- 2 - เมื่อ ดร. และ ผศ. กลับลงไปนั่งเป็นผู้สังเกตการณ์ข้างเวที ซึ่งรุ่นพี่รีบเสริฟน้ำเย็นพร้อมผ้าเย็นให้แกซับเหงื่ออย่างเร่งด่วน คงเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี ทั้งที่แต่ละคน
หน้านี่อมยิ้มกันกระจาย ไม่เว้นแม้แต่พี่ชลประธานคณะ ยังเป็นไปกับเค้าด้วย
จากนั้นไอ้พี่แซคและไอ้เหยี่ยวรั่ว ที่เพิ่งก่อคดีแหกหน้ารองคณบดีไปหยกๆ ก็ขึ้นดำเนินรายการด้วยกัน
ถือไมค์คนละตัวบนเวที ท่าทางไอ้รั่วมันไม่ได้รู้ตัวเลยว่าได้สร้างวีรกรรมไว้ ชื่อเสียงมันคงถูกจารึกลงประวัติศาสตร์ของคณะ
ให้รุ่นน้องเอาไปเป็นตำนานกันเลยล่ะ
“ถึงเวลาแล้วครับ ต่อจากนี้เราจะช่วยกันคัดเลือก ดาวและเดือนของคณะ เพื่อเป็นตัวแทนเข้าประกวด
ในงานเฟรชชี่ไนท์ของมหาลัย ที่จะถึงในวันเสาร์หน้านี่ น้องๆทุกคนสามารถเสนอชื่อเพื่อนที่เราคิดว่า เค้ามีคุณสมบัติเป็นตัวแทน
ของคณะเราขึ้นมากันได้เลยครับ จากนั้นเราจะใช้การยกมือโหวตเลือกกันเลย เชิญเลยครับ” สิ้นเสียงประกาศของไอ้พี่แซค
ก็มีนักศึกษาสาวใจกล้ายกมือเสนอชื่อทันที
“อรัญ ขจรเกียรติวงศ์ ค่ะ” ชื่อผมมาเป็นคนแรกเลย คนที่ยกมือเสนอเป็นเพื่อนกลุ่มของฝน ที่เข้าไปทักผมตอนมื้อเย็นนั่นแหละ
คงร๊อบบี้กันมาแล้ว
“ไม่พลาด กูกะแล้วต่อให้ไม่มีคนเสนอ พวกกูก็จะยกมือเสนอมึงอยู่แล้ว..ห่ารัน” ไอ้อั้มมันพูด
ผมหันไปยักคิ้วกวนให้มันตามนิสัย ผมมักทำประจำ ซึ่งตะเกียงเคยบอกว่าหน้าผมตอนทำแบบนี้ หล่อแบบกวนได้ใจสุดๆ
“หยาดฝน เพียงพิรุณ ครับ” เสียงผู้ชาย แถวหลังถัดจากกลุ่มผมไปสามแถว เสนอชื่อฝนขึ้นมาบ้าง
“เด็กกูขึ้นชิงแล้วพวกมึง” เป็นไอ้หยกดี๊ด๊าออกอาการทันที ที่ขวัญใจของมันมีคนเสนอชื่อ
“ดีใจจนออกนอกหน้าแล้วมึง เค้ายังไม่ได้โหวตว่าฝนจะได้สักหน่อย” เสียงสาวแตน เบรกไอ้หยก
พร้อมตวัดตาค้อนให้มันอย่างหมั่นไส้
“กูว่าฝนได้เห็นๆ ใครจะสวยเด่นเท่าไม่มีแล้ว” ไอ้หยกมันยังสปอยไม่เลิก
“แหวะ...เน่าแหละหยก” สาวพรเอากับเค้ามั้ง ก่อนจะรู้ตัวยิ้มแหย่ๆ ให้ผม เมื่อรู้สึกว่าผมมองเธอยิ้มๆ
จะมาเขินผมทำไมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย
“นิมิต?? ค่ะ / ลินลวัลย์ ครับ...บลาๆๆๆ” สรุป มีคนเสนอชื่อทั้งชายทั้งหญิงรวมกันแปดคน ชายสามหญิงห้า กระทั่งไม่มีใครเสนออีก
“ตกลงไม่มีใครเสนอแล้วนะครับ งั้นพี่ขอเชิญน้องๆที่ได้รับการเสนอชื่อออกมายืนด้านหน้าเวทีกันเลยครับ
เชิญๆ อย่านั่งนานระวังเหน็บกินตูด” พูดแล้วมีต่อท้ายบ้าบอแบบนี้ คงไม่ต้องบอกว่าเสียงใคร แค่มันเอ่ยปากก็เรียกเสียงหัวเราะ
จากพวกที่นั่งกันแล้ว ไม่เว้นแม้แต่ ดร.และผศ. ซึ่งตอนนี้คงจะทำความเข้าใจนิสัยของมันแล้วมั้ง เห็นอมยิ้มหันไปคุยกันด้วย
ไอ้ขุน ซึ่งนั่งติดกันสะกิดให้ผมลุกออกไป ผมจึงลุกขึ้นยืนก่อนจะหันมายักคิ้วยกยิ้มให้พวกเพื่อนๆ
เป็นการผ่อนคลายหยอกพวกมันเล่น แต่ผลของการกระทำที่ไม่ได้คาดมาก่อนก็ตามมาทันที
“วี๊ด!..กรี๊ดดดด!!..หล่ออ่ะ..หล่อมากกก!!” นั่นแหละครับ ดังสนั่นลั่นห้อง ไม่คิดว่าจะเป็นเป้าสายตาขนาดนี้ เล่นจ้องกันทุกการกระทำเลยงั้นสิ
คงรู้กันนะ นักศึกษาหญิงมากกว่าชายสองเท่า เพราะงั้นเสียงกรี๊ดสนั่นมาจากผู้หญิงทั้งนั้น ผมเลยต้องเดินยิ้มกว้างโชว์ลักยิ้ม
และเขี้ยวออกไปยืนรวมกับคนอื่นอย่างเท่
“พี่ว่า..ผลลัพธ์เห็นมาลิบๆ เรทติ้งแรงเกิน” ไอ้พี่แซคมันเอ่ยออกไมค์แซวผมทันที ที่เดินมาถึง
ก่อนหันหน้ากลับไปหาทุกคน ผมเหลือบมองหน้ามันมีส่งสายตาวิบวับให้ผมอีกแหนะ เวร..ตกลงมึงกะอ่อยกูทั้งผัวทั้งเมียเลยงั้น
“เอาละ ก่อนจะมีการลงคะแนนโหวต ขอให้น้องทุกคนที่ได้รับการเสนอชื่อแนะนำตัว
กับพวกเพื่อนอีกครั้ง จากนั้นพี่พรตเค้ามีคำถามให้น้องๆ ตอบ เพื่อให้เพื่อนเรานำไปประกอบการพิจารณายกมือ
โหวตให้กับพวกเรา” ไอ้พี่แซคมันยังพูดต่อ ส่วนไอ้เหยี่ยวรั่วอมยิ้มเจ้าเล่ห์ท่าทางแบบนี้คงคิดคำถามประหลาด
ตามสไตล์ของมันไว้แล้วสิ
พูดจบมันส่งไมค์ให้พวกผมทั้งแปดคนแนะนำตัวทีละคน พวกเราพากันทยอยแนะนำตัว
ได้รับเสียงกรี๊ดเสียงเชียร์กันทุกคน แต่ละคนที่ออกมาล้วนแล้วแต่หน้าตาดีเป็นทุน เท่าที่ผมให้คะแนนเองนะ
จัดอันดับหน้าตาแล้วสำหรับกลุ่มผู้ชายทั้งสามคนรวมผมด้วย ไม่ได้ครึ่งผมเลยเห่ะ เอาแค่สูสีพวกไอ้ตาร์ไอ้ชัดกลุ่มเก่า
