@@@ แจ้งข่าว....ดี!!!!การจัดรวมเล่มไตรภาคย์งานเขียนเรื่อง
ตะเกียงพิเศษ...จอมใจนักเลง...เหยี่ยวหัวใจ เป็นบล๊อคเซ็ทรวมไตรภาคย์ทั้งหมดสามเรื่อง เปิดจองได้แล้วค่ะ
แต่!..ยังไม่เปิดโอน จะเปิดโอน มีเลื่อนเป็นกลางเดือนมกรา ปีหน้า ที่แจ้งให้จองก่อน เพราะท่านที่ลงชื่อจอง 150 คนแรก ตอนเปิดโอนท่านยังยืนยันการโอนสั่งซื้อ
ท่านจะได้รับหนังสือแถมเรื่อง
'เทพพิทักษ์ขุนทัพ' ฟรี!..อีกหนึ่งเรื่อง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับเรื่องนี้สนใจส่งเมลล์ มาจองได้ที่
luxilove_19690 แอท hotmail ดอท Com ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปส่วนท่านที่สนใจเฉพาะเรื่องไม่เอาเป็นไตรภาคย์ ไม่ต้องถามนะคะว่าแยกซื้อได้ไหม ได้อยู่แล้วคะ
ตอนนี้แค่เปิดจอง ให้นักอ่านที่ต้องการเก็บหนังสือไตรภาคย์นี้ไว้ ได้ลงชื่อจองเข้ามา
ปล.ทุกเรื่องจะมีตอนพิเศษ แถมในเล่มเรื่องละ 2 ตอน ซึ่งไม่โพสฯลงในกระทู้นิยาย
เก็บตังค์หยอดกระปุกได้เลย จะนำรูปเล่มและข้อมูลที่เหลือมาแจ้งให้ทราบเป็นระยะ คอยติดตามด้วยนะคะ
ปล. 2 สำหรับคนจองแล้วไม่โอน ถือว่าสละสิทธิ์ เราจะเลื่อนสิทธิ์การโอนตามลำดับของคนจอง
หากใครเข้าข่ายอยู่ใน 1 ถึง 150 คนแรก ก็จะได้รับสิทธิ์พิเศษไปแทนนะคะ
ปล3. เปิดรับจองรับโอนไม่จำกัดนะคะ แก้ไขความเข้าใจผิดเสียใหม่แต่จะได้รับแถมพิเศษเฉพาะคนจองคนโอน 150 คนแรกเท่านั้นค่ะ นอกนั้นไม่ได้ของแถม Luk.
เหยี่ยวหัวใจ
Part 9
ใครหึงใคร!...
.
.
.
.
หลังเสร็จกิจกรรมก็ปาเข้าไปเกือบสามทุ่ม ช่วงนี้ฟรีกันแล้ว ใครอยากทำอะไรตามสะดวก กลุ่มผมร่วมวงเหล้ากับพี่ชลและพวกไอ้รั่วมันร่วมสิบห้าคน เฉพาะพวกที่นอนอยู่
บ้านหลังนี้ ความจริงมีกว่าสามสิบ หนีเข้านอนเพราะเหนื่อยก็มี ประมาณพวกไม่ยุ่งเกี่ยวกับของมึนเมา ส่วนที่เหลือไปอยู่
ในวงไพ่กันโน้น วงเหล้าตั้งตรงชานหน้าบ้านรับลมเย็นกลางคืน แลดูได้บรรยากาศไม่น้อย
ส่วนพวกผู้หญิงกับบ้านหลังอื่น ก็ตั้งวงเหมือนกัน รวมทั้งวงไพ่ด้วยกระจายไปหลังใครหลังมัน ซึ่งมีรุ่นพี่
ที่คอยดูแลนำทีมรุ่นน้องกันทั้งนั้น
