนบนที่เขาไม่เคยเปลือยให้ใครเห็น
“มองอะไร” เด็กหนุ่มตวาดถามเมื่อเห็นว่าพฤกษ์มองตัวเองนานเกินไป
“เปล่า” พฤกษ์ตอบก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ถูกเตรียมไว้ให้อีกเช่นกัน มันเป็นเสื้อผ้าชุดเดิมของศิระที่ถูกซักแล้วเรียบร้อย
“ที่นี่เขาดูแลดีเหมือนกันนะ” เด็กหนุ่มเฉเปลี่ยนเรื่องทั้งๆที่ภายในรู้สึกหวงแหนคนที่ยืนเปลือยท่อนบนขึ้นมาอย่างประหลาด ศิระดูดีในแบบของคนที่น่าจะดูแลตัวเองอยู่ไม่น้อย จนทำให้เขาอดนึกถึงวันแรกที่เจอไม่ได้ เด็กหนุ่มเซอร์ๆวันนั้นกับเด็กหนุ่มที่ยืนผิวขาวละเอียดตรงหน้าตอนนี้ มันเหมือนคนละคนกัน จนต้องเผลอคิดว่า ถ้าคนๆนี้กลายไปเป็นคนของคนอื่น เขาคงอดรู้สึกเสียดายขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ใส่ซะ” พฤกษ์เดินมายื่นเสื้อผ้าให้คนที่เขาสำรวจร่างกายด้วยสายตาเมื่อครู่ กลิ่นหอมจางๆจากเนื้อตัวของศิระ ทำให้เขายิ่งหวงเจ้าตัวขึ้นมาจนไม่อยากให้ใครเข้ามาเห็นสภาพเปลือยท่อนบนแบบนี้
“นายไม่อาบเหรอ” ศิระรับเสื้อผ้าตัวเองมาถือไว้ในมือแล้วเอ่ยถามคนยื่นให้เมื่อมองดูแล้วว่าเจ้าตัวยังอยู่ในชุดเดิม
“ไม่อ่ะ ไปอาบที่โรงแรมดีกว่า” พฤกษ์บอก ศิระพยักหน้าเออออ แล้วหันไปจัดการสวมเสื้อผ้าตัวเองเงียบๆโดยที่พฤกษ์ยังมองอยู่ห่างๆ



ไม่มีคีย์บอร์ด :m15: :m15:ขาเดี้ยงไม่มีปัญญาออกไปซื้อ :m15: :m15: :m15: :m15:

fc_uk

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #157 เมื่อ09-01-2008 14:49:44 »

^
^
^
^

เดี๋ยวให้ขี่หลัง 

:oni2: :oni2:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #158 เมื่อ09-01-2008 15:04:38 »

ตามฟ๊อกซ์มาติดๆ
รออ่านด้วยคนนะ :m1:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #159 เมื่อ09-01-2008 15:58:05 »

ลุ้นให้เข้าใจกันไวๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
« ตอบ #159 เมื่อ: 09-01-2008 15:58:05 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #160 เมื่อ09-01-2008 15:58:38 »

อัพบ่อย ๆ นะครับ ชอบ ๆ เรื่องนี้ครับ  :m1: :m1:

DekDoy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #161 เมื่อ09-01-2008 17:45:29 »

 :m1: :m1: :m1:

ใกล้จบแล้วเหรอคับ  โคตรชอบเรื่องนี้

มีโครงการโพสเรื่องไหนต่ออ่ะคับ

(อยากอ่านดรีมอ่ะ)

 :m13:

viva

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #162 เมื่อ09-01-2008 18:55:54 »

คีย์บอร์ดเดี้ยงเป็นสาเหตุของการไม่พูดอะไรเลยในไฮ5วีปะแอม 555 :oni1:
ฟ๊อกซื้อแล้วส่งไปให้แอมดิ จะให้ขี่หลังทำไม

รออ่านนะจ๊ะ  :m1:

ออฟไลน์ life_fracture

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +518/-4
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #163 เมื่อ09-01-2008 22:51:41 »

บ้านอยู่ไหนจ๊ะ
เดี๋ยวจ้างพี่วินไปรับ :m13:

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #164 เมื่อ09-01-2008 23:13:55 »

