@@@ แจ้งข่าว....ดี!!!!การจัดรวมเล่มไตรภาคย์งานเขียนเรื่อง ตะเกียงพิเศษ...จอมใจนักเลง...เหยี่ยวหัวใจ เป็นบล๊อคเซ็ทรวมไตรภาคย์
ทั้งหมดสามเรื่อง เปิดจองได้แล้วค่ะ แต่!..ยังไม่เปิดโอน จะเปิดโอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า
ที่แจ้งให้จองก่อน เพราะท่านที่ลงชื่อจอง 150 คนแรก ตอนเปิดโอนท่านยังยืนยันการโอนสั่งซื้อ
ท่านจะได้รับหนังสือแถมเรื่อง 'เทพพิทักษ์ขุนทัพ' ฟรี!..อีกหนึ่งเรื่อง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับเรื่องนี้
สนใจส่งเมลล์ มาจองได้ที่ luxilove_19690 แอท hotmail ดอท Com ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปส่วนท่านที่สนใจเฉพาะเรื่องไม่เอาเป็นไตรภาคย์ ไม่ต้องถามนะคะว่าแยกซื้อได้ไหม ได้อยู่แล้วคะ
ตอนนี้แค่เปิดจอง ให้นักอ่านที่ต้องการเก็บหนังสือไตรภาคย์นี้ไว้ ได้ลงชื่อจองเข้ามา
ปล.ทุกเรื่องจะมีตอนพิเศษ
แถมในเล่มเรื่องละ 2 ตอน ซึ่งไม่โพสฯลงในกระทู้นิยาย
เก็บตังค์หยอดกระปุกได้เลย จะนำรูปเล่มและข้อมูลที่เหลือมาแจ้งให้ทราบเป็นระยะ คอยติดตามด้วยนะคะ
Luk.
เหยี่ยวหัวใจ
Part 7
ด้ายผูกแขนมัดแฟนไว้!...
.
.
.
.
.
ผมกับไอ้เหยี่ยวรั่วเดินกลับเข้าไปยังห้องอาบน้ำ ทุกคนคงพากันอาบเสร็จหมดแล้วห้องน้ำจึงโล่ง
พอเห็นบรรยากาศปลอดคน สัญชาติญาณอัตโนมัติทำให้ผมกับมันหันมองตากันโดยไม่ต้องนัด ก่อนมันจะหูแดงเก็กนิ่ง
เดินหนีเข้าห้องน้ำริมสุดทันที
ผมกวาดตาสำรวจเพื่อความแน่ใจอีกรอบ เมื่อดูแล้วไม่มีใครจึงรีบเดินตามมันเข้าไปล็อกประตูเรียบร้อย
หันกลับมาไอ้ตัวดีถอดผ้าเปลือยล่อนจ้อนอวดหุ่นสมาร์ทหล่อไร้ที่ติ ยังไม่ทันตั้งตัวมันก็รั้งท้ายทอยผมเข้าไปประกบจูบ
ในขณะที่มือก็สาละวนถอดเสื้อผ้าผมออกอย่างรีบเร่ง
จูบของมันทำเอาผมหายใจแทบไม่ทัน ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นร้อนแรงเป็นบ้า ก่อนมันจะยอมปล่อยให้
ปากผมเป็นอิสระ ได้โอกาสผมรีบยื่นมือเปิดฝักบัวให้น้ำพุ่งรดเราทั้งคู่ ที่ทำแบบนี้ไม่ใช่อะไรหรอกอาศัยช่วย