“ไปไหน?” ไอ้ขุนถามขึ้น เมื่อเห็นผมลุกออกจากวง สายตานับสิบคู่มองทันที ไอ้รั่วมันเลิกคิ้วรอฟังคำตอบด้วย
“เพื่อนกูส่งข้อความให้โทรกลับ ขอตัวโทรศัพท์สักครู่” ผมตอบตามจริง ไอ้บอมย์มันส่งข้อความมาให้โทรกลับ
ว่าจะลุกไปโทรหามันหน่อย
“สัด..เพื่อนหรือเมีย นมลูกหมดดิถึงตามมึง” พูดจบเสียงหัวเราะในวงก็ดังตาม ยกเว้นไอ้รั่วทำเนียน
เฉยกแก้วเหล้าขึ้นซด เสือกรีบไปหน่อยสำลักซะงั้น
“อ๊อก! แค่กๆๆ!” ไอ้พี่แซคกุลีกุจอลูบหลังให้มันใหญ่ รอโอกาสมาตลอด
“เป็นไงบ้างพรต ช้าๆสิว่ะ จะรีบไปไหนราตรีนี้ยังอีกยาว” มันพูดไปด้วยมือยังคงลูบไปด้วย
“นั่นดิ สงสัยขำจนสำลัก ฮ่าๆๆๆ” เพื่อนมันอีกคนไม่รู้ชื่อหน้าตี๋ๆ นำทีมหัวเราะอีกรอบ ตอนนี้ไม่มีใครเรียก
พวกผมน้องกันแล้วครับ เปลี่ยนเป็นไอ้กันหมดเอาซะสนิทวงเหล้ามักสร้างความคุ้นเคยเร็ว กลุ่มไอ้ขุน ไอ้อั้ม ไอ้หยกพลอย
หัวเราะตามไปด้วย
“หึ..พี่พรตผมว่าเบาหน่อยก็ดี รักษาตัวหน่อยพี่ เดี๋ยวจะไม่แค่สำลักกลัวจะสำรอกด้วยสิ” ผมจ้องหน้ามัน
พร้อมกับพูดทิ้งท้ายแล้วหันหลังเดินมาเลย สัด..เสือกยอมให้แม่งลูบอยู่ได้เห็นแล้วหงุดหงิดเลี่ยงออกมาโทรหาไอ้บอมย์ดีกว่า
“ห่ารัน กูรอมึงจนหดแล้วเหี้ย” ฟังคำทักทายของมัน
“ครวย..ข้อความมึงมาไม่ถึงห้านาที ทำบ่น” ผมเหวใส่แม่งเลย ไอ้ห่านี่บางครั้งโตแต่ตัวชอบง่องแง่ง
กับผมตลอด ไม่มีห่าไรหรอกมัน นอกจากมีเรื่องให้ช่วยแก้ปัญหาอีกตามเคย
“ห้านาทีของมึง แต่กูรอเป็นชาตินะเพื่อน กูร้อนใจขอคำแนะนำด่วน” ว่าแล้วซื้อหวยไม่ยักถูกวะ
“พอเข้าเรื่องมีไรว่ามา ก่อนที่เมียกูมันจะโดนลวนลามไปมากกว่านี้” ผมเร่ง
“เกิดไรขึ้นเมียมึงโดนลวนลามอีกแล้วดิ ไอ้รั่วโดนแมงวันตอมเหมือนเคยใช่เปล่า?” ไอ้บอมย์มันถาม
เป็นเรื่องปกติตั้งแต่ผมคบกับพรตมา มีทั้งหญิงทั้งชายทั้งตุ๊ดทั้งแต๋วเข้ามาป้วนเปี้ยนมันตลอด กลุ่มผมต่างรู้ดีว่าเรื่องนี้มักทำให้
ผมหัวเสียประจำ เพราะความรั่วบวกความมีมนุษยสัมพันธ์ดีของมันแหละ จึงทำให้คนเข้าหามันง่าย ไม่เหมือนผมกับไอ้โต๋