ไอ้เหยี่ยวก็พอ แต่จะมาทาบรัศมีอันดับสามของโรงเรียนเก่า ที่ไอ้โต๋ครองแชมป์ ไอ้เหยี่ยวรองแชมป์ ส่วนผมอันดับสาม
พวกที่อยู่ตรงนี้ไม่ติดฝุ่นแหละ ทั้งส่วนสูงรูปร่างรวมส่วนที่อยู่ในร่มผ้าด้วย คิดว่าผมกินขาด
ไม่ได้หลงตัวเองหรอก ใช้สมองกุนซือเทพวิเคราะห์เอาเอง เสียงเชียร์ของผมทั้งหญิงทั้งชาย
หลังแนะนำตัวเสร็จ เล่นเอาห้องสัมมนาแทบแตกก็พอรู้ว่าผมไม่ได้พูดเกินจริง ส่วนผู้หญิงคงเสร็จฝนตามระเบียบ
ดูคู่ต่อสู้แล้วด้อยกว่าเยอะ
“พอก่อนๆ เบาเสียงได้แล้วครับ เก็บเสียงไว้กรี๊ดกับคำถามพี่ดีกว่า ตอนนี้พี่จะป้อนคำถามให้น้องๆ
ที่อยู่ตรงนี้ ตอบตามความคิดตัวเอง ส่วนกรรมการคือพวกน้องๆ ที่เตรียมโหวตเป็นคนตัดสิน ถูกใจคำตอบใครก็ยกมือโหวต
ให้กับคนนั้น
การตอบคำถามถือเป็นการลองสนามก่อนวันจริง เพราะตัวแทนของเราก็ต้องตอบคำถาม
กรรมการเหมือนกัน” ไอ้เหยี่ยวมันออกมายืนพูดกับพวกที่อยู่ด้านล่าง มีหันมาส่งยิ้มกวนโอยให้พวกผมด้วย เท่าที่ผมดู
ไม่ยักมีใครหมั่นไส้มันเลย มีแต่จะอมยิ้มกับท่าทางรั่วๆของมัน ดูพวกรุ่นพี่ที่คอยลุ้นกันอยู่ด้านข้างเวทียังยิ้มกันกระจาย
รอดูความสนุกกับคำถามมันอยู่ละสิ
“คำถามมีอยู่ว่า ถ้าให้คุณเลือกใช้คำว่า ‘อย่า’ ได้สี่ครั้ง คุณจะใช้คำนี้ในกรณีไหนบ้าง ทวนคำถาม
อีกครั้งนะครับ..บลาๆๆ เชิญน้องหยาดฝน ก่อนเลยครับ” มันถามคำถามพร้อมกับทวนให้ฟังอีกรอบ แล้วพยักหน้าให้ไอ้พี่แซค
ส่งไมค์ในมือให้ฝนเป็นคนแรกที่ตอบคำถาม
“ค่ะ ฝนจะใช้คำว่าอย่าดังนี้ อย่าอกตัญญูต่อพ่อแม่ อย่าอกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ อย่าผิดศีลห้า
อย่าเสพยาบ้า ค่ะ...แปะๆๆๆ...วี๊ดวิ้วววว..กรี๊ดดด!!” จบคำตอบฝนได้รับเสียงเชียร์เสียงเป่าปากจากหนุ่มๆ ดังสนั่นไม่แพ้กัน
เชื่อว่าไอ้หยกคงดังกว่าเพื่อนมีลุกยืนโบกไม้โบกมือ ไม่ออกอาการเลยมึง
และไมค์ก็ได้ถูกส่งต่อๆไป โดยผู้หญิงตอบกันก่อน แต่ละคนก็ยกคำอย่า ตามที่ตนเองคิด พยายาม
ไม่ให้ซ้ำคนที่ตอบก่อนหน้า จนมาถึงผู้ชายและผมเป็นคนสุดท้าย มากมายหลายอย่าที่พวกเค้าขุดจากสมอง เช่นอย่าหย่าร้าง