กลบเสียงไปด้วย กลัวใครผ่านมาบังเอิญได้ยินเข้านะสิ อย่างน้อยเสียงน้ำก็พานทำให้เข้าใจว่ามีคนกำลังอาบน้ำอยู่
“เป็นอะไร อยากหรือไง?” ผมถามเมื่อมีจังหวะ
“เหอะ...มึงยั่วกูตั้งแต่เข้าฐานแล้ว..สัด” มีพูดสะบัดหางเสียงใส่อีก ทั้งที่ปากเจ่อหน้าแดงก่ำดูเอ็กซ์โคตร
ไม่รู้ตัวเลยมั้งว่าวอนเจ็บตูดแล้วไอ้รั่ว
“หึ..สรุปเป็นกูยั่วมึง” ผมจ้องตามัน ถามกวนมันเล่น
“เอ่อ..มึงจะถามเอาถ้วยหรือไง เหี้ย!..รีบเร็วดิมีเวลาไม่มาก” พูดจบมันไม่ปล่อยให้ผมได้อ้าปากอีก
ทรุดตัวลงดันหลังผมติดฝา ลงมือปฏิบัติการฟาดไอติมโคนไซร้ยักษ์ของผมทันที ชั่วโมงนี้เลยได้แต่กัดฟันซี๊ดปากอย่างเดียว
“ซี๊ดดด!..อืมมม!” มองปากสีชมพูสด เล็มเลียสลับดูดรูดไปตามความยาวของแท่งลำไอติม ก่อนจะครอบปาก
กลืนเข้าไปจนผมต้องแขม่วท้องเกร็งซิคแพ็คเรียงกันเป็นลูก ไอ้ตัวดีเลื่อนมือขึ้นสะกิดหัวนมผมไปด้วย เสียวจนต้องซู๊ดปาก
ตามความรู้สึกที่มันบรรเลงเพลงชิวหาให้ ทนไม่ไหวต้องกระเด้งเอวรับการขยอกกลืนรูดริมฝีปากดูดเข้าออกเป็นจังหวะของมัน
โพรงปากนุ่มอุ่นชื้นให้ความรู้สึกดีเป็นบ้า มันไม่ยอมปล่อยให้ผมฟรีเอวกระเด้าได้ตามใจชอบ เพราะมือหนา
คอยยันหน้าขาผมไว้มั่น เพื่อผ่อนแท่งโคนยักษ์ของผมให้ผลุบหัวบานใหญ่เข้าออกได้แค่ครึ่งลำ
ขืนลึกกว่านี้ทำมันกระเดือกแตกแน่
อารมณ์ผมพุ่งลิ่ว กลัวจะเสร็จคาปากมันเสียก่อน ตัดสินใจดึงตัวมันขึ้นมาบดจูบก่อนจะดันหลังมันติดฝา
แล้วหลุบตัวลงนั่งยองๆ ปฏิบัติภารกิจบรรเลงเพลงชิวหาให้เสากระโดงเรือของมันคืนบ้าง ผมกลืนเข้าไปพอๆกับมัน
กลืนของผมนั่นแหละ ไม่งั้นคอแตกเหมือนกัน ขนาดต่างผมซะที่ไหน แค่ด้อยกว่านิดเดียวเอง ใหญ่ยาวเอาเรื่องเชียวล่ะ
“ซี๊ดดดด!..เหี้ย!..รันกูจะแตกแล้ว!” พอมันพูดมา ผมเร่งสปีดรัวลิ้นรูดริมฝีปากดูดกระหน่ำ จนในที่สุด
มันก็เกร็งตัวหยัดกดท้ายทอยผมไว้แน่น จนต้องรีบดันหน้าขามันเอาไว้สุดแรงเช่นกัน อารมณ์ลืมตัวจังหวะไคลแม็กอาจ
โดนกระแทกคอหอยแตกเอาได้ ก่อนมันจะกระตุกกระฉูดน้ำรักไหลลงคอผมไปเต็มๆ เลยต้องรีบกลืน
กลัวสำลักตายเสียก่อน รอจนมันปล่อยหมดแม็กนั่นแหละ ผมถึงลุกยืนจับตัวมันพลิกยันกำแพง