แม้จะมีคนอยากรู้จัก แต่ไม่มีใครกล้าเท่าไหร่ คงเพราะบุคลิกพวกผมดูนิ่ง ไม่ค่อยสุงสิงมั้ง น้อยรายที่จะกล้าชนถ้าไม่มั่นใจ
ตัวเองเหมือนฝนอะนะ นอกนั้นก็มีแต่ส่งสายตามองเท่านั้น
“เออ..แม่งจะมีใครอีก ทำยังกะกูมีเมียหลายคน เข้าเรื่องมึงเหอะมีไรว่ามา” ผมตัดบทเร่งมัน อยากจบเร็ว
ไม่รู้ปานนี้ไอ้รั่วมันโดนนัวไปถึงไหนแล้วไม่รู้
“กูไม่รู้นี่หว่ามึงอยู่ในโหมดลมหึงกำลังพุ่ง เรื่องไอ้รั่วทีไรมึงร้อนทุกที กุนซือเทพกูหลุดมาดก็เพราะไอ้รั่ว
เชื่อมึงแล้ว ทีเรื่องอื่นนิ่งเป็นเสือหลับนะสัด ไม่ชินอีกหรือวะ ทั้งที่มึงเจอประจำเสือกมีเมียหล่อต้องทำใจหน่อยเพื่อน ที่ผ่านมา
มันก็ยอมมึงคนเดียว กูไม่เห็นไอ้รั่วมันจะยอมใครเหมือนมึง อยู่กันจนหม้อข้าวดำปล่อยมันบ้างก็ได้ห่ารัน” ระยำ..ตกลงมัน
จะให้ผมช่วยหรือจะอบรมผมแทน ที่มันพูดผมไม่เถียง เพราะผมควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดีเท่าที่ควร ผมไม่พอใจที่มันไว้ใจคนง่าย
ใครต่อใครเข้าถึงเนื้อถึงตัวมันง่ายเกินไป แม้จะรู้ว่านิสัยมันเป็นแบบนี้แถมเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง ก็เพราะเหตุผลนี้มันถึงไม่ระวัง
ไม่แสกนหรอกว่าใครเค้าหวังอะไรจากมันกันบ้าง กลายเป็นผมต้องจัดการให้ตลอด จนเพื่อนในกลุ่มพากันคิดว่าผมหวงเมียเว่อร์
ทั้งที่ความจริงต้องไอ้โต๋มันโน้นแค่มีคนมองตะเกียงนานหน่อย ไอ้ห่านั่นตวัดหางตาเอาเรื่องขึ้นมาทันที ผมยังไม่เคยทำ
แบบนั้นเลยถ้าหากแค่มอง ยกเว้นประชิดถึงตัวอย่างเมื่อตะกี้นั่นแหละ
“ตกลงมึงจะสอนกู หรือต้องการให้กูช่วยกันวะ ถ้าไม่สำคัญกูวางนะ ทิ้งไอ้รั่วมันอยู่ลำพัง” ผมรวบรัดทันที
“เดี๋ยวสิห่าแนะนำกูก่อน คณะกูดันโหวตให้กูเป็นเดือนคณะ มึงก็รู้กูไม่ชอบแนะนำกูทีจะเลี่ยงอย่างไงดีว่ะ
กูไม่อยากขึ้นไปเดินโชว์” เข้าใจความรู้สึกมันนะ ผมเองก็ใช่จะชอบ ไม่ติดไอ้รั่วมันขอร้อง ไม่ลงทุนทำเด็ดขาด เดินปกติแล้ว
มีคนมองยังพอทำใจ ชินแล้วกับการถูกมอง แต่ไอ้ที่ต้องขึ้นไปเป็นจุดเด่นเพื่อให้คนพากันมองนี่สิรู้สึกพิกลเหมือนกัน
“ทำไม กูก็โดนไม่เห็นร้อนรนอย่างมึงเลย จะยากอะไรหลับหูหลับตาทำไปก็สิ้นเรื่อง” ผมตอบง่ายๆ