เมษา น่ากลัวนะเนี่ย นายเอกทั้งสอง จะต้องเผชิญ ปัญหาอะไรต่อไปอีกเนี่ย  :เฮ้อ: :m15:

fc_uk

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #165 เมื่อ09-01-2008 23:40:29 »

คีย์บอร์ดเดี้ยงเป็นสาเหตุของการไม่พูดอะไรเลยในไฮ5วีปะแอม 555 :oni1:
ฟ๊อกซื้อแล้วส่งไปให้แอมดิ จะให้ขี่หลังทำไม



หึหึ อิจฉาล่ะสิ เดี๋ยวให้ขี่ด้วย เอาป่ะ  :m13: :m13:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #166 เมื่อ10-01-2008 10:05:30 »

คีย์บอร์ดเดี้ยงเป็นสาเหตุของการไม่พูดอะไรเลยในไฮ5วีปะแอม 555 :oni1:
ฟ๊อกซื้อแล้วส่งไปให้แอมดิ จะให้ขี่หลังทำไม

รออ่านนะจ๊ะ  :m1:
ฟ๊อก :m1: :m13: :m1: :m13:

vi :m23: :m23: :a2:

DekDoy รอพี่บอยออนก่อนนะ

ใช้พี่ใช้เชื้อ พิมพ์ข้อความให้ :m23: :m23:

viva

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #167 เมื่อ10-01-2008 10:15:03 »

คีย์บอร์ดเดี้ยงเป็นสาเหตุของการไม่พูดอะไรเลยในไฮ5วีปะแอม 555 :oni1:
ฟ๊อกซื้อแล้วส่งไปให้แอมดิ จะให้ขี่หลังทำไม



หึหึ อิจฉาล่ะสิ เดี๋ยวให้ขี่ด้วย เอาป่ะ  :m13: :m13:

ไม่เอา เด๋วโดนฟ้อนเล็บ  :m20:

วีจะรอวันที่แอมพูดกับวีนะ  :m13:

three

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #168 เมื่อ10-01-2008 10:37:52 »

เป็นกำลังใจให้นะครับขอให้หายป่วยไวๆนะครับผม :pig4:

niph

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #169 เมื่อ10-01-2008 18:54:08 »

เอาแล้วซิ
เมษาไม่รามือ
แถมศิระก็ยังไม่รู้ว่าทั้งหมดที่เข้าใจน่ะ ผิดมาตลอด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
« ตอบ #169 เมื่อ: 10-01-2008 18:54:08 »





ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #170 เมื่อ10-01-2008 21:45:32 »

เมื่อไหร่จะมาอัพน๊า รออยู่นะครับ  :m1: :m1:

ออฟไลน์ life_fracture

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +518/-4
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #171 เมื่อ10-01-2008 23:44:30 »

  :m22:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
«ตอบ #172 เมื่อ11-01-2008 00:54:59 »

ยืมคีย์ชาวบ้านเขามาเล่น อิอิ รอฟ๊อกไม่ยอมซื้อให้ซะที ขายังเดี้ยงอยู่ ขี่รถไปซื้อคีย์ไม่ถนัด