บีบสบู่ป้ายร่องก้นมันพร้อมกับแหย่นิ้วเบิกทางนำร่อง ในขณะที่ปากก็กดจูบไซร้ไปทั่วลำคอขาวแผ่นหลัง
ขยายปีกรูปตัววีของมันไปด้วย ปีกสวยจริงๆสมแล้วที่มันเป็นเหยี่ยว การเล้าโลมของผมปลุกอารมณ์มันที่เพิ่งปล่อยไปหยกๆ
ร้อนขึ้นมาอีกรอบ
เบิกทางได้ที่แล้ว ไม่รอช้าผมจับแท่งโคนยักษ์ดันเข้าไปในรูหรรษา ค่อย ขยับเดินหน้าถอยหลัง
เพื่อให้มันคุ้นชิน จนรู้สึกแรงรัดแน่นผ่อนคลายลงผมเสือกพรวดจมมิดด้าม หน้าท้องแนบสนิทกับเนินก้อนกลม
จนแทบไม่มีช่องอากาศผ่าน
มันสั่นกระตุกเฮือก แต่ผมรีบจับหน้ามันหันมาประกบจูบปิดกลั้นเสียงร้องของพวกเราเอาไว้ ได้แต่คราง
แผ่วอยู่ในลำคอ ดูปลอดภัยกว่าปล่อยให้ครางรอดออกมา ถึงแม้จะมีเสียงน้ำฝักบัวคอยดังกลบอยู่ก็เถอะ ไม่มั่นใจเต็มร้อย
เราต่างแลกลิ้นพันกันนัว ในขณะที่บั้นเอวผมก็คลึงสะโพกบดไปด้วย ก่อนจะสาวออกกระแทกกลับ
เป็นจังหวะ แล้วค่อยเร่งเครื่องรัวแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเอื้อมมือไปสาวกระโดงเรือให้มันด้วยเช่นกัน
ไม่ต้องลีลาเวลามีจำกัด
ทั้งมันทั้งผมดูดลิ้นกันจนแทบจะหลุดออกปากแล้ว เสียวจนไม่ต้องยั้งแรงผมอัดใส่ถี่ยิบ มันได้แต่เกร็งมือ
ยันผนังไว้เต็มที่ ก่อนจะแหงนหน้าเชิดกระตุกพ่นน้ำรักออกมาเลอะเต็มข้างฝา ขณะที่ผมก็กระแทกใส่ไม่ยั้งเมื่อช่องทางของมัน
ตอดรัดถี่ยิบรู้สึกเสียวยันไขสันหลัง กระทั่งทนไม่ไหวกระตุกพ่นน้ำรักพุ่งกระฉูดเข้าในตัวมันอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
เราต่างยืนนัวเนียกันสักพัก เพื่อให้ภาวะอารมณ์เข้าสู่ปกติ ก่อนผมจะถอนไอติมโคนแท่งใหญ่
ออกจากตัวมัน แล้วใช้นิ้วล้วงควักทำความสะอาดให้เมียรั่วด้วยเสร็จสรรพ น้ำสีขาวขุ่นบรรดาลูกๆ ของผมไหลย้อย
ตามง่ามขามันลงมาดูเยอะได้อีก เพิ่งรู้ว่าตัวเองอั้นไว้หลายวัน ก็เล่นไม่ได้ปล่อยนับแต่คืนที่มันเมา
แล้วเราจัดชุดเล็กให้กันวันนั้น
จากนั้นค่อยสลับอาบน้ำผลัดกันฟอกสบู่จนเสร็จ ก่อนพากันเปิดประตูเดินออกมา สำรวจดูไม่มีใครอยู่
โล่งอกไปที ตัวเบาทั้งคู่แถมทางโปร่งโล่งสะดวกเหมือนเป็นใจให้อีกต่างหาก...หึหึ....