เผื่อมันจะเข้าใจ
“สัด แนะนำอย่างนี้คงไม่ต้องถึงมือมึงหรอก ดีดีดิวะ กูไม่อยากประกวดเหี้ยๆ แล้วมีมึงเป็นคู่แข่งด้วย
ยิ่งไปกันใหญ่ กูอายไม่อยากโดนสัมภาษณ์ไม่อยากแข่งกับมึงโอเคป่ะ” ไหลไปเลยไอ้เจ้าเล่ห์ เรื่องแถถนัดนักละมัน
แต่เรื่องคิดไม่เอาอ่าว
“งั้นมึงก็ทำเป็นป่วยต้องนัดหมอฉายรังสีเหี้ยไรของมึงก็ได้ ยากอะไรกับหลักฐานหมอประจำบ้านมึงไง
ขอร้องให้ช่วยก็จบ แจ้งเนิ่นๆเค้าจะได้มีเวลาหาคนแทน เท่านี้นะ” ผมตัดสายหนีไม่งั้นคุยยาว รีบกลับมาที่วงเหล้าอย่างเร็ว
พอมาถึงเสือกไม่เห็นมันนั่งอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นดันไม่เห็นไอ้พี่แซคอีกคน ชักตะหงิดแล้วผม
“อ้าวรัน นั่งดิมึง” ไอ้อั้มมันเรียกหลังจากเห็นผมเดินมาถึง ถือโอกาสเนียนถามก่อนเลย
“ทำไมวงมันโล่งขึ้นวะ หายไปไหนกันหมด” ตีวงกว้างเข้าไว้ครับ
“ใครไปไหน แค่พี่พรตกับพี่แซคไปเข้าห้องน้ำ” หึ..เอาแล้วไง
“ฟังมึงพูด กูปวดขึ้นมาเลยวะ ขอตัวแป๊ป” ผมชิ่งออกมาทันทียังไม่ทันหย่อนก้นลงเลย ตรงดิ่งไปยังโซน
ห้องน้ำด้านหลังให้ไว
“มึงถามทำไม?” เท้าผมหยุดนิ่งอยู่กับที่ทันที ก่อนจะกำบังตัวหลบมุมตรงเหลี่ยมเสายืนฟังมันคุยอะไรกัน
“กูเห็นมึงย้ายของไปนอนฝั่งโน้น มึงเป็นอะไรถึงย้ายไปนอนกับรุ่นน้อง บอกกูดิ” “กูจะเป็นอะไร แค่อยากนอนติดฝาก็เท่านั้น” เสียงไอ้รั่วมันตอบ
“งั้นมึงย้ายกลับมา เดี๋ยวกูจัดการสลับที่ให้มึงนอนติดฝาเองตกลงไหม?” “ไม่ต้องกูขี้เกียจย้ายไปย้ายกลับ ลำบากพวกน้องๆมันเพิ่งวุ่นวายจัดที่ให้กูเย็นนี้เอง” ไอ้รั่วมันพยายามเลี่ยง
“ไม่ลำบากหรอก กูจัดการเองมึงไม่ต้องยุ่งเลย เดี๋ยวกูไปย้ายให้” “อะไรของมึงเนี่ย วุ่นวายกับกูจริงบอกไม่ย้ายก็ไม่ย้ายสิวะ” ไอ้รั่วเริ่มออกอาการเหวี่ยง มันพยายามจะเดิน
หนีแต่ไอ้แซคก็ขวางเอาไว้
“กูว่ามึงมีอะไรปิดบังกูชัวร์ ทำไมมึงต้องย้ายไปนอนกับพวกรุ่นน้องมัน ที่สำคัญคนที่นอนติดกับมึงคือไอ้รัน” ไอ้แซคมันเอ่ยถึงผม หรือว่าที่ไอ้รั่วมันบอกผีเห็นผีคงจะจริง ไอ้ห่าแซคมันดูพวกผมออกด้วยหรือวะ