มีแต่คนเรียกร้องให้โพสตอนใหม่แฮะ เอ้า ลงก็ลง ตามคำขอจัดห๊ายยยยย


++++++++++++++++

#16


ศิระนั่งมองพฤกษ์เงียบๆขณะที่พฤกษ์เข้าไปจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้ เด็กหนุ่มลอบถอนหายใจก่อนจะนั่งก้มหน้านิ่ง ในใจก็คิดว่าสุดท้ายตัวเองก็ต้องตกเป็นภาระของคนที่ไม่อยากที่จะเกี่ยวข้องอีกจนได้
“จะออกจากที่นี่แล้วเหรอ” หนึ่งเสียงที่ทักขึ้นทำให้เขาต้องแหงนหน้าขึ้นมอง เมษานั่นเองที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม” เด็กหนุ่มตอบ ก่อนจะละสายตามองไปที่อื่นเพราะไม่อยากสนใจเมษา แต่ก็ต้องหันกลับมาอีกจนได้เมื่อได้ยินประโยคที่ฝ่ายนั้นเอ่ยขึ้น
“ดีนะ รักษาฟรี อยู่ๆก็มีคนออกค่าใช้จ่ายให้”
“แล้วไง” คนได้ยินเอ่ยถาม เมษายักไหล่ก่อนจะหันไปมองที่พฤกษ์ที่กำลังคุยอยู่กับเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ แล้วพูดต่อ
“อย่าเพิ่งหลงดีใจไปล่ะที่พฤกษ์ทำแบบนี้กับนาย” ฟังจบศิระยืนขึ้นผ่อนลมหายใจก่อนจะบอกออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ทำไมฉันต้องดีใจ ในเมื่อฉันไม่ได้หวังว่าจะได้อะไรจากคนของนาย”
“ไม่ได้หวังหรือหมดหวังกันแน่”
“จะคิดอย่างนั้นก็ได้ไม่ว่ากัน”
“ฉันไม่จำเป็นต้องคิดหรอก ทุกอย่างมันชัดเจนอยู่แล้วว่าที่พฤกษ์ทำทุกอย่างก็แค่รู้สึกผิดที่เขาปล่อยให้นายตกสภาพหมดเนื้อหมดตัว” ศิระกำลังจะโต้ตอบคำพูดของเมษาแต่ช้ากว่าพฤกษ์ที่เดินเข้ามายืนข้างๆก่อนจะมองเขาและเมษาสลับกัน แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็เลือกที่จะทักเมษาก่อน
“มาอยู่นี่ได้ไงเมษา”
“มาไม่ได้เหรอครับ” เมษาย้อนถาม พฤกษ์จึงถามถึงปอนด์
“แล้วพวกไอ้ปอนด์ล่ะครับ”
“พวกเขาก็ออกไปเที่ยวตามประสาคงไม่มีใครมาต่างจังหวัดเพื่อที่จะเข้าออกโรงพยาบาลหรอกครับ” เมษาประชด พฤกษ์นึกรำคาญเลยหันมาเอ่ยกับศิระพลางยื่นใบเสร็จที่ตัวเองเป็นออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
“ไปรับยาเถอะศิระ”
“นายจ่ายไปเท่าไหร่” ศิระถาม เพราะไม่สบายใจ มันไม่ใช่เรื่องที่พฤกษ์จะต้องมารับผิดชอบชีวิตเขา
“ที่เห็นตามบิลนั่นแหละ แล้วถามทำไมจะหามาคืนหรือไง” พฤกษ์ถามกลับ คนถามจึงรับกระดาษที่ตัวเองไม่กล้าดูตัวเลขมาเงียบๆ เมษาจึงถือโอกาสแขวะ