กลับเข้ามาในห้องต่างแยกย้ายยังมุมใครมุมมัน ตอนนี้ในห้องก็ไม่เห็นมีใครอยู่เลยสักคน ได้ยินเสียง
โหวกเหวกคุยกันอยู่ตรงชานพักหน้าบ้าน ผมจึงจัดการเคลียร์สัมภาระเตรียมที่ทางให้พร้อม ก่อนจะเอ่ยปากเรียกมัน
“พรต!..ย้ายเครื่องนอนมึงมาเลย กูจัดที่ไว้ให้แล้ว” พูดจบผมพยักหน้าให้มันมองที่ว่างด้านในสุด
ซึ่งผมขยับออกมานอนติดกับมันกันไว้ด้านนอก ถัดจากผมเป็นไอ้ขุน ไอ้หยก และไอ้อั้ม ที่เหลือเป็นคนอื่นๆ
เพราะเป็นเตียงต่อชิดติดกันยาว นอนได้ราวกว่าสิบคนต่อฝั่ง มันขมวดคิ้วมุ่นทำหน้าหนักใจ แต่เมื่อผมเลิกคิ้วจ้องหน้ามันนิ่ง
เลยได้แต่..จิ๊ปากก่อนยกกระเป๋ายอมย้ายมาจนได้
“กูต้องเตรียมคำแก้ตัว พวกเพื่อนกูถามแน่” มีบ่นงุงงิงให้พอได้ยิน
“มึงแคร์มาก..ว่างั้น” ผมสวนกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งตามสไตล์ มันหันขวับจ้องหน้าผมตาคมวาว
“เหี้ย!..มึงไม่กลัวถูกนินทาสิ..เกิดมีใครสงสัยเล่า” เริ่มเสียงห้วนแล้ว
“กูเลือกทางนี้แล้ว เตรียมใจไว้แต่แรก ว่าแต่มึงเหอะให้ความสำคัญแคร์เค้าไปทั่ว แล้วคนพิเศษ
จะมีความหมายอะไร?” ผมพูดจบมันอึ้ง มองหน้าผมนิ่งก่อนตอบมาว่า
“สัด..กูเป็นแบบนี้นานแล้วเหอะ อย่าหาเรื่องไอ้ห่า รู้เปล่าที่กูแคร์เพราะกลัวมึงโดนนินทาหรอก...
กูสนที่ไหนอยากพูดก็ช่างแม่งปะไร เมื่อมึงยืนยันแบบนี้ก็ตามใจ วันหน้าถ้าเกิดเปลี่ยนใจละก็ กูเอามึงตายแน่”
แหนะ!..ขู่ผมอีกซะงั้น ..เอากับมันสิ...???
“กูตัดสินใจแล้วไม่คิดจะเปลี่ยน สี่ปีมานี่มึงว่ากูโลเลหรือเปล่าละ?..สำคัญมึงเหอะอย่าทำอย่างที่พูดแล้วกัน ”
ผมพูดเสียงเรียบจริงจังมาก
“รัน..จำคำกูไว้ การบินไทยรักคุณเท่าฟ้า คนธรรมดาอย่างกูรักมึงเท่าเดิม จะไม่เพิ่มเติมหรือเสริมแต่ง
เพราะมันเริ่มจะแรง กูกลัวแซงการบินไทย...เข้าใจยัง?” เวร...ฟังมันใส่ท่าทางซะผมกะจะทำนิ่งแล้วเชียว
สุดท้ายหลุดยิ้มขำออกมาจนได้ ให้ตายสิ...มึงจะน่ารักไปไหน..
“หึหึ...พูดซะใจกูพองคับอกเลย..สัด..หวานได้อีกเนอะ” ผมแหย่กลับ พร้อมกับยิ้มขำ
ความน่ารักบวกรั่วของมันไปด้วย
“ห่ะ! กูนี่นะหวาน มึงคงเพี้ยนหรือไม่ก็รั่วไปแล้ว ที่กูพูดเพราะอยากให้มึงเข้าใจความรู้สึกกู..