“มึงหมายความว่าไง?” ไอ้รั่วเริ่มประจันหน้าสายตาเอาเรื่องแล้วตอนนี้
“กูชอบมึง” ชัดเต็มสองหูเลยครับ แต่ไอ้รั่วมันนิ่งไม่มีแสดงอาการ คงเพราะมันรู้ก่อนแล้ว
“ขอโทษกูรับไว้ไม่ได้” มันปฏิเสธหน้าตาย ก่อนจะเดินชนไหล่ไอ้แซคออกมาอย่างไม่สนใจ
“เพราะมึงชอบไอ้รันใช่ไหมพรต?” มันไม่หยุดกลับหันมาตะคอกใส่ไอ้รั่ว เมียผมหยุดกึก มาดพระเอกมาก
มีหลับตาถอนหายใจไม่หันหน้ากลับไปเลยด้วยซ้ำ หันหลังพูดเสียงนิ่งว่า
“หากมึงอยากฉลาดไปแดกปลา อยากมีปัญญาแดกวิตามิน อยากแข็งแรงก็ฉีดวัคซีน แต่ถ้าอยากแดกตีนบอกกู
สั้นๆจำไว้กรุณาอย่าเสือกเรื่องชาวบ้าน เพราะมันไม่ใช่งานและไม่มีเงินเดือน” พูดจบมันยกไหล่บิดคอยังกับนักเลงแล้วเดินลิ่ว
เลยครับ ส่วนไอแซคหน้าเจื่อนยืนกำหมัดแน่น สายตามันไม่ยอมรามือแน่ เท่ฉิบเมียผมพอมันพ้นมุมมาผมคว้ามันเข้ามากอด
ทันที เกือบโดนมันชกเข้าให้พอมันรู้ว่าเป็นผมได้แต่ง้างหมัดค้างไว้ ผมเลยลากมันไปยังส่วนหย่อมซึ่งลับตาพอสมควร
เปิดไฟสีส้มให้บรรยากาศสลัวๆ พอมาถึงประกบจูบมันเข้าให้ มันก็จูบตอบผมเช่นกัน เรายืนแลกจูบกันนานพอสมควร
ถึงค่อยถอนปากออก ต่างยืนจ้องตากันนิ่ง แล้วมันจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อนว่า
“ไม่ไว้ใจกูสิ ถึงตามมาแอบฟัง” หน้าตานี่ออกอาการกวนสุดๆ
“หึ..ทำไมถึงคิดว่ากูไม่ไว้ใจ หรือมึงทำให้กูไม่ไว้ใจ” ผมสวนกลับ จากหน้าที่กวนเมื่อตะกี้
กลับปากอ้าตาค้างอึ้งคำพูดของผม ท่าทางตลกชะมัด
“มึงนี่แม่งทุกที กูเป็นฝ่ายถามไม่ใช่ให้มึงมาต้อน เห็นเปล่าสุดท้ายโดนมันสงสัยจนได้ ถ้ามันเอาไปพูดจะทำไง?”มันบ่นผมใหญ่
“มีมันแหละที่สงสัย เพราะมันคิดไม่ซื่อกับมึง ฉะนั้นไม่ว่ามึงจะทำอะไรย่อมอยู่ในสายตามันตลอดยังไงเรื่องนี้
สักวันมันก็ต้องรู้ ว่าแต่มึงไม่ได้คิดนอกใจกูอยู่ใช่ไหม?” ผมพูดหน้านิ่ง ลงท้ายแกล้งมันด้วยอยากรู้ว่ามันจะพูดยังไง
“ยืนอยู่ไม่ได้ฟังหรือไงว่ากูพูดอะไรกับมัน” มันไม่ตอบแต่โยนลูกให้ผมแทน นี่คือความฉลาดของมันล่ะ
“กูมาไม่ทัน ได้ยินแค่ประโยคท้ายนิดหน่อย เลยต้องย้ำเอากับมึง” ผมแถกลับอย่างเนียน