อย่ามั่วอบายมุข อย่าคบคนพาล อย่าบ้าอำนาจ ฯลฯ เยอะแยะไปหมด กว่าจะมาถึงผมอย่าที่เป็นพื้นฐานก็ถูกใช้ไป
จนแทบไม่เหลือ สมองผมเลยต้องคิดคำตอบให้แตกต่าง
“เอาละ ตอนนี้เรามาฟังคำตอบของน้องรัน เป็นคนสุดท้ายกันเลย เชิญน้องรันครับ” ไอ้พี่แซค
ยื่นไมค์มาให้ผม มียิ้มตาหวานให้อีก เหอะ..ไอ้นี่นิไม่เก็บอาการแล้วมัน
“อย่าทำดีเพื่อเอาหน้า อย่าเลียเเข้งเลียขาเพื่อเอาใจ อย่าสอพลอใครๆเพื่อประจบ อย่าเอาเปรียบคนที่คบเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง” ผมเลยตอบเป็นคำคล้องจองไปแทน เรียกเสียงเชียร์กระหน่ำ
เพราะหากตอบปกติก็คงคล้ายคนอื่นๆ คนถามมันรั่วตั้งคำถาม นิสัยมันก็บ้าคำสัมผัส เอาใจมันหน่อย พอผมตอบเสร็จ
มันยิ้มแก้มฉีกส่งให้ผมอย่างดีใจเว่อร์ นี่คงแอบเชียร์ผัวตัวเองอยู่ละมั้ง...หึหึ..
สรุปผลโหวตเป็นไปตามคาด ผมกับฝนได้เป็นตัวแทน คนที่เหลือต่างแสดงความดีใจ
จับไม้จับมือกับเราทั้งคู่ ก่อนที่ไอ้พี่แซคมันจะปล่อยคนที่ไม่ได้รับการโหวตกลับไปนั่ง เหลือผมกับฝนที่มันและไอ้เหยี่ยว
กักตัวเอาไว้
“น้องฝนกับน้องรันรับหน้าที่เป็นดาวและเดือนตัวแทนของคณะไปเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะมีรุ่นพี่
เป็นพี่เลี้ยงนัดซ่อมก่อนลงประกวดของมหา’ลัย แต่ตอนนี้พี่ต้องการให้ทั้งคู่แสดงความรู้สึกกับเพื่อนๆ ที่อุตส่าห์ลงคะแนนโหวต
ให้เราสองคนกันหน่อย” พูดจบมันก็ส่งไมค์มาให้ผมก่อน ตอนนี้คงให้ผู้ชายพูดก่อนสินะ ผมรับไมค์มาแล้วมองไปยังพวกที่นั่ง
พร้อมส่งยิ้มหล่อตามสไตล์เผยลักยิ้มและโชว์เขี้ยว ทุกครั้งที่ผมยิ้มจะต้องมีให้เห็นประจำ
“ว้าวววว!!.ยิ้มหล่อโคตร..กรี๊ดดด!!” และก็เรียกเสียงกรี๊ดมาอีกระลอก ก่อนผมจะตัดบทพูดขอบคุณกลับไป
“ขอบคุณครับที่ไว้วางใจเลือกผมเป็นตัวแทน ผมรับปากจะทำสุดความสามารถ ผลออกมา
จะได้หรือไม่ได้ก็ให้รู้ด้วยว่าผมทำอย่างเต็มที่แล้ว ขอบคุณครับ” ผมบอกไปพร้อมกับเสียงปรบมือดังสนั่น จากนั่นเป็นฝน
ที่รับไมค์พูดต่อจากผม