“ไงมีปัญญาจ่ายเองหรือเปล่า” สองหนุ่มที่ยืนอยู่ด้วยหันไปคนพูดตัวแทบจะพร้อมกัน พฤกษ์นึกฉุน เมษาท่าจะก่อพายุในใจศิระ พายุที่เขากำลังพยายามจะผ่อนมันให้เบาแรงที่สุด
“เพื่อนของคุณคงรอคุณอยู่นะเมษา” เด็กหนุ่มชิงเอ่ยขึ้นก่อน ก่อนที่ศิระจะทันได้พูด
“ทุกคนรอคุณต่างหากล่ะพฤกษ์” เมษาสวนกลับ เป็นศิระที่ชะงัก พฤกษ์ไม่น่ามาเสียเวลากับเขา จริงของเมษา ทุกคนตั้งใจมาเที่ยวคงไม่มีใครอยากมาโรงพยาบาลกัน
“นายควรจะไปหาพวกของนายได้แล้วล่ะพฤกษ์” เจ้าตัวเอ่ยขึ้น พฤกษ์หันมามองหน้าอย่างไม่ค่อยพอใจศิระยังคิดว่าเขาเป็นพวกนั้นอยู่ กลุ่มคนที่ไม่มีน้ำใจแม้ที่จะมาเยี่ยมคนที่เดินทางมาด้วยกันเลยซักครั้ง
“ทำไมนายพูดแบบนี้ศิระ ฉันไม่ใช่คนพวกไหน ฉันคิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ”
“แค่นี้ก็ตีความหมายไม่ออกเหรอพฤกษ์” เมษารีบแทรกขึ้น เขาทำให้สองคนเริ่มมีรอยร้าวได้จะปล่อยให้โอกาสเสียไปได้ยังไง คำพูดไหนที่พอจะกรีดรอยร้าวให้ลึกลงได้เขาก็พร้อมที่จะทำมันเดี๋ยวนี้แหละ
“ความหมายบ้าบออะไรเมษา ผมว่าคุณกลับไปเถอะ ผมจะไปกับศิระ”
พฤกษ์หันมาบอกเสียงแข็ง แทนที่เมษาจะรู้สึก เปล่าเลย เจ้าตัวกลับยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่เตรียมมาอย่างดี
“เลิกโง่ทีเถอะพฤกษ์ คุณทำกับศิระขนาดไหน คุณก็น่าจะรู้ คุณคิดว่าคนๆหนึ่งที่โดนคนรักกลั่นแกล้งจนต้องเข้าโรงพยาบาล จะไม่รู้สึกอะไรเหรอ”
“หมายความว่าไงเมษา” ศิระชิงเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าไม่ดี เมษามาในท่าทีแบบนี้ มันต้องมีอะไรพาดพิงถึงเขาแน่
“พอเถอะศิระ เลิกเล่นละครได้แล้ว เมื่อกี้นายพูดเองนี่ ว่าถ้าไม่ติดว่าต้องอาศัยให้พฤกษ์ช่วยค่ารักษาที่นายนอนอยู่ที่นี่ นายคงจะเล่นงานพฤกษ์ให้รู้สึกกับที่ทำกับนายเอาไว้”เมษาพูดต่ออย่างไม่สนใจว่าศิระกำลังอึ้งในสิ่งที่ได้ยินจนพูดอะไรไม่ออก พฤกษ์เห็นศิระเงียบก็เริ่มใจหวิว ถ้าเมษาพูดจริง ก็เท่ากับว่าศิระก็ร้ายไม่ใช่เล่น ตกลงเขากำลังโนใครปั่นหัวกันแน่
“จะไม่แก้ตัวหน่อยเหรอศิระ” เมษาลอยหน้าถามต่อ ยิ่งเห็นสองคนมองหน้ากันเหมือนกำลังค้นหาความจริงในกันและกันเด็กหนุ่มก็ยิ่งสะใจ ต่อให้ศิระแก้ตัวยังไง มันก็คงจะผสานรอยร้าวที่เขากรีดไว้ไม่ได้สนิทนักหรอก