“งั้นมึงฟังกู นอกใจคืออาการปันใจให้คนอื่นนอกกายคืออาการอยากมีคนใหม่ กูไม่ใช่คนมากรัก
เพราะคนมากรักเอาใจไว้ที่ปาก แต่คนรักมากเอาปากไว้ที่ใจ..สัด” พูดจบสบถใส่หน้าผมอีก ผมกลั้นขำเอาไว้ไม่ให้มันรู้
กำลังสนุกกับการได้แกล้งมัน
“พูดดีเนอะ ทำให้ได้ด้วย” ยังไม่จบครับทิ้งท้ายอีกหน่อยย้ำบ่อยๆ ไม่ให้มันลืม
“เหี้ย..ย้ำแต่กูสำคัญมึงเหอะ เลิกหึงได้แล้ว กูไม่มีให้ความหวังกับใครหรอก มึงเองใช่ย่อยอย่าให้กูรู้
มีแอบซั่มใครเข้า กูเอาตาย” ออกอาการเหวี่ยงผมกลับ มีขู่ตบท้ายพร้อมทำตาขวางให้อีก
“ถึงทีมึงฟังกูบ้าง วันใดที่กูเลิกหึงให้รู้ไว้เลยว่า วันนั้นคือวันที่มึงหมดความสำคัญ ทีนี้ยังต้องการอีกไหม?" พูดจบมันอึ้งไปอีกรอบ เจอผมจัดแต่ละดอกเสือกทำหน้าประหลาดแบบที่ผมชอบประจำ แล้วจะไม่ให้แกล้งมันได้ยังไง
หนึ่งในสีสันของชีวิตผมเลยที่ได้แกล้งมันแบบนี้???
เรากลับมานั่งวงเหล้ากันต่อ คราวนี้ไอ้รั่วมันย้ายมานั่งข้างผมเฉยเลยครับ ไม่สนใจสายตาของไอ้พี่แซคที่จ้อง
มันอย่างตัดพ้อสักนิด
“พี่พรตกับไอ้รันสนิทกันเร็วเนอะ” ไอ้หยกมันพูดขึ้นกลางวง ถือเป็นคำถามปราบเซียนได้ถ้าตอบไม่ดี
“กูเป็นพี่รหัสมัน ส่วนมันเป็นน้องรหัสกูสนิทกันให้เร็วแหละดี เดี๋ยวกูต้องเทรนมันประกวดเดือนมหาลัยอีก”
มันตอบไอ้หยก แต่เหมือนไขข้อสงสัยของทุกคนไปพร้อมกันด้วย
“พี่จะให้มันตอบคำถามเหมือนพี่ปีก่อนหรือเปล่าครับ..ฮ่าๆๆๆๆ” ไอ้อั้มมันแซวขึ้นมา เรื่องประวัติการประกวด
ของไอ้รั่วที่ดันตอบคำถามกวนกรรมการ รุ่นน้องได้ฟังตำนานเป็นเรื่องโจกประจำคณะทุกคน พาเอาในวงหัวเราะตามเป็นพรวน
เรียกเลือดขึ้นหน้าไอ้รั่วเพราะมันกำลังอาย
“ไอ้ห่า จะกวนตรีนช่วยดูฤกษ์ยาม จะลามปามช่วยดูหน้ากูหน่อย จะปีนเกลียวช่วยดูเวล่ำเวลา เดี๋ยวจะโดนถีบ
ไม่รู้ตัวแหละมึง” มาเป็นชุดแต่ไม่มีใครเค้าถือสามันหรอก ยิ่งเติมดีกรีต่อมขำให้กระจายเข้าไปใหญ่
“ฮ่าๆๆ พี่จะเท่ไปถึงไหน แค่นี้ก็เป็นไอดอลพวกผมแล้วครับ เผยเคล็ดลับให้เป็นชายเปี่ยมเสน่ห์อย่างพี่บ้างดิ”
ไอ้หยกหยอดบ้าง คงกะขอคำแนะนำไปใช้กับฝนมั้ง เห็นเร่งจีบเค้าเต็มที่เลย เลิกแถวมีการเดินไปส่งถึงที่พักอีกต่างหาก