หวานตรงไหน?...หวานก็ต้องอย่างแฟนกูในอดีตโน้น!..มึงคงจำได้ตอนกูคบกับอัง พูดหวานใส่กูยิ่งกว่านี้อีก”
คงจำกันได้ใช่ไหม อังเคยเป็นแฟนมันแล้วก็เลิกกันหันมาควงไอ้โต๋แทน ก่อนไอ้โต๋มันเจอตะเกียงน่ะ
“จริงดิ..อังเค้าหวานกับมึงขนาดนั้น พูดให้กูฟังหน่อยเค้าว่าไง” ผมอดถามไม่ได้ อยากรู้เหมือนกัน
มันถึงกับยกมาอ้าง ทั้งที่ผ่านมาหลายปีแล้วแสดงว่าคำพูดของอังมันคงฝังใจ เผื่อผมจะใช้เป็นแนวพูดให้มันชื่นใจบ้าง
เพราะผมหวานไม่เป็น
“อังพูดกับกูว่า.. ‘น้ำตาล’ หวานปะล่ะ?”
“ถุ๋ย!..กวนตีนกูแหละ..สัดพรต..มึงนี่มันแม่ง” ผมสบถทันทีกับความกวนสุดโต่งของมัน ในขณะที่ไอ้ตัวดี
กระโดนผลุงหลบฝ่ามือผม วิ่งหายออกประตูห้องไปแล้ว อดส่ายหน้าตามหลังไม่ได้ เสือกรั่วบวกน่ารักได้ไม่เลิก
แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ผมรักมันได้ยังไงกัน...ไอ้เหยี่ยวรั่วมึง..???
-------------------------------------------------------------------------
“น้องๆ ครับ..ไปรวมตัวแดกมื้อเย็นที่ส่วนบริการด้านขวามือได้เลย เร่งมือกันหน่อยนะครับ..เวลามีน้อย”
เสียงไอ้แซคมันแหกปากใส่โทรโข่งเรียกรวมทานข้าว พวกผมจึงพากันเดินไปกลุ่มเดิมนั่นแหละ ไอ้หยก ไอ้ขุน ไอ้อั้ม
สาวนิ่ม สาวแตน และสาวพร คนหลังนี่เดินชิดจนไหล่ชนไหล่ผมเลยทีเดียว เพื่อนในกลุ่มต่างเหลือบมองบ้าง
แต่ไม่มีใครกล้าแซวเพราะผมเฉย หากไม่มากเกินไปก็ไม่มีอะไรหรอกผมไม่คิดอยู่แล้ว ส่วนไอ้ตัวดีหลังจากวิ่งหางจุกตูด
ออกจากห้องก็ไม่เห็นหัวมันเลย คงไปวางแผนเตรียมงานคืนนี้กับรุ่นพี่ละมั้ง
“โห!..ใช้ได้อาหารน่ากินดีวะ!” ไอ้หยกเอ่ยปากทันที หลังจากพวกเราเดินมาถึงลานอาหาร
หน้าอาคาร ซึ่งเค้าจัดแบบบุฟเฟต์ เมื่อคนร่วมร้อยมากันครบแล้ว ไอ้พี่แซคกับรุ่นพี่ผู้หญิงห้าคนหกคน
พอคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ก็ประกาศขึ้นว่า
“เอาครับ!..เชิญน้องๆ บริการตัวเองกินให้อิ่มหนำสำราญใจกันได้เต็มที่” พอไอ้พี่แซคพูดจบ
เสียงปรบมือดังสนั่นตามมาก่อนจะแตกฮือกระจายกันไปยืนเข้าแถวรอตักกับข้าว พวกผมยืนต่อท้ายให้ผู้หญิงเค้าตักก่อน
กลุ่มผู้ชายยังไงก็ต้องให้เกียรติเราเป็นสุภาพบุรุษนี่เนอะ