“พูดอะไรบ้างสิศิระ” พฤกษ์เองเป็นคนเอ่ยถามขึ้นก่อน แต่จากน้ำเสียงที่ได้ยินศิระถึงกับแอบถอนหายใจ คำพูดของคนรอบกายยังคงมีผลต่อจิตใจคนๆนี้อยู่ จากแวบแรกที่จะปฏิเสธในสิ่งที่โดนใส่ไฟ เด็กหนุ่มเปลี่ยนใจเป็นไม่เอ่ยอะไรออกมา ถ้าพฤกษ์ยังอ่อนไหวกับลมปากใครๆแบบนี้อยู่อีก พูดอะไรไปก็ไร้ประโยชน์
“ว่าไงล่ะศิระ” เมษาย้ำถาม เขาอ่านเกมไม่ผิดหรอก จากที่นั่งตรึกตรองทั้งคืน ดูท่าจะไม่เสียเวลาเปล่า
“ก็ไม่รู้จะพูดอะไร นายพูดหมดแล้วนี่” ศิระเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะเดินไปยังเคาน์เตอร์รับยา พฤกษ์ถึงกับใจสั่น ไม่น่าเชื่อว่าศิระจะร้ายกับเขาได้ถึงขนาดนี้
“ตาสว่างหรือยังพฤกษ์” เมษาเอ่ยขึ้นเสียงเยาะหยัน ที่เห็นผลงานตัวเองเป็นที่น่าพอใจ พฤกษ์กำลังมองตามหลังศิระด้วยสายตาผิดหวัง และที่สุดเจ้าตัวก็เดินตามไป เมื่อเห็นศิระรับยาเสร็จและกำลังเดินออกจากเคาน์เตอร์
“ทำอะไรน่ะพฤกษ์” ศิระเอ่ยถามอย่างตกใจเมื่อถุงยาในมือที่เพิ่งรับมาโดนมือของพฤกษ์กระชากไปเมื่อเจ้าตัวเดินมาถึงเขา
“พูดกันให้เคลียร์ก่อนซิ” พฤกษ์บอกเสียงเครียด โดยที่ศิระไม่รู้ว่าตัวเองกำลังโดนมองในแง่ร้ายอีกครั้ง
“คนของนายล่ะ” เด็กหนุ่มเลี่ยงถามถึงเมษาที่หายตัวไปแล้ว นึกหวั่นใจกับท่าทีแข็งกระด้างของพฤกษ์
“ถามหาเขาทำไม”
“ฉันคิดว่านายจะกลับไปด้วยกัน”
“ที่เมษาพูดไม่จริงใช่มั๊ย” พฤกษ์เปลี่ยนเรื่อง ศิระส่ายหน้า
“จริงไม่จริงก็น่าจะคิดเองได้ ทำไมต้องให้พูดด้วย”
“ก็นายก็บอกสิว่ามันไม่จริง”
“แล้วถ้ามันจริงล่ะ”
“ก็เท่ากับนายหลอกฉัน”
“ก็โง่เองนี่”
“นี่นายยอมรับแล้วใช่มั๊ยว่า ที่นายอ่อนข้อให้ฉันเพราะนายกลัวว่าจะไม่มีคนออกค่ารักษาให้นาย”
“ฉันจะไม่พูดไม่อธิบายอะไรทั้งนั้น พฤกษ์ ขอยาคืนด้วย” ศิระตัดบทที่ไม่อยากจะอธิบายอะไรเพราะคิดว่ามันไม่มีประโยชน์ ยังไงเสียเขาก็ไม่กล้าที่จะกลับไปยังจุดเดิมแต่พฤกษ์กลับฉุนขาดเพราะคิดว่าศิระยอมรับกับเขาแล้วว่าสิ่งที่เมษาพูดเป็นเรื่องจริง ด้วยอารมณ์โมโหที่เหมือนโดนหลอก เด็กหนุ่มฟาดถุงยาลงกับพื้นต่อหน้าต่อตาคนที่ยื่นมือขอจนหล่นกระจัดกระจาย ก่อนจะเอ่ย
“ไม่ได้เป็นคนจ่ายเองก็เก็บเอาตามพื้นละกัน” พูดจบสองขาก็ก้าวข้ามถุงยาที่วางกองที่พื้น ศิระถึงกับตัวชาที่ถุงยาบางส่วนโดนเหยียบจนเละไปต่อหน้าต่อตาก่อนที่คนเหยียบจะก้าวเดินฉับๆหนีเขาไปโดยไม่หันมามองเขาเลยซักนิด


ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
«ตอบ #173 เมื่อ11-01-2008 01:03:45 »

ศิระนั่งมองถุงยาที่ยับป่นปี้ในมืออย่างรู้สึกสมเพชตัวเองความรู้สึกว้าเหว่โถมเข้ามาทักทายอีกครั้ง เด็กหนุ่มนึกอยากหนีจากที่นี่ นึกอยากหนีไปให้พ้นจากสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยบางทีการกลับไปสังคมเดิมๆในที่ ที่เคยอยู่เขาอาจจะไม่อ่อนแออย่างตอนนี้ก็เป็นได้ แต่เขาจะกลับไปที่ตรงนั้นได้ยังไง ในเมื่อตอนนี้เขาเหมือนอยู่ตัวคนเดียว อยู่ในที่ที่ไม่รู้จักใคร ถุงยายับๆถูกหย่อนลงถังขยะใกล้ๆ คนหย่อน นั่งหลับตานิ่งนึกหาหนทางที่จะพาตัวเองไปจากที่นี่ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อมีเสียงเรียก
“ศิระ”
“หมอเองเหรอครับ” คนโดนเรียกทักคนที่เดินมาหา ทั้งๆที่รู้จักแล้วแต่เจ้าตัวก็ยังไม่คุ้นเคยที่จะเรียกหมอหนุ่มที่หยุดอยู่ตรงหน้าว่า ศรันย์ เฉยๆ
“แล้วนึกว่าใครล่ะครับ” ศรันย์ถามล้อๆ ศิระหมดสถานภาพเป็นคนไข้ของเขาตั้งแต่ตอนที่เจ้าตัวโดนถอดสายน้ำเกลือออกตั้งแต่เมื่อคืน เขาคิดว่าป่านนี้ศิระคงจะออกจากที่นี่ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ทำไมยังมานั่งอยู่ในเขตโรงพยาบาลอยู่อีก ทั้งๆที่เวลามันวิ่งมาจนถึงรอบที่เขาต้องเข้าเวรดึกแล้ว
“ไม่เห็นตอบผมเลยว่ารอใครอยู่” หมอหนุ่มถามซ้ำเมื่อคนตรงหน้าเงียบ
“เปล่าครับ” ศิระตอบ พลางขยับที่ให้เมื่อเห็นศรันย์ทำท่าจะนั่งลงข้างตัว
“ไม่มีคนไข้เหรอครับ” เด็กหนุ่มถามเมื่อศรันย์นั่งอยู่ข้างๆแล้ว
“ผมขยันไง มาก่อนเวลาที่จะไปตรวจใคร เห็นอดีตคนไข้นั่งอยู่เลยแวะเข้ามาดู เผื่อไข้จะตีกลับจะได้จับฉีดยาทัน” ศรันย์ยังคงพูดติดตลกตามเดิมจากแววตาและสีหน้าเปื้อนยิ้มที่เห็นคนฟังเลยอดที่จะยิ้มจางๆไม่ได้ก่อนที่จะเริ่มสนทนา
“ท่าทางหมออารมณ์ดีนะครับ”
“อารมณ์ร้อนจะดูแลคนป่วยได้ไงล่ะครับ ว่าแต่ทำไมคุณมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ ผมคิดว่าคุณไปไหนถึงต่อไหนแล้ว”
“นั่นสิผมน่าจะไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”
“พูดแปลกแฮะ มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ไม่มีอะไรครับ ไข้ผมคงตีกลับมั้งเลยพูดเพ้อเจ้อไปหน่อย”
“อืม น่าคิด สงสัยผมรักษาไม่ดี แย่จัง”
“หมอรักษาดีครับ แต่ผมดื้อยาเอง ยาพิษอีกต่างหาก”
“ผมตามไม่ทันแล้วแฮะ ท่าทางคุณต้องมีอะไรให้คิดแน่ๆ ไหนๆผมก็เคยเป็นเจ้าของไข้คุณ ในหลายข้อของจรรยาบรรณของหมอคือเก็บความลับได้ ผมก็มีคุณสมบัติข้อนั้นนะครับ” ศิระหันมองทันทีที่ศรันย์เอ่ยจบ เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสีหน้าจริงจังของคนข้างตัว เด็กหนุ่มฉุกคิด ไหนๆก็หมดหนทางที่จะไปจากที่นี่แล้ว พฤกษ์คงจะไมใยดีเขาอีก แต่ถึงนายนั่นจะกลับมาแสดงความห่วงใย เขาก็หมดใจที่จะยอมรับมัน เป็นไงเป็นกันสิ จะลองบากหน้าขอความช่วยเหลือจากคนเคยรักษาซักครั้ง ไม่ตายคงทดแทนน้ำใจให้ได้
“ว่าไงครับ” หมอหนุ่มถามอีก เหมือนเปิดทางให้คนที่เหมือนน้ำท่วมปากที่เอาเข้าจริงๆก็อึกๆอักๆไม่รู้จะเริ่มตรงจุดไหนที่จะบอกความเป็นมาของตัวเองที่ต้องมานั่งสิ้นหนทางอยู่ในที่ ที่หลายคนไม่อยากเข้ามาสัมผัส
“มันอาจจะฟังดูแย่ซักหน่อยนะครับ” ในที่สุดก็เกริ่นนำก่อนจะถ่ายทอดเรื่องราวตั้งแต่ที่ตัวเองตัดสินใจหันหลังให้เพื่อนให้งานเพื่อตามพฤกษ์มาที่นี่

   พฤกษ์นอนพลิกกายไปมาในเตียงกว้าง ในใจเริ่มกระวนกระวาย เขาทำอะไรลงไป ศิระอยู่ที่นี่ก็เหมือนไม่มีใคร เด็กหนุ่มดีดตัวลุกขึ้นนั่งเมื่อนึกห่วงคนที่ตัวเองทำนิสัยแย่ๆใส่ ถ้าเมื่อตอนสายศิระแค่เอ่ยออกมาคำเดียวว่าสิ่งที่เมษาพูดไม่เป็นความจริงเขาก็พร้อมที่จะเชื่อโดยไม่แคลงใจซักนิด เขาก็ไม่อยากที่จะเป็นคนหูเบา แต่ทำไมคนของเขาต้องทำท่าทีไม่แคร์จิตใจเขาเลย จะไม่ให้รู้สึกอะไรมันก็อดไม่ได้ ที่เขาเดินจากมาก็ใช่ว่าเขาจะมีกะจิตกะไจไปสนุกต่อกับเมษาและกลุ่มเพื่อน ได้แต่ขังตัวเองอยู่ในห้องจนมืดแบบนี้
   “ศิระ ขอให้นายยังอยู่ที่เดิมเถอะ” ร่างสูงลุกขึ้นคว้าแจ็คเก็ตสวมคลุมเพื่อไล่ความหนาวที่คิดว่าคงจะเจอข้างนอก ตรวจดูความเรียบร้อยของตัวเองเสร็จรีบเปิดประตูออกไปตามหาคนของตัวเองอีกครั้ง