“ได้กูบอก ฟังไว้เป็นชายไทยต้องรู้หน้าที่รับใช้ชาติ 2 ปี รับใช้สตรีตลอดกาล แค่นี้มึงก็เท่แล้วไอ้น้อง...ฮ่าๆๆ"
คราวนี้ทั้งวงฮาไปตามระเบียบ ต่างช่วยกันออกแรงยั่วให้มันปล่อยมุกรั่วกระจายเลยทีนี้
“เก๋าขั้นเทพวะพี่ คมสุดๆ คิดได้ไงเนี่ย ฮ่าๆๆๆ” ไอ้ขุนมันยกย่อใหญ่ พวกรุ่นพี่ที่นั่งกันอยู่พากันหัวเราะ
งอหายกับความรั่วของไอ้เหยี่ยว แม้แต่ไอ้พี่แซคมันยังอดอมยิ้มไม่ได้ นี่แหละเสน่ห์ของไอ้รั่วเค้าละจะมีใครโกรธมันลง
“กูถามมึงเคยกินขี้มูกตัวเองป่ะ?” มันหันมาเล่นกับไอ้ขุนบ้าง คงเห็นไอ้ขุนมันนิ่งกว่าใครมั้ง ตั้งแต่มายังไม่
โดนไอ้เหยี่ยวจิกเลยนี่
“ไม่อ่ะ?” ไอ้ขุนมันก็ตอบสีหน้าจริงจังมาดเข้มตามสไตล์
“ทำไมว่ะ?” ไอ้เหยี่ยวยังกวนต่อ
“ใครจะไปกินเค็มตายชัก สกปรกด้วย” ไอ้ขุนมันก็ยังตอบปกติ
“เหรอ? แล้วมึงเคยกินขี้หูตัวเองป่ะ?” มันยังไม่หยุด ตั้งคำถามไอ้ขุนต่อ พวกในวงต่างตั้งใจฟังว่า
มันจะถามไปทำไม
“ไม่เคย ใครจะไปกินของแบบนั้น ขมตาย” คราวนี้จากมาดเข้มนิ่ง ไอ้ขุนหลุดฟิวส์มาบ้างแล้ว เริ่มหงุดหงิด
ที่ไอ้รั่วดันถามปัญญาอ่อนกับมันอยู่ได้มั้ง
“ไม่เคยกินจริงดิ?” ไอ้เหยี่ยวก็ยังไม่เลิกกวนมันอีก
“เออ..ไม่เคยก็ไม่เคยดิ” คราวนี้ไอ้ขุนตอบแบบเสียงห้วน
“อืม..แล้วมึงรู้ได้ไง ว่ามันเค็มและก็ขมนะ” จบข่าวครับ เล่นเอาบางคนกุมท้องกันไปแล้ว ผมยังอดขำไม่ได้
แม่งไล่ต้อนจนไอ้ขุนหลุดหมดเลย ที่แน่ๆตอนนี้ไอ้ขุนอ้าปากค้างหน้าแดงก่ำไปแล้ว ในขณะที่แต่ละคนขำกันกระจาย
นี่แหละเหยี่ยวรั่วของจริง..???
มาต่อให้แล้วนะคะ มีความสุขกับมุกรั่วๆ ของพี่พรตต่อไป
ขอขอบคุณ ทุกๆคนที่ "ช่วยแชร์" ...
ขอขอบคุณ ทุกๆคนที่ "กด Like" ...
ขอขอบคุณ ทุกๆคนที่ "ก๊อบไป!" ...
ขอขอบคุณ ทุกๆน้ำใจ "ที่มีกัน" ..
เราไม่ได้ต้องการให้มัน "ดัง" ...
แต่.. เราต้องการให้มัน "โดน" ... !!!
Luk.
@@ ปล. วันอาทิตย์ที่ 25 นี้ พี่วีกับพี่กล จะเข้ามาอวยพรคริสมาสต์และปีใหม่ให้กับแฟนๆใครอยากถามอะไร ไปตั้งคำถามไว้เลยนะคะ พี่ๆเค้าจะเข้ามาตอบมาพูดคุยด้วยค่ะ