เมื่อต่างได้อาหารตามต้องการแล้ว ก็มานั่งรวมกันตรงโต๊ะที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้ตรงลานนั่นแหละ
ทานกันไปคุยกันไปถึงกิจกรรมเข้าฐานตอนกลางวันที่ยกมาคุยแซวกันเรียกเสียงหัวเราะกันอย่างสนุกสนานจอแจกัน
แทบทุกโต๊ะ ขณะที่กลุ่มผมกำลังคุยกันเพลินนั่น
“หวัดดีค่ะรัน...เราฝนนะยินดีที่ได้รู้จัก” สาวสวยน่ารัก พร้อมกับเพื่อนอีกสองคนเดินมายืนตรงหน้าผม
ก่อนเอ่ยทักทาย ผมหยุดทานเงยหน้าสบตา เธอฉีกยิ้มหวานส่งให้อย่างเปิดเผย เล่นเอาเพื่อนในโต๊ะมองกันตาค้าง
เพราะเธอสวยจริงๆ ก็พอเคยเห็นอยู่หรอก รู้สึกมีคนสนใจเธออยู่ไม่น้อยทีเดียว ผมก็แค่มองไม่ได้สนใจอะไรหรอก
ยอมรับเธอสวยน่ารักดีแค่นั้น
“ครับ...ยินดีได้รู้จัก ทานอิ่มแล้วหรือครับ” ผมส่งยิ้มกลับไปให้ ทำเอาเธอหน้าแดงรวมทั้งเพื่อนเธอ
อีกสองคนจ้องผมก่อนเขินเองซะงั้น เอาเข้าไปเดินมาหาผมถึงโต๊ะดันมาอายเอาตอนนี้อะนะ
“เราอิ่มกันแล้ว รันดื่มน้ำอะไรไหม เดี๋ยวเราเอาให้” ฝนแสดงน้ำใจ อยากบริการผมขึ้นมา
เล่นเอาไอ้ขุน ไอ้อั้ม ไอ้หยก มองกันอึ้งไปเลย ส่วนสาวแตน สาวนิ่มไม่เท่าไหร่มองปกติ ยกเว้นสาวพรที่ชักสีหน้า
จนเห็นชัด
“หืม...ไม่รบกวนดีกว่า ผมจัดการเองได้ขอบคุณครับ” ผมบอกเธอไป
“รบกวนที่ไหน เราจะไปหาไรดื่มอยู่แล้ว ตกลงรันเอาไรอย่าช้า” เออเหะ..มาแบบนี้ผมก็ต้องยอมละนะ
ขืนยืนกรานมันดูเล่นตัวมากไป ฝนออกร่าเริงยิ้มจริงใจขนาดนั้น
“งั้นผมไม่เกรงใจละนะ ขอแป็ปซี่แก้วแล้วกัน” เธอยิ้มตอบก่อนจะทิ้งหางตาแล้วพยักหน้าชวน
พวกเพื่อนเธอ พากันเดินตรงไปยังชุ้มน้ำ
“เหี้ยรัน...แม่งเกิดมาหล่อได้เปรียบโคตร สวยชิบ..แต่กล้านะนั่นมั่นใจเข้ามาทำความรู้จักมึงก่อน
กูเห็นผู้ชายมองตามตลอด ฝนสวยวะดาวคณะแน่มึง” ไอ้หยกมันร่ายยาวเลย ไอ้อั้มตาลอยฟังมันพูด
คนอื่นๆ ไม่มีใครต่อประเด็น
“มึงสนเค้าหรือ?” ผมถามมันกลับ
“ห่า..ใครบ้างไม่สนวะ..เค้าสนกูที่ไหน..สนใจมึงโน้น” มันพูดปากยื่นประโยคท้าย ผมอมยิ้มขำท่าทางมัน
พวกที่เหลือกินไปฟังผมสองคนพูดไปด้วย
“จะไปยากอะไร มึงสนเค้ามึงก็จีบแค่นั้น เกี่ยวอะไรกับกู” ผมแนะนำมัน สาวพรมองหน้าผมยิ้มหวาน
ดีใจอะไรกับคำพูดผมขนาดนั้น..เฮ้อ!...