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
«ตอบ #174 เมื่อ11-01-2008 01:12:10 »

“อ้าวพฤกษ์มึงจะไปไหน” ปอนด์ร้องทักเพื่อนสนิทที่เริ่มห่างขึ้นเรื่อยๆเมื่อเจ้าตัวเดินแกมวิ่งสวนทางตรงทางเข้าโรงแรมขณะที่ตัวเองและเพื่อนกลับจากที่ออกไปเที่ยวกัน
“หาศิระ” พฤกษ์หยุดตอบเมษาได้ยินจึงรีบพูดขึ้น
“ป่านนี้นายนั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วจะไปหามันที่ไหนพฤกษ์”
“ศิระไม่มีอะไรติดตัว จะไปไหนได้ไง คงอยู่โรงพยาบาลแหละ”
“ทะเลาะกันมาเหรอ” ปอนด์ถามเสียงอ่อน ชักเห็นใจที่เห็นเพื่อนวิ่งเข้าวิ่งออกกับความรักครั้งนี้
“นิดหน่อย กูว่าจะพาศิระกลับกรุงเทพแล้วล่ะ พวกมึงถ้ายังสนุกก็เที่ยวต่อกันตามสบาย” ปอนด์ไม่แย้งใดๆ เมษาเปลี่ยนไปจนเขานึกเอนเอียงอยากให้พฤกษ์ลงเอยกับศิระด้วยดี ถ้ามีโอกาสเขาก็อยากที่จะปรับความเข้าใจและผสานรอยร้าวที่เขาเป็นคนก่อไว้ในใจศิระอยู่เหมือนกัน
“รีบไปเถอะนี่มันก็เย็นแล้วด้วย นายนั่นไม่มีอะไรติดตัว มึงทิ้งมาได้ไง”
พฤกษ์มองเพื่อนตัวเองอย่างนึกแปลกใจ แต่ก็ไม่มีเวลาที่จะสนใจ เมื่อนึกตามในสิ่งที่ได้ยิน ใช่สิ ศิระอยู่อย่างไม่มีอะไรติดตัวป่านนี้จะอยู่ยังไงเขาเป็นคนรักที่ไม่ได้เรื่องอีกจนได้