“ฝนก็เช่นกันค่ะ จะทำแบบเดียวกับที่รันเค้าพูด ฝากพวกเราเป็นกำลังใจเชียร์ด้วยนะคะ” เธอยืมคำผมรวบใช้ซะงั้น ผมไม่คิดอะไรแต่สายตาไอ้รั่ว ที่มองเธอมีกระตุกยิ้มแปลกๆ ไม่มีใครทันสังเกตหรอก
เพราะมัวแต่กรี๊ดให้ฝนกันอยู่ ยกเว้นผมเพราะคอยเหลือบมองหน้ามันอยู่ตลอดจึงได้เห็น
“เมื่อกี้พี่ได้ยินน้องฝนพูดถึงศีลห้า พอจะขยายความเกี่ยวกับศีลห้าให้เพื่อนฟังได้ไหมครับ?” ว่าแล้วมันต้องมี ไม่ทันไรมันยิงคำถามใส่น้องฝนแบบไม่ทันตั้งตัว แต่สาวฝนก็ไม่อิดออดรีบตอบกลับใส่ไมค์ไปทันที
“ศิลห้ามี ปาณาห้ามฆ่าสัตว์ อทินนาห้ามลักทรัพย์ มุสาห้ามพูดเท็จ สุราห้ามดื่มของมึนเมา กาเมห้ามผิดลูกผัวผู้อื่นค่ะ” ฝนตอบฉะฉานมั่นใจ เรียกเสียงปรบมืออีกครั้ง น้อยคนสำหรับวัยนี้จะตอบศีลห้าได้ครบ
ถือว่าฝนศึกษาธรรมมะมาดี
“เก่งมากครับน้องฝน พี่ขอเสริมจากที่น้องพูดมา สำหรับน้องๆ นำไปพิจารณาปรับใช้นะครับ ปาณาเขาห้ามฆ่าสัตว์ แต่ถ้าใครออกอาการติดสัตว์ก็ถีบยอดหน้ามันไปเลย อทินนาเขาห้ามลักทรัพย์แต่ถ้าลักกินตับ
อันนี้ไม่เป็นไรมั้ง มุสาเขาห้ามพูดเท็จถ้ามีแฟนแล้วมันไม่เก็ทตบกบาลมันเลย สุราเขาแปลว่าเหล้า ถ้าหากน้องมีผัวขี้เมา
ก็แตะก้านคอมันไปเลย กาเมเขาห้ามเล่นชู้ แต่ถ้าผัวหนูไม่อยู่ก็เล่นชู้ ผัวชาวบ้านเค้าเลย ฮ่าๆๆๆ” มันเติมจนคนฟังในห้อง
ขำกันกระจัดกระจาย บางคนขำจนตัวบิดจะตกเก้าอี้ไปแล้ว เพื่อนๆ พี่ๆ ที่อยู่ด้านข้างเวที รวมทั้งรองคณบดีและผศ.ทัศพล
แกยังหัวเราะฮาไปกับความรั่วของมันแบบไม่มีกัก บรรยากาศฮาขี้แตกขี้แตนที่มันรั่วบ้าบอให้เห็น ทำเอาผมเองหัวเราะ
จนปวดแก้ม เฮ้อ!..นี่เมียผมนอกจากสมองมันดีเกิน มันยังรั่วได้ไม่บันยะบันยังจริงๆ รั่วแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
กับเค้าเลย ไอ้ข้อสุดท้ายเนี่ยคงไม่เจตนาว่าแดกฝนเค้าหรอกนะ เล่นหึงผัวแบบเนียนๆ จงใจทำให้ผมรู้อะดิไอ้รั่วเอ้ย...
คนอื่นทำคงไม่เหมือนมัน ทั้งน่ารักน่าขำผมอยู่กับมันแบบนี้
แทบจะไม่สัมผัสกับคำว่าเครียดเลยจริงๆ...?????มาลงพี่พรตกับน้องรัน ให้แล้วนะคะ
แก้ตัวที่ทำให้เสียน้ำตากับคุณจาและพระลักษมณ์
ถือว่าไถ่บาปคืนรอยยิ้มและความสุขให้กับทุกท่าน
คนอ่านที่รักของคนเขียน
Luk.