“นั่นดิ..มึงสนก็จีบ ติดไม่ติดอีกเรื่องหนึ่ง” ไอ้ขุนมันต่อคำพูดผม
“ตกลง..เมื่อพวกมึงพูดแบบนี้ กูจีบเลย” ไอ้หยกออกท่าทางหนักแน่น จังหวะฝนกับเพื่อนถือน้ำ
เดินตามกันมาพอดี เราจึงหยุดการสนทนาไว้แค่นี้
“อะ..นี่ค่ะแป็ปซี่ของรัน” เธอเอาแก้วแป็ปซี่วางไว้ให้ตรงหน้าผม
“ขอบคุณครับ” ผมขอบคุณเธอไป ก่อนตักข้าวกินอีกคำสองคำ แล้วยกน้ำที่เธอนำมาให้ขึ้นดื่ม ผมอิ่มแล้ว
พวกเพื่อนก็ทยอยอิ่มตามๆ กัน
“รันกินผลไม้ไหม..เราจะไปเอาพอดี” สาวพรครับ ผมหันไปมองหน้าเธอเห็นส่งแววตาอ้อนมาให้
เฮ้อ!..จะบอกว่าไม่ก็กลัวจะเสียน้ำใจ
“ครับ อะไรก็ได้เอามาเผื่อแล้วกัน” พูดจบเธอยิ้มหวาน ก่อนพยักหน้าให้สาวแตนกับสาวนิ่ม
พากันเดินออกไปเอาผลไม้บ้าง
“ฝนนั่งแถวไหนครับ” ไอ้หยกมันเริ่มขบวนการจีบแล้วครับ
“เรานั่งกับเพื่อนฝั่งตรงโน้น ว่าแต่รันให้เบอร์เราได้ไหม ไว้เผื่ออยากคุยด้วย” เธอขอเบอร์ผมตรงๆเลยครับ
ใช่ครั้งแรกสักหน่อยที่ผู้หญิงขอเบอร์ แต่ผมไม่เคยให้ใคร รู้กันว่าเพราะอะไร ผมไม่อยากมีปัญหาต่อให้ไม่คิดอะไรด้วยก็เถอะ
“ขอโทษจริงๆ ครับฝน ผมไม่สะดวกน่ะ..กลัวมีปัญหากับแฟน” ผมบอกตรงๆ เธอหน้าเสียนิดหน่อย
ก่อนจะยิ้มหวานเหมือนเดิม ท่าทางมั่นใจไม่หวั่นไหวดูน่าชื่นชมไม่น้อย
“ไม่เป็นไรเราเข้าใจ..แต่รันคงไม่ว่าถ้าเราจะคุยด้วยบ้างตอนเจอกัน” เธอทิ้งท้ายก่อนไป ผมพยักหน้าให้
คือไม่ปฏิเสธ ก็ไม่เสียหายไรทักทายกันปกติ
“เดี๋ยวฝน...ฝนพอให้เบอร์ผมได้เปล่า?” ไอ้หยกครับ มันรั้งขอเบอร์ฝนซะเลย
“หืม..ได้สิเอาโทรศัพท์มาเดี๋ยวเรากดให้” พูดจบ ไอ้หยกยิ้มดีใจใหญ่ก่อนล้วงโทรศัพท์ยื่นให้เธอไป
ฝนก็รับมาจัดการกดเบอร์ให้มันทันที แล้วส่งคืนให้มันรับไปเมมยิกๆ หน้านี่ไม่เก็บอาการเลยมัน
“เราไปก่อนนะ ไว้เจอกันใหม่ บายทุกคน” ฝนยกมือลา ท่าทางเธอน่ารักดี พวกผมยิ้มส่งเธอ
ลับหลังเธอพอสมควร ไอ้อั้มก็แซวไอ้หยกทันที
“ได้เบอร์สมใจแล้วสิมึง”
“เออดิ..อิจฉากูว่างั้น” ไอ้หยกสวนกลับ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ยังกะเค้ารับปากตกลงเป็นแฟนมันแล้วงั้น
“ระวังเค้าจะใช้มึงเป็นสะพานทอดหาไอ้รัน” ไอ้ขุนมันเบรกขึ้นกลางวง เล่นเอาไอ้หยกหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“ไม่เป็นไร กูยอม” เป็นเอาหนักเพื่อนผม พวกสาวๆ ถือจานผลไม้เดินมากันพอดี ทุกคนจึงหันไปสนใจ
ผลไม้กันทันทียุติประเด็นจีบสาวไว้เท่านี้
ต่อด้านล่าง