   ศรันย์หยุดชะงัก มองคนที่เดินแกมวิ่งกลับเข้ามาในโรงพยาบาล ก่อนที่จะยืนเก้ๆกังๆมองซ้ายขวา เหมือนหาอะไรซักอย่างแต่ไม่รู้จะเริ่มไปถามใคร เลยตัดสินใจเดินเข้าไปหา
“ญาติศิระหรือเปล่าครับ” หมอหนุ่มถามหยั่งเชิง พฤกษ์ได้ยินเลยหันมามองก่อนจะตอบห้วนๆ เพราะยังติดใจที่หมอนี่ทำเขาเป็นคนแปลกหน้าสำหรับศิระไปช่วงหนึ่ง
“เพื่อนครับ ไม่ใช่ญาติ”
“อืม มิน่าล่ะถึงห่วงศิระได้แค่นี้”
“หมายความว่าไง”พฤกษ์ถามเมื่อศรันย์พูดให้คิด แต่คิดตามไม่ทัน
“ก็ ปล่อยให้เจ้าตัวเขานั่งไม่มีที่ไปอยู่ในที่ที่ใครๆก็ไม่อยากมา” ศรันย์ตอบ จากที่รับรู้เรื่องราวจากปากศิระ เด็กหนุ่มตรงหน้าไม่น่าที่จะได้เจอกับเจ้าตัวอีกเลยให้ตายเถอะ ผู้ชายอะไรไม่มีความหนักแน่นซักนิด
“แสดงว่าศิระยังอยู่ที่นี่ใช่มั๊ยครับ” พฤกษ์ออกอาการดีใจ แต่แล้วก็ต้องใจหายเมื่อศรันย์ส่ายหน้าแล้วบอก
“ผมว่าป่านนี้ศิระคงพ้นเขตจังหวัดนี้ไปแล้วล่ะครับ”
“ศิระจะไปไหนได้ไงในเมื่อ.......”
“ในเมื่ออะไรครับ” ศรันย์รีบถามสวนเมื่อพฤกษ์ชะงักคำพูดตัวเองไว้
“ไม่มีเงินติดตัวซักบาทใช่มั๊ยครับ” หมอหนุ่มต่อประโยคที่คิดไว้ให้ และมันก็จี้ที่ใจคนฟังจนถึงกับก้มหน้า
“ผมถึงบอกไงว่าคุณก็แค่เพื่อนที่ห่วงเพื่อนได้แค่คนรู้จัก” ศรันย์บอกอีก พฤกษ์ใช้มือตัวเองลูบหน้าถ้าเดาไม่ผิดศิระคงได้รับความช่วยเหลือจากคนตรงหน้า เขาคงกลายเป็นคนรักที่ดีไม่ได้จริงๆ
“ศิระรบกวนคุณหรือเปล่า”
“เปล่า”
“เปล่าแล้วศิระจะไปไหนมาไหนได้ยังไง”
“แล้วทำไมคิดว่าศิระจะรบกวนผมล่ะ”
“ผมว่าผมรู้จักเขาดีพอ ศิระไม่เคยขอร้องอะไรใครง่ายๆ”
“ถ้างั้นก็คงใช่”
“เท่าไหร่”
“ทำไมครับ”
“ผมจะคืนให้”
“ไม่ต้องลำบากหรอกครับ ผมไม่รีบร้อนขนาดนั้น เรื่องของผมกับศิระ เราเคลียร์กันได้ ขอตัวนะครับ” พฤกษ์ตัวชาเมื่อศรันย์เดินจากไปหลังจากพูดจบ เขากำลังจะกลายเป็นส่วนเกินอย่างนั้นเหรอ มันคงไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะศิระ




อะไรกันนักกันหนาว๊าไอ่คู่นี้เดี๋ยวก็โน่นเดี๋ยวก้นี่

พฤกษ์ก็หูเบาเชื่อคนง่ายซะงั้น    :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ตามลุ้นกันใหม่ตอนหน้าละกัน เรื่องราวของสองคนนี้ยังคงดำเนินต่อไป




คิดถึงทุกคนนะ เอาไว้ได้คีย์บอร์ดจะมาคุยด้วยใหม่ละกัน

ตอนนี้ตามไรไม่ทันเลยในวงการเจร๊อค ไลฟ์LSที่วีบอกก็อยากดูเนตไม่แรงโหลดไม่ได้

รอส่วนบุญจากวีละกัน อิอิ  ส่วนงานลุงโยS.K.I.N ได้ฟังสักวันน่า

ฟ๊อกฟังแล้วอย่าลืมมารายงานกันนะ

DekDoy

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
«ตอบ #175 เมื่อ11-01-2008 01:15:11 »

 :m15:

สงสารศิระ

myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
«ตอบ #176 เมื่อ11-01-2008 01:23:27 »

โอย อะไรกันนักหนา คู่นี้น่ะ

สงสารทั้งศิระ และ พฤกษ์

พฤกษ์ ก็หูเบาและเชื่อคนง่ายเกินไป

เห้อ... :m15:

ออฟไลน์ artday

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
«ตอบ #177 เมื่อ11-01-2008 05:51:11 »

 o7ตามทันแล้วครับ   :m15: สงสารปอนจริงเห็นกงจักรเป็นดอกบัว :m15:

wutwit

  • บุคคลทั่วไป
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
«ตอบ #178 เมื่อ11-01-2008 08:45:37 »

เฮ้อ เหนื่อยแทนคู่นี้เค้าจริงๆอะ เมื่อไหร่ศิระจะสมหวังซะที ไอ้เมษา แกกกกกกกกกก :เตะ1:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
«ตอบ #179 เมื่อ11-01-2008 09:17:38 »

เอาเข้าไป ............................... จะเข้าใจผิดกันไปถึงไหนเนี่ย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด